4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
บรูโน่ เฟอร์นานเดส : เมื่ออนาคตต้องดับวูบลง



ครั้งหนึ่งบิลล์ แชงคลีย์ สุดยอดตำนานกุนซือทีมลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เคยกล่าวไว้ว่า "ฟุตบอลไม่ใช่ทั้งชีวิตและความตาย แต่เป็นอะไรที่มากกว่านั้น"

ประเทศบราซิล หรือชื่อทางการคือสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และอันดับที่ 5 ของโลก แม้มันจะเป็นประเทศที่ใหญ่แต่บราซิลก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ยากจนติดอันดับต้นๆ ของโลก เหตุเพราะ เศรษฐกิจมักขาดดุล มักมีเงินเฟ้อสูง มีหนี้สินท่วมท้น มีความฉ้อฉลและความไม่เป็นธรรมในสังคมสูง ด้วยความยากจนนี้เองก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา ไม่ว่าความยากจน ยาเสพติด การก่อการร้าย ฯลฯ คดีปล้นจี้ ข่มขืน ถือว่าเป็นสิ่งธรรมดาของสังคมบราซิล จนทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศอันตรายแห่งหนึ่งของโลก

แม้ว่าบราซิลจะมีปัญหามากมายก็ตาม แต่กระนั้นเมื่อเอ่ยถึงบราซิล สิ่งที่ทำให้หลายคนรู้จักประเทศนี้มากที่สุด คือฟุตบอล เนื่องจากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีนักฟุตบอลเก่ง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเปเล่ โรนัลโด กาก้า คาร์ลอส ฯลฯ และสิ่งที่เป็นข้อมูลที่น่าสนใจต่อมาคือนักฟุตบอลบราซิลระดับโลกนั้นส่วนใหญ่พื้นฐานในอดีตเคยเป็นคนยากจนในสลัมของบราซิลมาก่อน ซึ่งที่นั้นเต็มไปด้วยอาชญากรรม โสเภณี การข่มขืน ฆ่ากันตาย ยาเสพย์ติด หากแต่สิ่งเหล่านั้น เป็นแรงผลักดันชั้นเยี่ยม ของเด็กผู้ชายที่เก่งฟุตบอล เช่น เปเล่และโรนัลโด ซึ่งใช้ฟุตบอลเป็นพาหะหนีออกจากวังวนของความยากจน และแหล่งเสื่อมโทรม ก่อนที่จะก้าวเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ชื่อเสียงและเงินทองได้ไหลมาเทมาและไม่คิดจะหวนกลับคืนอดีตดังกล่าวอีกเลย

แต่กระนั้นอย่างไรก็ตาม ก็มีนักฟุตบอลหลายคนที่ไม่สามารถหนีวังวนเหล่านี้ได้ ครั้งหนึ่งแอนเดอสัน กองกลางฟุตบอลของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อดีตเขาเคยเป็นเด็กสลัมในบราซิลและเคยเป็นแตะบอลข้างถนนของเขามาก่อน ในชีวิตของเขาได้เห็นเพื่อนของเขาที่มีฝีมือเล่นฟุตบอลเก่งกว่าเขาไปไม่ถึงฝันฝัง หลายคนที่จมอยู่ในวงจรอุบาทว์ไม่มีทางกลับมาเลย แต่นักฟุตบอลบางคนยิ่งกว่านั้น เพราะอดีตตนเคยเป็นเด็กสลัม เมื่อมีชื่อเสียงขึ้นมา บางทีอาจมีพฤติกรรมที่แก้ไม่หาย ต้องกลายเป็น เด็กเลว จนอนาคตต้องดับวูบ บางคนอาจแค่ทำตัวเสเพล ในขณะที่บางคนกลายเป็นอาชญากร และที่ร้ายที่สุดคือเมื่อนักฟุตบอลต้องเป็นฆาตกรฆ่าคนเพื่อรักษาชื่อเสียงของตน.......อย่างเช่นกรณีของ บรูโน่ เฟอร์นานเดส!



บรูโน่ เฟอร์นานเดส หรือชื่อเต็มว่าบรูโน่ เฟอร์นานเดส เดอ ซูซ่า หรือเรียกสั้น ๆ ว่า บรูโน เป็นอดีตผู้รักษาประตูมือกาวชาวบราซิล ที่เป็นผู้ต้องสงสัยข้อหาร่วมมือกับพรรคพวกลักพาตัวเอลิซ่า ซามูดิโอ อดีตแฟนสาวซึ่งเป็นนางแบบ
 และเนื่องจากแฟนสาวหายสาบสูญ ทำให้หลายคนเชื่อว่าเธอถูกบรูโนและพวกฆ่า โดยเจ้าตัวพยายามบังคับให้อดีตนางแบบไปทำแท้งลูกที่เธออ้างว่าเขาเป็นพ่อหากแต่เธอปฏิเสธ ทำให้บรูโนต้องใช้วิธีดังกล่าวเพื่อรักษาชื่อเสียง (และไม่อยากรับผิดชอบลูกในท้อง) โดยศาลตัดสินให้ผู้รักษาประตูวัย 25 ปี รับโทษจำคุกนาน 4 ปี 6 เดือน ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดกันทำชั่วในครั้งนี้ด้วยนั้น ได้รับโทษ 3 ปีด้วยกัน ส่งผลทำให้สัญญานักฟุตบอลของเขาถูกระงับจากสโมสรฟลาเมงโก้ 

บรูโน่ เฟอร์นานเดส เกิดในวันที่ 23 ธันวาคม 1984 ในแคมโป ไมออบราซิล ชีวิตวัยเด็กของเขานั้นอยู่ท่ามกลางสลัมชุมชนแออัดที่รายล้อมด้วยอาชญากรรมและความยากจน หากแต่ต้องขอบคุณพรสวรรค์ความสามารถของฟุตบอลของบรูโนทำให้เขาสามารถดำเนินชีวิตตามความฝันที่เด็กบราซิลอยากจะเป็นคือ นักฟุตบอลมืออาชีพ

บรูโน่ เริ่มต้นในการเป็นนักแตะฝึกหัดเยาวชนในสโมสร Tombense ในปี 2001 ก่อนที่จะย้ายไปสโมสรอัตเลติโก มิไนโร่ ในปีถัดมา และใช้เวลาเพียง 6 ปี ในที่สุดเขาก็ได้เป็นนักแตะมืออาชีพ และหลายปีต่อมาเขาก็กลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง ถนนหนทางมีแต่กุหลาบโรย ในปี 2006 บรูโน่ก็ได้เล่นเป็นตัวจริงเพียงสัปดาห์เดียวที่เขาย้ายมาอยู่สโมสรฟลาเมงโก้ สโมสรที่มีชื่อเสียงแห่งกรุงริโอเดจาเนโรในประเทศบราซิล โดยเล่นแทนดิเอโก้อดีตผู้รักษาประตูตัวจริงที่ได้รับบาดเจ็บ และทันทีที่เขาลงสนามในเกมแรกกับอินเตอร์นาซิอองนาล เขาก็โชว์ฟอร์มป้องกันประตูอย่างเหนียวหนึบ ส่งผลให้เขาสามารถยึดตำแหน่งผู้รักษาประตูตัวจริงในช่วงฤดูกาล 2007 ที่เหลือ และได้ลงเล่น Campeonato Carioca ประจำปี 2007 ซึ่งเป็นการแข่งขันสโมสรฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ที่มีชื่อเสียงในรีโอเดจาเนโร ในรอบชิงชนะเลิศกับโบตาโฟโก เอสพี และเขาก็ช่วยให้สโมสรฟลาเมงโก้ได้แชมป์ ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเวทีสำหรับบราซิลคงจะเล็กไปสำหรับบรูโน่ เขาน่าจะไปกอบโกยอาชีพค้าแข้งที่ยุโรป โดยมีสโมสรเอฟซีบาร์เซโลนาสโมสรยักษ์ใหญ่ในสเปนให้ความสนใจ 

แต่กระนั้นอย่างไรก็ตามบรูโน่เลือกที่จะเล่นในลีกฟุตบอลบ้านเกิดมากกว่าไปยุโรป โดยเซ็นสัญญาถวารกับสโมสรฟลาเมงโก้ ในปี 2008 และในช่วงนั้นเองก็คือปีทองของบรูโน่ เพราะเขาได้รับรางวัลมากมาย และได้รับเลือกตำแหน่งกัปตันทีม พร้อมกับสถิตการแข่งขันครบ 100 นัด ในการเล่นกับสโมสรฟลาเมงโก้ ในปี 2009 ด้วยส่วนสูงกว่า 6 ฟุต 3 นิ้ว และผลงานในสนามที่รักษาประตูได้เหนียวหนึบ จึงไม่แปลกอะไรที่ทำให้ชื่อของเขาถูกบรรจุทีมชาติบราซิลชุดเดอะแชมเปี้ยนชิพ 2009 ทั้งที่อายุเพียง 25 ปีเท่านั้น 

ในด้านชีวิตส่วนตัวนั้น บรูโน่ค่อนข้างเป็นคนสนุกสนานและเจ้าชู้ ด้วยชื่อเสียงและโชคลาภเงินทองให้เขาหลงใหลชีวิตกลางคืน นอกเหนือจะเป็นเรื่องฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้ว แต่ชีวิตเขายังทำตัวเสเพสมียาเสพติดและผู้หญิงรายล้อมรอบตัวเขาเสมอ เขามีผู้หญิงนับไม่ถ้วน บางคนเป็นถึงนางแบบ และบางครั้งก็มีผู้หญิงสวยมาขอมีเพศสัมพันธ์กับเขาเลยก็มี และหนึ่งในนั้นมีเอลิซ่า ซามูดิโอรวมอยู่ด้วย



เอลิซ่า ซามูดิโอ
เอลิซ่า ซิลวา ซามูดิโอ เป็นนางแบบสาวชาวบราซิล เกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1985 ในโฟซ โด อีกัวสุ, พีอาร์ ประเทศบราซิล ในครอบครัวชนชั้นกลาง วัยเด็กเธอหลงใหลนักฟุตบอล เนื่องจากครอบครัวปลูกฝังความรักฟุตบอลตั้งแต่ยังเล็ก และทีมโปรดของเธอที่ตามเชียร์คือสโมสรฟลาเมงโก้ ชีวิตของเอลิซ่า เต็มไปด้วยปัญหา เธอถูกแม่ทิ้งตั้งแต่อายุห้าขวบ และต้องเสียความบริสุทธิ์ตั้งแต่ยังไม่ถึงวัยรุ่น มีลูกสาวแต่ก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ต่อมาก็อย่าแต่งงานอีกครั้งเมื่ออายุ 16 และมีลูกชาย อยู่กับสามีที่ทำอาชีพฟาร์มพริกไทยแต่ก็ไปไม่รอด ก็กลับยังบ้านพ่อของเธอ ต่อมาก็ย้ายไปอยู่เมืองหลวงอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อน มีอาชีพเป็นนางแบบ เคยมีบทบาทในภาพยนตร์ลามกอนาจารในปี 2005-2006 และมีส่วนร่วมการผลิตภาพยนตร์เร้าอารมณ์เรื่อง Brasileirinhas (2003)


เอลิซ่าเป็นผู้หญิงผิวขาว ผมดำ มีจุดเด่นที่รอยสักที่เอวของเธอและโคนขาหนีบ ซึ่งเธอเป็นนางแบบที่ชาวบราซิลรู้จักพอสมควร ในภาพถ่ายชุดวาบหวิว บิกินี่ตัวจิ๋วที่อวดเรือนร่างไม่อายฟ้าดิน อีกทั้งชีวิตส่วนตัวเธอยังเป็นสาวกลางคืนนักเที่ยวและยังเป็นโสเภณี ชอบงานปาร์ตี้เซ็กต์หมู่ หรือปาร์ตี้เปลือย จนกระทั่งคืนหนึ่งในปี 2008 หรือต้นปี 2009 งานปาร์ตี้เปลือยที่จัดเป็นงานบาร์บีคิวบังหน้าแห่งหนึ่งในรีโอเดจาเนโร ระหว่างงานเลี้ยงดังกล่าวเอลิซ่าที่ตอนนั้นอายุประมาณยี่สิบสี่ปี ก็ได้พบชายที่เธอหลงทันทีที่เธอกับเขาต้องตาประสานกัน เธอรู้ทันทีว่าชายคนนั้นคือ บรูโน่ เฟอร์นานเดส นักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง และคืนที่นั่นเองทั้งสองก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2009 บรูโน่ที่กำลังหลงใหลชื่อเสียงและผู้หญิงมาเนิ่นนานก็ได้พบปัญหาที่เขาแก้ไม่ตก เมื่อเอลิซ่ามาหาเขาแล้วบอกเขาว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ตอนแรกบรูโน่ไม่เชื่อเพราะตอนนั้นเขาสวมถุงยางอนามัย หากแต่เธอบอกว่าถุงยางคงจะแ
ตก หลังจากนั้นเป็นต้นมาข่าวระหว่างคู่รักคนใหม่ บรูโน่และเอลิซ่าก็ขึ้นหัวพาดข่าวอื้อฉาวในหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง โดยเอลิซ่าออกมาแฉว่าตัวเองมีอะไรกับบรูโน่นักฟุตบอลชื่อดังจนเธอตั้งครรภ์


สำหรับประชาชนแล้วเรื่องดังกล่าวถือว่ายอมรับไม่ได้ เพราะว่านักฟุตบอลถือว่าเป็นอาชีพขวัญใจมหาชนและต้องเป็นแบบอย่างแก่เด็กเยาวชน แต่บรูโน่กับมีผู้หญิงคนใหม่ทั้งมีภรรยาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว หากทำผิดดังกล่าวจริง อาจมีผลต่อชื่อเสียง สปอนเซอร์ผู้สนับสนุน รวมไปถึงผลงานในสนามก็ได้ ต่อมามีแหล่งข่าวจากวงในที่น่าเชื่อถือได้ว่าบรูโน่ไม่ยอมรับเด็กในท้อง และเขาเสนอเงินให้เธอถึง 40,000 ดอลลาร์เพื่อให้เธอเอาเงินไปทำแท้งเอาเด็กออก อีกทั้งยังอ้างว่าติดทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงตรวจดีเอ็นเอ ตรวจเลือด เพื่อยืนยันเด็กในท้องว่าเป็นลูกของเขา ซึ่งในเวลานั้นบรูโน่เครียดและกลัวมากว่าเขาจะติดโรคเอดส์ถึงขั้นไปตรวจหาโรคในโรงพยาบาลจนตกเป็นข่าวใหญ่ซุบซิบไปทั่วเมือง 

ส่วนคำถามเกี่ยวกับปาร์ตี้เซ็กต์หมู่ บรูโน่ตอบสั้น ๆ เพียงว่า มันเป็นเรื่องปกติของนักฟุตบอลทั่วไป เอลิซ่าปฏิเสธการทำแท้งตามข้อเสนอบรูโน่ และในเดือนตุลาคม 2009 เอลิซ่าซึ่งในขณะนั้นตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน ออกมากล่าวหาบรูโน่ว่าพยายามลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย และข่มขืนตน หากแต่บรูโน่ปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกมาตรการป้องกันไม่ให้บรูโน่เข้าใกล้เอลิซ่าเกินกว่า 300 เมตรและเอลิซ่าเองก็หลบหนีไปเซาเปาโลอาศัยอยู่กับเพื่อนแม่ จนกระทั่งวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2010 เธอก็ได้คลอดลูกชาย บรูโน่เริ่มเปลี่ยนกลยุทธ์รักษาหน้าตาทางสังคมของเขาเอาไว้ โดยทำทีไปเยี่ยมเด็กและยอมรับการตรวจดีเอ็นเอ ผลปรากฏว่าเด็กดังกล่าวเป็นลูกของเขาจริง และเธอก็ตั้งชื่อเด็กว่า บรูโน่ซามูดิโอ บรูโน่ทำที่รู้สึกตื่นเต้นและมีความสุข ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่เลยเพราะจากแหล่งข่าว เพื่อนของเขาบอกว่าบรูโน่รู้สึกเป็นทุกข์มากเลยในขณะนั้น เนื่องจากเอลิซ่าเริ่มเข้ามายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขา ขอเงินค่าเลี้ยงดูบุตร และเธอยังบีบให้เขาหย่ากับภรรยาเก่ามาหาเธอกับลูก เขาบอกว่ามันเป็นไม่ได้และเขาต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะสายเกินไป....

วันที่ 8 มิถุนายน 2010 เอลิซ่าได้โทรศัพท์หาเพื่อนสามคนของเธอ บอกพวกเขาว่าเธอและลูกที่ยังเป็นทารกกำลังออกไปข้างนอกเพื่อไปเจรจาตกลงกับบรูโน่เรื่องสัญญาการเลี้ยงดูบุตรในพาร์เมนต์ที่เบโลโอรีซอนตี (เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่อยู่ในตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล) ความจริงแล้วทั้งหมดมันเป็นแผนของบรูโน่ในการกำจัดเอลิซ่า โดยแผนเขาเริ่มขึ้นเมื่อเขาติดต่อเพื่อนสองคนคือ หลุยซ์ เอนริเก ราเมา และหลุยซ์ อปาเรดิโก ซานโตส ซึ่งบรูโน่และเพื่อนทั้งสองของเขานั่นหลายคนรู้จักกันดีในฉายา "สปาเก็ตตี้" อันเป็นฉายาที่หมายถึงเพื่อนรักที่ไม่สามารถแยกจากกัน อีกทั้งเพื่อนรักทั้งสองก็เป็นมือขวาของบรูโน่ที่พร้อมที่จะทำอะไรทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ตาม

หลังจากนั้นเอลิซ่าและลูกก็หายไป ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเธอไปไหน ชะตากรรมของเธอว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ส่วนด้านครอบครัวเองนั้นเอลิซ่าไม่ได้กลับเหยียบบ้านนานหกปีแล้ว ขนาดพ่อแท้ ๆ ยังแค่ติดต่อเธอทางโทรศัพท์ แน่นอนเธอไม่มีทางกลับบ้านแน่ ๆ สิ่งเดียวที่คิดได้ก็คือเธอถูกฆาตกรรม และในเวลาต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมหลุยส์ เอนริเก ราเมา และหลุยส์ อปาเรดิโก ซานโตส ในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีของเอลิซ่า และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหนักก็จึงรู้ว่าชะตากรรมของเธอว่าตอนนี้เป็นอย่างไร....

เชื่อว่าวันที่เกิดคดีคือวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่พรรคพวกของบรูโน่รวมหัวกันนัดแนะเอลิซ่า โดยให้เธอรออยู่ในโรงแรมเพื่อรอบรูโน่ นัดคุยเรื่องค่าเลี้ยงดูลูกหากแต่สิ่งที่เธอเจอ คือการถูกลากออกจากโรงแรม โดยมีรถของเพื่อนบรูโน่จอดรออยู่แล้ว หนึ่งในนั้นมีปืนที่เล็งมาหาเธอ พร้อมสั่งให้เธอขึ้นรถ เอลิซ่าโกรธมากและพยายามขัดขื่น หากแต่สิ่งที่ตามมาคือความโกรธของสามหนุ่มบราซิลเลี่ยน พวกเขาใช้ปืนตีที่ศีรษะของเธอหลายครั้ง เธอไม่ได้ตาย แค่หมดสติ ก่อนที่จะลากเธอขึ้นรถ และทั้งหมดก็ออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เพื่อไปบ้านของบรูโน่ที่อยู่เขตชานเมืองเบโลโอรีซอนตี ที่นั่นมีพรรคพวกอีกหลายคนกำลังรอบรูโน่อยู่ เมื่อมาถึงบรูโน่ได้กล่าวกับเพื่อนชาวมักกะโรนีของเขาว่า "พวกนายต้องแก้ไขปัญหานี้ ฉันไม่ต้องการให้ปัญหาใด ๆ ตามมา และฉันไม่อยากมีส่วนรวมอะไรทั้งสิ้น"

หลังจากนั้นบรูโน่ก็ปล่อยให้เพื่อนของเขาจัดการกับเอลิซ่ากันเอง เขากลับไปกรุงรีโอเดจาโรในวันเดียวกัน และทำลายหลักฐานของเอลิซ่าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทางและเครื่องใช้ของเธอ หลังจากนั้นเขานั่งจิบเบียร์รอฟังข่าว สามหนุ่มมักกะโรนี หารือกันถึงการกำจัดอลิซ่าตามคำสั่งของบรูโน่ และปรึกษากันพักใหญ่ก่อนที่จะสรุปว่า ไม่ควรปล่อยตัวเธอไปเพราะมันจะเกิดปัญหาตามมาที่หลัง อีกทั้งบรูโน่ยังจ่ายเงินให้พวกเขาถึง 3,000,000 เรียลบราซิล (ประมาณ 1,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ) เพื่อสังหารเอลิซ่าและกำจัดศพเธอ



ในคืนนั้นหลุยซ์ เอนริเก ราเมา และหลุยซ์ อปาเรดิโก ซานโตสได้ลงมือสังหารเอลิซ่าอย่างโหดเหี้ยม เลือดเย็นและหมดจด โดยเริ่มจากการคว้าเธอที่ตอนนั้นเธอผูกเชือกติดอยู่เก้าอี้ ทำการทุบตีเธอและข่มขู่ เอลิซ่าเลือดออกที่หน้า ก่อนที่เธอจะถูกใครคนหนึ่งรัดคอจนขาดใจตา
ย และเมื่อเธอตายร่างกายของเธอก็ถูกหั่นแยกส่วน โดยแยกเนื้อและกระดูก โดยเนื้อถูกนำไปใส่กระเป๋านำมาไปให้สุนัขร็อตไลอร์ที่พวกเขาเลี้ยงไว้ฉีกทิ้งกินอย่างรวดเร็ว และเมื่อสุนัขทำการจัดการศพบางส่วน กระดูกที่เหลือของเอลิซ่าก็ถูกปิดทับด้วยซีเมนต์ในจุดเดียวกับที่เธอถูกฆาตกรรม

ส่วนทารกที่เอลิซ่าพามาด้วยนั้น พวกเขาไม่ได้ฆ่า หากแต่พวกเขาส่งเด็กไปให้ดายาเน่ โรดริเกส ภรรยาของบรูโน่เพื่อไปซ่อนเด็กเพื่อหาวิธีกำจัดเด็กทีหลัง หลังจากที่เอลิซ่าหายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งคนหายจากเพื่อนของเอลิซ่า ซึ่งเมื่อสอบสวนก็ตามรอยจนสามารถควบคุม มักกะโรนี หลุยซ์ เอนริเก ราเมา และหลุยซ์ อปาเรดิโก ซานโตส ในฐานะผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมเอลิซ่า ระหว่างการสอบสวนทั้งสองสารภาพทุกอย่าง ก่อนที่จะบอกคนบงการซึ่งก็คือ บรูโน่ แฟร์นานเดส นักฟุตบอลชื่อดัง และนี้เองคดีอาชญากรรมดังกล่าวก็กลายเป็นคดีเขย่าขวัญในวงการฟุตบอลในบราซิลขึ้นมาทันที

ในเดือนกรกฎาคม 2010 ผู้พิพากษาชาวบราซิลสั่งจับกุมบรูโน่ในข้อหาเป็นตัวบงการฆ่าอดีตแฟนเก่า เมื่อวันพุธที่ 7 กรกฏาคมเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมบรูโน่ถึงบ้านพักหรูริมชายหาดริโอ หากแต่เมื่อไปถึงบรูโน่ไม่อยู่ที่นั้น อย่างไรตามในเดือนต่อมาบรูก็เข้ามอบตัวแก่ทางการที่เมืองเบโญ ฮอริซอนเต้ หลังถูกออกหมายจับ เขาปฏิเสธในข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่านี้ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการกล่าวหาเรื่องนี้กลับผม ผมสามารถพิสูจน์หลักฐานได้ว่าตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะผมเป็นนักฟุตบอล ต้องฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมทั้งเช้าและเย็นและนักข่าวเองก็เป็นพยานยืนยันที่อยู่ผมได้

หลังจากนั้นบรูโน่ก็ให้ทนายของเขาตอบคำถามทั้งหมด และปฏิเสธว่าตนมีความสัมพันธ์กับเอลิซ่าว่ามีลูกด้วยกัน (ต่อมาลูกสี่เดือนของเอลิซ่าถูกพบในสลัมริเบเรา ในชานเมืองเบโลโอรีซอนตี และขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2010 ภรรยาของบรูโน่ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวในข้อหาซ่อนตัวเด็ก แต่ต่อมาเธอก็ถูกปล่อยตามคำสั่งของศาล)



การจับกุมบรูโน่ได้ส่งผลทำให้เขาหมดอนาคตกับอาชีพค้าแข้งนักฟุตบอลทันทีทางสโมสรฟลาเมงโกสั่งพักสัญญากับเฟอร์นันเดสและไม่ให้ทนายของสโมสรเข้าไปเป็นตัวแทน (แต่สิ่งที่ทำให้บรูโน่ช็อกเหมือนถูกฟ้าผ่าก็คือทางสโมสรส่งโทรเลขยกเลิกสัญญามาให้เขาในขณะอยู่ในคุก) นอกจากน
ี้เขาก็ไม่มีสิทธิได้เล่นฟุตบอลทีมชาติบราซิลชุดฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบ้านเกิดของตนเองด้วยซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้บรูโน่เสียใจมากที่ไม่ได้ทำความฝันของเขาเป็นจริงในการนำทีมชาติของเขาชนะเลิศฟุตบอลโลกเพื่อเป็นเกียรติประวัติชีวิต

ในด้านของคดีนอกเหนือจากศพของเอลิซ่าที่ถูกพบ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่เชื่อว่าบรูโน่เป็นตัวบงการสังหารเอลิซ่าจริง เขาถูกตั้งข้อหาลักพาตัว ฆาตกรรม และซ่อนศพ (รวมไปถึงลักพาตัวทารก) อย่างเป็นทางการ เขาและผู้ต้องสงสัยคนอื่น ๆ ถูกแยกขังคนละที่ และห้ามเยี่ยมหรือประกันตัว ขนาดทนายความจะไปเยี่ยมจะต้องให้ศาลอนุมัติ

30 กรกฎาคม 2010 บรูโน่ถูกส่งฟ้องร่วมกับพรรคพวกอีก 6 คน (มือสังหารอลิซ่าเป็นอดีตตำรวจฉายา เบบี้) ที่ถูกจับกุมเพิ่มเพื่อทำไต่สวน และวันที่ 29 ตุลาคม มีการตรวจสอบดีเอ็นเอลูกของเอลิซ่าผลปรากฏว่าเด็กดังกล่าวเป็นลูกของบรูโน่และเอลิซ่าจริง ปัจจุบันเด็กอยู่ในความดูแลของพ่อเอลิซ่า

ปัจจุบันคดีของบรูโน่ยังอยู่ในการพิจารณาคดีในศาล และสิ่งที่กำลังรอเขาอยู่ก็คือบทลงโทษตามกฎหมายของบราซิลสำหรับคดีโหดสะเทือนขวัญดังกล่าว ล่าสุดผลการตัดสินปรากฏว่าบรูโน่มีความผิดจริงและต้องรับโทษจำคุก 4 ปี 6 เดือน ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดกันทำชั่วในครั้งนี้ด้วยนั้นได้รับโทษ 3 ปี ด้วยกัน แม้โทษดังกล่าวจะเบา แต่ความผิดครั้งนี้ทำให้เขาไม่สามารถเรียกชีวิตที่รุ่งเรืองกลับคืนมาได้เหมือนเมื่อก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภรรยาหรือเรื่องสโมสรฟุตบอลและชื่อเสียงที่สั่งสมมา เรื่องราวของเอลิซ่านอกเหนือจะเป็นข่าวใหญ่ในบราซิลแล้ว สังคมยังเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับวงการฟุตบอลมืออาชีพในบราซิลถึงเรื่องนี้
........













Create Date : 17 กรกฎาคม 2558
Last Update : 22 กันยายน 2560 15:26:05 น. 0 comments
Counter : 2331 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.