Volume 1 Part 1
อธิบายโครงการ
Project IF นี้ เป็นการทดลองแต่งฟิก HP ที่หลุดจากกรอบของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคปกติทั้งหมด
เริ่มต้นจากการตั้งคำถามว่า“จะเป็นยังไงนะ? ถ้า.....”เช่น IF project “Harry Potter, the Marauder of Hogwarts”แฮร์รี่ พอตเตอร์ ตัวกวนป่วนฮอร์กวอร์ต(ชื่อไทย+555+ เผื่อมีคนอยากเรียก)คือ การตั้งโจทย์ของโอคุงกับชาว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีโวลดี้ ถ้าพ่อแม่แฮร์รี่ไม่ตาย เด็กชายผู้รอดชีวิตของเราจะเป็นยังไง

ฟิกนี้เป็นผลงานที่นะโอแต่งร่วมกับน้อง(อคาชา) ค่า

มันเป็นฟิกสั้นๆ อันเนื่องมาจากบทสนทนาของเราสองคนในวันหนึ่งว่า จะเป็นยังไงถ้าไม่มีโวลเดอร์มอร์ พ่อแม่แฮร์รี่ไม่ตาย เด็กชายผู้รอดชีวิตคนนี้จะเติบโตขึ้นมาเป็นยังไงหนอ ถ้าได้รับการเลี้ยงดูจากสุดยอดจอมวางแผนแห่งฮอร์กวอร์ด แถมมีพ่อทูนหัวเป็นสมาชิกตัวกวนอีก 3

แล้วบทสนทนานั้นก็กลายมาเป็นฟิกเรื่อง IF เนี่ยแหละ

PART I

ผมขยับพลิกตัวซุกหน้าลงกับผ้านวมนุ่ม ให้ตายเหอะ เคราเมอร์ลิน หน้าหนาวปีนี้อากาศหนาวชะมัด ไม่อยากลุกไปเรียนเลย เอ นอนต่อแล้วหาเรื่องชวนรอนแอบโดดไปฮอกมี๊ดกันตอนบ่ายดีมั้ยนะ อย่าดีกว่า หมอนั่นต้องกลัวแฟนสาวคนเก่งปาดคอเอาแหงๆ ก็คุณหนูเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์สุดยอดนักเรียนดีเด่นแห่งฮอร์กวอร์ด ฟรีเฟ็คสองปีซ้อนยามโกรธน่ะน่ากลัวยิ่งกว่าอะไร

เอาล่ะ ผมว่าผมลุกจากที่นอนดีกว่า ฮ้าว ขี้เกียจชะมัดเลย เอ แว่นตาอยู่ไหนนะ นั่งบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงสองสามทีแล้วก็ค่อยลุกเดินเข้าห้องน้ำ

สวัสดี ผมแนะนำตัวกับคุณหรือยังนะ ผมแฮร์รี่ พอตเตอร์ นักเรียนปีหกของโรงเรียนคาถาและเวทมนต์ฮอร์กวอร์ด ซีกเกอร์ที่อายุน้อยที่สุดของในรอบศตวรรษของโรงเรียน แล้วอะไรอีกล่ะ...อ้อ เจ้าของตำแหน่งหนุ่มฮอตขวัญใจของสาว ๆ

เท่านี้พอจะทำให้คุณรู้จักผมมากขึ้นหรือยัง

ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ เฮ้อ คิดถึงเฟร็ดกับจอร์จชะมัด ตั้งแต่สองคนนั่นตัดช่องน้อยแต่พอตัวบินออกจากโรงเรียนไปทำร้านเกมกลวิเศษหน้าตาเฉยเมื่อปีที่แล้ว เล่นเอาผมหมดอารมณ์แกล้งเจ้าฟิลช์ภารโรงโรคจิตไปหลายวัน ก็จะไม่ให้ฉุนได้ยังไงล่ะครับ พวกเขาบอกว่าผมเด็กเกินไปที่จะออกจากโรงเรียนทั้งที่อยู่แค่ปี 5 (แล้วพวกนายน่ะแก่นักรึไงฟะ) แล้วก็ทิ้งผมไว้กับน้องชายสุดหงอกับแฟนสาวจอมจู้จี้ของหมอนั่น

โอ้ย ยิ่งคิดยิ่งเซ็ง เอาเหอะ ผมทำอย่างพวกเขาไม่ได้อยู่แล้ว ผมไม่ใช่ลูกชายคนที่ 4-5 ของครอบครัวนี่นา ขืนลูกชายคนเดียวออกจากโรงเรียนทั้งที่เรียนไม่จบ ผมได้โดนคุณแม่สุดที่รักฉีกอกตายแน่

อ้อ พูดถึงพ่อแม่ ลืมบอกคุณไปสินะ พ่อผม เจมส์ พอตเตอร์ประธานนักเรียนและซีกเกอร์ของทีมกริฟฟินดอร์ (ตำแหน่งเดียวกับผมนั่นแหละ) สมาชิกของเหล่าตัวกวนรุ่นแรก (พวกผมกับสองแฝดน่ะเรียกกว่า รุ่นทายาท) ส่วนคุณแม่ของผมก็ ลิลลี่ พอตเตอร์ ประธานหญิงกับนักเรียนดีเด่น....ดูแล้วก็คล้าย ๆ ยัยหนูเกรนเจอร์นั่นแหละ (มิน่าถึงรู้สึกเย็นสันหลังวาบๆ เวลาโดนยัยนี่ว้ากใส่)

ผมกำลังสวมเสื้อคลุมทับเสื้อเชิ้ต ไอ้เนคไทน่ะลืม ๆ มันไปเหอะ กระจกตรงหน้าส่องให้เห็นเด็กหนุ่มผมสีดำดูยุ่งๆ ใครๆก็บอกว่าผมถอดแบบมาจากพ่อเด๊ะ ยกเว้นตาสีเขียวที่ได้มาจากแม่น่ะฮะ

“แฮร์รี่ นายตื่นแล้วเหรอ” เสียงเรียกดังมาจากประตูหอนอน รอนนั่นเอง ท่าทางเขาแปลกใจที่เห็นผมตื่นเช้า

“อือ นายมีอะไรเหรอ” ผมถาม

“คือ...ฉันว่าจะแวะมาดูนายก่อนไปกินข้าวเช้า” รอนยิ้มแหย ๆ “ถ้านายตื่นแล้วก็ไปห้องโถงด้วยกันสิ”

“กับเกรนเจอร์ด้วยเหรอ” ผมหรี่ตา “อย่าดีกว่า ฉันขี้เกียจเป็นก้างขวางคอพวกนาย”

ใบหน้าตกกระของรอนแดงขึ้นมานิดๆ “ไม่เป็นไรหรอกน่า เฮอร์ไมโอนี่อยากจะคุยอะไรกับนายหน่อย”

กะแล้วไม่ผิด ลงรอนมาตามผมถึงหอนอนนี่ต้องเป็นเพราะบัญชาของคุณหนูเจ้าระเบียบนั่นชัวร์ เขาตามใจแฟนมาตั้งแต่เริ่มคบกันตอนปี 3 แล้ว เอาเหอะ วันนี้ผมอารมณ์ดี จะยอมให้สักหน่อยก็ได้ “โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ห้องนั่งเล่นรวม”

รอนหายไปแล้ว ผมเดินเลยไปเปิดหีบของใช้ส่วนตัว หยิบผ้าคลุมล่องหนของพ่อออกมาเก็บไว้ในเสื้อคลุม ไม่มีใครรู้ยกเว้นสองแฝด ว่าพ่อให้ผ้าคลุมนี่เป็นของขวัญวันเกิดปีแรกที่ผมเข้าเรียนที่ฮอร์กวอร์ด พอปีสองพ่อก็ให้แผนที่ตัวกวนที่เขา
กับซีเรียส รีมัสแล้วก็ปีเตอร์เคยใช้สมัยเรียน แน่ละพวกพ่อแน่ใจว่า ผม เฟร็ด แล้วก็จอร์ชได้ใช้มันอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับที่พวกเขาเคยใช้

แต่ตอนนี้เหลือผมคนเดียวแล้ว ไม่ต้องบอกละมั้งว่ามันน่าเซ็งขนาดไหน

พอผมลงมาถึงห้องนั่งเล่นก็เจอรอนกำลังคุยกับเกรนเจอร์พอดี แม่สาวหัวฟูนี่ความจริงก็น่ารักดีนะ ถ้าเจ้าหล่อนไม่จู้จี้ จุกจิก แล้วก็ทำหน้าที่พรีเฟ็คเต็มขั้นขนาดนั้น ผมคงจีบเธอไปแล้วล่ะ ไม่ปล่อยมาให้รอนหรอก พูดไปก็เสียดาย

“อรุณสวัสดิ์เกรนเจอร์ เช้านี้ก็น่ารักอีกแล้วนะ” ผมแกล้งเย้า

เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ย่นจมูก “ไม่ต้องมาพูดหวานหรอก พอตเตอร์ นายใช่มั้ยที่เอาน้ำยาติดหนึบไปใส่ที่ประตูของศาสตราจารย์ควีเรลเมื่อวาน อาจารย์เลยออกจากห้องไม่ได้ มาดามฮู๊ทต้องเอาไม้กวาดไปรับที่หน้าต่าง” สีหน้าหล่อนเอาเรื่องอยู่แฮะ

“โอ๊ะ โอ๋ ใส่ความกันแบบนี้ไม่ดีนะจ๊ะ” ผมแกล้งทำหน้าซื่อ “ไม่มีหลักฐานมาปรักปรำกันแบบนี้ฉันเสียใจแย่” แถมสีหน้าออดอ้อนสำนึกผิดอีกหน่อยก็ได้เอ้า

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ พอตเตอร์ ฉันไปตรวจที่ห้องสมุดมาแล้ว คนที่ยืมหนังสือตำราปรุงยาเล่มใหม่ที่มีสูตรยานี่ไปคือนาย” เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่ลดเสียง “ไปหาศาสตราจารย์แมกกานากัลด้วยกันเสียดีๆ”

“ไม่เอาน่าเกรนเจอร์” ผมว่าผมชิ่งดีกว่า ชักหิวข้าวแล้วสิ “คนที่ยืมหนังสือต่อจากฉันไปก็มีตั้งเยอะน่า อย่างน้อยก็คุณหนูมัลฟอย เด็กบ้านสลิธิรินไง”

“ถึงมัลฟอยจะหยิ่งยะโสท่าทางกวนประสาท แต่เขาก็ไม่มีประวัติเสียแบบนายหรอก” ใบหน้าของเด็กสาวตรงหน้าผมชักโมโหมากขึ้น “อย่าปัดความผิดให้คนอื่น พอตเตอร์”

“โอเคๆ ไม่ปัดก็ได้ แต่ไว้หาหลักฐานให้แน่นกว่านี้ก่อนค่อยมาคุยกับฉันใหม่ดีกว่านะ เฮ้อ ฉันหิวข้าวแล้วล่ะ ถ้าพวกนายจะยังคุยกันต่อ ฉันขอตัวไปห้องโถงกลางก่อน”

“พอตเตอร์ นายนี่มัน” เกรนเจอร์เดือดแล้วครับ ผมชอบจังเวลาผู้หญิงน่ารักๆ แบบนี้โกรธ

“เฮอร์ไมโอนี่ ใจเย็น” รอนพยายามมาดึงแฟนเขาไว้ ผมเลยใช้จังหวะนี้แวบหนีออกมาจากห้องนั่งเล่น

ความจริงผมก็ไม่ได้ตังใจจะแกล้งศาสตร์จารย์ควีเรลที่สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเท่าไหร่หรอก แค่รำคาญท่าทางจ๋องๆ ซึมๆของเขาเท่านั้นเอง ใครเป็นคนจ้างหมอนี่มาสอนวิชานี้ฟะ ให้รีมัส เพื่อนสนิทของพ่อผมมาสอนยังดีกว่าอีก ตอนปิดเทอมผมไปค้างที่บ้านของเขากับซีเรียสบ่อย ๆ รีมัสติวให้จนผมเรียนเลยไปถึงตำราของปี 7 โน่น เขาเป็นครูที่ดี ผมว่าผมได้อะไรเยอะกว่าที่เรียนกับควีเรลมาทั้งปีเสียอีก แต่ก็นะ แค่รีมัสเป็นมนุษย์หมาป่า พ่อแม่ของพวกคุณหนูที่โรงเรียนนี้ก็ขยาดแล้ว

ผมไม่ได้เข้าไปกินอาหารที่ห้องโถงหรอก แต่แวะสั่งเจ้าพวกเอลฟ์ที่กำลังเก็บโต๊ะให้เอาอาหารไปให้ผมที่ระเบียงชั้น 3 ด้านหลังโรงเรียน เรื่องวิชาเรียนคาบแรก (ประวัติศาสตร์เวทมนต์) น่ะ ลืมไปได้เลย แหม เช้าที่อากาศสดใสแบบนี้ใครจะอยากเข้าไปนั่งหลับล่ะครับ

ผมจัดการอาหารเช้าเรียบร้อยกำลังยืนชมวิวแล้วคิดว่าวันนี้จะไปหาเรื่องสนุกอะไรทำดี ก็มีเสียงเรียกจากด้านหลัง

“แฮรรี่” เสียงแผ่วๆ หวานๆแบบนี้ผมไม่มีทางลืมหรอก

“โช” ผมหันไปยิ้มให้เธอ แฟนสาว เอ้ย อดีตแฟนสาวสินะ เราเลิกกันตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วนี่นา

เธอเดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าหวานมีแววเศร้า “ไม่ไปเรียนเหรอ”

“ขี้เกียจน่ะ แล้วเธอล่ะ” ผมถามกลับ

“ฉันกำลังจะไปห้องพยาบาล” เสียงตอบแผ่ว

“ไม่สบายเหรอ” ผมแตะหลังมือที่หน้าผากกลมมนเบา ๆ ถึงเราจะเลิกกันแต่ก็จากกันด้วยดีน่า “ตัวร้อนนิดๆนะ รักษาสุขภาพหน่อยสิ”

หยาดน้ำตาเอ่อคลอดวงตาคู่สวย โอ้ ไม่นะ เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย

“แฮร์รี่ ฮึก ฮึก” โชเริ่มสะอื้น “ฮึก เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ” น้ำตาไหลพรากจากดวงตาลงมาสู่แก้มเนียน

“ไม่เอาน่า” ผมพยายามปลอบ จะให้บอกไหมเนี่ยว่าผมขอเลิกกับเธอก็เพราะนิสัยเจ้าน้ำตาของเธอเนี่ยแหละ “ไหนว่าเราจะจากกันด้วยดีไง” ผมกอดร่างบางแล้วลูบผมยาวของเธอเบาๆ “เธอน่ะดีเกินไปที่จะอยู่กับคนแบบฉันนะ”

“แต่...ฮือ...แต่ว่า” โชยังไม่หายสะอื้น

“ดิกกอรี่เขาก็เอาใจใส่เธอดีไม่ใช่เหรอ” ผมเอ่ยถึงรุ่นพี่ที่เพิ่งจบไป เขาแวะเวียนมาหาโชทุกวันสุดสัปดาห์ตั้งแต่ผมเลิกกับเจ้าหล่อน

“เขาไม่เหมือนเธอนะแฮร์รี่ ไม่มีใครเหมือนเธอ” อดีตแฟนสาวของผมย้ำ จะมีอะไรน่าภูมิใจไปกว่านี้ไหมเนี่ย

“แล้วเธอจะชอบเขา ฉันพนันได้เลยล่ะ” ผมต้องปลอบเธอไปถึงเมื่อไหร่นะ “โชคนดี ไปห้องพยาบาลแล้วนอนพักนะจ๊ะ” ผมแตะริมฝีปากกับแก้มเนียนที่เปียกชื้น “เธอยังเป็นเพื่อนฉันเสมอนะโช”

“ขอบใจจ้ะ แฮร์รี่” โอเค เธอเช็ดน้ำตาแล้วก็เดินจากไปเสียที

เฮ้อ เป็นคนเนื้อหอมมันก็ลำบากแบบนี้ล่ะครับ ผมได้แต่ส่ายหน้า

“แฮร์รี่ แฮร์รี่”เสียงรอนอีกแล้ว...วันนี้มันเป็นยังไงกันนักกันหนานะ... “แฮร์รี่ อยู่แถวนี้รึเปล่า?เฮอร์ไมโอนี่ให้ฉันมาเรียกนายไปเรียน แฮร์รี่?อ้าว...ไม่อยู่เหรอ?”

เสียงฝีเท้ารอนเดินจากไปพร้อมกับที่ผมชะโงกหน้าออกมาจากทางลับที่ผนังใต้คบเพลิง

ใครจะอยากไปเรียนกับยัยป้าประสาทหลอนทีลอว์นีย์ ไว้ค่อยทำงานส่งทีหลังก็ได้ พ่อผมบอกมาตั้งแต่ก่อนเปิดเทอม(แน่นอนว่าลับหลังแม่)ว่าวิชาเนี้ย แค่เขียนไปว่าเราจะโชคร้ายมากๆก็พอ

วันนี้มันเหมือนมีอะไรขาดไปน๊า เซ็งๆๆๆๆๆ สงสัยจะได้เวลาออกล่า(เหยื่อ)หาความสนุกแล้ว!!!

“อ๊ากกกกกกกก!ใคร!ใครเอาระเบิดเหม็นมาไว้ตรงนี้!!!!!!!!!”เสียงฟิลช์ร้องเสียงหลงมาจากทางเดินชั้นสาม เนื่องจากมีผู้ไม่ประสงค์จะออกนามมาฝากกับดักระเบิดเอาไว้และเมื่อภารโรงคนเก่าพร้อมด้วยแมวสาวผู้ติดตามผ่านมาทางนี้(ตามข้อมูลที่ทำการสำรวจมาอย่างดี) ผลก็คือ...........เสียงดังลั่น(ทั้งระเบิด ทั้งคน ทั้งแมว)ตามด้วยกลิ่นเหม็นชนิดที่คงทำให้ไม่มีใครเดินผ่านแถวนี้ซัก 3 วัน “ไอ้เด็กบ้านั่นแน่ๆ!พอตเตอร์!ฉันรู้ว่าแกอยู่ตรงนี้ ออกมาซะดีๆ!”

เสียงกลุ่มนักเรียนที่ยืนปิดจมูกดูอยู่ห่างๆหัวเราะคิกคัก ....อยากเห็นชะมัดเลย!!!!!!แต่จะออกไปก็ไม่ได้ ต้องแอบมาขำอยู่ในห้องว่างข้างๆ ไม่งั้นผมได้ไปขัดถ้วยรางวัลเป็นรอบที่ 10 ของเทอมนี้แน่ๆ

......ไม่ใช่ ไม่เห็นสนุกเลย เจ้าภารโรงนี่มันก็แค่ตัวฆ่าเวลาเล่น มันน่าจะมีเหยื่อ(?)ซักรายที่น่าสนุกกว่านี้สิ!

ผมครุ่นคิดอย่างจริงจังระหว่างหยุดยืนตรงมุมห่างจากที่เกิดเหตุมาพอสมควร

........น่าจะเป็นคนที่ผมต้องใช้สมองคิดแผนการมากกว่านี้

แล้วก็น่าจะเป็นคนที่ตอบโต้ผมกลับทันทีที่โดนเล่นงาน.....

พลั่ก!!!!

“โอ๊ย”เสียงสองเสียงร้องพร้อมกัน คนหนึ่งคือผมแน่ๆล่ะ ส่วนอีกเสียงนึง.....

“เดรโก มัลฟอย!”ร่างผอมบางของเจ้าคุณหนูผมบรอนด์สายเลือดบริสุทธิ์แห่งบ้านสลิธิรินที่ลงไปนั่งกุมหน้าผาก
อยู่ตรงหน้าผม ข้างตัวเราสองคนมีกองหนังสือกระจัดกระจาย เฮอะ คงไปห้องสมุดมาอีกล่ะสิพ่อนักเรียนดีเด่น

“เดินไม่รู้จักดูทางรึไง” เสียงหงุดหงิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดูผม แน่ละครับ พอเห็นว่าคนที่ชนเป็นผม ไอ้หน้าที่บึ้งอยู่แล้วนั้นยิ่งหงิกหนักขึ้นไปอีก “อ๋อ นึกว่าใคร นายเองงั้นเหรอ พอตเตอร์” หน้าตาเย็นชากับลูกกะตาซีดๆ ที่มองเหยียดๆ นั่นมันอะไรฟะ

“คงก่อเรื่องแล้วหนีมาอีกล่ะสิ” เสียงเย็น ๆ จากไอ้ปากบางๆ นั่นน่าหงุดหงิดสุดๆ

ผมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะพูดแบบไม่ยี่หระ แน่นอนครับกะอีแค่พรีเฟ็คบ้านสลิธิริน ใครจะไปกลัว “ก็แค่หาอะไรทำให้หายเบื่อน่ะ มัลฟอย” ผมขยับลุกขึ้น แต่เห็นเจ้าคนตรงข้ามยังนั่งอยู่และพยายามรวบรวมกองหนังสือกลับมาถือ ผมได้ทีเลยจี้ใจดำหมอนี่บ้าง

“ยังขยันเหมือนเดิมนะ หวังว่าเทอมนี้คงเอาที่หนึ่งมาจากเกรนเจอร์ของบ้านฉันได้”

ได้ผลครับ ดวงตาสีฟ้าเงยขึ้นมองผมอย่างหงุดหงิดทันที คุณหนูนั่นลุกพรวด “ไม่ใช่เรื่องอะไรของนาย”

“โอ๊ะ โอ๋ ขอโทษที ก็แค่อยากเอาใจช่วย” กวนประสาทหมอนี่ก็สนุกดีแฮะ ผมรู้มาตั้งนานแล้วว่าพ่อหมอนี่ (เจ้าตระกุลเก่า—เลือดบริสทธิ์ สูงส่งซะเหลือเกิน) ไม่พอใจมากที่ลูกชายคนเดียวเรียนแพ้คนที่เกิดจากพ่อแม่มักเกิ้ลอย่างเกรนเจอร์ เลยสั่งเข้มซะเดรโกแทบจะเป็นโรคเครียดอ่อน ๆ (อันนี้แอบฟังมาดามพอร์มพรีย์ปรึกษากับศาสตราจารย์แมกกานากัลตอนอาจารย์เรียกผมไปฟังเทศน์ประจำสัปดาห์พอดี)

ความจริงก็น่าสงสารมัลฟอยนะ ใครจะไปเรียนชนะแม่สาวอัจฉริยะแห่งกริฟฟินดอร์ได้

“เอาตัวนายให้รอดเถอะ พอตเตอร์” มัลฟอยยิ้มเยาะบ้างแล้วครับ ใครสังเกตบ้างว่าเวลาหมอนี่ทำหน้าตาอย่างอื่นที่ไม่ใช่สีหน้าเย็นชาแบบคุณชายแล้วมันก็น่าดูเหมือนกันนะ “เกรดวิชาปรุงยากำลังตกมิตกแหล่ไม่ใช่เหรอ ศาสตราจารย์สเนปไม่ใจดีเหมือนอาจารย์คนอื่นหรอกนะ”

ดูเหมือนเขาจะเข้าใจว่าผมกลัวอาจารย์ประจำบ้านเขาเสียเหลือเกิน โอเค ผมยอมรับว่าผมโคตรไม่ชอบหน้าสเนป คู่แค้นเก่าสมัยเรียนของพ่อสุด ๆ เหอะ พ่อเล่าให้ฟังเสมอแหละว่าหมอนี่เกลียดพวกตัวกวนของพ่อมาแต่ไหนแต่ไร นับประสาอะไรกับลูกชายอย่างผมเขาจะไม่เกลียด อาจารย์ลำเอียงนั่นตัดคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์ไปเท่าไหร่แล้วนะ

ผมคงมัวคิดเรื่องสเนปเพลินไปหน่อย มัลฟอยเลยได้ใจ “ถ้านายสำนึกซะได้ก็ดีนะ พอตเตอร์ ขอทางด้วย” เขาพูดเสียงแข็ง

“เชิญๆ ตามสบายเลย” ผมยิ้มเบี่ยงทางให้เขา อ๊ะ อย่าคิดว่าคนอย่างผมจะยอมใครง่าย ๆ แบบนี้นะครับ ของอย่างนี้มันต้องมีเอาคืนกันบ้าง

ในที่สุดก็เจอจนได้ ‘เหยื่อ’ ของวันนี้ อุตส่าห์ตามหามาตั้งแต่เช้า......หึหึ



Create Date : 10 มกราคม 2548
Last Update : 18 มกราคม 2548 9:44:02 น.
Counter : 1507 Pageviews.

3 comments
  
ขออนุญาตเเอ๊ด ท่านSloth แนะนำมาบอกว่าฟิคท่านหนุก วันนี้ดึกเเล้วเลยอ่านไม่ได้ เราขอเอาเวปไปเผยเเพร่น่ะ เพื่อนเราชอบนิยาย วาย แฮรี่ กับ เดรโก้ มาก
โดย: emrysmerlin วันที่: 22 สิงหาคม 2548 เวลา:3:39:23 น.
  
โอ๊ยยยยยยยยย ทำไมไอรี่เวอร์นี้มันถึงได้เกรียนเอาโล่ คือดูวันนึงตื่นมาเกรียน กิน แกล้ง(คนอื่น) แล้วก็นอน แล้วก็ตื่นมาเกรียนใหม่ นี่ฉันจะเชียร์หนูเดรกับแกดีมั้ยเนี่ย -*- เกรียนรี่
โดย: nuii IP: 124.121.56.151 วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:0:13:20 น.
  
มาตามอ่านช้าไปไหมคะเนี่ย 555555

อ่านแล้วน่ารักดีค่ะ แฮร์รี่ นายกวนมากๆเลย แล้วก็ดูท่าว่าจะร้ายเสียด้วย งานนี้หนูเดร หนูเตรียมตัวให้พร้อมนะลูก อย่าไปยอมแพ้เจ้ารี่มัน
โดย: amiie00 IP: 110.169.200.27 วันที่: 3 มีนาคม 2556 เวลา:22:51:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]