ผลตรวจสุขภาพตามคาด กับแพลนไปเที่ยวตามเคย...
อาทิตย์นี้เหมือนจะสิ้นสติหน้าจอคอมเลยค่ะ หลายๆครั้งที่โต๊ะทำงานแทบไม่มีแรงนั่งทำงาน ทั้งเพลียทั้งเหนื่อยแล้วผลตรวจสุขภาพก็มาถึงมือจนได้ ปีนี้ผลการตรวจเป็นไปอย่างเลวร้าย(ตามคาด) เพราะผลเลือดไม่ดีอย่างแรง ชวนให้เชื่อได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะว่า you are what you eat โคเลสเตอรอลน่ากลัวสุด พุ่งไปถึง 244 ( เขาห้ามเกิน 200 นะคะ ) น้ำตาล 104 ( ห้ามเกิน 99 ) อยากจะกรี๊ด มะเร็งปากมดลูกไม่มี หมอตรวจภายในบอกว่า มดลูกดี ปีกซ้ายดี ปีกขวาดี ธรรมดามากกกกกกไอ้ที่ไม่ธรรมดา คือตามีต้อลม เม็ดเลือดแดงผิดปกติ อันนี้รู้อยู่แล้วค่ะว่าเป็นโลหิตจางและเป็นพาหะของธาลัสซีเมียด้วย ผลที่ออกมาเชื่อได้ว่าการไม่ดูแลอาหารการกินส่งผลต่อเคมีในร่างกายอย่างชัดๆ ฉันประกาศกับน้องๆแล้วว่า คอยดูนะ ผลออกมาต้องขี้เหร่สุดๆ เพราะกินน้ำหวานบ่อยมาก ชาเนสที ชาเย็น ชาชัก ชาสารพัดชา นมร้อนแทบทุกเช้าอีกล่ะ น้ำตาลไม่สูงได้ไง ไม่ดีเลยค่ะ แถมไม่ได้ออกกำลังกาย และกินไม่เลือก ( เพราะเลือกกินแต่แบบที่ชอบ เลยเซ็งสุดๆ ที่จะต้องงด เพราะไม่อย่างนั้นจะอันตราย ไม่ดีเลย )ไม่อยากป่วย ก็ต้องดูแลนะคะ นี่เรื่องจริง ไม่อย่างนั้นจะแย่แบบนี้ล่ะ...ฉันพยายามฮึดจะมีแรงทำงาน เพราะต้นเดือนหน้าจะได้หยุดเก้าวันรวด ลาพักร้อนไปสามวันเลยกำไรค่ะ หยุดเก้าวัน แบ่งไปเชียงใหม่สามวัน ทุกอย่างถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งตั๋วเครื่องบิน รถเช่า ที่พัก เหลือแต่คนที่ต้องจัดกระเป๋า ส่งตัวเองขึ้นเครื่องไปฉันมีแพลนว่าจะพาพ่อกับแม่ ซึ่งไม่เคยไปเที่ยวเหนือ ( และแทบไม่เคยไปไหน ) ไปเชียงใหม่สักครั้งในชีวิต ซึ่งก็สมหวังแล้วเพราะฉันกล่อมเขาจนตกลงว่าเราจะไปกัน ประสาพ่อแม่ลูก แมทช์นี้แทนคุณพ่อแม่ค่ะ ฉันจะขับรถพาเขาเที่ยวกันตามประสา สิ่งที่ทำคือความตั้งใจสุดๆ ที่อยากให้เขาได้ไปเที่ยวสักครั้งในชีวิตที่ต้องบอกอย่างนี้ เพราะพ่อกับแม่แทบไม่เคยไปไหนเลย นอกจากทำงาน และจนบัดนี้ก็ยังไม่ยอมเลิกทำ ทุกวันนี้พ่อกับแม่ยังทำงานที่ร้านและทำสวนยางควบคู่กัน ถามว่าทำไมไม่ยอมเลิกทำสักที มันก็เป็นความสุขของเค้านะคะ ที่น่าชื่นใจคือพ่อกับแม่มักจะบอกเสมอว่าทำไว้ให้ลูก นี่ก็ทำอีกแล้ว สร้างบ้านใหม่ริมคลอง เป็นความฝันของพ่อที่ไม่อยากอยู่บ้านตึกแถว พ่ออายุ 70 แล้ว แม่บอกว่าอยากให้สิ่งที่พ่อฝันได้เป็นความจริง เขาสร้างบ้านหลังเบ้อเร่อแล้วก็บอกว่า รอให้ลูกกลับไปอยู่...พ่อกับแม่ทำเพื่อฉันมามากแล้ว ถึงเวลาต้องพาเขาไปเที่ยวบ้างแล้วค่ะ...พอเล่าเรื่องแพลนเที่ยว จะบอกว่าการไปเหนือหน้า high นี่ สุดๆทุกอย่างฉันดีใจแทบตายที่ได้ตั๋ว TG ไปกลับในราคาสามพันต่อคน ( ทั้งหา ทั้งเทียบหลายๆสายการบิน แต่โชคดีที่ได้ TG ราคานี้ค่ะ ) แต่รถเช่าที่เช่ากับมาสเตอร์คาร์รอบนี้ก็แพงใช้ได้จริงๆ วันละ 1400 แน่ะ แต่ก็ต้องยอม เพราะเรายืมรถใครไม่ได้นี่นา แต่ดีว่าที่พักที่ฉันไปพักทุกครั้งที่ขึ้นไปที่นั่นยังราคาไม่เวอร์นัก พักที่ธาตุคำวิลเลจแถวถนนวัวลายค่ะ ฉันชอบที่บรรยากาศดีไม่จอแจ และห้องเขาใหญ่ดี เรียกว่าราคากับสิ่งที่ได้รับนั้นเกินคุ้มจริงๆฉันบ่นกับเพื่อนที่คอยช่วยเหลือเสมอตอนไปเชียงใหม่ว่า นี่ถ้าไม่ติดว่าจะพาพ่อกับแม่ไปนะ ฉันคงไม่ไปเชียงใหม่ในหน้า high แบบนี้แน่ๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าคนเยอะ คือมักจะเข็ดกับการไปในช่วงเวลาเดีวกับที่คนส่วนใหญ่ไปกันคะ มีอยู่ปีหนึ่งไปแม่ฮ่องสอนน่ะ ชนกับคนที่ไปเที่ยวในช่วงเวลาเดีวกัน ต้องแย่งกันกิน แย่งกันถ่ายรูป แย่งกันเที่ยว มันดูไม่สนุกเอาเสียเลยหลังจากที่หาๆๆ ตั๋ว แพลนๆๆ ทุกอย่างจนเรียบร้อยหมดแล้ว ความเหนื่อยก็คลายลงแล้วค่ะ รอช่วงเวลาที่จะได้หยุดทำงานตั้งเก้าวัน เฮ้อ ... ดีจริงๆเจอกันหนาวนี้นะ เชียงใหม่ เมืองอะไร.. ฉันกลับไปได้ไม่รู้เบื่อ ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว แต่ก็ยังชอบอยู่ดีค่ะถามว่าจะไปดูอะไรนักหนา บางทีความรู้สึกมันก็ไม่ต่างกับการกลับบ้าน เพราะฉันเป็นเด็กต่างจังหวัด การได้ออกจากเมืองหลวงไปต่างจังหวัดทุกที ก็เหมือนฉันได้กลับบ้านทุกครั้ง ไม่ว่าจุดหมายจะเป็นที่ไหนต่างกันแค่อาหารการกินกับบรรยากาศที่ต่างไป แต่ใจก็มีความสุขเหมือนเดิม !!
ฉันไม่คิดว่าในชีวิตหนึ่งเราจะร้องไห้เพราะความดีใจ กันสักกี่ครั้ง
ชอบคนใจดีใน youtube จังเลยค่ะหาอะไรก็เจอหาได้แม้กระทั่งเพลงโบราณ ขอบคุณคนที่มาแปะด้วยนะคะ ขอ copy มาลงไว้ในนี้นี่คือเพลงที่ฉันชอบมากเพลงที่ทำให้ฉันร้องไห้อีกเพลงหนึ่งฟังความหมายของมันดีๆนะคะฉันไม่คิดว่าในชีวิตหนึ่งเราจะร้องไห้เพราะความดีใจ กันสักกี่ครั้งแต่มันน่าจะมี..ครั้งหนึ่งที่ชีวิตเราอาจจะพ้องเหมือนในเพลงไม่แน่หรอก ...คงมีสักวันที่เป็นแบบนั้น วันที่น้ำตาเราจะไหลทั้งๆที่เรายิ้ม ....เราไม่ได้เศร้าแต่เพราะเรา .. ดีใจ
ฟ้าใส ทะเลสวย ที่ระยอง... กอดทะเล
ไประยองมาค่ะเมื่อวานนี้อากาศดีมาก ฟ้าใส แดดแรง ลมแรงน้องๆพี่ๆ ที่ฝ่ายชวนกันไประยอง หนึ่งวันบนเกาะขาม เกาะกุฏี เกาะค้างคาว ทะเลเรียบ คลื่นลมสงบ ท้องฟ้าสีจัด เรือกล้วยสีสวยเวิ้งฟ้ากว้างไกล กอดทะเล...ออกไปสูดอากาศ ซึมซับสีสวยของธรรมชาติ ไม่ไกลจากเมืองหลวงมีพื้นที่ให้ตัวเองได้เล่นสนุกไปดูฟ้ากว้างกันนะคะ !!
เพียงมีรอยยิ้มเพื่อที่จะผ่านมันให้ได้
เช้านี้หนาว...อีกสองเดือนจะสิ้นปีแล้วหรือคะ วันเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินอีกสองสัปดาห์ก็จะครบรอบ 5 ปีที่ฉันทำงานที่ตึกแพนแล้วห้าปี.. บวกอีกเก้าปี ย่านอโศก แล้วก็อีกสองปีกว่าๆที่สุขุมวิทเท่ากับสิบเจ็ดปี โอย... แก่เนอะแต่วันเวลาได้เพิ่มพูนประสบการณ์ให้ฉัน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องงานบนโต๊ะหากแต่เป็นเรืองคน ห้าปีที่ผ่านมาฉันเจอคนหลายประเภทมาก เรียกว่าพลิกตำรารับมือกันไม่ทันเลยล่ะค่ะการฟาดฟันกับงานยังไม่เท่ากับคนเลย ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมจึงเป็นห้าปีที่เหนื่อยและหนัก เหนื่อยมากจนหลายครั้งอยากจะหยุดเดินเอาดื้อๆและเริ่มฝันถึงชีวิต slow life เข้าไปทุกวันๆเข้าใกล้ธรรมะมากขึ้นทุกวันๆอาจเพราะรู้แล้วว่า ชีวิตที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดี ฟาดฟัน ( เพื่ออะไร ??? ) ไม่ใช่ชีวิตที่สงบสุข รังแต่จะเพิ่มพูนความเครียดให้เราเปล่าๆทั้งเราก็ไม่ได้อยากจะไปฟาดฟันกับใครสักหน่อยอะไรบีบบังคับให้เป็นเช่นนั้น บางทีฉันก็สงสัยว่ามันเป็นเพราะการเลือกของเราหรือเปล่า เราเลือกเองหรือไม่ที่จะเข้าไปอยู่ในวงโคจร ( แบบที่ฉันไม่อยากเรียกด้วยคำแรงๆ ) นั้นเอง หากว่าเป็นเพราะการเลือกของเรา เราก็ต้องรับผิดชอบการเลือกนั้นเองนะคะ ใครจะมาเลือกแทนเราได้ฉันว่ามันก็เป็นกับทุกเรื่องในชีวิตเรานั่นแหละค่ะ ...เช้านี้หนาวในเมื่อชีวิตต้อง goes on ก็ต้องฝ่าฟันกันต่อไป... เพียงมีรอยยิ้มเพื่อที่จะผ่านมันให้ได้อาจจะหนาวเหน็บ แต่เมื่อลมหายใจยังอุ่นรดท้อได้แต่อย่าถอยค่ะ !!
รักแท้มีจริง..
วันนี้ตอนบ่ายแก่ไรยการคู่เลิฟตะลอนทัวร์ซึ่งเป็นรายการที่ฉันชอบดูมากๆ เพราะพิธีกรสองสามีภรรยาเขาฮาดี พาไปเที่ยวสนุกๆทุกสัปดาห์ดูทุกวีคก็มีเรื่องน่ารักทุกวีค วันนี้ได้ดูเรื่องของคุณตาคุณยายที่เมืองขลุง จันทบุรี ที่อยู่กันมาถึงหกสิบปีแล้ว ดูแล้วยิ้ม ชื่นใจ...ฉันชอบ 'ความเอาใจใส่' ที่คุณตากับคุณยายมีให้กันแม้ทั้งคู่จะมีโลกส่วนตัว แต่ไม่ก้าวก่ายกันคุณยายปล่อยให้คุณตาทำในสิ่งที่ชอบ โดยไม่เคยบ่นว่าคุณตา ชอบกินกับข้าวฝีมือคุณยายทุกวัน โดยไม่มีเบื่อเด็ดมาก ก็ต้องเวลาที่ทั้งคู่ดูทีวีด้วยกัน มีทีวีสองเครื่องอยู่ในห้องนอนต่างคนต่างดูรายการที่ชอบ ไม่ต้องทะเลาะกันเพราะแย่งจะดูรายการโปรดใครอยากทำอะไรก็ทำ ปล่อยให้ทำ ขณะเดียวกันก็อยู่ดูแลกันไม่ห่างโอย... ขนาดคุณตาคุณยายแก่แล้วนะคะ เป็นคู่ที่น่ารักจริงๆคนสองคนนิสัยก็ต่างกัน โตมาจากคนละที่ เมื่อมาอยู่ด้วยกัน คิดหรือว่าจะไม่มีเรืองขัดแย้ง แต่คนคู่นี้ยอมรับกันและกันได้อย่างดี คุณยายไม่เคยบ่นว่าคุณตา ความสบายใจที่คุณยายมีให้คุณตาทำให้คุณตาอยู่กับคุณยายได้โดยไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง ขณะเดียวกันก็คงเกรงใจคุณยายไปด้วยในตัวคุณยายจะไปไหน คุณตาจะไปส่งคุณยายทำกับข้าว คุณตาจะเป็นคนชิม ไม่มีเบื่อ กินข้าวนอกบ้านไม่ถูกปากสู้ฝีมือคุณยายไม่ได้บทบรรยายในทีวีทำให้เห็นความรักของคนคู่นี้ คนดูอย่างฉันได้แต่ยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัวถ้ามีชีวิตคู่ ฉันก็อยากมีเหมือนคุณตาคุณยายอยู่ด้วยกันอย่างสร้างสรรค์ รักและดูแลกัน ให้อิสระแก่กันความรักย่อมไม่ใช่การกักขังควบคุมเพราะนั่นไม่ใช่ความสบายใจคนเราอยากอยู่ในที่ที่เย็นมากกว่าร้อนถ้าอยู่ตรงไหนสบายใจแล้วเราจะรู้สึกอบอุ่นและอยากอยู่ชีวิตคู่ที่เดินทางมาถึงหกสิบปีนับว่าคุ้มแล้วค่ะ และนั่นต้องเป็นรักแท้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้ใครตายจากกันไปก่อน ก็คงไม่ต้องเสียดายเพราะได้อยู่เพื่อรักและดูแลกันจนหมดลมแล้วในชาตืนี้คุณตาคุณยายทำให้ฉันเชื่อว่ารักแท้มีจริง และไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลด้วยแต่มันอยู่ในชีวิตจริงของคุณนั่นแหละค่ะและฉันเชื่อว่าเพราะคุณตากับคุณยาย 'ทำ' ให้มันเกิดขึ้นเองไม่ใช่เพราะฟ้าสั่งหรือสวรรค์สร้าง ขอเพียงเราเชื่อและทำค่ะ !!ขอบคุณคนทำ MV นี้นะคะ !