ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ปลาช่อนเผาเกลือเนื้อหอมหวานอร่อย พร้อมสูตรน้ำจิ้มปลาเผารสเด็ด

“ปลาช่อนเผาเกลือ” (Salt-Crusted Grilled Fish) เป็นอีกเมนูปลาที่ใช้เครื่องปรุงน้อยไม่ต้องหมักหรือปรุงแต่งอะไรมาก เพราะเนื้อปลาช่อนมีความหวานตามธรรมชาติอยู่แล้ว แค่มีปลาช่อนตัวโตมาพอกเกลือให้ทั่ว ดับกลิ่นคาวปลาด้วยตะไคร้หรือผักสมุนไพรอื่นๆ แล้วนำไปย่างด้วยไฟกลางๆ จนกระทั่งสุก พร้อมเสิร์ฟร้อนๆกับน้ำจิ้มรสเด็ดแซ่บๆ ทั้งน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มแจ่ว น้ำพริกหนุ่มก็ได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้าได้ผักมาทานเคียงด้วยแล้วยิ่งอร่อยข้ากันดีนัก ส่วนน้ำจิ้มปลาเผาก็ทำง่ายๆครับ…วัตถุดิบก็พื้นๆมีในครัวตู้เย็นทั้งนั้น


เมื่อพูดถึง “ปลาเผาเกลือ” นอกจากจะใช้ปลาช่อนได้แล้ว เรายังสามารถใช้ปลาทับทิม ปลานิล หรือแม้แต่ปลากระพงขาว ปลาหมอ ปลาสำลีก็ได้ครับ แล้วแต่ใครจะหาปลาชนิดไหนมาทำได้ ที่นิยมกันก็เป็นปลาช่อน ปลาทับทิม ปลานิลครับเพราะหาซื้อง่ายกว่าปลาชนิดอื่น ส่วนรสชาติเนื้อปลาต่างๆมีความหวานตามธรรมชาติ มีเสน่ห์แตกต่างกัน อันนี้แล้วแต่ความชอบ ส่วนผมชอบทานปลาช่อนกับปลาทับทิมเผาเกลือครับ…สำหรับสูตรวิธีทำ”ปลาช่อนเผาเกลือ เนื้อปลาหอมหวานอร่อย”ก็ตามนี้เลยครับ

ปลาช่อนเผาเกลือ

เครื่องปรุง

  • ปลาช่อนสดตัวอ้วนๆพอประมาณ (ขนาด 8-10 ขีดกำลังดี) 1 ตัว
  • เกลือป่นแบบธรรมดา (สำหรับพอกตัวปลา) 4 ห่อ
  • แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้หอมๆต้นอวบๆ 2 ต้น
  • (หรือจะใส่สมุนไพรอื่นๆ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดฉีก ลงไปด้วยก็ได้ เพื่อดับกลิ่นคาวปลา ก็ตามสบายครับ)
เครื่องเคียงที่กินคู่กับปลาเผา

  • มะเขือยาว (เลือกลูกอ่อนๆ) แล้วก็นำมาเผาไฟให้สุก ลอกเปลือกออกตอนร้อน ๆ ใช้กรรไกรตัดเป็นท่อน ๆ เสิร์ฟคู่กับปลา
  • ประกอบด้วย เส้นขนมจีนเส้นสด, ทั้งผักสดหรือผักต้มต่างๆ เช่น มะเขือยาว, ผักกาดหอม, ผักกาดขาว และใบชะพลู ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง ผักขึ้นฉ่าย ส่วนผักแกล้ม ก็มีใบสะระแหน่, โหระพา และแครอท เป็นต้น
วิธีทำปลาช่อนเผาเกลือ

  1. นำปลาช่อนมาล้างทำความสะอาด ผ่าท้องควักไส้ แต่ไม่ต้องขอดเกล็ด (ปกติถ้าซื้อปลาตามตลาดทั่วไป เค้าจะทำมาให้ด้วย เพียงเราบอกแม่ค้าว่าจะเอาไปทำอาหารอะไร…เขาก็จะทำปลาที่เราซื้อให้ตามที่เราต้องการแล้วครับ) 
  2. นำปลาไปล้างให้สะอาด ทั้งในปาก ในเหงือก โดยเปิดก็อกน้ำแรงๆ ใส่เข้าไป อ้าปากปลา เหงือกปลา เพราะจะมีขี้โคลนอยู่ด้านใน ส่วนท้องก็ล้างให้สะอาด ถ้ามีเมือก ลื่นๆ เยอะๆ ให้เอาเกลือถูสัก1-2 รอบ ก็ได้ครับ (เพื่อกำจัดเมือกและกลิ่นเหม็นคาวปลาให้หมด) แล้วล้างให้สะอาดอีกครั้ง พักพอสะเด็ดน้ำ 
  3. นำตะไคร้มาล้าง ตัดโคนให้แหลมนิดหน่อย แล้วทุบพอแตก ยัดเข้าไปในปากปลาช่อนดันเข้าไปลึกๆจนสุดตัวปลา เพื่อดับกลิ่นคาว 
  4. ให้นำเกลือป่นกับแป้งสาลีมาผสมให้เข้ากัน (เพื่อให้เกลือเกาะติดตัวปลาง่ายขึ้น) 
  5. นำเกลือที่เตรียมไว้มาเทใส่กระบะหรือถาด แล้วเอาเกลือพอกย้อนเกล็ดปลาจากหางไปทางหัวปลา พยายามกดให้แน่น ๆ ให้เกลือแทรกเข้าไปในเกล็ดปลานะครับ (เคล็ดลับคือ ปลาต้องเปียกก่อนโรยเกลือ ไม่งั้นเกลือจะไม่เกาะ) แล้วพอกเกลือให้หนาและมิดตัวปลา (เกลือจะช่วยให้โปรตีนในเนื้อปลาอุ้มน้ำไว้ ไม่ให้ไหลออกมา ทำให้เนื้อปลานุ่มหวานอร่อย) แล้วทิ้งไว้ 20 นาที ก่อนจะนำไปย่าง 
  6. ตั้งเตาใส่ถ่านจุดไฟให้พร้อม พอถ่านเเดงจนเกือบทั่วทั้งหมด ให้เกลี่ยถ่านให้ทั่ว นำตะแกรงย่างวางบนเตา จากนั้นก็นำปลาขึ้นไปย่าง…ควรใช้ไฟกลางก็พอครับ (ไฟถ่านอย่าแรงมาก เพราะปลาจะไหม้นอกแต่ไม่สุกใน…ไฟอ่อนเกินไปเนื้อปลาก็ไม่สุกสักที) 
  7. แล้วก็เผาปลา…ประมาณ 30-60 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดตัวปลา และความแรงของไฟ) พอเห็นเกลือและหนังปลาเริ่มสุก ไหม้หน่อย…ก็แสดงว่าสุกแล้ว ยกออกจากเตาได้เลยครับ 
  • เทคนิควิธีเผาปลาง่ายๆครับ เผาไปได้สักพัก…แต่ยังไม่ถึงกับสุกจึงค่อยกลับด้าน คือเอาแค่ด้านที่ถูกความร้อน ให้เกลือเป็นสีขาวเข้มพอ แล้วค่อยกลับด้าน เพราะถ้าจะรอให้สุกด้านนึงแล้วค่อยกลับด้าน อาจจะทำให้ปลาไหม้ได้ แต่ถ้ารีบกลับด้านโดยที่เกลือยังสีใสๆอยู่ จะทำให้เกลือหลุด ไม่เกาะเกล็ดปลาครับ 
  • แล้วหมั่นคอยพลิกปลาด้วยนะครับ อย่าให้ปลาไหม้ จะดำและไม่น่าทาน สังเกตุง่ายๆเวลาปลาสุกแล้วจะมีกลิ่นมาก่อนเลยครับ สักพักจะมีน้ำใสๆไหลออกมาจากตัวปลา ท้องปลา แต่ที่สุกยากที่สุดคือส่วนหัวครับ ถ้าหัวสุกต้องมีน้ำใสๆ ไหลออกมาจากปากครับ แต่อย่าพึ่งเอาขึ้นนะครับ ให้มันไหลจนเกือบแห้งเลยจึงจะนำขึ้นจากเตา...
    8.  ลอกเกลือและหนังปลาออก ตักเนื้อปลา นุ่ม ๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือน้ำจิ้มแจ่ว หรือน้ำพริกหนุ่ม ทานพร้อมผักพื้นบ้านอื่นๆ


วิธีสังเกตุดูว่าปลาเผาสุกแล้วหรือยัง

ให้เราลองเอาไม้แหลมๆ…เช่น ไม้ลูกชิ้นแทงเข้าไปในเนื้อปลาดูนะครับ
  • ถ้าทิ่มไปแล้ว ปรากฎว่าน้ำแดงๆ ในตัวปลาไหลออกมา แสดงว่าปลายังไม่สุกครับ ต้องย่างต่ออีกนิดนึง (อาจจะสัก 5 นาที) 
  • แต่ถ้าทิ่มไปแล้วรู้สึกว่าเนื้อปลานิ่ม ๆ แต่ไม่มีน้ำในตัวปลาไหลออกมา แสดงว่า "ปลาสุกกำลังดี" ครับ 
  • แต่ถ้าทิ่มไปแล้ว มันให้ความรู้สึกประมาณว่าทิ่มได้พรวดรวดเดียวถึงกระดูกกลางของตัวปลา และไม่มีน้ำอะไรไหลออกมาเลย แสดงว่า "ปลาสุกเกินไป (แห้ง)" แล้วล่ะ .. อันนี้ต้องรีบเอาลงครับ
เกร็ดน่ารู้ : ระหว่างปลาย่าง /กับปลาเผา…คุณว่าเหมือนกันไหม

หลายคนอาจจะเข้าใจว่า”ปลาย่าง” กับ “ปลาเผา” นั้นเป็นเมนูเดียวกัน แต่จริงๆแล้ว…มันเป็นคนละเมนูอาหารกันนะครับ ปลาย่างต่างจากปลาเผาครับ
  • ปลาย่างเป็นการทำปลาให้สุกโดยการวางเหนือเตาไฟที่ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง หรืออาจจะมีภาชนะรองรับด้วยก็ได้ เช่น ปลาช่อนห่อฟอยย่าง (วางเหนือเตาไฟ) 
  • ส่วนปลาเผาเป็นการทำปลาให้สุกโดยวางไว้เหนือเตาไฟแต่ใช้ไฟแรงกว่าย่างครับ เปลวไฟอาจถึงเนื้อปลา เพราะฉะนั้นการเผาจึงต้องมีกรรมวิธีที่ทำให้อาหารยังคงคุณค่าและรสชาติเช่น การเผาปลาจะใช้เกลือทาให้ทั่วตัวปลาและมากพอ เกลือจะช่วยให้โปรตีนในเนื้อปลาอุ้มน้ำไว้ ไม่ให้ไหลออกจากตัวปลา เนื้อปลาที่เผาจะยังคงรสชาติดี แต่หากใช้ปลาเผาทั้งตัวเผา หนังและเนื้อปลาอาจไหม้ได้ น้ำจากปลาจะหยดลงจึงทำให้ปลาเผานั้นรสชาติไม่น่ารับประทาน

(ข้อมูลจาก: //www.isangate.com/local/food_03.html)

**ทีนี้ก็คงจะทราบกันแล้วนะครับ…ว่าทำไมปลาเผาถึงต้องทาเกลือให้ทั่วตัวปลาก่อนนำไปเผา (^_^)
สูตรน้ำจิ้มปลาเผาแซ่บๆ แบบง่ายๆ

“ปลาช่อนเผา” จะเด็ด /ไม่เด็ด หัวใจสำคัญของอาหารชนิดนี้ เรียกว่า อยู่ที่ “น้ำจิ้มรสเด็ด” จะมีทั้งน้ำจิ้มเผ็ด หรือน้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม จัดจ้านแซ่บสะใจ หรือจะน้ำจิ้มแจ่วที่มีรสกลมกล่อม หวานอมเปรี้ยว สำหรับวิธีทำน้ำจิ้มปลาเผาสูตรเด็ด ทั้งน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มแจ่ว และน้ำพริกหนุ่ม เราก็ได้นำสูตรเด็ดเคล็ดลับมาไว้ที่นี่แล้ว

สำหรับเมนู ปลาช่อนเผาเกลือพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ก็จบลงเพียงเท่านี้ เผื่อว่าท่านใดอยากทานปลาเผา ก็ขอเรียนเชิญตามสบายนะครับ (^_^)

เมนูอาหารอื่น ๆ https://www.facebook.com/groups/jarnprod/




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 8:42:19 น.   
Counter : 1699 Pageviews.  

วิธีทำ ยำไข่มดแดง เมนูยอดฮิตร้านอาหารอีสาน


ยำไข่มดแดง เมนูที่ร้านอาหารอีสานจะต้องมี ที่จริงแล้วเมนู ไข่มดแดง เป็นอาหารยอดฮิตของคนภาคอีสานและภาคเหนือ และเป็นเมนูที่คนทุกภาคทานได้ ไข่มดแดง มีรสชาติ หวาน มันอยู่ในตัวอยู่แล้ว นำมาทำอาหารจึงได้รสชาติอร่อยกลมกล่อม เข้าได้กับทุกเมนู วันนี้เรามาทำวิธีทำ ยำไข่มดแดง แสนง่ายด้วยขั้นตอนดังนี้

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
  • ไข่มดแดง 1 ถ้วย
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว ครึ่งช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย
  • พริกป่นหรือพริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย
  • สะระแหน่ สำหรับตกแต่งจาน
วิธีทำ ยำไข่มดแดง
  1. ล้างไข่มดแดงให้สะอาด สะเด็ดน้ำออกให้หมด พักใส่ชามไว้
  2. ทำน้ำยำแยกไว้ก่อน โดยใส่น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดง และต้นหอม คลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากัน
  3. จากนั้นก็ใส่ไข่มดแดงลงไป คลุกเคล้าอย่างเบามือ
  4. ตักใส่จาน โรยด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสริฟ

เรียบเรียงโดย food MThai

เมนูอาหารอื่น ๆ https://www.facebook.com/groups/jarnprod/




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 8:41:47 น.   
Counter : 1324 Pageviews.  

อร่อยสุด ๆ หมึก-หมูทอดกระเทียมพริกไทย



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณบูตะ กะ กิมจิ


บ้านไหนที่มี "ปลาหมึก" และ "เนื้อหมู" เหลือติดอยู่ในตู้เย็น แล้วเกิดอยากจะลองรังสรรค์ทั้งสองส่วนผสมนี้ให้เป็นเมนูแสนอร่อย แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรทานนี้ วันนี้ ลองมาทำ "หมึก-หมูทอดกระเทียมพริกไทย" ไอเดียดี ๆ ของคุณ "บูตะ กะ กิมจิ" จากเว็บไซต์พันทิปกันดูดีไหมคะ รับรองว่า อาหารจานนี้ อร่อยถูกปากแน่นอน

ส่วนผสม หมึก-หมูทอดกระเทียมพริกไทย

           ปลาหมึก

           เนื้อหมูบด

          กระเทียม 

           พริกไทย 

           รากผักชี

           ต้นหอม

วิธีทำ หมึก-หมูทอดกระเทียมพริกไทย




          1.ล้าง และหั่นปลาหมึกเตรียมไว้ก่อนค่ะ



          2.นำกระเทียม รากผักชี และพริกไทยมาตำให้ละเอียด ๆ แล้วนำลงไปเจียวในน้ำมันให้หอม ๆ



          3.ใส่หมูบดลงไปผัด แล้วตามด้วยปลาหมึกค่ะ



          4.ปรุงรสด้วยผงปรุงรส พริกไทย และซีอิ๊วเห็ดหอม ผัดให้เข้ากันก็ปิดไฟได้เลย 



          5.โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และต้นหอมนิดหน่อย ก็เสร็จแล้วค่ะ  

แหม...เห็นแค่ภาพคงไม่รู้หรอกว่า อาหารจานนี้จะอร่อยเพียงไหน อิอิ สงสัยมื้อเย็นนี้ต้องรีบเข้าครัวไปปรุงทานดูเองซะแล้วววว


เมนูอาหารอื่น ๆ https://www.facebook.com/groups/jarnprod/




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 8:41:13 น.   
Counter : 1093 Pageviews.  

ต้มข่าไก่ ใส่ใบมะขามอ่อน เมนู (ชวน) เปรี้ยวปาก




ต้มข่าไก่ ใส่ใบมะขามอ่อน เมนู (ชวน) เปรี้ยวปาก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณบูตะ กะ กิมจิ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           เพียงแรกพบสบตากับเมนู ต้มข่าไก่ ก็ทำเอาท้องร้อง น้ำลายสอ อยากขอสักถ้วยมาซดกับข้าวสวย ๆ ร้อน ๆ สักจาน ก็แหม... สีสันจัดจ้าน หน้าตาสวยงาม น่ารับประทานเป็นที่ซู้ดดดด...แต่ก็ได้แค่นั่งมองตาปริบ ๆ เพราะหากอยากรับประทาน ต้มข่าไก่ใบมะขาม สูตรเด็ดเคล็ด (ไม่) ลับของ คุณบูตะ กะ กิมจิ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เห็นกันอยู่นี้ ก็จะต้องลงมือทำด้วยตัวเองตามขั้นตอนดังต่อไปนี้เลยจ้า

ส่วนผสม-เครื่องปรุง




           ปีกไก่บน  หรือสะโพกไก่

           เห็ดนางฟ้า

           มะเขือเทศราชินี  

           ข่า, ตระไคร้, ใบมะกรูด, หอมแดง

           ใบมะขามอ่อน, ต้นหอม, ผักชี, พริกขี้หนูสด, พริกแห้ง

           น้ำมะขามเปียก, น้ำปลา  

          กะทิกล่อง ( 1 กล่อง)

           น้ำพริกเผา


ขั้นตอนวิธีทำ

          1. เริ่มจากต้มไก่ให้สุกก่อน ระหว่างต้มก็ตักฟองออกด้วยนะคะ ต้มนานจนเนื้อเปื่อย แล้วใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด




          2. จากนั้นใส่พริกขี้หนู เพื่อให้ได้รสชาติน้ำซุปเผ็ด ๆ ตามด้วยกะทิลงไป ตอนนี้ใช้ไฟอ่อน ๆ ค่ะ




          3. พอน้ำเดือดแล้วใส่เห็ดนางฟ้า  และมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยน้ำพริกเผา น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก (น้ำมะขามเปียกไม่ต้องใส่เยอะนะคะ เพราะเวลาใสใบมะขามอ่อนจะเปรี้ยวขึ้นไปอีก)




          4. ใส่พริกแห้ง เพิ่มความหอม และเผ็ดร้อน



          5. ปรุงรสได้ที่แล้ว ใส่ต้นหอม ผักชี และใบมะขามอ่อน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟ




เห็นอย่างนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม ไปเข้าครัวแสดงฝีมือ ต้มข่าไก่ใบมะขามอ่อน ให้ประจักษ์(ความอร่อย) กันเลยดีกว่า

เมนูอาหารอื่น ๆ https://www.facebook.com/groups/jarnprod/




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 8:40:39 น.   
Counter : 3133 Pageviews.  

ลิ้มรสไข่กระทะ... อร่อยเบา ๆ ยามเช้า


ลิ้มรสไข่กระทะ...อร่อยเบา ๆ ยามเช้า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณแม่สลิ่ม


       ฮ้าว...ตื่นขึ้นมาเช้า ๆก็อยากจะหาอะไรทานเคียงคู่กับกาแฟร้อน ๆ สักแก้วแล้วล่ะสิว่าแล้วเมนูสารพัดไข่ก็ลอยมาตรงหน้า
แต่เอ...ถ้าจะให้ทานไข่ลวก หรือไข่ดาว ไส้กรอกหมูแฮม แบบอเมริกันเบรกฟาสต์ก็ดูจะธรรมดาไป ก็ทานบ่อยแล้วนี่ใช่ไหมล่ะเช่นนั้นแล้วลองเปลี่ยนมาทำ "ไข่กระทะ" กันดูดีกว่า เพราะวันนี้กระปุกดอทคอม มีวิธีทำ "ไข่กระทะ" ที่แสนอร่อยจากคุณ คุณแม่สลิ่มมาฝากกันด้วย




ส่วนผสมสำหรับหมูสับรวน (ทำได้ 3-4 กระทะ)


       หัวหอมใหญ่ 1/2 ลูก

       หมูสับ 1 ขยุ้มมือ

       กุ้งสด 2-3 ตัว(ถ้าไม่มีไม่ต้องใส่ค่ะ)

       ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ

       ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

       พริกไทยป่น  มากน้อยตามชอบ

       น้ำมันพืช  สำหรับผัด



วิธีทำหมูสับรวน

       1.ปอกเปลือกหัวหอมใหญ่ล้างแล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ๆ

       2. นำกุ้งสดไปล้างน้ำ ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
       3. ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันประมาณ 2ช้อนโต๊ะ รอจนน้ำมันอุ่นไปทางร้อน



       4. เมื่อน้ำมันอุ่นแล้วก็นำหัวหอมใหญ่ลงไปผัดจนสุกใสใส่หมูสับ กุ้งที่หั่นชิ้นเล็ก แล้วใช้ตะหลิวขยี้ให้หมูสับและกุ้งกระจายตัว ไม่เป็นก้อนใหญ่ ๆ  เร่งไฟขึ้นเล็กน้อย

       5. ปรุงรสหมูสับและกุ้งสุกด้วยซอสหอยนางรมซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น ผัดให้เข้ากัน

       6. ชิมรสชาติดูให้มีเค็ม ๆแต่ถ้าชอบหวานเติมน้ำตาลทรายตามชอบ



       7. ผัดให้น้ำซอสงวดเล็กน้อยปิดเตาแล้วตักใส่ภาชนะ

ส่วนผสมสำหรับไข่กระทะ (สำหรับ 1 ที่)

       ไข่ไก่ 2 ฟอง

       หมูสับรวน

       กุนเชียง

       หมูยอ ไส้กรอก แฮม (แล้วแต่จะหาได้)

       ต้นหอม

       เนยสด (จืด) 1/2 ช้อนโต๊ะ

       ต้นหอมซอย

       พริกไทยป่น



วิธีทำไข่กระทะ

       1.หั่นกุนเชียงเป็นท่อนสั้น ๆ 3-4 นิ้ว ต้มน้ำหนึ่งหม้อ ปริมาณแค่พอท่วมกุนเชียง

       2. พอน้ำเดือดแล้วให้นำกุนเชียงไปต้มให้สุก

       3. เทน้ำที่ต้มกุนเชียงทิ้งตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอดกุนเชียง

       4. พอน้ำมันอุ่นไปทางร้อน ให้นำกุนเชียงที่ต้มไว้ลงไปทอดให้เหลืองและหอมพักไว้ให้อุ่น



       5. จากนั้นหั่นกุนเชียง ไส้กรอก แฮมหมูยอเป็นชิ้นตามต้องการ แล้วแต่ลีลาชอบแบบไหนที่ทำแล้วดูน่ากิน



       6. ตัดโคนตัดปลายต้นหอมทิ้ง ล้างน้ำ ซอยบาง ๆ



       7. นำเนยสดใส่กระทะใบเล็ก ๆ สำหรับทำไข่กระทะ

       8. นำกระทะขึ้นตั้งไฟอ่อน ให้เนยละลายให้หมด

       9. ใช้ช้อนละเลงเนยให้ทั่วกระทะเพื่อป้องกันไข่ติดกระทะ หรือใช้วิธีสวมถุงมือแล้วเอียงเนยให้ทั่วกระทะก็ได้ค่ะหากว่าน้ำมันเนยมากไปให้เทออกได้



       10. พอเนยร้อนแล้วให้ตอกไข่ใส่ลงไป สำหรับ 1ที่ ใช้ 2 ฟองจะพอดีกระทะค่ะเร่งไฟขึ้นเล็กน้อย



       11. ปิดกระทะด้วยฝาหม้อสักพักพอให้ไข่สุกแล้วแต่ชอบสุกมากและน้อยขนาดไหน กะว่าให้ไข่สุกไป 1/2 ทางในแบบที่ชอบ



       12.ตักหมูสับรวน กุนเชียง แฮม ไส้กรอก หมูยอที่เตรียมไว้ใส่  ใช้ช้อนกดให้จมลงไปในไข่เล็กน้อย

       13.ปิดฝาอีกครั้ง แง้มฝาดูเป็นพัก ๆให้ได้ไข่สุกแบบที่ชอบ จากนั้นปิดเตา



       14.หากมีน้ำมันเนยอยู่ในกระทะมากไปให้รินใส่ถ้วยไว้

       15.โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย พริกไทยป่น




       16.เสิร์ฟพร้อมกับซอสพริก ซอสมะเขือเทศซอสปรุงรส กาแฟ ขนมปัง ตามชอบจ้า


Cooking Tips

       - ใช้เนยสดในการทำไข่กระทะจะทำให้ไข่กระทะหอมชวนกินมากกว่าการใช้น้ำมันพืช

       - ถ้าชอบไข่แบบไม่ค่อยสุกให้ทิ้งเวลาไว้น้อย ๆแต่ถ้าชอบไข่สุกมากเพิ่มเวลามากขึ้น

       - กระทะสำหรับทำไข่กระทะหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องครัวใหญ่ๆ  หรือร้านขายเครื่องครัวในจตุจักร เวิ้งนาครเกษม

       - หมูสับรวนสามารถปรับปรุงส่วนผสมได้ตามชอบ

       - อย่าลืมสวมถุงมือเวลายกกระทะไปเสิร์ฟเพราะกระทะร้อนค่ะ  ระวังลูกเล็กเด็กแดงจะจับกระทะเวลารับประทานด้วยจ้า

         เอ้า...เห็นภาพไข่กระทะฝีมือคุณแม่สลิ่มน่าทานแบบนี้ น้ำลายไหลแล้วล่ะสิถ้างั้นวันนี้ก็กลับไปเตรียมเครื่องปรุง ส่วนผสมให้พร้อมแล้วเข้าครัวลงมือทำพรุ่งนี้เช้ากันเลยจ้า






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
maesalim.com

เมนูอาหารอื่น ๆ https://www.facebook.com/groups/jarnprod/




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 8:39:51 น.   
Counter : 1184 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  

thainewcar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add thainewcar's blog to your web]