JAPAN ญี่ปุ่น รอบ 2 (Nagoya-Gifu-Kgyoto) ในฤดูร้อน 10-20 Jul 2008
ไปหาอดีตคุณแฟนที่บ้าน(น้องชายแฟน) ซึ่งอยู่ที่กิฟุ ก็ต้องนั่งเครื่องไปลงที่นาโกย่า แล้วต่อรถไฟฟ้าจาก Central Japan International Airport Nagoya ไปลงที่ Meitetsu Gifu ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 55 นาที ค่ารถประมาณ 1,310 เยน สะดวกดี แล้วก็ให้อดีตคุณแฟนมารับที่สถานีกิฟุ ดิฉันแอบซุกมะม่วงน้ำดอกไม้จากเมืองไทย 3 ลูกเป้ง ๆ ไปในกระเป๋าเดินทางด้วย อยากให้น้องชายแฟนได้ชิม พอผ่านต.ม. เราก็ชวนคุยซะเลย จะได้ไม่ตรวจมาก ผ่านมาได้อย่างฉลุย ไปญี่ปุ่นหน้าร้อน ขอบอกว่าร้อนม๊าก มาก เข็ดเลย ต่อไปจะไม่มาหน้าร้อนอีกแล้ว ทริปนี้ส่วนใหญ่จะอยู่บ้าน และเที่ยวแถบ ๆ นั้นเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ไปไหนมากมาย เหมือนมาพักผ่อนเลย มีไปเที่ยวเกียวโต 1 วัน ซึ่งที่เที่ยวในเกียวโตส่วนใหญ่จะเป็นวัด มาดูวัดที่ไปเที่ยวกันคร๊า วัดน้ำใส หรือวัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) สาเหตุที่เรียกว่า "วัดน้ำใส" ก็เนื่องมาจากมีน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำ 3 สาย ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไหลมาจากเทือกเขา วัดนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 788 มาดูรูปกันว่าวัดสวยงามขนาดไหน เริ่มจากทางเข้าวัดเลย วัดนี้ต้นไม้เยอะดี และจุดเด่นอยู่ที่การสร้างวิหารริมเชิงเขา ซึ่งใช้ไม้ซุงขนาดใหญ่ประมาณ 130 ต้น ซ้อนกันขึ้นไปเป็นฐาน ซึ่งใช้วิธีการเข้าลิ่ม ไม่ได้ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ทำให้ทึ่งและเสียวได้เหมือนกัน นึกเล่น ๆ ถ้าไม้มันผุ จะทำไงเนี่ยะ มีเรื่องเล่าประเพณีเก่าแก่ ....ประเพณีการโดดระเบียง ว่ากันว่า สมัยก่อนใครกระโดดจากระเบียงสูงแห่งนี้ลงไปยังพื้นเบื้องล่าง แล้วยังรอดชีวิตอยู่ได้ จะอธิษฐานขอสิ่งใดล้วนสมปรารถนา ( นู๋ขอสละสิทธิ์ละกัน) แต่ปัจจุบันประเพณีดังกล่าวได้รับการยกเลิกไปแล้ว ขอนางแบบแชะบ้างนะคร๊า ที่เมืองไทยใส่แบบนี้เข้าวัดไม่ได้นะคร๊า แต่ญี่ปุ่นเขาไม่ถือ ก็มันร้อนอ่ะ จากระเบียงมองลงไปจะเห็นธารน้ำ 3 สายที่มีความเชื่อว่า หากใครได้ดื่ม น้ำสายที่ 1 จะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา น้ำสายที่ 2 จะสมหวังในความรัก น้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรง วัดซังจูซังเกนโด (Sanjusangendo Temple) น้องชายแฟนรู้ว่าเรานับถือเจ้าแม่กวนอิม เลยแนะนำวัดนี้ว่าต้องไปให้ได้ เพราะที่วัดนี้จะมีเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เป็นพันองค์เลย ขลังมาก ๆ ถ้าจำไม่ผิดห้ามถ่ายรูปภายในวัด เราก็ได้แต่รูปถ่ายภายนอกมา วัดนี้จะเป็นวิหารในสวนหิน วัดทอง (Kinkakuji Temple) หรือวัดอิคคิวซัง ซึ่งก็คือวัดที่เราเห็นในการ์ตูนเรื่องนี้นั่นเอง แต่เสียดาย เราไปไม่ทัน เขาปิดแล้ว แงแง เสียดายอ่ะ โกรธแฟนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย ในแผนที่ ปราสาทสีทองนั่นแหละ เป้าหมายของเรา แต่ไปไม่ทัน ด้วยความที่ออกจากบ้านช้า เลยทำให้เที่ยวได้แค่ 3 วัดนี้แหละ พอเริ่มเย็น ก็เริ่มหิวแล้ว ไปหาของกินกันบ้างดีกว่า ตรงนี้จะเป็นโซนอาหารทั้งแถบ อยู่ริมน้ำ (อะไรก็ไม่รู) ตามมาดูในซอยกันเลยคร๊า มีแต่ร้านอาหารละลานตา เลือกไม่ถูกเลย เอ๊ะ กินร้านนี้ดีไหมน๊ะ หลังจากกินอิ่มแล้ว ก็ขอชอปปิ้ง ซื้อของฝากน้องชายแฟนซะหน่อย เพราะไปอาศัยอยู่บ้านเขา ต้องมีของติดมือไปบ้าง ของฝากจากญี่ปุ่นไปฝากคนญี่ปุ่นจ้า น่าอร่อยอ่ะ อยากกินเองด้วย 5555 คนนี้เลย ที่เราแอบไปซุกหัวนอนบ้านเขา (น้องชายแฟนนะ) เขาเปิดร้านอาหารอยู่ใกล้ ๆ บ้าน ทำอาหารอร่อยม๊าก มาก เลยได้ไปฝากท้องที่ร้านเขาหลายครั้ง เกรงจายจัง อยู่ก็ฟรี กินก็ฟรี (จะจ่ายเงินเขาก็ไม่ยอมรับ) เล่นกับหมาบ้านเขาก็ฟรี หมาน่ารักอ่ะ พาไปวิ่งเล่นทุกวันเยย มาดูอาหารร้านเขาบ้างดีกว่านะ เมนูเซตกลางวัน อร่อยอ๊ะ (ไม่ยอมรับเงินเราอีกแล้ว) ดูเขาทำไข่ม้วนพอดี เมื่อก่อนจะคิดว่าไข่ม้วนทำให้แบน ๆ แล้วมาม้วน ๆ ทีหลัง น่าจะทำง่าย แต่พอดูเขาทำแล้ว จริง ๆ ทำยากมากอ่ะ ต้องม้วนจากในกะทะตอนทำเลย ส่วนมื้อเย็น เขาก็เชิญเรามาทานอาหารที่ร้านเขาอีก อาหารเย็นอร่อยอีกแล้วอ่ะ โดยเฉพาะปลาต้มซีอิ๊วนี้ อร่อยม๊าก มาก ไม่เคยกินที่ไทยเลย แฟนบอกว่า ปลาชนิดนี้แพงมาก (จริงป่าวหว่า ) ชื่อ ฮิเมได หอยเชลล์ตัวเคื่องมาก ๆ อร่อยได้อีก ปลาย่างเกลือ ย่างกันเห็น ๆ ตรงเคาเตอร์เลย ทุกอย่างที่อยู่บนเคาเตอร์ เขาก็ตักมาให้ชิมหมด กินไปอีกหลายอย่างมากเลย ก็มันอร่อยอ่ะ แต่พอลูกค้าเริ่มเยอะ ก็ไม่กล้าถ่ายรูปแล้ว จนตบท้ายด้วยขนมหวาน ตั้งใจว่าคราวนี้แหละ จะต้องจ่ายเงินให้ได้ แฟนบอกว่าเธอจ่ายไม่ไหวหรอก มื้อนี้แพงนะ ที่กินไปอ่ะหลายพันเลย แป่ว น้องชายแฟนก็บอกไม่เป็นไร เลยไม่รู้จะทำยังไง ก็กินฟรีอีกเช่นเคย 555 พอกลับมาเมืองไทย ก็เลยซื้อของฝากส่งไปให้เขาที่ญี่ปุ่น เป็นน้ำใจแทน ขอบคุณคร๊า คุณพ่อครัวที่แสนใจดี และก็อดีตคุณแฟนด้วย ขอบคุณที่รักกันมาหลายปี วันถัดมา คุณแฟนก็ได้เชิญเพื่อน ๆ ที่ทำงานในร้านอาหารน้องชายมาร่วมทานอาหารที่บ้าน เราก็เลยไปชอปปิ้ง เตรียมตัวทำอาหารเย็นกัน ชอบถนนแถวบ้านเขาดูร่มรื่นดี คนญี่ปุ่นจะใช้รถเล็ก ๆ กันเป็นส่วนใหญ่ คุณแฟนก็ทำอาหารไทย ๆ ให้ทานเลย ต้มยำกุ้ง แบบไม่เผ็ดมาก เพราะเราทำอาหารไม่เป็น หน้าตาผู้ร่วมดินเนอร์ ทุกคนน่ารัก เป็นมิตรมากมาย ส่วนเราก็หน้ามันมาจากในครัวเลย และลูก ๆ ของ 3 คนนี้ อิอิ กินเสร็จ ก็เอาพลุไฟเล็ก ๆ มาเล่นกัน ไม่ได้เล่นพลุแบบนี้มานานมากแล้ว วันรุ่งขึ้น เราก็ไปอควาเรียมกัน เพราะไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี น้องชายแฟนน่ารักมาก ทำอาหารกลางวันใส่กล่องมาให้พวกเรากันด้วย เจอสัตว์ข้างนอกก่อนเลย ส่วนข้างในจะมีสัตว์น้ำเพียบ วันอื่น ๆ ก็มีไปนาโกย่าบ้าง แต่ไม่ได้เอากล้องไปด้วย นอกนั้นก็เที่ยวเล่นแถว ๆ นั่นเอง ร้อนมากมาย จนแทบไม่อยากไปไหนเลย แต่บ้านเมืองเขาน่าอยู่จริง ๆ ผู้คนก็น่ารัก มีที่นิดนึงเขาก็ปลูกข้าวกันด้วยนะ ตอนเย็น ๆ เราก็จูงหมาออกมาวิ่งเล่น ชีวิตมีความสุขจัง หมาชื่อ ซาบะ 555 สงสัยมันว่ายน้ำเก่ง ลากันไปด้วยภาพสนามบินนาโงย่าละกันคร๊า ซึ่งเป็นสนามบินที่ถมทะเลสร้าง ทำให้เวลาเครื่องแลนดิ้ง มันจะเหมือนลงทะเล สัญญากับตัวเองว่า ถ้าคราวหน้าไปญี่ปุ่นรอบที่ 3 จะต้องไป เจแปน เอลฟ์ หรือกำแพงหิมะให้ได้
Create Date : 26 กันยายน 2554 | | |
Last Update : 27 เมษายน 2555 15:24:42 น. |
Counter : 3519 Pageviews. |
| |
|
|
|