เด็กชายในกล่อง (The Boy in the Box)
ในปี 1957 ณ ถนนซัสคีฮันน่า ถนนแคบ ๆ ที่พบกระจัดกระจายทั่วไปในฟอกซ์เชส (Fox Chase) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลาเดลเฟีย ในตอนนั้นถนนแห่งนี้ยังไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์เท่าใดนัก อย่างมากก็มีเสาไฟฟ้า ทำให้สองข้างทางเต็มไปด้วยป่ารกเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กจำพวกกระต่ายหรือหนูจึงจะเป็นที่นิยมของคนในแถบนั้นที่นิยมมาล่าสัตว์เป็นงานอดิเรก นอกจากนั้นยังเป็นที่ทิ้งขยะอีกส่งผลทำให้บรรยากาศที่แห่งนี้ค่อนข้างจะรกร้างและวังเวงจึงไม่แปลกอะไรที่จะมีใครสักคนที่จะเอาศพมนุษย์ไปทิ้งบริเวณพื้นที่แห่งนี้
จุดที่พบกล่อง
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เฟรเดอริก เจ. เบโนนิค นักเรียนจากมหาลัยอายุ 26 ปี ได้ขับรถตามถนนทางทิศตะวันตกในช่วงบ่ายของวันจันทร์เวลา 15:15 น. เขาเห็นกระต่ายกระโดดออกจากพุ่มไม้ และคิดว่าจะหยุดรถเพื่อไล่ล่ามัน ในขณะที่ออกนอกรถเขาก็วางที่ดักหนูมัสคแร็ต (หนูขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง) ในป่าแถบนั้น ในตอนนั้นเองเขาได้เห็นกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่ และเขาก็สะดุดสิ่งที่ยื่นออกมานอกกล่อง ตอนแรกเขาคิดว่าอาจเป็นตุ๊กตายาง แต่หากมองดี ๆ แล้วมันเป็นศพเด็กของจริง หากแต่ชายหนุ่มกลับไม่แจ้งตำรวจเพราะว่าการหาหนูมัสคแร็ตนั้นผิดกฎหมาย (ตำรวจยังสืบทราบอีกว่าเด็กหนุ่ม คนดังกล่าวมีนิสัยชอบแอบมองผู้หญิงในบริเวณสถานศึกษาที่ตั้งอยู่แถวนั้น) จนกระทั้งเช้าวันถัดมา เวลาสิบโมงเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงจะได้รับแจ้งว่าพบศพเด็กชายในกล่องจากนักศึกษาวิทยาลัยคนเดียวกับพบศพรายแรก เนื่องจากเขาได้ยินข่าวเด็กหญิงถูกลักพาตัวในนิวเจอร์ซีย์เลยคิดว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวคือเด็กที่เขาเห็น เขาเลยโทรไปหาตำรวจ
เมื่อตำรวจรับแจ้งความ ก็รีบรุดมาที่เกิดเหตุ มีการพบศพเด็กชายลึกลับไม่ทราบชื่อเป็นชาวคอเคเซียน (ฝรั่งขาว) อายุประมาณ 4 ถึง 6 ปี อยู่ในสภาพเปลือยกายห่อด้วยผ้าห่มเก่าลายสก็อตราคาถูก นอนหงายหน้าอยู่ในกล่องกระดาษขนาดใหญ่ที่มองคร่าว ๆ คิดว่าจะเป็นตุ๊กตาถูกทิ้งมากกว่าศพคนจริง เนื่องจากกล่องและผ้าห่มปิดมิดทำให้มองเห็นไม่ถนัด อีกทั้งสถานที่ทิ้งเป็นที่รกร้างและเป็นที่ทิ้งขยะข้างทาง ร่างกายของเด็กแห้งและสะอาด แขนของเด็กถูกพับอย่างระมัดระวัง
เล็บมือและทรงผมถูกตัดสั้นและเรียบร้อยแม้ผมนั้นขาดแหว่งหาย ๆ คาดว่ามีคนตัดฝีมือการตัดไม่ดีนักและน่าจะตัดในช่วงที่เขาตายแล้ว เด็กมีส่วนสูงประมาณ 40 ½ นิ้ว หนักประมาณ 30 ปอนด์ มีตาสีฟ้าผิวขาวซีดคาดว่าน่าจะเป็นโรคขาดสารอาหาร (จากการตรวจสอบเด็กไม่ได้กินอาหารสองหรือสามชั่วโมงก่อนตายของเขา) เด็กมีผมสีน้ำตาลอ่อน หรือผมสีบลอนด์และมันเพิ่งได้รับการตัดเมื่อเร็วๆ นี้ เหมือนกับว่าเจตนาพยายามปกปิดตัวตนของเด็ก แต่กระนั้นก็เชื่อว่า เด็กผู้ตายน่าจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีในครั้งที่มีชีวิตอยู่พอสมควร
สภาพศพ
ศพเด็กผู้ตายมีบาดแผลทั่วร่างโดยเฉพาะบนหัวและใบหน้าที่ดูรุนแรงมากที่สุด ส่งผลทำให้ใบหน้าของเด็กบอบซ้ำ และบวมคาดว่าจะได้แผลรุนแรงนี้เด็กน่าจะรับในช่วงเวลาเดียวกันและนี้คงเป็นสาเหตุทำให้เด็กเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรอยแผลบนร่างกายเด็กถึง 7 แห่งแต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตแต่อย่างใด ที่น่าพิศวงคือร่างกายของเด็กคนนั้นแห้งและสะอาด มีรอยย่นหยาบที่ฝ่าเท้า แสดงให้เห็นว่าเด็กชายถูกแช่น้ำในระยะยาวนานก่อน หรือหลังเสียชีวิต ส่วนการชันสูตรระยะเวลาเสียชีวิตของเด็กนั้นระบุได้ยากเพราะว่า สภาพอากาศที่พบศพนั้นเย็นสบาย ทำให้การระบุระยะการตายของเด็กเป็นไปได้หลายทางคือ เด็กอาจจะตายมาแล้วสองหรือสามวัน หรือ สองหรือสามสัปดาห์ก็ได้ทั้งนั้น ด้วยสภาพศพของเด็กชายนั้นดูรู้เลยว่าน่าพิศวงและน่าเวทนา ทำให้ตำรวจบางคนได้บรรยายในวันนั้นไว้ว่า
"ผมเคยมีประสบการณ์ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองมาก่อน ผมเห็นคนจำนวนมากที่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่กรณีนี้ผมได้สัมผัสอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน" แต่กระนั้นตำรวจบางนายคิดว่าคดีนี้คงจะเป็นคดีธรรมดาที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เด็กผู้ตายน่าจะเป็นคนแถว ๆ นี้ และคดีคงจบเพียงไม่กี่เดือน ปรากฏว่าหนึ่งเดือน สองเดือนผ่านไป สามเดือนผ่านไป คดีเด็กชายลึกลับก็ไม่สามารถไขกระจ่างได้ และมันได้กลายเป็นคดีลึกลับคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาในที่สุด สาเหตุที่ทำให้คดีเด็กชายในกล่องนี้ลึกลับ นอกเหนือจากหลักฐานกายภาพที่ตำรวจพบจะไม่สามารถสาวตัวที่มาของเด็กหรือไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแล้ว
ในด้านหลักฐานสำคัญของคดี สิ่งแรกเลยคือกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่ที่เด็กชายถูกยัดนั้น เป็นกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์เปลเด็กทารกจาก JC Penney ผลิตเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 1956 และน่าจะถูกขายระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 1956 และ 16 กุมภาพันธ์ 1957 ตัวกล่องค่อนข้างเปราะบาง ในตอนพบศพเด็กในกล่องนั้นกล่องยังอยู่ในสภาพดี และแห้งแม้ชื้นด้านนอกแต่ยังคงสภาพอยู่ และไม่สามารถสาวตัวผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ได้เนื่องจากไม่มีการระบุผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว กล่องถูกนำไปห้องแล็บเอฟบีไอเพื่อวิเคราะห์ ผลปรากฏว่าไม่พบรอบนิ้วมือที่น่าสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนผ้าห่มที่ใช้คลุมตัวเด็กชายนั้น ตัวผ้าทำมาจากผ้ากำมะหยี่สีจางจากผ้าฝ้ายเกรดต่ำราคาถูก ออกแบบลายสก็อตเป็นลายเพชรมีทั้งสีเขียว น้ำตาล และสีขาว ผ้าห่มถูกซักทำให้สะอาดสะอ้าน แต่กระนั้นบางส่วนของตัวผ้าก็หายไป จากการตรวจสอบที่มาของผ้า พบว่ามาจากโรงงานทอผ้าสักแห่งในแคนนาดา แต่กระนั้นผ้าห่มนี้ไม่สามารถเจาะจงผู้ซื้อได้เพราะว่าผ้าห่มดังกล่าวได้รับการผลิตและส่งขายไปทั่วประเทศ ใกล้ ๆ พุ่มไม้เจ้าหน้าที่พบหมวกลูกฟูกสีฟ้ากับสายหนังและหัวเข็มจัดด้านหลัง ซึ่งน่าจะเป็นของเด็กชาย หมวกดังกล่าวถูกส่งไปยังห้องแล็บเอฟบีไอในการวิเคราะห์ แต่ไม่พบอะไรที่สำคัญเกี่ยวกับรูปคดีเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นหมวกดังกล่าวก็ถูกนำมาลงพร้อมกับโปสเตอร์เด็กชายเพื่อตามหาตัวตนที่แท้จริงของเด็กชายไปด้วย
มีการเพิ่มตำรวจหลายนายเข้ามาในพื้นที่แห่งนั้นเพื่อตรวจสอบค้นหาหลักฐานที่น่าจะสาวตัวไปถึงเด็กชายในกล่องผู้ลึกลับนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งกินพื้นที่อาณาเขตจากพื้นที่พบศพถึง 12 กิโล พวกเขาค้นหาป่ารกร้าง ไปจนถึงอาคารร้าง
และพื้นที่อาศัยบริเวณนั้นเกือบทุกจุด แต่ไม่พบอะไรที่น่าสนใจ หลักฐานที่พอเก็บได้คงจะเป็นหลักฐานที่ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดหน้าสีขาว รองเท้าเด็กสีดำ ผ้าพันคอของเด็ก และผ้ากำมะหยี่สีเหลืองที่เป็นเสื้อของเด็กผู้ชาย ซึ่งขนาดของเสื้อพบว่ามีขนาดพอดีกับศพเด็กผู้ตาย แต่กระนั้นผลจากการตรวจสอบห้องปฏิบัติการทางเคมีของตำรวจผลทดสอบคือลบ
สิ่งที่เป็นความพิศวงของคดีก็คือการตายของเด็กชายที่ไม่รู้ว่าเด็กตายเพราะอะไรระหว่างถูกฆ่าหรือได้รับอุบัติเหตุ คาดว่าก่อนตายเขาคงถูกเลี้ยงดูอย่างดี ส่วนสาเหตุการตายถูกทำร้ายที่ใบหน้าและหัวอย่างรุนแรง แต่ปัญหาก็คือบาดแผลพวกนี้เกิดจากอะไรกันแน่ เด็กคนนี้ถูกฆาตกรรมหรือเป็นอุบัติเหตุ แต่กระนั้นสิ่งที่บ่บอกว่าเด็กน่าจะถูกฆาตกรรมคงจะเป็นร่องรอยการตัดผมขาด ๆ หาย ๆ จากการชันสูตรศพอย่างถี่ถ้วน พบว่าเด็กชายกระดูกไม่หัก แต่มีกากน้ำตาลเข้มภายในหลอดอาหารซึ่งคาดว่าเด็กมีการอาเจียนก่อนตาย ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายทางเพศ ร่างกายมีบาดแผลเป็นคือแผลหน้าอกด้านซ้าย ข้อเท้า และขาหนีบที่น่าจะเกิดการผ่าตัด นอกนั้นเป็นแผลเป็นซึ่งเป็นแผลปกติที่พบในเด็กที่ชอบเล่นซน จากข้อสันนิษฐานจากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายได้ระบุว่า เด็กชายคนนี้ได้รับอาหารน้อยและอาจมีการเข้าเฝือกก่อนหรือตาย อายุของเขาน่าจะประมาณ 4 หรือ 5 ปี และชาติกำเนิดของเขาน่าจะมาจากประเทศในตะวันตกเฉียงเหนือหรือตะวันตกกลางยุโรปอาจเป็นสแกนดิเนเวีย เยอรมันตะวันตก อังกฤษ หรือสกอตแลนด์
สิ่งที่พิศวงไม่แพ้กันคือการหาชื่อจริงของเด็กชายในกล่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ในฟิลาเดลเฟียพยายามหาข้อมูลของเด็กจากหลาย ๆ แหล่ง ที่ตอนแรกคาดว่าน่าจะเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวแล้วถูกนำมาฆ่า ไม่ก็เด็กเป็นคนแถวนั้น แต่ปรากฏว่าสืบไปสืบมาก็มือแปดด้าน ไม่มีรายงานเด็กหาย ไม่มีใครระบุตัวตนของเด็กชาย ข้อมูลหลักฐานที่จะระบุตัวตนของเด็กชายก็ไม่มี ผลสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบก็จนปัญญากับคดีนี้ในที่สุด เมื่อคดีเด็กชายในกล่องมืดแปดด้าน หลายฝ่ายก็เริ่มให้ความสนใจที่จะเข้ามาช่วยกันพยายามไขปริศนาว่าศพเด็กชายในกล่องผู้ลึกลับคนนี้คือใครกันแน่ ยังได้รับความสนใจจากเอฟบีไอสมาคมแพทย์อเมริกัน สื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศและรวมไปถึง Vidocq Society องค์กรที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมสาขาต่าง ๆ เด็กชายในกล่องมีรอยนิ้วมือ รอยนิ้วเท้า นอกจากนี้ยังรอยแผลเป็นของเด็กซึ่งน่าจะมีประวัติการรักษาพยาบาลที่ไหนบ้าง (นอกจากนี้จากการใช้แสงอัลตร้าไวโอเลตส่องที่ตาซ้ายพบว่าเด็กน่าจะมีการรักษาโรคตาเรื้อรัง) ข้อมูลของเด็กชายถูกส่งไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ แล้วยังขยายไปยังเม็กซิโก แคนาดา และยุโรปแต่น่าพิศวงเพราะจนบัดนี้ก็ไม่มีคำตอบเลยว่าเด็กชายในกล่องคนนี้เป็นใคร?
ส่วนฝ่ายสื่อมวลชนก็มีการลงภาพเด็กผู้ตายลงสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรืออินเตอร์เน็ต โปสเตอร์ของเด็กชายในกล่องที่ถูกถ่ายด้านหน้า ด้านซ้ายและด้านขวา รูปผ้าลายสก็อตและหมวกเด็กพร้อมข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ถูกแปะไปทั่วสถานที่ทุกแห่งในฟิลาเดลเฟียไม่ว่าจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ ร้านเหล้า และหน่วยงานตำรวจทั่วประเทศ แต่ก็ไม่มีใครที่แสดงตัวเป็นเด็กชายคนนี้เป็นใคร จนมีบางคนถึงขนาดนำศพเด็กชายมาสวมใส่เสื้อผ้าเด็กและถูกจัดวางท่านั่งเพื่อหวังว่ามันจะช่วยคนมีคนจำเด็กชายผู้ตายคนนี้ได้บ้าง (เป็นความคิดของนักสืบเจ้าของคดี ในเดือนพฤศจิกายน 1998) แต่ก็ยังคงดำมืดเหมือนเดิม
แน่นอนว่าคดีดังแบบนี้คงหนีไม่พ้นพวกอยากดัง ที่ชอบมาอ้างว่าตนเป็นฆาตกร คดีนี้มีหลายคนที่พยายามจะให้ตำรวจเชื่อว่าตนเป็นฆาตกรฆ่าเด็กชาย ไม่ว่าจะเป็นพวกที่อ้างว่าเป็นพี่ชายของเด็กที่ถูกลักพาตัวไป หรืออ้างเป็นพ่อแม่ของเด็กก็มีแต่ตำรวจมักปล่อยคนเหล่านี้ไปหลังจากตั้งคำถามไม่กี่คำถาม
สตีเวล เคร็ก ดัมมัน
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1955 บุตรชายของทหารอากาศที่ประจำการอยู่ที่มิทเชล แอร์ฟอร์ซเบส นิวยอร์ก ชื่อ สตีเวล เคร็ก ดัมมัน อายุ 34 เดือน ได้หายตัวไปในขณะช็อปปิ้งกับแม่ในซูเปอร์มาร์เก็ตลองไอส์แลนด์ในนิวยอร์ก ตอนแรกหลายฝ่ายเชื่อว่าเด็กชายในกล่องน่าจะเป็นคนเดียวกับสตีเฟ่นเนื่องจากเขามีดวงตาสีฟ้าเหมือนกัน ทั้งสองมีรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ใต้คางเหมือนกัน และภาพเอ็กซ์เรย์
พบรอยแตกหักเก่าที่แขนซ้ายเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้พวกเขาเชื่อว่าคดีนี้น่าจะปิดลงได้เสียที แต่หลังจากที่เปรียบเทียบรอยเท้าของเด็กที่ตายแล้วไปให้กรมตำรวจที่นิวยอร์กก็พบว่า มันไม่ตรงกับรอยเท้าของสตีเฟ่น ทำให้กรณีของสตีเฟ่นก็ไม่นำมาพูดในคดีเด็กชายในกล่องอีกเลย จนกระทั่งในปี 2003 ก็มีการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับเด็กสองคนอีกครั้ง ผลปรากฏว่าเด็กชาย
ในกล่องไม่ใช่คนเดียวกับสตีเฟ่นแน่นอน (ส่วนคดีการหายตัวของสตีเวล เคร็ก ดัมมันก็เป็นคดีที่ปิดไม่ได้เช่นกัน)
ในปี 1961 เคนนีต อี. และไอรีน อเดล ดัดลีย์ เป็นคนงานในเทศกาลคาร์นิวัลที่ถูกจับกุมและจำคุกในลอว์เรนซ์ มลรัฐเวอร์จิเนียในข้อหาเป็นต้นเหตุทำให้ลูกสาววัยเจ็ดปีอดอาหารและปล่อยปะละเลยจนตาย ภายใต้การสอบสวนที่เข้มข้น ทั้งสองสารภาพอีกว่าเขามีส่วนทำให้เด็กถึง 10 คนตายเพราะขาเดสารอาหารและปล่อยปะละเลย พวกเขาทิ้งศพในสถานที่ต่าง ๆ ในรัฐทางใต้ ในที่ร้างตอนแรกที่บางคนพยายามเชื่อมโยงคดีนี้กับเด็กชายในกล่อง แต่สุดท้ายก็พบว่าทั้งสองคดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
นอกจากยังมีการเชื่อมโยงหลายคดีที่หลายฝ่ายคาดว่าเกี่ยวข้องกับคดีเด็กชายในกล่อง ไม่ว่าจะเป็น คดีเด็กหาย ฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าเฉพาะเด็ก คดีทารุณเด็ก หากแต่ผลสุดท้ายก็ไม่มีคดีไหนเกี่ยวข้องกับคดีเด็กชายในกล่องแม้แต่น้อย
หลุมศพของเด็กชายในกล่อง
ศพของเด็กถูกฝังในสุสานพอตเตอร์ฟิลด์พร้อมกับโลงเล็กสีขาวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 1957 ซึ่งชื่อบนป้ายจารึกเป็นชื่อของบุตรชายนักสืบเจ้าของคดีนี้ โดยที่หน้าป้ายจารึกหลุมศพมีคำจารึกว่า Heavenly Father, Bless This Unknown Boy.
ในช่วงปี 1967 มีการนำศพเด็กชายขึ้นมาตรวจสอบ โดยหลายฝ่ายพยายามเอาเทคโนโลยีการสืบสวนสมัยใหม่มาใช้ในการไขคดีนี้ให้กระจ่าง โดยตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเชื่อมโยงหาประวัติเด็กชายในฐานข้อมูลดีเอ็นเอระดับชาติ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใดว่า เด็กชายคนนี้คือใครกันแน่ และทำไมเขาต้องถูกฆ่า??
(หมายเหตุ : เนื่องจากตอนตรวจสอบดีเอ็นเอของเด็กชายในกล่องนั้นเนื้อเยื่อส่วนใหญ่เสื่อมสภาพไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาคือการสกัดดีเอ็นเอจากฟัน) เช่นเดียวกับคดีฆาตกรรมอื่น ๆ หลายฝ่ายพยายามหาทฤษฏี ข้อสันนิษฐานต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงในการแก้คดีนี้ โดยคดีเด็กชายในกล่องได้ถูกตั้งข้อสันนิษฐานสองประการคือ
เรมิงตัน บริสโตวผู้ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการพยายามไขคดีนี้
ข้อสันนิษฐานที่ 1 บ้านอุปถัมภ์เด็ก ข้อสันนิษฐานดังกล่าวมีน้ำหนักมากและน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด โดยข้อสันนิษฐานนี้เป็นของเรมิงตัน บริสโตวพนักงานสอบสวนจากสำนักงานผู้ตรวจสอบทางการแพทย์ที่พยายามแก้ปริศนาที่ครอบงำจิตใจตลอดชีวิตถึงขั้นใช้เงินส่วนตัวในการติดตามคดีนี้
จากการสืบสวนของเรมิงตัน ในปี 1960 เขาได้ค้นพบบ้านอุปถัมภ์ที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่อาศัยเด็กชายนี้ตั้งอยู่ในที่เกิดเหตุ 1.5 กิโลเมตรเท่านั้น บ้านหลังดังกล่าวที่ตอนนี้ไม่มีคนอยู่และกำลังอยู่ช่วงในนำออกขายอสังหาริมทรัพย์ โดยสิ่งที่พบคือเปลเด็กที่ผลิตโดยบริษัท JC Penney นอกจากนี้เขายังพบผ้าห่มแขวนอยู่บนราวตากผ้าซึ่งคล้ายกับผ้าห่มที่ห่อตัวเด็ก ทำให้เชื่อว่าเด็กเป็นลูกของลูกสาวใจแตก
ที่นำเด็กไปทิ้งเพราะไม่อยากมีมลทินและเชื่อว่าครอบครัวอุปถัมภ์น่าจะมีส่วนในการตายของเด็ก แม้ข้อสันนิษฐานนี้จะมีน้ำหนัก แต่กระนั้นตำรวจไม่สามารถหาหลักฐานใด ๆ มายืนยันได้ นอกจากนี้จากการตรวจสอบ สอบถามพยานที่เป็นครอบครัวที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ก็ไม่สามารถยืนยันว่าครอบครัวนี้เกี่ยวข้องกับเด็ก ทำให้ข้อสันนิษฐานนี้ตกไปในที่สุด
ข้อสันนิษฐานที่ 2 เรื่องราวของเอ็ม ทฤษฏีที่สองเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2002 เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งใช้ชื่อเล่นว่า เอ็ม เธอได้อ้างว่าเป็นแม่ของเด็กที่ตาย โดยเล่าว่าในช่วงฤดูร้อนปี 1954 เธอได้ซื้อตัวเด็กจากพ่อแม้ที่แท้จริงแล้วตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า โจนาธาน ในช่วงสองปีครึ่งเด็กคนนี้ก็ถูกล่วงละเมิดทางร่างกายและทางเพศอย่างสุดขีด ก่อนที่จะถูกฆ่าโดยการทุบและจับกดในอ่างอาบน้ำ จากนั้นแม่ของเด็ก เอ็ม ก็ได้ตัดผมยาวของเด็กชายออก (ในรายงานของตำรวจระบุว่าคนที่ตัดผมเด็กชายไม่เป็นมืออาชีพ) และทิ้งร่างกายของเด็กชายในพื้นที่เงียบสงบในฟ็อกซ์เชส ตำรวจพิจารณาเรื่องที่เอ็ม เล่าจนเกือบจะเชื่อเพราะมีหลายจุดที่เหมือนข้อเท็จจริงของคดี แต่ก็มีปัญหาคือ เอ็มมีพยานหลักฐานที่อยู่ นอกจากนี้เธอยังมีประวัติอาการป่วยทางจิต อีกทั้งเมื่อสอบถามเพื่อนบ้านก็ปฏิเสธว่าไม่เคยพบเห็นเด็กคนดังกล่าวอาศัยในบ้านของเธอดังที่เธอพูด สรุปคือเรื่องที่เอ็มเล่ามาคือเรื่องไร้สาระ
ในตอนเย็นของวันเสาร์ วันที่ 3 ตุลาคม 1998 รายการ Americas most Wanted รายการโทรทัศน์แนวตามล่าหาความจริงของคดีดังที่ได้รับความนิยมในอเมริกา เปิดเวทีสาธารณะ ให้ผู้ชมทางบ้านส่งข้อความความคิดเห็นหรือความรู้สึกของคดีเด็กชายในกล่องนี้ได้ในเว็บไซต์ //www.amw.com ผลปรากฏว่าคดีนี้ได้เสียงตอบรับอย่างมหาศาลจากผู้ชมทางบ้าน แม้คดีนี้จะผ่านไปนานหลายปีแล้วก็ตาม จนต้องขยายเวลาอีก 2 สัปดาห์เพิ่มเติม โดยข้อความส่วนใหญ่ที่ถูกส่งมาเป็นข้อสันนิษฐานหากหลายที่นิยมของประชาชน เช่น
-เด็กชายคนนี้น่าจะมาจากโรงพยาบาลที่รักษาคนยากไร้และนำไปทิ้งเพราะไม่อยากเสียค่าใช้จ่าย
-คนที่ทิ้งเด็กน่าจะเป็นคนในท้องถิ่นและอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ
-เด็กชายในกล่องเป็นเด็กจรจัดที่ถูกเลี้ยงดูในบ้านอุปถัมภ์แต่ผู้ปกครองเด็กนั้นเป็นคนโหดร้ายที่ชอบทุบตีเด็ก จนกระทั่งวันเกิดเหตุได้ทุบตีเด็กคนนี้ตายเข้าเลยเอาศพมาทิ้ง
-เด็กชายในกล่องน่าจะเป็นเด็กที่อยู่ในบ้านหรือสถานที่ตัดขาดจากสังคมภายนอก ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสักคนที่จำเด็กได้นอกเสียจากคนที่เลี้ยงดูเด็กชาย
-เด็กชายในกล่องเป็นเด็กในคณะละครสัตว์
-ทางการได้ปกปิดข้อมูลลับอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเด็กชายในกล่องไม่ให้ประชาชนรับทราบ ฯลฯ
หลังจากคดีนี้ถูกนำออกรายการ มีเจ็ดรายออกมาอ้างตัวว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กชายในกล่อง แต่หลังจากสอบสวนพบว่าเป็นเท็จทั้งหมด ปัจจุบันเรื่องราวของเด็กชายในกล่องถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ละครซีรีย์มากมาย เช่น Cold Case, CSI: Crime Scene Investigation และ Law & Order: SVU
Cr. CAMMY /// Writer.Dek-d.com