|
|
❤️50เหตุผล ที่ควรต้องตัดสินใจเริ่มดื่มคีเฟอร์
❤️50เหตุผล ที่ควรต้องตัดสินใจเริ่มดื่มคีเฟอร์ ❤️คีเฟอร์หมายถึง "รู้สึกดี" ในภาษาตุรกี เรามาดูกันว่านมคีเฟอร์มีประโยชน์อย่างไรถึงต้องดื่มเป็นประจำ ในนมคีเฟอร์มีส่วนประกอบและมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้ 🥛1)มีกรดโฟลิก ซึ่งทำหน้าที่สร้างเลือดและป้องกันการพิการของทารกแรกเกิด นมคีเฟอร์สามารถดื่มขณะมีครรภ์และนำมาเลี้ยงทารกได้ 🥙2)มีน้ำตาลเชิงซ้อน คือ คีเฟอรัน ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ไช้ในเครื่องสำอางได้ เช่นนำมาทาใบหน้า จะช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง 😊3)มีวิตามิน บีรวมหลายชนิด B6 B12 B13 🥗4)ช่วยขยายเส้นเลือด ทำให้โลหิตไหลเวียนดี 🍰5)มีวิตามิน K ช่วยในการทำงานของตับไต 🍯6)ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกัน รักษาภูมิแพ้ 🥪7)สามารถป้องกันโรคหัวใจและการทำงานของหัวใจที่บกพร่อง 🍯8)ช่วยในการทำงานของตับ ม้าม ดีขึ้น 🍼9) ช่วยป้องกันนิ่วในถุงน้ำดี และช่วยสลายนิ่วในถุงน้ำดี 🍰10)สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย 🍚11)ปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ 🥗12)มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยระงับการแพร่กระจายของโรคมะเร็ง 🥪13)ทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย ลดความเครียด เพราะมีสาร Tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นจำนวนมาก ช่วยการทำงานของระบบประสาท 🍰14)เนื่องจากนมนี้มีสภาพเป็นกรดอ่อนๆจึงมีคุณประโยชน์ในการบำบัดโรคทางเดินอาหารเพราะแบคทีเรียในนมจะผลิตกรดมีผลยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่ออาการท้องเสีย รักษาแผลในกระเพาะ ลำไส้ ลดการเกิดแก้ส ท้องอืด ยังช่วยย่อยและทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น 🍠15) ในนมอุดมสมบรูณ์ไปด้วยแร่ธาตุ และมีกรดอะมิโนจำเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ร่างกายแข็งแรง และโปรตีนในนมยังง่ายต่อการดูดซึมจึงทำให้สุขภาพดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอล 🍲16)ใช้ลดความอ้วนได้ ด้วยการดื่มแทนอาหารมื้อค่ำ 🎂17)ช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตส สำหรับผู้ที่มีปัญหาการย่อยน้ำตาลในนม สามารถดื่มนมได้โดยไม่ท้องเสีย 🍯18)ทำหน้าที่เป็นยาปฏิชีวนะตามธรรมชาติเนื่องจากมันช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย 🥗19)ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด 🥙20)ช่วยผู้ที่มีอาการท้องร่วงและโรคทางเดินอาหารรั่ว 🍚21)มีฟอสฟอรัสจำนวนมากซึ่งเป็นแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดในร่างกายของเรา 🌮22)ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย 🍰23)สามารถช่วยให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อสู้ เชื้อราCandidaได้ 🥛24)ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ 🌮25)ปรับสารสื่อประสาทในสมอง 🍲26)พยุงข้อต่อกระดูก 🍰27)ช่วยลดน้ำตาลในเลือด 🥙28)เต็มไปด้วยกรดอะมิโนโปรตีนที่จำเป็น แบบfull อาจช่วยให้น้ำหนักลดได้ เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีจะช่วยให้อิ่มได้นานขึ้นโดยที่ไม่มีแคลอรี่สูง 🌮29)หากได้รับยาปฏิชีวนะ kefir จะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารของเรากลับมาทำงานเป็นปกติได้อีกครั้ง 🍯30)ช่วยเพิ่มและรักษาเสถียรภาพของจุลินทรีย์ในลำไส้ 😊31)สามารถปรับระบบทางเดินอาหารให้ดีขึ้นด้วยแบคทีเรียที่มีประโยชน์ (โยเกิร์ตเป็นเพียงแบคทีเรียที่ดี ที่มีอยู่แล้วในระบบทางเดินอาหาร kefirจะหลากชนิดกว่า) 🥛32)ช่วยผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับสมาธิสั้นและภาวะซึมเศร้า 🍰33).ช่วยลดอาการท้องอืด 🌮34)หญิงตั้งครรภ์ที่ดื่ม kefir ช่วยสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันของทารก 🥗35)ยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 วิตามินเคและไบโอติน 🍲36)ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับเด็ก 🎂37)ช่วยให้คุณย่อยอาหารอื่น ๆ ที่ย่อยยากได้ เช่นมีปัญหาในการย่อยสเต๊ก t-bone? ให้ดื่ม kefir ก่อนและหลัง กินอาหารที่ย่อยยาก 🍼38)มีแบคทีเรียมากกว่า 400 ชนิดที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเราเป็นสิ่งสำคัญที่จะเพิ่มแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพเพื่อขจัดแบคทีเรียที่ไม่ดีการดื่ม kefir จะช่วยได้อย่างมากกับเรื่องนี้ 🍚39)มีกรดแลคติกซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผิว 🌮40)มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอยและต้านการอักเสบ มีโพรไบโอที่อุดมไปด้วยสารอาหารซึ่งผ่อนคลายต่อระบบประสาท 🥗41)ประกอบด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียมที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งสนับสนุนให้ระบบประสาทมีสุขภาพดี 🍰42)แคลเซียม แมกนีเซียม ทำให้กระดูก มีความหนาแน่น ป้องกันโรคกระดูกพรุน 🥪43)อุดมไปด้วยเอนไซม์ที่ช่วยในระบบย่อยอาหารของเรา 🍯44)ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ 🌮45)ช่วยลดความอยากอาหารขยะ 🎂46)เตรียมพร้อมรองรับระบบย่อยอาหาร 🥙47)ดูแลการเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นปกติ 🍰48)มีโพรไบโอที่อุดมไปด้วยสารอาหารซึ่งผ่อนคลายต่อระบบประสาท 🥛49)ช่วยป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสอื่นได้เพิ่มขึ้น เช่นจากยุง 🌮50)มีประโยชน์ในการลดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ฯลฯ ❤️คีเฟอร์นม100cc/135 แคลอรี่ จะให้แคลเซียมและโปรตีน 30% คือ 8-11 กรัม และให้ปริมาณวิตามินดี 25% ต่อวันที่ร่างกายต้องการ ที่มา: https://www.hannahhepworth.com/50-reasons-to-begin-drinking-kefir-today-it-could-be-the-best-thing-you-do-for-your-health/ แปลโดย Kefir at home ช่องทางติดต่อรับเลี้ยงคีเฟอร์(kefir=บัวหิมะธิเบต)
เห็นหลายคนมาเม้นถามหรือทิ้งเบอร์กับเมล์ไว้ในเม้น มัทจะพยายามลบออกเพราะมันเป็นช่องทางหากินของมิจฉาชีพที่ชอบล่าข้อมูลการติดต่อไปขายนะคะ อย่างเมล์นี้ที่มัทเอามาลงก็เป็นเมล์หลักที่มัทใช้แจกและใช้โพสต์ในเน็ต ปรากฏว่าเป็นเมล์ที่มีเมล์ขยะเมล์ลูกโซ่ส่งเข้าไปเยอะมากโดยเฉพาะก่อนที่ฮอทเมล์จะปรับปรุงระบบ สำหรับคนที่สนใจคีเฟอร์ ติดต่อทางไลน์สะดวกสุดค่ะ Q&A about Kefir By Mutty
Q1 คีเฟอร์ตายจะเป็นยังไงค่ะ? ส่วนคีเฟอร์น้ำ ที่เคยเจอปัญหาตือเม็ดคีเฟอร์มันจะลอกคราบเป็นเยื่อยุ่ยๆขุ่นๆ A1 คีเฟอร์ตาย ในกรณีคีเฟอร์นมมันจะสลายตัวค่ะ ตอนกรองจะไม่เหลือเป็นเม็ดอยู่ในกระชอน แต่ที่เหมือนกันทั้ง2ชนิดคือเลี้ยงๆไปมันจะลดจำนวนลงเรื่อยๆจนเกลี้ยงค่ะ Q2 เวลาและปริมาณที่กินจำนวนเท่าไหร่ต่อวันถึงจะดี? Q2 เวลาที่เหมาะสมในการบริโภค ดื่มตอนเช้าเพื่อกระตุ้นระบบขับถ่าย ดื่มก่อนนอนเพื่อให้หลับสบาย ดื่มก่อนมื้ออาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก แต่สำหรับมัทเอง กรองตอนไหนก็ดื่มตอนนั้นแหละค่ะ คีเฟอร์ไม่ใช่ยา ไม่ได้มีกำหนดเวลาตายตัวในการดื่ม สรุปว่า สังเกตุร่างกายตัวเองเป็นหลักค่ะ ส่วนปริมาณที่เหมาะสม นี่ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลอีกเช่นกัน แต่เท่าที่อ่านมาส่วนใหญ่จะดื่มวันละแก้วค่ะ บางคนดื่มครึ่งแก้วที่เหลือเอาไปพอกตัว บางคนดื่มเช้า1แก้วเย็น1แก้ว มัทเองดื่มได้สูงสุดวันละ2แก้วค่ะ เท่าที่ลองสังเกตตัวเองคือถ้าดื่มมากกว่านั้นจะเริ่มรู้สึกมีอาการร้อนใน ส่วนระยะพักสำหรับผู้ดื่มคีเฟอร์น้ำ เท่าที่ตามอ่านข้อมูลมาไม่ได้ระบุไว้นะคะ ต่างจากคีเฟอร์นมที่บางแหล่งบอกว่าต้องเว้น10วัน(แต่บางแหล่งก็บอกว่าไม่ต้องเว้น) Q3 ถ้าจะเปลี่ยนคีเฟอร์น้ำให้เป็นคีเฟอร์นมได้ไหมคะ? A3 เท่าที่ศึกษาข้อมูลมา ทำไม่ได้ค่ะ(ใครทำได้กรุณามาสอนด้วย) เรื่องนี้มัทยังไม่กล้าทดลอง ถ้าใครลองแล้วได้ผลยังไงก็มาบอกกันด้วยนะคะ Q4คีเฟอร์น้ำ เลี้ยงในเฮลส์บลูบอยได้มั้ย? A4 มัทลองแลี้ยงดูแล้วนะคะ ชงน้ำแดงเลี้ยงแทนน้ำตาลทรายแดง ผลคือรอดค่ะ(สีสวยด้วย) แต่จะโตช้ากว่าที่เลี้ยงในน้ำตาลทรายแดงนะคะ ปล.มัทจะพยายามรวบรวมคำถามคำตอบมาลงในหน้านี้นะคะ ทั้งที่ถามในหลังไมค์พันทิปและถามในbloggang สอบถามกันเข้ามาได้เรื่อยๆค่ะ อันไหนตอบได้ก็จะตอบ ตอบไม่ได้ก็จะบอกค่ะ ใครทีเลี้ยงคีเฟอร์อยู่ก็เข้ามาทักทายพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้นะคะ วิธีเลี้ยงคีเฟอร์นม
อุปกรณ์การเลี้ยงคีเฟอร์ ***ไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่เป็นโลหะ*** -กระชอนพลาสติกสำหรับใช้กรองเม็ดคีเฟอร์ ถ้าหาไม่ได้ก็ประยุกต์ใช้กระชอนช้อนปลา ถุงซักผ้าตาถี่ๆ ผ้ามุ้ง ผ้าขาวบาง(ไม่แนะนำผ้าขาวบางเท่าไหร่เพราะดูแลความสะอาดและกรองคีเฟอร์นมได้ยาก) อนุโลมให้ใช้กระชอนแสตนเลสได้แต่ก็ไม่ควรเอาคีเฟอร์ไว้ในกระชอนนานๆ -ภาชนะสำหรับใช้เลี้ยงคีเฟอร์ และภาชนะสำหรับใส่นมที่ผ่านการหมัก(นมเปรี้ยวคีเฟอร์) แนะนำให้ใช้ภาชนะที่เป็นแก้ว หรือเซรามิก ถ้าไม่สะดวกจริงๆก็สามารถใช้ภาชนะพลาสติกได้บ้าง(แต่ไม่ควรใช่ระยะยาวและควรเลือกชนิดที่ระบุว่าทนต่อกรด) วิธีเลี้ยง 1.กรองเอาเม็ดคีเฟอร์แยกจากนมที่แช่มาในตอนแรก 2.สำหรับบางคนที่ไม่สะดวกใจกับการที่ยังมีนมเกาะอยู่ที่เม็ดคีเฟอร์ กลัวมันจะบูดเน่าถ้าปล่อยเอาไว้ สามารถนำเม็ดคีเฟอร์ในกระชอนไปแกว่งในน้ำสะอาดไม่มีคลอรีน(น้ำดื่ม)เพื่อล้างนมเก่าออกก่อนก็ได้ 3.แต่ที่จริงจะข้ามข้อ2.มาข้อนี้เลยก็ได้ค่ะ คือเอาเม็ดคีเฟอร์ที่กรองได้มาใส่ภาชนะใบใหม่ที่ล้างสะอาดและผึ่งให้แห้งแล้ว แล้วเทนมที่เราต้องการหมักทำนมเปรี้ยวลงไป โดยส่วนใหญ่ตอนเริ่มเลี้ยงจะใช้นม 1 กล่อง(200-250ซีซี)ต่อเม็ดคีเฟอร์ 1 ช้อนชา 4.เก็บคีเฟอร์ให้พ้นจากมดแมลง(บางคนบอกว่าพ้นแสงด้วยยิ่งดี) จะใช้ผ้าขาวบางคลุม หรือจะปิดฝา แถมเอาน้ำหล่อไว้ก็ตามสะดวกค่ะ มัทใช้วิธีเลี้ยงในโหลแก้วฝาสปริง ปิดแน่นสนิทดี 5.ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงโดยประมาณก็จะครบรอบการหมัก สามารถกรองเอานมมาดื่ม/ทำอาหาร/พอกตัวตามอัธยาศัย ย้อนกลับไปทำตามข้อ1.ใหม่แต่ต้นค่ะ จริงๆแล้วเลี้ยงง่ายมากๆเลยเพียงแต่ต้องรักษาความสะอาดและระวังเรื่องแมลงให้ดี ปล.ภาพประกอบจากกูเกิ้ลนะคะ คีเฟอร์ สัตว์เลี้ยง(?)เพื่อสุขภาพ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มัทเคยเลี้ยงคีเฟอร์น้ำค่ะ คิดเอาง่ายๆว่ามันคงเปลืองน้อยกว่าคีเฟอร์นม ก็เลี้ยงมาเริ่อยๆเกือบปี ประเดี๋ยวก็โต (เพิ่มจำนวน) ประเดี๋ยวก็ตาย (เปลี่ยนชนิดน้ำตาลแล้วคีเฟอร์ปรับตัวไม่ทัน) ตอนกลับไปเยี่ยมบ้านช่วงปิดเทอม เอากลับไปด้วย เจอพี่สาวเราซดเข้าไป...เกลี้ยงค่ะ ยังค่ะ ยังไม่เข็ด เมื่อปลายปีที่แล้วสั่งมาเลี้ยงใหม่อีกจนได้ คราวนี้สั่งมาทั้งชนิดที่เลี้ยงในนมและชนิดที่เลี้ยงในน้ำ เลี้ยงมาเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ เพิ่มจำนวนพอจะแบ่งก็เริ่มแบ่งแล้วค่ะ จะแบ่งให้คนอื่นไปเรื่อยๆจนกว่าจะเลิกเลี้ยง หลายๆคนสงสัยว่าคีเฟอร์ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้คืออะไร ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องจริงๆต้องเรียกว่าคีเฟอร์เกรนส์(Kefir Grains)ค่ะ หมายถึงหัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมักอาหารแบบโปรไบโอติก(อาหารเสริมที่มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง นมเปรี้ยว(ฉบับที่ 289)พ.ศ.2548 ได้ระบุไว้ว่า "นมเปรี้ยวเคเฟอร์ (Kefir) หมายถึง นมเปรี้ยวที่ได้จากการหมักด้วยแบคทีเรียและยีสต์ ได้แก่ เจ้าเม็ดนิ่มๆที่เรียกว่าคีเฟอร์เกรนนี้ ที่จริงแล้วคือกลุ่มแบคทีเรียและยีสต์(ที่ชื่ออ่านยากๆบรรทัดบน)ที่มาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีน้ำใจไมตรีถ้อยที่ถ้อยอาศัย มันมีชีวิตอยู่ด้วยการทำให้เกิดกระบวนการหมักซึ่งทำให้ได้เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ที่เรียกว่าคีเฟอร์ คีเฟอร์เกรน แบ่งตามวิธีเลี้ยงออกเป็น 2 ชนิดหลักๆคือ คีเฟอร์นม(milk-based kefir grains) เลี้ยงในน้ำนม คุณค่าทางสารอาหารและรสชาติจะแตกต่างกันไปตามแต่นมที่นำมาเลี้ยง ที่อ่านมาหลายแหล่งบอกว่าใช้นมแพะดีที่สุดในเรื่องคุณประโยชน์ โดยส่วนตัวแล้วมัทชอบใช้นมไทยเดนมาร์ครสจืด ราคาพอซื้อไหวและกลิ่นหอมมันถูกใจกว่านมสูตรพร่องมันเนย(แน่ล่ะ พรองมันไปแล้วจะเอาที่ไหนมาหอมมัน)ข้อดีของคีเฟอร์นมคือมีมีประโยชน์มากกว่าคีเฟอร์น้ำ มีข้อมูลอ้างว่ามีประโยชน์มากกว่าโยเกิร์ต(นมเปรี้ยว)ที่ขายตามท้องตลาดด้วยซ้ำ มีการอ้างถึงสรรพคุณของคีเฟอร์นมในการรักษาโรคในชื่อของ"บัวหิมะธิเบต" คีเฟอร์น้ำ(water-kefir grain ) เลี้ยงในน้ำตามชื่อนั่นแหละค่ะ แต่ข้อแม้คือในน้ำต้องมีส่วนผสมของน้ำตาลด้วย จะเป็นพวกน้ำหวานหรือจะเลี้ยงน้ำสมุนไพรใส่น้ำตาลก็ได้ ระวังอย่าใช้น้ำตาลที่มีสารฟอกสี หรือใช้น้ำหวานที่ผสมสารกันเสียนะคะ จะเป็นอันตรายต่อชีวิตคีเฟอร์น้อยของเรา ถ้าลองดูข้อมูลของฝรั่ง เค้าจะชอบใส่ผลไม้ลงไปหมักด้วยจะทำให้อร่อยไปอีกแบบ(มัทชอบใส่ลูกเกดนิดหน่อย) ถ้าหมักซัก1วันกลิ่นจะออกหอมหวานตามชนิดน้ำตาลที่ใช้ ซ่านิดๆ มีกลิ่นแอกอฮอล์บางๆ กลิ่นไม่ร้ายเท่ากลิ่นคีเฟอร์นม ถ้าหมักนานๆหน่อยถึงจะออกกลิ่นแอกอฮอล์ชัดแบบดื่มแล้วเหมือนกินสปายไวน์ซ่าแต่ว่าไม่เมา ดื่มคีเฟอร์ชนิดน้ำเพื่อกระตุ้นระบบขับถ่ายก็พอไหว ถึงสารอาหารจะไม่สู้คีเฟอร์นมก็เถอะ โชว์เม็ดคีเฟอร์ที่มัทเลี้ยงเองซะหน่อย รูปซ้ายเป็นเม็ดคีเฟอร์น้ำที่เลี้ยงด้วยน้ำตาลทรายแดง รูปขวาเป็นคีเฟอร์นมที่เลี้ยงในนมจืดไทยเดนมาร์ทและยังไม่ได้ผ่านการล้างนะคะ ถ้าล้างแล้วจะเห็นเป็นเม็ดๆเด่นชัดเหมือนรูปที่โชว์ด้านบน ยังไม่จบนะคะ เดี๋ยวจะมาลงเนื้อหาเพิ่มเติมกับรูปประกอบเพิ่มอีก แต่ด้วยความอยากบอกเล่า เลยขอกดPublishก่อน มีข้อสงสัยทิ้งคำถามไว้ในคอมมเม้นได้เลยนะคะ |
Group Blog All Blog Link |
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |