In Remembrance of The Special Muffy
Group Blog
 
All blogs
 

6-13 ตุลาคม เย็บที่นอนสุขภาพ





6-13 ตุลาคม 2553 Smiley





ไปหาพ่อพร้อมงานฝีมือผืนใหญ่
ซึ่งก็คือที่นอนสุขภาพ(ก้อนขนมปัง)
กันแผลกดทับ






นั่งคิดนอนคิดเรื่องทำอย่างไร
จะป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับกับพ่อนก
จะซื้อแผ่นที่นอนลมรังผึ้ง
ก็ไม่ใช่คำตอบที่ใช่สำหรับพ่อและสำหรับตัวเราเอง
กังวลเรื่องเหงื่อ ความร้อน ความชื้น
ถึงจะเปิดแอร์ก็ตาม
แต่แผ่นหลังของพ่อเหงื่อซ่ก




นั่งคิดนอนคิดจนได้คำตอบกับตัวเองว่า
ทำเองเหอะ....
มีไอเดียนิดๆ ในหัวอยู่แล้ว
คือก๊อปปี้แนวคิดจากเบาะนั่งที่เย็บให้พ่อแม่เดือนที่แล้ว

ถ้าจะลองขยายความกว้าง-ยาว
ก็น่าสนไม่น้อย ถึงตัวเองจะหอบแฮ่ก! ก็ตาม


เพื่อพ่อ สู้ สู้
Smiley







หนนี้กลับไปเยี่ยมพ่อเร็วกว่าเดิม
เพราะมีหลานสาวอีกสองคนที่บินไปล่วงหน้าก่อน(ช่วงปิดเทอม)
อาศัยทรัพยากรแรงงานเด็กนี่แหละในการช่วยยัดใยสังเคราะห์
ทุกก้อนต้องแน่นเปรี๊ยะ...........
ถึงตัวเองจะเย็บปิดยากแสนยากไม่เป็นไร.....ไม่ถอย...




และก็


ไม่เสร็จ....ทันตามที่ตั้งใจไว้

และก็


ไม่เป็นไร เดือนต่อไปตามเย็บให้เสร็จ
เพราะมีทั้งหมด มี 364ก้อน





เล่าถึงอาการพ่อบ้าง
พ่อจำหลานไม่ได้
รู้แต่ว่ามีเด็กสาวสูงโย่งสองคนเดินไปมาSmiley Smiley



รับรู้ว่านี่คือหลาน แต่ไม่รู้ใครเป็นใคร
หรือเป็นลูกของใคร
พอบอกว่าเป็นลูกใคร
ไม่ถึงห้านาทีพ่อก็ลืมอีกแล้ว






พอถึงตาตัวเอง
พ่อเกือบๆ จำไม่ได้
แต่ในที่สุดก็จำจนได้เพราะความคุ้นเคย


พ่อทำให้ลูกๆ ได้ยิ้มได้หัวเราะเป็นรางวัลก้อนใหญ่สำหรับลูกๆ


แต่บางทีพ่อก็งอแง


พ่อผอมลง

สังเกตว่าพ่อนอนน้อย





ดึกดื่นแค่ไหน
พ่อตื่นมาทีไรก็เจอฉันเย็บและเย็บ
พ่อมองมาและยิ้มคุยว่า
"ขี้ย้าขยันน่อ"
โอย ...ฉันปลื้มสุดๆSmiley



พ่อรู้อ่ะ...
ขอบตาฉันรื้น...อยากร้องไห้
รักพ่อจัง....Smiley



มันเขี้ยว
เลยลุกขึ้นไปกอดพ่อ กะหอมพ่อฟอดใหญ่
" อ ย่ า....." พ่อโวยลั่น
ฉันนี่โป้งพ่อเลยล่ะ ...ชิชะ
นี่แหละพ่อ เดาอารมณ์ยาก







ต่อ ต่อ
ซึ่งฉันคาดไม่ถึงว่าพ่อจะเข้าใจ
ฉันถามพ่อว่า ผ้าที่กำลังเย็บอยู่นี้ของใคร
พ่อบอก ของพ่อ ....
กิ้ว กิ้วSmiley





ยิ้มทั้งพ่อทั้งลูกเลย



นี่เป็นเบาะนอนของพ่อที่เย็บให้













ตั้งแต่เดือนตุลาคม
พี่ทั้งสองคนที่คอยดูแลพ่อ
ปรึกษาว่าอยากให้พ่ออยู่บ้าน
และพี่ทั้งสองจะพยามเรียนรู้วิธิกายให้พ่อ
ไปเฝ้าสังเกตุการณ์วิธีนวด วิธีฝึก




พ่อจะได้ไม่เหนื่อยในการเดินทางแต่ละครั้งSmiley



ถ้าบ้านอยู่เชียงใหม่ก็พอทำเนา
แต่นี่เราต้องเตรียมตัวแต่เช้า
เพื่อกายภาพพ่อบ่ายโมง
ไป-กลับ
ทั้งพ่อทั้งพี่เหนื่อยเพลีย
และมีแม่อายุ 80 กว่าๆ อยู่ที่บ้านคนเดียว
ซึ่งเคยหกล้มสะโพกหักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาแล้ว




เราพยามทำให้ใกล้เคียงกับเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด
หาหนังยางมาร้อยหนาๆ สำหรับโยงแขนพ่อขึ้นๆ ลงๆ
จ้างคนให้ทำลูกล้อสเก็ตมือ
หาลูกเทนนิสให้พ่อฝึกจับ ฝึกกำ
ดูพ่อมีความสุข ไม่เหนื่อย





แต่ก็ยังพาพ่อไปตามที่หมอนัด
โชคดีที่พ่อหม่ำเก่งSmiley



หม่ำไม่มีเหลือ Smiley



โจ๊กข้าวกล้องบดเอง เติมผัก เติมปลา

Smiley























 

Create Date : 28 มีนาคม 2554    
Last Update : 28 มีนาคม 2554 20:34:14 น.
Counter : 1815 Pageviews.  

9-15 กันยายน 2553 เย็บเบาะรองนั่ง(ขนมปัง)ให้พ่อ




9-15 ก.ย. 2553 Smiley



มาพร้อมเบาะรองนั่งขนมปังเย็บเองกับมือมาฝาก



ลูกนกมีของมาฝากพ่อนกจ๊ะ
ลูกนกตัวนี้จะแปลงร่างเป็น "นกฮูก"
เย็บประกอบหมอนรองนั่งให้
นั่งเย็บทั้งวันทั้งคืน
(เย็บให้พ่อและแม่ด้วย)









ตัดและเย็บเป็นผืนจากบ้านที่กรุงเทพ
แต่มาซื้อใยสังเคราะห์ + ผ้าเพิ่ม(เยอะ เห็นผ้าลายสวยอดไม่ได้)
มายัดเส้นใยให้แน่นปั๋ง



วันที่ 9 กย 2553
พี่สาวมารับที่สนามบินและรี่ตรงไปกาดวโรรส
ไปซื้อใยสังเคราะห์มายัดเบาะนั่ง
หวังดีเกินไปหน่อย วิ่งทางลัด
วิ่งไปวิ่งมาไปโผล่เส้นทางหนองหอยเลียบน้ำปิง
จวนจะถึงสารภีอยู่แล้ว


แต่ยังไงต้องขับกลับมาซื้อใยสังเคราะห์ให้ได้
เพราะเวลามีจำกัด
จากนั้นไปซื้อของกลับบ้านที่ห้างคาร์ฟูร์และกลับบ้าน





เหมือนเคย แกลังโผล่โดยไม่บอกให้พ่อรู้
พ่อก็เหมือนเดิม
ที่คิดว่าลูกนกตัวนี้อยู่กับพ่อตลอดเวลา




อยู่ที่ลำพูน
Smiley


จะทำหน้าที่ป้อนข้าว

Smiley


ป้อนน้ำ ป้อนนม(โยเกิร์ต)Smiley


ให้พ่อทุกมื้อ
และรับอาสาอยู่โยงเฝ้าดูแลพ่อไปด้วย
เย็บเบาะไปด้วย




ช่วงที่อยู่จะให้พี่ๆ ได้หลับพักผ่อนเต็มที่ไปเลย
ของเราค่อยไปซ่อมที่กรุงเทพก็แล้วกัน
(รู้ว่าชดเชยไม่ได้
แต่พี่ๆ ดูแลพ่อตลอดเวลา
ของเราแค่สัปดาห์เดียว/เดือน)





10 กย
เข้าสู่วันใหม่
ทำหน้าที่ลูกที่ดูเเลพ่อ
ขณะเดียวกันก็รีบไปขุดดินเตรียมดินให้แม่หว่านผักตังโอ๋
หนนี้ไม่ได้ลงสวนเต็มตัว
ยังขยาดริ้นร้ายอยู่เลย



แผลยังไม่หาย
วันดีคืนดี เจ้าแผลนี่ก็ประทุคันขึ้นมา
คืนที่สองนี้ คันมากจนต้องทานยาแก้แพ้(ขี้แพ้//www.bloggang.com/viewblog.php?id=mymuffy&date=11-07-2007&group=11&gblog=3 )
เจ้ากรรมคิดว่าเอายาแก้แพ้ของนอกแบบไม่ง่วงมา
แต่หาไม่เจอ(แปลว่าไม่ได้เอามา)
ก็ทานยาแก้แพ้สามัญ ที่ทานปุ๊ป คร่อกฟี้
หมดสภาพ



แต่หมดสภาพครึ่งคืน
พยายามปลุกตัวเองว่าตื่นมาทำหน้าที่ได้แล้ว
ให้พี่ๆ ได้พักผ่อนให้เต็มที่



เพราะงานดูแลพ่อนี่เหนื่อยมาก


11-15

อาการพ่อทั่วไป
พ่อยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
วันแรกพ่อคุยน้อยไปหน่อย
วันต่อมาคุยเยอะ คุยต่อยหอย
คุยทีไร ฉันฮาทุกที
แต่ก็ชอบแกล้งเล่นกับพ่อแรงๆ
พ่อบอกอย่าเล่นกับพ่อแรง...พอถามว่าจะให้เล่นอีกมั๊ย
พ่อบอกว่าเล่น


พ่อปากจัด!!!!


ชอบด่า eว่อก แต่ด่าขำๆ
เพราะว่าลูกๆชอบแกล้ง ชอบอำเหลือเกิน





สิ่งที่ชื่นใจที่สุดคือ
พ่อจะหวงและติดถุงมือที่ทำให้มาก
พ่อจะเรียกหาตลอดและสวมมันไว้เสมอ
โชคดีที่ทำไว้ 2 อัน



เบาะนั่ง พ่อจะลูบคลำ
และคอยถามหา
จะใช้รองที่นั่งบนรถเข็นของพ่อ




ส่วนเบาะนั่ง
ในภาพ ยังเป็นเบาะที่ไม่สมบูรณ์ ยังไม่กุ๊นขอบข้างเลย








แต่ถ่ายภาพไว้ก่อน เพราะกลัวว่าทำเสร็จแล้วจะเกิดเหตุการณ์ที่
ไม่สามารถบันทึกไว้ได้
และเป็นจริงอย่างที่กังวลไว้เลย

เพราะกว่าจะกุ๊นเสร็จก็เช้าตรู่วันที่ที่จะบินกลับ
และทั้งวันทั้งคืน Smiley
ฝนก็ตกSmiley
จนไม่สะดวกที่จะถ่ายภาพเก็บไว้Smiley







*** เหตุการณ์ไม่มีวันลืม

1 Smiley ฟ้าผ่า Smiley บ้านหลังถัดไป แต่ใกล้มาก ตื่นเต้น

2 คืนก่อนกลับ เจ้าที่เจ้าทางหยอกเล่นเกือบทั้งคืน Smiley

ดั๊นลืมขอหวยซะนี่





Smiley
ฮักป้อน่อ




























 

Create Date : 28 มีนาคม 2554    
Last Update : 28 มีนาคม 2554 20:30:24 น.
Counter : 1854 Pageviews.  

10-16 สิงหาคม 2553 มีถุงมือวิเศษเย็บเองมาฝาก





10-16 สิงหาคม Smiley




มีถุงมือวิเศษเย็บเองมาฝาก Smiley




ก่อนมาเยี่ยมพ่อครั้งนี้ ได้ใช้เวลาที่มีจำกัด
(หกโมงเช้า-แปดโมงครั่ง / สี่โมงครึ่ง-จนกว่าท้องฟ้ามืด)
ตื่นเช้าตรู่ประมาณตีห้ากว่า
ล้างแปรงฟันทำธุระส่วนตัวเสร็จ
พอให้มีแสงสว่าง ก็จัดแจงตั้งหน้าตั้งตาเย็บถุงมือให้พ่อ
สงสารพ่อที่มักใช้มือขวาเขย่าเหล็กกั้นขอบเตียง
และมักเอามือเคาะเหล็กกั้นมั่ง รถเข็นมั่ง




จะทำยังไงไม่ให้มือพ่อเจ็บ??

ห้ามพ่อเป็นวิธีที่ง่าย
แต่ยาก..เพราะพ่อยังหลงๆ อยู่




ต้องบอกว่าจริงๆ ตั้งใจเลิกทำงานฝีมือเย็บผ้าด้วยมือ
หลังจากสายตาเสื่อมเพราะไปสม็อคกระเป๋าแดง ที่เป็นตารางถี่ยิบ
จนต้องอาศัยแว่นสายตายาว Smiley
ในการอ่านหนังสือ
และสายตา ก็มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
(บ่งบอกความสูงวัย)




แต่ครั้งนี้เพื่อพ่อ
ก็หันมาจับเข็มเย็บเองอีกครั้ง
ใส่ความตั้งใจเข้าไปอย่างเต็มที่


ดูวิธีทำได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pitchamae&month=08-2010&date=25&group=4&gblog=11








Smiley


จนได้มาเป็นถุงมือหน้าตาแบบนี้ให้พ่อ










ขี้เหร่ไปน่อย ..... น่อป้อน่อ.....









และก็จะมีถุงมือชิ้นอื่นๆ ตามมาอีก
ดูวิธีทำที่





วันที่ 10 (tue)
กลับมาหนนี้ไม่ตรงกับวันที่ต้องพาพ่อไปกายภาพ
แม้วันถัดไปจะเป็นวันพุธที่ 11 แต่ที่แผนกกายภาพปิดครึ่งวัน
ต่อเนื่องวันแม่
Smiley
และเช้าวันจันทร์ก็ต้องกลับกรุงเทพแล้ว


เมื่อซื้อข้าวของ ผ้าอ้อมต่างๆ เสร็จ
แวะซื้อมะม่วงให้พ่อแม่ระหว่างทางเชียงใหม่ลำพูน
โดยวิ่งเส้นทางสายใน
มาถึงบ้าน
ย่องไปยืนหน้าต่างด้านหลัง
ห้ามใครบอกว่าจะกลับบ้าน เพราะอยากจะดูปฏิกริยาของพ่อ
พ่อเห็น พ่อยิ้มนิดๆ Smiley


และพยักเพยิดหน้าให้เข้ามา



พ่อไม่แปลกใจ
เพราะตลอดเวลา

พ่อจะรู้สึกว่าฉันอยู่กับพ่อที่บ้านตลอดไม่ไปไหน
อยู่ห้องครัวมั่ง อยู่หลองข้าวมั่ง ปลูกผักดายหญ้าที่หน้าบ้านมั่ง



วันนี้เป็นวันวิเศษมาก
พ่อหัวเราะ!!!!! Smiley


ชนิดท้องคัดท้องแข็ง


ทำไมถึงวิเศษ สำหรับลูกๆ.........
เพราะตั้งแต่พ่อไม่สะบาย พ่อไม่เคยหัวเราะ
พ่อทำได้แค่ยิ้มๆ นิดๆ (ปากไม่ค่อยเบี้ยวแล้ว)
พ่อไม่ได้ขำฉันหรอก
พ่อขำพี่สาวคนที่ทุ่มดูแลพ่อ



มีพี่สาวถัดจากฉัน ตัวฉันและหลานสาวอ้วนสามคนนี้เท่านั้น
ที่ทรีตพ่อเหมือนพ่อเป็นเด็ก
พี่สาวเขานั่งล้างชามและทำปากจู๋ล้อพ่อ
Smiley




พ่อเห็น พ่อเริ่มยิ้มและหัวเราะ(ไม่มีเสียง)อย่างเต็มที่
พร้อมทำปากจู๋ตาม
Smiley
Smiley Smiley





พวกเราเห็นก็ดีอกดีใจ
ทั้งที่ความตั้งใจแต่แรกของฉันคือเตรียมออกไปปลูกผักSmiley


ฉันงดกิจกรรม เพราะอยากเห็นพ่อยิ้ม เห็นพ่อหัวเราะ
อ้อ! เพาะถั่วงอกได้อย่างเดียว ทานขนมเส้น(จีน)น้ำเงี้ยว




วิธีทำถั่วงอกSmiley
ดูได้จาก
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pitchamae&group=10










วันที่สอง (11 สค)
ขอแทรกเรื่องความตั้งใจที่พกมา แต่ล้มเหลวแถมกลับกรุงเทพ
ด้วยสภาพ


อุ-บ-า-ท-ว์




-ลงสวนได้แค่วันเดียว เนื่องจากตัวริ้นกัด
-งานฝีมือถุงมือชิ้นต่อไป เตรียมอุปกรณ์ไปพร้อม
ปรากฏว่าสภาพไม่อำนวย
-แพ้ริ้นขนาดหนัก เจ็บใจที่ว่าไม่เห็นตัวริ้น
กว่าจะรู้จักหน้าค่าตาของมัน
ก็สังเวยเลือด ที่แข้ง ขา แขน เนื้อตัว






เฉพาะแข้งขาข้างเดียว 50 กว่าตุ่มแผล
คิดดูว่าขามีสองข้าง จะน่าเกลียดขนาดไหน
กรี๊ดดด ...เขียนกรี๊ดไปงั้นแหละ Smiley Smiley กรี๊ดไม่เป็นกะเขาหรอก
(มันกัดไม่กี่จุด แต่แพ้เลยเกาจนลามไปทั่ว)
* ขออภัย งดภาพประกอบ ทีนี้ล่ะขาลายของแท้
ปกติยุงกัดแพ้ 15 วันแผลหาย
แต่นี่ แง๊ แง๊ มันอะไรกัน แผลตุ่มยังประจานอยู่เลย *





แถมต้องคอยเตรียมระวังภัยน้ำท่วม
ขนข้าวของไปชั้นสอง(ที่ไม่มีใครขึ้นไปนอน)
อีกส่วนก็เตรียมไว้หลังรถกระบะ Smiley

ของส่วนใหญ่
เป็นของใช้ที่จำเป็นของพ่อและของแม่อีกนิดหน่อย
มีกังวลว่าน้ำจะท่วมห้องของพ่อ ซึ่งคับแคบอยู่แล้ว
ฝนตกพื้นแฉะ และยุงเพียบ
เถอะน่า!! ....ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
ไปในทางที่ดีขึ้นของพ่อ ก็คุ้มแล้วล่ะ





วันที่สาม (12 สค)
วันแม่ Smiley
กราบเท้าแม่ และเริ่มสอยผ้า ทำได้หน่อยเดียวต้องหยุดทำ เพราะไม่สะดวกหลายๆอย่าง
เก็บไปทำต่อที่กรุงเทพ
หันไปทำกายภาพแบบง่ายๆ ให้พ่อ




วันที่ 16 ถึงเวลาปิ๊กไปกรุงเทพ ทำงานต่อละ
ขอสุมาพ่อ ที่ต้องออกบ้านแต่เช้าแปดโมงกว่า
ไปส่งขี้ย้าขึ้นเครื่องสิบโมง
และต้องเตร่ในวัดสวนดอก
รอจนถึงบ่ายโมงเพื่อไปกายภาพ
(จองตั๋วล่วงหน้าก่อนจะรู้ตารางกายภาพของพ่อ)

ยิ่งเกายิ่งมัน ยิ่งคันยิ่งเกา
ยาแก้แพ้ที่ติดตัวไปด้วย ก็ยั้งไม่อยู่





*27 สค พ่อยกขาซ้ายขึ้นเอง
*29 สค พ่อทำให้ขี้ย้ายิ้ม+ฮึ่ม!!!!
*29 สคตอนดึก รายงานข่าวจากคุณดารีบอกว่า พ่อหัวเราะ เสียงดังด้วยล่ะคราวนี้



ฮักป้อน่อ Smiley


















 

Create Date : 28 มีนาคม 2554    
Last Update : 28 มีนาคม 2554 20:27:25 น.
Counter : 394 Pageviews.  

12-19 กค 2553 เตาะแตะ เตาะแตะ เตาะแตะ




12-19 กรกฏาคม 2553 Smiley


ลูกนกบินไปหาพ่อนกอีกครั้ง
(พ่อบอกว่าพ่อเป็นพ่อนก)


อาการพ่อดีขึ้น
ร่างกายพ่อผ่ายผอม แต่เรี่ยวแรงเยอะเหมือนเดิม
และดูเหมือนมากกว่าเดิม
ที่ชื่นใจคือ พูดคุยรู้เรื่องมากขึ้น ไม่ถึงกับเป็นปกติ
แต่สำหรับลูกที่เฝ้าดูแลพ่อ พัฒนาการเพียงนิดหน่อย...
เป็นยิ่งกว่ายาชูกำลังที่แสนวิเศษสำหรับพวกเรา




พวกเราจะคอยสะกิดกันดูพ่อเวลาอ้าปากรอโยเกิร์ต
พ่อน่ารัก...น่ารักมาก
เราจะบอกว่าดูลูกนกกินข้าวสิ
พ่อก็จะบอกว่า ไม่ใช่ลูกนก...แต่เป็นพ่อนก
(พ่อยังไม่สามารถทรงตัวนั่งด้วยตัวเอง นั่งได้แต่รถเข็น)



ที่เรายิ้มขำปนเอ็นดู
เพราะอาการทางสมองพ่อยังไม่ปกติ
บางครั้งพ่อจะคุยเป็นเรื่องเป็นราว ธรรมมะ ธรรมโม
บ่อยครั้ง พ่อจะหลุดและหลง
เราก็ดูแลพ่อกึ่งผู้สูงอายุวัยชรา กึ่งเด็ก



ทุกวันพี่สาวจะทักจ๊ะเอ๋ เล่นกับพ่อ
แต่หลายวันที่ผ่านมา เพลียกันเหลือเกิน
ก็เลยลืมที่จะทักทาย
ขณะที่พี่ๆ ประคองพ่อให้ลุกขึ้นนั่ง
พ่อก็จะโผล่หน้าแล้ว จ๊ะเอ๋
ทำให้พวกเราเกิดอาการ งงๆ และหัวเราะก๊าก
คาดไม่ถึงว่าพ่อจะมา จ๊ะเอ๋แบบเด็กๆ (ปกติลูกๆจะเล่นกับพ่อ)


พูดถึงเรื่องที่พ่อต่อรองคือ
ขอโยเกิร์ต ขอผลไม้ ขอขนม SmileySmileySmiley
อะไรก็ได้หวานๆ หน่อย
ซึ่งบางครั้งเวลาให้ทานแล้ว
พ่อจะเคี้ยวๆ แล้วคายกากออก



บางทีก็ขอให้พาไปนั่งรถเข็น ไปนั่งข้างนอกซึ่งอากาศเดี๋ยวนี้ร้อนอบอ้าว
ไม่สดชื่นเหมือนอดีต แม้ฝนจะพึ่งหยุดตกก็ตาม
พ่อไม่ออกมาเปล่า แต่พ่อจะมานั่งหลับ
ดูพ่อมีความสุขตามประสาของพ่อ
แต่วันที่ฉันเตรียมแปลงปลูกผักSmileySmiley



บรรยากาศครึ้มฟ้ายามเย็น
พ่อลืมตาดูตลอด และหลังจากนั้นพ่อจะขอให้พาไปยังจุดแห่งนั้น

กลับมาคราวนี้ สิ่งที่ยังคงเดิมคือ พ่อยังร้องโอยเหมือนเดิม
ตื่นตอนกลางคืน หลับช่วงเช้าตรู่

--------



ทุกคืน
จะนั่งและนอนข้างๆพ่อ เวลาพ่อโอยจะได้ช่วยเบนความสนใจ
เพื่อไม่ให้พ่อส่งเสียงดังมากนัก
ถ้าพ่อร้องติดๆ กัน ก็จะประคองพ่อให้ลุกนั่งและนวดตัวให้พ่อ
เป็นการกายภาพไปในตัว Smiley


โดยเฉพาะซีกซ้าย

สังเกตดูหลังเที่ยงคืน พ่อจะร้องโอยติดๆ กันโดยไม่หลับไม่นอน
พ่อจะชวนคุยนู่นนี่ ไม่เป็นสาระ นึกอะไรได้ก็พูดไปเรื่อยเปื่อย
ฉันมีหน้าที่ เออ-ออ ตามแล้วแต่พ่อชวนคุย
ส่วนใหญ่ฉันจะเส้นตื้นมากกว่า...หัวเราะไม่หยุด
(บาบจัง...)
ฉันกลัวผีนะ.... มีเหวอเป็นบางช่วง
เพราะพ่อชอบกวักมือเรียกใครไม่รู้ ฮือ ฮือ...
แล้วแต่พ่อจะจินตนาการหรือนึกชื่อได้ ให้เข้ามาSmiley




บางทีก็เอามือถือSmiley


มาถ่ายพ่อ เอากล้องมาอัดเทป
Smiley




ในห้องเล็กๆ ของพ่อ (เดิมคิดจะใช้เป็นห้องครัว
มีเตียงไม้ของพ่ออายุครึ่งศตวรรษ
แต่เมื่อพ่อป่วยจึงซื้อเตียงพยาบาล
อำนวยความสะดวกการนั่งการนอนของพ่อ
และคนดูแลจะได้ไม่เหนื่อย

มีการอุ้มพ่อย้ายเตียงนู้นนี้ที
พ่อติดเตียงเก่า แต่ก็หวงเตียงใหม่
จะได้เล่นอังกะลุง เขย่าโดยไม่เหน็ดไม่เหนื่อย
คนอุ้มก็เดี้ยง แฮ่ก!



--------

คืนที่ 16
นอนข้างๆพ่อเช่นเคย
เวลาพ่อร้อง ฉันก็รีบเอามือปิดปากพ่อ ทั้งที่มืดๆ
ได้หัวเราะอีกแล้ว
เพราะพ่อบอกว่ามือไม้ฉันแม่นจัง
ปิดปากแต่ละครั้ง พ่อจะพูดๆ
แต่คนฟังอย่างฉันมันเส้นตื้น....
ขำทุกอย่างที่พ่อพูด ฯลฯ


คืนที่ 17
ฉันเปลี่ยนวิธี
ประคองพ่อนั่งและบีบนวด เหวี่ยงแขน
พ่อผล็อยหลับ ฉันรีบขยับพ่อให้นอนท่าสะบายๆ
แต่ก็ยังยกเท้าซ้ายขึ้นลง จนแน่ใจว่าพ่อหลับสนิทจริงๆ
คืนนั้น พ่อหลับปุ๋ยสะบาย
ส่วนฉันต้องนั่งเป็นนกฮูฏ คอยเฝ้าสังเกตพ่อ
คืออยากรู้วิธีที่กำลังทำจะได้ผลหรือเปล่า




พอฟ้าสางล้างหน้าแปรงฟันก็รีบไปดายหญ้ายกแปลงปลูกผัก
เพราะเวลาจำกัดจำเขี่ยมาก
อดทนเอา ถึงเป็นวิธีที่โง่ ว่ายังไงก็ควรจะพักผ่อนบ้าง
แต่คิดอย่างเดียวว่า ไม่เป็นไร
เดี่ยวกลับกรุงเทพ จะพักผ่อนยังไงก็ได้



คืนที่ 18 คืนสุดท้าย
สิ่งที่พยามลอทำคืนที่ผ่านมา ได้ผลเฉพาะคืนๆ นั้น
แต่ไม่ใช่สำหรับคืนๆ นี้
ฉันของีบ 30 นาที
เพลียสาหัส เร่งทำสวนให้เสร็จ(แต่ไม่เสร็จ)
และจะลุกขึ้นมาดูแลพ่อต่อ

พ่อก็เป็นเหมือนทุกๆ คืน
จนรุ่งเช้าราวตีสี่กว่าๆ
เมื่อเห็นพ่อง่วงจัด ตาปรือๆ
ก็เลยย่องมานอนเตียงเล็ก


ตุ๊บ! อุ๊ปส์!!
ทีนี้ทั้งพี่(ปูเสื่อนอนกับพื้นห้อง)และตัวฉันรีบควานหาตัวพ่อกันใหญ่
พี่สาวรู้ตัวก่อนเขกกระโหลกฉันเบาๆ
เพราะพ่อนอนบนเตียงพยาบาลหลับปุ๋ย
ตัวฉันนั่นแหละ ตกเตียง(ไปได้ไง)

(กลับกรุงเทพ ก้นเขียวปั๊ด)




วันนี้ 26 กค(คืนที่ผ่านมา โทรถามพี่ๆ)
พ่อยังร้องโอยตลอดทั้งคืน
หรือไม่ก็ปลุกเรียกลูกชวนคุยอะไรก็ตามแต่
ที่พ่อนึกได้
หลักๆ พ่อมักจะบอกว่า พ่อฝัน....ไปเรื่อย
บางทีนั่งคุยกันอยู่ดีๆ หัวเราะสนุกสนาน
พ่อก็บอกว่า “ปี้ ปี้ (พี่) พ่อฝัน”
เราก็จะถามว่าฝันอะไร
พ่อบอกว่าฝันถึงโยเกิร์ต เรื่องของเรื่องคือ
พยามจำกัดจำนวนการกินต่อวันไม่ให้เกิน 3 กล่อง
เพราะกลัวน้ำตาลและพ่อจะติดหวาน
ซึ่งแนวโน้มเป็นอย่างนั้นจริงๆ
เดี๋ยวรอดูว่า ช่วงกลางวันพ่อเป็นยังไงบ้าง !!!



...........................................




Smiley


วันที่มา มาไฟลท์เช้า(ตั๋วล่วงหน้า)ไม่รู้จะทำอะไร
พอดีรถแดงผ่านมา Smiley


จึงโดดขึ้นรถไปเซ็นทรัลแอร์พอร์ท
เดินดูของที่จำเป็นให้พ่อ
และถือเป็นการรอพี่สาวมารับก่อนบ่ายโมงนิดๆ
เพราะตารางกายภาพพ่อเริ่มบ่ายโมง จันทร์และพุธ




เดินดุ่มไปดูรองเท้าให้พ่อ
หมายตารองเท้าอยู่หลายคู่หลายยี่ห้อ
เน้นรองเท้าเพื่อสุขภาพ
แต่พอได้ลองจับ โอยยย น้ำหนักใช่เล่น
ไม่รู้หรอกนะ ว่ารองเท้าเพื่อสุขภาพควรจะเป็นแบบไหน



แต่ที่หาดูไม่ค่อยมียี่ห้อไหนที่น้ำหนักเบา
และเหมาะกับสภาพพ่อ
ที่กำลังฝึกเดิน(แบบไม่จริงจัง เพราะยังนั่งไม่ได้)
ท้ายสุดหมายตา Scholl
แต่เป็นรองเท้าสวมทั่วไป
น้ำหนักเบา แบบปรับระดับส่วนหัว ส่วนกลาง
และส้นเท้าสามารถถอดออกได้
ก็เกาหัวว่า จะพอดีกับเท้าพ่อยังไง

และลงเอยที่ว่าหลังจากเสร็จกายภาพ
จะพาพ่อนั่งรถเข็นมาลองสวมดู
หึ หึ พ่อของเรา ... จะออกฤทธิ์เดชรือเปล่าไม่รู้
(ร้องโอย หรือเคาะที่เท้าแขนรถ)


ลุ้นจ๊ะ ลุ้น ...



เวลามีจำกัด
เพราะไม่แน่ใจสถาพของพ่อ จะงอแงหรือเปล่า
จึงรีบแยกย้ายกันไปทำธุระ
โดยพี่สาววิ่งจู๊ดไปซื้อของที่ท๊อป




ฉันก็เข็นพ่อไปแผนกรองเท้า
เข็นไประวังไป ว่าเท้าพ่อจะตกบันไดเท้ารถเข็นหรือเปล่า
ระมัดระวังพ่อจะส่งเสียงร้องโอยด้วยความเคยชิน
แต่ไม่เลย....พ่อรู้ว่ามาซื้อรองเท้าให้พ่อ ได้สวม ได้ลอง
พ่อกลายเป็นคนสมาธิสั้นเหมือนเด็ก ลองได้แป๊ปเดียว
ก็เริ่มคว้ารองเท้าที่วางโชว์ใกล้ตัว เอามาเคาะเล่น

ระหว่างที่เข็นพ่อกลับไปที่รถ
พ่อชี้โน่นนี่
ดูจากสายตาพ่อแล้วคิดว่าพ่อคงอยากได้
ถึงไม่เอ่ยปาก
พ่อเป็นเด็กดีมาก เกินคาด


Smiley






พ่อเห่อScholl คู่ใหม่ไม่น้อย
เหลือแต่กางเกง
ที่จะต้องหาซื้อตัวใหม่ให้พ่อ
หาตัวที่พอดีกับผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่พ่อใส่



กลับมาอีกครั้งวันพุธ
รู้สึกพ่อติดใจกับการออกมาเจอโลกใหม่หลังจากเจ็บป่วย
ที่มีคนเดินไปมาเยอะแยะ
วันนี้เลือกซื้อกางเกงให้พ่อสองตัว Smiley
คิดว่าพ่อคงไม่รู้


แต่พอก้าวออกจากห้าง
พ่อก็ถามว่าเอากางเกงสองตัวของพ่อมาด้วยหรือเปล่า
เรารึก็แอบงง ไม่คิดว่าพ่อรู้ว่าเราซื้อกางเกงมาให้
นั่นไง! อย่ามองคนป่วยไม่ประสีประสาล่ะ
และพ่อแอบหวงด้วยล่ะ
กลับถึงบ้าน ตอนกลางคืน
พ่อยังขอดูกางเกงที่ซื้อมาอยู่เลย


-----------





ฮักป้อน่อ

Smiley



























 

Create Date : 28 มีนาคม 2554    
Last Update : 28 มีนาคม 2554 20:25:01 น.
Counter : 219 Pageviews.  

ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้ากับการพัฒนาการของพ่อ



ย่างสู่เดือนที่ห้า Smiley



26-28 มิย. 2553
กลับมาหาพ่ออีกครั้งห่างจากครั้งที่แล้วสิบวัน

ตลอดเวลาคิดถึงและห่วงพ่อมาก
ห่วงคนเฝ้าดูแลด้วย
เหตุการณ์แต่ละวันที่ผ่านไปดูเหมือนจะเหมือนๆกัน
แต่จริงๆแล้วไม่เหมือนเลย
ต้องคอยเฝ้าดูพ่อตลอด
อาจห่วงเกินเหตุ



เราไม่รู้ว่าผู้ป่วยที่มีอาการแบบเดียวกับพ่อเป็นอย่างไร
แต่สำหรับพ่อแล้ว ไม่ค่อยยอมหลับนอนและจะร้องเสียงดังทุกคืน
ความเกรงใจเพื่อนบ้านก็ทวีขึ้น


อาหารการกินของพ่อ
จะเป็นพวกข้าวต้ม โจ๊กมีทั้งปลาและหมู ผัก
แต่พ่อจะเลือกกินโยเกิร์ตและพุดดิ้งและนมเปรี้ยว
ทั้งหมดเป็นสิ่งที่พวกเรากลุ้มมาก
เพราะอย่างอื่นพ่อไม่รับเลย





เรากังวลเรื่องสารอาหาร
โดยเฉพาะจะเน้นโปรตีนจากปลา
ถ้าเป็นเนื้ออื่นเกรงจะไปสะกิดสะเกาให้ความดันกำเริบ
กลัวว่าพ่อจะติดหวาน
ไม่อยากให้พ่อกลับไปนอนป่วยทรมาน
อยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลอีก




-------------------


วันที่ 26 มิย.เช้าวันเสาร์


เป็นวันที่พี่สาวพาพ่อไปพบคุณหมอภาณุเมศตามนัด
ฉียจับไฟลท์ไปเชียงใหม่เช้าวันนั้น
แล้วนั่งแท็กซี่เข้าศรีพัฒน์ไปหาพ่อ
หมอให้ จนท เจาะเลือดพ่อเป็นลำดับแรก
และเช็คการเต้นของหัวใจ
จะได้ไม่เสียเวลารอคอย



วันนี้พ่ออารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ใครพูดอะไรก็จะพูดตาม(แบบขอให้ได้พูด เหมือนเด็กช่างพูด)


มอถามว่าพ่อทานข้าวได้เองรึยัง!!!!
พวกเราเกิดอาการงง
เพราะตลอดเวลาเป็นความเข้าใจผิดของพวกเราโดยเฉพาะตัวฉัน
ที่ต้องการเน้นพ่อให้กินอาหารที่มีปลา
แต่ที่บ้านทำกับข้าวเก่งเกินไป
อดเห็นใจคนป่วยไม่ได้
พ่อจึงเกิดอาการเบื่อ
และลูกๆ ปราถนาดีเกินเหตุ
ที่ต้องคอยป้อนพ่อตลอดเวลา



พัฒนาการพ่อจึงไปไม่ถึงไหน
ไม่รู้ว่าหมอแอบผิดหวังบ้างหรือเปล่า???
แม้แต่นั่งด้วยตัวเอง
หมอถามว่าพาพ่อกายภาพที่ไหน
ก็ตอบหมอว่าที่สวนดอกเฉพาะจันทร์ และ พุธ


ทุกวันนี้พ่อยังหลงๆ อยู่บ้าง แต่ดีขึ้น
พ่อคิดว่าตัวเองนั่งได้ เดินได้ ทำอะไรด้วยตัวเองได้
แต่เมื่อทำไม่ได้พ่อก็จะหงุดหงิด ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
และเกิดอาการน้อยอกน้อยใจบ่อยๆ


หมอบอกว่าผลเลือดออกมาแล้วปกติ
หัวใจเต้นเร็วไปหน่อย
หมอถามว่าจะนัดหมออีกเมื่อไหร่ดี เดือนหรือสองเดือน
ฉันตอบสองเดือน(ฮ่า! )
เพราะพ่อมากายภาพบ่อยอยู่แล้ว



กลับจากโรงพยาบาลจึงไปซื้อโจ๊กและไก่อบที่สมเพชร
ในใจภาวนาขอให้พ่อกินอาหารที่ปกติได้
ลุ้นสุดกำลัง
พ่อไม่ทำให้ผิดหวัง
เคี้ยวตุ้ยๆ บางครั้งก็กลืน บางครั้งก็คายออก


วันนี้พ่อถามหาของกินอย่างอื่นด้วยล่ะ
พวกเราใจชื้น
อย่างน้อย พ่อจะได้มีอาหารหลากหลาย
พ่อถามถึงขนมเค๊ก ถามขนมอย่างอื่นอีก
(ถามแต่ขนม)


................

วันต่อมา 27

พวกเราทานเส้นหมี่ผักบุ้งปลาหมึก
เราเลยหยอดเส้นหมี่เข้าปาก
พ่อเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย แถมถามหาน้ำจิ้ม
ก็เลยเอาน้ำจิ้มที่เจือน้ำซุปไม่ให้รสจัดเกินไป
แต่ผิดคาด
พ่อสั่งให้เติมเกลือ เติมพริก เติมมะนาว
พ่อเอานิ้วจิ้มน้ำจิ้มไปแตะลิ้นจนพอใจ
ปรากฏว่าพ่อทานเส้นหมี่ ผักบุ้งไปชามย่อมๆ

ฉันเตรียมทิชชูให้พ่อเช็ดปากทำความสะอาดตัวเอง
พ่อทำได้ดีทีเดียว



เสียดายที่ว่าวันที่ 28
ฉันต้องกลับกรุงเทพ แต่เลือกไฟลท์เย็น
จะได้อยู่เป็นเพื่อนพ่อทำกายภาพ
แต่ก็ได้ชำผักบุ้งที่หน้าบ้านไว้จำนวนหนึ่ง
วันนั้นหมอปกรณ์ให้พ่อไปวัดขาที่ช่วยซัพพอร์ตน่องช่วยในการยืน
กว่าจะเสร็จก็เกือบบ่ายสาม
จึงตัดสินใจให้พ่อกลับบ้าน
แวะซื้อก๋วยเตี๊ยว โจ๊ก ไก่อบให้พ่อและแม่



พี่สาวขับรถมาส่งที่สนามบินประมาณบ่ายสาม แต่บินหกโมง
หาร้านนั่งจิบกาแฟรอนกแอร์เปิดเคาร์เตอร์ให้เช็คอิน

ได้เวลาก็ขึ้นไปรอเครื่องที่เกท
ไม่บอกก็รู้ว่ามีคนหน้าตาขี้เหร่นั่งสัปหงก(หูย ทำไปได้)
นับเป็นหนที่สองที่ฉันมีความสามารถนั่งสัปหงกต่อหน้าสาธารณชน
ขณะคิดว่า เฮ่ย นั่งสัปหงกไปได้ อายเขา ไม่ทันจบประโยค
หัวก็สัปหงกอีก


ไม่เป็นไรหรอกนะ
เพราะตลอดเวลาเราอาสานั่งเฝ้าพ่อตลอดคืน
คอยคุยและพยามโน้มน้าวไม่ให้พ่อส่งเสียงร้องกลางดึกดื่น
ปล่อยให้พี่ๆ นอนพักผ่อนให้เต็มที่
เพราะเขาจะได้พักก็ตอนที่ฉันมาเยี่ยมนี่แหละ

สภาพก็ซอมบี้เห็นๆ





Smileyเพื่อพ่อ ขี้ย้าบ่หวั่น น่อป้อน่อ























 

Create Date : 28 มีนาคม 2554    
Last Update : 28 มีนาคม 2554 20:14:12 น.
Counter : 293 Pageviews.  

1  2  3  


สหายนก
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มัฟฟี่เป็นลูกสุนัขตัวย่อมๆ มีขนยาวสลวยนุ่ม
มีอายุขัย 8 ขวบปีก่อนที่จะจากโลกไป
ด้วยโรคไต โรคหัวใจและตับ

มัฟฟี่รักแม่ แม่เป็นดวงใจของมัฟฟี่
และแม่ก็รักมัฟฟี่ มัฟฟี่เป็นดวงใจของแม่

Friends' blogs
[Add สหายนก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.