Group Blog
 
All blogs
 
nobody get left behind

ชีวิตคนเราก็เหมือนกับรางรถไฟที่ยาว
...ไกล, มากเสียจนไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ตรงไหน
สถานีหน้า, จะมีใครบ้างที่ขึ้นมาใหม่
หรือลงจากไป
แต่อย่างน้อย ตอนนี้เราก็ยังรู้ว่า
เรายังอยู่ตรงไหน อยู่กับใคร
แล้วเรา, พอใจกับมันหรือเปล่า

-- ก้อง คาร์ ไว (หรือ ทรงกลด บางยี่ขัน)

ตั้งใจ๊ตั้งใจจะเขียนบันทึกไว้ระลึกรายละเอียด
ที่ผ่านไปในแต่ละวัน, เมื่อ 'ชรา' กว่านี้
แต่ทุกช่วงวันที่ผ่าน ๆ มา
ชีวิต
ก็ยุ่งเป็นชาขิงใส่ดอกเก็กฮวยอยู่นั่นแล้ว

จนได้รับ 'หลังไมค์' ในหัวข้อเดียวกัน
จาก เก๋ และ ออย

" คิ ด ถึ ง เ ช่ น กั น ค่ ะ "

เมื่อค่อนรุ่ง ลุกมาเข้าห้องน้ำ
พองัวเงียกลับไปนอน เอามือขวาท้าวลงเบาะ
เล็บนิ้วโป้งหักพับเลยเนื้อกลางเล็บขึ้นไป
ปวดจนตื่น และน้ำตารื้น

เปิดไฟ เดินไปเปิดช่องฟรีซ
หยิบผ้าเย็นเดินกลับมานอนประคบเล็บโป้ง
และหลับไป

เชื่อแล้วเลยว่า ทุกเรื่องราวในชีวิตคนเรา

ล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จริงจัง

เรื่องเล็บหักพับนี่
แปลกมากว่า เกิด 2 ครั้งใน 1 เดือนนี้แล้ว
ครั้งแรกต้นเดือน
ขณะเล็บนิ้วก้อยโดนน้ำมากจนนิ๊มนิ่ม
เลยหักพับเป็นกระดาษ
ชนิดเล็บถลก ลอกเนื้อใต้เล็บขึ้นแดงฉาน

หมอเพิ่งถอดเล็บออกให้, และยังไม่ทันจางเจ็บเดิม
ก็เจอเข้าอีกเจ็บ
แต่น่าจะไม่รุนแรงมาก
เพราะเลือดออกแล้วหยุด
และปวดไม่มากเท่านิ้วก้อย

หรือเพราะนิ้วโป้งเป็นพี่โป้งใหญ่
เลยทนเจ็บได้กว่าน้องก้อยเล็ก

เมื่อวานอีกแหละ ไปทำบุญที่วัด
ความที่เป็นศิษย์วัดมาก่อน
หลวงตาคึ่นโอป้า
(ท่านเป็นพระชาวเกาหลีที่พูดไทยชัดเจน)
ท่านก็เรียก
แล้วยื่น... ตั้งแต่ขนมเซี่ยงไฮ ข้าวต้มมัด
ลิ้นจี่ปอกแล้ว นมกล่อง เรื่อยไปจนถึงข้าวเหนียว
และบ๊ะจ่าง!

พอดีได้ช่องหลบ
เพราะหลังจากท่านสั่งให้ช่วยเขียนใบอนุโมทนาบัตร
ให้กับญาติโยม 5-6 รายที่เข้ามาถวายปัจจัยแล้ว
มีชาวเกาหลีคลานเข่ามาถามธรรมะ
เลยได้แอบย่อง
ถือขนมออกมาแบ่งให้บรรดาพี่ป้าน้าอา
ที่นั่งมองอยู่ห่าง ๆ

นั่งคุยสักพัก พอลุกเท่านั้นแหละ เกือบนิ้วแหลก
เพราะพี่คนที่ถือของจะไปถวายสังฆทาน
ลุกแล้วทำกล่องสังฆทานที่เตรียมมา
หล่นใส่เฉียดฉิวปลายนิ้ว
ชนิดสัมผัสได้ถึงรังสีร้อนตอนกล่องกระแทกพื้น
หวาดเสียวมาก

แต่แล้วก็ไม่รอด เล็บพับจนได้

ตอนนอนปวดเล็บ
ก่อนหลับคิดถึงเซเซ่, ที่เขาว่า

"ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะ
ว่า 'ความเจ็บปวด' ที่แท้จริงนั้นคืออะไร
ความเจ็บปวดไม่ใช่การถูกตีจนสลบไสลหรอก
ไม่ใช่การถูกแก้วบาดเท้า และถูกเย็บแผลที่ร้านหมอ
ความเจ็บปวด คือ อะไรอย่างหนึ่ง
ที่ทำให้หัวใจของคุณแตกสลาย และต้องตายจากไป
โดยไม่อาจจะเล่าความลับของคุณ
ให้ใครฟังได้เลย"

(ต้นส้มแสนรัก ภาค 1)

ตอนเย็น ๆ นั่งบ่นกับน้องชายคนกลาง
เรื่องเล็บ
น้องเลยบอกว่า ต้องตัดเล็บให้สั้นหน่อย
ก็บอกว่าสั้นแล้วนะ
และไปสปาเล็บทุก 2 วีคด้วย
น่าจะเป็นเล็บแข็งแรงสิ

น้องว่า ถนอมมากไปมั้ง
ต้องปล่อยให้ผจญความหยาบกร้านมาก

เออ นั่นสิ
มะเฟืองก็ว่าอย่างนั้น

นางโทรมาเม้าท์ขณะไปทำงานที่ซีแอตเติ้ลในขณะนี้
ว่า
เปลี่ยนใจเรื่องไปเที่ยว new mexico
ไม่ได้แล้วนะ
เพราะนางสั่งจองตั๋วแล้ว
ถามนางว่า เท่าไหร่เนี่ย
สรุปว่า
ราคาไปกลับคือ $360 บินช่วงวันแม่สิงหา
ส่วนห้องพักทั้ง 3 คืน
ก็ใช้พ้อยต์จากเครดิตการ์ดแลกใช้คนละคืน
เพราะไปกัน 3 สาว
ค่าใช้จ่ายที่เหลือก็หารกัน
นั่นคือค่าเช่ารถในช่วง 4 วันนั้น
ค่าอาหาร และอะไรก็ตามที่เป็นกองกลาง

เลยตกลง
เพราะการที่เพื่อนมีหมายเลขบัตรเครดิตการ์ดซะแล้วนั้น
แปลได้ว่า
ไม่ต้องเถียงหรอก เสียเวลา
ยังไงเพื่อนก็มัดให้ต้องไปจนได้

แต่ทริปนี้
ก็เพื่อความรักที่มีต่อ georgia o'keeffe ล้วน ๆ

เล่าให้น้องชายฟังว่า
จะไปตามรอยของศิลปินหญิงแสนเท่คนนี้
น้องบอก ดีแล้ว
ช่วยไปเดินหาซื้อสร้อยคอคาวบอยมาให้ด้วยนะ
จะเอามาแต่งแฟนซีในงานสิ้นปี
และก็ฝากซื้อนาฬิกาพกแบบแขวน ถือ ห้อย
ให้น้องชายคนเล็ก
เตรียมไว้เป็นของขวัญวันเกิด
ก็เลย ฮื่อ ได้เลย

รับปากน้องแล้ว
ดูมีจุดหมายปลายทางไปการไปเที่ยว
ขึ้นอีกสักนิด

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
คุยกับน้องชายคนกลางมากเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะเรื่อง "สร้างบ้านใหม่" ในรั้วบ้านเดิม

ตอนแรกสุด
ฉันบอกน้องว่า
อยากไปอยู่ตรงที่ดินริมแม่น้ำที่ยายยกให้
เพราะดูแล้ว น่าจะสงบเงียบดีนะ
และส่วนใหญ่ก็จะเป็นสวนไร่ของเครือญาติ
แต่พอน้าจะเริ่มสั่งดินถมที่เตรียมให้
ซึ่งต้องถมทิ้งไว้สัก 3 น้ำท่วม
แปลว่า 3 ปี
น้องก็บอกว่า ถ้าเป็นตรงนั้น
ลองดูผืนตรงที่ติดกับสวนของน้าสาวจะดีกว่าไหม

แต่ฉันไม่อยากไปอยู่ตรงนั้น
ไม่รู้สิ
ฉันว่า คนแถวนั้นออกจะสนใจใคร่รู้มากไปสักหน่อย
เลยพับไป

จนบ่น ๆ กับพ่อครบคนแล้ว
พ่อสรุปให้ว่า
สูเจ้าจงปลูกบนที่บ้านเดิมนี่ล่ะ
อย่างน้อยก็อยู่ใจกลางเมือง
ใกล้บ้านพ่อแม่
พ่อจะสั่งรื้อโรงรถ แล้วโค่นต้นขนุน 4-5 ต้นออก
ก็สร้างตรงนั้นได้เลย
จะได้อยู่ในบริเวณเดียวกันกับพ่อแม่
แค่คนละหลัง

น้องชายเลยตกลงว่า ถ้าได้แบบนี้ก็ดีที่สุดแล้ว
เพราะมันก็ติดน้ำเหมือนกัน
แต่ที่ตรงใจกันไปกว่านั้นคือ
เราต่างเห็นด้วยกับบ้านยกพื้นสูง
แบบเปิดชั้นล่างโล่ง

พอคุยกับสถาปนิกส่วนตัว
ฮีก็บอกว่า
ไงก็ได้ ถ่ายรูปบริเวณทั้งหมดส่งมาเลย
แล้วก็รอบบ้านด้วย
อยากเห็น จะได้เขียนแปลนให้ถูก
ไม่ใช่ถูกใจ แต่ให้เข้ากับเสิ่งแวดล้อม
ฮะเหอ ฮะเหอ

งั้นก็ต้องรอน้องชายคนเล็กล่ะ
สรุปก็คือสิ้นปีนี้ละกัน

พอคุยกันยาว ๆ มะเฟืองก็ขอเอี่ยวว่า
งั้นสร้างเหมือนกันละกันนะ
แปลง่าย ๆ ว่าใช้แปลนเดียว
แต่สร้างสองหลัง คนละมุมประเทศ
เลยเออ เพื่อนชั้นเล่นง่ายดี

ช่วงหลัง ๆ นี้ คุยวุ่นกันแต่เรื่องสร้างบ้าน

แม่ก็ได้แต่ฟังยิ้ม ๆ กับอาสาเป็น 'นางทุน'
ส่วนพ่อก็ถนัดเรื่องรอบบ้าน ดีแฮะ
ญาติผู้พี่ที่อาสาจะลางานมาคุมการก่อสร้างให้
ยืนยันว่า
สร้างทางหลวงมาทั่วประเทศ
ถ้าแค่นี้ลางานมาทำให้น้องไม่ได้ก็ไม่ใช่ญาติแล้ว

นี่คือข้อดีของการอยู่ประเทศไทยใช่ไหม
เครือญาติเพียบนี่ดีจริงจริ๊ง

พอคุยเรื่องเหล่านี้บ่อยขึ้น ถี่ขึ้น
ฉันก็เริ่มนอยด์
การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย
จะเป็นอย่างไรหนอ

แต่ก็เอาน่า แม้เวลาจะผ่านไปเร็วรี่ปานละครคุณชายทั้ง 5
แต่ก็อีกตั้ง 3-4 ปี
และเหนืออื่นใด
อย่างน้อยมะเฟืองก็กลับมาด้วยนี่นะ

ช่วงนี้ ตื่นเช้ามาก
เพราะ 'หน้าที่รับผิดชอบฐานะลูกกตัญญู' พุ่งแรง
แล้วกลางวันก็เลยง่วง
ว่าแล้วก็ขอไปงีบก่อนดีกว่า




Create Date : 24 มิถุนายน 2556
Last Update : 24 มิถุนายน 2556 5:05:10 น. 1 comments
Counter : 747 Pageviews.

 


ไม่เคยอ่านต้นสัมแสนรักเลย แต่ที่คุณลำเนายกมาเรื่องความเจ็บปวด อ่านดูตามแล้วเห็นด้วยอย่างไม่อยากบิดเบือนใจตัวเองเลยค่ะ


โดย: ณ ขณะหนึ่ง วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:8:01:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

พุดดิ้งรสกาแฟ
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




สิ่งต่าง ๆ เคยสำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง
อาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน
อาจไร้สาระสำหรับใครอีกบางคน


ถ้ามันไร้สาระ
โปรดทิ้งมันไปเฉย ๆ อย่างง่าย ๆ
หากมันมีประโยชน์ ฉันก็ดีใจ


..
..
..
Friends' blogs
[Add พุดดิ้งรสกาแฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.