ก่อนการเดินทางครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้น ต้องขอท้าวความ แหม ก็จะท้าวไปไม่ไกลนักหรอกนะ ขอเอาแบบที่คนเขียนไม่สะเทือนใจมากแล้วกัน สืบเนื่องมากจากหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง ในสาขาที่เข้ากับรูปร่างหน้าตาตัวเองมั่ก อะโน ไฮ้ ไฮ้ แม่นแล่ว อุ่ย ชอบลืมตัวอยู่เรื่อยเลย เป็นสาขาที่เป็นตลาดต้องการมาก ไปสัมภาษณ์มาไม่กี่ที่เค้ารับเข้าทำงานเลย ด้วยตำแหน่ง อะแฮ่ม!! Hi--Sooo ค่ะ Secretary and Interpreter to MD ยัง ..ยัง ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววไปเป็นแนนนี่ได้ยังไงเลยใช่ม้าา ด้วยตำแหน่งอันสูงส่ง แต่ความสามารถของเราต่ำกว่าระดับที่บริษัทต้องการไปนิ้ดส์ จริงๆ มีเท่าหางอึ่ง (เค้าบอกว่าต้องกลับมาดูตัวเองก่อนถึงจะไปโทษคนอื่น) แต่บังเอิญว่าไม่ได้เป็นแม่พระอ่ะค่ะ เลยโทษซวย ที่ต้องมาเจอระบบห่วยๆ เด็กจบใหม่อย่างเราก็ถึงกับอึ้งกิมกี่ เข็ดไปเลยซิทีนี้ ภาพวาดอันแสนสวย จบมามีงานทำ แถมตรงกับสาขาที่เรียน เงินเดือนก็อู้ฟู้ แต่ชีวิตต้องสู้คับพ้ม! กลับมานั่งกินยาทำใจอยู่บ้าน ตอนเรียนอ่ะแฮ้ปปี้ สนุกมาก มีเพื่อนคนญี่ปุ่นเยอะแยะตั้งกะขึ้นปีสอง สรุปพอทำงาน .มาผิดทางแล้วตรู เลยเอาสมองส่วนซิลิปรัม ซิลิเบลรัม ที่ยังพอใช้งานได้อยู่คิดว่าเอาไงดีกะชีวิต คิดออก 2 อย่างตอนนั้น1. ทู่ซี้หางานในสายงานเดิมต่อไป อย่าได้ท้อ แต่ขอบอกท้อมากกก2. เรียนต่อโทดีกว่า จะได้ขยับวิทยะฐานะให้เข้ากับหน้าตา3. Take course ภาษาอังกฤษ เพื่อความเป็นอินเ-ท-อร์แท่นแท้นนน เลขที่ออกคือ (ปกติเป็นคนไม่คนสนใจเรื่องตัวเลขนะคะ หุหุ) หมาย เลข เลข เลข ไปเรียนภาษาปะกิตสเนคสๆฟิชๆ ดีกว่า แต่ว่าอย่างเราไปเรียนแบบเบเบ ธรรมดาๆได้ไง เอางี้ละกันยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว คิดไปโน่น ความจริงมีงบประมาณไม่มากอ่ะ จะไปเรียนนั่นโน่นนี่ตามใจอยากคงไม่ไหว ก็เลยจบลงด้วยการเรียนปริญญาโท วิชาเอกภาษาอังกฤษปัจจุบันยังงงอยู่ ไม่รู้สอบเข้ามาได้ไง กะว่าได้ทั้งภาษาได้ทั้งใบปริญญา คุ้มสุดคุ้ม และแล้ววว 1 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ทำไมเรียนโทภาษาอังกฤษมันช่างยากเย็น อย่างนี้ฟร่ะ เพื่อนๆใน class ก็ประมาณ อืม..จบเอกอิ้ง บางคนก็ แบบแหมแฟนเราไปฝรั่งนะจ้ะ อีกคนหนักเลย บังเอิญพี่เรียนจบโทมาใบนึงแล้วอ่ะจ้ะ เนี่ยก็มาลงเรียนงั้นๆ เวลามีพรีเซ้นต์ หน้าห้องก็คล่องกันซ้าาาส์ พอถึงทีเรากว่าจะได้ออกต้องท่องแล้วท่องอีก หาข้อมูลแบบเอามารวมๆมิกส์ๆ กันกว่าจะออกมาเป็นของตัวเอง เลยรู้สึกว่าจะต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว แบบว่าจะหาหนุ่มฝรั่งมาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวก็ เฮ่อ อันนี้น่าจะยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาคิดว่าถ้ารียนจบไป ก็คงจะยังพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องแน่ๆ จะมีหน้าไปบอกใครได้ว่าเอิ่ม อืม จบโทภาษาอังกฤษมาค่ะ (คำเตือน: ทั้งหมดเป็นแค่ความรู้สึกส่วนตัว มิได้มีเจตนาพาดพิงถึงบุคคลอื่นจ้า)ปิ๊งป่อง คิดออกแล้ว มีโครงการนึงเคยได้ยินตั้งแต่สมัยเรียนว่าไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เมืองนอก ได้เงิน ได้ภาษา ได้เที่ยว โอ้โห เข้าคอนเซ็ปเจร้อย่างแรง ต้องไปหาข้อมูล ..