สิ่งที่เรากล่าวต่อไปนี้เรียกว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะจริง ยิ่งเมื่อมองย้อนมากับ Honda civic  ใหม่ ในรุ่น 2012 ที่กลับมาเป็นในรุ่นที่ 9 ของตระกูล civic  ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสูงก่อนเปิดตัว ด้วยภาพที่ดันหลุดออกมาเต็มกระบวนท่า จนหลักฐานชี้ชัดดิ้นไม่หลุด จนหลายคนมองว่า Civic  ใหม่สู้ Civic  รุ่นก่อนหน้านี้ไม่ได้

เส้นสายที่เรียบๆ แต่ยิ่งดูยิ่งสวย

                การวิพากษ์วิจารณ์ของหลายคนนำมาสู่ความไม่ปลื้มเท่าไรนักกับกระแสที่ออกไปในทางไม่ชอบใจนัก ทว่าแม้เส้นสายการออกแบบใน Honda Civic ใหม่ อาจจะดูไม่เร้าใจเมหืนในรุ่นก่อนหน้าที่เข้มมาด้วยคำว่า  Rising Spirit  แต่การให้นิยามทางการตลาดว่า Progressive Soul ก็ทำให้เรารู้สึกว่า มันน่าจะหมายถึงมีจิตวิญญาณที่ดูแล้วลงตัวกับทุกด้านในการใช้งาน

                ใบหน้า Honda civic  ใหม่ เริ่มต้น ด้วยการแนะนำความทันสมัยที่บวกกับความเรียบหรูดูแล้วลงตัว แม้กลิ่นอายจากรุ่นก่อนหน้าจะยังคงอยู่ในเส้นสายที่ปรับให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น แต่ถ้ามองแบบยืนจ้องหน้ามันก็ะดูต่างชัดเจน และก็แปลก เพราะมันจะค่อยๆดูสวยขึ้นๆ ด้วยสัดส่วนที่ลงตัวระหว่างใบหน้า ไฟหน้า กระจังหน้า ไปจนถึงกันชนท้าย  ที่ให้ความคมเข้มสำหรับการออกแบบลงตัว

                เส้นสายจากด้านหน้า ถูกลากผ่านสู่ด้านข้างจรดเข้ากับประตูทั้ง 4 บาน มาสู่บั้นท้ายที่ผสานสปอร์ตบวกความหรูหรามาพร้อมกัน ด้วยกลิ่นอายไฟท้ายที่คล้ายกับในรุ่น  Honda accord  โดยเฉพาะแถบที่อยู่บนฝากระโปรงหลัง ที่ผสานไสไตล์โครมเมี่ยมเข้ามาทำให้รู้สึกว่า มันดูแล้วลงตัว แต่อาจจะขัดเล็กๆ กับคนรักสปอร์ต ที่จะรู้สึกว่าแถบด้านหลัง นี่ไม่น่าจะมีมาด้วย

ห้องโดยสารหรูหราสไตล์ คอมแพ็คคาร์

                ช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดคอมแพ็คคาร์ เพิ่งจะมาร้อนเอาก็ปีนี้ ตั้งแต่ที่ค่ายรถหลายเจ้าปั้นรถรุ่นใหม่เข้ามา หลังการมีผู้เล่นรายใหม่มาลงตลาด และ  civic  เองก็เป็นรถที่สำคัญรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะ เมื่อนี่คือผู้กุมอันดับต้นๆของตัวเลือกของคนไทยที่ผ่านมาในหลายยุคหลายสมัย

                ตัวถังที่มีการปรับเล็กน้อยให้ความกว้าง1,756 ม.ม. ยาว 4,525 ม.ม.  สูง 1,434 ม..ม. มากับฐานล้อ 2,670 ม.ม. ลงตัวด้วยการตบแต่งที่ดูดีในแบบความหรูหรา โดยรุ่นที่เราขับขี่คือ  Honda civic 1.8 E Navi ที่ลงตัวด้วยวัสดุหนังสีเบจ ที่รับเข้ากับการตบแต่งด้วยสีเบจทั่วทั้งห้องโดยสารของรถ

                ตอนหน้าของห้องโดยสาร Honda civic  มาพร้อมคอนโซลหน้าที่ให้ความลงตัวในการใช้งานในรูปแบบต่างๆ แต่เมื่อดูไปๆมา มันก็ยาว จนสามารถวางของได้ อย่างสบายๆ แต่กลับกัน เราก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างจะใช้พื้นที่ไม่คุ้มค่าเท่าไรนัก

                ด้านคนขับต้อนรับด้วยเบาะนั่งที่ออกแบบมาให้กระชับนั่งสบาย ฝั่งสารถีเองสามารถปรับไฟฟ้า 8ทิศทาง กลับกันในฝั่งคนนั่งอัตโนมือ จนตุ๊ตาหน้ารถเปรยๆว่าลำเอียงไม่ยุติธรรม ที่ตรงหน้ามาพร้อมกับพวงมาลัยแบบมัลติฟังชั่นหุ้มหนังเฉพาะรุ่น ให้การควบคุมได้ทั้ง เครื่องเสียง และหน้าจอข้อมูลอัจฉริยะ  Intelligent Multi Information Display หรือ ที่เรียกว่า I-MID  ให้ข้อมูลต่างมากมายยามต้องการ และอีกด้านเป็นในส่วนของระบบ Cruise  control  ช่วยในการขับขี่ทางยาวๆ เมื่อคุณเบื่อจะคุมคันเร่ง

                หน้าปัดแบบ 2 ชั้น ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างความประทับใจ โดยในชั้นแรก เป็นในส่วนของรอบเครื่องยนต์และตำแหน่งเกียร์ที่ใช้งาน ตามด้วยในส่วนของ สัญญาณเตือนต่างๆ วัดรอบแบบเข็มให้ความระเอียดทุก 1000 รอบต่อนาที และ ให้รอบเครื่องยนต์สูงสุด 6750 รอบต่อนาที ก่อนเข้าสู่ในส่วนของเส้นแดงเขตอันตราย

                 ด้านบนเป็นในส่วนของมาตรวัดอัตราบริโภคน้ำมัน  Real-time  ตามด้วยในส่วนของความเร็วที่เป็นตัวเลข Digital และน้ำมันที่เหลืออยู่ในถังน้ำมัน ซึ่ง Honda civic ชั้น 2 จะลากยาวไปจรดคอนโซลกลาง วางแนวเอียงเล็กน้อยเข้าหาคนขับ เพื่อแสดงข้อมูลในส่วนของ Intelligent Multi Information Display หรือ I-Mid ที่ให้ความเป็นส่วนตัว สามารถแสดงข้อมูลได้หลากหลาย  โดยเฉพาะในส่วนของอัตราบริโภคน้ำมันและระยะทางที่สามารถขับขี่ที่เหลือ รวมถึง รูปแบบอื่นๆ เช่นสีของจอ ฟังชั่นเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เพลงที่เล่นที่มากมายจนบรรยายได้เป็นหน้าๆ  ถึงขนาด ตอนไปทดสอบ group Test Honda  ต้องทำคู่มือระบบแจกให้ลองเล่น ซึ่งเราว่าก็น่าจำเป็นสำหรับผู้ใช้ที่ซื้อรถ Honda Civic  ใหม่ไปด้วย

                 ในห้องโดยสารตอนหลังเบาะหนังให้ความสะดวกสบาย เรามีโอกาสได้ลองนั่งบ้างเล็กน้อย ก็ต้องยอมรับว่า แม้จะมีการหดฐานล้อลง ซึ่งจะทำให้เข้าออกลดยากขึ้นเล็กน้อยประกอบกับมันทำให้รถดูแคบลงโดยเฉพาะที่นั่งตอนหลัง แต่เมื่อ ก้าวไปลองหย่อนลงบนที่นั่งที่จัดวางไว้ให้ ก็ต้องยอมรับว่ามันลงตัวพอสมควรเลยทีเดียวที่นั่งในตอนหลัง ทั้งในส่วนของที่รองนั่งที่ไม่สั้นจนเกินงาม หรือพนักพิงหลังที่ให้ความนิ่มในการโดยสารจนรู้สึกสบายแม้จะนั่งทางยาวในการเดินทางไกล

                สิ่งที่หลายคนกังวลก็เป็นในส่วนของพื้นที่วางขาที่ต้องยอมรับว่าลดลงจนต้องสอดเท้าเข้าไปใต้เบาะ ก็จะรู้สึกดีมากขึ้น ซึ่งผู้ทดสอบเองก็เป็นคนที่สูงใหญ่  พิกัด 93 ก.ก. สูง 182 กก. ก็สามารถนั่งได้อย่างไม่อึดอัด เมื่อเดินทาง

สมรรถนะเต็มกราฟ เริ่มต้นกับ  E85 ในการขับขี่

                เติมลมยางตามสเป็ค และเราก็พร้อมเดินทางในการขับขี่   Honda civic 1.8 E-Navi  สู่ที่หมายปลายทาง โดยในถังแรกนี้เราได้รับความอนุเคราะห์จาก Honda  ด้วยน้ำมัน  E85 ซึ่งเป็นเรื่องที่โดดเด่นมากในรถรุ่นนี้

                การออกเดินทางของเราในช่วงต้นนี้ยังต้องฝ่าการจราจรในเมือง จวบจนออกสู่ปลายทางได้เราก็เทคตัวเองออกสู่โลกกว้าง ซึ่งในช่วงตอนที่ผ่านในเมืองก็มีบางช่วงที่เจอการจราจรติดขัดแล้วเราก็พบว่า   Civic  ใหม่ มีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอัตราความเร็ว  Walking speed  ที่ให้ราวๆ 7-8 กิโลเมตร/ชั่วโมงเ เป็นอะไรที่ช่วยให้ไม่ต้องเดินคันเร่งช่วยยามเคลื่อนไปในความเร็วต่ำ ยิ่งนึกถึงสเป็คที่เผยว่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ใน Honda civic  ใหม่เป็นแบบ Single over-head camshaft  มันก็ยิ่งน่าสนใจ ที่ยังอัพพลังให้สามารถขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น เป็น 141 แรงม้า ที่ 6500 รอบต่อนาที และ แรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตร  ที่ 4,300 รอบต่อนาที

                สมรรถนะที่ถือว่าไม่น้อยหน้า เมื่อเทียบว่า  Honda Civic  ใหม่ มีการปรับปรุงในส่วนของความสามารถในด้านกำลังไม่มากนัก นอกจากปรับการส่งกำลังให้มีความสามารถยิ่งขึ้น ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ให้อัตราทดดังนี้

เกียร์ 1.  2.666

เกียร์ 2 1.534

เกียร์ 3 1.021

เกียร์ 4  0.720

และเกียร์ 5 0.524

                จัดมาพร้อมกับอัตราทดเฟืองท้ายก่อนส่งลงล้อด้วยอัตราทด 4.437  ซึ่งเมื่อมองจากอัตราทดทั้งหมด จะพบว่า เน้นการขับขี่รอบกลางเป็นสำคัญในการพัฒนา Honda civic  ใหม่

                เครื่องยนต์ที่เติมน้ำมันด้วย e85 อาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยนักสำหรับใครหลายๆ คน แต่กับเรามีความรู้สึกว่า  มันให้ความรู้สึกที่ดีด้วยอัตราเร่ง ซึ่งถ้าเปิดค่าออกเทนดูจะพบว่า E85 ให้ค่าออกเทนมากถึง 105 เลยทีเดียว มากกว่าน้ำมันทุกแบบที่วางจำหน่ายอยู่ในปั้มตอนนี้

                การขับขี่ของเรา เริ่มออกสู่ต่างจังหวัด และใช้ความเร็วสูงขึ้น แล้วเราก็พบว่า  Honda civic 1.8  ค่อนข้างจะให้ความลงตัวแง่ของการใช้งานจริง  โดยเฉพาะในส่วนของระบบกันสะเทือนที่ไม่นุ่มนิ่มและไม่ให้ฟีลลิ่งที่แข็งกระด้างจนเกินงาม แต่เน้นความหนึบในสไตล์เดียวกับที่จะสามารถสัมผัสได้ในรถหรู ส่วนใหญ่ แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า ยางที่ให้มา ขนาด205/55/R16 ก็ไม่ได้มีแก้มสูงมากนัก ทำให้ เมื่อ มองในภาพรวม ร่วมกับระบบกันสะเทือนแบบ  Mcpherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง  และด้านหลังเลือกใช้ มัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง  ก็ถือว่า ทำออกมาได้ดีจนเกินคาด

                ช่วงล่างที่ทำได้ลงตัว เมื่อมาดูร่วมกับในส่วนของการให้อัตราทดพวงมาลัย มันก็ค่อนข้างที่จะลงตัวออกไปในสไตล์ที่น่าจะเรียกว่าสปอร์ตมากขึ้นกว่า ในรุ่นเดิม โดยเฉพาะความเฉียบขององศาพวงมาลัยในการบังคับเลี้ยวที่ค่อนข้างจะแม่นยำพอตัว ที่ค่อนข้างแม่นยำ ส่วนหนึ่งคือการลดระยะฟรีจากองศา  0 หรือเวลาเราถือพวงมาลัยตรงไม่เปลี่ยนไปทิศทางใด ๆ แต่เมื่อเราเริ่มเบนเข็มน้อยๆรถคันนี้ก็ตามมือได้ดั่งใจ แต่ไม่ถึงขนาดรวดเร็วแบบในรถสปอร์ต

                หลายคนที่ขับรถทั่วไปจะสังเกตในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้จากการเข้าโค้งที่สามารถเนียนเรียบไปตามเส้นจราจร แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะรู้สึกว่าพวกมาลัย "มันดีเกินไป" ซึ่ง คนส่วนใหญ่ที่กล่าวเช่นนี้ก็อาจจะชินกับพวงมาลัยในแบบเดิมมากกว่า

                การขับขี่ ของเราเดินทางมาถึงทางหลวงนอกเมือง ซึ่ง ส่วนใหญ่ มันก็ให้อัตราเร่งที่คิด โดยเฉพาะการเร่งแซงที่สามารถเดินคันเร่งได้สบายๆแทบไม่ต้องคิกดาว์น แต่ถ้าไม่พอใจในอัตราเร่งกระทืบลงไปบนแป้นคันเร่ง ระบบเกียร์ 5 สปีดก็จะตอบสนองในการทำงาน แต่มันอาจจะมีนับ 1..2 .. ชั่วครู่หนึ่งก่อนจะเร่ง แน่นอนว่า มันอาจจะเป็นปัญหาบ้างในช่วงที่คับขัน เพราะคุณต้องหน่วงเวลาไว้เล็กน้อย

                ช่วงแรกที่เราขับจากกรุงเทพมาด้วย  e85 เราพยายามทำความเร็วปกติ เฉลี่ยที่ 100-120 ก.ม./ช.ม. เพื่อดูอัตราประหยัดในการใช้งานจริง หากต้องเจอสภาพการใช้งาน ซึ่ง Honda  เคลมไว้ที่ 11.6 ก.ม./ลิตร แต่ในช่วงระหว่างทางเราพบกับฝนตกหนัก ซึ่งส่งผลต่ออัตราประหยัดพอสมควร ทั้งการสูญเสียในการลู่ลม และแรงเสียดทานบนพื้นถนนที่มีน้ำมากขึ้น ทำให้เราเริ่มไม่คาดหวังมาก แต่หลังจากที่ขับจนถึงจุดพักรถที่เราวางเป้าไว้ที่ อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ก็จบการเดินแบบประหยัดด้วยตัวเลข 11.3 กิโลเมตร ถือว่าน้อยกว่าตัวเลขที่เคลมเอาไว้เล็กน้อย แต่เมื่อมองปัจจัยร่วมในด้านสภาวะของอากาศและพื้นผิวถนนเองก็ต้องยอมรับว่ามันทำได้ดีไม่น้อย

จัดเต็มสมรรถนะ ขับกันสุดๆใน  1.8

                "พี่เรือไปสมุยเที่ยวสุดท้ายออกกี่โมง" คำพูดเราที่ไถ่ถาม เพื่อความมั่นใจ เพราะจากที่พักรถเรายังต้องไปอีกไกล แถมตอนนั้นก็คล้ายบ่าย 4 โมงเย็น ซึ่ง แน่นอนว่าการเดินทางยังคงต้องใช้เวลาอีกยาวไกลพอสมควร

                คำตอบที่ได้มานั้นดูเหมือนว่า มันจะปรับแนวคิดเราไปเสียสนิท เพราะจากที่ถามเจ้าถิ่นเราล่าช้าจนอาจจะไม่ทันการและทางเดียวที่จะไปถึงที่นั่นได้ก็คือการหวดเจ้า  Honda Civic  ไปให้ถึงทันเวลา หรืออย่างน้อยเราก็ต้องลองดูก่อนว่าจะสามารถเพียงใด และเป็นการทดสอบสมรรถนะในช่วงความเร็วสูงไปในตัว

                ปัจจัยครั้งนี้คือคน 4 ชีวิต พร้อมสัมภาระ ดูมวลรวมบวกเพิ่มจากน้ไหนักตัวเปล่ารถอีกราวๆ 400 ก.ก. และทันทีที่เราใช้ความเร็ว  Honda Civic 1.8 ก็ให้ความลงตัวในด้านระบบช่วงล่างอย่างมากที่สามารถตอบสนองได้ ในการขับขี่ โดยเฉพาะในยามเข้าโค้งมันก็ช่วยอย่างมากจนเรารู้สึกว่ารถไม่ค่อนจะโยนตัวมากนัก

                ส่วนหนึ่งก็มาจากากรปรับลดฐานล้อลงเล็กน้อย มันก็ช่วยให้รถสามารถเข้าโค้งได้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะยังใช้ความเร็วสูงก็ตามทีในการขับขี่ครั้งนี้

                นอกจากระบบช่วงล่างที่ดีแล้ว ระบบเบรกก็ถือเป็นอีกเรื่องที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน ยิ่งตอนใช้ความเร็วแบบนี้เรารู้ได้ทันที เพราะจะต้องมีการเบรกที่ต้องใช้ลดความเร็วมากกว่าปกติ และจากสถานการณ์ระหว่างการขับขี่หลายครั้งที่เราต้องเบรกเร็วและแรง แต่ Honda Civic 1.8  กลีบทำได้อย่างไม่น่าเชื่อแถมยังไม่มีการสะบัด ด้วยส่วนหนึ่งก็มาจากการกระจายแรงเบรกให้เหมาะสมสร้างสมดุลการเบรกที่ดี

                ช่วงระหว่างทางการขับขี่ใน Honda Civic 1.8 เราได้สมรรถนะสูงสุดคันนี้ที่ความเร็ว 201 ก.ม./ช.ม.  ซึ่งในช่วงความเร็วตั้งแต่ 160 ก.ม./ช.ม.  ขึ้นไปรถจะเริมมีอัตราเร่งช้าลงจากการอกแบบเครื่องยนต์ที่เป็นแบบแคมเดียว ซึ่งจะสำแดงสมรรถนะในการใช้รอบเครื่องยนต์สูงๆไม่ดีนัก เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ระบบแคมคู่ แต่ระบบ i-Vtec  เองก็เป็นตัวช่วยที่สำคัญในรถ

                สุดท้ายเราเดินทางมาทันตามกำหนดเวลาแบบเฉียดฉิวไป แต่ระหว่างทางก็ผ่านเรื่องเสียวๆมาเยอะเช่นกัน จนกระทั่งเหลียวดูเกจจ์น้ำมัน มันเหือดแห้งไปพอสมควร ถ้านับว่าเราเติมมาจากที่ชุมพร แต่ท้ายสุดเราก็ได้ลองจับอัตราประหยัดดูในวันรุ่นขึ้น เมื่อบวกในส่วนของระยะทางที่ขับขี่หารเอาจากจำนวนลิตรที่เติม ก็ได้ตัวเลข 8.5 กิโลเมตร/ลิตร  เป็นคำตอบ ที่ไม่ธรรมดาเลยในเรื่องความประหยัด

                ถ้ามองในเรื่องของการขับขี่ Honda Civic 2012 ใหม่ ในรุ่น 1.8  ผ่านได้แบบสบายๆ ทั้งในเรื่องออพชั่น หรือราคาที่รุ่น E-Navi  เคาะราคาขายที่ 964,000 บาท  ซึ่งถือว่าคุ้มมาก ทั้งในเรื่องความหรูหรา ฟังชั่นใช้งาน และความสามารถในพลังงานทางเลือก  E85 จนน่าใช้ ...

   แน่นอนว่าสิ่งเดียวที่ติดอยู่สำหรับรถคันนี้ คือในเรื่องของการออกแบบภายนอก ซึ่งถือเป็นโจทย์สำคัญและเป็นปัจจัยที่ทำให้  Honda Civic  ให้เกิดข้อกังขา ในการคบหา เพราะต้องไม่ลืมว่า "ความประทับใจแรกก็สำคัญไม่แพ้กัน" ครับ ..สวัสดี ..

การทดสอบ  Honda Civic 2012 1.8 E-Navi

การทำงานของเครื่องยนต์

ที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงาน  1750 รอบต่อนาที

ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงาน  2250 รอบต่อนาที

ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ระหว่างการทดสอบ 201 ก.ม./ช.ม.

อัตราประหยัดน้ำมัน E85 ขับที่ความเร็ว 100-120 ก.ม./ช.ม. ได้ 11.3 ก.ม./ลิตร

อัตราประหยัด แก๊ส โซฮอล 95 เมื่อขับเต็มสมรรถนะ  8.56 ก.ม./ลิตร

เรื่อง ภาพ และขับ ทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง 

ขอขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ

• 
  
• สนับสนุนเนื้อหา

Create Date : 22 สิงหาคม 2555
Last Update : 22 สิงหาคม 2555 8:28:00 น.		0 comments
Counter : 3237 Pageviews.
Share Tweet