Chapter 4
ความมืดของยามค่ำคืนแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ แสงเทียนที่ส่องสว่างลอดผ่านช่องว่างระหว่างประตูในช่วงหัวค่ำตอนนี้ถูกหรี่ลงจนแทบจะมองไม่เห็นแล้ว อากาศอบอ้าวกลางฤดูร้อนทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวนัก ถึงผนังของคุกใต้ดินซึ่งเป็นหอนอนของสลิธิรินจะก่อด้วยหินจะเย็นกว่าด้านนอก แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรซักเท่าไหร่

ร่างเล็กที่อยู่บนเตียงกลางห้องนอนพลิกตัวไปมาด้วยความไม่คุ้นชินอยู่นาน พลางถอนหายใจเฮือกอยู่เป็นระยะๆ จนสุดท้ายเมื่อเจ้าตัวเห็นว่ายังไงก็คงไม่สามารถข่มตาหลับลงแน่ จึงตัดใจ เลื่อนตัวลงไปริมเตียงแล้วเอื้อมมือลงไปยังพื้นสะอาดเบื้องล่าง

ปลายนิ้วเรียวสัมผัสกับขนนุ่มนิ่ม พร้อมกับลิ้นสากๆ ที่เลียแผล่บมาทันควันนั้นเรียกรอยยิ้มจากเด็กหนุ่มผมบลอนด์ได้ทันที

"ว่าไง บรูน คนสวย"

เฟนริส เดอ ลากูร์ เอ่ยทักเจ้าแมวตัวเล็กขนสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ใต้อุ้งมือ ใบหน้าที่ประดับด้วยดวงตาสีเหลืองขนาดจิ๋วเงยขึ้นมองเขาตาแป๋ว อุ้งเท้านุ่มตวัดตะปบนิ้วขาวๆเล่น ขณะที่เจ้าของเองก็แกล้งปัดหางฟูๆ ที่ตวัดไปมา

"คืนนี้ไม่ออกไปวิ่งเล่นเหรอ? หรือจะอยู่เฝ้าห้องกับผม?"

เสียงใสถามสัตว์เลี้ยงเล่นแล้วดึงมือกลับ ทำให้เจ้าตัวเล็กที่กำลังสนุกถึงกับส่งเสียงร้องเมี๊ยวเบาๆ เป็นการประท้วง เฟนริสลุกขึ้นนั่งพร้อมกับรินน้ำจากเหยือกข้างเตียงขึ้นมาจิบ ดวงตาสีน้ำผึ้งมองเลยไปทางเตียงด้านข้าง

เตียงด้านซ้าย ชิดหน้าต่างว่างเปล่า เครื่องนอนต่างๆยังคงเก็บเรียบร้อยไม่มีร่องรอยการนอนของเจ้าของ เตียงนี้เกือบถูกบรูนของเขายึดเป็นที่นอนไปแล้ว

ก็แน่ล่ะ ตลอด 1 สัปดาห์ที่เปิดเรียนมา เจ้าของไม่ค่อยได้กลับมาใช้ที่ของตัวเองซักเท่าไหร่ มีเพียงตั้งหนังสือที่กองอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นข้างเตียงกับผ้าคลุมผืนเก่าที่แขวนไว้ข้างชั้นที่สามารถบอกให้รู้ได้ว่า เจ้าของเตียงคือใคร

‘ดีลจะมีหอนอนของบ้านไปทำไมเนี่ย เห็นไปค้างกับพวกเมธิสประจำ’

นักเรียนใหม่ของบ้านสลิธิรินอดนึกบ่นใจไม่ได้ ใบหน้าสวยเบือนไปทางเตียงด้านขวาบ้าง

เตียงขนาดใหญ่คลุมด้วยผ้าคลุมสีเทาเข้ม กับโต๊ะเขียนหนังสือที่จัดเป็นระเบียบ ถ้าช่วงค่ำจะเห็นเจ้าของที่บ้างหรอก แต่แต่เวลานี้.....มันกลับว่างเปล่า...เหมือนทุกคืน ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

ร่างเล็กเข้าคางกับโต๊ะข้างเตียง คิ้วเรียวขมวดมุ่น ดวงตาสีน้ำผึ้งบอกแววสงสัยปนกังวล เด็กหนุ่มนิ่งอยู่ชั่วครู่เหมือนคิดไม่ตก ก่อนที่หูจะแว่วได้ยินเสียงแกรกกรากเบาๆ ดังมาจากชั้นล่างของหอนอนอันเงียบสงัด

"อ๊ะ" เจ้าของใบหน้าสวยรีบทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัว พอดีกับที่บานประตูไม้ถูกเปิดออก พร้อมกับใครอีกคนเดินเข้ามาด้วยฝีเท้าแผ่วเบา คราวนี้เขารีบปิดเปลือกตาลงทันที

‘คุณเลสแตรงค์!’

เฟนริสนอนนิ่งไม่ขยับไปชั่วครู่ หูแว่วได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินไปยังที่ของตัวเองแล้วจึงค่อยๆ หรี่ตาดู เงาร่างสูงนั้นยืนหน้าโต๊ะของตัวเอง เหมือนกำลังถอดเสื้อคลุมออก ก่อนที่ร่างนั้นจะชะงัก แล้วหันขวับกลับมาราวกับรู้สึกตัวว่ากำลังถูกแอบมอง!

กระแสเย็นเยือกบางอย่างทำให้เด็กหนุ่มร่างเล็กไม่สามารถหลับตาหนีได้อย่างที่ใจคิด อีกฝ่ายยืดตัวขึ้นนิดหนึ่งเหมือนจะเงี่ยหูฟังเสียงผิดปกติ ทำให้เฟนริสที่เกือบจะกลั้นหายใจด้วยความกลัวอยู่แล้ว ต้องค่อยๆ ระบายลมหายใจออกมาแผ่วๆ เหมือนกำลังหลับสนิท

ขายาวๆ ทำท่าจะก้าวเข้ามาใกล้จนเกือบชิดเหมือนจะดูให้แน่ใจ แต่แล้วก็หันกลับ ดูเหมือนเขาจะโชคดีที่คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด ผู้ที่เข้ามาใหม่คงจะไม่ทันเห็นว่าดวงตาเขายังไม่หลับ ร่างสูงล้มตัวลงนอนบนเตียงของตัว

‘เฮ้อ’

คนที่เพิ่งรอดตัวหมาดๆ แอบโล่งใจ แต่ดวงตาสีน้ำผึ้งก็ยังอดเหลือบมองแผ่นหลังกว้างนั้นด้วยความสงสัยไม่ได้

‘คุณเลสแตรงค์ออกไปทำอะไรข้างนอกนั่นกันแน่นะ?’

.......................................................................

แสงแดดยามสายส่องผ่านเข้ามาในห้องเรียนขนาดใหญ่ของวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ทั้งห้องเต็มไปด้วยนักเรียนชั้นปี 4 ของบ้านสลิธิรินและเรเวนคลอที่กำลังจับกลุ่มคุยกันอย่างเมามันกว่าปกติ อาจจะเพราะตอนนี้เพิ่งเปิดเทอม แถมอาจารย์ประจำวิชาก็ยังไม่มา

ที่จริงหลังจากช่วงสงครามกับศาสตร์มืดครั้งสุดท้ายเมื่อหลายปีก่อน ทางกระทรวงเวทมนต์ก็ได้พิจารณากันว่าจะยกเลิกวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดดีหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่หลายคนในหน่วยงานฝ่ายสอบสวนและปราบปราม (แน่นอน รวมถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิตคนนั้นด้วย) ร่วมกันเสนอว่า วิชานี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าจอมมารจะดับสิ้นไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก

ดังนั้นฮอกวอร์ตจึงยังบรรจุวิชานี้ไว้ในหลักสูตรการเรียนภาคบังคับ หลายปีที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงและอดีตสมาชิกภาคีนกฟินิกส์หลายคนผลัดเปลี่ยนกันเป็นอาจารย์สอนตามวาระ จนถึงปีที่แล้วนิมฟาเดอลา ท็องค์ เพิ่งจะกลับไปทำหน้าที่ที่ปรึกษาอาวุโสของกระทรวงเวทมนต์

แน่นอนว่านักเรียนทุกคนต่างก็เสียดายอาจารย์สาวโสดผู้แสนจะร่าเริงคนนี้กันทั้งนั้น นั่นยิ่งทำให้ประเด็นสนทนาที่ว่าใครจะได้เป็นคนมายืนประจำหน้าแท่นสอนของห้องในปีนี้ยิ่งเข้มข้น

จะมีก็แต่ร่างเล็กที่ฟุบอยู่ตรงที่นั่งด้านริมหน้าต่างเท่านั้นละมั้ง ที่ไม่ได้ตื่นเต้นไปกับคนอื่นๆ ใบหน้าสวยหลับพริ้ม ปล่อยให้เส้นผมสีบลอนด์ตกเรี่ยพื้นโต๊ะอย่างมาใส่ใจ ขณะที่คิ้วเรียวขมวดมุ่นเหมือนนอนไม่สบายนัก

"เฟนริส เฟนริส"

เสียงเรียกพร้อมกับมือเรียวยาวที่เอื้อมมาสะกิด ทำให้คนที่กำลังฟุบหลับเงยหน้าขึ้นอย่างงัวเงียนิดๆ "ครับ ดีล?"

เด็กหนุ่มผมดำขมวดคิ้วนิดๆ "นอนไม่พอบ่อยจังนะ ช่วงนี้" ร่างสูงช่วยจัดผมที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงให้ ขณะที่อีกฝ่ายยังทำตาปรือ คราวนี้คนดังของบ้านสลิธิรินจึงเขย่าไหล่เล็ก

"ตื่นแล้วครับ ตื่นแล้ว" มือเรียวปิดปากหาว ก่อนจะเอาหนังสือที่ใช้แทนหมอนหลบไปอีกทาง ดวงตาสีน้ำผึ้งมองซ้ายมองขวาอย่างงุนงง

"นี่ตื่นแล้วแน่นะ คุณกระต่าย สลับบทกับอลิสอีกแล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยล้อๆ ก่อนจะชวน

"ถ้าตื่นแล้วก็ดี วันนี้ไม่รู้อาจารย์จะมารึยัง ฉันขี้เกียจนั่งเฉยๆ เราย้ายที่ไปนั่งข้างหน้ากันดีกว่า กลุ่มโน้นซื้อเกมจากพวกนาย่ามา ท่าทางจะมีอะไรสนุกให้เล่นฆ่าเวลาได้"

ดีลทำท่าจะฉุดเพื่อนใหม่ให้ลุกตามไปยังหน้าชั้นที่เด็กปี 4 บ้านสลิธิรินั่งจับกลุ่มกันอยู่ ดวงตาสีฟ้าเหลือบไปเห็นคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะถัดไป "นายล่ะ ไปด้วยกันไหม ? เดเมียน?"

ร่างสูงใหญ่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังอ่านพร้อมกับเลิกคิ้วนิดๆ เหมือนจะถาม คู่สนทนาจึงย้ำอีกครั้ง

"ไปหาอะไรทำฆ่าเวลากับเราไหม?" เจ้าของผมสีดำยุ่งเหยิงคลี่ยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วเล็กๆ ประโยคต่อมามีเค้ายั่วเย้าเล็กน้อย "ออกไปสมาคมกับเพื่อนๆ เสียบ้างก็ได้น่า"

ดวงตาสีเทามองนิ่งมายังสองร่างที่อยู่ตรงหน้า ทำเอาเฟนริสที่ยืนแอบอยู่ด้านหลังของเพื่อนถึงกับกลืนน้ำลาย

"ไร้สาระ" เสียงเย็นๆ บอกก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหน้าลงอ่านหนังสืออีกครั้ง

คราวนี้ดีลยักไหล่ แล้วดึงร่างเล็กให้เดินไปหน้าห้องโดยไม่พูดอะไรอีก

ใบหน้าสวยยังแอบเหลือบมองโต๊ะที่เดินจากมา จนเกือบจะสะดุดกับขาเก้าอี้นั่นแหละ ถึงค่อยถอนสายตากลับมาแล้วกระซิบกับคนที่เดินนำหน้า "ผมเพิ่งเคยได้ยินคุณเลสแตรงค์พูดครั้งแรกเนี่ยแหละ"

ท่าทางแปลกใจปนกลัวนั้นทำให้คนฟังคลี่ยิ้มขัน "ก็ปกติมีใครเข้าไปพูดกับหมอนั่นซะทีไหนล่ะ"

"ทำไมคนอื่นถึงไม่ค่อยเข้าไปคุยกับคุณเลสแตรงค์ล่ะฮะ?"

ใบหน้าเรียวยาวเลิกคิ้วพร้อมกับเอียงคอนิดๆ เหมือนจะถามว่า ‘นั่นต้องสงสัยด้วยเหรอ?’

เฟนริสหน้ามุ่ยเมื่อถูกล้อ "ผมรู้ฮะ ว่าเขาน่ากลัว แต่ก็น่าจะมีเพื่อนบ้างนี่นา" ขนาดรองประธานนักเรียนจอมโหดของโบบาตงที่แทบจะไม่มีใครกล้าสบตาก็ยังมีเพื่อนสนิทอยู่ 2-3 คนเลย (หนึ่งในนั้นก็คือพี่สาวของเขานั่นแหละ)

ดีลทำท่าครุ่นคิด "อืม...ก็ไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอกนะ...แต่ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะนามสกุลของหมอนั่นมั้ง"

"นามสกุล? เลสแตรงค์น่ะเหรอฮะ?"

"อืม" อีกฝ่ายพยักหน้าพลางถามกลับ "ไม่คุ้นบ้างเลยเหรอ?"

คราวนี้คนตัวเล็กส่ายศีรษะไปมา เสนาธิการของกลุ่มจึงต้องออกปากเล่า

"เขาพูดกันว่า เมื่อก่อนคนในตระกูลเลสแตรงค์เกี่ยวข้องกับพวกศาสตร์มืด"

พอเห็นคนฟังหน้าซีดลงทันควัน ร่างสูงจึงคลี่ยิ้มปลอบ "คนเขาก็พูดกันไปแหละ ตระกูลพ่อมดมีน้อยจะตาย มันก็ต้องมีคนที่นามสกุลเหมือนๆ กันมั่งล่ะ" มือเรียวยาวแกล้งขยี้ผมสีบลอนด์เล่น

"นายเลิกกลัวหมอนั่นได้แล้วน่า...นี่คงมัวแต่เกร็งจนนอนไม่หลับสินะ ถึงได้มาแอบฟุบอยู่ในห้องเรียน"

"ดีลฮะ ถ้าอย่างนั้นคุณเลสแตรงค์เขา..."

เฟนริสกำลังจะเอ่ยปากถามอีกเรื่องที่คาใจมาตั้งแต่ต้น แต่คนที่เดินอยู่ข้างหน้าก็ก้าวเข้าไปในกลุ่มโต๊ะแถวหน้าสุดเสียก่อน เสียงใสเลยต้องหยุดความสงสัยไว้ก่อน

"ไง พวกนาย ...อ้าว อะไร จบเกมแล้วเหรอ?"

กลางโต๊ะที่เมื่อกี้มีของวางเต็มราวกับคาสิโนเคลื่อนที่ ตอนนี้ข้าวของถูกเก็บเรียบร้อย หน้าตาหลายคนดูเคร่งเครียดกว่าปก ติ โดยเฉพาะพวกเด็กผู้หญิง ขณะที่บรรยากาศวงสนทนาดูจะเคร่งเครียดกว่าไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้

"เกิดอะไรขึ้น?" คนถามพลอยทำท่าเคร่งขรึมไปด้วย แต่ยังพอจะมีเวลาสังเกตว่าพวกผู้ชายในกลุ่มไม่ได้มีสีหน้าทุกข์ร้อนอะไรนัก

"พอตเตอร์" เด็กสาวที่อยู่กลางวงข้างเพื่อนสาวที่ยืนตาแดงก่ำเหมือนร้องไห้อย่างหนักเรียกชื่อผู้มาใหม่ "สัตว์เลี้ยงของเด็กเราหายไปอีกแล้วล่ะ แมวของเคธี่ไม่ยอมกลับมาเลย ถ้ารวมนี่ด้วยก็รายที่ 8 แล้วนะ"

คนถามมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด แตก็มีเสียงขัดขึ้นมาเสียก่อน

"โธ่เอ๊ย อาจจะเป็นอย่างแมวของฟิลช์ก็ได้"

เพื่อนนักเรียนชายคนหนึ่งบอกพร้อมกับมีคนพยักหน้าเห็นด้วย

ดีลเลิกคิ้ว "เห? มิสซิสนอริสเป็นอะไรไป?" เขาแน่ใจว่ายังไม่ได้วางแผนให้พวกสองแฝดเอาแมวแก่หนังเหนียวนั่นไปปล่อยเลยนี่นา

"อะไร คราวนี้นายตกข่าวเหรอ พอตเตอร์"

มือข้างนึงของเด็กผู้ชายคนที่พูดขัดเมื่อครู่วางปุลงบนไหล่

"ก็ที่ฟิลช์มาโวยวายหน้าห้องศาสตราจารย์สเนปเมื่อวันจันทร์ ว่าแมวหายไง แต่ยังไม่ทันตามหา ก็ไปเจอว่า ตาแก่นั่นลืมแมวไว้ในห้องทำงานทั้งคืน จนมันตะกุยข้าวของซะเละ บางชิ้นหายไปเลยก็มี ฉันละรู้สึกดีกับมิสซิสนอริสขึ้นมายังไงไม่รู้"

"ก็ดีนะฮะ เอกสารที่เราหยิบมาคราวก่อน คุณฟิลช์ก็คงไม่ทันสังเกต"

เฟนริสที่นิ่งฟังอยู่กระซิบสิ่งที่คนฟังเองก็กำลังนึกอยู่ในใจ

เด็กสาวคนเดิมค้านเสียงเข้ม "บ้าน่ะสิ! จะเป็นไปได้ยังไง! จู่ๆ สัตว์เลี้ยงของพวกเราจะหลงหายไปตั้งหลายวันเหมือนๆ กันน่ะ" เธอร่ายยาวเพื่อหาเสียงสนับสนุน

"แล้วก็ไม่ใช่แค่เด็กบ้านเรานะ หนูของเพื่อนน้องสาวฉันที่อยู่เรเวนคลอก็หายไป คางคกของเด็กปี 1 บ้านฮัฟเฟิลพัพหาตัวไม่เจอตั้งแต่วันเปิดเทอมเลยด้วย"

"โธ่เอ๊ย...พวกมันเป็นสัตว์นะ ก็ต้องอยู่ไม่ติดที่เป็นธรรมดา แล้วมันจะแปลกอะไร ถ้ามันจะไปเจอสัตว์ตัวอื่นกินแทนอาหารว่างเข้าบ้างน่ะ"

"มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย"

ดีลที่นิ่งฟังอยู่นานยกแขนกอดอก แล้วหันไปถามร่างเล็กที่ยืนข้างๆ "นกฮูกฉันอยู่ดีนะ แล้วเจ้าจิ๋วบรูนของนายล่ะ เฟนริส"

"เมื่อคืนก็ยังเล่นกับมันอยู่เลยฮะ คงไม่เป็นไรมั้ง......แต่มันชอบออกไปเดินเที่ยวข้างนอกซะด้วยสิ"

เฟนริสเริ่มมีสีหน้ากังวล ถึงเขาจะไม่ได้เลี้ยงแมวตัวนี้มาตั้งแต่เด็กอย่างเคธี่ แต่ บรูนก็เป็นแมวที่แม่ของเขาซื้อให้ฉลองการเข้าเรียนที่ฮอร์กวอร์ต "ตอนเที่ยงผมกลับไปดูมันที่หอหน่อยดีกว่า"

ดีลพยักหน้า ทำท่าจะร่วมวงสนทนาต่อ แต่ถูกขัดด้วยเสียงเปิดประตูบานใหญ่ของห้องเรียน พร้อมกับร่างของอาจารย์ประจำวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่ก้าวเข้ามา

"สวัสดีทุกคน ฉันเป็นอาจารย์คนใหม่ของพวกเธอ"

เสียงหวานนั้นเรียกให้เฟนริสที่กำลังเคร่งเครียดเงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน ใบหน้าสวยเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง

"น้ากาเบรียล!"

.......................................................................................

"น้ากาเบรียลฮะ"

ร่างเล็กร้องเรียกพร้อมกับวิ่งเข้ามาหาแทบจะทันทีที่วิชาเรียนจบลง หญิงสาวร่างบางผมสีบลอนด์ดวงตาสีฟ้าที่มีใบหน้าคล้ายกันคลี่ยิ้มแล้วก้มลงแตะริมฝีปากกับแก้มใส

"อยู่ในห้องเรียนต้องเรียกว่า ศาสตราจารย์เดอ ลา กูร์ สิจ๊ะ เฟนริส"

หลานชายคนเล็กแกล้งทำหน้าย่นล้อ "แต่ตอนนี้เลิกเรียนแล้วนี่ครับ ศาสตราจารย์" เด็กหนุ่มรีบบ่น "ทำไมแม่ไม่เห็นบอกผมบ้างเลยล่ะฮะ ว่าน้ากาเบรียลจะมาเป็นอาจารย์ที่นี่"

คนเป็นน้าสาวขยี้ผมของคนที่กำลังงอน "ก็เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ผลนี่จ๊ะ ปกติที่นี่เขารับแต่พวกเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ น้าเพิ่งทำงานได้ไม่กี่ปี ลุ้นแทบแย่แน่ะ" หญิงสาวอธิบายพลางมองเลยไปยังเด็กหนุ่มร่างสูงที่เดินตามมาด้านหลัง

"เธอคงจะเป็นมิสเตอร์พอตเตอร์สินะ"

"ครับผม" ดีลก้มศีรษะนิดๆ เป็นการตอบรับ "ศาสตราจารย์รู้จักผมด้วยเหรอฮะ"

จะว่าเขาดังไปถึงฝรั่งเศสก็คงไม่ใช่ หรือว่าฟิลช์เอารายชื่อแบล็กลิสต์ของกลุ่มตัวกวนให้อาจารย์เข้าใหม่ดูทุกคนกันนะ

กาเบรียล เดอ ลา กูร์ยิ้มราวกับรู้ความสงสัยของอีกฝ่าย "ฉันจำคนที่ช่วยชีวิตตัวเองตอนเด็กๆ ได้จ้ะ"

เธอมองเส้นผมสีดำยุ่งเหยิงกับใบหน้าเรียวยาวที่ดูเจ้าเล่ห์นิดๆ นั่น "แล้วเธอก็หน้าตาเหมือนแฮร์รี่ พอตเตอร์เปี๊ยบเลยนี่นา อ้อ ยกเว้นสีตานะ"

"อ๋อ...งั้นคุณคงรู้จักกับป๊ะป๋า เอ๊ย พ่อของผม" ดีลพยักหน้า

เฟนริสเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง "น้ากาเบรียลฮะ น้าเจอพี่เฟลย์หรือยังฮะ"

หญิงสาวที่อาวุโสกว่าส่ายหน้า "ยังเลยจ้ะ เจ้าหญิงสบายดีไหม? ยังพูดน้อยเหมือนเดิมล่ะสิ"

ญาติทั้งสองหัวเราะคิกคัก ก้มหน้าลงกระซิบกระซาบอย่างรู้กัน

"ก็เหมือนเดิมนั่นแหละฮะ แต่ดูท่าจะมีแฟนคลับเริ่มตามติดอีกแล้วล่ะ เห็นนาย่าบอกว่า เด็กปี 2 ที่บ้านเอาของขวัญมาแอบวางให้ด้วยล่ะ" เด็กหนุ่มผมบลอนด์แอบเล่า

ดูท่าทั้งอาจารย์ทั้งนักเรียนใหม่จะติดลมกันอยู่อีกสักพัก ดีลยืนฟังนิ่งๆ แต่ก็แอบเก็บข้อมูลไปด้วย

มีเด็กผู้หญิงมาให้ของขวัญด้วยเรอะ? ไหนเจ้าพวกเมธิสบอกว่ามีแต่ผู้ชายที่กริฟฟินดอร์มาตามจีบไงฟะ

อุตส่าห์แวบไปอยู่หอโน้นอยู่หลายวัน กะว่าจัดการ ‘เก็บ’ หมดแล้วนะ

...ท่าทางนอกจากจะเป็นเป้าหมายที่ยากแล้ว คู่แข่งจะเยอะอีกละมั้งเนี่ย!


.......................................................

TBC ~


June 5, 2006

.


TALK

*Acacha*

[กรี๊ดดดดดดดดดด]

เสียงกรีดร้องโหยหวนจากอพาร์ทเมนท์ห้องเกือบริมสุดเมื่อตอน2ทุ่ม - - ไฟดับ!!!!

นั่งพิมพ์คอมก๊อกแก๊กๆอยู่ดีๆ หน้าจอก็ดำมืด! ยังไม่ได้เซ~ฟ เป็นนิสัยเสียๆ อย่างหนึ่งของอคาชาที่พิมพ์ไรไว้แล้วก็ไม่ค่อยได้เซฟเป็นระยะๆ ด้วยความประมาท สวรรค์ลงโทษเป็นครั้งที่2 นี่ถ้ามันกู้กลับมาไม่ได้คงน้ำตาร่วง

ในที่สุดเดเมียนก็ได้บทพูด กีซ กีซ ต้องฉลอง~ ........แต่ได้พูดแค่... "ไร้สาระ" ^^"

ตอนนี้มันยาวเกิน(ไปมาก)อีกแล้วล่ะ ก็เลยขอตัดฉับออกบ้าง แล้วเอาส่วนแรกมาลงก่อน ถ้ายังไงตอนต่อไปคงจะมาลงวันจันทร์ที่ 5 มิ.ย. นะคะ ไว้เจอกันค่ะ ><


*Na-O

สถานการณ์สุขภาพเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา...

ต้นเดือน - - ท้องเสียอย่างหนัก นอนไข้ขึ้นอยู่ 2 วัน

กลางเดือน - - อาหารเป็นพิษ อาเจียนจนต้องหามไปนอนโรง’บาล น้ำเกลือ 3 ขวด ยาอีกกี่เข็มก็ไม่รู้

ปลายเดือน - - หวัดเล่นงาน ทั้งไอทั้งน้ำมูก ไม่หายสักที

นี่มันอารายก๊านนนนนนนนนนน //(T[]T)\\

งานนี้ช่วยอีดิธเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังทะเลาะกันเรื่องบทกับพล็อตอยู่ดี

ตอนนี้ เฟลย์ พี่สาวเราไม่ออกเลย แหงมๆ ช่างเป็นพระเอก เอ๊ย นางเอก ที่บทน้อยเสียนี่กระไร...

เพราะงั้นตอนหน้า เฟลย์ออกแน่ๆ ก็แล้วกัน (ก็เค้าเป็นนางเอกน๊า!!!!!!)



Create Date : 04 มิถุนายน 2549
Last Update : 4 มิถุนายน 2549 22:01:45 น.
Counter : 391 Pageviews.

2 comments
  
วันนี้วันที่ 5 นะคะ ^^ ฮิๆ อย่าลืมอัพล่ะ
โดย: nagisa IP: 58.8.37.162 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:17:15:59 น.
  
แง่วๆ คอมเจ๊งไปนานเลยเพิ่งได้มาอ่าน ว่าแต่ว่าดีลน่ารักสุดๆไปเลนต่า เฟนริสก็ด้วย ชอบชื่อนี้เป็นพิเศษเลยชื่อเหมือนลูกของเทพอสูรโลกิเลย (ตัวที่เป็นหมาป่าอะค่ะ ช๊อบชอบ)

มาเม้นแล้วนะค้า
โดย: NAM!K! IP: 124.120.5.193 วันที่: 18 มิถุนายน 2549 เวลา:13:15:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]