images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 
life management เราจัดการชีวิตเราได้นะคะ

เช้านี้ตื่นขึ้นมาด้วยอาการภูมิแพ้(อีกแล้วอ่ะ) น้ำมูกเต็มเลย แล้วก็ลงคอทำให้ไอ ร่างกายส่งสัญญาณอีกแล้วค่ะ มันเป็นภาวะที่เกิดจากการเหนื่อยสะสมและภูมิชีวิตน้อย ทำให้ไม่แข็งแรง

สังเกตอาการตัวเองพบว่า มันไม่ได้เป็นทุกวัน มันจะมาเป็นช่วงๆ

รีบปิดแอร์ ( แต่เมื่อเช้าตื่นสาย ) แล้วก็ลงมาอยู่ในอุณหภูมิห้อง อากาศปกติ กลับกลายเป็นปวดหัวไมเกรนอีกแล้ว อะไรนักหนานะเนี่ย

ฉันขึ้นล่องและเดินทางบ่อยในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา รู้เลยว่าไม่ได้ดูแลตัวเองดีๆหรอก เพราะบางทีเราไม่มีเวลาจะมาปราณีต เราคิดแผนงานและลุยทำงาน จนถึงช่วงที่ต้องบอกตัวเองว่าอีกนิดนะๆ เดี๋ยวจะได้พักยาว

เพื่อนชายที่น่ารักของฉันบอกว่า คุณทำงานอิสระที่ควบคุมเวลาของตัวเองได้ จะว่าไปมันก็ดีอย่าง ที่ไม่ต้องมีคนมาบอกคุณให้ซ้ายหันขวาหัน การควบคุมดูแลทุกกิจกรรมในชีวิตของเรา มันก็หน้าที่เรานี่ จะต้องให้ใครมาสั่ง

ยกเว้นเรื่องงานนะคะ เพราะถ้าคุณเป็นมนุษย์ 9to5 คุณต้องอยู่ในกติกา

แต่ใช่ว่าฉันจะไร้กติกา แม้ฉันจะทำงานอิสระ ฉันก็มีกรอบของฉัน มีเกณฑ์ของฉัน ที่แน่ๆคือ คุณค่าในตัวเราเองน่ะค่ะ มันจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะเราทำตัวเราเองให้มีคุณค่า การทำงานคือการสร้างค่าให้ตัวเองค่ะ ผลตอบแทนในรูปของตัวเงิน มันก็คือผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรม แต่ผลตอบแทนทางใจมันมีอยู่ค่ะ

งานบางอย่างให้ความสุขกับเราได้มากกว่าตัวเงินอีกนะคะ เขาถึงบอกว่าให้คุณทำงานที่รัก เพราะคุณจะรู้สึกเหมือนไม่ได้ทำงานเลย

ชีวิตเราประกอบด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างเหล่านี้ ฉันขอเรียกมันว่าสมดุลชีวิตก็แล้วกันค่ะ เราวัดได้ ว่าส่วนใดในชีวิตเราที่มันไม่ balance สัญญาณที่เตือนเรามันก็มี

เช่นร่างกายที่ล้าแล้ว แสดงให้เห็นว่าเราเหนื่อย อาจเกิดจากการทำงานมากไปหรือโหมเกินไป / ใจที่ไม่มีความสุข อาจเกิดจากการทำงานมากไป เครียดไป หรือหนักกว่านั้นคือไม่ได้ทำงานที่เรารักเราชอบ /ร่างกายที่ส่งสัญญาณว่า 'ไม่สบายดี' แล้วนะ ก็บอกเราได้ว่า เราต้องพักเหมือนกัน และต้องปรับบางสิ่งในชีวิตแล้วกระมังเช่นการออกกำลังกาย การกินอาหาร

ชีวิตทุกด้านต้องการสมดุล แต่วิชา life management ก็ไม่มีคนสอน แต่มันเป็นสิ่งจำเป็นมาก ที่เราต้องเรียนรู้และจัดการให้ได้

ชีวิตที่ดีน่าจะต้อง balance ให้ได้ทุกด้าน และเคลื่อนไหวอย่างมี passion
มีความสุข และ เป็นอิสระ

ลองถามตัวเองดูก็ได้ค่ะว่าชีวิตคุณ ณ เวลานี้มันสมดุลดีอยู่หรือเปล่า มันขาดหรือมันเกิดตรงไหน แล้วก็สังเกตุจากร่างกายและจิตใจตัวเองว่าวันนี้คุณมีความสุขไหม มันดีอยู่หรือเปล่าชีวิตนี้

อย่างที่ฉันยกตัวอย่างของตัวเองนะคะ ที่ว่ารู้สึกร่างกายล้า ไม่สบาย ไม่อยู่ในภาวะ 'สบายดี' เพราะภูมิแพ้กำเริบ ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ฉันใช้ร่างกายไม่ถูกอยู่หรือเปล่า ดูแลเค้าน้อยไปหรือเปล่า ส่วนด้านอื่นๆ มันยังดีอยู่ใช่ไหม เช่น ใจที่ยังมีความสุขกับชีวิตได้ทุกวัน มันก็เป็นอย่างนั้นนะ ถ้าถามว่าชีวิตนี้มีเรื่องอะไรกลุ้มหรือทุกข์ ก็คงจะไม่มีอะไรทุกข์ เพราะเรารู้ว่าทุกวันเราใช้ชีวิตดีที่สุดแล้ว วางแผนเพื่อความเสี่ยงไว้หมดแล้ว ไม่มีเหตุให้ทุกข์ค่ะ เพราะปัจจัยที่ทำให้เราทุกข์เช่น ความโกรธ ความเกลียด ความไม่เข้าใจ ความอิจฉาริษยา สิ่งนี้มันไม่มีในใจเราเลย

ทุกวันนี้ฉันเชื่อในเรื่อง input ที่ดี ส่งผลต่อ output มากค่ะ คือใจเรานี่แหละสำคัญที่สุด เรารับอะไรเข้าไป มันจะส่งผลต่อเราข้างในและออกข้างนอกทั้งหมด นิสัยของเรานี่แหละค่ะที่จะทำให้เราทุกข์หรือสุข มันมีผลจริงๆต่อความคิดของเรา

นิสัย = การใช้ชีวิต นะคะ และการจัดการชีวิต life management ให้สมดุลได้ นิสัยของเราต่อการใช้ชีวิตประจำวันก็มีผลมากทีเดียว

หาอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมจากหนังสือที่มีคุณค่าหลายๆเล่มนะคะ ฉันใช้หลักบางอย่างจากหนังสือของคุณบัณฑิต อี้งรังษี เรียกว่ายกเซ็ทมาเลย นอกจากนั้น หลักการของ The secret / The power / The Magic ของนักเขียนระดับโลก รอนด้า เบิร์น ก็เป็นหลักการที่ใช้ได้จริง และแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า ที่สุดของที่สุด life management สามารถจัดการได้ด้วยธรรมะของพระพุทธองค์ เพราะมันคือความจริงของชีวิตที่เรียบง่ายมาก สอนให้เราจัดการชีวิตทุกด้าน ( หาอ่านได้จากหนังสือธรรมะทุกเล่ม โดยเฉพาะท่าน ว วชิรเมธี )

ทุกวันนี้ฉันจะมีสมุดบันทึกที่เขียนเป้าหมาย และเขียนขอบคุณ ซึ่งฉันติดตัวไปด้วยทุกที่และหยิบมาอ่านเสมอ มันทำให้ฉันไม่เคยหลงลืมเลยว่าตัวเองต้องทำอะไร และอะไรที่ฉันทำได้แล้วบ้าง ( บิงโก !!! )

พอเหนื่อยก็หยุดพัก มันจะทำให้คุณมีแรง มีแรงแล้วก็เดินต่อไป ชีวิตที่มี balance แบบนี้แหละค่ะ ใช้ชีวิตให้มีความสุขไปด้วย อย่างมีแรงบันดาลใจและให้คุณค่า

แค่เขียนก็เห็นภาพแล้ว ว่าชีวิตที่มีความสุขมันต้องเป็นแบบนี้

ชีวิตคุณเป็นแบบนี้หรือเปล่าคะ


Create Date : 28 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2555 12:57:57 น. 3 comments
Counter : 854 Pageviews.

 
ชีวิตควรสมดุลเน๊อะ ^^ ร่างกาย ภูมิชีวิต ฉันเชื่อว่า อาหารช่วยได้เสมอ เราควรกินอาหารให้เป็นยา มิใช่กินยาเป็นอาหาร จริงไหมคุณ ^^


โดย: ปลาทู IP: 119.42.124.99 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:59:55 น.  

 
รักษาสุขภาพนะคะพี่บี

ดูแลตัวเองเยอะๆค่ะ

ขอแอดfacebook พี่ด้วยได้มั้ยค๊ะ


โดย: luckiezgalz วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:22:30 น.  

 
ใช่ทั้งหมดค่ะ
ชีวิตที่ balance คือชีวิตที่ดีทุกด้าน และบอกตัวเองได้ว่ามีความสุข

ขอแนะนำเพจใน Facebook ของคุณกมลชนก ปานใจ
เธอเขียนได้ดีมากและให้แรงบันดาลใจ
ในการใช้ชีวิต

เชิญกด like ให้เธอด้วยค่ะ

Facebook ของพี่ add มาค่ะน้อง luckiegalz
มาคุยกันได้อีกทางนึงนะคะ



โดย: บี (bewae1001 ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:19:09:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.