สุขสรรค์ หรรษา กับคุณสามีฝรั่ง กับมิสซิสอาร์โนลด์

Happiness&Fun with my Farang Husband

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

ความรู้สึกแบบนี้..เคยมีกันบ้างไหม



ความรู้สึกแบบนี้..เคยมีกันบ้างไหม



จากคนที่เคยนั่งคุยกับตัวเองผ่านตัวหนังสือจากปลายดินสอ ปากกา
ที่ขีดๆ เขียนๆ ลงบนหน้าสมุดไดอารี
ดิฉันยังจำได้ดีถึงสมุดไดอารีเล่มแรก ที่คุณนายบัว ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด
หน้าปกแข็งสีเหลืองสด แต้มไปด้วยจุดสีชมพูสดใส
อาจเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ ดิฉันเหมือนเป็นเด็กมีปัญหา เก็บกด
เคยวิ่งเล่นเฮฮากับญาติพี่น้องรุ่นราวคราวเดียวกันนับสิบคนมาตั้งแต่จำความได้...

แต่แล้ววันหนึ่งต้องแยกตัวออกมาอยู่คนละจังหวัด
ในหมู่บ้านจัดสรรที่เพิ่งเกิดใหม่ รอบๆ บริเวณยังไม่มีแม้สิ่งมีชีวิตใด
เข้ามาอยู่ร่วมชุมชน
ในบ้านมีแต่ดิฉันกับแม่...พูดคุยกับแม่ นอนกับแม่ กินข้าวกับแม่
เวลาไหนที่ทะเลาะกับแม่ ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปคุยกับใคร
แม่เลยสงสาร ซื้อสมุดบันทึกให้มันคุยไปพลางๆ เวลาโกรธกัน

แต่จะมีใครรู้บ้างล่ะ นั่นแหละเป็นต้นกำเนิด
ทำให้ฉันมีนิสัยรักการเขียนเพื่อเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ

จากจุดเริ่มต้นที่สมุดไดอารีจนมาถึงช่วงรุ่งโรจน์ของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ด้วยความรักการเรียนรู้ รักการอ่านของดิฉัน
อินเตอร์เน็ตจึงเป็นอีกแหล่งเรียนรู้
ที่มิสซิสอาร์โนลด์เข้าไปศึกษาทุกวันอย่างขาดไม่ได้

จนกระทั่งมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักสังคมออนไลน์
เว็บไซท์ที่มีนักเขียน นักอ่านเข้ามาแลกเปลี่ยนเรื่องราว
ผลัดกันอ่าน ผลัดกันเขียน เรียนรู้และพัฒนาตนเองร่วมกันไป
จนในที่สุดก็เริ่มรู้จักวิธีการสร้างบล็อกที่เป็นเหมือนไดอารีส่วนตัว
เอาไว้บันทึกเรื่องราว บันทึกภาพประสบการณ์ในชีวิต

พอเริ่มเขียน เริ่มมีคนมาอ่านและเสนอความคิดเห็น
ความรู้สึกแรกที่มี คือ มีกำลังใจอยากเขียนต่อ...
อาจเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคน ที่ต้องการเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น
ณ บัดนั้น จุดเริ่มต้นของความฝันในการเป็นนักเขียนจึงเกิดขึ้น

ดิฉันไล่ล่าความฝันของตัวเอง ด้วยการเขียน เขียนไปวันแล้ว วันเล่า
ถึงแม้การเรียนจะยุ่งหนักหนาแค่ไหน แต่ถ้าวันไหนใจอยากเขียน
ดิฉันก็จะลุกขึ้นมาเขียน
จริงๆ งานเขียนก็เป็นศิลปะประเภทหนึ่งที่ต้องการช่วงเวลา
อารมณ์และสภาพจิตใจที่เหมาะสม
ตอนที่มีอารมณ์อยากเขียนก็ต้องลงมือเขียน
เพราะถ้าขืนเก็บไว้รอเวลา ชักช้าไปก็ลืมหมดกันพอดี

จากหัวข้อบล็อก “สุขสันต์หรรษากับคุณสามีฝรั่ง”
วันหนึ่งฝันที่เคยเป็นแค่ฝันก็มีโอกาสเปลี่ยนรูปแบบออกมาเป็นชื่อหนังสือ
บนเวทีของสำนักพิมพ์นกฮูก

ความรู้สึกนั้นดีใจอย่างบอกไม่ถูกเชียวล่ะ
ใครหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงนักเขียนอาจไม่เคยรับรู้ความรู้สึก
แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบความรู้สึกของการมีหนังสือเล่มแรกในชีวิต
ที่มีชื่อของตัวเองเป็นผู้แต่ง มิสซิสอาร์โนลด์ขอเปรียบกับความรู้สึกนั้น
เหมือนกับ....การมีความรักครั้งแรก...

ช่วงเวลาที่รอคำตอบจากสำนักพิมพ์
ดิฉันว่ามันรู้สึกเหมือนกับตอนที่เราตัดสินใจบอกชายหนุ่มที่เราหลงรักออกไป
ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับเค้า มันช่างรู้สึกทั้งลุ้น ทั้งกลัวว่าจะผิดหวัง
รู้สึกอุ่นขึ้นมาบนใบหน้าแต่ก็แอบมีความสุข
แอบฝันเล็กๆ ว่าจะดีแค่ไหนนะหากเค้ารู้สึกเช่นเดียวกันกับเรา

ณ วินาทีที่รับโทรศัพท์ และบก.บอกว่า “ตกลงพิมพ์ครับ”
ดิฉันรู้สึกว่าหัวใจพองโต ใบหน้ากว้างขึ้นอีกประมาณ 3 นิ้ว
เพราะแรงดันจากรอยยิ้มที่มุมปาก
ความรู้สึกอุ่นบนใบหน้าเปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกร้อน
หัวใจที่เคยเต้นอย่างปกติ เต้นเร็วขึ้น และดังขึ้นจนเราสัมผัสได้

มันเหมือนตอนที่ชายหนุ่มอันเป็นที่รัก
ตอบเรากลับมาว่า
“ผมก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับคุณ..เราเป็นแฟนกันนะ”

....หลายคนอาจคิดว่าโอเว่อร์...
แต่มันเป็นเรื่องจริง ที่เกิดกับดิฉันค่ะ
ดีใจมากจริงๆ บอกไม่ถูก กลัวว่าถ้าไม่รีบบันทึกเก็บเอาไว้
วันหนึ่งอาจจะหลงลืมไปว่า วันนี้เคยรู้สึกอย่างไร

และหลังจากที่หนังสือออกวางแผงดิฉันได้รับผลตอบกลับมา
ยิ่งทำให้รู้สึกว่า งานของตัวเองมีคุณค่าเพียงใด

มีพี่คนหนึ่งซึ่งดิฉันไม่เคยรู้จัก อีเมลล์มาแนะนำตัวเอง
แล้วบอกกับดิฉันว่าชอบงานเขียนของดิฉัน
พร้อมสอบถามถึงร้านที่วางขายหนังสือ

พออีกวันหนึ่งเพื่อนนักเขียนที่ดิฉันเคยขอความช่วยเหลือ
โทรมาบอกว่าหนังสือที่ดิฉันส่งไปให้ถูกใจพี่ข้างบ้านของเขามากมาก
จนอยากขอคุยด้วยเพื่อบอกความรู้สึก...
คุณเชื่อไหมคะว่าดิฉันดีใจมากขึ้นกว่าเดิมแค่ไหน

ไม่น่าเชื่อว่า ว่าความฝันชิ้นเล็กๆ ที่ตัวเองเก็บสะสมมา
มันจะมีค่ามากมายขนาดนี้
ความรู้สึกการได้เป็นนักเขียนเหมือนเป็นรางวัลชีวิตอีกชิ้นหนึ่งที่ดิฉันได้รับ

การได้รับรู้ความรู้สึกที่มีต่องานที่คุณตั้งใจทำจากใครบางคนที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต
มันจะมีค่ามากมายขนาดนี้

การเคยมีความรู้สึกแบบนี้ ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้ว่า
จงอย่ากลัวที่จะแสดงความรู้สึกต่อผลงานของใครๆ
หากงานของใครที่เราประทับใจ ก็บอกกับคนที่สร้างสรรค์ผลงาน
ว่าเราชอบงานเขามากแค่ไหน
เขาคงดีใจไม่น้อยเชียวละที่รับรู้ถึงความรู้สึกนั้น

แต่หากงานที่คุณคิดว่ามีจุดบกพร่อง ก็จงบอกเขาไปตามตรง
จงติเพื่อก่อให้เจ้าของผลงานได้มีโอกาสในการปรับปรุงชิ้นงานของตัวเอง
แต่อย่าติเขาเพื่อทำลาย ได้โปรดคิดถึงใจเขาใจเรา

ดิฉันเชื่อว่าสุดท้ายแล้วโลกที่เราอยู่ร่วมกัน
ก็จะมีสิ่งสร้างสรรค์ใหม่ๆออกมาให้บันเทิงอารมณ์กันอีกมากมาย
เพราะว่าพวกพวกเราทุกคนช่วยกันค่ะ

อยากขอบคุณกับทุกความรู้สึกที่มอบให้ รวมทั้งอยากถามเพื่อนๆ ว่า
เคยรู้สึกแบบนี้กันบ้างไหมคะ



จากใจ
มิสซิสอาร์โนลด์







Create Date : 15 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 17:34:52 น. 8 comments
Counter : 259 Pageviews.

 
เพราะทุกอย่างมันคือความตั้งใจไงจ้ะ
ทำออกมาเพราะว่าเราตั้งใจทำ แล้วก็ตั้งใจ
เสนอและคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ต่อ
คนอ่านไม่มากก็น้อย พอผลงานที่เราตั้ง
หวังเอาไว้มันออกมาแบบนี้ ก็เลยรู้สึก
เหมือนที่อาร์มกำลังมีอยู่เดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ ...


ใครๆ หลายคนเลยที่คิดอยากเขียนหนังสือ
อยากเผยแพร่ผลงานออกมา เรื่องของ
เป้าหมายทางการเงินคิดว่ามันก็คงมีแน่นอน
แต่ว่ามันอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของการทำ
เพราะว่าเราอยากจะลองได้ทำอะไรที่เราคิดว่า
เราน่าจะทำได้ และเมื่อมีโอกาสได้ทำและ
ทำได้ดี ก็คงมีความรู้สึกเหมือนอาร์มล่ะจ้ะ


โดย: JewNid วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:18:47 น.  

 
คิดว่าคนที่เขียนหนังสือได้นี่ต้องมีประสบการณ์จากการอ่านเยอะพอสมควร เพราะต้องเรียบเรียงเนื้อหาทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ ไม่ง่ายเลยนะคะ ยินดีกับคุณอาร์มด้วยจริง ๆ ที่สามารถทำได้ค่ะ


โดย: โบว์ (Die vier Jahreszeiten ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:44:26 น.  

 
กรี๊ดดๆๆอาร์มมี่จ๋าา มดแสดงความยินดีอีกรอบนะจ๊ะ

นี่จุ๊บแจงก็จะหอบเอาหนังสืออาร์มมาให้มดด้วยล่ะ

บิวฝากมาให้ อิอิ....สำเร็จไปอีกก้าวนึงแล้วนะจ๊ะ

คิดถึงจังเยย...


โดย: I love Garfield วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:41:52 น.  

 
ขอบคุณพู่ โบว์ แล้วก็นู๋มดนะจ๊ะ
ที่ให้กำลังใจกันเสมอมาค่ะ


โดย: มิสซิสอาร์โนลด์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:21:00 น.  

 
ดีจ้ะอาร์ม สบายดีนะจ้ะ เราว่าการที่ติเพื่อก่อ ดีกว่าติเพื่อเป็นบ่อนทำลายกำลังใจนะ เราอ่านหนังสือเล่มนึงที่เพื่อนเราเขียน เราเห็นว่ามีคำที่เขียนตก เราก็เก็บเอาไว้ พอมีโอกาสได้คุยกับเพื่อน เราก็บอกเค้าตรงๆ แต่ก็บอกด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หนหน้าเพื่อนจะได้ระวังมากขึ้น เราทำไม่ได้นะถ้าเห็นว่ามีข้อบกพร่องแล้วเราทำเฉย ยิ่งถ้าเป็นเพื่อนกันด้วยแล้วก็ยิ่งควรที่จะบอกกล่าวกัน ฝนคิดงี้นะ และเราก็บอกเพื่อนเราคนนั้นไปด้วยว่า สำนวนการเขียน เนื้อเรื่องต่างๆ อ่านสนุก แต่ก็แฝงไปด้วยความคิดบางอย่าง ที่เราอ่านแล้วก็คิดไม่ถึงว่าเพื่อนจะคิดได้ การที่เราอ่านหนังสือเยอะๆ นี่ก็ทำให้เราได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นในอีกมุมนึงเนอะ

หนังสือที่เราได้มาจากตัวเองเรายังไม่ได้อ่านเลยจ้ะ ไว้อ่านแล้วเป็นไงจะบอกนะจ้ะ

รักษาสุขภาพนะจ้ะ


โดย: Malee30 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:46:51 น.  

 
จ้าจะรอนะฝน


โดย: มิสซิสอาร์โนลด์ วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:23:03 น.  

 
ความตั้งใจริงของคุณอาร์มก็เป็นไปแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ จากใจจริง


โดย: thaispicy วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:33:50 น.  

 
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ


โดย: Nongtip วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:03:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิสซิสอาร์โนลด์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




&dateผู้หญิงคนหนึ่ง..บนโลกกลมๆใบนี้..
ยังมีความฝันอีกหลายอย่างที่กำลังเดินหน้าตามล่าฝัน
โดยมีคุณสามีฝรั่งคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความในบล็อกนี้ไปใช้เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©










What's new!


บล็อกอัพเดทล่าสุด


ลูกคุณมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่...โรคข้อสะโพกเคลื่อนหรือหลุด


คุณสามี MR.Speedy มีโอกาสได้เข้าวงการแสดงแล้วจ้า


ซาอีดาเปลี่ยนเฝือกครั้งที่ 1 พร้อมภาพ x-ray @21 months



วิธีทำให้ลูกมีความสุขมากขึ้น..ในเวลาที่ต้องทนทุกข์ๆ ในเฝือกเกือบ 2 เดือน



เข้าโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อครบ 1 ปี 8เดือน



ซาอีดา...บนปก mother and care เดือนมิถุนายนนี้ค่ะ



ประสบการณ์ผ่าตัดครั้งแรกของน้องซาอีดา



ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ---กับข้อสะโพกหลุดแต่กำเนิด--



เสียงสะท้อนจากผู้อ่าน





Mrs. Arnold's Blog

จากบล็อกออกเป็น pocketbook

...วางแผงแล้ววันนี้..

ที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มิสซิสอาร์โนลด์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.