เริ่มต้น..... ของจุดจบ จากความลุ่มหลงสู่ความศรัทธา
บทความนี้ มาจากหนังสือ เริ่มต้น..... ของจุดจบ จากความลุ่มหลงสู่ความศรัทธา ของศูนย์ส่องทางธรรมทั้งหมด โดย วิทยาปัญญา 2543
ขอพระองค์ทรงตอบแทนสิ่งที่ดีงามกับกลุ่มที่จัดทำหนังสือเล่มนี้
อีกทั้งผู้ที่นำหนังสือเล่มนี้มามอบให้กับข้าพระองค์ด้วยเช่นกัน
อามีน ญาร็อบ
ความลุ่มหลง กับ ความศรัทธา เมื่อฉันกำเนิดมาในโลกนี้
เสียงแรกที่ผ่านเข้าสู่โสตประสาทของฉัน
คือเสียงคำขอบคุณพระเจ้า
ภาพแรกที่ฉันเห็น
คือความปิติยินดีของพ่อแม่
เมื่อฉันกำเนิดมาในโลกนี้
เสียงแรกที่ผ่านเข้าสู่โสตประสาทของฉัน
คือเสียงคำขอบคุณพระเจ้า
ภาพแรกที่ฉันเห็น
คือความปิติยินดีของพ่อแม่ครอบครัวของฉันมีฐานะร่ำรวย
ฉันมีกินมีใช้อย่างเหลือเฟือ
สิ่งที่พ่อแม่ปลูกฝังให้แก่ฉัน
คือความฟุ่มเฟือยและความสุขสบาย
ไม่มีใครบอกฉันว่า เงินที่ฉันมี มาจากไหน
ฉับเติบโตมากับการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย
ครอบครัวของฉันมีฐานะปานกลาง
ฉันมีพอกินพอใช้อย่างพอเพียง
สิ่งที่พ่อแม่ปลูกฝังให้แก่ฉัน
คือความประหยัดและความอดทน
ท่านสอนฉันว่า เงินที่มีนั้นเป็นของอัลลอฮฺ
จงใช้มันอย่างชาญฉลาดเมื่อฉันเริ่มมีความคิด
พ่อแม่ส่งฉันให้เรียนศาสนา
ที่แห่งนั้นสอนให้ฉันเป็นมุสลิม
ความรู้ที่ผ่านเข้ามาประสาทสัมผัสของฉัน
มันผ่านเลยไปเหมือนขนนกที่ถูกลมพัด
ฉะนไม่แตกต่างจากนกขุนทองตัวหนึ่ง
ซึ่งมันไม่ใช้สติปัญญาในการคิดไตร่ตรอง
เมื่อฉันเริ่มมีความคิด
พ่อแม่ส่งฉันให้เรียนศาสนา
ที่แห่งนั้นสอนให้ฉันเป็นมุสลิม
ความรู้ที่ผ่านเข้ามาประสาทสัมผัสของฉัน
ได้ซึมลึกเข้าไปสู่หัวใจของฉัน
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต
ที่ฉันได้ตระหนักถึงการมีอยู่ของพระเจ้าเมื่อฉันได้เรียนในโรงเรียนสามัญ
บทเรียนที่ครูหยิบยื่นแก่ฉันได้สั่งสอนฉัน
ให้แบ่งแยกชีวิตออกจากศาสนา
ฉันเชื่อและทำตาม
ชีวิตของฉันแบ่งแยกจากอิสลาม
ฉันนึกถึงอัลลอฮฺแค่ตอนละหมาด
เมื่อฉันได้เรียนในโรงเรียนสามัญ
บทเรียนที่ครูหยิบยื่นแก่ฉันได้สั่งสอนฉัน
ให้แบ่งแยกชีวิตออกจากศาสนา
ฉันต่อต้านและฝ่าฝืน
อิสลามหลอมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน
ฉันนึกถึงอัลลอฮฺในทุกอิริยาบถของฉันเมื่อย่างเข้าสู่รั่วมหาวิทยาลัย
ฉันได้พบกับสังคมที่เหลวแหลก
สิ่งที่ศาสนาห้าม กลายเป็นสิ่งที่ถูก
มนุษย์คิดว่าอิสลามไม่ทันสมัย
เวลาผ่านเลยไป
น้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งศรัทธาของฉัน
ได้เหือดแห้งลง
ฉันเริ่มมีความคิดคล้อยตามกลุ่มชนผู้หลงผิด
เมื่อย่างเข้าสู่รั่วมหาวิทยาลัย
ฉันได้พบกับสังคมที่เหลวแหลก
สิ่งที่ศาสนาห้าม กลายเป็นสิ่งที่ถูก
มนุษย์คิดว่าอิสลามไม่ทันสมัย
เวลาผ่านเลยไป
ฉันเติมน้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งศรัทธาของฉันอยู่ตลอดเวลาด้วยกุรอานและหะดีษ
ความไร้สาระต่างๆ ไม่มีผลต่อจิตใจของฉันภาพที่ฉันเห็นคือ
ความรุ่งเรืองของผู้ปฏิเสธ
และความตกต่ำของมุสลิม
ฉันเทิดทูนผู้ปฏิเสธ
และฉันคิดว่ามันจะยกฐานะของฉันให้สูงขึ้น
ฉันละทิ้งพี่น้องมุสลิมที่กำลังตกต่ำเอาไว้เบื้องหลัง
เพราะคิดว่ามันเป็นการเหนื่อยเปล่า
ที่จะต่อสู้เพื่ออิสลาม
ภาพที่ฉันเห็นคือ
ความรุ่งเรืองของผู้ปฏิเสธ
และความตกต่ำของมุสลิม
ฉันเมินเฉยต่อผู้ปฏิเสธ
เพราะความรุ่งเรืองของเขา เป็นแค่ภาพลวงตา
ฉันหันมาช่วยพี่น้องมุสลิมที่กำลังลำบาก
เพราะฉันรู้แก่ใจว่า
อัลลอฮฺจะทรงประทานความดีแก่ฉัน ฉันเจริญรอยตาม คือ ดารา นักร้อง
การกระทำต่างๆของเขาช่างน่าชื่นชม
เงินส่วนใหญ่ที่พ่อแม่ให้ฉันมานั้น
หมดไปกับการดำเนินรอยตามผู้นำของฉัน
ชีวิตของฉันมีความสุขอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
จนกระทั่งผู้นำของฉันจากโลกนี้ไป
สิ่งที่เขาได้ทิ้งไว้ให้ฉัน คือ
ผลงานชิ้นโบว์แดงของเขา
นี่หรือคือทางนำชีวิตของฉัน
" ผู้นำคนต่อไปของฉัน
ต้องทำอะไรได้มากกว่านี้ " ฉันคิด
ผู้ชี้ทางแก่ฉันคือ ท่านนบีมูฮำมัด(ศ็อล)
การกระทำต่างๆของท่านช่างมีเกียรติ
เงินส่วนใหญ่ที่อัลลอฮฺประทานแก่ฉัน
หมดไปกับการบริจาคและค้ำจุนศาสนา
ชีวิตของฉันมีความสุขอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าฉันจะเกิดไม่ทันในยุคของท่าน
สิ่งที่ท่านนำมาบอกแก่เรานั้น คือ
แบบแผนที่ดี และพระวจนะอันอมตะ
สิ่งนี้แหละคือทางนำชีวิตของฉัน
" ความสุขสงบแห่งจิตใจ
ได้มาประสบแก่ฉันแล้ว " ฉันคิด
ไว้มาลงต่อ อินชาอัลลอฮฺ ^^