สุขสรรค์ หรรษา กับคุณสามีฝรั่ง กับมิสซิสอาร์โนลด์

Happiness&Fun with my Farang Husband

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

ถ่ายแบบคุณแม่...กับนิตยสาร mother&care....

วันนี้ อัพบล็อกรวดเดียวสองบล็อกเลย
เนื่องจากนึกได้เพราะเห็นข้อความของคุณแม่เคท
ที่ทิ้งไว้ให้กันในบล็อกที่แล้ว เรื่องเปิดเว็บไปเจอ
เราเลยนึกขึ้นมาได้ ว่าเพิ่งได้รับนิตยสาร
แต่ยังไม่มีเวลาแสกนรูปมาอัพบล็อกเลย
จริงๆ เรามีโอกาสไปถ่ายแบบชุดนี้มาตั้งแต่ตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว
(ไปถ่ายมาตอนเดือนสิงหาคม)

แรกเริ่มเดิมที จุดเริ่มต้นมันเกิดจากตอนเราเริ่มรู้ว่าตั้งครรภ์
ก็ลงทุนไปสมัครสมาชิกนิตยสาร เลือกสมัครไว้สองฉบับ
แล้วอ่านทุกเดือนเพื่อเก็บความรู้เอาไว้เลี้ยงเจ้าตัวเล็ก
อ่านไปอ่านมา เจอกิจกรรมร่วมสนุกกับนิตยสาร Mother & Care
คือให้ส่งภาพคุณตอนตั้งครรภ์กี่เดือนก็ได้ไปร่วมสนุก

เราก็นึกครึ้ม เออ ดีเหมือนกัน ถ้าได้ถ่ายจะได้มีภาพแบบมือโปรเก็บไว้ดู
ตัดสินใจเลือกรูปตอนตั้งครรภ์ (ตอนนั้นประมาณ 4 เดือน)
ฮ่าๆ ท้องยังเล็กอยู่เลย แต่ก็รีบส่งไปก่อน
นานเหมือนกันค่ะ ไม่ได้ยินเสียงตอบรับมา ก็คิดว่าไม่ได้แล้ว

แต่พออายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน จนลืมไปแล้ว
ก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อมาจากครีเอทีฟหนังสือ
ถามว่า "คุณแม่ตอนนี้ครรภ์ได้ 7 เดือน...ท้องออกหรือยังคะ"
เราก็ตอบว่า "เริ่มๆ ออกแล้วค่ะ"

คุณครีเอทีฟก็ถามว่า
"สนใจมาถ่ายแบบไหมคะ...
เมื่อตอนส่งรูปมาท้องยังเล็กอยู่เลยยังไม่ได้ติดต่อกลับไป"

เราก็คุย สอบถามคอนเซ็ปว่าถ่ายอย่างไร แบบไหน
เมื่อตกลงเข้าใจกันแล้ว ก็นัดวันไปถ่ายเลย
วันที่ไป ทางบริษัทให้แต่งตัว แล้วเตรียมเสื้อผ้าไปบางชุด
ทางบริษัทจะเตรียมชุดไว้ให้บางชุดด้วย
เราก็ชวนแม่ไปด้วย เพราะพี่ดี้ สามีเค้าไปทำงาน (พอดีเป็นวันธรรมดา)
ส่วนเราเป็นช่วงเปลี่ยนงานพอดี มีเวลาว่างสัปดาห์นึง ไปถ่ายได้พอดี

วันที่ไปถ่าย เราก็เตรียมตัวไปเอง เลือกใส่ชุดแซกสีขาว ครีมตัวโปรด
ไปถึงคุณครีเอทีฟก็ลงมารับเป็นอย่างดี
ขึ้นไปถึงสตูดิโอ คุณครีเอทีฟก็แนะนำให้รู้จักพี่ตากล้อง
ซึ่งเป็นผู้หญิงกลางคน ท่าทางใจดี น่ารัก
พูดคุยอัธยาศัยดีมากๆ เค้าคุยกันแป๊บนึง ดูชุดที่ใส่มา เห็นว่าตรงคอนเซ็ป
แกก็บอกว่า "เอาชุดนี้แหละ ถ่ายเลย สวยแล้ว"

แล้วทางทีมงานก็จัดแจงเตรียมพรอพต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นแจกันดอกไม้ ฉากหลัง แก้วนม หูฟัง ซีดี และอื่นๆ
แล้วก็ให้เราเข้าไปยืนถ่าย ซึ่งตอนถ่ายตอนแรกก็เกร็งๆ ค่ะ
แต่เนื่องจากทีมงานน่ารักมาก สร้างบรรยากาศเป็นกันเอง
ทำให้เราไม่เครียดสนุกดี

ถ่ายกันไปทั้งหมด 3 ชั่วโมงเห็นจะได้
ได้รูปมาทั้งหมดเกือบ 50 ภาพ
ในนั้น ทีมงานเลือกมาเพียง 4 ภาพที่ถูกใจ เพื่อมาลงประกอบคอลัมภ์
ได้ 4 หน้าพอดี ออกมาแล้ว ผลงานเป็นแบบนี้จ้า

อันนี้เป็นภาพหน้าแรก
Photobucket
แขนล่ำมากๆ

อันนี้เป็นหน้าที่สองจ๊ะ
Photobucket
ทำท่าดื่มนม เพื่อสุขภาพ

หน้าที่สาม
Photobucket
เป็นอิริยาบทกำลังใส่รองเท้า เพื่อจะออกไปนอกบ้าน

และหน้าที่สี่
Photobucket
ให้ลูกฟังเพลง

ตอนถ่ายสนุกดีค่ะ เผอิญวันนั้นดันมีกลุ่มคนเข้ามาดูงานในบริษัทนี้พอดี
เราก็ตกใจตอนเค้าเข้ามาดู ตอนเราถ่ายแบบอยู่
คนเยอะมากๆ ส่วนคุณบัว คุณแม่เรามาเล่าให้ฟังทีหลังว่า
คนกลุ่มนั้นเค้าคุยกันว่า "เราท้องจริงเหรอ...หรือยัดท้องเอา"
ไปซะนั่น เค้าบอกกันว่า "ท้องอะไร...ไม่เห็นจะอ้วนเลย"
แป่ว กลายเป็นคนท้องปลอมไปซะแล้วเรา

หลังจากกลับมาจากถ่ายแบบวันนั้นก็ได้เรื่องเลยค่ะ
ตอนกลางคืน ตะคริวกินที่น่อง ต้องปลุกคุณสามีขึ้นมานวดกลางดึก
ตอนกลางวันยังสนุกสนานร่าเริง ลืมคิดไปว่า สงสัยจะเกร็งมากไปหน่อย
ตกกลางคืนเลยตะคริวกิน

แต่ก็คุ้มค่าค่ะ เพราะได้ของขวัญมาจากทีมงานเยอะแยะแล้ว
มีของใช้น้อง นมคุณแม่ แล้วก็หนังสือของเดือนกันยายน
ที่เราได้ลง แล้วก็ซีดีภาพทั้งหมดเลย..ไม่ต้องไปเสียตังค์ถ่ายเอง

ยังไงก็ฝากไว้ให้คุณแม่ที่สนใจนะคะ
ลองส่งไปร่วมสนุกดู ถ้าได้ไปถ่ายจะได้มีภาพเก็บเป็นความประทับใจ
สำหรับเรา ว่าจะเอาไปใส่กรอบ ติดตกแต่งห้องนอนเรากับลูกค่า
บล็อกนี้แค่นี้ก่อนนะคะ

ปล.ขอบคุณคุณแม่เคทที่เตือนความทรงจำให้ค่า




 

Create Date : 10 กันยายน 2552    
Last Update : 10 กันยายน 2552 21:54:57 น.
Counter : 1048 Pageviews.  

The first time cup feeding....ฝึกดื่มนมได้แล้ว...ซาอีดา...







วันที่ 8 กันยายน 2552
วันนี้ตอนเย็นเราแวะไปเยี่ยมลูกสาวกันที่โรงพยาบาลเหมือนเคย
คุณ daddy บอกว่าอยากคุยกับคุณหมอ
เราเลยจัดแจงให้คุณพยาบาลช่วยต่อสายถึงคุณหมอ เพื่อถามถึงอาการ
ความก้าวหน้า และแพลนการดูแลน้อง Sa-ida กันต่อไป

ระหว่างที่ daddy คุยกับคุณหมอ เราก็ได้ยินถึงเรื่องที่
เราสองคนสังเกตเห็นจากการมาเยี่ยมลูกทุกครั้ง
นั่นคือ ลูกของเราเริ่มมี sucking reflect
คือเค้าทำปากจุ๊บๆ เหมือนดูดนม ตอนเวลาที่ใกล้เวลาให้นม
คุณ daddy เค้าเลยถามคุณหมอว่าเมื่อไหร่จะให้น้องเริ่มทานนม
โดยไม่ต้องให้ทางสายยาง

คุณอาหมอแกก็ใจดี บอกพยาบาลทันทีว่า
ให้ลอง cup feed น้องเลยในมื้อเย็นวันนั้น
เพราะน้องไม่มีอาการหยุดหายใจต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว
และแล้วคุณพยาบาลผู้ใจดีก็เริ่มกระบวนการ cup feeding ค่ะ

Photobucket

โดยการเทนมใส่ฝา แล้วให้น้องดื่ม
เราก็งงๆ ว่าทำไมถึงให้หัดดื่มแบบนี้ก่อนดูดจากขวด
คุณพยาบาลบอกว่า การดูดน้องเค้าจะใช้พลังงานมากกว่า
อันนี้หัดให้เค้ารู้จักกลืนนมลงคอก่อน
เพราะให้ทางสายยางมานาน เค้าไม่เคยต้องกลืนเอง

แรกๆ เจ้าตัวเล็กก็กลืนไม่ค่อยเป็น มีสำลักนิดหน่อย
แถมเครื่องจับออกซิเจนยังร้องเตือนเป็นบางครั้ง
เพราะน้องเค้ายังแบ่งแยกไม่ถูกว่าจะกลืนตอนไหน หายใจตอนไหน
แต่ก็ไม่นานนะคะ เป็นแค่ช่วงๆ
แต่พักเดียวเท่านั้นแหละ ดื่มอักๆๆ เลย เครื่องก็ไม่ค่อยเตือนแล้ว
เห็นแล้วก็น่าชื่นใจ เพราะนี่คืออีกสเต็ปนึงของความก้าวหน้า
ของลูกสาวเราแล้ว

หลังจากให้นมน้องเสร็จ คุณพยาบาลก็ถามเราว่า
พรุ่งนี้คุณมามาลองฝึกให้นมน้องดูไหมคะ

ซึ้ง...ดีใจค่ะ
รุ่งขึ้นรีบมาตั้งแต่มื้อเช้า คือ 9 โมง แถมอยู่ต่อที่โรงพยาบาล
ถึงมื้อเที่ยง เพื่อฝึกให้นมน้อง 2 มื้อเลย
แรกๆ ก็ตื่นเต้นค่ะ ไม่ค่อยกล้ากลัวเค้าสำลัก
แต่ไปสักพักเริ่มชิน รู้จักจังหวะดื่มนมของลูกมากขึ้น
ค่อยๆ เทนมไปจ่อไว้ที่ปากถ้วย ให้คาที่ปากเค้า
ไม่เทลงไปเลย แต่กระตุ้นด้วยการเคลื่อนไหวถ้วย
แล้วให้น้องเค้าค่อยๆ ทำปากดูดนม กลืนลงไปเอง

แต่วันนั้น เราไปคนเดียว สามีไปทำงาน
เลยไม่มีคนถ่ายรูปให้ แต่พอหลังจากนั้นอีกวัน
เราสองคนก็ไปป้อนนมพร้อมกัน คุณสามีขี้เห่อ จึงได้โอกาส
ถ่ายรูปเก็บมาให้เราดูด้วยตอนป้อนนมน้อง ซาอีดา


Photobucket

แต่วันนี้ลูกเราดูง่วงๆ ดื่มนมทั้งๆ ที่หลับๆ
แถมเรายังสังเกตเห็นว่า หน้าเค้ากลมดิ๊กมากขึ้น
สงสัยน้ำหนักจะขึ้น แล้วล่ะลูก ดีๆ คุณอาหมอกำลังให้หนูทำน้ำหนัก
เพื่อจะได้ออกจากตู้ได้สักที


Photobucket

ให้นมเสร็จไม่ทันไรก็ง่วงซะแล้ว หนูน้อยของแม่
ทำตาปรือๆ อยากหลับเต็มแก่ เราก็ต้องจับเค้าเรอให้ได้ก่อน
จากนั้นค่อยอุ้มกล่อมให้หลับก่อนเอาเค้าลงนอนในตู้ตามเคย

Photobucket

แต่หลังจากนี้จะเอาเค้าออกมาอุ้มได้ไม่เกิน 15 นาทีต่อครั้ง
คุณอาหมอสั่งไว้ เพราะกำลังทำน้ำหนักให้น้องอยู่
แกกลัวว่าออกมานานๆ น้องเค้าต้องเผาผลาญพลังงานมากเกิน
น้ำหนักจะลดลง แล้วจะได้ออกจากตู้ช้า
ไม่เป็นไร mommy ต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
อยู่กับลูกไม่นานตอนนี้ เพื่อให้ลูกได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ
แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกันนานขึ้นๆ
บล็อกนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วจะมาเล่าให้ฟังถึงความก้าวหน้าของ
หนู ซาอีดา ต่อไป




 

Create Date : 10 กันยายน 2552    
Last Update : 10 กันยายน 2552 9:49:35 น.
Counter : 11225 Pageviews.  

my little fighter...สองวันแล้วนะลูกที่ไม่ต้องใส่เครื่อง CPAP







วันที่ 5-6 กันยายน 2552
ในที่สุด สาวน้อยก็ทำได้สำเร็จกับการหายใจได้ด้วยตัวเอง
โดยไม่มีอาการ Apnea หรืออาการหยุดหายใจเกิน 20 วินาที
จริงๆ คุณพยาบาลบอกว่า หนูมีบางครั้งที่หยุดหายใจ แต่ก็กลับมาเองได้
โดยไม่ต้องกระตุ้นเหมือนเมื่อก่อน
หนูรู้ไหมว่า mommy กับ daddy ภูมิใจในตัวหนูมากๆ เลย
my little figther...sa-ida

ทุกครั้้งที่ mommy กับ daddy ไปเยี่ยมหนู ก็จะกระซิบบอกหนูทุกครั้ง
ให้หนูสู้ๆ เพราะ mommy ช่วยหนูไม่ได้ หนูต้องช่วยตัวเองให้ได้มากที่สุด
เมื่อวานนี้ mommy กลับบ้านมา ก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ รอดูว่าวันนี้ตอนเช้าหนูจะเป็นอย่างไร
กลัวว่าจะเกิดอาการตอนกลางคืนอีก แล้วเช้ามาต้องมาเห็นหนูใส่ CPAP อีกครั้ง

แต่พอวันนี้ mommy กับ daddy ไปเยี่ยมหนู
ก็พบกับความดีใจ เพราะหนูอาการดี ไม่มี Apnea เลย
แถมคุณพยาบาลยังอาบน้ำให้หนูเป็นครั้งแรกด้วย
ใส่ชุดกระโปรงสีชมพูหวานแหวว เชียวล่ะ

Photobucket

แต่ดูเหมือนว่าชุดที่คุณพยาบาลใส่ให้หนู จะเป็นชุดของทารกแรกเกิดปกติ
เลยใหญ่เกินไปหน่อยสำหรับเด็กพรีมี่อย่างหนู
แล้วตอนนี้คุณอาหมอก็ยังอนุญาตให้ mommy กับ daddy อุ้มหนูได้บ่อยขึ้นด้วย
แต่บางครั้งที่เอาหนูออกมาจากตู้อบ หนูมีบางทีที่ ค่าความเข้มข้นออกซิเจนลดลง
คุณพยาบาลก็เลยต้องเอาท่อออกซิเจนมาเป่าๆ ที่จมูกน้อยๆ เป็นบางครั้ง

Photobucket

ดูหนูมีความสุขนะ เวลาอยู่ในอ้อมอกของ mommy กับ daddy
บางทีหนูก็สบายซะจนเหมือนจะเคลิ้มหลับ

Photobucket

คุณพยาบาลกลัวหนูหนาว นอกจากจะเอาผ้าห่อตัวให้หนูแล้ว
ยังหาหมวกใบเล็กๆ มาให้หนูใส่ด้วย ดูน่ารักเชียว

Photobucket Photobucket

แถมวันนี้ mommy กับ daddy ยังได้ shot เด็ดๆ
ตอนหนูแอบอมยิ้มกลับบ้านมาด้วย
ถ่ายด้วยโหมดขาวดำ ดูคลาสสิกดีไปอีกแบบ

Photobucket Photobucket

ยังไงก็แล้วแต่ หนูอย่ายอมแพ้นะลูกสู้ต่อไป
หนูต้องหายใจได้ด้วยตัวเอง mommy กับ daddy ก็จะไม่ท้อ
คุณอาหมอบอกว่า ถ้าหนูอาการดีแบบนี้ต่อไป อีก 2-3 วัน
คุณอาหมอจะอนุญาตให้หนูออกจากตู้ได้นะลูก
ฉะนั้น จงอย่าท้อถอย mommy รู้ว่าหนูทำได้ ...สู้ๆ ต่อไป...
my little fighter sa-ida

ปล..ขอบคุณทุกแรงใจจาก พี่ๆ ป้าๆ น้าๆ อาๆ ที่คอยเอาช่วยหนูด้วยค่า








 

Create Date : 06 กันยายน 2552    
Last Update : 6 กันยายน 2552 17:51:28 น.
Counter : 770 Pageviews.  

กลับมาใส่เครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง....สู้ๆนะลูก






วันที่ 1 กันยายน 2552 เป็นวันที่ mommy กับ daddy มีความสุขมากๆอีกวันหนึ่ง
เพราะหนูทานนมได้เยอะขึ้นในแต่ละวันๆ ปัจจุบันหนูทานนมได้มากถึง 35 cc แล้ว
เรื่องระบบขับถ่ายหนูก็ดี ไม่มีปัญหา แถมเข็มสายน้ำเกลือและไขมันกับโปรตีน
ที่คุณหมอเคยเจาะให้หนูก็เอาออกไปหมดแล้ว
ภาวะ Apnea หรือหยุดหายใจ หนูก็ไม่มีอาการอีกหลังจากใส่เครื่อง CPAP อีกครั้ง

คุณหมอบอก daddy กับ mommy ว่า พรุ่งนี้จะลองเอาเจ้าเครื่อง CPAP ออกให้หนูแล้ว
mommy กับ daddy ดีใจกันใหญ่ เพราะจากการสังเกตอาการหนู
เรารู้ว่าหนูไม่ชอบเจ้าเครื่องนี้ คอยเอาหน้าหนีตลอดเวลาคุณพยาบาลใส่ให้
แถมเวลาคุณพยาบาลเผลอ หนูยังฉลาดพอที่จะเคลื่อนจมูกโด่งๆ ของหนูออกจากเครื่อง
หนูรู้ไหมว่า daddy กับ mommy รักหนูแค่ไหน
ไม่อยากให้หนูเจ็บหรือรำคาญกับเจ้าเครื่องนี้เลย

แถมความสุขอีกอย่างหนึ่งของวันนี้คือ การที่ daddy มีโอกาสได้อุ้มหนูครั้งแรก
ดูท่าทางเก้ๆ กังๆ อยู่เหมือนกัน แต่รู้ไหม
daddy บอกกับ mommy ว่ารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ


Photobucket


แถมเราสามคนยังได้ถ่ายรูปด้วยกันเป็นครั้งแรกด้วยน๊า

Photobucket

วันนั้นกลับมาบ้าน daddy กับ mommy นอนหลับฝันดีเลยล่ะ

พอรุ่งขึ้น เช้าวันที่ 2 กันยายน 2552 mommy ติดธุระตอนเช้า
ไม่สามารถไปหาหนูที่โรงพยาบาลได้ เลยให้ daddy ไป
และกำชับ daddy ว่าให้โทรรายงาน mommy โดยด่วน
daddy โทรมา น้ำเสียงดูเศร้าๆ บอกกับ mommy ว่า ลูกยังใส่ CPAP อยู่
แต่ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุอะไร เพราะ daddy พูดไทยไม่ได้ สื่อสารกับพยาบาลก็ไม่ได้
เลยส่งโทรศัพท์ให้ mommy คุยกับคุณพยาบาลแทน

คุณพยาบาลบอกกับ mommy ว่า "เช้านี้ตอนตี 5 คุณหมอลองเอาออกให้แล้วค่ะ"
แต่หลังจากเอาเครื่องออก น้องก็มีภาวะหยุดหายใจเป็นพักๆ
แถมค่า ความเข้มข้นของออกซิเจนยังลดต่ำลง จนเครื่องวัดต้องร้องเตือน
นั่นหมายความว่า หนูยังไม่พร้อมที่จะหายใจต่อเนื่องด้วยตัวเอง

mommy ฟังแล้วหัวใจสลาย เพราะหวังเต็มที่ว่าหนูจะได้เอาเครื่องออกแล้ว
พอตกบ่าย daddy กลับมาบ้าน mommy เลยชวนไปหาหนูเร็วหน่อย

ทันทีที่ mommy เห็นหนู ที่มีท่อยาวๆ ใหญ่กว่าอันเดิมที่หนูเคยใส่ที่จมูกหนู
พร้อมรอยเลือดน้อยๆ ที่หลงเหลือ พร้อมกับเทปที่พันท่อกับหน้าของหนูไว้อย่างแน่นหนา
แค่นั้นก็ไม่ต้องมีใครมาอธิบายอะไรให้ mommy ฟังแล้ว
น้ำตาของ mommy ไหลออกมาทันทีที่ได้เห็นและสัมผัสตัวหนู
mommy รู้ว่าหนูต้องเจ็บ ต้องทรมานขนาดไหนตอนที่คุณพยาบาลใส่ท่อเข้าไปในจมูก
และก็รู้ว่าหนูต่อสู้ ดิ้นรนขนาดไหนเพื่อจะต่อต้าน
ไม่อยากให้ใครเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในจมูกน้อยๆ ของหนู

ภาพที่ mommy เห็นเมื่อวานนี้ นางฟ้าน้อยๆ กับหน้าตาอันสดใส
Photobucket

มันช่างแตกต่างไปจากหนูในวันนี้ ที่ต้องทรมานกับเครื่อง CPAP อีกครั้งหนึ่ง
Photobucket

mommy ทำได้เพียงแค่พูดปลอบ พร้อมสัมผัสเบาๆ ที่ตัวหนู
เพื่อให้หนูรู้ว่า หนูไม่ได้ต่อสู้อยู่เพียงคนเดียว
ยังมี mommy กับ daddy ที่อยู่เคียงข้าง
mommy ต้องพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่ให้หนูเห็น
หนูจะได้รู้ว่า mommy เข้มแข็ง และหนูก็จะได้เข้มแข็งเหมือนกัน

mommy กลับมาบ้านก็ต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ตอนเจอหน้าคุณยาย
ไม่อยากให้คุณยายต้องเป็นกังวล mommy
ต้องแอบเข้าไปร้องไห้คนเดียว อยู่ในห้องน้ำเหมือนตอนเด็กๆ
แล้วพยายามเข้มแข็งให้เร็วที่สุด เพื่อจะสู้ต่อไป

มาถึงวันนี้ ก็ได้ 10 วันพอดี นับตั้งแต่หนูคลอดออกมา
ถ้าหนูอยู่ในครรภ์ mommy หนูจะอายุได้ 32 สัปดาห์
จะเข้าสัปดาห์ที่ 33 ในวันศุกร์ คุณหมอบอกว่า
โดยปกติแล้ว อาการหยุดหายใจจะเริ่มดีขึ้นเมื่อหนูอายุได้ 34 สัปดาห์
ยังไงหนูก็ต้องสู้ต่อไปนะลูก...อีกสัปดาห์หว่าๆ เท่านั้นเอง
mommy กับ daddy ก็จะรอให้ถึงวันนั้น

ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราก็จะยังคงมีหวัง
หวังให้หนูพร้อม ที่จะหายใจได้ด้วยเองอย่างเป็นปกติ
ตอนนี้หนูเหลือแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวแล้วที่น่าเป็นห่วง
ถ้าหนูดีขึ้น เราคงได้กลับบ้านมาพร้อมๆ กัน

สู้ต่อไำปนะ Sa-ida ตัวน้อยของ mommy and daddy
We love you so much




 

Create Date : 03 กันยายน 2552    
Last Update : 3 กันยายน 2552 17:25:24 น.
Counter : 730 Pageviews.  

อัพเดทล่าสุดๆ...ได้อุ้มลูกสาวครั้งแรก

หลังจากเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านไปโรงพยาบาล
เราได้นั่งอัพบล็อกไป ตอนนั้นลูกสาวเราทานนมได้ 17 cc
พอวันนี้ไปถึงโรงพยาบาล คุณพยาบาลกำลังให้นมลูกพอดี
เลยแจ้งให้ทราบว่า วันนี้คุณหมอสั่งให้เพิ่มนมให้ลูกเราเป็น 21 cc แล้วค่ะ
น่าปลื้มใจจัง ยิ่งเค้าทานได้เยอะขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อเขามากเท่านั้น

เรื่องตัวเหลือง ตอนนี้อาการไม่มีแล้ว คุณหมอให้เอาไฟออกได้แล้ว
แต่ยังมีอาการอีกอย่างที่เพิ่มขึ้นมาให้น่าใจหาย นั่นคือ Apnea
หรืออาการหยุดหายใจชั่วขณะของทารก
ซึ่งตอนแรกเราตกใจมาก แต่คุณพยาบาลบอกว่าไม่ต้องตกใจ
นี่เป็นอาการของทารกที่คลอดก่อนกำหนด
ซึ่งพบได้สูง 70-80 % ของทารกที่คลอดก่อนกำหนด หรือเด็ก premie

อาการนี้เกิดเพราะว่าทารกยังมีระบบประสาทส่วนกลางที่ควบคุมระบบหายใจ
พัฒนาไม่เต็มที่พอ ที่จะควบคุมให้เค้าหายใจอย่างต่อเนื่อง
แถมปอด และถุงลมในปอดก็ยังทำงานได้ไม่เต็มร้อย
ซึ่งหมอก็แก้ไขโดยการให้ยากระตุ้นกับเค้า และมี monitor คอยจับชีพจร
และตรวจการหายใจอยู่ตลอดเวลา
เมื่อไหร่พบว่าเค้าหยุดหายใจ ก็จะมากระตุ้นเค้าเป็นพักๆ

อาการนี้...ตอนแรกเราก็ห่วงลูก แต่สามีเราก็ปลอบอย่างผู้เชี่ยวชาญว่า
ไม่ต้องห่วง ลูกอยู่กับหมอ ยังไงก็ปลอดภัย
เค้าเองเป็นผู้มีประสบการณ์มาก่อน เค้าก็เคยหยุดหายใจเหมือนกัน
เดี๋ยวตอนเย็นไปเยี่ยมลูกอีกครั้ง คงได้ถามอาการจากคุณพยาบาลเพิ่มเติม
และพรุ่งนี้คงจะได้คุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ของน้อง

ส่วนเรื่องที่ทำให้วันนี้เป็นวันที่แสนดีใจ และประทับใจที่สุดคือ
การที่เราได้อุ้มลูกครั้งแรก

เมื่อคืนยังคุยกับสามีอยู่เลยระหว่างหาข้อมูลอ่านทางอินเตอร์เน็ต
เกี่ยวกับเด็กทารกที่เกิดก่อนกำหนด
ว่าเค้าต้องการได้รับความอบอุ่น และความรู้สึกจากผู้เป็นพ่อแม่
จึงควรสัมผัส โอบอุ้มเค้า ให้เนื้อเราแนบชิดกับเนื้อเค้า
ให้เค้าได้ฟังเสียง ได้รู้สึก จะช่วยเรื่องพัฒนาการของทารก

วันนี้ตอนแรกว่าจะถามคุณพยาบาล
แต่พอไปถึงคุณพยาบาลก็บอกเลยว่าจะให้คุณแม่ได้อุ้มน้อง
เรานะ ดีใจจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ
ตอนแรกก็ตื่นเต้นเพราะเค้ายังเล็กมาก
แต่พอได้อุ้มแล้ว ความรู้สึกดี อย่างบอกไม่ถูกก็เกิดขึ้น
สามีของเราได้เก็บภาพนิ่ง และวีดีโอไว้ด้วยมือถือ
ถึงแม้ไม่ชัดมาก แต่ก็เป็นอีกช่วงหนึ่งแห่งความประทับใจค่ะ

รอยยิ้มแห่งความยินดี



ขอแม่ได้กลิ่นอ่อนๆ จากตัวหนูหน่อยเถอะ



และขอหอมแก้มใสๆ สักหลายๆ ฟอด



ถ่ายตอนสาวน้อยกำลังจะลืมตา แต่มุมนี้ลูกแม่ดูตัวนิดเดียวเอง



ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยวีดีโอคลิป สั้นๆ ค่ะ



ขอบคุณที่ติดตามค่ะ




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2552    
Last Update : 29 สิงหาคม 2552 13:16:03 น.
Counter : 865 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

มิสซิสอาร์โนลด์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




&dateผู้หญิงคนหนึ่ง..บนโลกกลมๆใบนี้..
ยังมีความฝันอีกหลายอย่างที่กำลังเดินหน้าตามล่าฝัน
โดยมีคุณสามีฝรั่งคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความในบล็อกนี้ไปใช้เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©










What's new!


บล็อกอัพเดทล่าสุด


ลูกคุณมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่...โรคข้อสะโพกเคลื่อนหรือหลุด


คุณสามี MR.Speedy มีโอกาสได้เข้าวงการแสดงแล้วจ้า


ซาอีดาเปลี่ยนเฝือกครั้งที่ 1 พร้อมภาพ x-ray @21 months



วิธีทำให้ลูกมีความสุขมากขึ้น..ในเวลาที่ต้องทนทุกข์ๆ ในเฝือกเกือบ 2 เดือน



เข้าโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อครบ 1 ปี 8เดือน



ซาอีดา...บนปก mother and care เดือนมิถุนายนนี้ค่ะ



ประสบการณ์ผ่าตัดครั้งแรกของน้องซาอีดา



ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ---กับข้อสะโพกหลุดแต่กำเนิด--



เสียงสะท้อนจากผู้อ่าน





Mrs. Arnold's Blog

จากบล็อกออกเป็น pocketbook

...วางแผงแล้ววันนี้..

ที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มิสซิสอาร์โนลด์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.