Group Blog
 
All blogs
 
anonymous กล่าวว่า..

sometimes, silence is not golden-- just yellow.

'คนเราไม่ได้รู้ทุกอย่าง
แต่บางเรื่อง...
มันก็จำเป็นต้องรู้นะ'

-- ถ้าจำไม่ผิด, เป็นคำคมของ 'นิ้วกลม'

นับจากวันที่ 'ช้าง' ไปแสวงหาความสงบ สะอาด สว่าง
วันนี้คือครั้งแรกที่ฉันพูดโทรศัพท์มากที่สุด

เริ่มตั้งแต่เช้า

พี่นัทโทรมาเรื่องงานวันอาทิตย์
ที่ก็ต้องรับปาก
ทั้งที่วันอาทิตย์นี้งานยุ่งมากตั้งแต่ 10 โมงเช้า
แต่เพื่อพี่ชายและพี่สะใภ้ที่แสนดี
ไม่ไป, ไม่ได้
เลยต้องโทรไปยกเลิกนัดไปโบสถ์ฮินดูกับมะเฟือง
เพื่อร่วมพิธีศิวาราตรี

บอกมะเฟืองว่า เลื่อนเป็นวันเสาร์
ด้วยการไปถวายสังฆทานที่วัดมอญแทนก็ได้นะ
วันเสาร์ฉันยังว่างอยู่

อีกสักแป๊บ
ตามติดด้วยเสียงสะอื้นผ่านโทรศัพท์
จากพี่สาวที่สนิทที่สุด
บอกข่าวว่า

เธอเป็นมะเร็งตับและปอดแล้วด้วย

หมอบอกว่าเธอจะอยู่ได้แค่ 9 เดือนเท่านั้น
ซึ่งนับจากวันนี้ ก็เหลือแค่ 6 เดือน
เหตุที่ฉันเพิ่งรู้ก็เพราะว่า
เธอเกรงใจฉัน
พี่สาวจึงเลือกทุกข์เงียบอยู่กับลูกสาว 2 คน

ฉันนั่งฟังรายละเอียดคร่าว ๆ ของการตรวจ
นาน 40 นาทีกว่าจะเอ่ยเป็นคำได้

และสุดท้ายก็จบลงตรงที่ว่า
ถ้าพี่บอกเร็วกว่านี้ หนูก็ดูแลพี่ได้มากกว่านี้
แต่เมื่อมีเวลาเหลือเท่านี้
เราก็จะก้าวไปด้วยกันนะพี่นะ

คงจะเป็น 6 เดือนที่วุ่นวายใจแต่ต้องกดข่มกันพอควร

ฉันบอกพี่สาวว่า
ถ้าเราจะมีเวลาแค่นี้ ก็คิดเสียว่า
เราโชคดีแล้วนะพี่นะ ที่เราได้โอกาสรู้ล่วงหน้า
เราจะได้ทำดีต่อกัน
เราจะได้รักและห่วงใยกัน
เราจะได้ใช้เวลาด้วยกันให้คุ้ม

บางทีในช่วงระหว่างนี้
'ข้างบน' อาจจะแถมโบนัสให้อีกสัก 5 ปี 10 ปีก็ได้นะพี่

แต่ถ้ามันมาตรงตามกำหนดเวลาที่หมอระบุ

หนูสัญญาว่า
หนังสือที่แจกในงานส่งพี่ไปไกล ๆ จะเป็นหนังสือ
ที่สวยที่สุดที่ใคร ๆ ได้รับไป ก็จะอิจฉาพี่

วางสายจากพี่สาวร่วมโลก
ก็เป็นโทรศัพท์จากหมอที่ทำงาน
โทรมาส่งข่าวคราวของอดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง

ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยได้ชื่อว่า รวยซะจนสุขุมวิทสะเทือน!

เธอคนนี้รวยจริง
เพราะเป็นลูกหลานคนดังของบ้านเรา
ตลอดชีวิตเธอประกาศว่า
อาชีพเธอคือนักท่องเที่ยว

หนสุดท้าย เธอมีปัญหาเรื่องเงิน
จนจากกันไปด้วยการเชิดเงินฉันไป 300 เหรียญ
แบบไม่หนี ไม่จ่าย ไม่สน

หมอแทนบอกว่า หมอได้คำตอบแล้ว
และเลยโทรมาเล่าว่าทำไมเธอกลายเป็นคนเหนียวหนี้
และหนีหน้า

เพราะช่วงที่ผ่านมา
ผู้หญิงคนนี้สูญเสียบ้านหลังงาม
ถึงขนาดไปอาศัยอยู่บ้านหมอแพทชั่วคราว

แล้วที่สุดก็เชิดเงินหมอแพทไป 40,000 เหรียญ
หนีออกไปอาศัยกับญาติสามี

ฉันบอกหมอแทนว่า
น่าจะเป็นช่วงนั้นที่เธอโทรมาขอให้ฉันโอนเงิน
ไปเข้าบัญชีเธอ 40,000 เหรียญ
โดยบอกว่า เธอยืมแทนหมอแพท
เธอจะขอยืมแค่ 3 วันแล้วจะโอนคืน

แต่โชคดีที่ฉันไม่เชื่อเธอ และบอกเธอไปว่า
ไม่มีหรอก และถึงมีก็ไม่ให้แน่

หมอแทนว่า
ตอนนี้เธอเหมือนจะหนีจากบ้านญาติอีกแล้ว

ฉันบอกหมอแทนว่า
อึ้งเลย และที่เคยสงสัยก็กระจ่างแจ้งใจ
เอาเป็นว่า
ฉันยกหนี้ 300 เหรียญให้เธอละกัน
ถือว่าทำบุญกับเพื่อนร่วมโลกที่เคยรู้จัก

หมอแทนบอกว่า
ฉันควรจะโทรไปหาหมอแพทเพื่อตามหนี้
เผื่อหมอแพทจะมีเบาะแส

แต่ฉันจะ 'ไม่' ล่ะ
เงิน 300 เหรียญ ไม่มากมายอะไร
หากต้องเสียไปเพื่อช่วยคน-คนหนึ่ง
ซึ่งเคยหยิ่งผยองให้คิดว่ายังรักษาหน้าตนไว้ได้

ฉันถือว่าซื้อมิตรภาพให้เพื่อน

อย่างน้อย
สมัยที่ฉันยังเยาว์
เธอคนนี้ก็เคยมาดูแลฉันประมาณหนึ่ง

วางสายจากหมอแทน
เพราะพี่นิดโทรมาให้ช่วยนัดป้าจิ๋ว
แล้วพาไปหาแม่ติ๋มด้วยกัน

จริง ๆ ฉันเกือบจะปฏิเสธแล้ว
เพราะงานช่วงนี้เยอะมาก
แต่เมื่อคิดถึงว่า เราไม่มีวันรู้เลยเนอะ
ว่าเราจะล้มหายตายจากกันก่อนวัยวันไหน

ฉันก็เลยรับปาก

โทรหาป้าจิ๋วแล้วก็รับปากป้าว่า
หลังพาไปเซอร์ไพรซ์จะยอมขับรถพาป้าไปหาเพื่อน
ที่ร้านของเก่าในอีกมุมโลก
(แบบว่า ขับรถไปกัน 3 ชั่วโมงเลยเชียว)

วางสายป้าจิ๋ว โทรหาพี่นิด
แล้วรับสายพี่นิด แล้วโทรหาป้าจิ๋ว
จนได้ข้อตกลงว่า
ถ้าไม่เป็นวันศุกร์ที่ 15 มีนา
ฉันก็จะไม่ว่างขับรถพาป้าจิ๋วไปเจอนะคะ
ก็เลยได้เอวังกันที่ 11 โมงเช้าวันศุกร์นั้น

ระหว่างนั่งมึน ๆ กับตาราง things to do ที่แน่นเอี๊ยด
เมลโรสโทรมาเรื่องนัดประชุมภาษีปี 2012
ว่าเธอติดนัดกับทนายในคดียืดเยื้อ
ขอเลื่อนเวลานัดฉันได้ไหม
จากบ่าย 2 เป็นบ่าย 3 แต่จะคอนเฟิร์มหลังทนายโทรกลับ

ฉันเลยบอกว่าอย่ากระนั้นเลย
เลื่อนไปบ่ายโมงตรงของวันศุกร์ที่ 8 มีนาจะดีที่สุด

ไม่ทันอะไรก็ต้องโทรไปคุยกับเจ
เมื่อเห็นอีเมล์งานจากองค์กรที่เมืองไทย

จากนั้นก็สรุปข้อมูลที่ได้จากเจ
และหาข้อมูลเพิ่มจากนอร์ดี้
คุยกันจนเหนื่อยกับปัญหา
แล้วก็ส่งข้อความไปเมืองไทยว่า
เมื่อท่าน GM ออกจากห้องประชุม
ให้โทรกลับมาที่นี่ได้เลย

ท่านให้เลขาฯ ส่งข้อความมาบอกว่า
ท่านเกรงใจเพราะน่าจะดึก
บอกท่านไปว่า โทรมาเถอะ เรื่องมันรอไม่ได้นี่นา

คุยกับท่าน GM เรื่องการเดินทางมาของท่านประธาน

สรุปว่า
เจ้านายของนอร์ดี้จะเข้าไปรับถึงข้างในสนามบิน
เรื่องรถและคนขับ องค์กรของนอร์ดี้จะรับภาระให้
อาหารทุกมื้อ เจ้านายนอร์ดี้จะเทคแคร์ทั้งหมด
วันงาน ฉันจะส่งพนักงาน 2 คนไปช่วย
แต่วันประชุมใหญ่ ฉันอาจจะไม่ไปร่วม
(ฮา)

และสุดท้ายคือ
วันที่ 8 ถ้าจะไปดูงานที่เฟรสโน่ ไม่คุ้มขับรถ
ถ้าจะไปปาล์มสปริง ก็พอไหวอยู่
และฉันแนะนำให้เลือกไปดูระบบบำบัดน้ำเสียของแอลเอ
ที่ van nuys ใกล้ ๆ
แต่ดูท่านจะไม่สนใจ

เพราะพอบอกว่า ปาล์มสปริงมี outlet ขนาดใหญ่
ก็น่าจะเป็นว่า
ท่านประธานคงอยากพาผู้ช่วยสาว และช่างภาพ
ไปดูงานแบบแวะช็อปปิ้งได้ด้วยมากกว่า

วางสายแล้วก็..หมดแรง

.

.

หากแต่เรื่องราวของพี่สาวกับเวลาที่เหลือ
ก็ทำให้ฉัน 'ขยัน' จะช่วยเหลือคนอื่นขึ้นอีกเยอะเลย
จริง ๆ นะเนี่ย




Create Date : 07 มีนาคม 2556
Last Update : 7 มีนาคม 2556 15:45:34 น. 1 comments
Counter : 673 Pageviews.

 
คนที่เค้าจมไม่ลงนี่น่าสงสารเน๊อะ


โดย: FreakGirL วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:22:02:45 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

พุดดิ้งรสกาแฟ
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




สิ่งต่าง ๆ เคยสำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง
อาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน
อาจไร้สาระสำหรับใครอีกบางคน


ถ้ามันไร้สาระ
โปรดทิ้งมันไปเฉย ๆ อย่างง่าย ๆ
หากมันมีประโยชน์ ฉันก็ดีใจ


..
..
..
Friends' blogs
[Add พุดดิ้งรสกาแฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.