Group Blog
 
All Blogs
 

เพลงแปลงใหม่ล่าสุด มอบแด่ กลุ่มก่อการร้ายพันธมิตร

"ชัดเจน"
ติ๊ก ชีโร่ Feat. นิโคล กรุณาเพลงเพลงแล้วร้องตามนะครับ


ปิดมัน ปิดให้หมดทุกสิ่ง ทั้งทำเนียบและสนามบิน
รถไฟก็เอาด้วยไอ้ พวก พันธมาร
อยู่ๆ กูจะบุกเข้าไป ไถนาปลูกข้าว ก็ได้
ไม่มีใครมาจับ ได้เลย

ชัดเจน นี่แหละม๊อบที่พร้อมทำลาย
นี่ไม่ใช่ เป็นม๊อบที่ไปตัวเปล่า ตรวจเจอก็เหมือน ทำเบลอ ๆ

ชัดเจน นี่แหละม๊อบที่มัน เส้นใหญ่
ที่ไม่ใช่ แค่ชอบเรียกร้อง แปลก ๆ
ผลั้งเผลอ หน่อย ๆ
อยากได้มัน ก็ปล้นกัน กบฏมันทุกวัน
อ่ะเฮ่อ เหอ............... ชัดเจน……….โฮ....โฮ...โฮ.....

คิดถึง อยากเจอตัวใกล้ ๆ
เตรียมกฐินไว้ให้ชุดใหญ่ อยากจัดให้ได้เอาไป ซักที
เรื่องจริง ไม่ต้องอิง นิยาย
ต้องรอจนเมื่อไหร่ อยากบอกให้ มึง เข้าใจ...Fuck U

ชัดเจน นี่แหละม๊อบที่มัน เส้นใหญ่
ใครฟ้องไป ก็ปล่อยบอกเลื่อนลอย แปลก ๆ
ผลั้งเผลอ หน่อย ๆ
อยากได้มัน ก็ปล้นกัน กบฏมันทุกวัน
อ่ะเฮ่อ เหอ............... ชัดเจน……….โฮ....โฮ...โฮ.....

ชัด ชัด “กบฏ”ชัดเจน
ชัด ชัด “กบฏ”ชัดเจน……….โฮ....โฮ...โฮ..... ช๊าด................เจน..........................




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2551    
Last Update : 1 ธันวาคม 2551 16:18:56 น.
Counter : 417 Pageviews.  

แม้วเอ๋ยศาลตัดสินแบบนี้ ไม่ได้กลับเมืองไทยแน่นอน

คดีที่ดินรัชดา เป็นคดีที่ทีมทนายความ ค่อนข้างมั่นใจมากที่สุดคดีหนึ่ง ว่า ศาลน่าจะยกฟ้อง ด้วยหลาย เหตุผลซึ่งเหตุผลที่ ทีมทนายค่อนข้างมั่นใจมาก เพราะเหตุผลที่ว่า

พยานโจทก์ที่ โจทก์นำมาสืบพยานกล่าวหาจำเลยนั้นให้การไปในทางเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
อดีตนายก บรรหาร สรุปว่าสมัยตนเองเป็นนายกตนเองก็ไม่เคยมีอำนาจสั่งการ เพื่อกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูแต่อย่างใด

แม้กระทั่งนาย ชวน จากพรรคคู่ปรับก็ยังยืนยันตรงกันกับ อดีตนายก บรรหาร ว่า ตามกฎหมายนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจสั่งการกองทุนฟื้นฟู

หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนโดยตรง อย่าง อดีตรัฐมนตรีคลัง มรว.จัตุมงคล ก็ยังยืนยันว่า กองทุนบริหารด้วยคณะกรรมการกองทุน การซื้อขายที่ดินพิพาทไม่ต้องขออนุมัติจาก รัฐมนตรีคลัง แต่อย่างใด

หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแลกองทุนโดยตรง อย่าง อดีตผู้จัดการกองทุน นายไพโรจน์ ก็ยังเห็นไปในทางเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจกำกับดูแลกองทุนโดยตรง

จากคำเบิกความของพยาน โจทก์ ซึ่งขัดแย้งกับฟ้องโจทก์เองนั้น ทำให้ทนายของจำเลยมั่นใจว่าคดีนี้น่าจะพิพากษายกฟ้อง
แต่แล้วก็ทุบโต๊ะหักปากกาเซียนกฎหมายทั้งหลาย แบบค้านสายตาประชาชน
ศาลพิพากษาว่าคดีดังกล่าว จำเลยที่ 1 ผู้ยินยอมให้ ซื้อ มีความผิด แต่ ผู้ซื้อ ซึ่งเป็นภรรยา ไม่มีความผิด การศซื้อที่ดินไม่เป็นการทุจริต ที่ดินไม่อาจยึด เงินค่าที่ดินก็ไม่อาจริบ เพราะไม่มีความผิดตามกฎหมายอาญา

งงกันเป็นไก่ตาแตก จากวลีเด็ดประจำเดือนที่แล้ว
"ปรุงอาหารถูกปลด เป็นกบฏถูกปล่อย"
คงต้องเปลี่ยนเป็น
"คนซื้อไม่มีความผิด คนติดคุกไม่ได้ไปซื้อเอง"


ขนาดคดีที่ หลักฐานแน่นขนาดนี้ พยานโจทก์ให้การขัดกันเองแบบนี้ ยังไม่รอด แม้วเอ๋ยแม้ว คดีอื่นจะรอดหรือครับอย่าง Exim-Bankงี้ หวยบนดินงี้

ไม่ได้กลับเมืองไทยแน่นอนแล้ว แม้ว




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2551    
Last Update : 22 ตุลาคม 2551 9:15:31 น.
Counter : 300 Pageviews.  

จากเหตุการณ์สลายม๊อปรัฐสภา ตำรวจกลายเป็นฆาตกร ถามว่าตำรวจฆ่าใครหรือ

เห็นต่อว่าตำรวจกันมากมาย

ว่าใช้ความรุนแรงสลายม๊อบ

เท่าที่ผมดู ตำรวจใช้โล่ห์ กระบอง แก๊ซ น้ำตา เท่านั้น ขนาดโดนรถกระบะนรกไล่บี้ ยังชักปืนขึ้นมาเล็ง แล้วเก็บเลย เพราะต้องทำตามคำสั่งของผู้บัญชาการ และ รักษาภาพพจน์ของตำรวจ

การสลายม๊อบ จะให้ปูผ้ากราบงาม ๆ ให้ม๊อบถอยหรือครับ
ใช้แก๊ซน้ำตา ก็ไม่เห็นว่าจะทำให้ขาขาด แขนด้วน หรือตายเลย

หลาย ๆ ข้อครหา ที่ พธม กุ ขึ้น ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นจริง

1. คนขาขาด อ้าง ถูกแก๊ซ น้ำตาระเบิดใส่
จากการพิสูจน์ ด้วยเหตุการณืจริงการสลายม๊อปในต่างประเทศทั่วโลก ไม่เห็นมีครั้งไหน หรือ แก๊ซน้ำตาลูกใดระเบิดคนขาขาดได้เลย

พธม ก็กุ เรื่องซะใหญ่โต ว่าตำรวจยิงแก๊ซน้ำตาใส่จนขาขาด บ้างว่า กระสุนวิ่งชนจนขาดบ้างละ บ้างว่ามันระเบิดตูม ขาขาดบ้างละ บ้าไปแล้ว

2. ภาพตำรวจถือระเบิด ปริศนา ลูกกลมเกลี้ยงสีขาว

นักข่าวตัวดี พธม. ขี้โม้ ก้มาโวยวายว่าเป็นลูกเกลี้ยง ทั้งที่เป็นระเบิดแก๊ซน้ำตาแบบขว้าง
พธม. บางคนก็โม้ว่าเห็นลูกเกลี้ยงลอยข้ามหัวไปตกที่ขาคนข้าง ๆ แล้วระเบิดจนขาขาด แต่มันไม่ได้สำเนียกเลยว่า ระเบิดลูกเกลี้ยง อานุภาพทำลายล้างสูงแค่ไหน ถ้ามันเห็นระเบิดลูกเกลี้ยงลอยมาตกข้าง ๆ มันไม่ได้ลอยหน้าลอยตามาโม้ออกทีวีหรอก มันต้องเป็นเศษเนื้อไปแล้ว

ไม่พอ ไม่พอ ยังมีหน้า เอาซากระเบิดสีขาว ๆ มาให้ดู แล้วมาโวยวายว่านี่ไง นี่ไงลูกเกลี้ยง ก็ดีครับยิ่งตอกย้ำเข้าไปว่า มันคือระเบิดแก๊ซน้ำตา เพราะถ้ามันเป็นลูกเกลี้ยง มันจะระเบิดแล้วหายไปทั้งลูก มีระเบิดลูกเกลี้ยงประเทศไหน มันระเบิดเป็นรูเท่าเหรียญบาท
3. อีกเรื่องที่พธม. ยกมาอ้างนักหนาว่าตำรวจ พกปืนไปปราบม๊อบ แถมยังนั่งเล็งยิงด้วย

ตำรวจฝ่ายสืบสวน จะต้องมีอุปกรณ์พื้นฐาน คือ กุญแจมือ กับ ปืนอยู่แล้วเค้าพกปืนไปผิดหรือ ที่สำคัญคือไม่ได้ยิง
ย้ำให้ชัด ๆ เลยว่า ตำรวจไม่ได้ยิง กลุ่มกบฏติดอาวุธเลยแม้แต่นัดเดียว
ไม่มีรายงานข่าวว่า พธม. โดนยิงแม้แต่คนเดียว

รถกระบะที่โถ่มเข้ามา ทับเพื่อนตำรวจ พ่อของลูก สามีของภรรยา เสาหลักของบ้านเล็ก ที่อบอุ่น ถูก โจรใจทราม ไล่ชนแล้วถอยกลับมาทับหวังให้ ตาย ๆ ไปเสีย หากผมมีปืนในมือ เจ้าคนขับรถคนนั้นไม่ได้ไปนอนเล่นที่ รพ. แน่นอน

ตำรวจใจเย็น เกินกว่าที่ วิญญูชนทั่วไปจะทำได้ด้วยซ้ำ

แต่กลับถูก แพทย์ไร้จรรยา ไม่รับรักษา นี่หรือคือหมอ นี่หรือ คือ คนไทย


4. อีกข้อเท็จจริงที่ ถูกกล่าวถึงกันมาก เรื่องหญิงสาวที่เสียชีวิตด้วยอะไรบางอย่าง ที่ก่อแผลที่สีข้างน้องอย่างจัง

คำถามคือ อาวุธอะไรที่ สามารถก่อให้เกิดบาดแผลกว้างขนาดนั้นในระยะไกล ใครหาคำตอบได้บ้าง เครื่องยิงแก๊ซน้ำตา ด้วยกระสุน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่กี่นิ้วงั้นหรือ ทำได้จริงหรือ
หรือจะเป็นกระสุนยางที่ตำรวจยิง แล้วมันขยายตัวกว้างขึ้นได้หรือ

สิ่งที่อธิบายถึงรอยแผลนั้นได้ดีที่สุดคือ ระเบิดอานุภาพเบา เช่น ระเบิดปิงปอง ระเบิดประทัดยักษ์ ซึ่ง จะใครพกมา น้องพกมาเอง หรือ สะดุดล้มทับระเบิด มีคนขว้างใส่ ก็ไม่รู้ละครับ แต่ มันไม่ใช่แก๊ซน้ำตา หรือ กระสุนยางแน่นอน
เมื่อก่อนอะไร ๆ ก็ โทษแก๊ซโซฮอล เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็ โทษแก๊ซน้ำตา


5. สิ่งที่คาใจผมและหลาย ๆ คนที่ได้ดูข่าว แต่กลับไม่ระคางใจพวก พธม แม้แต่นิดเดียวคือ

ภาพของพธม มือขาด ข้างนึง แต่อีกข้างนึงกับกำ สิ่งของต้องห้ามมีไว้ในครอบครอง ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่อ้างว่าตนเอง ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ
ของสีดำ ๆ กลม ๆ ในมือเค้าคือ ระเบิดปิงปอง ผู้ต้องสงสัยคดีตัดขา ตัดแขนคนที่เลื่องลือกันนั่นเอง

ทั้งที่หลักฐานอยู่คามือ แผลจากระเบิดเห็นคาตา "สื่อเสี้ยมแห่งสยามประเทศ" กลับไม่มีความกล้าที่จะ ประนาม กลุ่มกบฏติดอาวุธกลุ่มนี้แม้แต่คนเดียว
"ต้องสืบสวนบ้างล่ะ"
"คาดเป็นมือที่ 3 บ้างล่ะ"
มือมันเองแหละครับ กำอยู่เห็น ๆ
6. และอีกครั้งกับเหตุการณ์ กระสุนปืนปริศนา จากชายเสื้อเหลืองแจ๊กเก๊ตสีดำ ที่ มติชนแอบเก็บภาพมาได้

คำถามคือ เค้าเป็นใครอยู่ฝ่ายใด แล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ อันนี้ผมไม่รู้

แต่ที่รู้คือ "มัน" ยิง แต่ตำรวจ ไม่ได้ยิงกลุ่มพธม.เลยแม้แต่นัดเดียว
แล้วมันต้องการอะไร? ละกับการกระทำนี้ หากเป็นมือที่สาม ที่ต้องการให้เกิดการปะทะกันของผู้ชุมนุมกับตำรวจ "มัน" ควรจะยิง พธม. เพื่อสรางสถานการณ์ มากกว่าไล่ยิงตำรวจ ดังนั้น ผมขอคิดเอาเอง ย้ำว่าคิดเองคนเดียว ว่า มันก็คือ กลุ่มกบฏเสื้อเหลือง ที่ไล่ฆ่าตำรวจที่ขว้างทาง ก่อการร้ายของ "มัน" นั่นเอง


8. พธม. พรรคแมลงสาป สว.ลากตั้ง สว.ลากสามีมาตั้ง นักวิชามาร สื่อเสี้ยม แพทย์บางคน นักบินเทพ ต่างออกมากล่าวหาว่า ตำรวจทำรุนแรง ขอถามอย่างชัดเจน ชัดเจน ชัดเจน เลยนะครับว่า ตำรวจ ทำ "อะไร" รุนแรง จนมีคนเสียชีวิต

ตำรวจชักปืนยิง คนตายหรือ......................................ไม่มี
ตำรวจ ขว้างระเบิดสังหารหรือ....................................ไม่ได้ขว้าง
ตำรวจเอาปืนไล่ตีไล่ทุบ เอาด้ามปืนฟาดปากผู้ชุมนุมหรือ....................ไม่ได้ทำ

แล้วตำรวจทำอะไร รุนแรง ครับ พธม ทั้งหลายวานแถลงไขหน่อย

ที่เห็นก็จะมีแต่ พธมกระหายเลือด คลั่งเอาหอกปลายแหลม ในรูปลักษณ์ของ "ธง" แทง ตำรวจไส้แตก ไป 2 นาย
ที่เห็นก็จะมีแต่ พธม. กลุ่มใหญ่ ไล่ทุบตำรวจ ทั้งที่เค้าเดินหนีไปแล้ว ก็ตามไปไล่ทุบเค้า

9. สุดท้ายกับเหตุการระทึกหน้าที่ทำการพรรค ชาติไทย ระเบิด คาร์บอม รถจีฟ

จากการมองโดยไม่ต้องพิสูจน์หลักฐาน ก็ทราบทันที ว่าระเบิดมันระเบิดจากข้างใน เพราะจะเห็นได้ว่าแรงระเบิดนั้นทำให้หลังคาทะลุกันเลยทีเดียว ผู้เสียชีวิต ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หวัหน้าการ์ดพธม. นั่นเอง
สิ่งที่คนสงสัยกันพอสมควรคือ เค้ากำลังจะออกจากรถหรือ กำลังจะเข้าไปในรถกันแน่
แต่ที่ผมไม่สงสัยเลย และคิดไว้แล้วก่อนจะรู้ว่ารถเป็นของใคร ผู้ตายเป็นใครคือ ต้องเป็นฝ่าย พธม แน่นอน ซึ่งก็ไม่พลาด รถเป็นของผู้ชุมนุม ผู้ตายเป็นหัวหน้าการ์ด
ผู้ตาย ไปทำอะไรที่รถ เปิดประตูรถได้อย่างไร ระเบิดอยู่ในรถตั้งแต่ตอนไหน ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่า คน รถ ระเบิด อยู่ในความครอบครองของกลุ่มพธม. ทั้งสิ้น
แล้วนี่ละหรือที่เรียกว่าอหิงสาปราศจากอาวุธ มีทั้งปืน ทั้งระเบิด นี่หรืออารยขัดขืน




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2551    
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 16:42:35 น.
Counter : 286 Pageviews.  

แด่ ชายผู้ใกล้เคียงที่สุดที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย

ล่าสุด นายเทพเทือก ออกมาลอยหน้าจีบปากจีบคอพูดแบบหน้าไม่อายว่า อภิสิทธิ์สมควรด้วยประการทั้งปวงที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยและสมควรแก่เวลาแล้ว ที่จะได้เป็น เพราะตำแหน่งนายกของ อภิสิทธิ์ ไม่สามารถได้มาโดยโชคช่วยอย่างแน่นอน

ทั้งที่หลายต่อหลายฝ่ายช่วยกันทั้งเข็นทั้งดันมาตลอดตั้งแต่ตอนเลือกตั้ง พ่อยกแม่ยกเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางกันเป็นว่าเล่น

ไหนจะเรื่อง ยุบพรรค ทรท แต่ปล่อย ปชป ออกมาทั้งที่ทำผิดทั้งคู่

ไหนจะเรื่อง กกต. ยอมแจกใบเหลือง 1.3 ล้าน ทั้งที่จับได้ทั้งเงินและหัวคะแนน คาหนังคาเขา

ไหนจะเรื่อง เลี้ยงขนมจีนแกงไก่ พร้อมลงคะแนนและนับคะแนนกันใน พันร. เลยไม่ต้องรอกกต. มาตรวจ

ไหนจะเรื่อง กกต. พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนผู้มีสิทธิ แล้วไม่สามารถหาได้ว่าไอ้ที่พิมพ์เกินมาหลายล้านใบ มันหายไปไหนหว่า

ไหนจะเรื่อง กกต. ใน กทม. บางเขตนับคะแนนจากบัตรเลือกตั้งในหีบ ได้เกินจำนวนผู้มาใช้สิทธิ ไม่รู้มันบัตรเลือกตั้งมันผสมพันธ์กันตอนไหน
.
.
.

จนกระทั้งเลือกตั้งเสร็จสิ้น นายอภิสิทธิ์ ก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งที่เรียกได้ว่า ใกล้เคียงกับการที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยที่สุดอีกครั้ง และยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อีก
ความลำบากตกอยู่กับพ่อยกแม่ยกอีกครั้ง ต้องดำเนินการเขี่ยคู่แข่งออกจากการแข่งขันก่อน จะได้อุ้มไปวางเนียน ๆ กะว่าถ้ามันยังหล่นมาอีกคราวนี้ปล่อยมันเน่าตามไปดีกว่าไม่เปลือง
กระบวนการพ่อยกแม่ยกจึงต้องจึงต้องเริ่มลงมืออีกครั้ง เพื่อฉุด ดึง ดัน ให้นายอภิสิทธิ์พ้นจากตำแหน่ง "ชายผู้ใกล้เคียงที่สุดที่จะได้เป็นนายก" ซักที คราวนี้อาจต้องเหนื่อยกันหน่อยก็สู้ (ถ้าฉุด ดึง ดัน ไม่ได้คงต้องอุ้ม ถ้าอุ้มไม่ได้อีกนี่สงสัยต้องถีบมันเอาแล้วละ)

ไหนจะเรื่อง แจกใบแดง กรรมการพรรค พปช จากการปรักปรำและสืบพยานกำนัน 1 คน ศาลที่รักเชื่อในบัดดลว่าผิดจริง พยานอีก 9 คนฟังไม่ได้สงสัยมันเป็นใบ้ เลยพูดให้เค้าฟังไม่ได้

ไหนจะเรื่อง ยอมเสี่ยงส่งลูกพรรคไปเล่นการเมืองข้างถนน ให้นำขบวนป่วนประเทศ จนในที่สุดก็ได้ ข้อหา กบฏ ติดตัวกลับมาพรรค

ไหนจะเรื่อง ที่ยอมลดตัวเองลงไปเกลื้อกกลั้ว กับกลุ่มกบฏ ไปขึ้นเวทีกับเค้าด้วยเพื่อเรียกคะแนน แต่เห็นท่าไม่ดีและไปแค่ทีเดียว เพราะคนมันไม่เยอะอย่างที่โม้กัน หน่อยพูดมาได้คนเป็นแสนอยู่ในทำเนียบ
(ทำเนียบรัฐบาลนะครับไม่ใช่ Old Trafford)

ไหนจะเรื่อง ที่แอบส่งเสบียงสนับสนุนกลุ่มกบฏให้คิดกำเริบก่อการใหญ่ โดยส่งหลังบ้านของ สส. ในพรรคไปแจกของไปร่วมชุมนุม พอจับได้ก็อ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวนะจ๊ะไม่เกี่ยวกับพรรค พรรคผมพรรคเทพ(เทือก)นะ ไม่เคยผิดอยู่แล้ว

ไหนจะเรื่อง กกต. แจกใบขาวกรรมการพรรค ปชป เรื่องแจกตั๋วหนัง ทั้งทั้งที่กกต.ชุดเล็กให้ใบแดงแล้ว กกต.ชุดใหญ่หน้าเดิม ๆ กลับเรียกสอบใหม่ถึง 3 รอบ กว่าจะออกมาเป็นใบขาวได้ด้วยความด้านสุด ๆ

ไหนจะเรื่อง ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญตีความรัฐธรรมนูญด้วย พจนาณุกรม จนป๋าสมัครต้องเด้งออกไป เพราะ ลูกจ้าง รวมการรับจ้างเข้าไปด้วย แต่พวกศาลรัฐธรรมนูญทั้งหลายยังคงไปสอนพิเศษ เปิดบรรยายได้ โดยไม่ใส่ใจว่าตนเองกำลังเป็นลูกจ้างเค้าเหมือน นายกสมัคร เรียกว่าตีมึนกันไปไม่มีใครขุดก็ไม่แก้ไข


แล้วเคราะห์ซ้ำกรรมใด มาขวาง น้องมารค์ไม่ให้เป็นนายกอีกละเนี่ย
หรือว่า เพราะเค้าคือผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกเงาจนมีกรรมมาบังมิให้อาจเอื้อมไปเป็นนายกรัฐมนตรีกับเค้าได้ซักที

อย่างไรเสีย หวยออกแน่คราวนี้ไม่ว่า เทพเทือกจะว่ายังไงก็ตาม นายกต้องมาจากพรรคร่วมรัฐบาลอันเป็นฝ่ายเสียงข้างมากเท่านั้น

ก็ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไว้ล่วงหน้า และขอให้นายอภิสิทธิ์อยู่ในฐานะนี้ตลอดไปนะครับ
ตำแหน่ง "ชายผู้ที่เข้าใกล้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากที่สุด"

หึหึหึ




 

Create Date : 10 กันยายน 2551    
Last Update : 10 กันยายน 2551 17:09:58 น.
Counter : 252 Pageviews.  

แม้จะไม่ชอบเขียนเรื่องการเมือง แต่ผมขอซักเรื่อง ต่อกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีชิมไปบ่นไป

ความเห็นของผมเพียงต้องการแสดงความเห็นทางวิชาการอันเป็นการส่วนตัวเท่านั้นไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ เพราะผมมิใช่ศาล

ต้องขอยกข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องออกมาให้ดูกันก่อน ตามความเข้าใจของผม ศาลรธน. ตัดสินคดีนี้โดยอาศัย เจตนารมณ์ของบทบัญญัติ มาตรา 267 ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ ม. 265 มาตัดสินคดี โดยให้ความเห็นว่าคำว่า
" คำว่า ลูกจ้าง ในรธน. มีความหมายกว้างกว่า คำว่าลูกจ้างในกฎหมายแพ่งและกฎหมายแรงงาน จึงให้ใช้คำแปลตามพจนาณุกรมแทนความหมายของลูกจ้างที่ใช้ตามกฎหมายทั่วไป"


ผมมีข้อสังเกตุดังนี้
1. ตามเนื้อหาของ มาตรา 267
"มาตรา ๒๖๗ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๖๕ มาใช้บังคับกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้วย เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งหรือดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และ จะดำรงตำแหน่งใดในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์การที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือ เป็นลูกจ้างของบุคคลใดก็มิได้ด้วย"

จะเห็นได้ว่า กฎหมายมาตรานี้ ระบุค่อยข้างชัดเจนว่าห้ามนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่ง ในห้างหุ้นส่วน บริษัทใด ๆ ล้อกันมาจากบทยกเว้นในววรต้นที่ว่า "เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งหรือดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย" กฎหมายกล่าวมาตั้งแต่ต้นจนจบตามมาตรานี้นั้น เน้นในเรื่องการดำรงตำแหน่ง ทั้งสิ้น

ดังนั้น จะสามารถอนุมานถึงเจตนารมณ์ของผู้ร่างได้ว่า ควรจะตีความคำว่า "เป็นลูกจ้างของบุคคลใดมิได้" นั้นได้ว่า ถือเอาการ ดำรงตำแหน่ง ตามที่กล้าวอ้างกันมาเป็นหลัก


ปรับข้อเท็จจริง
นายกสมัคร ไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในบริษัท เฟสมิเดีย จำกัด การทำงานเป็นการรับจ้างทำงานในลักษณะจ้างทำของตามกฎหมายแพ่งเท่านั้น (ลักษณะคล้ายกับการซื้อ-ขาย เพียงแต่ซึ้อขายงานฝีมือและความสามารถการทำงานแทนสิ่งของเท่านั้น) ไม่ได้ใกล้เคียงกับความหมายของการดำรงตำแหน่งที่กล่าวไว้ในมาตราเดียวกันแต่อย่างใด การดำรงตำแหน่งในเอกสารเช่น พิธีกร, ช่างไฟ, ช่างกล้อง หรือ กุ๊ก ก็ไม่ได้เป็น สัญญาระหว่าง นายกสมัครกับ เพสมิเดียเป็นเพียงการรับจ้างทำของ (เทปรายการ ชิมไปบ่นไป) เท่านั้น


2. หากต้องการที่จะสืบทราบถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมายมาตรา 267 ก็ย่อมต้องไปดูมาตรา 265 ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ตราขึ้นเพื่อป้องกันการขัดผลประโยชน์ของรัฐมนตรี ที่เรียกกันว่า Conflict of interest ม.265 บัญญัติไว้ดังนี้

มาตรา ๒๖๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้อง
(๑) ไม่ดำรงตำแหน่งหรือหน้าที่ใดในหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจหรือตำแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่น
(๒) ไม่รับหรือแทรกแซงหรือก้าวก่ายการเข้ารับสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
(๓) ไม่รับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษนอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ปฏิบัติต่อบุคคลอื่น ๆ ในธุรกิจการงานตามปกติ


ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงของรธน. มาตรานี้ ผมวิเคราะห์เอาจากตัวบทว่ามีเจตนาดังนี้
(1) ไม่ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งอื่นใด อันอาจก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน แม้ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ หรือ องค์กรปกครองท้องถิ่นก็ตาม
>>>> ซึ่ง มาตรานี้ ยังคงเน้นที่การดำรงตำแหน่ง อันเป็นการเข้าไปมีอำนาจกระทำการใด ๆ ในหน่วยงานนั้น

(2) จะเน้นไปในทางที่ใช้การดำรงตำแหน่งของตนเองเข้าแทรกแซงหรือเข้าหาประโยชน์ใด ๆ จากการเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ กล่าวโดยย่อคือ ป้องกันการใช้ตำแหน่งของตนหาประโยชน์จากรัฐไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมนั่นเอง

(3) ข้อนี้น่าจะใกล้เคียงกับคำวินิจฉัยของศาลรธน. มากที่สุด คือ เจตนารมณ์ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ดำรงตำแหน่งรับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ จากบุคคลอื่น
แต่หากจะสังเกตุในตัวบทบัญญัติ (3) นี้กลับไม่มีเอกชนมาเกี่ยวข้องเลย มีแต่ห้ามรับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ ากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเท่านั้น อีกทั้งยังจำกัดขอบเขตของเงินหรือประโยชน์นั้นเพียงแค่ ที่เป็นพิเศษนอกเหนือไปจากที่หน่วยงานนั้นปฏิบัติต่อบุคคลอื่น ๆ ในธุรกิจการงานตามปกติ
ดังนั้นตีความกลับด้านคือ ให้รับได้แต่เพียงที่ หน่วยงานนั้นปฏิบัติต่อตนเยี่ยงบุคคลธรรมดานั่นเอง (ถ้าไปรับเงินหรือประโยชน์ในฐานะบุคคลธรรมดาและรับเพียงเท่าที่บุคคลธรรมดาได้รับก็ไม่ผิด)

ปรับข้อเท็จจริง
นายกสมัคร จัดรายการชิมไปบ่นไป โดยรับเงินเท่ากันกับเจ้าของรายการอื่น ๆ ได้รับกัน อีกทั้ง บริษัท เฟสมิเดีย จำกัด ก็ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับรัฐ ไม่ได้เป็นหน่วยงานของรัฐ ไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งไม่ได้ให้ตำแหน่งหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดแก่นายกสมัคร
ถามว่า ผิดตัวบทมาตรา265 และ 267 อย่างไร
การที่ศาลรธน.ยกคำว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายออกมา โดยไม่สามารถอธิบายถึงตัวบทว่า ระบุไว้ตรงไหนว่าอย่างไร อันจะสามารถตีความเจตนาของผู้ร่างได้ ผมว่าเป็นการตีความที่ไม่เหมาะครับ หากรธน. นี้ใช้ต่อไปอีก20 ปี ผู้ร่างเสียชีวิตหมดแล้ว ให้ลูกหลานมาอ่านกฎหมายและตีความ จากตัวบทจะมีใครเข้าใจถึงเจตนารมณ์ที่ ศาลรธน.กล่าวอ้างหรือครับ ในเมื่อตัวบทไม่ได้ระบุเงื่อนปมที่จะตีความไปทางนั้นได้แต่อย่างใด


ผมวิเคราะห์และขอให้ความเห็นแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลแต่เพียงเท่านี้ครับ
ยินดีถกปัญหากฎหมายกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นนักกฎหมายหรือไม่ก็ตาม

ด้วยความเคารพ





 

Create Date : 10 กันยายน 2551    
Last Update : 10 กันยายน 2551 15:32:25 น.
Counter : 200 Pageviews.  


Natelo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ทดสอบทำBlog ของตัวเองครับ จะเน้นเรื่องภาพยนต์และ Serie USA เป็นหลัก เพราะชอบดูหนัง

Blog ที่จะนำมาเสริมจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายน่ารู้สำหรับบุคคลทั่วไป หรือ ปัญหาที่เจอบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน

หมายเหตุ ผู้เขียนทำงานด้านการร่างสัญญาอยู่หากใครต้องการให้ช่วยก็แจ้งความจำนงไว้ได้นะครับ

Update
เพิ่มเติมหัวข้อ การเมืองเรื่องใกล้ตัว อีก 1 Blog ครับหลังจากทนไม่ไหวกับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ
Friends' blogs
[Add Natelo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.