Bloggang.com : weblog for you and your gang
บลอกของคนตัวเล็กๆ
Group Blog
ชีวิตผมเมื่อปี 2005
ชีวิตผมเมื่อปี 2006
ชีวิตผมเมื่อปี 2007
ชีวิตผมเมื่อปี 2008
ร้องเพลงปลอบใจตัวเอง
ชีวิตผมเมื่อปี 2009
ชีวิตผมเมื่อปี 2011
All blogs
กุ๋ยช่าย 5 ชิ้น
ไข้ประจำปีของผมมาอีกแล้ว
ศรัทธาแก่ๆ.....
ของสำคัญ คนสำคัญ ใคร.....สำคัญ
มันอุตส่าห์ตายเพื่อมึงนะ.....
รัก.....ก็คือรัก
ชีวิตขำๆ 1 วันที่ทศภาคอารีน่า
ตาที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้
กินข้าวววว เสียงเรียกแบบนี้จะไม่มีอีกแล้ว.....
อีกหนึ่งเสียงที่หายไปจากบ้านหลังเล็ก
หนึ่งเสียงที่หายไปจากบ้านหลังเล็ก
คนม้าบิน คำสัญญาโง่ๆ
สงกรานต์จ๋า ตัวไม่เปียกเลยทำไงดี
ชุมนุมมนุษย์หมู่จุ่มลาดหญ้า (ภาคสุดท้าย)
ความพยายามของลูกไก่ป่า.....
มันอุตส่าห์ตายเพื่อมึงนะ.....
นานแล้วนะ ที่ไม่ได้กลับไปเจอเพื่อนเก่าที่เคยสนิทมากๆ จู่ๆก็คิดถึงมันขึ้นมา จริงๆจะว่าจู่ๆ ก็คิดถึงขึ้นมาก็คงไม่ถูก แต่ถ้าจะบอกว่าคิดถึงมันเพราะเห็นภาพหมูที่กำลังจะถูกฆ่าในรายการทีวีก็...แหม กระดากใจ
วันหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้ว ในคืนฝนพรำ ผมนั่งกินข้าวต้มร้านประจำข้างถนนกับเพื่อนคนนี้ของผมอยู่ อะไรสักอย่างที่อยู่ในจานกับ กำลังถูกผมเขี่ยออกไปริมๆจาน แล้วเพื่อนของผมก็พูดขึ้นว่า เห้ยเอ็ม มันอุตส่าห์ตายเพื่อให้มึงกินมันนะ กินมันเหอะ อย่าเขี่ยทิ้งเลย ผมบอก มึงเสียดายเหรอ มันบอกว่าเปล่า เสียดายชีวิตมันหน่ะ ผมมองตามัน และเห็นว่ามันพูดจริง เลยกินตับชิ้นสีดำเข้าไป
เพื่อนผมคนนี้เป็นคนที่รักชีวิตตัวเองมากๆ ทุกอย่างที่มันทำมันต้องเซฟ เรื่องบางเรื่องอาจดูงี่เง่ามากๆสำหรับบางคน แต่สำหรับมัน เป็นเรื่องใหญ่ เช่นการข้ามถนนตอนตี3 ไม่มีทางเลยเด็ดขาดที่มันจะข้ามถนนต่อให้ถนนเส้นนั้นแทบจะไม่มีรถวิ่งผ่านเลย มันจะข้ามที่สะพานลอยเท่านั้น ทุกคนจะตลกกับพฤติกรรมของมันมากๆ แต่ผมไม่ตลก ผมรู้สึกเศร้า เมื่อผมเห็นมันเดินข้ามสะพานลอยมืดๆตอนตี 3ในคืนนั้น ผมรู้สึกเศร้ามากๆ ผมรู้ว่ามันเห็นความสำคัญของการรักษาชีวิตของตัวเองมากขนาดไหน
กี้เป็นเพื่อนสนิทของผมมากๆเลย มีเชื้อสายคล้ายๆกันรูปร่างหน้าตาก็คล้ายๆกัน สูงเกือบเท่ากันและก็หนักเกือบเท่ากัน มีคนทักว่าเราเหมือนพี่น้องกันบ่อยๆ และแม่ของผมก็ชอบพูดถึงมัน มันเคยเป็นเด็กเฮี้ยวมาก เคยดักกระทืบผมหลังโรงเรียนเลิกเพราะผมไม่ให้มันยืมหนังสืออ่าน มันเคยลากเด็กอีกห้องมาต่อยเพราะเด็กคนนั้นบอกว่ามันเดินขึ้นบันไดช้าไม่ทันใจคนเดินตามหลัง เคยเอาหนังสือโป๊เล่มละ 35 บาทไปอ่านหน้าห้องแทนรายงาน ตอนที่อาจารย์บอกให้ไปพรีเซ้นต์หน้าห้อง มันอ่านแบบช้าๆชัดๆ ในตอนที่เนื้อเรื่องกำลังเต็มเหนี่ยว ซึ่งก็แปลกที่อาจารย์ยอมให้มันอ่านไปนานทีเดียว และอีกมากมาย ที่แปลได้ความว่ามันเป็นเด็กไม่ดี
พ่อกี้เป็นนักแกะสลักไม้ฝีมือดี เคยถูกเรียกตัวไปทำงานที่จีนอยู่หลายปีแล้วไม่ติดต่อกลับมา ช่วงนั้นแม่ของมันต้องรับภาระหนักมากอยู่ ทำให้กี้กับพี่ชายของกี้นั้นเกลียดพ่อของตัวเองมากๆ ถึงขนาดเมื่อตอนพ่อกี้กลับมาแล้ว แต่มันก็ไม่ยอมคุยกับพ่อของมันอีกเลย พ่อกี้กลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่ถึงปีก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด เนื่องด้วยมาจากทินเนอร์ที่อยู่ในการทำงานแกะสลัก..... ในงานศพ กี้บอกว่ามันอยากขอโทษพ่อมันมากๆ มันเพิ่งคิดได้ว่าพ่อไปทำงานและส่งเงินให้ที่บ้านมาตลอด มันต่างหากที่ไม่เคยถามพ่อมันว่าพ่ออยู่ที่โน่นแล้วจะเหงาไหมและงานหนักไหม ที่สำคัญพ่อมันไม่เคยบอกมันเลยสักคำ ว่าเขาป่วย เมื่อผมได้ยินก็รู้สึกเศร้า อยากร้องไห้ บรรยากาศในงานศพ เศร้าสร้อย แต่ทนได้
1 ปีกว่าผ่านไป.....
แม่กี้เป็นผู้หญิงอ้วนๆ ที่น่ารักมากๆ ทำกับข้าวเก่ง ดูแลงานบ้านได้อย่างดี ในขณะที่กี้ เปลี่ยนไปเป็นคนละคน มันตั้งใจเรียนตั้งใจอ่านหนังสือมากๆ เมื่อตอนที่เรียน ปวส. เช้าวันหนึ่งมันรีบไปเรียนมากๆ แต่ปรากฏว่าในเช้านั้นเองแม่กี้ลื่นหกล้มในห้องน้ำ กี้กับพี่ชายรีบพาแม่ไปส่งโรงพยาบาล พี่ชายมันบอกให้มันไปเรียนเถอะเดี๋ยวมันจะดูแลแม่เอง มันเลยไปเรียนต่อ แต่ในบ่ายวันนั้นเอง แม่ของกี้ก็เสียชีวิตลง ในงานศพ ผมไม่มีอะไรจะพูดกับมันสักเท่าไหร่ ผมไม่รู้จะบอกอะไรกับมันดี ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหลุดจากปากผมออกไป ทำได้แค่จับไหล่มันในขณะที่มันร้องไห้แค่นั้นเอง บรรยากาศในงานศพเศร้าสร้อย และผมทนไม่ค่อยได้
ผ่านไปเกือบ 2 ปี.....
บ้านของมันยามที่ไม่มีแม่อยู่นั้นดูรกขึ้นมากๆ มันไม่เคยกินอาหารที่ประกอบขึ้นในบ้านของตัวเอง อีกเลย แม้แต่ชั้น 2 ของบ้านมันเอง มันยังไม่ยอมขึ้นไป มันกินนอนอยู่ที่ชั้นล่างทั้งหมด ผมถามมันว่าทำไมไม่ขึ้นไปนอนข้างบน มันบอกข้างบนเป็นของพ่อแม่มัน เขาอยู่ข้างบนกัน ผมหัวเราะ แต่ก็แอบกลัวๆนิดๆ ผมสังเกตเห็นว่าพี่ชายของกี้ช่วงนี้ผอมลงกินแต่โจ๊กและนอนอย่างเดียวกี้บอกว่าเป็นโรคลำไส้ ผมแอบคิดอะไรบางอย่างในใจขึ้นมา และแอบภาวนาเบาๆ เมื่อมองตาของกี้มัน ตามันดูแปลกๆ
ไม่กี่เดือนต่อมาพี่มันก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งลำไส้ โลกทั้งโลกพังทลายลงไปแล้วสำหรับมัน บ้านที่เคยมีกันพร้อมหน้า พ่อแม่ลูก จบลงภายในเวลาไม่กี่ปี ผมสงสารมันมากๆ ช่วยอะไรมันไม่ได้เท่าไหร่นอกจากไปหามันไปคุยกับมันบ่อยๆ ที่หลังทีวีของมัน จะมีภาพนกกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนึงกำลังโบยบินไปในอากาศ แต่มวลอากาศในภาพนั้นดูน่าสลดหดหู่ ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังมืดลง มองดูโดยรวมๆจะเห็นแต่ภาพมืดๆและแทบจะมองไม่เห็นนก ท้องฟ้าอาจจะใหญ่เกินไปสำหรับนกตัวเล็กๆที่เดียวดายอย่างมัน ผมพูดตลกๆบอกมันว่า บ้านมึงมันมืดจังช่วยหาภาพวิวสวยๆ หรือใครที่มันน่ารักๆมาติดหน่อยได้ไหม มันไม่ตอบอะไร ผมเลยถือเอาว่ามันยินยอมให้ปลดภาพนั้นลงเสีย
ผมอยากให้มันอดทน ถึงแม้มันจะเจ็บปวด แต่..ก็ต้องอดทนไม่ใช่หรือ เพราะนี่คือชีวิต เหมือนต้นกระบองเพชรของพี่ชายมันนั่นแหละ ต้องอดทนให้ได้แม้ในยามที่ร้างไร้ ความรัก หรือแม้แต่เสียงหัวเราะ บ้าน 2 ชั้นที่มีผู้ชายคนเดียวอยู่นั้นดูโดดเดี่ยวและแปลกแยกมากๆ การที่ต้องพยายามรักษาชีวิตส่วนที่เหลืออยู่ อยู่เพื่อใครบางคนที่ไม่มีตัวตนอีกนั้นมันช่างน่าเศร้า การต้องเดินข้ามสะพานลอยในตอนตี 3 ทั้งๆที่บนถนนแทบจะไม่มีรถนั้น ดูตลกน่าขบขันสำหรับคนกลุ่มหนึ่งแต่สำหรับผมแล้วนอกจากจะไม่ตลกแล้ว มันยังแฝงอะไรบางอย่างที่เพื่อนสนิทกันมากๆเท่านั้นถึงจะรู้.....
และผมก็อยากเห็นมันเดินข้ามสะพานลอยอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดไปเช่นกัน
เมื่อวานผมดูสารคดีรายการหนึ่ง ในภาพนั้นเขาถ่ายให้เห็นถึงหมูกลุ่มหนึ่งที่กำลังถูกส่งไปโรงเชือด ภาพในโรงเชือดนั้นมืด สกปรก มีแต่น้ำ แล้วก็เลือด บรรยากาศดูหนักๆ ระคนปนไปด้วยเสียงกรีดร้องของหมู ในภาพ คนฆ่าหมูกำลังเอาเชือกมามัดปากหมูไว้กันเลือดของมันพุ่งออกมาตอนถูกแทงคอ เขาว่าเลือดของมันที่พุ่งออกมาทางจมูกเป็นเลือดไม่ดี กรงของมันใหญ่พอที่จะสอดเอาเหล็กแหลมสีเงินเปื้อนเลือดเข้าไปแทงที่คอมันได้ แต่ไม่ใหญ่พอที่จะให้มันหนีพ้นเงื้อมมือของมัจจุราชไปได้ ในขณะที่หมูตัวหนึ่งกำลังถูกชำแหละนั้น ภาพตัดไปให้ผมได้เห็นภาพที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของผมอีกภาพนึง ผมไม่สามารถลืมภาพนั้นได้เลยแม้แต่ตอนจะนอน มันไม่ใช่ภาพไส้ ภาพเลือด ภาพหัวใจหรือหัวของหมูที่ถูกแยกส่วน.....
มันเป็นภาพหมูตัวหนึ่งที่ตัวสั่นเทา ไม่ใช่สิ สั่นเทิ้มอยู่ในกรงในขณะที่มันกำลังรอคิวให้เขาเดินเอาเหล็กมาแทงคอมัน มันสั่นรุนแรงแต่ปราศจากเสียงร้อง ถ้าเป็นคนเมื่ออยู่ในสภาพนั้นก็คงต้องบ้าไปแล้ว แววตาเบิกโพลง ในขณะที่เพชรฆาตที่เดินเข้าไปหานั้นก็ดูเหมือนคนที่ไม่มีแววตา ไม่รู้เพราะอะไรภาพนั้นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆในท้อง ผมรู้สึกอยากอาเจียน แล้วภาพในทีวีก็ตัดไป
หมูตัวนั้นทำให้ผมนึกถึงคำพูดของเพื่อนรักผมคนนึงที่พูดว่า มันอุตส่าห์ตายเพื่อให้มึงกินนะ คำพูดที่ออกมาจากปากของคนรักชีวิตตัวเองมากๆคนหนึ่ง เมื่อผมนึกถึงภาพหมูที่รักชีวิตอีกตัวหนึ่งขึ้นมา มันก่อให้เกิดความรู้สึกผสม
พรุ่งนี้จะโทรหามัน ชวนมันไปกินอะไรสักอย่าง ให้ต้นกระบองเพชรมันอีกต้น แล้วกินของที่อยู่ในจานของร้านข้าวต้มให้หมด.....
18/9/49
Create Date : 21 กันยายน 2549
Last Update : 26 กันยายน 2549 21:11:41 น.
3 comments
Counter : 369 Pageviews.
Share
Tweet
อ่านแล้วรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจยังไงไม่รู้
โดย:
แร่ใยหิน
วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:17:40:05 น.
...
...
โดย: yourstarlight (
yourstarlight
) วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:02:16 น.
โดย:
Serendipity_t
วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:20:33:27 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
ความตายสีชมพู
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ไม่มีใครเลวไปกว่าใคร แค่อยากไปให้ไกลๆจากทุกคน.....
Friends' blogs
ความตายสีชมพู
~ J a N Z a ~
yourstarlight
พลทหารไรอัน
tuniez83
ต้องบอกด้วยเหรอ
แมลงปิศาจ
JEDIYUTH
วัชเจียเหว่ย
merveillesxx
แฟนพี่บีม
Jedi ใจดี
เมษาพาเพลิน
Serendipity_t
โสดในซอย
PoorDivaTA
kindaichi
pookpui
Webmaster - BlogGang
[Add ความตายสีชมพู's blog to your web]
Links
hi 5 ผมครับบบ
myspace ของวงผมครับ
face book ผมเองคร้าบบบบ
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.