แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ.......เสียใจแค่ไหน บอกได้คำเดียว.....
เห็นว่าเพลงนี้อยู่ในกระแส เลยขอให้เพื่อนส่งมาให้ฟังหน่อยและนี่คือค่าแลกเปลี่ยน มันบอกร้องไห้มันหน่อยลงบล้อกง่า ฟังแป็บๆเอง เอาไงเอากันฟระอายเป็นอาย เพราะไม่มียางเหลือแล้ว..55อ่ะเอาไป ร้องให้ละ ว่าแต่ฟังต้นฉบับเพราะกว่าไหมแกเรื่องของความรู้สึกทางหัวใจเนี่ย เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากวันนึงสุข ก็สุขกว่าคนทั่วไปร้อยเท่าวันนึงเศร้า ก็เสียใจทรมานมากกว่าคนอื่นเป็นพันเท่าณ ช่วงเวลานั้น ถือว่าเป็นช่วงเปราะบางของจิตใจมากการได้พูด ได้ระบาย จะช่วยได้มากพยายามอย่าจมกับโลกที่เราสร้างไว้ขังตัวเองกับความเศร้านั้นคงไม่มีใครที่สมหวัง สมบูรณ์ไปซะหมดทุกคนก็เศร้าผิดหวังได้เช่นกันและทุกคนก็เข้มแข็งและยืนหยัด สู้กับความปวดร้าวนี้ได้ดีพอๆกันไม่ใช่เราคนเดียวที่เจอเรื่องร้ายๆแบบนี้อยากตาย...ขอให้หยุดแค่ความอยากแล้วมาเกิดใหม่ เป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งเดินหน้าต่อไปคนที่ทิ้งเราไปคงไม่สนใจหรอกว่าเราจะอยู่หรือตายถ้าจะเอาชนะในครั้งนี้ต้องยืนให้อยู่ ให้คนนั้นได้เห็นเห็นว่าเราก็เข้มแข็งและสง่างามเหมือนกันแม้ว่าจะโดน...แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจฟังที่หน้าคอมเม้นท์นะครับ เพลย์ง่ายกว่าเยอะ...ป.ล. ร้องซ้ำคนอื่นขอโทดนะครับ...ไม่ตั้งใจครับผม
อย่าไปเสียน้ำตา....ให้บางสิ่งที่มันไม่กลับคืนมา
ทิ้งบล้อกหนีหายไปเป็นชาติอีกแล้วเรา...ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเพื่อนๆในบล้อกนี้ด้วยพอดีมันยุ่งสุดๆ เพิ่งจะว่างๆมาเนี่ยแถมบางครั้งก้ล้อกอินไม่ได้เหมือนระบบไม่ทำงานเลยหนืดๆ ไม่ค่อยมาอัพเท่าไหร่แถมพักนี้ไม่ได้ซ้อมเสียงเลยเวลาร้องแล้วมันแย่ก็ไม่อยากร้องเนอะอายเค้า มีแต่คนเสียงดีๆกันแต่ก็หน้าด้านเอามาลง ถือว่าอย่างน้อยก็ไม่กินแรงเพื่อนแลกกันฟังละกันครับคนเราเวลาเจอเรื่องหนักๆท้อแท้บางครั้งก็หวั่นใจว่าจะผ่านมันไปได้ไหมผมคิดเสมอถึงวันที่ปัญหามันคลี่คลายลงอยากกะโจนไปวันนั้นเลยเหมือนข้ามเวลาไปช่วงร้ายๆจะได้จบๆผ่านไปสักทีแต่มันก็ได้แค่คิดวันนี้ เมื่อเราทนและผ่านมันมาได้ย้อนกลับไป...อืม อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าเราเนี่ยก็แกร่งนะ ที่ว่าจะทนไม่ไหว ก็ไหวแถมได้เรียนรู้กับการรับมือกับเรื่องเหล่านี้ด้วยบางทีก็ได้เจอคนรู้จักที่กำลังเป็นแบบเราตอนนั้นก็คิดว่าน่าจะช่วยเค้าได้ไม่ได้ไปสอน หรือไปเตือนหรอกนะเพียงแค่ไปให้เค้าเห็นว่าเราเนี่ย เป็นหนึ่งคนที่ทนและผ่านเรื่องร้ายๆเหล่านั้นได้เพราะงั้น มันไม่ใช่จุดสุดท้ายของชีวิตหรอก...อย่าไปเสียน้ำตา
วูบหนึ่ง ในคืนเหงา...คนของฉันต้องร้องไห้ คนของเธอต้องปวดร้าว
ครั้งแรกที่ฟังคืนนี้ รู้สึกค้านๆในใจกับเนื้อหาของเพลง ฟังคร่าวๆเหมือนเป็นเพลงของคนเหงามาเจอกัน แล้วเผลอใจให้กันแต่พอฟังดีๆอีกที เอออย่างน้อย เพลงก็บอกให้ห้ามใจไว้ก็เลยโอเค...555 เพราะมันดันไปสะกิดแผลในใจอะดิเพลงนี้แถมเพลงนี้เป็นเสียงของนักร้อง เก่ง หน้าตาดีเป็นทั้งหมอ พิธีกร นักร้อง แถมยังหน้าตาดีอีกอ๋า...มันเพอร์เฟคอย่างงี้ แล้วคนอย่างเราจะเหลืออะไรหล่ะคิดละกลุ้ม...ร้องเพลงดีกว่าหวังว่าที่ร้องๆบ่นๆเนี่ยจะไม่ดิสเครดิทของต้นฉบับนะครับอ้อ...อีกอย่าง ไม่ได้เข้ามาบ่อยเลยไม่รู้ว่ามีใครร้องยังภ้าไปซ้ำกะคนอื่นก็ขอโทดด้วยครับไม่เจตนาจริงๆนะค้าบเดี๋ยวนี้แม้คนมีเจ้าของ ก็แอบทำตัวโสดปล่อยใจ ปล่อยตัวตามอารมณ์มีคนเคยบอกว่า ความรักไม่ผิด แม้เรามีคู่แล้ว แต่จะรู้สึกรักอีกคน ก็ไม่ใช่เรื่องร้าย...นั่นอาจเป็นมุมๆหนึ่ง หากลองมองย้อนกลับไปที่อีกคนคนที่รักเราหล่ะจิตใจเค้าจะเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร จะเคยคิดถึงเค้าไหม...คนๆนั้นถามกลับมาว่า ถ้ารู้ว่าคนรักเราไปรักคนอื่นด้วยจะทำไงเลิกเลยไหม งั้นแสดงว่าเราไม่สน ไม่แคร์เลยสิ...แล้วเวลาที่เค้าไปรักคนอื่น เค้าสน เค้าแคร์เราไหมมีครั้งแรก มักมีครั้งที่สอง สาม สี่ ตามมา...อย่าให้เกิดขึ้นเป็นวงจรเลยเหมือนวังวน วันหนึ่งเราทำ ครั้งหน้าเราอาจโดนกระทำอย่าให้มีความทรมานต่อกันเป็นทอดๆเลยขอเพียงให้คิดถึงคนรักของเราอย่าได้ใช้ความเหงาเป็นข้ออ้างในการนอกใจขอให้อย่ามีเพียงสัก...วูบหนึ่ง ในคืนเหงา
เชื่อฉัน....ดวงใจฉันแตกสลาย เธอยิ้มสบายคงจะพบใครใหม่
ไม่ได้มาที่นี่นานมากๆมัวแต่ยุ่งๆเรื่องทำละครซัมเมอร์ก็หนุกดี กลับมาบ้านทีเกือบสลบเลยไม่ได้มาเยี่ยมเพื่อนๆที่นี่เลยแถมพักหลังเนี่ยเกิดอาการจิตตกเหมือนเซ็งๆกะคนเราสมัยนี้ไม่รู้สิ...ส่วนตัวนะมาอยู่ที่นี่แล้วก็ทำให้เห็นอีกมุมหนึ่งของคนกรุงเทพเมื่อก่อนเราก็เคยชิน มองมันเป็นธรรมดาวิถีแต่วันนี้...หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เห็น ได้สัมผัสมันเป็นสิ่งที่เรารู้สึกน่ากลัวโดยเฉพาะการเล่นตลกกับความรู้สึกของคนอื่นทุกคนมีฝันอยากเจอคนที่ดีคนที่ใช่แล้วทำไมไม่มองให้ดีๆหล่ะหลายคน ...คบเผื่อเลือก หลายคน ...มีกิ๊กกันเยอะและหลายคน ...ที่แค่หาคนมาสนองความต้องการบางอย่างไม่มีใครที่จะมองกันดีๆไม่มีใครรู้จักพอต่างก็คิดหากันไปเรื่อยๆ คิดว่าเมื่อเจอคนที่ใช่จะหยุดที่คนนั้น...อย่างนั้นเหรอ...อย่างที่บอกเราไม่รู้จักพอ แล้วคนที่ใช่จะมาถึงเมื่อไหร่เพราะเมื่อเจอแล้ว ก็ไม่พยายามคบกันจริงจังไม่อดทนกับสิ่งต่างๆที่มากระทบหรือมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วกับการคบเล่นๆ คบๆ เลิกๆ ทิ้งขว้างหลายคนบอก มีหนึ่งชีวิตใช้ให้คุ้มลองคิดดูทีสิ...ว่าแบบนี้เหรอที่ว่าคุ้มไม่ใช่ว่า...ได้พบและรู้จักใครสักคนอยู่เรียนรู้กัน...ร่วมทุกข์สุขกัน...จริงใจตอกัน...รักกัน...ดูแลรักษาน้ำใจซึ่งกันและกันแบบนี้จะไม่คุ้มกว่าเหรอชักไม่มั่นใจแล้วว่า...เมื่อสังคมเปลี่ยนความคิดที่แตกต่างจะกลายเป็นตัวประหลาดไหมจะยังมีที่ให้เราได้ยืนอยู่ไหมในกระแสแห่งการลุ่มหลงนี้...ทั้งหมดนี้มาจากคำพูดของแม่ที่ทำให้เราได้คิด...อะไรกันแน่คือใช้ชีวิตให้คุ้ม..ลองค้นด้วยตัวเองดูไม่มีทางไหนถูกหรือผิด มีแค่ว่าเราจะเลือกทางไหนเท่านั้นเอง...เชื่อฉัน...ป.ล. มีคนเค้าขอให้ร้องเพลงเร็วบ้าง เพื่อนในบล้อกเบื่อเพลงช้าผมแล้ว...เลยลองจัดให้ค้าบ
ฟ้าจรดทราย...ยอมรับความจริงว่าจากนี้ คงไม่อาจมี วันที่แผ่นฟ้าจรดทราย
กลับมาอีกครั้งกับความยิ่งใหญ่ ของละครเวทีShakespeare Festival555...ที่จะพูดถึงไม่ใช่ฟ้าจรดทราย แต่เป็นโปรดักชั่นที่ทำตอนนี้โหดจังเลย ฝรั่งอะทำงานยังกะทาส ได้ทีใช้เราซะคุ้มเลยทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า เลิกเอา 6.30 ตอนเย็นแถมค่าตอบแทนก็จิ๊บจ้อย ยังไม่พอค่าเช่าบ้านเลยแต่ก็อะ ทำ เก็บประสบการณ์ไว้เป็นธรรมเนียมของละครเชคสเปียร์ที่เล่นโรงละครกลางแจ้งและแถมเล่นทีสองเรื่องรวดพร้อมกันในโรงเดียวกัน คือสลับวันเล่น สงสารคนเซ็ทฉากจัง รื้อๆ เซ็ทๆ ทุกวันเอาน่าทนๆ อยากรู้เหมือนกันว่าเราจะผ่านด่านทดสอบนี้ไปได้ไหมกลับไปที่บ้านเราไม่รู้จะมีงานทำไหมเนี่ย มาเรียนละครอะแต่จะว่าไปบ้านเราก็เริ่มคึกคัก เมื่อมีละครเพลง ฟ้าจรดทรายไม่รู้เป็นไงบ้าง อยากดูเชียว ไม่ได้ดูเลยเอาเพลงมาร้องแล้วเมคอารมณืเอง เพราะบทละครนี้ก็ไม่เคยอ่าน หวังว่าคงไม่ทรมานหูกันมากนักนะครับแต่คนร้องทรมานอะ ดันมาเป็นไซนัส เพราะไอ้โรคภูมิแพ้นี่แหละแต่กินยาที่แม่ให้มาแล้ว ก็ดีขึ้นไม่ต้องห่วงนะแม่ ลูกดูแลตัวเองได้ สบายมากเคยเห็นของที่เราคิดว่าเป็นคู่กันแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกันไหมส่วนมากของคู่กัน คนจะนึกถึง ปาท่องโก๋ ตะเกียบ รองเท้าฯซึ่งอยู่คู่กันตลอดแต่ของบางอย่างที่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบสูง แม้ว่าเกิดมาคู่กัน แต่ก็ต้องแยกกัน ไม่มีทางพบเจอพระอาทิตย์-พระจันทร์ ขึ้นลงทำหน้าที่ตน ไม่อาจพบกันดวงดาว-หิ่งห้อย ที่เปล่งแสงยามค่ำคืน พยายามสื่อสารกันแม้ห่างกันลิบตาท้องฟ้า-ผืนทราย อยู่คู่เคียงขนานกันไปไม่มีวันบรรจบได้เพียงจ้องมองเท่านันมันก็เหมือนกับคนเรา หน้าที่ความรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง อาจทำให้เราต้องไกลกันสุดท้าย ไม่ว่ายังไง ก็คงไม่เคียงคู่กัน ดั่ง ฟ้าจรดทราย