สุขสรรค์ หรรษา กับคุณสามีฝรั่ง กับมิสซิสอาร์โนลด์

Happiness&Fun with my Farang Husband

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

นิยายรัก...เรื่องแรก...ตอนจบ



มาแล้วค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ ใครที่รอลุ้นอยู่กับชินและข้าวตู
จบแล้วค่ะตอนนี้ Enjoy ค่ะ
จากใจ..มิสซิสอาร์โนลด์


นิยายรัก "เรื่องแรก" ตอนที่ 4 (ตอนจบ)



“อะ...แฮ่ม...โหล..เทสต์”
น้ำเสียงหยอกล้อของข้าวตูที่ห่างหายไปจากโสตประสาทของชินมานาน
ลอดผ่านลำโพง ขณะเครื่องกำลังเล่นแผ่นซีดีแผ่นนั้น

“นี่นายชิน...เพลงที่นายแต่งมาให้ ติดอยู่ในหัวฉันตลอดเลยนะ...

.....อยากบอกว่ารักเธอ จะโกรธไหม
บอกว่าคิดถึงเธอ...แทบขาดใจ
อยากให้เธอรู้ว่ามีคนนี้ ที่ห่วงใย...รักและจริงใจกับเธอ...”



ดูราวกับว่าความสดใสได้กลับมาเยือนเจ้าของเสียงอีกครั้งหนึ่ง
ข้าวตูคนเดิมของชินกลับมาแล้ว ชินบอกได้ทันที
หลังจากได้ยินเสียงข้าวตูร้องเพลงที่ชินแต่งให้ออกมาอย่างน่าเอ็นดู

“ชินคงจะจำวันที่เราอยู่ในแม็คโดนัลได้ ข้าวตูขอโทษ
ณ ตอนนั้น...ชินคงไม่รู้หรอกว่า ปริณอยู่ในหัวใจของข้าวตูตลอดเวลา ..
ปริณเป็นผู้ชายคนแรก คนที่ข้าวตูรัก
และไม่สามารถดึงเอาความรู้สึกของตัวเองกลับมาได้อย่างทันที
พื้นที่ว่างของคนรักในหัวใจของข้าวตู มีไว้สำหรับคนเพียงคนเดียว
ข้าวตูว่ามันอึดอัดจนเกินไป
ที่จะให้คนหลายๆคนมาจับจองพื้นที่เล็กๆ ในเวลาเดียวกัน”

“ส่วนตอนที่พี่แทนก้าวเข้ามา...เขาเหมือนพ่อ เหมือนพี่
ที่คอยให้ความอบอุ่น คอยปลอบประโลมหัวใจที่แสนบอบช้ำ
ตอนนั้น ข้าวตูรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นเหมือนฟองน้ำก้อนหนึ่ง
ที่พร้อมซึมซับความรู้สึกดีๆ จากคนรอบข้าง
ไม่รู้แม้กระทั่งสิ่งดีๆ สิ่งนั้นช่างแตกต่างไปจากชีวิตของข้าวตูเหลือเกิน”

“ข้าวตูเสียใจที่ช่วงเวลาแห่งความรักของเราสองคนไม่เคยตรงกัน...
เสียใจที่ต้องทำร้ายความรู้สึกดีๆ จากไอน้ำที่แสนดีอย่างเช่นชิน”

“แต่ตอนนี้...ข้าวตูได้ใช้เวลาถามใจตัวเองดีแล้ว
และข้าวตูก็มั่นใจแล้วว่าหัวใจของข้าวตูนั้นต้องการอะไร
ข้าวตูอยากให้ชินฟังเพลงนี้ เป็นอีกหนึ่งเพลงที่แทนความรู้สึกทั้งหมดของข้าวตู
...ลองฟังดูนะ”

“ไม่รู้มันจะมี อีกทีไหม...วันที่เธอมาเปิดใจพูดคำว่ารัก
ไม่รู้ว่าฉันทำผิดมากไหม...ให้เป็นเพื่อนกันต่อไปพูดว่าไม่เคยรัก
ฉันอาจยังคิดไม่พอ..ไม่รอ..ไม่ทบทวนความจริงข้างใน
เหมือนทำโอกาสดีๆ หายไป...”


เสียงเพลง “ฉันเพิ่งรู้ว่ารักเธอ” ของวง Breakfast in Bed ดังขึ้น
พร้อมกับการหลังไหลของน้ำตาแห่งการรอคอยจากดวงตาคู่นั้นของชิน

“นี่มันเป็นความจริงแน่หรือ...กับความหมายที่แฝงอยู่ในเพลง
เราจะปล่อยให้หัวใจตัวเอง เตลิดไปกับความอิ่มเอมของความรู้สึกนี้ได้จริงๆหรือ”
ความรู้สึกนับล้านวิ่งเข้าชนระบบความคิด ณ ขณะนั้นของชิน
การรอคอยอันแสนนาน วันที่ไม่เคยคิดว่าจะมาถึง
ผู้หญิงที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นชิ้นส่วนของชีวิต
เป็นคนของชีวิตจริงๆ หรือ

“นี่นายจะไม่เปิดเอกสารอ่านหน่อยเหรอ..” เสียงใสๆ ที่แสนคุ้นหูดังขึ้นด้านหลังชิน
“ข้าวตู!” เป็นเพียงคำๆ เดียวที่หลุดออกมาจากปากของชิน

---------------------------------------------------------------------------------

“นิยายรัก เรื่องแรก” หนังสือปกสีชมพูเล่มนั้น
ถูกดึงออกมาจากชั้นหนังสือในห้องนั่งเล่นตอนบ่ายแก่ๆของวันหนึ่ง

“คุณแม่คะ หนังสือเรื่องนี้หรือเปล่าคะ
ที่คุณแม่เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของคุณแม่เอาไว้”
ใบไผ่ สาวน้อยวัยแรกรุ่น ให้ความสนใจกับเรื่องราวในหนังสือเล่มสีชมพูนั้น

ข้าวตู เอื้อมมือไปพลิกหน้าปกหนังสือเล่มนั้นในมือของลูกสาวอย่างเอ็นดู

“ขออุทิศ ความรักทั้งหมดนี้ ไว้แด่ ชินธร หัวใจดวงเดียวของข้าพเจ้า”
โดย เสียงแห่งความรู้สึก

ข้อความเล็กๆ บนหน้าปกถูกถ่ายทอดให้กับใบไผ่

“เสียงแห่งความรู้สึก...เป็นชื่อที่แม่ใช้สำหรับงานเขียนหนังสือ”
ข้าวตูอธิบายให้ลูกสาวคนเดียวที่คอยฟังอย่างตั้งใจ

“เรื่องนี้แม่เขียนเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเอง
เป็นความรู้สึกที่แม่ไม่เคยที่จะค้นหา
เพื่อที่จะตอบคำถามของหัวใจตัวเองเลยสักครั้ง
ว่าจริงๆ แล้ว แม่รู้สึกกับผู้ชายคนหนึ่งอย่างไร”

“แต่แล้ววันหนึ่ง...แม่ได้รู้คำตอบนั้น เมื่อให้เวลาถามใจของตัวเอง”

“แม่ส่งนิยายเรื่องนี้กลับมาให้กับชายคนนั้น....
เพื่อบอกเค้าว่าแม่รู้สึกอย่างไร
ผู้ชายคนนั้น...”

ข้าวตู ในร่างหญิงวัยกลางคน ยื่นนิ้วมือชี้ตรงไปยังรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
ใบไผ่หันมองตามการชี้ชวนของผู้เป็นแม่

“ชินธร...ก็คุณพ่อของหนูไงล่ะ”

ข้าวตูตอบลูกสาวด้วยความรักที่มีเต็มเปี่ยมในหัวใจ

“โอ้โห! โรแมนติกมากเลยค่ะ
หนูอยากให้คุณพ่อยังอยู่กับเราตอนนี้จังเลยค่ะ”
ใบไผ่บอกกับแม่อย่างแฝงความเศร้าเล็กๆ ในใจ

ข้าวตูเอื้อมมือแห่งความเป็นแม่ลูบไล้ลงบนไรผมของลูกสาวคนเดียวอย่างเอ็นดู

“แม่เชื่อว่าคุณพ่อรับรู้ และมองพวกเราอยู่ตลอดเวลาจ๊ะ”

“แม่อยากให้หนูอ่าน และเก็บเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ไว้สอนตัวเอง
แม่รู้ว่าคุณพ่อก็รู้สึกเหมือนกัน”

“ใบไผ่จำไว้นะลูก ความรักมีอยู่มากมายบนโลกใบนี้
แต่คนเราส่วนมากจะมองไม่เห็นความรัก
ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดของเรา
ไม่ว่าความรักนั้นจะเป็นความรักของ พ่อ แม่ เพื่อน พี่น้อง
หรือแม้แต่คนที่เค้ารักและปรารถนาดีกับเรา
มันก็เปรียบเหมือนสายลมที่พัดพาเอาความชื้นผ่านมากระทบผิวกาย
บางทีเราอาจไม่รู้สึก ถ้าเพียงเราไม่ย้อนนึกถึงมัน”

“ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามหากมีใครหยิบยื่นความรู้สึกดีๆ ที่เรียกว่ารักให้กับหนู
อย่างเช่นความรักจากแม่ที่มีให้กับหนูตลอดมา
หนูอย่ามัวรีรอที่จะหยิบยื่นความรักนั้นกลับคืนไปให้กับเขา
ความรักนั้น ยิ่งหนูหยิบยื่นให้ใคร ความรักนั้นมีแต่จะเพิ่มพูน”

ใบไผ่ พยักหน้ารับคำจากผู้เป็นแม่ พร้อมซุกแก้มใสๆ ลงบนตักอุ่นของเธอ
ข้าวตูหยุดยิ้มพักหนึ่ง พร้อมกับดำเนินบทสนทนาต่อ

“เช่นเดียวกันกับความรักของคนรัก
แม่อยากให้หนูใช้เวลา คิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเค้าให้ดี
...การที่ได้มองเห็นความรักของคนที่เค้ารักเราและ
พร้อมที่อยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา
...มันช่างแสนมีความสุข...
...แต่การที่เรามองเห็นความรักของตัวเอง
ที่มีต่อคนที่เค้ารักเรานั้น
....มันช่างมีความสุขเหนือกว่า”

“แม่รักพ่อของหนูมากนะ...

ชิน..ข้าวตูและลูกรักคุณมากนะ”

สายตาของข้าวตูจ้องมองไปที่ภาพแต่งงานของข้าวตูและชินอย่างสงบนิ่ง

“..แม่อยากให้หนังสือเล่มนี้..เป็นของขวัญวันแห่งความรัก
จากแม่กับพ่อให้หนูจ๊ะ.นางฟ้าตัวน้อยของแม่..”
ใบไผ่หลับตาพริ้มในอ้อมอ้อมกอดของข้าวตู

หนังสือปกสีชมพูเล่มนั้น เป็นสื่อกลางถ่ายทอดเรื่องราว ความรัก
ให้กับสาวแรกรุ่นอย่างใบไผ่ได้เรียนรู้ว่า
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และมีค่ามากมายเพียงใด
ความรักพร้อมจะเติบโต ขยายกิ่งก้านเป็นต้นไม้แห่งรัก
เพื่อให้ความร่มรื่นกับครอบครัว จากรุ่นสู่รุ่น...

เวลายังคงเดินหน้าต่อไป ทุกวินาที นาที
จวบจนเป็นเดือน เป็นปี คุณไม่มีวันรู้หรอกว่า
เวลาของคุณจะหยุดเดินเมื่อใด
ดังนั้นขอให้ใช้เวลาชีวิตของคุณที่ยังเดินอยู่ เรียนรู้ที่จะรัก
และสร้างสรรค์ความรักอย่างรู้คุณค่า
...แล้วคุณจะรู้ว่า โลกนี้มีสีสัน สวยงามมากเพียงใด เมื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยรัก...

เพียงปรารถนาให้โลกนี้ยังคงมีรัก
มิสซิสอาร์โนลด์


บทส่งท้ายจากผู้เขียน

ถึงแม้ว่าในโลกแห่งความเป็นจริง
ชินไม่มีโอกาสได้เป็นพ่อของลูก ของข้าวตู
แต่ข้าวตูก็มองเห็นความรักและความปรารถนาดีของไอน้ำแสนดีอย่างชิน....

ขอมอบนิยายรัก..เรื่องแรก...
ไว้เป็นเครื่องหมายของความรักและความปรารถนาดี
ที่ฉันได้รับจากใครคนหนึ่งเสมอมา....



เกือบลืม!
ขอบพระคุณ bg โดนใจ คลาสสิคแบบนี้จากคุณ lovelovelovely
ที่นี่เลยค่ะ

เอามาใช้ทุกตอนเลย เพราะให้ความรู้สึกเข้ากับเรื่อง
ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2550    
Last Update : 31 สิงหาคม 2550 9:14:04 น.
Counter : 473 Pageviews.  

นิยายรัก...เรื่องแรก...ตอนที่3 แล้วจ้า



ขอบพระคุณที่เป็นกำลังใจดีๆ ให้กันเสมอมานะคะ
เพื่อนๆ ชาว bloggang
สำหรับใครที่เพิ่งหลงมาเป็นครั้งแรก
ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรกข้างล่างก่อนนะจ๊ะ
มาอ่านตอนสามเลยเดี๋ยวจะงง
จากใจ..มิสซิสอาร์โนลด์จ้า


นิยายรัก "เรื่องแรก" ตอนที่ 3



ฤดูกาลหมุนเวียนวน จวบจนครบรอบ 2 ปี
เส้นทางความรักของข้าวตูกับพี่แทนไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด
ทั้งคู่มีปัญหากันตลอดเวลา

จะมีก็เพียงแต่ไอน้ำแสนดีอย่างชิน
ที่ไม่เคยทิ้งข้าวตูไปไหน...
ไม่เคยแม้สักครั้งจะบอกให้ข้าวตูเลิกกับพี่แทน..
เป็นแค่เพียงกำลังใจเล็กๆ ที่ให้กับข้าวตูอย่างไม่คิดว่าจะได้รับอะไรตอบแทน

ไอน้ำในอากาศอย่างเช่นชิน
เพียงแต่ปรับให้ระดับอุณหภูมิร่างกายที่สูงของข้าวตูให้ลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป...

“ข้าวตู...พี่ไม่อยากให้เราออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนผู้ชายบ่อยๆ”
แทนร้องขอแฟนสาว

“อ้าว..ทำไมล่ะ พี่แทน เพื่อนของข้าวตูทุกคนพี่แทนก็รู้จัก”

ข้าวตูตอบด้วยความกังวลใจในสิ่งต่างๆ ที่แสดงถึงความแตกต่างของคนทั้งคู่

แทนชายหนุ่มที่เติบโตขึ้นจากครอบครัวไทยสมัยโบราณ
หล่อหลอมมุมมองความคิดของเขาให้จำกัดอยู่ในวงแคบๆ
แทนใช้ชีวิตเรียบง่าย ชอบทำอะไร ไปไหนมาไหนคนเดียว
น้อยครั้งนักที่ต้องเข้างานสังคมใหญ่ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่แทนมักรู้สึกอึดอัด จนเริ่มปลีกตัวหนีห่างจากกลุ่มเพื่อน
ในที่สุดแทนเหลือเพื่อนที่สนิทและเข้าใจอยู่แค่ 2-3 คน

ข้าวตู สาวน้อย ที่เติบโตด้วยสังคมอันเปิดกว้าง
ครอบครัวของข้าวตู สนับสนุนให้เธอออกไปเรียนรู้
ทำความรู้จักและเข้าใจกับโลกกว้าง
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับเธอที่จะทักทายและพูดคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักบ่อยครั้ง
ด้วยเหตุนี้กระมังจึงไม่เคยมีงานสังคมในกลุ่มเพื่อนครั้งใดที่ไม่มีข้าวตู
เข้าร่วมเป็นแขกสำคัญคนหนึ่งของงาน

มันเป็นความผิดของแทนหรือ
ที่จะค่อนแคะเวลาที่ข้าวตูออกงานสังคมบ่อยๆ
หรือนั่นเป็นความผิดของข้าวตู
ที่สนุกกับการมีชีวิตในโลกกว้างมีเพื่อนและซื่อสัตย์กับชีวิต
และความรู้สึกของตัวเธอเอง

....หรือว่า....
นั่นจะเป็นความผิดของอะไรบางอย่าง
ที่ทำให้คนทั้งคู่เดินทางมาพบกัน ในช่วงเวลาอ่อนล้าของหัวใจ

จนในที่สุด คำๆ นั้น ที่ข้าวตูไม่อยากจะได้ยินมันอีกครั้ง
ก็ดังขึ้นจากปากของแทน

“ข้าวตู...พี่พิจารณาดูแล้วนะว่าเราสองคน...แตกต่างกันเกินไป..”

“ข้าวตูเองก็ต้องการความรักในหลายๆด้าน...
ส่วนพี่เองก็ต้องการความรัก..แต่เป็นความรักของข้าวตู”

“แล้วอย่างนี้ใครจะเป็นคนให้ความรักที่เราสองคนต้องการล่ะ”

ข้าวตู ฟังประโยคเหล่านั้นอย่างเข้าใจ
นี่หรือที่เป็นประโยคสามัญสำหรับหลายๆ คน

“เราเลิกกันเถิดนะ พี่ว่าเราสองคนแตกต่างกันจนเกินไป”

จริงๆ แล้วความแตกต่าง มันน่าจะลงตัวกันได้
แต่เมื่อสองฝ่ายอึดอันจนไม่สามารถฝืนทนกับความแตกต่างนั้น
คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะฝืนโดยใช้คำว่ารักเป็นตัวผูกมัดกันเอาไว้
ข้าวตูจึงตัดสินใจเลิกกับพี่แทนอย่างเงียบๆ
ยอมรับการจากลาที่มาเยือนเธออีกครั้งหนึ่ง

---------------------------------------------------------------------------------

“ข้าวตู...ทำไม ไม่บอกชินว่าเธอเลิกกับพี่แทนแล้ว...
ทั้งๆ ที่รู้ว่าเค้ารอเธอมาตลอด”
เอ็มถามเพื่อนรัก ระหว่างรอเวลาเครื่องบินออก

วันนี้แล้วสินะที่ข้าวตูจะออกเดินทางไปต่างประเทศ
ไปในดินแดนอันแสนห่างไกล
หลังจากข้าวตูเรียนรู้โลกกว้างมามาก
ถึงเวลาที่เธอจะไปอยู่กับความเหงาของตัวเอง
ออกไปเรียนรู้และเข้าใจตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม

“ฉันแค่อยากหยุดฟังเสียงหัวใจของตัวเองสักพัก ก่อนตัดสินใจอะไรลงไป”
ข้าวตูตอบเพื่อนรักอย่างมุ่งมั่น

“ฉันฝากกระดาษแผ่นนี้ ให้กับชินด้วยนะ...ขอบใจนะเอ็ม”

สองสาวเพื่อนรักแลกอ้อมกอดแห่งการลาจากซึ่งกันและกัน

เอ็มมั่นใจในตัวข้าวตู ว่าวันหนึ่งข้าวตูจะต้องกลับมาตรงนี้ที่เดิม
กลับมาเพื่อทวงหาสิ่งที่ค้างคาในหัวใจ
จากใครบางคน คนๆ นั้นข้องข้าวตู

“ชิน..ข้าวตูขอเวลาสักพัก...แล้วข้าวตูจะให้คำตอบกับชิน”

ถ้อยคำจากกระดาษเล็กๆ แผ่นนั้นถูกถ่ายทอดให้กับชิน
โดยมีเอ็มเป็นผู้ส่งสาร

ทำไม....ข้าวตูจึงจากไปอย่างไม่ล่ำลา

ทำไม...หนาฉันถึงรู้สึกล้าจนไม่อยากจะหายใจต่อไป

ความรู้สึกของชินถูกเก็บลงไปเงียบๆ พร้อมกับกระดาษเล็กๆ แผ่นนั้น

---------------------------------------------------------------------------------

ปฏิทินตั้งโต๊ะของชินถูกเปลี่ยนหน้าไปเดือนแล้วเดือนเล่า
จนก้าวเข้าสู่เดือนที่ 7
แต่ชินยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ เลยจากข้าวตูที่อยู่ไกลแสนไกล
นอกเสียจาก post card แผ่นเล็กๆ ที่เป็นบันทึกการเดินทาง
ถูกส่งมาให้กับชินตามปกติเหมือนอย่างเช่นเคย

การพูดคุยของชินกับข้าวตูที่เคยเป็นการสื่อสารสองทางผ่านสายโทรศัพท์
กลับเปลี่ยนเป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวอักษรบนแผ่นไปรษณียบัตรแผ่นเล็กๆ
ของข้าวตู อยู่เพียงฝ่ายเดียว
ชินไม่มีแม้โอกาสจะส่งสารกลับไป
สื่อให้เธอได้รู้บ้างว่า ความคิดถึงของเขานั้นมีมากมายเพียงใด

“ตอนนี้ข้าวตูจะกำลังยืนอยู่บนเปลือกโลกแผ่นใดกันนะ”
ชินได้แต่รำพึงรำพันกับความเหงาของตัวเอง


“ติ๊ง..ต่อง” .....“ติ๊ง..ต่อง”
เสียงกระดิ่งหน้าบ้านดังขึ้น
พร้อมกับเสียงก้องกังวานของบุรษไปรษณีย์ที่หน้าบ้านของชิน

“315 มีพัสดุครับ”

ชินวิ่งออกมาหน้าบ้าน รอยยิ้มแห่งการรอคอยของไอน้ำ
วันนี้ดูแปดเปื้อนไปด้วยความอบอุ่นมากกว่าทุกๆวัน

“ข้าวตู”

ชินพึมพัมออกมาพร้อมกับรอยยิ้มแห่งการรอคอย

ซองพัสดุถูกแกะออกอย่างช้าๆ ภายในมีเอกสารรวมอยู่กับซีดีหนึ่งแผ่น
เกราะน้ำค้างแข็งที่เคยหล่อหลอมหัวใจของชินเริ่มถูกกะเทาะออก
ทำให้ได้ยินเสียงเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ
ชินหยิบแผ่นซีดีออกมา วางบนเครื่องเล่น พร้อมกดปุ่ม play
ด้วยหัวใจที่เฝ้ารอ...
ใช่สินะ...เขาเผ้ารอกับคำตอบนั้นมานาน แสนนาน
---------------------------------------------------------------------------------

เอ้า...ใกล้จบแล้วค่ะ
อ่านแล้วเม้นท์กันไปพลางๆ ก่อนนะจ๊ะ
สำหรับแฟนพันธุ์แท้ทุกคน
ตอนหน้ารับรอง...จบแล้วชัวร์
อิๆๆๆ


ขอบพระคุณ bg โดนใจ คลาสสิคแบบนี้จากคุณ lovelovelovely
ที่นี่เลยค่ะ




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2550    
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 12:47:54 น.
Counter : 234 Pageviews.  

นิยายรัก...เรื่องแรก...(ตอนที่ 2) มาแล้วจ๊ะ



ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามอ่านมาจากตอนแรกนะจ๊ะ
วันนี้เอาตอนต่อไปมาลงให้แล้ว
อ่านเลยแล้วกันเนอะ



นิยายรัก...เรื่องแรก..(ตอนที่ 2)



"กรุ๊ง....กริ๊ง...กรุ๊ง..กริ๊ง..."
สายลมเย็นยามเช้า พัดละเลียดระฆังน้อยที่ห้อยอยู่ริมหน้าต่าง
บ่งบอกถึงฤดูกาล ในช่วงเวลาแห่งการล่ำลาของสายฝน
ต้อนรับการมาเยือนอีกครั้งของลมหนาว

นี่ก็ผ่านไป 3 เดือนแล้วสินะ
แต่ทำไมข้าวตูยังคงแอบจ้องมองตุ๊กตานางฟ้า
ที่ห้อยอยู่บนมือถือของเธอทุกครั้งด้วยอาการเหม่อลอย
จนมีบางครั้งถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

หยดน้ำตาใสๆ ถูกปาดไปบนแก้มของหญิงสาว
เหลือร่องรอยเป็นทางยาวบนแก้มทั้งสองข้างของข้าวตู
ชายหนุ่มคนเดิม ยังคงนั่งอยู่เบื้องหน้า
สายตาคู่นั้นยังคงจ้องมองเธอด้วยความห่วงใยเหมือนเช่นเคย

“ข้าวตู..ถามอะไรหน่อยสิ”
ชินถามแทรกขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงัด

“ปริณเคยแนะนำข้าวตูกับเพื่อนของเค้า..บ้างไหมว่า .
ข้าวตู เป็นแฟนของปริณ”
น้ำเสียงอันอ่อนโยนของชินแฝงไปด้วยความฉงนปนความห่วง

คำถามนั้น ยังคงถูกปล่อยให้ล่องลอยอยู่ในอากาศ
ในสมองของข้าวตู ได้แต่ย้อนคิดถึงภาพอดีตเก่าๆ
ความทรงจำทุกอย่างหวนคืนกลับคืนมาในความทรงจำ

"ใช่สินะ...ปริณไม่เคยสักครั้งที่จะแนะนำว่าข้าวตูเป็นแฟนของชิน"
ข้าวตูตอบคำถามของชินอยู่ภายในใจ

ปริณธรจะจับมือ หรือซบไหล่ของข้าวตูเฉพาะเวลาที่อยู่กันสองคน
นั่นไม่ใช่หรือคือรัก หรือนั่นเป็นเพียงความรู้สึก เหงา ของเพื่อนคนหนึ่ง
ซึ่งข้าวตูแปลความหมายว่า มันคือความรัก เหมือนดังเช่นความรักของข้าวตู

จังหวะของหัวใจข้าวตู เต้นช้าลง...ช้าลง
จนเหมือนประหนึ่งจะล้าเหลือเกินที่จะเต้นต่อไป...
นี่หรือคือคำตอบที่ข้าวตูไม่เคยรู้ หรือไม่พยายามที่จะรู้

ข้าวตูยังคงปล่อยให้คำถามนั้นลอยผ่านไป โดยไม่ปริปากเอ่ยคำตอบใดๆออกมา
แต่ดูเหมือนว่า ไอน้ำในอากาศเช่นชินจะมีคำตอบอยู่แล้วในใจ
เพียงแต่ถามออกมาเพื่อให้เธอได้คิด ได้ทบทวนในสิ่งที่เกิดขึ้น
คำถามของชินช่วยเลื่อนม่านบางๆ
ที่เคยบดบังดวงตาทั้งสองของข้าวตูให้เปิดออกรับแสงแดดอุ่น
ในตอนเช้าของหน้าหนาวเช่นนี้

“ถ้ารู้คำตอบแล้ว ข้าวตูยังจะเก็บของที่ปริณให้ไว้ทำร้ายตัวเองทำไม
ทำอย่างนี้ ข้าวตูก็จะไม่มีวันลืมชินได้ลงหรอกนะ”

“ชินเป็นห่วง นี่ก็เทอมสุดท้ายของปีสี่แล้ว
ข้าวตูมีโอกาสได้เกียรตินิยมเลยนะ
ข้าวตูเป็นความหวังของชินด้วยอีกคนหนึ่งนะ”

คำพูดของชิน ยังคงก้องอยู่ในหูของข้าวตูตลอดเวลาที่เดินกลับบ้าน

“นั่นสินะ...เราจะเก็บของเค้าไว้ทำร้ายตัวเองทำไมกัน”

ข้าวตูรำพันกับตัวเอง พร้อมกับเอื้อมมือไปยังนางฟ้าตัวน้อยที่ห้อยติดอยู่กับมือถือ
มันเป็นของขวัญวันเรียนจบมัธยมปลายจากปริณธรที่ข้าวตูไม่เคยแกะมันออกเลย

ข้าวตูค่อยๆ แกะเชือกออกและวางเธอลงอย่างเบาๆ
รวมกับสิ่งของต่างๆ ที่เคยได้รับจากปริณ...

"คลิ๊ก"

“ลาก่อน...นางฟ้าน้อย เราคงได้เจอกัน เมื่อข้าวตูตัดใจจากปริณได้”

ความมืดมิดค่อยๆ มาเยือนสิ่งของในกล่องที่บรรจุความทรงจำมากมายเกี่ยวกับปริณ เมื่อข้าวตูปิดฝากล่องใบนั้นลง

ตอนนี้เป็นเวลาที่ข้าวตูจะทุ่มเทให้กับการทำงานในวิชาเรียนตัวสุดท้าย
ซึ่งข้าวตูและเอ็มเลือกทำโปรเจคที่ฟาร์มแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลกรุงเทพมหานคร
ข้าวตูนำเสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็นใส่กระเป๋า
พร้อมกับมือถือที่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้วนางฟ้าน้อยที่คอยไหวไปมาขณะคุยโทรศัพท์

"ลาก่อน นางฟ้าน้อย...ลาก่อนปริณธร คนที่อยู่ในใจของฉันเสมอมา"

ในช่วงเวลาของการรักษาหัวใจ
ข้าวตูได้ใช้เวลาที่มีกับการทำงานตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า
จวบจนเย็นของทุกๆ วัน
จะมีบางวันเท่านั้น ที่ข้าวตูและเอ็มติดรถของ"พี่แทน"
สัตวแพทย์หนุ่มประจำฟาร์มออกไปเที่ยวเล่นในเมือง

แทน สัตวแพทย์จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับข้าวตูและเอ็ม
อยู่ประจำฟาร์มแห่งนี้มาได้ 2 ปีแล้ว
แทนเป็นชายหนุ่มที่มีอารมณ์ขัน ใช้ชีวิตเรียบง่าย
ในเวลาหลังเลิกงาน บ่อยครั้งแทนจะไปนั่งฟังเพลงแจ๊สเบาๆ อยู่เพียงลำพัง

คืนหนึ่งเอ็มออกไปนอกฟาร์มตั้งแต่ตอนเย็น
เพื่อนคนหนึ่งแวะมาเยี่ยมและพาเอ็มออกไปทานอาหารข้างนอก

"ข้าวตู ไม่ไปด้วยกันจริงๆ เหรอ" ยายเอ็มตัวดีเริ่มเซ้าซี้

"ไม่ล่ะ เอ็มไปเถอะ..ข้าวตูไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนเอ็ม เดี๋ยวทำให้งานกร่อยนะ
อีกอย่าง...ข้าวตูอยากดูละครทีวีด้วยคืนนี้"

ข้าวตูบอกปัดเพื่อนรักไปอย่างมีเหตุผล

"แล้วเอ็มจะรีบกลับนะจ๊ะ..บาย"

"ปึง!" ประตูห้องถูกปิดลง

ข้าวตูเริ่มรู้สึกถึงความเหงาที่เข้ามาเยือนอีกครั้งหนึ่ง

"แปลกจัง ความเหงาทำไมช่างมาหาทุกครั้ง เวลาที่เราอยู่คนเดียว"

ข้าวตูคิดตั้งคำถามกับตัวเอง

"ก๊อกๆๆๆ"

เสียงประตูหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้ง
ความเหงา เพื่อนสนิทของข้าวตูหายไปพร้อมๆ กับความเงียบ

"พี่แทน!" ข้าวตูร้องทักอย่างคุ้นเคยกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าห้อง

"พี่มาชวนเราสองคนออกไปในเมืองน่ะ"

"อยากจะชวนไปฟังเพลง" แทนเอ่ย

"ยายเอ็มเพิ่งออกไปเมื่อกี้เองค่ะ...แล้วข้าวตูก็กำลังจะดูทีวี..."

"อืม...พอดีวันนี้วันเกิดพี่"
แทนตอบกลับก่อนที่ข้าวตูจะเสนอเหตุผลใดๆ อีกมากมาย

"งั้นพี่แทนรอแป๊บนึงนะคะ ข้าวตูไปเตรียมตัวก่อน แล้วจะลงไปเจอพี่แทนที่รถ" ข้าวตูตอบรับอย่างน่าเอ็นดู

แทนยิ้มอย่างปลื้มใจ กับการตอบรับคำเชิญของข้าวตู
ความสดใสของหญิงสาวทำให้โลกที่ดูแสนธรรมดาของแทนกลับดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

ตั้งแต่ค่ำคืนที่ข้าวตูและแทนออกไปฟังเพลงด้วยกัน
ได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ
ข้าวตูและแทนก็เริ่มเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
เหมือนดังเช่นการอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ยิ่งเปิดอ่านก็ยิ่งน่าติดตาม
เค้าทั้งสองคนเรียนรู้ที่จะทำความรู้จัก
เรียนรู้ถึงความรักและการปลอบโยนซึ่งกันและกัน

ในช่วงเวลานั้น แผลลึกในหัวใจของข้าวตู ก็เริ่มตื้นขึ้นๆ
สัตวแพทย์หนุ่มประจำฟาร์มอย่างแทนเข้ามาช่วยทำให้
ความเจ็บช้ำของข้าวตูเลือนหายไปได้อย่างรวดเร็ว

-------------------------------------------------------------------

“A-G-G-I-E…..Ge….Gee….Gee..la la la...Zimba la ree weeed...Boom!”

เสียงบูมดังๆ ของน้องปี1 ขณะล้อมวงรุ่นพี่บัณฑิต
เป็นสัญลักษณ์ของวันจบการศึกษาที่กระทำสืบต่อกันมาในรั้วมหาวิทยาลัย
ภาพรองเท้าสีขาวเกือบสิบคู่ ล้อมวงอยู่รอบตัวของข้าวตู
ทำให้เธอหวนคิดถึงวันที่ข้าวตู เอ็ม แอ๊ดและชินบูมให้พี่บัณฑิตตอนปีหนึ่ง

หลังจากแจกซองให้น้องๆ ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว
เอ็มเพื่อนสาวก็ขอตัวออกจากวงสนทนา

“ข้าวตู ...เอ็มต้องไปถ่ายรูปกับญาติก่อนนะ แล้วจะกลับมาใหม่”
เอ็มเอ่ยกับข้าวตู

“นี่ชิน..อย่าไปไหนนะ.ฉันฝากถือของก่อน เดี๋ยวจะกลับมา เธอสองคนรอตรงนี้นะ จะได้ถ่ายรูปด้วยกัน”

เอ็มหันหน้ามาทางชินพร้อมกับเอ่ยคำกำชับกับคนทั้งคู่พร้อมกับวิ่งหันหลังไปทันทีอย่างไม่รอช้า

ข้าวตูส่ายหัวนิดๆ พร้อมรอยยิ้มอย่างรู้นิสัยเพื่อนรักเป็นอย่างดี
จากนั้นจึงชวนชินเข้าไปนั่งรอในซุ้มของคณะ

ชินหยิบซีดีแผ่นหนึ่งในกระเป๋าส่งให้กับข้าวตู พร้อมบอกว่า

“ยินดีด้วยนะ สำหรับบัณฑิตเกียรตินิยม”

ข้าวตูยิ้มรับ พร้อมกับยื่นการ์ดใบเล็กๆ ที่มีรูปหยดน้ำใจดี
ชื่อว่า “ชิน” ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับสาวน้อย “ข้าวตู” ขี้แย
พร้อมกับข้อความว่า
“ขอบใจนะชิน ที่เป็นไอน้ำใจดีให้กับข้าวตูมาตลอด Congratulation จ๊ะ”

วันนี้ความชื้นได้รับรู้ถึงผิวกายอันละมุนของสาวน้อยข้าวตูเป็นครั้งแรก
เป็นความรู้สึกที่มีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ

....ในใจชินมีคำอีกมากมายอยากถ่ายทอดออกมา ณ วินาทีนั้น....

“ข้าวตู ชิน...เอ็มไปไหนแล้วล่ะ เค้าเรียกคณะเราขึ้นถ่ายรูปบนสแตนด์แล้ว”

เสียงแอ๊ดดังขึ้น

ชินและข้าวตูรีบเก็บของขวัญที่แลกกันลงกระเป๋า
ข้าวตูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเรียกเพื่อนตัวแสบให้กลับมาที่คณะทันที
ในช่วงเวลาอันเร่งรีบขณะนั้น
---------------------------------------------------------------------------------

แสงแดดยามสาย ส่องกระทบชุดครุยสีดำของกลุ่มบัณฑิตใหม่
ทำให้ภาพถ่ายร่วมกันบนสแตนด์ดูสมบูรณ์ สวยงามเหมือนดั่งต้องมนต์
เสียดายเพียงแต่ภาพถ่ายนั้นบันทึกมุมที่ชินยืนอยู่
แยกห่างไกลออกไปจากมุมของข้าวตู

หลังถ่ายรูปเสร็จ บัณฑิตทุกคนต่างแยกย้ายกัน ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย
สายตาชินที่จดจ้องไปที่มุมของข้าวตูเลือนหายไป

“ข้าวตู...”
เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลังทำให้ข้าวตูและเอ็มหันหน้าไปหาต้นเสียงพร้อมๆ กัน

“พี่แทน!” ทั้งคู่เรียกชื่อสัตวแพทย์หนุ่มออกมาพร้อมกัน

“แหม! นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว โอโห มีหมาน้อยมาด้วยนะ
แล้วของเอ็มล่ะไม่มีเหรอ” เอ็มเอ่ยปาก

“นี่ไง” พี่แทนยื่นของขวัญกล่องเล็กให้กับเอ็ม
จากนั้นหันมาทางข้าวตู พร้อมยื่นเจ้าลูกหมาน้อย ขนปุยในตะกร้า
ที่แทนนำมาแทนของขวัญในวันสำคัญวันนี้

“พี่เอาลูกหมาที่ข้าวตูบอกว่าอยากได้มาให้…Congratulation จ๊ะ” พี่แทนยิ้ม

“ ข้าวตูนึกว่าพี่แทนจะไม่มาแล้วไหนบอกว่าไม่อยากให้ข้าวตูเลี้ยงไงคะ” ข้าวตูถามพร้อมเอื้อมมือคว้าเจ้าหมาน้อยมากอดในอ้อมอก

“อ้าว ไม่อย่างนั้นจะเป็นการ Surprise เหรอจ๊ะ ไป..เอาไปฝากคุณแม่ก่อนนะ” แทนเอ่ย

ข้าวตูและแทน เดินเคียงคู่กันไป ผ่านสายตาคู่หนึ่งของชิน
ความชื้นในอากาศที่กำลังจะระเหยกลายเป็นไออีกครั้ง
แสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามา เริ่มแผ่ความอบอุ่นให้กับชีวิตของข้าวตูแล้ว
ตอนนี้ข้าวตูคงไม่ต้องการความชื้นในอากาศอย่างชินแล้วสินะ
--------------------------------------------------------------------------------

“ตึง ตึ้ง ตึ่ง....ตือ..ตึง..ตึ่ง...ตึ่ง..ตึ่ง...
เกิดคำถามขึ้นมาในใจ
ว่าทำไมฉันจึงห่วงหา...
กับความรักจริง....ที่มีรักเดียว
กับความรักผู้ชายคนหนึ่ง..
ที่มีใจให้เธอเสมอ..อยากรู้ข้างในหัวใจ

เมื่อเจอเธอนั้นคือคำตอบ
เกิดความรักขึ้นในหัวใจ

……………………………………………………………......
(สร้อย) อยากบอกว่ารักเธอ จะโกรธไหม
บอกว่าคิดถึงเธอ...แทบขาดใจ
อยากให้เธอรู้ว่ามีคนนี้ ที่ห่วงใย
...รักและจริงใจกับเธอ...”
............................................................


น้ำเสียงที่ชุ่มชื้นคลอเคลียเสียงกีตาร์
ดังลอดจากเครื่องเล่นซีดี
ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดที่อยู่ในหัวใจของชินออกมากับบทเพลงนั้น

...น้ำตา..ของข้าวตู หลั่งไหลออกมาอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ น้ำตาดูสีต่างไปจากที่เคยไหลเมื่อครั้งที่ปริณจากเธอไป
---------------------------------------------------------------------------------

“ฮัลโหล..ชิน..ข้าวตูเองนะ”
“ครับ” เสียงของความชื้น เบาราวกับว่ากำลังจะจางหายไป

“ข้าวตู ฟังเพลงของชินแล้ว...แต่...ข้าวตูคบกับพี่แทนอยู่...”
“ไม่ต้องอธิบายหรอกข้าวตู ชินเข้าใจ ชินอยากขอแค่..”

“ชินอยากขออะไรล่ะ...ถ้าข้าวตูให้ได้ ข้าวตูจะให้ชิน”

“ชินขอเป็นไอน้ำใจดีให้กับข้าวตูตลอดไปได้ไหม...
และขอแค่ให้ข้าวตูนึกถึงไอน้ำคนนี้เป็นคนแรก
เมื่อไหร่ก็ตามที่ข้าวตูผิดหวังจากพี่แทน”

“ได้สิ...ชิน...ข้าวตูสัญญา”

“ชินอยากให้ข้าวตูรู้ว่า ชินอยู่กับข้าวตูเสมอนะ”

ชินย้ำความมั่นคงของความรู้สึกที่มีให้กับข้าวตู
---------------------------------------------------------------------------------


วันนี้พอก่อนแค่นี้เนอะ เดี๋ยวอ่านกันไม่หมด
คราวหน้าจะเอาตอนต่อไปมานะจ๊ะเพื่อนๆ
ขอเม้นท์ด้วยน้า



ขอบพระคุณ bg โดนใจ คลาสสิคแบบนี้จากคุณ lovelovelovely
ที่นี่เลยค่ะ




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2550    
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 11:42:14 น.
Counter : 278 Pageviews.  

นิยายรัก...เรื่องแรก...



ความในใจของผู้เขียน



ตั้งแต่เริ่มต้นลงมือเขียน จำได้ว่างานเขียนของตัวเองจะออกแนว บันทึก ไดอารี่ หรือแม้แต่เรื่องสั้น
แต่งานเขียนแนวนิยายไม่เคยคิดว่าจะได้เขียน เนื่องจากตัวเองวางพล็อตเรื่องไม่เป็น
ถนัดแต่เล่าเรื่องราวตรงไปตรงมา มีการเล่นภาษานิดหน่อย

แต่เมื่อวันหนึ่ง เพื่อนเสนอให้ลองเขียนเรื่องแนวนิยายบ้าง
ชื่อเรื่อง นิยายรัก...เรื่องแรก จึงเกิดขึ้น
ความหมายของชื่อเรื่องบ่งบอกได้ถึงความหมายของผู้เขียน
และความหมายของเนื้อหาภายในเรื่องได้เป็นอย่างดี

เนื้อหาในนิยายรักเรื่องนี้ ได้นำเค้าโครงจากชีวิตจริงของผู้เขียน
ที่มีต่อผู้ชายคนหนึ่ง คนซึ่งมอบความรู้สึกดีๆให้กันตลอดมา
แต่ชีวิตจริง ไม่สามารถเป็นจริงได้อย่างนิยาย

ผู้เขียนตั้งใจจะมอบนิยายเรื่องนี้ ให้กับผู้ชายคนนั้น
เพื่อตอบแทนความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันตลอดมา

นิยายรัก...เรื่องแรก ยังเป็นการถ่ายทอดหลายๆ แง่มุมของความรัก
การใช้ชีวิตเพื่อเรียนรู้ที่จะรัก
ผู้เขียนอยากนำถ้อยความตอนหนึ่งจากนิยายเรื่องนี้
ที่ผู้เขียนประทับใจมากที่สุดฝากไว้ในใจของผู้อ่านทุกคน

“ความรักบริสุทธิ์ อย่างไรก็จะคงอยู่คู่โลกสืบต่อไป
อยากให้ทุกคนใช้เวลาชีวิตของคุณที่ยังเดินอยู่
เรียนรู้ที่จะรัก และสร้างสรรค์ความรักอย่างรู้คุณค่า...
แล้วคุณจะรู้ว่า โลกนี้มีสีสัน สวยงามมากเพียงใด เมื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยรัก...”


ด้วยความปรารถนาดีจาก
มิสซิสอาร์โนลด์ (นามปากกา)
-------------------------------------------------------------------


นิยายรัก "เรื่องแรก" ตอนที่ 1



สายวันหนึ่งใน"แม็กโดนัล" ร้านอาหารสะดวกซื้อ
ใจกลางเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร
สถานที่ๆ ยอดนิยมของวัยรุ่นในขณะนั้น
เสียงสัญญาณเล็กๆ ดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันวุ่นวายภายในร้าน

“ตื้อ..ตือ..ตือ..ดึด...ตึด..ตื้อ..”

ยังไม่ทันที่เสียงสัญญาณจะดังขึ้นเป็นรอบที่สอง
สาวน้อยเจ้าของเครื่องหยิบโทรศัพท์มือถือ
ที่กำลังดังอยู่นั้นขึ้นมาพิจารณาชื่อที่ขึ้นอยู่หน้าจอ

“ฮัลโหล ยายเอ็ม ...อยู่ไหนแล้ว เรากับชินอยู่ในแม็กแล้วนะ”

ข้าวตูกรอกเสียงใสๆ ผ่านมือถือที่มีตุ๊กตาเจ้าหญิงตัวน้อย
ห้อยไหวไปมาตามองศาการหันหน้าของเจ้าของเครื่อง

“จริงเลยเธอนี่ เรานั่งรอกันนานแล้ว รีบมาด้วย…โอเค แล้วเจอกัน”

ข้าวตูวางสายลง พร้อมส่ายหน้ายิ้มๆ และหันมาทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบื้องหน้า

“ชิน...รอหน่อยนะ ยายเอ็มกับแอ๊ด เพิ่งขึ้นรถไฟฟ้าเอง
กว่าจะถึงสถานีสยาม เป็นชั่วโมงแน่ๆ เลย”

ชิน...ชายหนุ่มผู้ที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับหญิงสาว
ยิ้มอย่างเอ็นดูและถ่ายทอดความห่วงใยไปพร้อมกับคำถาม

“ข้าวตูหิวหรือยังทานอะไรหน่อยไหม ชินจะไปซื้อมาให้”

ข้าวตูตอบคำถามทันที

“ยังไม่หิวเลย แล้วชินล่ะ..
เออ ข้าวตูไปซื้อน้ำมาให้ดีกว่านะ”

สาวน้อยลุกพรวดพราดไปอย่างไม่รอฟังคำตอบ
กริยาอันรีบร้อนของเธอประหนึ่งดังว่าเธอพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์บางอย่างอยู่ ณ ขณะนั้น
---------------------------------------------------------------------------------

"อ๊ะ! นี่ชิน ข้าวตูซื้อน้ำโค้กมาให้ชินนะ"

สาวน้อยวางถาดรองอาหารด้วยมือทั้งสองข้างอย่างเบาๆ ทันทีที่หญิงสาวเบือนสายตาทั้งคู่สู่ชายหนุ่มผู้นั้น

“ข้าวตู...ชินชอบข้าวตูนะ”

เสียงนุ่มๆ ของชินถ่ายทอดความในใจที่เอ่อล้นออกมาอย่างไม่ทันให้ข้าวตูได้ตั้งตัวกับประโยคที่ได้ยิน

จะมีใครคาดคิดบ้างว่า บทสนทนาบนโต๊ะอาหารโต๊ะใดโต๊ะหนึ่งในใจกลางห้างสรรพสินค้าใหญ่ จะถ่ายทอดเรื่องราวที่สำคัญขนาดนี้
ช่างน่าแปลกที่ผู้คนรอบข้างยังคงเดินกันขวักไขว่
เสียงเพลงในร้านยังคงดังคลออยู่เบาๆ
แต่บนโต๊ะของชินและข้าวตูกลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดเกิดขึ้น

เวลาของทั้งคู่ ณ ขณะนั้น เดินผ่านไปอย่างช้าๆ

...ตอก ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ตอก...

น้ำอัดลมสีดำในแก้วทั้งสอง ยังคงเต็มอยู่เหมือนเดิม
หยดน้ำเล็กๆ ข้างแก้วผุดขึ้นเพื่อแสดงร่องรอยของระยะเวลาที่ถูกปล่อยให้ผ่านเลยไป

เสียงใสๆ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบบนโต๊ะอาหารนั้น

“ชิน...ข้าวตู...ไม่ได้...
ไม่ได้..รู้สึกแบบนั้นกับชิน”

“เราเป็นเพื่อนกันได้ไหม”

เสียงใสๆ ของข้าวตูนั้น ทำไมมันช่างบาดลึก กรีดให้หัวใจของชินเกิดร่องรอยของความเจ็บปวดได้ขนาดนี้

ชินเอ่ยปากรับคำขอร้องของหญิงสาวอันเป็นที่รัก ที่จะคงสถานะความเป็นเพื่อน ทั้งที่ในใจของชินนั้นไม่ได้รู้สึกเลยสักนิด
ชินหักห้ามความรู้สึกรัก ห่วงหา อาลัย
กับหญิงสาวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าของเขา ณ ตอนนี้ไม่ได้จริงๆ

แต่อย่างน้อยการยังได้อยู่ข้างๆ
คอยรับรู้ ปลอบโยน ให้กำลังใจ ผู้หญิงคนหนึ่งที่เรารู้สึกดีด้วย
ยังดีกว่าการไม่ได้เป็นอะไรเลย...

ชินยอมเป็นเพียงความชื้นในอากาศที่แม้จะไม่สามารถรับรู้รสสัมผัสผิวกายใสๆ ของข้าวตู แต่ก็พึงพอใจที่จะทำให้ข้าวตูจะรู้สึกเย็นสบายทุกครั้งเมื่อยามร้อนรน
---------------------------------------------------------------------------------
หลังจากวันเวลาผ่านไป นับจากวันนั้น
ชินและข้าวตูก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา
ชินเคยปฏิบัติอย่างไร ก็ยังคงปฏิบัติอย่างนั้นกับข้าวตู
เคยเป็นเพื่อนที่ดี ชินก็ยังคงความดีของเพื่อนคนหนึ่งให้กับข้าวตูอย่างไม่ขาดไม่เกิน
ถึงแม้ในใจของชิน อยากจะครอบครองหัวใจดวงน้อยของข้าวตูใจจะขาด
ส่วนข้าวตู ก็ยังคงรัก และห่วงใย ชิน ชายหนุ่มผู้แสนดี อย่างเพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง คนที่คอยอยู่ข้างๆ ข้าวตูตลอดเวลา

หลังเลิกเรียน ข้าวตูจะรีบร้อนกลับบ้าน น้อยครั้งนักจะไปไหนมาไหนกับเพื่อนในกลุ่ม บางครั้งข้าวตูก็นั่งรถโดยสารออกนอกเมืองไปไกล กว่าจะกลับถึงบ้านก็ค่ำแล้ว ทำให้ชายหนุ่มผู้เฝ้ารออย่างชิน ชายหนุ่มที่คอยโทรหาเธอเพื่อให้มั่นใจว่าเธอกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยเป็นห่วงหลายต่อหลายครั้ง

"พื้นที่อันห่างไกลนั้น มีใครอเธออยู่หรือข้าวตู" ชินแอบสงสัยอยู่เบื้องลึกของหัวใจ แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะตั้งคำถามให้ข้าวตูรู้สึกกังวลในคำตอบนั้น

จนกระทั่งวันหนึ่ง
"ข้าวตู..มีคนมาหาน่ะ"
เอ็มเรียกข้าวตูออกไปพบแขกที่มารอพบอยู่หน้าห้องพักนิสิต
ประตูที่ข้าวตูเปิดตอนเดินออกไป ไม่ทันปิดสนิทดี เมื่อชินเหลือบสายตาขึ้นจึงมองเห็นแขกของข้าวตูได้ชัดเจน

ชายหนุ่มผิวสีเข้ม หน้าตาคม รูปร่างสูงโปร่งยืนรอข้าวตูอยู่หลังประตูบานนั้น

"เฮ้ย! ฉันว่า แฟนข้าวตูแหงๆ เลย" เอ็มส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
"เธอรู้ได้ยังไง ว่าเค้าเป็นแฟนกัน" แอ๊ดถาม
เอ็มป้องปาก กระซิบเบาๆ ในกลุ่มเพื่อนทั้งสองคน
"ฉันเคยแอบเห็น รูปถ่ายในกระเป๋าสตางค์ของยายข้าวตู"

บทสนทนาของเอ็มและแอ๊ด บาดลึกในความรู้สึกของชายหนุ่มที่นั่งฟังอย่างไม่ปริปากอย่างชิน
ยังไม่ทันความรู้สึกเจ็บนั้นจะจางไป ข้าวตูก็เปิดประตูเข้ามา หยิบกระเป๋าและสัมภาระเพื่อออกไปข้างนอกกับชายหนุ่มแปลกหน้าผู้นั้น

"ฝากจดเลคเชอร์ด้วยนะเพื่อนๆ" ข้าวตูฝากวิชาที่จะเรียนในช่วงบ่ายไว้กับเพื่อนด้วยใบหน้าเหลือบสีชมพู

"แหม จะไม่แนะนำให้รู้จักกันก่อนไปเหรอ ..ข้าวตู" เอ็มเอ่ยแซวเพื่อนสาว

ข้าวตูเปิดประตูออกไปพร้อมเรียกชายหนุ่มที่ยืนรอเข้ามาแนะนำตัว

"ปริณธร เพื่อนของข้าวตูสมัยเรียนมัธยม..."
"แล้วนี่ก็ เอ็ม แอ๊ด และก็..ชิน ...เพื่อนสนิทข้าวตูเอง"

"สวัสดีครับ..ทุกคน" ปริณธรทักทายด้วยใบหน้าอันแสนอบอุ่น
"ขอโทษทุกคนด้วยนะครับ พอดีที่มหาวิทยาลัยผมมีการแข่งขันการประกวดหุ่นยนต์ ผมส่งโปรเจคเข้าร่วมกับเพื่อนๆ เลยตั้งใจจะมารับข้าวตูไปดูด้วยกัน" ปริณธรบอกวัตถุประสงค์ของการพาข้าวตูออกไปในวันนั้น

"ไม่เป็นไรค่ะ เอาไปแล้ว พาข้าวตูไปส่งบ้านด้วยนะคะ กลับเย็นๆ อันตราย"
เอ็มเอ่ยขอเชิงแซวเขาทั้งคู่

คำถามที่ชินอยากรู้ แต่ไม่เคยคิดจะถาม ได้ถูกตอบลงในวันนี้
ชายหนุ่นในดินแดนอันแสนไกล คือปริณธรคนนี้เองหรือ
คนนี้เหรอที่ทำให้สายโทรศัพท์บ้านของข้าวตูไม่ว่างเวลาที่ชินพยายามโทรหา...เขาดูเหนือกว่าชินทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือความสนิทสนมกับข้าวตู

----------------------------------------------------------------------------
หลังจากวันที่ทุกคนได้รู้จักปริณธรไม่นานนัก
ข้าวตูยังคงโทรคุยกับ ปริณธรทุกวันเหมือนปกติ
แต่วันนี้ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป

“ข้าวตู ปริณรักข้าวตูไม่ได้” ปริณธรเอ่ยขึ้นระหว่างบทสนทนาอันไม่ปกติ
"ปริณรู้...รู้ว่าข้าวตูรู้สึกอย่างไร"

เสียงนุ่มๆ ของชายหนุ่มหน้าเข้ม ทำให้หัวใจที่เคยพองโตของข้าวตูอ่อนกำลังลงทันใด

“ความรักที่เรามีให้กัน มันเกินกว่าคำว่าเพื่อนไม่ได้จริงๆ”

ถ้อยคำของปริณ แม้ไม่มีคำพูดรุนแรงใดๆแฝงอยู่ แต่เมื่อถูกร้อยเรียงเป็นประโยคออกมาจากปากของปริณ ทำไมช่างโหดร้ายกับข้าวตูได้ถึงเพียงนี้

สาวน้อยนั่งนิ่ง หูข้างหนึ่งยังคงแนบนิ่งกับโทรศัพท์เช่นเดิม ในสมองมีแต่ภาพวันวาน ในสมัยเรียนม. 4 เธอเริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนชายแห่งนี้เป็นครั้งแรก

...ข้าวตูเปรียบเหมือนกวางน้อยที่พลัดหลงเข้ามาในป่า ความลาดโผนโจนทะยานของเพื่อนร่วมชั้น คอยสะกิดให้น้ำตาข้าวตูไหลออกมาอยู่บ่อยครั้ง จะมีก็แต่สิงโตหนุ่มอย่างปริณธรที่ไม่เคยทำร้ายเธอเลย มีแต่คอยช่วยเหลือทุกครั้งที่มีปัญหา เค้าจึงกลายมาเป็นคนพิเศษในหัวใจของข้าวตู....

ความทรงจำในอดีตนั้นไม่มีความหมายใดๆ กับความรู้สึกของปริณเลยเหรอ หรือว่า...
เป็นแค่ข้าวตูเท่านั้นที่คิดไปเองฝ่ายเดียว น้ำตาที่เอ่อล้น รอหยดอยู่ริมขอบตา เริ่มไหลรินลงอาบแก้มใสๆ ของข้าวตู ไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกจากปากของข้าวตูสู่ปลายสาย

“คลิ๊ก...ตู๊ด..ตู๊ด..ตู๊ด...”

นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ปริณได้ยิน
ปริณรับรู้ทันทีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาอธิบายใดๆ ข้าวตูต้องการเพียง...เวลา...เพื่อทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและปริณธร
---------------------------------------------------------------------------------

“ฮือๆๆ...ชิน”
ไม่มีแม้เสียงทักทายใดๆ มีเพียงแต่เสียงแห่งความเจ็บช้ำของสาวน้อยหน้าใส ที่ชินไม่เคยลืม หากแต่วันนี้อารมณ์ของต้นเสียงแตกต่างไปจากวันรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยที่ชินเจอกับข้าวตูเป็นวันแรก

“ชิน…เธอชื่อชิน ใช่ไหม เราชื่อข้าวตูนะ”

น้ำเสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจและมีความหมายต่อความรู้สึกของชินเสมอมาจนวันนี้

“ข้าวตู....ใจเย็นๆ ก่อน...ร้องไห้ซะให้พอ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้ชินฟัง ชินอยู่ตรงนี้คอยฟังข้าวตูตลอดเวลา”

ชินเงียบรอจนเสียงสะอึกสะอื้นเงียบหายไป

“ทำไมล่ะชิน..ข้าวตูไม่เข้าใจเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างข้าวตูกับปริณ ไม่มีค่าอะไรกับเค้าเลยหรือ ข้าวตูทำอะไรผิด ทำไมปริณถึงทำร้ายข้าวตูแบบนี้”

เสียงสะอื้นนั้นยิ่งบาดลึกลงในหัวใจของชินที่ยังคงมีร่องรอยแห่งความเจ็บปวด

เสียงปลายสายอย่างชินยังคงราบเรียบ
แต่แฝงไปด้วยความชุ่มชื้นสู่ความรู้สึกของข้าวตู

“ชินว่า ปริณคงอยากรักษาความเป็นเพื่อนกับข้าวตูไว้
ความรู้สึกของคนเรามันเปลี่ยนกันยาก
ข้าวตูต้องทำใจ ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นนะ”

คำพูดของชินทำให้ข้าวตูใจเย็นลงมาก
ไม่แปลกเลยที่ข้าวตูจะชอบคุยกับชิน โดยเฉพาะเวลาที่มีปัญหา
ซึ่งชินเองไม่เคยแสดงอาการท้อแท้กับการเป็นความชื้นในอากาศให้กับข้าวตูเลยสักครั้ง

---------------------------------------------------------------------------------

มาเม้นท์กันก่อน แล้วค่อยติดตามตอนต่อไปนะคะ

------------------------------------------------------------------------------


ขอบพระคุณ bg โดนใจ คลาสสิคแบบนี้จากคุณ lovelovelovely
ที่นี่เลยค่ะ




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2550    
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 11:43:17 น.
Counter : 273 Pageviews.  


มิสซิสอาร์โนลด์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




&dateผู้หญิงคนหนึ่ง..บนโลกกลมๆใบนี้..
ยังมีความฝันอีกหลายอย่างที่กำลังเดินหน้าตามล่าฝัน
โดยมีคุณสามีฝรั่งคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความในบล็อกนี้ไปใช้เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©










What's new!


บล็อกอัพเดทล่าสุด


ลูกคุณมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่...โรคข้อสะโพกเคลื่อนหรือหลุด


คุณสามี MR.Speedy มีโอกาสได้เข้าวงการแสดงแล้วจ้า


ซาอีดาเปลี่ยนเฝือกครั้งที่ 1 พร้อมภาพ x-ray @21 months



วิธีทำให้ลูกมีความสุขมากขึ้น..ในเวลาที่ต้องทนทุกข์ๆ ในเฝือกเกือบ 2 เดือน



เข้าโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อครบ 1 ปี 8เดือน



ซาอีดา...บนปก mother and care เดือนมิถุนายนนี้ค่ะ



ประสบการณ์ผ่าตัดครั้งแรกของน้องซาอีดา



ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ---กับข้อสะโพกหลุดแต่กำเนิด--



เสียงสะท้อนจากผู้อ่าน





Mrs. Arnold's Blog

จากบล็อกออกเป็น pocketbook

...วางแผงแล้ววันนี้..

ที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มิสซิสอาร์โนลด์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.