Group Blog
 
All blogs
 

*คนพิเศษ*

ใครหลายๆคนอาจจะคิดว่า คนพิเศษของใจ ก็คือแฟนของเรา
แต่บางครั้งมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก ????????????? คนพิเศษของใจ
หรือคนที่คุณอาจจะเรียกว่าเป็นคนพิเศษของคุณ
หรือคนที่สำคัญกับคุณนั้น เขาหรือเธอคนนั้น
ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหรือคนรักของคุณเสมอไปหรอก คุณลองนึกดูสิว่า. .


* ใคร ที่เคยทำให้คุณต้องร้องไห้ เพราะเรื่องของเขา +++++
คนคนนี้แหละคือคนที่คุณแคร์เขามากและคุณอาจจะรักเขาด้วยโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย


** ใคร ที่เคยร้องไห้ไปพร้อม ๆ กับคุณ เมื่อเวลาคุณร้องไห้ +++++
คนนี้แหละคือคนที่คุณต้องคอยดูแลถนอมน้ำใจเขาให้มากที่สุด
คุณคงไม่รู้ว่าเขารักคุณมากด้วย


*** ใคร ที่คอยห่วงใยคุณ ดูแลคุณอย่างดี คอยเตือนคุณ คอยช่วยเหลือคุณ
เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ +++++
คนนี้แหละที่เขารักคุณอย่างจริงใจ
และเชื่อเถอะว่าคุณจะต้องรักเขาเข้าเหมือนกันโดยที่คุณไม่รู้ตัว


**** ใคร ที่คอยปลุกคุณตอนเช้าๆ ให้คุณตื่น
และคอยบอกคุณให้เข้านอนเร็วๆ ให้ห่มผ้าก่อนนอน +++++ คนคนนี้แหละ
คือคนที่เขาห่วงคุณอย่างจริงใจ ไม่ต้องการให้คุณไม่สบาย
ต้องการให้คุณตื่นมารับอากาศเช้าที่แสนจะสดใส


***** ใคร ที่คุณอยากจะบอกเรื่องราวของคุณให้เขารู้มากที่สุด +++++
คนนี้แหละคือคนที่คุณ ไว้ใจมากที่สุด คือคนที่คุณ รักและไว้ใจ


****** ใคร ที่คุณ อยากรับฟังปัญหาและเรื่องราวของเขามากที่สุด +++++
คนคนนี้แหละคือคนที่คุณแคร์เขามากๆ
ต้องการรู้เมื่อเขามีปัญหาเผื่อจะช่วยเขาได้


******* และ ใคร คือคนที่คุณคิดว่า คุณต้องการเขาอยู่เสมอ ++++
คนคนนี้แหละ ที่เรียกว่า “คนพิเศษของใจ” คนพิเศษของใจคุณ คือ
คนที่คุณต้องการเขา คนที่คุณผูกพันกับเขามาก มากกว่าใครๆ

เขาเป็นคนที่คุณคิดว่า คุณต้องการเขาอยู่เสมอ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงไหน เขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร
เขาจะเป็นคนเดิมของคุณหรือเปล่า และถ้าคุณเคยทำให้เขาเสียใจ
หรือทำอะไรที่คุณจะต้องเสียเขาไป แล้วเขายังกลับมาหาคุณอีก

คุณเชื่อเถอะว่า คนคนนี้แหละเขารักคุณ จริงใจ หวังดี
และห่วงใยคุณอยู่ตลอดเวลา และเขายังต้องการคุณอย่างที่คุณต้องการเขา
คุณจะเป็นคนพิเศษของใจกันและกัน รักษาและถนอมคนคนนี้ไว้ให้ดีนะ เชื่อเถอะ!!!!!!
แล้วคุณจะมีความสุข แล้วคงไม่ต้องเป็นเหมือนผมนี้ที่ไม่เห็นค่าของเธอตอนนั้น และมานั่งเสียดายกับวันเวลาดีๆที่ผ่านไปแล้ว และไม่อาจหวนคืนกลับดังเดิมได้อีก ไม่มีอีกแร้ว




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2550 16:47:42 น.
Counter : 252 Pageviews.  

กาแฟและความรัก

Love and Coffee

.... หอม หวาน ขม ... อุ่น ร้อน เย็น ... หลากหลายพันธุ์ หลายวิธีปรุง

.... ความที่ไม่มีอะไรตายตัว คือเสน่ห์ของกาแฟ ...

คนชงคนเดิม กาแฟพันธุ์เดิมสูตรเดิมๆ แต่รสชาติมันก้ออาจเปลี่ยนได้

หาก แค่เวลาที่ใช้ในการชงเปลี่ยนไป

.... คนไหนชงกาแฟอร่อยจงภูมิใจเถอะ มันไม่ได้ง่ายๆเลยที่จะชง

ให้ได้รสชาติดีดังเดิมทุกครั้ง ...

.... ความรักก้อเปรียบได้กับกาแฟเหมือนกัน...กาแฟที่ชงเสร็จใหม่ๆ

ก้อเหมือนความรักที่เพิ่งจะก่อตัว มันหอม มันหวาน มันอุ่น ...

หากได้ชิมแล้วยากจะวางลง นอกจากคุณจะไม่ถูกใจกาแฟถ้วยนั้น

น้ำตาลที่ใส่ให้กาแฟ...เปรียบเหมือนกับการเอาใจใส่ ดูแล ห่วงใยซึ่งกันและกัน ....

อยู่ที่คุณจะใส่น้ำตาลมากแค่ไหน มากไปมันก็ไม่ดีมันจะเลี่ยนไป

.... น้อยไปมันก็ไม่ดี มันอาจจะยังขมอยู่ ...

นมหรือครีม เหมือนกับเรื่องราวต่างๆ เหตุการณ์ดีๆ

ที่ช่วยให้กาแฟมีรสชาติมากยิ่งขึ้น ...

.... แน่นอนว่ากาแฟเมื่อชงทิ้งไว้แม้มันจะมีรสชาติดีแค่ไหน

แต่เมื่อทิ้งเอาไว้นานๆรสชาติมันย่อม เปลี่ยนไปบ้าง

.... ความหอมมันอาจจะน้อยลง มันอาจ จะเย็นชืด จืดจาง ...

เหมือนกับความรักที่ต่อให้คุณจะรักกันมากแค่ไหน

แต่หากนานวันเข้ามันย่อมมีวันจืดจางลงบ้าง ...

แล้วเราจะยังดื่มมันมั้ย ?

กาแฟที่จืดจาง ไร้ซึ่งความหอม หวาน มัน ... ดื่มหรือไม่ดื่มดี ?

.... การกล้ำกลืนฝืนทนดื่มต่อไปไม่ใช่ว่าดีหรอก ...

ก้อมันไม่อร่อยอยู่แล้ว ดื่มไปก้อเสียความรู้สึกเปล่าๆ สู้คุณชงกันใหม่ดีกว่า ....

แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็น ถ้วยใบเดิมๆ ซึ่งเปรียบเหมือนกับคนรักของคุณ ...

ไม่ใช่เปลี่ยนถ้วยไปเรื่อยๆนะ ... ไม่ดีหรอก

นอกจากถ้วยใบนั้นมันเหลือจะทนแล้ว เก่าผุ ไม่มีค่าพอจะเก็บไว้ ...

คุณจะเปลี่ยนก้อไม่ว่ากัน .... แต่หากคุณยังชงกาแฟใหม่ในถ้วยใบเดิม ...

แม้มันจะเก่าไปบ้างตาม กาลเวลา ... แต่เราไม่ได้กินถ้วยนี่เราดื่ม

กาแฟตะหาก ถ้วยกาแฟก้อเหมือนคู่ใจของเราถูกมั้ย ? หมั่นชง มันบ่อยๆ ให้

ถ้วยได้เจอกับกาแฟอุ่นๆ หอมๆ หวานๆ ... มันจะมีทำให้คุณมีความสุขมาก

อย่างที่คาดไม่ ถึงเลยล่ะ ... กาแฟอุ่นๆ หอมๆ กับถ้วยใบโปรด ...

จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก...




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2550 15:04:19 น.
Counter : 159 Pageviews.  

+ + ค ว า ม รั ก ต้ อ ง ก า ร ค ว า ม ชั ด เ จ น แ ล ะ ส ม่ำ เ ส ม อ + +

วันก่อนผมไปงานแต่งงานอดีตกิ๊ก (ที่ไม่ได้แปลว่าชู้ . . .แต่เป็นคนที่มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน)
เราเคยไม่ได้เจอกันมาเกือบปีจากการเจอกันครั้งสุดท้าย . . .ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้
แต่ผมพยายามนึกเองว่าเป็นเพราะงานเยอะ ไม่มีเวลา . . .ที่ทำให้เราห่างๆกันไป
ผมยังจำได้ วันที่เราเจอกันครั้งแรก
ผมไปหาเพื่อนที่คณะของเธอ เราอยู่สถาบันเดียวกัน แต่คนละฝั่งถนน

ผมเห็นเธอเล่นกับหมาสกปรกๆ ตัวนึง ภาพนั้นยังชัดเจนอยู่เลย
ผู้หญิงผมยาว หน้าตาน่ารัก เล่นกับหมามอมแมม
เธอเอาลูกชิ้นปิ้งมาให้น้องหมากิน ลูบหัวลูบหูมันแบบไม่รังเกียจ

ผมไม่เคยจีบผู้หญิง จีบไม่เป็นด้วย แต่ผมขอให้เพื่อนแนะนำเธอให้รู้จัก
แสดงให้เห็นว่าผมสนใจเธอ ไม่รู้เรียกว่าจีบหรือเปล่า
เราคุยกันถูกคอเรื่องหมา เรื่องหนัง เรื่องเพลงเรื่องนินทาเพื่อนของเรา
และเรื่องการเรียนที่เธอสนใจการเรียนของคณะผมและผมสนใจการเรียนคณะเธอซึ่งเป็นคนละสาย

ความสัมพันธ์ก่อตัว . . . เราอาจจะเป็นมากกว่าเพื่อน
แต่ก็ไม่รู้จะใช้คำว่าแฟนได้ไหม
เราไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน ผมเดินไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์ทุกเย็น
เราโทร.คุยกันบ่อยๆ ถึงจะไม่บ่อยมาก
วันหยุดเรานัดไปดูหนังด้วยกัน ผมถือของให้เวลาเธอไปชอปปิ้ง
แต่เราไม่เคยบอกว่าต่างคนต่างรู้สึกยังไง
ไม่เคยบอกใครและไม่เคยบอกกันว่าตกลงเราเป็นแฟนกัน
ไม่เคยมีคำพูดหวานๆ หรือการกระทำที่มันพิเศษมากไปกว่านี้
จนเราเรียนจบ . . .

พอเริ่มทำงาน . . . สังคมก็เริ่มเปลี่ยน
เวลาและความวุ่นวายในหน้าที่การงานทำให้ความกระตือรือร้นที่จะเจอกันน้อยลง
ความถี่ในการโทรหากันห่างขึ้นเรื่อยๆ
จนแทบจำไม่ได้ ว่าครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน กินข้าวกันดูหนังด้วยกัน และโทรศัพท์คุยกันคือเมื่อไหร่
ผมไม่คิดถึงเธอหรือเปล่า . . . ก็ไม่เชิง
เพียงแต่มันมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่า จนเหมือนหลงๆลืมๆเธอไป. . .

เรามาเจอกันอีกทีตอนงานแต่งงานเพื่อนคนที่แนะนำให้เรารู้จักกัน หลังจากเรียนจบหลายปี
เรายังคุยกันเหมือนเดิม แต่เหมือนระยะห่างมากขึ้น

เราไม่ถามกันว่าแต่ละคนหายไปไหนมา
ถามแต่ว่ากำลังทำงานอะไรอยู่ เป็นไงบ้าง
แล้วเราก็ห่างหายกันไปอีกครั้ง . . .

แล้ววันนึง . . . เธอก็โทรมาหาผม
บอกว่ากำลังจะแต่งงาน กับชาวต่างชาติ ที่ทำงานที่เดียวกันกับเธอ
ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง
เราห่างกันจนผมไม่ควรจะหวงเธอแล้ว . . .แต่ผมก็รู้สึกใจหาย
มันรู้สึกแปลกๆ เหงาๆ หัวใจหวิวๆ ยังไงไม่รู้
ผมไปงานแต่งงานของเธอ . . .
บอกตรงๆ ว่าตอนอยู่ในงาน ผมนึกในใจว่าทำไมผู้ชายที่ยืนข้างเธอไม่ใช่ผม
แต่วันนั้นผมก็ได้แสดงความยินดีกับเธอไปอย่างเต็มใจ

เมื่อคืนโทรมาหาผม . . .
เราคุยกันมากขึ้นกว่าตอนที่ห่างหาย
ที่จริงผมเริ่มทำใจได้บ้างแล้วล่ะ
ก็เลยแกล้งบอกเธอไปว่า . . .เนี่ย พอบีแต่งงานไป โอเลยไม่รู้จะแต่งกับใคร
เธอหัวเราะ ถามว่า นี่โออยากแต่งงานกับบีด้วยเหรอ นึกว่าไม่อยาก
ผมก็ อ้าว ทำไมล่ะ โอดูไม่ชอบบีเหรอ
เธอนิ่งไปแป๊บนึง แล้วก็ถามแบบเสียงซีเรียสว่า ถามจริงเถอะ บีอยากรู้มานานแล้ว
ว่าที่ผ่านมาโอคิดยังไงกับบี
ผมถามย้อนกลับว่าที่เราไปกินข้าว ดูหนัง กันเนี่ย
มันไม่ได้หมายความว่าชอบเหรอ ไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยนะ

จากนั้นผมถึงได้รู้ว่า เธอรู้สึกไม่เข้าใจว่าผมคิดไงมาตลอด
เพราะเราไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน คุยกันทุกวัน
แต่ผมไม่เคยมีอะไรหวานๆ ไม่เคยแสดงความห่วงใยเป็นพิเศษ ไม่เคยบอกว่าชอบเธอ
ไม่รู้ว่า เราเป็นแฟน . . . หรือเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก
ซึ่งสิ่งที่เธออยากรู้มาตลอดคือผมชอบเธอระดับไหน แค่คนควงเล่น หรือมากกว่านั้น
(ผมดูเหมือนคนคบผู้หญิงไว้ควงเล่นขนาดนั้นเลยเหรอ . . .)

เพราะเป็นผู้หญิง . . . ทำให้เธอไม่เคยกล้าถาม
แต่วันนี้ถามฐานะ 'เพื่อนเก่า'
ตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้พูด เพราะพูดไม่เป็น
แล้วก็ไม่นึกว่าผู้หญิงจะต้องการการแสดงออกที่ชัดเจนมากกว่านี้
ยิ่งพอเรียนจบ ผมเหมือนหายไปเลย . . . ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน

ผมรู้สึกเหมือนกับว่า หัวข้อการคุยหลังจากนั้น
คือเราต่างเสียดายที่เราไม่เปิดเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายมากกว่านี้ในตอนนั้
ถึงเราจะคุยกันเหมือนเป็นเรื่องน่าขำ . . .

หลังจากวางสาย
ผมรู้สึกเหงาๆ หวิวๆ ยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าเธอจะแต่งงาน
มันเหมือนอะไรบางอย่างที่เราควรจะรักษาไว้ แต่กลับรักษาไม่ได้
แล้วตอนนี้มันก็สายเกินไปที่จะเรียกกลับมา
ก็หวังว่าความเหงาแบบนี้มันคงจะผ่านไป . . .
ไม่กี่วันหลังงาน ผมได้รูปแต่งงานของเธอมา
(ผมขอรูปเจ้าสาวที่เธอไปถ่ายติดหน้างานไว้)
ผมดูแล้วก็ยิ้มๆ ทุกครั้ง
ใช่ครับ . . . ถึงมันจะเศร้า แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นความทรงจำที่ดี
ตอนที่ผมเห็นรูปนี้ครั้งแรก
ผมไม่เคยฝันว่างานแต่งงานผมจะเป็นไง . . . เจ้าสาวผมจะเป็นใคร หน้าตาแบบไหน
ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ . . .ว่าตัวเองจะแต่งงานหรือเปล่า
แต่รูปถ่ายผู้หญิงปล่อยผมยาว ยิ้มกว้าง แต่งหน้าอ่อนๆ
ใส่ชุดสีขาวสบายๆริมสระน้ำ . . . ทัดดอกไม้สีขาวที่หู รูปนี้
ผมรู้สึกเสียดายจริงๆ ที่เธอไม่ใช่เจ้าสาวของผม ไม่ได้ใส่ชุดนี้เพื่อผม
ในแต่งงานของเธอ ทุกครั้งที่มองเธอ
ผมถามตัวเองตลอด . . ว่าทำไมผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเธอวันนี้ไม่ใช่ผม
แต่คำตอบของสิ่งที่ผมถามตัวเอง . . .ผมก็รู้ว่าเพราะอะไร

เหตุการณ์นี้คงเป็นบทเรียนน่ะครับ
ซึ่งไม่รู้ผมจะมีโอกาสได้แก้ตัวอีกหรือเปล่า
เรื่องของคนที่ไม่ชัดเจน ไม่สม่ำเสมอ และเข้าใจยาก อย่างผม
อยากเอามาเล่าสู่กันฟัง
ไม่อยากให้เกิดกับใคร
ใครที่ยังมีสิ่งที่ตัวเองหลงลืม ลองย้อนหันกลับไปมอง
และเอาใจใส่ให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นอีกนิดนะครับ
จะได้ไม่ต้องมานึกเสียดายทีหลัง . . . ถ้าสิ่งนั้นพลาดหรือหลุดลอยไป
หรือถ้าพลาด อย่างน้อยก็ยังรู้สึกว่าได้ทำเต็มที่แล้ว
ไม่ใช่พลาด เพราะปล่อยปละละเลย


อย่าลืมนะครับ . . . ขอย้ำอีกทีว่า
+ + ค ว า ม รั ก ต้ อ ง ก า ร ค ว า ม ชั ด เ จ น แ ล ะ ส ม่ำ เ ส ม อ + +




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2550 17:37:11 น.
Counter : 243 Pageviews.  

++ หนุ่ม 16 อาชีพที่สาวๆไม่ควรแต่งงานด้วย ++

1. หมอ
เพราะหมอชอบบอกให้คนไข้ หายใจแรงๆ แล้วก็ร้องอา...ห์ยาวๆ ตลอดทั้งวัน ฟังบ่อยๆ แล้วมันคงดูโรคจิตพิกล

2. ทหาร เพราะทหารตัวใหญ่ แข็งแรง อึด แถมชอบตะโกนเสียงดังว่า ยก...ก! อาวุธ แบกอาวุธ! และก้อเล็งอาวุธ! เป็นบางทีก็ดีอยู่หรอก แต่ให้บ่อยๆ ห้องนอนมันจะกลายเป็นสนาม
รบเอา

3. นักกีฬา เพราะว่านักกีฬาวันๆจ้องแต่จะทำลายสถิติอยู่บ้านเฉยๆ ก็สะกิดแล้วสะกิดอีก "หมู่นี้สถิติตกไปนะเธอ..มาทำลายสถิติกันเถอะ... !!

4. นักร้อง เพราะนักร้องบางคนชอบมีไมค์ส่วนตัวหลายอัน

5. แท็กซี่ เพราะชอบฝ่าไฟแดง แถมยังปาดซ้ายไปขวามา

6. กระเป๋ารถเมล์ เพราะแค่เริ่มเดินเครื่อง ก็ตะโกนสั่งว่า ชิดในทันที!

7. ผู้กำกับการแสดง เพราะผู้กำกับใหญ่ๆ เอะอะอะไรก้อ "เอาอีกเทค"

8. ดารา เพราะดาราชอบร้องไห้ (ร้องทั้งวันทั้งคืนก้อหมดอารมณ์กันพอดี)

9. นักเล่นกล้าม เพราะนักเล่นกล้ามหน้าอกใหญ่กว่าสาวๆ กลายเป็นปมด้อยของสาวๆเข้าไปอีก 555

10. นักเล่นหุ้น เพราะเดี๋ยวเกิดอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ตามหุ้น วันไหนไม่พอใจก็อาจขายทิ้งซะงั้น!!

11. พ่อครัวเบเกอรี่ เพราะถึงแม้จะน่าติดใจในรสชาติขนม แต่สาวๆพึงคิดนิดนึงว่า วันๆ พ่อครัวนั้น "ตี
ไข่" ไม่รู้ตั้งกี่รอบตีอยู่ได้ทั้งวัน!

12. ทนาย เพราะเอะอะอะไรทนายก็จะพูดแทนเราทุกอย่าง

13. ครู เพราะพวกนี้จะชอบสอนเป็นวิสัย สอนเสร็จก็มักจะถามว่า เข้าใจไหม ถ้าตอบว่าเข้า
ใจ ก็จะให้ "การบ้าน" ไปทำอีก แถมยังชอบบอกว่า เก่งมาก เอาอีก เอาอีก"

14. พนักงานแคชเชียร์ เพราะพวกนี้เวลากำลังยุ่งชอบบอกว่า "เข้าช่องถัดไปได้ไหมครับ"

15. พนักงานรถไฟ เพราะรถของพวกเขาร้องว่า "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง"

16. นักสนุกเกอร์ เพราะพวกนี้เล็งตั้งนาน แต่แทงทีเดียวลงหลุม




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 5 กรกฎาคม 2550 11:56:17 น.
Counter : 251 Pageviews.  

ข้อคิดดีๆที่มาจากความเจ็บปวด~~

ความรักเปรียบเสมือนหนึ่งลมที่พัดผ่านมา
ลมนั้นไม่มีตัวตนแต่ทำให้เราเย็นสบาย ลมทำให้เราลืมความรุ่มร้อนไปได้
เราเลยหน้าขึ้นรับลมนั้น อย่างมีความสุข

แต่ด้วยลมนั้นพัดมาพร้อมเชื้อโรค
เรายืนรับลมนั้นมากเกินไป
ลมนั้นทำให้เราเป็นหวัด

เมื่อเราเป็นหวัด อย่าลืมว่าหวัดไม่มียารักษา
มีแต่ยาบรรเทา
สิ่งที่จะทำให้เราหายหวัดได้เร็วและดีที่สุดคงไม่พ้นการดูแลตัวเอง
และใส่ใจกับตัวเอง รักษาตัวเองให้มากที่สุด เมื่อนั้น เราก็จะหายเอง ด้วยตัวเอง

ความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนแต่ทำให้เราสบายใจ
ความรักบางทีทำให้เราลืมความรุ่มร้อนไปได้
เราเปิดใจรับความรักนั้น อย่างมีความสุข

แต่ด้วยความรักนั้นจบลงด้วยความปวดร้าว
เรารักเขามากไป
มันทำให้เรายิ่งเจ็บปวดมากขึ้น

เมื่อเราเจ็บปวดจากความรัก อย่าลืมว่ามันไม่มีใครช่วยให้เราหายได้
คนเหล่านั้นมีให้แต่คำปรึกษา
สิ่งที่จะทำให้เราหายเจ็บได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการดูแลตัวเราเอง
รักและเอาใจใส่ตัวเองให้ดีที่สุด
สักวันหนึ่ง เราก็จะหาย และลืมความเจ็บปวดเหล่านั้นได้หมดสิ้น


****^-^****




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 5 กรกฎาคม 2550 9:17:00 น.
Counter : 225 Pageviews.  

1  2  

naisue
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หนุ่มโสด..โดนแฟนทิ้ง.มาแว้ว
Free Counter
TOP
เมื่อมีรักก็อย่าหลงจนงมงาย รักสลายจะเหมือนควายที่ลงแดง
อย่าลืมเม้นต์ด้วยนะจ้ะ
Friends' blogs
[Add naisue's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.