ประวัติท่านหญิงซัยญิดะฮฺ ค่อดีญะฮฺ
ซัยญิดะฮฺ ค่อดีญะฮฺ


มารดาแห่งผู้ศรัทธาทั้งมวล

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวไว้ว่า
“โลกนี้คือสิ่งรื่นรมย์ และสิ่งรื่นรมย์ที่ดีที่สุดแห่งโลกนี้คือหญิงที่ดีมีคุณธรรม”

มีรายงานจากท่านอาลี เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“หญิงที่ดีที่สุดคือมัรยัมและหญิงที่ดีที่สุดคือค่อดีญะฮฺ” (แล้วรายงานได้ขึ้นไปบนฟากฟ้าและชี้ลงมาที่แผ่นดิน) ….รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม


วันหนึ่ง ณ มัสญิดอัลฮะรอม บรรดาหญิงแห่งนครมักกะฮฺได้ชุมนุมกันเพื่อเฉลิมฉลองวันอีดวันหนึ่งของพวกนาง ซึ่งในเวลานั้นศาสนาของชาวมักกะฮฺคือการเคารพกราบไหว้สิ่งต่าง ๆ ร่วมกับอัลลอฮฺ บัยตุ้ลลอฮิ้ลฮะรอมกลายเป็นศาสนสถานของรูปเคารพและเจว็ดต่าง ๆ ของชาวกุเรซ ใจกลางของกะอฺบะฮฺมีเจว็ดของชาวกุเรซชื่อว่า “ฮุบัล” ซึ่งห้อมล้อมรายรอบไปด้วยรูปเคารพและเจว็ดต่าง ๆ เป็นจำนวนมากมีชื่อต่าง ๆ นานา และมีรูปร่างหลากหลาย

ชายแปลกหน้าคนหนึ่งได้เดินผ่านหญิงกลุ่มนี้ ขณะที่พวกนางกำลังเฉลิมฉลองวันอีดวันหนึ่งอยู่ ซึ่งหญิงกลุ่มนี้มีทั้งหญิงสาวและหญิงชรามีอายุ ชายผู้นี้เดินผ่านไปอย่างช้า ๆ เพื่อพิจารณารูปโฉมของพวกนาง ซึ่งกำลังอยู่ท่ามกลางบรรดารูปเคารพและเจว็ด ชายผู้นี้เดินไปรอบ ๆ พร้อมกันนั้นก็เผยยิ้มอย่างคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ พลางก็หันหน้าไปยังพวกนางและเอ่ยขึ้นว่า

“โอ้ บรรดาหญิงทั้งหลายแห่งกุเรซเอ๋ย แท้จริงนบีองค์หนึ่งกำลังจะถูกส่งมายังพวกเธอแล้ว กำลังใกล้จะมีนบีเข้ามาแล้ว เธอผู้ใดสามารถที่จะเป็นภรรยาของเขาได้ละก็ จงทำเถิด”

คำพูดของชายผู้นี้หยุดยั้งคำพูดของพวกนางลงทันที พวกนางต่างหันไปมองชายแปลกหน้าผู้นั้นอย่างงุนงงและฉงน พวกนางต่างมองหน้ากันและต่างถามกันว่า ใครกันนะ ชายแปลกหน้าผู้นี้ คำพูดของเขามีเจตนาอะไรอยู่เบื้องหลังหรือ ? หลังจากพวกนางจ้องมองดูหน้าของเขาแล้ว ต่างก็ได้คำตอบว่า ชายผู้นี้คือชาวยะฮูดีคนหนึ่งที่พวกนางไม่รู้จักนิวาสถาน คำพูดของเขาคงไม่มีเจตนาอื่นใด นอกจากการเยาะเย้ยพวกเรา ตำหนิพระเจ้าของพวกเรา พวกนางต่างด่าทอ มิหนำซ้ำพวกนางยังได้ใช้ก้อนกรวด ก้อนหินที่หาได้ขว้างปาเขา จนเขาต้องหันหลังหนีพวกนางไป มีเพียงหญิงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใด ๆ แก่ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย นางไม่ฉงนงงงวยใด ๆ ต่อชายผู้นี้ ไม่ว่าเขาจะเยาะเย้ยดูถูกพวกนางหรือดูถูกศาสนาที่พวกนางเคารพบูชาอยู่ ทั้งนี้เพราะนางเป็นหญิงผู้มีฐานะสูงส่งมีเกียรติและนางเป็นศูนย์รวมของหญิงกุเรซทั้งมวล บางครั้งหญิงกุเรซทั้งหลายจะเรียกขานนางว่า “อัตตอฮิเราะฮฺ” หญิงผู้สะอาดไร้มลทิน และบางครั้งก็ให้สมญานามว่า “ซัยยิดะฮฺ นิซาอฺ กุเรซ” ยอดหญิงแห่งกุเรซ นางคือซัยยิดะฮฺ ค่อดีญะฮฺ มินอุมมะฮาติ้ลมุอฺมินีนพระนางค่อดีญะฮฺ มารดาแห่งปวงผู้ศรัทธา ศรีภรรยาของท่านนบี มุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่นเอง


พระนางค่อดีญะฮฺ บุตรสาวของคุวัยลิด จากตระกูลที่ประเสริฐแห่งกุเรซ เศรษฐีแห่งกุเรซ เศรษฐีนีผู้มั่งคั่ง สติปัญญาเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องเป็นที่เลื่องลือ ผู้มีมารยาทงดงาม เปี่ยมล้นไปด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ปราศจากบาปและมลทิน ผู้เป็นที่ไว้วางใจของกลุ่มชน นางเป็นผู้ลงทุนทำการค้าเยี่ยงชาวกุเรซทั้งหลาย ตัวแทนผู้ซื่อสัตย์ของนางคือ ท่านมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม โดยการจัดกองคาราวานอูฐไปค้าขายยังเยเมนในฤดูหนาว และไปยังชามในฤดูร้อน ประสบผลสำเร็จทางการค้าอย่างงดงาม

นางเคยทำหน้าที่เป็นผู้บริหารทรัพย์ด้วยตนเอง หลังจากที่สามีสองคนของนาง คืออะบีฮาละอัตตะมีมียฺ และอะตีก อัลมัคซูมียฺ ได้จากนางไปตามลำดับ

ชายชาวกุเรซจำนวนมิใช่น้อยปรารถนาที่จะสมรสกับนางหลังจากการจากไปของสามีทั้งสองของนาง พวกเขาต่างจะทุ่มเททรัพย์สินเงินทอง หาสื่อติดต่อนาง แต่นางก็ปฏิเสธที่จะสมรสกับพวกเขา จนนางลุเข้าสู่วัย 40 ปี นางยังคงสวยงามสง่า และหมกมุ่นอยู่กับการบริหารกิจการค้าของนางต่อไป นางมีจิตใจเมตตาเผื่อแผ่และพร้อมเสมอที่จะช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือเพราะเหตุใดหรือนางจึงไม่ยอมแต่งงาน ทั้ง ๆ ที่ผู้ที่เสนอตัวขอแต่งงานกับนางนั้นล้วนเป็นผู้มีวงศ์ตระกูลดี มีเกียรติและมั่งมีทรัพย์สินทั้งนั้น คงจะเป็นไปได้ว่า
อัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงจัดเตรียมสามีที่เป็นคนประเสริฐยิ่งกว่าชายผู้ใดทั้งมวลไว้ให้แก่นางแล้วอะบูตอลิบ (ลุงของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้เสนอต่อนางค่อดีญะฮฺ เพื่อส่งท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไปทำการค้าอยู่กับนาง ต่อมาท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ได้ทำผลกำไรให้นางมหาศาล ซึ่งนางก็ได้ให้ค่าตอบแทนแก่ท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นหลายเท่า อย่างที่นางไม่เคยมอบให้แก่ผู้ใดมาก่อนเลย นางได้ส่งกองคาราวานอูฐไปยังประเทศชามโดยการควบคุมของนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และให้มัยซาเราะฮฺติดตามเป็นผู้รับใช้ เมื่อถึงประเทศชาม จะมีผู้คนมากมายต่างซื้อและขายสินค้า นบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็จะขายสินค้าที่นำไปจากมักกะฮฺ และจะซื้อสิ้นค้าอื่น ๆ กลับมา ทุกคนที่เคยติดต่อสัมพันธ์กับท่านจะรักและเมตตาท่าน อันเนื่องมาจากความจริงใจ ความไว้วางใจได้ และวาจาอันสุภาพอ่อนโยนของท่าน ซึ่งเป็นเหตุให้การค้าของนางค่อดีญะฮฺได้รับผลกำไรงดงาม เมื่อนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กลับสู่มักกะฮฺ ท่านจะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้นางได้รับทราบ ส่วนมัยซาเราะฮฺเด็กรับใช้ผู้ติดสอยห้อย ตามนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็จะรายงานปฎิบัติหน้าที่ของนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และเหตุการณ์อื่น ๆ ให้นางค่อดีญะฮฺทราบทันทีเช่นกันว่า ท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีมารยาทที่ประเสริฐงดงามมีมนุษย์สัมพันธ์อันดียิ่งกับทุกคน ทำการซื้อขายได้อย่างเหมาะสมด้วยสติปัญญาอันฉลาดหลักแหลม ฯลฯ


เกียรติคุณของท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่นาง ค่อดีญะฮฺ จนทำให้นางเกิดความรักและมีใจคาดหวังที่จะได้เป็นคู่ชีวิตกับท่าน ซึ่งนางเองก็ยังไม่ทราบว่าความหวังที่มีอยู่ในใจของนางเช่นนี้จะเป็นจริงได้อย่างไร

นาฟีซะฮฺ บุตรสาวของมุนับบิฮฺ เพื่อนของนางค่อดีญะฮฺทราบและรู้ความในใจของนางค่อดีญะฮฺ แม้ว่าค่อดีญะฮฺจะไม่ได้เอ่ยวาจาบอกให้นางทราบก็ตาม นางจึงเห็นใจและสงสาร ประการแรกที่นาฟีซะฮฺทำคือ ไปหาท่านมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และพูดกับท่านว่ามีอันใดหรือ ท่านจึงยังไม่คิดที่จะแต่งงาน ? นบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวกับนางว่า ฉันยังไม่มีหญิงที่ฉันจะแต่งงานด้วย นาฟีซะฮฺจึงกล่าวกับท่านว่า หากมีหญิงที่พร้อมจะแต่งงานกับท่านล่ะ และหญิงผู้นั้นเพียบพร้อมไปด้วยความสวยงาม อีกทั้งมั่งคั่งและประเสริฐ ท่านพร้อมจะแต่งงานกับนางไหม ? นบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงถามนนาฟีซะฮฺว่า แล้วเธอผู้นั้นคือใครกันล่ะ ? นาฟีซะฮฺตอบท่านว่านางคือ ค่อดีญะฮฺไงล่ะ

โดยไม่คาดคิดมาก่อน นบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สุดดีใจกับนาง แต่นบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ทราบแก่ใจดีว่านางได้ปฏิเสธชายที่เพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างแห่งกุเรซมามากต่อมากแล้ว แล้วนางจะพึงพอใจเราได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานะอันยากจนของเรา ?

นาฟีซะฮฺสื่อผู้แสนดีทราบความในใจของมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ดีใจจึงได้กล่าวกับท่านว่า “ปล่อยให้เป็นธุระของฉันเถอะ ฉันจะดำเนินการให้ท่าน ขอท่านอย่าได้เป็นห่วงเลย”

นาฟีซะฮฺได้นำเรื่องนี้กลับไปบอกค่อดีญะฮฺให้ทราบว่า มุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พอใจและยินดีจะรับนางเป็นคู่ชีวิตหากนางพอใจ และยินดีด้วย ค่อดีญะฮฺดีใจ และได้ส่งนางฟีซะฮฺไปเจรจาเรื่องนี้ให้นบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทราบแล้วทั้งสองก็ตกลงที่จะแต่งงานกัน

นบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พร้อมด้วยลุง ๆ ของท่านได้มาสู่ของนางค่อดีญะฮฺ จากนั้นก็ได้ทำการนิกาหฺ โดยได้จัดงานเลี้ยง (วะลีมะฮฺ) ขึ้นที่บ้านของนางค่อดีญะฮฺ

ชีวิตการครองเรือนของนางกับท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีแต่ความสุขสงบราบรื่น นางปฏิบัติตนกับท่านเสมือนพี่เสมือนน้องเสมือนแม่ และในฐานะเป็นภรรยาด้วยพร้อม ๆ กัน ท่านมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้รับความรัก ความเมตตาสงสาร การเอาใจใส่ ความร่วมไม้ร่วมมือจากนางทุกอย่างในสิ่งที่ท่านนบีรักและมุ่งมาตรปรารถนา

เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อายุได้ 40 นางค่อดีญะฮฺเห็นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ชอบออกจากบ้านไปอยู่ตามลำพังในถ้ำฮิรออฺ เพื่อพิจารณาถึงโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลและจักรวาล ครุ่นคิดในพระผู้ทรงให้กำเนิดมัน ท่านเกลียดกลัวความหลงผิดที่กลุ่มชนของท่านกำลังประพฤติอยู่ การเคารพบูชาเจว็ดและความเสื่อมโทรมด้านศีลธรรม ทุกครั้งที่ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ออกไปหาความสงบในถ้ำฮิรออฺ นางจะเป็นผู้จัดเตรียมเสบียงสัมภาระต่างๆ ให้ท่าน จะจัดส่งคนดูไปดูแลท่าน หรือบางครั้งนางจะออกไปหาท่านยังถ้ำนั้นด้วยตนเอง เมื่อครั้งที่โองการครั้งแรกจากพระผู้เป็นเจ้ามีมายังท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านรีบกลับมาหานางบอกให้นางทราบด้วยความตระหนกกลัว แต่นางก็ปลอบท่านว่า ท่านจงลุกขึ้นประกาศข่าวดีเถิดโอ้ลูกของลุง ท่านจงเข้มแข็งนะ ฉันขอสาบานต่อพระผู้ซึ่งชีวิตของค่อดีญะฮฺอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์ว่า [b]ฉันมั่นใจว่าท่านคือศาสดาแห่งประชาชาตินี้ [/b]นางได้ไปหา“ว่าร่อเกาะฮฺ” ซึ่งเป็นลูกลุงของนาง เล่าให้เขาฟัง แล้วว่าร่อเกาะฮฺก็ได้แจ้งให้นางทราบว่า นั่นคือวะฮียฺจากฟากฟ้า นางกลับมาแล้วบอกเรื่องนี้ให้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทราบให้พรท่าน พูดให้กำลังใจแก่ท่าน และนางก็เป็นบุคคลแรกที่อีหม่านศรัทธาต่อท่าน และเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมทุกอย่างเพื่อร่วมอยู่เคียงข้างท่านตราบชีวิตหาไม่

กระแสโองการ (วะฮียฺ) จากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ได้เคยมีมายังท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้นจะมีมาในขณะที่นางค่อดีญะฮฺอยู่เคียงข้างท่าน ท่านญิบรีลได้เคยกล่าวแก่นาง และเคยนำสลามจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลามาให้แก่นาง

เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ประกาศอิสลามแก่ปวงชนของท่าน พวกเขาต่างพากันปฏิเสธและทำร้ายท่าน นางค่อดีญะฮฺคือผู้ปลอบใจ ให้กำลังใจท่าน อำนวยความสะดวกให้ท่าน ช่วยปกป้องท่านและสมาชิกในครอบครัวให้รอดพ้นจากความเศร้าโศกเสียใจ และภยันตรายต่างๆ นางจะปลอบใจท่านด้วยถ้อยคำที่ละมุนละไม หนักแน่น และด้วยใจอันศรัทธาอันเยือกเย็นต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีลูกชายที่เกิดจากนาง 2 คนคือ[b]อัลกอซิม และอับดุลลอฮฺ และบุตรสาว 4 คน คือ [b]ซัยหนับ รุกอยยะฮฺ อุมมุกัลโซม และฟาติมะฮฺ แต่บุตรชายทั้งสองของท่านได้ถึงแก่กรรมในขณะยังเด็ก ซึ่งนำความเศร้าโศกมาสู่ท่านทั้งสองเป็นอันมาก แต่เพราะความสุขุมเยือกเย็นของนาง นางสามารถห้ามน้ำตาของนางไว้ได้ และพยายามปกปิดความเศร้าโศกของนางไว้ ทั้งนี้เพื่อให้สามีที่รักยิ่งของนางได้คลายความเศร้าโศกลงได้บ้าง ก่อนท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะอพยพออกจากมักกะฮฺไปสู่มะดีนะฮฺ3 ปี นางค่อดีญะฮฺได้ล้มป่วยลง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เฝ้าอยู่เคียงข้างนางตลอดเวลา คอยดูแลและเอื้ออำนวยทุกอย่างแก่นาง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้แจ้งข่าวดีแก่นางว่า "อัลลอฮฺ ได้เตรียมปราสาทหลังหนึ่งที่ทำจากไข่มุขไว้ให้แก่นางแล้วในสวนสวรรค์" และเมื่อนางถึงแก่กรรม ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ลงไปในหลุมฝังศพของนาง และวางร่างอันไร้วิญญาณของนางไว้ในหลุมศพนั้นด้วยสองมืออันประเสริฐของท่าน ท่านได้กลบดินและหลั่งน้ำตาให้แก่นางด้วยความเศร้าอาลัยอย่างสุดซึ้งแม้นางจะจากท่านไป ท่านก็ไม่เคยลืมระลึกถึงนาง ท่านจะกล่าวถึงคุณงามความดีของนางอยู่เสมอ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะให้เกียรติแก่ผู้ที่นางเคยชอบพอ ท่านจะหาโอกาสพบกับเพื่อนๆ ของนางที่นางเคยคบหาอย่างเป็นกันเอง และด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะนั่นคือสิ่งเดียวที่จะทำให้ท่านพบกับกลิ่นไอของนางผู้เป็นศรีภรรยาอันเป็นที่รักยิ่งของท่าน

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะกล่าวถึงคุณงามความดีของนางอยู่ตลอดชีวิตของท่าน บ่อยครั้งที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวยกย่องชมเชยถึงความดีของนางนั้น พระนางอาอิชะฮฺภรรยาผู้แสนสวยของท่านเกิดความหึงหวง ถึงกับนางได้กล่าวขึ้นกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ครั้งหนึ่งว่า "โอ้ ท่านศาสดาของอัลลอฮฺ นาง (ค่อดีญะฮฺ) เป็นเพียงหญิงชราคนหนึ่งเท่านั้น อัลลอฮฺได้ทรงทดแทนหญิงที่ดีกว่านาง (คือตัวฉัน) ให้กับท่านแล้วมิใช่หรือ ?" ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทรงโกรธนางมาก และได้ตอบแก่นางว่า " ไม่ อัลลอฮฺไม่ได้ทดแทนหญิงใดที่ดีกว่านาง (ค่อดีญะฮฺ) เลย นางศรัทธาต่อฉันในขณะที่มนุษย์ทั้งหมดเป็นกาเฟร (ไม่ศรัทธา) นางเชื่อฉันในขณะที่มนุษย์เขาไม่เชื่อฉัน นางได้ช่วยฉันในขณะที่มนุษย์เขาไม่ช่วยฉัน นางได้ช่วยเหลือฉันด้วยชีวิตและทรัพย์สินเงินทองของนางในขณะที่ผู้คนทั้งหลายไม่ยอมให้ฉัน และอัลลอฮฺได้ให้ฉันมีลูกบ้างกับนาง ในขณะที่หญิงอื่นไม่มีลูกกับฉัน"


สมควรและเหมาะสมยิ่งแล้วที่ชาวกุเรซ เรียกขานนางว่า "อัตตอฮิเราะฮฺ" "หญิงผู้สะอาด ไร้มลทิน" "ซัยยิดะฮฺ นิซาอฺ กุเรซ" "ยอดหญิงของชาวกุเรซ" และสมจริงแล้วที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงเรียกขานนางไว้ในคัมภีร์ของพระองค์ว่า "อุมมุ้ล มุอฺมินีน" "มารดาแห่งผู้ศรัทธาทั้งมวล"









อ้างอิงจาก : จากหนังสือ ภรรยานบีมูฮำมัด (ซล.)โดยเอส.เอ็ม.มะดานี อับบาซี
และหนังสือ ประวัติท่านนบีมูฮำมัด (ซล.)โดย อ.มุนีร มูหะมัด





Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 11:30:52 น.
Counter : 813 Pageviews.

9 comments
  
วันนี้ลองอ่านตรงมุม เรื่องน่าสงสัยฯ แล้วสนใจมากๆ เลยค่ะ เพราะมีหลายๆ อย่างเกี่ยวกับศาสนาอิสลามที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อน เรื่องที่สงสัยมานานก็มากระจ่างในบล็อกนี้ เลยมาขอ Add บล็อกนะคะ

โดย: หนู Ham (HamMostFear ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:14:05 น.
  
ยินดีเป็นอย่างยิ่งและยินดีต้อนรับค่ะ คุณ หนู Ham

ด้วยความเคารพค่ะ
โดย: นะ(รก) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:19:05 น.
  
โดย: habibe IP: 195.93.21.7 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:5:24:13 น.
  
อัสสลามมุอะลัยกุ้ม.......
แวะเยี่ยมแล้วค่ะ ไม่ค่อยได้เข้าบล็อกเลยเพราะมันช้ามั่กๆ ไม่รู้ว่าเป็นที่เน็ตเราช้าหรือว่า เป็นที่ระบบกันแน่ ขอบคุณบทความดีๆที่นำมาให้อ่านค่ะ บางอย่างก้อเคยอ่านผ่านมาแล้ว แต่พอนานเข้าก้อลืมๆไป ได้มาอ่านใหม่ อืมมมมม.....เราลืมมันไปไม่ค่อยได้ปฎิบัติอีกหลายร้อยสุนนะห์เลยนะเนี่ย
โดย: บูดูหวาน IP: 203.113.77.73 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:59:30 น.
  
1 อยากทราบวิธีละหมาด และบทสวด ช่วยกำกับ เป็นภาษาไทยด้วยนะคะ เคยอ่านจากที่อื่นเป็นอารบิค อ่านไม่เข้าใจค่ะ ส่วนบทดสวด จะพยายามอ่านค่ะ

2 คนที่เค้าเปลี่ยนมาเป็นอิสลาม เค้าได้อะไรเป็นการยืนยันว่าเปลี่ยนศาสนาแล้วคะ

ขอคุณมากค่ะ
โดย: lily&rose IP: 125.25.221.90 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:16:58:08 น.
  
^
^
^
ช่วยติดต่อมาทาง Email ได้ไหมคะ จะได้ส่งไฟล์อะไรได้ค่ะ ^^

ส่วนเรื่องที่ 2นั้น จะมีอะไรยืนยันการเปลี่ยนศาสนา
ก็คือ

1.การดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป(เพิ่มเข้ามา คือการละหมาด) การปฏบัติตนในเรื่องต่างๆ เช่น อาหารการกิน กิริยามารยาท

2. มีพยานยืนยันว่าเราได้ทำการเปลี่ยนศาสนาค่ะ

3. ถ้าจะเอาเป็นหลักฐานนั้น บางคนก็ไปแจ้งของเปลี่ยนศาสนาที่ระบุไว้ในบัตรประชาชนค่ะ ^^
โดย: นะ(รก) วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:22:56:34 น.
  
ส่ง เมลไป แล้วนะคะ
โดย: lily&rose IP: 125.25.187.245 วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:14:39:58 น.
  
จะบอกแค่ว่า ทำไมอ่านเรื่องนี้แล้วน้ำตาซึมไม่รู้ครับ
ชอบประโยคสุดท้ายที่นบีพูดจัง...
โดย: itoursab IP: 61.91.152.25 วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:13:31:48 น.
  
อัสสลามมู่อาลัยก่ม.....
โดย: อับดุลรอซิด IP: 183.89.32.73 วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:0:39:56 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะ(รก)
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



เพราะเราไม่รู้ว่า ลมหายใจจะหมดลงเมื่อใด
The Doomsday Book
Date Conversion
Gregorian to Hijri Hijri to Gregorian
Day: Month: Year
Website Counter
New Comments