|
|
|
คัฟเวอร์สัปดาห์ละนิดจิตแจ่มใส: Everybody Hurts (R.E.M.)
"คัฟเวอร์สัปดาห์ละนิดจิตแจ่มใส"สัปดาห์นี้เชิญสดับรับฟังเพลงคลาสสิคของวงอัลเทอร์เนทีฟรุ่นใหญ่จากอเมริกานาม R.E.M (Rapid Eye Movement) อันประกอบด้วย Michael Stipe(ร้องนำ), Peter Buck (กีต้าร์), Mike Mills(เบส), Bill Berry (อดีตมือกลอง) กับเพลงที่ชื่อว่า "Everybody Hurts" จากอัลบั้มคลาสิค Automatic for the People (1992) นั่นเอง
  ลุงๆ กับเพลงจากหนึ่งในอัลบั้มคลาสสิคของพวกเขาBill Berry มือกลองของวงเคยบอกไว้ว่า เพลงนี้พวกเขาแต่งออกมาให้มีเนื้อหาตรงไปตรงมาไม่ต้องมานั่งตีความหมาย ก็เพราะมันถูกแต่งมาเพื่อสื่อสารกับวัยรุ่นโดยเฉพาะ ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะเห็นว่าเพลงนี้เป็นเพลงหนึ่งที่เศร้ามากๆ แต่ในความเศร้านั้นก็ยังมีการปลอบประโลมและให้กำลังใจอยู่ในเพลงด้วย ทำให้เพลงนี้เป็นที่จดจำจากแฟนเพลงรุ่นแล้วรุ่นเล่าและถูกศิลปินมากมายนำมาคัฟเวอร์กันอยู่เสมอ
*เวอร์ชั่นต้นฉบับ* MP3: R.E.M. - Everybody HurtsWhen the day is long and the night, the night is yours alone,
When you're sure you've had enough of this life, well hang on.
Don't let yourself go, everybody cries and everybody hurts sometimes.
Sometimes everything is wrong. Now it's time to sing along.
When your day is night alone, (hold on, hold on)
If you feel like letting go, (hold on)
When you think you've had too much of this life, well hang on.
Everybody hurts. Take comfort in your friends.
Everybody hurts. Don't throw your hand. Oh, no. Don't throw your hand.
If you feel like you're alone, no, no, no, you are not alone
If you're on your own in this life, the days and nights are long,
When you think you've had too much of this life to hang on.
Well, everybody hurts sometimes,
Everybody cries. And everybody hurts sometimes.
And everybody hurts sometimes. So, hold on, hold on.
Hold on, hold on. Hold on, hold on. Hold on, hold on. (repeat & fade)
(Everybody hurts. You are not alone.)
*เวอร์ชั่นคัฟเวอร์*
| Create Date : 20 พฤศจิกายน 2552 | | |
| Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 17:30:43 น. |
| Counter : 1310 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
คัฟเวอร์สัปดาห์ละนิดจิตแจ่มใส: Please, Please, Please Let Me Get What I Want (The Smiths)
กลับมาพบกันอีกครั้งกับ "คัฟเวอร์สัปดาห์ละนิดจิตแจ่มใส" สัปดาห์นี้มาถึงคิวของวงอังกฤษในตำนานจากยุค 80 อย่าง The Smiths ที่นำโดยป้า Morrissey และ Johnny Marr ซึ่งถึงแม้จะโลดแล่นในยุทธจักรดนตรีเพียงแค่ระยะเวลาเพียงห้าปี(ปี 82-87)กับผลงานเพียง 4 อัลบั้ม (กระนั้นทุกวันนี้ก็ยังมีอัลบั้มรวมเพลงของพวกเขาทะยอยออกมาอยู่เรื่อยๆ) แต่ก็สามารถครองใจนักฟังเพลงมาจนทุกวันนี้ และแน่นอนที่มักจะมีศิลปินรุ่นหลังๆ นำเพลงของพวกเขามาคัฟเวอร์กันประจำ
  น้าๆ สมัยยังเอ๊าะและอัลบั้ม Hatful of Hollow (1984) เพลงที่เรานำมาฝากกันในสัปดาห์นี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งของพวกเขาที่ถูกศิลปินรุ่นหลังนำมาคัฟเวอร์กันบ่อยครั้ง ทั้งที่จริงๆ แล้วตัวเพลงนั้นเป็นเพลง B-Side สั้นๆ ที่มากับซิงเกิ้ล "William, It Was Really Nothing" จากอัลบั้มรวมเพลง B-Side ของพวกเขาที่ชื่อ "Hatful of Hollow" (1984) ซึ่งมาทุกวันนี้กาลเวลาก็ได้พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความอมตะของเพลงๆ นี้(และอีกหลายๆ เพลง)ของน้าๆ แล้ว ว่าแล้วก็เชิญรับฟังเวอร์ชั่นคัฟเวอร์ที่บล็อกเราคัดเลือกมาฝากพี่น้องกันดีกว่าครับ *ต้นฉบับ*
Good times for a change
See, the luck I've had
Can make a good man
Turn bad
So please please please
Let me, let me, let me
Let me get what I want
This time
Haven't had a dream in a long time
See, the life I've had
Could make a good man bad
So for once in my life
Let me get what I want
Lord knows, it would be the first time
Lord knows, it would be the first time
*เวอร์ชั่นคัฟเวอร์*
 She & HimShe & Him อันประกอบด้วยดารา/นักร้อง Zooey Deschanel และ M. Ward คัฟเวอร์ไว้อย่างน่าฟัง ในสไตล์โฟล์ค บวกกันเสียงเศร้าๆ ของ Deschanel ซึ่งเพลงนี้มาจากซาวน์แทรคหนังเก๋ๆ น่ารักๆ อย่าง (500) Days of Summer (2009) ที่หลายคนปลื้มกันอยู่นั่นเอง(ผมคนหนึ่งล่ะ อิอิ)
MP3: She & Him - Please, Please, Please Let Me Get What I Want MuseMuse สามหนุ่มร็อกจากอังกฤษก็เคยคัฟเวอร์ไว้ในซิงเกิ้ลคู่ Hyper Music/Feeling Good ที่ออกมาในปี 2001 (ต่อมาถูกนำไปรวมไว้ในอัลบั้มซาวน์แทรคหนัง Not Another Teen Movie ในปีเดียวกัน) ในสไตล์ร็อคๆ จังหวะหนักแน่น ชวนโยกนักเชียว
 The Scattered PAGESนี่ก็สามหนุ่มอินดี้ร็อค แต่ว่ามาจากเทกซัส อเมริกา ซึ่งพวกเขาคัฟเวอร์ไว้ได้อย่างละเมียดละมัย แถมตอนจบก็ทำเก๋มีเสียงพูดจากหนังใส่เข้ามาอีก นับเป็นอีกเวอร์ชั่นที่น่าเก็บสะสมไว้จริงๆ  Josh Rouseหนุ่มวัย 37 จากเนบราสก้า อเมริกา เป็นศิลปินที่ทำเพลงแนวโฟล์คๆ อยู่แล้ว จึงไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าจะนำเพลงนี้มาคัฟเวอร์สไตล์โฟลค์ เสียงร้องอ้อนๆ อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขา ทำให้เวอร์ชั่นนี้ออกมา ฟังแล้วมีเคลิ้มกันไปข้างล่ะ  The Dream Academyไม่ใช่จะมีแต่ศิลปินรุ่นลูกรุ่นหลานเท่านั้นที่นำเพลงนี้มาคัฟเวอร์ แต่วงรุ่นเดียวกันกับน้าๆ อย่าง The Dream Academy วงป็อปที่มาจากอังกฤษเช่นกัน ก็เคยคัฟเวอร์เอาไว้ในเวอร์ชั่นบรรเลง ซึ่งถูกรวมไว้ในอัลบั้มซาวน์แทร็คหนัง Ferris Bueller's Day Off (1986) มาฟังแบบบรรเลงเช่นนี้ก็บรรเจิดไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะเนี่ย  Deleted Scenesทีนี้มาถึงเวอร์ชั่นแปลกๆ แนวๆ บ้าง โดยสี่หนุ่มอินดี้ร็อคอเมริกันวงนี้ที่ตั้งชื่อวงซะ นึกว่ามาจากหนังดีวีดี แต่ถึงจะมาแบบแปลกๆ เสียงอู้อี้ๆ ก็ยังออกมาเจ๋งดี น่าสนใจทีเดียวนะจ้ะจะบอกให้  Deftonesแม้แต่วงอัลเทอร์เนทีฟร็อคหนักๆ จากอเมริกาวงนี้ก็ยังปลื้มเพลงนี้ จนได้คัฟเวอร์ออกมาในแบบฉบับของพวกเขา(แต่ก็ไม่ได้หนักอะไรมาก) ที่เสียงร้องออกแนวจิตๆ หน่อย ฟังดูใกล้เคียงเวอร์ชั่น Muse อยู่บ้าง เพราะเป็นร็อคจังหวะปานกลางเหมือนกัน แต่ต่างคนต่างก็เจ๋งในแบบของตนล่ะ Clayhill
สามหนุ่มโฟล์คจากอังกฤษ คัฟเวอร์ไว้แบบโฟล์คๆ (จะให้เป็นแบบอื่นได้ไงล่ะเนอะ) ได้เพราะมากๆ และก็ยาวกว่าเวอร์ชั่นอื่นๆ ด้วย ซึ่งเพลงนี้ก็ได้ไปรวมอยู่ในซาวน์แทร็คหนังอังกฤษเล็กๆ อย่าง This is England ในปี 2007 อีกด้วย
MP3: Clayhill - Please, Please, Please Let Me Get What I Want
และก็ตามฟอร์มที่เราต้องทิ้งท้ายอย่างสวยหรูไว้ว่า ยังมีอีกหลายเวอร์ชั่นมากมาย แต่เราคงเลือกมาฝากกันเพียงเท่านี้ก่อน ไว้สัปดาห์หน้าพบกันใหม่กับเพลงคลาสสิคในตำนาน และบรรดาเวอร์ชั่นคัฟเวอร์เพราะๆ อีกเน้อ ขอบคุณสำหรับการรับชมรับฟัง ฟังเพลงให้สนุกนะครับ...
| Create Date : 10 พฤศจิกายน 2552 | | |
| Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 17:29:38 น. |
| Counter : 1259 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
คัฟเวอร์สัปดาห์ละนิดจิตแจ่มใส: Michael Jackson
 Michael Jackson นับเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จและมีอิทธิพลต่อวงการดนตรีมากที่สุดคนหนึ่งในโลก เพลงของเขาสามารถเข้าไปอยู่ในหัวใจของคนทุกมุมโลก ทุกเพศทุกวัย ทุกศาสนาความเชื่อ ทุกชาติพันธุ์ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีศิลปินมากมายที่ได้รับอิทธิพลจากเขามา และนำผลงานเพลงของเขาไปคัฟเวอร์กันอยู่เป็นประจำ
 ในวาระที่ This is it กำลังกลายเป็นที่โจษจันของคนทั้งโลกในขณะนี้ ทางบล็อกเราจึงขอโหนกระแส(อีกแล้ว) ด้วยการคัดเพลงคัฟเวอร์บางส่วนของหลากหลายศิลปิน หลากหลายแนวตั้งแต่ อาร์แอนด์บี ร็อค คันทรี่ โฟล์ค เวิลด์มิวสิก มาฝากกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพลงจากอัลบั้มในตำนานอย่าง Thriller (1982) ของเขานั่นเอง
4 หนุ่มอัลเทอร์เนทีฟร็อคจาก อิลลินอยส์ อเมริกา วงนี้นำเพลง Beat it มาคัฟเวอร์เป็นเวอร์ชั่นร็อคมันส์ๆ แถมยังพ่วงพ่อหนุ่ม John Mayer มาร่วมแจมซะอีก นับเป็นเวอร์ชั่นที่โดนเด่นจริงๆ
MP3: Fall Out Boy - Beat It (live feat. John Mayer) ศิลปินชาวเยอรมันแต่ทำเพลงแนวลาติน คัฟเวอร์ Beat it ออกมาเป็นเวอร์ชั่นลาตินที่สนุกสนาน เต็มไปด้วยเสียงเครื่องเป่า กลอง เครื่องดนตรีให้จังหวะ ตามแบบลาตินเขาล่ะ ซึ่งก็น่าฟังไปอีกแบบเชียว
MP3: Senor Coconut - Beat it สาวโฟล์ควัย 28 ชาวอเมริกันคนนี้ นำเพลง Say Say Say ที่ Jackson ร่วมขับขานกับ Paul McCartney (The Beatles) เอาไว้ในอัลบั้ม Pipes of Peace (1983) ของ McCartney ซึ่งเธอนำมาคัฟเวอร์เป็นแบบโฟล์คเบาๆ ได้น่าฟังไม่ใช่ย่อยทีเดียว
MP3: Kesang Marstrand - Say Say Say ป๋า Ian Brown แห่งวงในตำนาน The Stone Roses จากอังกฤษ ก็ยังชื่นชม Jackson อยู่ไม่น้อย ว่าแล้วก็เลยนำเพลงของเขามาคัฟเวอร์ซะเลยทีเดียวสองเพลงรวด(อาจมีมากกว่านั้น) ออกมาเป็นเวอร์ชั่นเก๋ๆ ให้แฟนเพลงของป๋าได้ฟังกัน
MP3: Ian Brown - Billie Jean อดีตหนึ่งในเจ้าพ่อวงกรั๊นจ์จากซีแอตเทิล อเมริกา คนนี้ เมื่อก่อนไว้ผมยาวเฟื้อย ออกจะเฮฟวี่เมทัลซะ แต่ขอบอกว่าเขาก็เป็นแฟนเพลงอีกคนของ Jackson ด้วย ซึ่งเขานำเพลง Billie Jean ไปร้องในการแสดงสดด้วยกีต้าร์โปร่งตัวเดียวได้แบบสุดยอด ด้วยพลังเสียงอันทรงพลังสไตล์ร็อคของเขา ทำเอาเพลงนี้กลายเป็นเวอร์ชั่นช้าๆ แบบอะคูสติกร็อค ไปเลย
 แม้แต่ศิลปินแนวคันทรีอย่างวงนี้ยังชื่นชมเพลงของ Jackson ด้วย ว่าแล้วพวกเขาก็เอาเพลง Man in the Mirror จากอัลบั้ม Bad (1987) มาทำเป็นเวอร์ชั่นคันทรี่สนุกๆ ไปเฉยเลย ฟังแล้วได้กลิ่นโคลน สาบวัวไบซัน แบบคาวบอยๆ ดีนักแล
 นี่ก็อีกวงจากอังกฤษที่ปลื้มเพลงของ Jackson สี่ทะโมนวงนี้เอา Beat it (อีกแล้ว) ไปขับขานในการแสดงสดได้ร็อคไปอีกแบบ ฟังแล้วใกล้เคียงกับเวอร์ชั่น Fall Out Bot แต่เพราะสำเนียงแบบอังกฤษเอ๊าะแอ๊ะของพวกเขา เลยทำให้ได้สีสันไปอีกแบบ
 ยัง ยังไม่พอเพลง Beat it ยังเป็นที่นิยมนำไปคัฟเวอร์ คราวนี้มากับแนวเพลงเลาน์จ แบบแจ๊สๆ เหมือนในคาเฟ่ฝรั่งเขานิยมฟังกัน ฟังแล้วออกแนวฮาๆ แปลกไปอีกแบบ ดีนะ จะบอกให้  สาวเซอร์จากอังกฤษคนนี้ นำเพลง Thriller มาร้องกับเปียโนได้อย่างเพราะพริ้งน่าฟัง คนละแนวต่างจากเวอร์ชั่นต้นฉบับอย่างกับหน้ามือกับหลังเท้าเลย (แต่เจ๋งเหมือนกันทั้งคู่เน้อ)
MP3: Imogen Heap – Thriller ศิลปินชาวบราซิลวัย 67 คนนี้ ยังนำเพลงของรุ่นน้องอย่าง Jackson (50 ขวบ) มาคัฟเวอร์ ในแบบ บอสซาโนวา เบาๆ พริ้วๆ งานนี้ฟังแล้วมีเคลิ้มกันไปข้างล่ะ
 ศิลปินหนุ่มแนวบริติชโซล วัย 25 คนนี้ นำเพลง Man in the Mirror มาขับขานกับอคูสติกกีต้าร์ เปียโน ด้วยนำเสียงแบบโซล นุ่มๆ ทำให้เป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งของเพลงนี้ที่น่าเก็บสะสมจริงๆ
MP3: James Morrison – Man In The Mirror
 หลายปีก่อน เพลงนี้ฮือฮาขึ้นมา เพราะนำเพลง Smooth Criminal จากอัลบั้ม Bad มาคัฟเวอร์แบบร็อคขึ้น เลยโดนใจวัยโจ๋(สมัยนั้น)อย่างจัง ทำให้วงจากแคลิฟอร์เนีย วงนี้ดังขึ้นมาหน่อย แต่ตอนนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ยังไงซะพวกเขาก็นับเป็นศิลปินรุ่นแรก ที่นำเพลงของ Jackson มาคัฟเวอร์ได้อย่างโดดเด่นแบบนี้
 ถ้าไม่มีศิลปินแนว R&B นำเพลงของ Jackson มาคัฟเวอร์มันก็กระไรอยู่นะ ซึ่งที่จริงมีเยอะจะตายไป แต่ที่เราเลือกมานี้เป็นเวอร์ชั่นคัฟเวอร์ของ ดาราดัง Jamie Foxx ที่จับมือกับพ่อหนุ่ม Ne-yo นำเพลงนี้ของ Jackson สมัยอยู่ Jackson 5 มาขับร้องได้แบบเพราะจับใจ ซึ่งจะว่าไปแล้วเพลงนี้เป็นเพลงหนึ่งที่ใครนำมาขับร้อง ก็จะเพราะไปซะทุกรายไป (ก็เพลงมันดีนี่เนอะ)
MP3: Jamie Foxx & Ne-Yo - I'll Be There (Live) นี่เป็นแค่เพลงเศษเสี้ยวหนึ่งของ Michael Jackson ที่ถูกนำมาคัฟเวอร์ แต่เราคงไม่สามารถนำมาฝากพี่น้องกันได้ทั้งหมด (เท่านี้ก็จะกลายเป็น"คัฟเวอร์สัปดาห์ละ(ไม่)นิดจิตแจ่มใส"อยู่แล้ว) เชื่อว่าเพลงของเขาจะถูกศิลปินรุ่นหลังนำมาขับขานครั้งแล้วครั้งเล่าต่อไปแบบไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน แล้วเมื่อเวลาเหมาะสมทางบล็อกจะนำเพลงคัฟเวอร์เหล่านั้นมาฝากกันอีกครับ...
 Michael Jackson (29 Aug 1958 - 25 Jun 2009)
| Create Date : 04 พฤศจิกายน 2552 | | |
| Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 17:29:12 น. |
| Counter : 1655 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
คัฟเวอร์สัปดาห์ละนิดจิตแจ่มใส: Just Like Heaven (The Cure)
*คัฟเวอร์สัปดาห์ละนิดจิตแจ่มใส* The Cure วงอัลเทอร์เนทีฟรุ่นเก๋าและเก่าจากอังกฤษ ที่มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังๆ มากมาย จึงไม่แปลกที่เพลงของพวกเขาจะถูกศิลปินรุ่นหลังๆ นำไปคัฟเวอร์ใหม่ซะหลายเพลง สัปดาห์นี้เราจึงขอเลือกหนึ่งในเพลงคลาสสิคของพวกเขามาฝากกัน นั่นก็คือเพลง Just Like Heaven จากอัลบั้ม Kiss Me Kiss Me Kiss Me (1987) ซึ่งก็มีเวอร์ชั่นคัฟเวอร์มากำนัลแบบจุใจถึง 10 เวอร์ชั่น 10 ศิลปิน ต่างแนวเพลง คือมีตั้งแต่ Jazz ไปยัน Emo เลยทีเดียว นับว่าน่าเก็บสะสมไว้ฟังไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
  เหล่าน้าๆ กับหนึ่งในอัลบั้มคลาสสิคของพวกเขาThe Cure - Just Like Heaven
"Show me how you do that trick
The one that makes me scream" she said
"The one that makes me laugh" she said
And threw her arms around my neck
"Show me how you do it
And I promise you I promise that
I'll run away with you
I'll run away with you"
Spinning on that dizzy edge
I kissed her face and kissed her head
And dreamed of all the different ways I had
To make her glow
"Why are you so far away?" she said
"Why won't you ever know that I'm in love with you
That I'm in love with you"
You
Soft and only
You
Lost and lonely
You
Strange as angels
Dancing in the deepest oceans
Twisting in the water
You're just like a dream
Daylight licked me into shape
I must have been asleep for days
And moving lips to breathe her name
I opened up my eyes
And found myself alone alone
Alone above a raging sea
That stole the only girl I loved
And drowned her deep inside of me
You
Soft and only
You
Lost and lonely
You
Just like heaven
จันทร์หน้าพบกันใหม่กับเพลงที่น่าสนใจที่ทางบล็อกจะคัดมาฝากกันอีกนะจ้ะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาทุกสัปดาห์เน้อ : )
| Create Date : 26 ตุลาคม 2552 | | |
| Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 17:28:42 น. |
| Counter : 1012 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [
