::: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด :::
Group Blog
 
All blogs
 

ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย...ผู้ชายเลี้ยวขวา ♬ ♥ หนังโคตะระน่ารักจัง ♬♡

ความจริง เรามีหนังสือภาพของ Jimmy Liao เรื่อง 'A Chance of Sunshine' ซื้อเก็บไว้นานแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าปีไหน...แปลโดย 'ปราย พันแสง




แล้วตอนหลังถึงได้มารู้ว่า มีการเอาหนังสือภาพเรื่องดังกล่าวมาสร้างเป็นหนัง ชื่อเรื่อง 'Turn left, turn right' ซึ่งความจริงมันก็ออกนานแล้วล่ะ ตั้งแต่ปี 2003 เราก็ยังเฉย ๆ เพราะคิดไม่ออกว่าหนังสือภาพเรียบ ๆ นิ่ง ๆ ไม่มีเนื้อเรื่องอะไรมาก ของ Jimmy Liao เรื่องนี้สร้างเป็นหนังออกมาแล้วจะสนุกหรอกลื้อ!!


วันดีคืนดี มีคนซื้อแผ่นเรื่องนี้มาไว้ที่บ้านค่ะ เลยหยิบมาดูจนได้ ชื่อภาษาไทยว่า 'ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา' ช่วงนี้เลยได้ดูหนังของพ่อพระเอก Takeshi Kaneshiro สองเรื่องติดกันโดยไม่ตั้งใจ ...แล้วก็พบว่า...หนังอะไร...น่ารัก น่าหยิกชมัด ถ้าเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ละก้อ จะเข้าไปหยิกแก้ม หอมสักฟอด แล้วก็ตีที่ก้นเบา ๆ โทษฐานที่ช่างเป็นคนน่ารักน่าชังอะไรเช่นนี้!!

หนังน่ารัก ดูได้สนุก ๆ สบายใจค่ะ ขนาดเด็ก ๆ (แถวบ้านเรา) ยังเปิดดูซะ 3 รอบเลย จนต้องห้ามเอาไว้




ความสนุกของคนดูที่มีหนังสือภาพเรื่องนี้อยู่ในมือก็คือ การได้เติมเต็มจินตนาการของเรื่องราวระหว่างภาพที่...ไม่มีอยู่ในหนังสือ ....และเราก็ว่าผู้กำกับกับคนเขียนบทเรื่องนี้ ทำได้ดีค่ะ (ตรงนี้เราขี้เกียจหาเครดิตอ่ะ) ไม่รู้ว่าตัว Jimmy Liao มีส่วนร่วมด้วยรึเปล่า!

ก็เหมือนกับการเติมคำในช่องว่าง.....ทำยังไงให้เนื้อความที่ขาดหายไปกลับมาครบถ้วน ไม่ขาด ไม่เกิน แล้วก็ไม่แปลกแยก ซึ่งเรื่องนี้ก็สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวจากภาพที่มีอยู่ โดยยังคงเนื้อหาตามภาพของเดิมเอาไว้ได้เช่นกัน ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เฮฮา ปนซาบซึ้งไม่หยอก...

แต่ไม่ใช่คนที่ไม่มีหนังสือจะดูไม่สนุกนะคะ เพราะจริง ๆ แล้วหนังก็ดูง่าย ๆ สนุกสนาน เฮฮา โรแมนติกแบบเบา ๆ ค่ะ


Jimmy Liao เป็นนักเขียนและนักวาดภาพประกอบชื่อดังชาวไต้หวันค่ะ และเรื่องนี้ก็เป็นการทำงานร่วมกันแบบหลากหลายสัญชาติทีเดียว ผู้กำกับฮ่องกงค่ะ ได้พระเอกลูกครึ่งไต้หวัน-ญี่ปุ่นอย่าง Takeshi Kaneshiro (ซึ่งเราว่าหน้าตาเค้าดูยังไง้ ยังไงก็เป็นญี่ปุ่น) ส่วนนางเอก Gi Gi Leung เป็นนักแสดงและนักร้องชื่อดังชาวฮ่องกงค่ะ (เธอยังมีความสามารถในการแต่งเพลงด้วยนะคะ ในเรื่องนี้ เธอได้ร้องเพลงประกอบในหนังเองด้วย)

ตัวประกอบก็เล่นเข้าขากันได้ดีเกือบทุกที ฮากระจาย เล่นได้เว่อร์น่ารักน่าหยิก...เผลอ ๆ บางทียังจะขโมยซีนตัวเอกไปอีกด้วย (...ทำให้นึกถึงคุณโอปอ ในเรื่องเพื่อนสนิทเลยแฮะ!) โดยเฉพาะ ตัวคุณหมอ ดร.โฮ (Edmund Chen) ....เพื่อนเก่าที่แอบชอบนางเอกตั้งแต่สมัยเรียน กับรูบี้ (Terri Kwan) ....เด็กสาวคนส่งอาหาร ที่มาติดพันพระเอก

ถ่ายทำที่ไต้หวัน ตามเจ้าของบทประพันธ์ค่ะ ถ่ายภาพออกมาได้สวยที่เดียว ....เปิดมาซีนแรกก็เหมือนในหนังสือเลย เอาภาพมาเทียบให้ดู







คนนึงเป็นนักไวโอลิน อีกคนเป็นนักแปล...อารมณ์ศิลปินทั้งคู่...อยู่แฟลตห้องติดกัน แต่ทั้งคู่ไม่เคยพบกันเลย เพราะนอกจากแฟลตของทั้งคู่จะใช้ทางเข้า-ออกคนละทางแล้ว คนนึงยังชอบเลี้ยวซ้ายตลอด ส่วนอีกคนก็เลี้ยวขวาตลอด...หนังให้บรรยากาศแบบการ์ตูนนิด ๆ ...แต่ก็อย่างว่าแหละ ชีวิตคนเราบางครั้งก็มีสิ่งเหลือเชื่อเกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ ....คนอยู่บ้านติดกัน เห็นหน้ากันทุกวัน ยังไม่คุยกันเลย





ประสาคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ทั้งหลาย ที่มักจะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางผู้คนมากมาย พวกเขาก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะค้นพบใครสักคนหนึ่งที่มาเติมเต็มความเปลี่ยวเหงาในหัวใจของพวกเขา

...และแล้ว วันหนึ่งในสวนสาธารณะ คนสองคน...ที่มีเพียงฝาห้องบาง ๆ กั้นทั้งคู่ให้ห่างจากกัน ก็ได้พบหน้ากันจริง ๆ จัง ๆ จนได้ แล้วเรื่องราวเหลือเชื่อของทั้งคู่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง...






***เราเป็นคนชอบดูเครดิตหนังท้ายเรื่องน่ะค่ะ (ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยชอบลุกปุ๊บเวลาหนังจบปั๊บ..กลัวห้องน้ำเต็มหรือคะ...เรางี้ชอบนั่งดูจนเกือบเป็นคนสุดท้ายทุกครั้ง ถ้าพนักงานไม่มาเมียง ๆ มอง ๆ เสียก่อน) แล้วก็เห็นว่า ท้ายเรื่องนี้ มีการขอบคุณ Jimmy Liao และครอบครัว สำหรับการมาปรากฎตัวในหนังด้วย

ลองสังเกตดูนะคะว่า Jimmy Liao อยู่ตรงช่วงไหนของหนัง ....เราได้เห็นแล้วแหละ..อิ...อิ..




 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 16 ธันวาคม 2550 12:45:12 น.
Counter : 1915 Pageviews.  

♥ ♥ อ่านปากของฉันนะว่า...รักเธอ ♥ ♥ Perhaps Love

ปีเตอร์ ชาน ควรเป็นความภูมิใจของคนไทย เช่นเดียวกับ แจ็กกี้ ชาน, ไทเกอร์ วู้ดส์ หรือ วาเนสซ่า เมย์ ...

ยังไงล่ะ...อ๋อ..ก็ตรงที่เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเขาถูกหล่อหลอมจากความเป็นไทย (อันนี้หลายคนอาจจะชักไม่แน่ใจสำหรับ ไทเกอร์ วู้ดส์ กับสาวเมย์นะ...ด้วยว่าทั้งคู่เกิด, เติบโต และถูกหล่อหลอมแบบโลกตะวันตก แต่เอาน่า ต้องยอมรับล่ะว่า คนนึงก็มีแม่เป็นคนไทยไท้ไทย...อีกสาวก็มีคุณพ่อเป็นคนไทยแท้ ๆ จะปฏิเสธรากเหง้าของตนเองได้ยังไง!!)

ได้ข่าวว่า ปีเตอร์ ชาน พูดไทยชัด ความจริงเค้าก็คือคนจีนคนหนึ่งที่เติบโตอยู่ในเมืองไทย...ช่วงเป็นวัยรุ่น เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติที่กรุงเทพฯ ก่อนจะย้ายถิ่นฐานกลับไปอยู่ที่ฮ่องกงอย่างเก่า (ก่อนหน้านั้นก็ได้ไปเรียนระดับมหาวิทยาลัย ในสาขา film ที่อเมริกา)


และภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ของเขา Comrades: Almost a Love Story ก็กินใจใครต่อใครหลาย ๆ คน เรียกว่าโดนมั่ก ๆ กับประเด็นที่พูดถึง การพยายามหลงลืมรากเหง้าของตัวเอง ประเภทว่าคนดังลืมหลังควาย อะไรหยั่งงั้น...เอาล่ะเรื่องนี้มีคนพูดถึงเยอะแล้ว และก็เป็นหนังในดวงใจของใครต่อใครหลาย ๆ คน รวมทั้งผู้เขียนด้วย ชอบม้าก..ก..ก..ค่ะเรื่องนี้!!

มาพูดเรื่อง Perhaps Love ดีกว่า ผู้เขียนขอยืมชื่อเพลงของโต๋มาว่า 'อ่านปากของฉันนะว่า...รักเธอ'



นำแสดงโดย หนุ่มหน้าญี่ปุ่น โตที่ไต้หวัน แต่มาเล่นหนังฮ่องกงเรื่องนี้...ทาเคชิ คาเนชิโร่, จีจินฮี....พระเอกจากแดจังกึม, จางเซี่ยะโหย่ว (ไม่ต้องบอกนะว่าใคร!! เอ้าบอกหน่อย...ดารารุ่นใหญ่ของฮ่องกงเค้าน่ะ)

และนางเอกสุดสวย...โจวซวิ่น...คนนี้เราไม่ค่อยรู้จักอ่ะ...ข้อมูลน้อย รู้แต่ว่าหน้าตาน่ารัก ใส ๆ...ครึ่งบนมองเผิน ๆ เหมือน ซูฉี, ส่วนครึ่งล่าง..ปากเหมือนน้องสายป่าน ณ พลอย ของไทยแลนด์มั่ก ๆ ค่ะ




ขอบอกว่าใครชอบหนังเดินตามสูตร... 1..2..3..4 อาจจะไม่ชอบ เพราะหนังตัดต่อได้หวือหวามากในบางช่วง ขณะที่บางช่วงก็เนิบนาบจนชวนหาว และหนังก็เล่าเรื่องสลับกันไปมาระหว่าง เหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 10 ปีก่อน ณ กรุงปักกิ่ง กับปัจจุบันในโรงละคร ณ เมืองเซี่ยงไฮ้

ถ่ายภาพได้สวยม้าก...ก... ตั้งใจจัดวางคอมโพสฯ และการใช้สีสันสดใสฉูดฉาด เน้นความเพ้อฝันแบบละครเพลง ผสมผสานกับแฟนตาซีนิด ๆ สลับกับเนื้อหาในส่วนที่เป็นดราม่า





10 ปีก่อน หลินเจียนถง (ทาเคชิ คาเนชิโร่) เป็นนักเรียนการแสดงในกรุงปักกิ่ง ได้พบกับ ซุนนา (โจวซวิ่น) สาวนักเต้นประกอบในคลับเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ที่กำลังไต่เต้าเป็นนักแสดง ทั้งคู่ได้ร่วมทุกข์กันในยามยาก และก่อให้เกิดเป็นความรัก ก่อนที่ซุนนาจะทิ้งเถียนจงไปกับผู้กำกับหนุ่มคนหนึ่ง เพื่อหาความก้าวหน้าในอาชีพนักเเสดง

10 ปีต่อมา ณ กรุงเซี่ยงไฮ้ หลินเจียนถง ได้โคจรมาพบกับซุนนาอีกครั้ง คราวนี้ ทั้งคู่กลายเป็นดาราดัง ต้องมาแสดงละครเพลงคู่กัน อันเป็นผลงานของผู้กำกับชื่อดัง หนี่หยวน (จางเซียะโหย่ว)

ซุนนานั้นทำเป็นจำ หลินเจียนถง ไม่ได้ เพราะต้องการจะลบเลือนอดีตอันยากแค้นของตน และตอนนี้เธอก็เป็นคู่รักอยู่กับหนี่หยวน ผู้ปลุกปั้นเธอจนโด่งดังด้วยเช่นกัน

พล็อตในละครเพลงที่ทั้งคู่ต้องเล่นนั้นเกี่ยวกับรักสามเส้า ...เรื่องราวของคนทั้งสาม...พระเอก นางเอก และผู้กำกับ จึงกลายเป็นละครซ้อนกับเรื่องจริง เมื่อหนี่หยวน ผู้กำกับ...กระโดดมาเล่นบทเส้าที่สามในละครด้วยตัวเอง



เอ๊ะ! แล้วพ่อพระเอกแดจังกึม...จีจินฮี...มาทำอะไรในหนังเรื่องนี้นะ ออกแวบ ๆ เป็นช่วง ๆ (กับหลินฮุ่ย)
อ๋อ...รู้แล้ว ที่แท้ก็ทำตัวเหมือนกับ เจมินี่คริกเก็ต ในเรื่องพิน็อกคิโอนั่นน่ะ (ใช่มั้ย!) ... คือว่า...คอยมากระตุ้นเตือนสามัญสำนึกของตัวละครเอกทั้งสามว่า แท้จริงแล้วลึก ๆ ในใจพวกเขานั้นกำลังต้องการสิ่งใดกันแน่ ....รัก โลภ โกรธ หลง...

ก็บอกแล้วว่าผสมแฟนตาซีนิด ๆ เป็นไงล่ะ...ใส่บทพี่แกมาให้เท่ห์ ๆ ก็ได้เท่ห์สมใจ

!


ปีเตอร์ ชาน เป็นคนทำหนังที่มีรสนิยม จึงไม่ต้องห่วงเรื่อง feel ของหนัง...ดูดี ได้อารมณ์ซาบซึ้งใน Theme เดียวกับ เถียนมีมี่ (ที่รู้สึกว่าเขาจะเข้าถึงแนวนี้ได้ดีกว่าแนวอื่นนะ) ประเภท คนดังลืมหลังควาย แล้วต้องให้ชายคนรักเก่ามาช่วยกระตุ้นเตือนความทรงจำว่า.....

"อ่านปากของฉันนะว่า...รักเธอ"

10 ปีก็มิเคยลืมเลือน ยังรอที่จะรักเธออยู่เหมียนเดิม

ไอ้ขวัญอีเรียมจ๋า...รอกันด้วยน้า..า..า.




 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 16 ธันวาคม 2550 12:44:49 น.
Counter : 1447 Pageviews.  

1  2  

ส้มเจื๊อง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




All you need is Love.
Made in Chiangmai.
หลังไมค์ถึงนาทวริน

Johaan Pachelbel cAnoN iN D
สกาววินฯ...ปกแรก Limited Edition
...พิมพ์นาม(สกุล)ปากกาผิดนิดนึง
You aRe whAt you rEad.
ออกจากขวดโหล
เรื่องที่สอง ใช้นามปากกา ‘นาทวริน’ ค่ะ
สำนักพิมพ์เพื่อนดี
งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27)
การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์
******
ที่มาของข้อความ:เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา
Friends' blogs
[Add ส้มเจื๊อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.