::: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด :::
Group Blog
 
All blogs
 
♡♡ Hula Girls....ผู้หญิงอย่าหยุดฝัน และ..เต้น ♬ ‘เมื่อจับระบำฮาวายมาใส่ในความเป็นญี่ปุ่น.







ก่อนอื่นต้องขอบอกไว้ก่อนเลยค่ะว่า...ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้เกินไปจากที่คาดหมายไว้แต่อย่างใด

หรือจะพูดให้ชัดไปกว่านี้ ก็คือ Hula Girls เป็นไปตามสูตรของหนัง Drama เคล้าเสียงหัวเราะ และขณะเดียวกันก็เรียกน้ำตาไปด้วย...ทุกประการ เรื่องราวอันเป็นความขัดแย้งระหว่างคนสองกลุ่ม...กลุ่มหนึ่งที่จะเข้ามาปฏิวัติสิ่งใหม่ ๆ ให้แก่ท้องถิ่นชุมชน

...กับอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการยืนหยัด..ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในแบบเดิม ๆ ของตน ...ใครกลุ่มไหนจะเป็นผู้พิสูจน์หนทางออกที่ดีกว่าให้แก่ชุมชนของตนเองได้...





ทว่า ผู้เขียนก็สามารถนั่งดูหนังเรื่องนี้ได้แบบเบาสบายตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด เฉกเช่นเดียวกับเวลาที่เราสั่งอาหารมาสักจาน แล้วก็ได้อาหารหน้าตาดีออกมา รสชาติกำลังอร่อย ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มอีก แถมยังอิ่มกำลังสบายท้องด้วย ....เรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังสำหรับมหาชนอย่างแท้จริง เหตุนี้มันจึงได้กลายเป็นภาพยนตร์ยอดนิยมของญี่ปุ่นไปได้อย่างง่ายดาย ในปี 2006 ที่ผ่านมา (แล้วยังเป็นตัวแทนจากญี่ปุ่นเข้าชิงออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ปี 2007 นี้ด้วย)


Hula Girls นำเค้าโครงมาจากเรื่องจริง ในปี ค.ศ. 1965 ของเมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า ‘โตโฮกุ’ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งชาวเมืองส่วนใหญ่ทำเหมืองเป็นอาชีพหลัก ทว่าเมื่อถึงยุคที่น้ำมันเริ่มเข้ามาแทนที่ถ่านหิน และมีทีท่าว่าเหมืองถ่านหินอันเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวเมืองอาจจะถูกปิดลงได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงเกิดโครงการ ‘ฮาวายเอี้ยนเซ็นเตอร์’ ขึ้นมา เพื่อเตรียมอาชีพใหม่เอาไว้สำหรับรองรับชาวเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้

แม้นฉากหลังของเรื่องจะอยู่ในเหมืองถ่านหินที่ให้บรรยากาศอึมครึม ทว่าโทนของหนังกลับทำออกมาได้สดใส แล้วก็เดินเรื่องได้อย่างกระฉับกระเฉงอีกด้วย เปิดฉากด้วยภาพของเด็กสาววัยใส 2 คน...หนังใช้บทสนทนาเป็นตัวเดินเรื่องทำให้รู้ว่า ขณะที่ เด็กสาวคนหนึ่งต้องการจะหนีจากเหมืองถ่านหิน ซึ่งดูจะไม่มีอนาคตเลยสำหรับเด็กสาวอายุ 18 เช่นเธอ ไปสมัครเป็นนักเต้นระบำฮาวายที่กำลังปิดประกาศอยู่ทั่วเมือง เพื่อจะได้มีหนทางชีวิตที่สดใสขึ้น

"ถ่านหินติดเข้าไปในเล็บทีไร ล้างยังไงก็ไม่ออกสักที ใช้สบู่ก็ยังไม่ออก ...สาว 18 ควรเป็นแบบนี้เหรอ ...ถ้าไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ เราคงติดแหง็กที่นี่จนตาย"


เด็กสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอ กลับยังไม่ได้มีจุดหมายในชีวิตที่ชัดเจนนัก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเธอโชคดีกว่าที่ได้เรียนหนังสือ จึงไม่รู้ถึงความลำบากยากแค้นในการเป็นคนงานเหมือง เนื่องเพราะเธอมีแม่และพี่ชายที่ทำงานอยู่ในเหมืองเป็นคนคอยส่งเสียนั่นเอง


เด็กสาวคนแรก คือ ซานาเอะ ด้วยพื้นเพอันยากจน (ซึ่งก็เฉกเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้) กอปรกับที่ไม่มีแม่ และเป็นพี่สาวคนโต มีน้อง ๆ ตามมาอีกเป็นพรวน ทำให้เธอไม่ได้เรียนหนังสือต่อ ต้องออกมาช่วยพ่อทำงานเป็นคนงานเหมือง

ส่วนเด็กสาวคนที่สอง ก็คือ คิมิโกะ ...เด็กสาวที่ยังไม่ต้องมีความรับผิดชอบอะไรมาก ชีวิตจึงยังมีเวลาค้นหาตัวเองต่อไปอีก...




แล้ววันหนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงก็มาสู่เด็กสาวทั้งสอง เมื่อ ชิรายาม่า มาโดกะ ศิลปินสาวนักเต้นรำจากโตเกียว ถูกว่าจ้างให้เดินทางมาสู่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ เพื่อมาเป็นครูสอนเต้นรำให้แก่สาว ๆ ชาวเมือง

ตอนแรก มาโดกะ ก็ไม่ใคร่สนใจในชาวเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เท่าใดนัก เธอมองดูเมืองนี้ว่าช่างไม่มีอนาคตเอาเสียเลย ...อีกทั้งผู้คนก็ช่างเป็นบ้านนอกคอกนาเสียนี่กระไร!

แต่แล้ว ด้วยคำสบประมาทจาก จิโยะ แม่ของคิมิโกะ ที่ไม่ต้องการเห็นลูกสาวมาเต้นกินรำกิน มากระตุกปมในใจมาโดกะเข้า

"ถ้าเป็นนักเต้นแถวหน้า จะมาอยู่บ้านนอกคอกนาอย่างนี้ทำไม ต้องไปอยู่เมืองใหญ่ ๆ เวทีใหญ่ ๆ สิ ...แบบนี้คงโดนเค้าเขี่ยทิ้งมาละสิท่า...”

กอปรกับการที่ได้รับรู้ถึงความตั้งใจจริงของบรรดาเด็กสาวที่หวังจะได้เป็นนักเต้นรำอาชีพ เพื่อฉุดตัวเองขึ้นมาจากอนาคตอันแสนอับเฉาในเหมืองถ่านหิน ทำให้มาโดกะ ปรับเปลี่ยนทัศนคติ มาเริ่มต้นสอนเด็กสาวเหล่านั้นใหม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ




จากลูกเป็ดขี้เหร่ที่ค่อย ๆ หัดเดินเตาะ ๆ แตะ ๆ ในที่สุด ก็กลายเป็นหงส์....ที่บินร่อนได้อย่างสง่างามบนเวที...

ปรับเปลี่ยนทัศนคติผู้คน ทั้งเรื่องเต้นกินรำกิน และการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ชีวิต โดยเฉพาะกับคนหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ยังมีเวลาเหลืออีกมาก.....





คนที่เล่นได้อย่างมีสีสันที่สุดของเรื่องน่าจะเป็น ยาสุโกะ มัตสุยุกะ ที่รับบทเป็น อาจารย์มาโดกะ ...ด้วยลักษณะถึงลูกถึงคน ใจนักเลง และดูจะเป็นผู้หญิงล้ำสมัยเสียเหลือเกินใน พ.ศ.นั้น และทำได้ดีขนาดได้รางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ของ Japanese Academy awards มาแล้ว ขณะที่ ยู อาโออิ ซึ่งรับบทคิมิโกะ...เด็กสาวที่ท้ายสุดกลายมาเป็นดาวเด่นของคณะ...ก็ไม่น้อยหน้า คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมาได้เช่นกัน




ขอบอกว่า...สาว ๆ ทุกคนในเรื่องเต้นได้เก่งจริง ๆ ...ถ้าไม่ใช่นักเต้นอาชีพแล้ว ขอบอกว่าสุดยอดมาก!! (เมื่อคิดว่านักแสดงต้องฝึกซ้อมกันขนาดไหน จนดูเหมือนกับมืออาชีพแบบนี้) ...ฉากเต้นฮูลา ฮูล่า ตอนท้ายเรื่องนั้น มาช่วยหักกลบลบหนี้หยาดน้ำตาที่เสียไประหว่างเรื่องไปได้ดีเชียวล่ะ!~



ปัจจุบัน อาจารย์มาโดกะ ตัวจริงนามว่า ‘คาไลนานิ ฮายากาว่า’ อายุกว่า 70 ปีแล้ว และยังคงสอนเด็กสาวที่ Joban Hawaiian Center (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Spa Resort Hawaiians) เต้นรำอยู่เช่นเดิม!




Create Date : 15 ธันวาคม 2550
Last Update : 16 ธันวาคม 2550 15:55:21 น. 2 comments
Counter : 3801 Pageviews.

 
ก็ชมเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ




โดย: >>> (แม่เจ้าปัน ) วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:15:28:12 น.



ขอบคุณค่ะ คุณแม่เจ้าปัน....แล้วชอบรึเปล่าคะ


โดย: นาท-วริน วันที่: 15 ธันวาคม 2550 เวลา:18:36:09 น.  

 
สนุกดีค่ะ แต่ดูไม่จบ 55 เซ็งเลยยย แง้วๆ TT^TT เรื่องนี้ก้ชอบนะค่ะเด๋วไปดูหั้ยจบ บุ๋ยบุยค่า



โดย: miizz-L2 J IP: 124.157.158.118 วันที่: 15 ธันวาคม 2550 เวลา:19:17:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ส้มเจื๊อง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




All you need is Love.
Made in Chiangmai.
หลังไมค์ถึงนาทวริน

Johaan Pachelbel cAnoN iN D
สกาววินฯ...ปกแรก Limited Edition
...พิมพ์นาม(สกุล)ปากกาผิดนิดนึง
You aRe whAt you rEad.
ออกจากขวดโหล
เรื่องที่สอง ใช้นามปากกา ‘นาทวริน’ ค่ะ
สำนักพิมพ์เพื่อนดี
งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27)
การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์
******
ที่มาของข้อความ:เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา
Friends' blogs
[Add ส้มเจื๊อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.