® Barbie loves M.A.C Collection ®
2 แบรนด์ชั้นนำของโลก เครื่องสำอาง M.A.C แบรนด์เครื่องสำอางมืออาชีพชั้นนำของโลกจับมือกับบาร์บี้ ® ผู้ผลิตตุ๊กตาแฟชั่นอันดับ 1 ของโลก ได้ออกมาเผยถึงโปรเจคที่ทั้งสองแบรนด์ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อผู้ใหญ่หัวใจเด็ก ที่พร้อมจะออกสู่ตลาดในฤดูใบไม้ผลิปี 2007 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ตุ๊กตาบาร์บี้เป็นที่รู้จักและชื่นชอบอย่างกว้างขวาง มาตั้งแต่ปี 1959 แบรนด์ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกที่ครองใจคนทั้งโลกอย่างเครื่องสำอาง M.A.CBarbie®
เฉิดฉายส่องประกายอันโดดเด่น ตุ๊กตาบาร์บี้ถือได้ว่าเป็นดั่งสัญลักษณ์ของแฟชั่น, ความงามและความเป็นเฟมินินของงผู้หญิงทุกวัยมาช้านาน ตุ๊กตาบาร์บี้ได้โดดเด่นและเป็นที่จับตามองของชาวโลกมากว่า 40 ปี ยิ่งไปกว่าน้น ตุ๊กตาบาร์บี้ได้มีโอกาสร่วมงานกับท๊อปแฟชั่น ดีไซน์เนอร์ของโลกมานับไม่ถ้วนทั้ง Christian Dior, Versace, Giorgio Armani และ Badgley Mischka และในปี 2005 ตุ๊กตาบาร์บี้ได้เปิดตัว Luxe คอลเลคชั่นอันเป็นคอลเลคชั่นสุดพิเศษที่ได้คนดังระดับโลกอย่าง Anna Sui, Judith Leiber และ Tarina Tarantino มาออกแบบทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้กับคอลเลคชั่นอันแสนหรูหรานี้ และกลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเซเลบริตี้ และแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกในพริบตา ปัจจุบันตุ๊กตาบาร์บี้มีวางขายในกว่า 150 ประเทศทั่วโลกAbout M.A.C M.A.C Cosmetics (Make-up Art Cosmetics), เครื่องสำอางมืออาชีพ ก่อตั้งขึ้นในโตรอนโต ประเทศแคนาดา ในปี ค.ศ. 1984 และปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่กว่า 60 ประเทศทั่วโลก เครื่องสำอาง M.A.C ตอบสนองความต้องการพิเศษของเหล่าเมคอัพอาร์ทิสต์มืออาชีพที่ทำงานท่ามกลางแสงไฟ และสตูดิโอ ที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ ได้รับความนิยมเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย จากการพูดแบบปากต่อปากของคนในแวดวงแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นช่างแต่งหน้า, นางแบบ นายแบบ, ช่างภาพ และนักข่าวทั่วโลก ภายใต้คอนเซปต์ All Races, All Sexes, All Ages ที่รวมทัศนคติที่ทันสมัย, มีศิลปะไม่เหมือนใคร อุทิศให้กับงานศิลปะที่เป็นตัวของตัวเอง และมีเอกลักษณ์บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงพบกับ Barbie loves M.A.C Collection ได้ที่ M.A.C ทุกสาขาแล้ว วันนี้ พบกับคอลเลคชั่นที่จะทำให้หัวใจของคุณพองโต เปี่ยมไปด้วยสีชมพู และกลับเป็นเด็กน้อยวัยใสอีกครั้ง Barbie loves M.A.C คอลเลคชั่นสุดฮิป ทันสมัย มีสีสันที่เป็นดั่งตัวแทนของแฟชั่นนิสต้าตัวจริง ฤดูใบไม้ผลินี้ เครื่องสำอาง M.A.C ได้สร้างสรรค์คอลเลคชั่นอันสุดแสนน่ารัก เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่าง เท่ไม่มีใครเหมือนกับสีสันที่จะมาเติมเต็ม ริมฝีปาก, โหนกแก้ม, เปลือกตา จาก Barbie loves M.A.C คอลเลคชั่น คอลเลคชั่นพิเศษที่บรรจงสร้างสรรค์มาเพื่อสาวน้อยสาวใหญ่ที่มีหัวใจเริงร่าดั่งตุ๊กตาบาร์บี้Lipstick 750 บาท Modern Ms. สีแดงอิฐประกายมุกสีเงิน Sweet & Single สีพลัมอมเงินประกายมุกหลากสี Style it Up สีชมพูอ่อนประกายมุกสีทอง Real Doll สีชมพูลูกกวาดใส Rocking Chick สีชมพูฟูเชียเนื้อฟรอสต์ประกายมุกสีฟ้าLipgloss 750 บาท Sweetness สีชมพูอ่อนหวานประกายมุกหลากสี Malibu Barbie สีชมพูฟูเชียประกายมุกหลากสี Fashion Pack สีส้มอมชมพูพีชสว่าง Happening Gal สีแดงระเรื่ออมพลัมประกายมุกสีทองCremestick Pearl liner 700 บาท Honey B. สีเบจธรรมชาติ Plum Royale สีม่วงพลัมประกายมุกสีทอง Cranapple สีแดงอมชมพูสดLoud Lash 600 บาท Noisy Black สีดำขรึมLiquidlast liner 950 บาท Point Black สีดำขลับ Visionaire สีชมพูอ่อนหวาน Classic Dream สีขาวอมทองPowder Blush 920 บาท Dont Be Shy สีชมพูสะอาดใส Fab สีม่วงพลัมอมประกายมุกEye Shadow 650 บาท Mothbrown สีเทาอมดำควันบุหรี่ Playful สีชมพูสว่าง Springtime Skipper สีเขียวมิ้นประกายมุกสีทอง Whistle สีชมพูพาสเทล Beautyburst สีน้ำตาลอมแดงหรู Magic Dust สีขาวละมุนอมทองGlimmershimmer 850 บาท Loves Pink สีชมพูประกายมุกสีทอง Fashion Leader สีทองอมแดงระเรื่อNail Lacquer 550 บาท Steamy สีชมพูสดแสนร้อนแรง Toast of the Town สีน้ำตาลหม่นอมเขียวและแดงประกายมุกหลากสีBeauty Powder 1,200 บาท Pearl Sunshine สีส้มพีชอ่อนประมุกสีชมพู Pearl Blossom สีชมพูใสประกายมุกสีเงิน ...เห็นแล้วอยากได้จังเลยอ่า น่ารักมั่กๆ..กรี๊ด!!!!...
Create Date : 08 เมษายน 2550
Last Update : 8 เมษายน 2550 19:27:27 น.
Counter : 891 Pageviews.
เปิดตำนาน Fairy Tale
Fairy Tale ในอีกความหมายหนึ่ง คือ "เทพนิยาย" ซึ่งเทพนิยายเรื่องแรกที่จะนำมาเสนอ จะเป็นเทพนิยายที่ห ลายคนคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ...ซึ่งก็คือ เรื่อง "สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด" (Snow White and the Seven Dwarfs) เชิญติดตามได้เลยค่ะ..."เรารักสโนไวท์เพราะเธอเป็นตัวแทนของความอ่อนหวานนิ่มนวลและความดีงาม" บุคลิกลักษณะ สุภาพ, บริสุทธิ์, อ่อนหวาน, มีเสน่ห์, ใจดี, นุ่มนวล, โรแมนติค, อ่อนไหว, พูดจาไพเราะ, เป็นที่รัก, เอาใจใส่เรื่องย่อ : ...แม้จะเป็นถึงเจ้าหญิง แต่สโนไวท์กลับโดนราชินีซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของเธอกลั่นแกล้งให้กลายเป็นคนรับใช้ แต่เธอก็ไม่เคยหมดหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้พบกับรักแท้ที่จะช่วยเธอให้พ้นจากสภาพดังกล่าว แต่เมื่อเจ้าชายหนุ่มในฝันปรากฏตัวขึ้น ราชินีใจร้ายจึงตัดสินใจที่จะกำจัดเธอเสีย แต่เพราะความบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอเอง นักฆ่ากลับปล่อยเธอไป โดยกำชับให้เธอหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกและไม่หวนกลับมาอีก สโนไวท์ได้รับความช่วยเหลืออีกครั้งหนึ่งจากเหล่าบรรดาสัตว์ป่าที่นำทางเธอไปสู่กระท่อมของคนแคระทั้งเจ็ดและรับหน้าที่ดูแลพวกเขา และ แม้แต่คนแคระขี้หงุดหงิดที่ไม่ชอบผู้หญิงยังใจอ่อนกับความสวยน่ารักและอนุญาตให้เธออยู่ร่วมและคอยดูแลพวกเขา แต่ราชินีใจร้ายไม่ยอมปล่อยให้เธอลอยนวลอยู่ จึงแกล้งปลอมเป็นยายแก่เร่ร่อนหลอกลวงให้สโนไวท์ชิมแอปเปิลอาบยาพิษของเธอ และมีเพียงรอยจูบจากรักแท้เท่านั้นที่จะปลุกให้เธอตื่นจากพิษร้ายนี้ได้...ภาพยนตร์เรื่องสโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ...สโนไวท์ สาวน้อยแสนสวยหนีไปหลบภัยจากน้ำมือของแม่เลี้ยงของเธอเองที่กระท่อมกลางป่าของเหล่าบรรดาคนแคระทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้เกิดจากความอิจฉาริษยาที่ราชินีใจร้ายมีต่อเธอ ทั้งนี้องค์ราชินีต้องการจะเป็น ผู้หญิงที่สวยที่สุดในแผ่นดิน แต่ทว่า สโนไวท์สวยกว่าเธอมากมายนัก เหล่าคนแคระเริ่มหลงรักหญิงแปลกหน้าที่ช่วยทำความสะอาดบ้านและทำอาหารให้กับพวกเขา ...แต่อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่เหล่าคนแคระออกไปทำงานที่เหมืองเพชรตามปกติ ราชินีใจร้ายปลอมตัวเป็นหญิงเร่ร่อนมาที่กระท่อมและล่อหลอกให้สโนไวท์กัดแอ๊ปเปิ้ลอาบยาพิษของเธอ บรรดาสัตว์ป่าพยายามเตือนคนแคระทั้งเจ็ดถึงเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น ทำให้พวกเขารีบกลับมาที่กระท่อมและไล่แม่มดให้จากไป แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือสโนไวท์ได้ พวกเขาจึงนำร่างไร้สติของเธอใส่ไว้ในโลงแก้วและนั่งไว้อาลัยให้กับเธอ เจ้าชายซึ่งตกหลุมรักสโนไวท์อยู่ก่อนหน้านี้แล้วบังเอิญผ่านมาและถอนคำสาปของแม่มดด้วยการประทับรอยจูบให้แก่เธอ... ไอเดียเรื่อง สโนไวท์ เกิดขึ้นเมื่อตอนที่วอลต์ ดิสนี่ย์มีอายุได้เพียง 15 ปีและทำงานเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ในแคนซัสซิตี้ เขามีโอกาสได้ชมเรื่องราวดังกล่าวในเวอร์ชั่นของหนังเงียบและแสดงนำโดย มาร์เกอร์ริต คลาร์ก โดยมันถูกฉายที่ศาลากลางของเมืองแคนซัสซิตี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1917 ด้วยการฉายโปรเจ็คเตอร์สี่ตัวขึ้นสกรีนที่มีสี่ด้าน ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความประทับใจให้กับเด็กหนุ่มอย่างมาก เพราะบริเวณที่เขานั่งชมนั้นสามารถเห็นจอได้ทั้งสองด้านในเวลาเดียวกัน แม้ภาพที่ออกฉายจะไม่พร้อมกันก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวครองตำแหน่งหนังที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติการณ์อยู่สองถึงสามปี จนกระทั่งถูกโค่นตำแหน่งโดยภาพยนตร์เรื่อง วิมานลอย (Gone With the Wind) และถ้าคำนึงถึงอัตราค่าเข้าชมของเด็กที่เป็นกลุ่มผู้ชมหลักของ สโนไวท์ ในปี 1937 ซึ่งก็คือ 10 เซ็นต์ และเทียบกับรายรับทั่วโลก 8.5 ล้านเหรียญ (เทียบเท่ากับสองสามร้อยล้านเหรียญในปัจจุบัน) ตัวเลขที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงจำนวนเด็กมากมายมหาศาลที่เข้าชม ในประเทศอังกฤษ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกตัดสินว่าน่ากลัวเกินไปสำหรับเด็ก ดังนั้นผู้เข้าชมที่อายุต่ำกว่า 16 ปีจำต้องมีผู้ปกครองติดตามมาด้วย สโนไวท์ คือ ภาพยนตร์เอนิเมชั่นเรื่องแรกของโลก ใช้ทุนสร้าง 1.4 ล้านเหรียญและมีเพลงคลาสสิคประกอบ เช่น Someday my Prince will Come , High Ho และ Whistle while you Work ใช้เวลาสร้างนาน 3 ปีและศิลปินกว่า 750 คน แม้ว่าจะมีผู้สมัครเพื่อพากย์เสียงสโนไวท์จำนวนมาก (หนึ่งในนั้นคือ ดีแอนน่า เดอร์บินซึ่งถูกวอลต์ ดิสนี่ย์ปฏิเสธ) เขาเลือก เอเดรียน่า คาเซล็อตติ นักร้องสาวมารับหน้าที่นี้ แฮรี่ สต็อคเวลล์ซึ่งเป็นพ่อของดีน สต็อคเวลล์ พากย์เสียงเจ้าชาย นอกจากนี้ ยังมีบุคคลในแวดวงวิทยุและหนังอีกจำนวนมากที่เข้าร่วมพากย์เสียงตัวการ์ตูนอื่น ๆ ได้แก่ ลูซิล ลา แวร์ (ราชินีใจร้าย) และบิลลี่ กิลเบิร์ต (สนู๊ซซี่) ส่วนพินโต้ โคลวิค (ผู้พากย์เสียงกู๊ฟฟี่) พากย์เสียงคนแคระอีกสองตัว ควบคุมการสร้างโดย เดวิด แฮนด์ และทีมนักวาดการ์ตูน โดย แฮมิลตัน ลัสก์, กริม แน็ตวิค, แจ๊ค แคมเบลล์, โรเบิร์ต สโตคส์, เลส คลาร์ก, มิลต์ คาห์ล, ฮิวจ์ เฟรเซียร์, อีริค ลาร์สัน, มาร์ค เดวิส, พอล บุช และแอนโตนิโอ ริเวร่า ความยาว 83 นาที ทีม พากย์เสียงโดย เอเดรียน่า คาเซล็อตติ (สโนไวท์), แฮรี่ สต็อคเวลล์ (เจ้าชาย), ลูซิล ลา แวร์ (ราชินีใจร้าย), บิลลี่ กิลเบิร์ต (สนี๊ซซี่) และพินโต้ โคลวิค (คนแคระ) ละครซึ่งถูกสร้างจากเค้าโครงเรื่องของหนังเรื่องนี้ออกแสดงที่ Radio City Music Hall ในกรุงนิวยอร์คในปี 1979 และก่อนจะนำ สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ออกฉายใหม่อีกครั้งในปี 1993 แผ่นฟิล์มของหนังเรื่องดังกล่าวถูกนำมาซ่อมแซมใหม่ ทำความสะอาด และพิมพ์กลับไปในรูปของแผ่นฟิล์มอีกครั้ง เพราะเป็นแผ่นฟิล์มแผ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีดิจิตัลจากคอมพิวเตอร์เข้าช่วย ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำออกฉายในปี 1944, 1952, 1958, 1967, 1975, 1983, 1987 และ 1993 ออกวางขายในรูปแบบของวีดีโอเมื่อปี 1994 และได้รับรางวัลออสการ์พิเศษในปี 1939 โดยเชอร์ลี่ย์ เท็มเปิ้ลเป็นผู้มอบรางวัลออสการ์ขนาดปกติหนึ่งตัวและขนาดแคระอีกเจ็ดตัวให้กับวอลต์ ดิสนี่ย์
Create Date : 15 มีนาคม 2550
Last Update : 16 มีนาคม 2550 9:03:38 น.
Counter : 10828 Pageviews.