4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
เจ้าศรี "ผู้ปฏิเสธความรักจาก ร.๕" : จอมนางแห่งราชสำนักไทย คนที่ ๗


เจ้าศรี เป็นธิดาของเจ้าผู้ครองนครน่าน เมื่อเจ้าศรีอายุได้ ๓ ขวบพระยามหิบาลบริรักษ์ ข้าหลวงในรัชกาลที่ 5กับคุณหญิงอุ่น ภรรยาได้ขอเจ้าศรีจากเจ้าผู้ครองนครน่านไปเป็นบุตรบุญธรรม เจ้าศรีจึงได้ตามพระยามหิบาลบริรักษ์เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เจ้าศรีใช้ชีวิตวัยเด็กไปกับการเรียนหนังสืออยู่ในวังร่วมกับเจ้านายในพระราชวงศ์จักรีเป็นเวลา ๓ ปี ก็ต้องตามครอบครัวพระยามหิบาลฯไปประเทศรัสเซียและประเทศอังกฤษเพราะท่านพระยาต้องไปปฏิบัติราชการทำให้เจ้าศรีได้มีโอกาสฝึกฝนภาษาอังกฤษไปด้วย

เวลาผ่านไปหลายปีเจ้าศรีก็กลับสู่ประเทศไทย แต่คราวนี้เจ้าศรีโตเป็นสตรีสาวที่มากความสามารถ เป็นผู้หญิงที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าคิดกล้าพูดและกล้าทำ เป็นหญิงสมัยใหม่ ผิดแปลกไปจากสตรีสาวชาววังทั่วไป ไม่นานนักเจ้าศรีก็เข้ารับราชการเป็นคุณข้าหลวงในสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถโดยมีหน้าที่เป็นล่ามคอยติดต่อประสานงานค้าขายกับชาวต่างชาติ ในช่วงนั้นต้องถือว่าเป็นสตรีที่มีความสามารถโดดเด่นและกำลังเป็นที่จับตามองของหลายๆคนรวมถึงพระเจ้าอยู่หัว

พระเจ้าอยู่หัวเองก็ทรงพอพระทัยอยู่เป็นมาก จนมีเสียงลือเสียงเล่าจากขุนนางบ้างข้าหลวงบ้างว่าพระเจ้าอยู่หัวจะให้เจ้าศรีเข้าถวายตัวเป็นเจ้าจอม ถึงขนาดจะยกขึ้นเป็นสนมเอกเลยทีเดียว เสียงลือต่างๆเริ่มเป็นที่หนาหู ไม่นานนักเรื่องก็ไปถึงหูเจ้าศรี ถึงกับวิตกกังวลว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี ด้านหนึ่งก็เกรงว่าจะเป็นที่ขุ่นเคืองพระทัยพระบรมราชินีนาถผู้เป็นเจ้านาย ด้านหนึ่งก็จะเกิดข้อครหาต่างๆไม่จบสิ้น ท่านจึงตัดสินใจคิดและหาทางออกเรื่องนี้เพียงคนเดียวโดยไม่ปรึกษาใคร

เมื่อถึงวันที่ท่านจะต้องเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว เจ้าศรีจึงได้รู้ว่าข่าวลือต่างๆนั้นมันเป็นเรื่องจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น พอพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสในเรื่องนี้ เจ้าศรีจึงตัดสินใจกราบบังคมทูลไปโดยตรง แต่ที่น่าตกใจคือเจ้าศรีกลับทูลเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งๆที่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งเป็นภาษาไทยด้วย ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เมื่อแปลเป็นไทยแล้วจึงได้ความหมายว่า

"ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้าเคารพรักพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์ โดยที่ข้าพเจ้ามิได้มีใจรักใคร่พระองค์ในทางชู้สาว"

ที่เจ้าศรีทูลกลับเป็นภาษาอังกฤษนั้นก็เพราะว่า หากทูลเป็นภาษาไทยจะทำให้ตรงเกินไปและเป็นการมิบังควรเพราะเป็นการปฏิเสธพระเจ้าอยู่หัว นับว่าเป็นการหาทางออกอย่างผู้มีสติปัญญาและไหวพริบเป็นเลิศ เมื่อทูลไปเช่นนั้นแล้วพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงแย้มพระสรวลและเมตตาให้เป็นไปตามความต้องการของเจ้าศรี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อเจ้าศรีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และทรงเป็นผู้ฉายรูปเจ้าศรีด้วยพระองค์เองเก็บไว้ในห้องบรรทมบนพระที่นั่งอัมพรสถานตลอดมา เจ้าศรีครองตัวเป็นโสดจนรัชกาลที่ ๕ สวรรคต จึงเข้าพิธีเษกสมรสกับหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร โดยมีรัชกาลที่ ๖ เป็นเถ้าแก่สู่ขอเจ้าศรี พร้อมกับพระราชทานนามให้ใหม่ว่า ศรีพรหมา จากนั้นมาจึงมีฐานะเป็น หม่อมศรีพรหมา ในหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร





จากภาพ

บนซ้าย : รูปเจ้าศรีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายด้วยฝีพระหัตถ์และทรงตั้งไว้ในห้องพระบรรทม

บนขวา : รูปเจ้าศรีเมื่อกลายมาเป็นหม่อมศรีพรหมา ในหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร

ล่าง : รูปคู่รูปเจ้าศรีพรหมากับหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ในวัยชรา และครอบครัว




ที่มา : คลังประวัติศาสตร์ไทย











Create Date : 25 สิงหาคม 2557
Last Update : 28 เมษายน 2558 12:56:26 น. 0 comments
Counter : 733 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.