สุขสรรค์ หรรษา กับคุณสามีฝรั่ง กับมิสซิสอาร์โนลด์

Happiness&Fun with my Farang Husband

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

สุขสันต์ หรรษา กับคุณสามีฝรั่ง (ตอนที่ 9: เมื่อคุณสามีฝรั่งโกอินเตอร์)




บทที่ 9: เมื่อคุณสามีฝรั่ง “โกอินเตอร์”



(เรื่องสั้นจากกระทู้ที่W4779781ในถนนนักเขียน)
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4779781/W4779781.html





“At first I was afraid, I was petrified….
Kept thinkin’ I could never live without you by my side…”
เสียงเพลง แห่งวงการชาวสีม่วงดังขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
มุมเล็กๆ ของวงสนทนาในงานเลี้ยงรุ่นของม. 6/2 ACSR รุ่น 4
มีร่างกายชายอวบอ้วนของคุณสามีฝรั่งของดิฉัน ลุกขึ้นยืน เยื้องกาย
ทำท่าเซ็กซี่ ริมฝีปากเผยอ ประหนึ่งดั่ง สาวใสในร่างชาย
เรียกเอาเสียงหัวเราะจากวงสนทนาให้ดังขึ้น

ไม่ทันไร เสียงหนึ่งของเพื่อนกระซิบข้างหูดิฉันว่า
“เฮ้ย! สามีแกเป็น เกย์หรือเปล่าวะ”
ดิฉันได้แต่หัวเราะ และตอบว่า “เออ ชักไม่แน่ใจเหมือนกัน”

ดิฉันก็ตอบเพื่อนไปขำๆ
จริงๆ แล้ว ท่านั้น ดิฉันเห็นมาจนชิน
แต่เห็นทีไรก็อดขำไม่ได้ทุกที
เนื่องจากคุณสามีดิฉัน เคยเป็นนักแสดงละครเวทีมาก่อน
และในวงการละคร จะหลีกหนีไม่ได้กับความสดใสของ "ชายหัวใจลูกผู้หญิง"
เพื่อนพี่ดี้ก็เหมือนกัน เกย์เล็ก เกย์น้อย เกย์ใหญ่มีมากมาย หลายประเภทเกย์
แต่ที่สนิทที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าของท่าทางนั้น คือคุณ สก็อต

พี่ดี้มีเรื่องราวของคุณสก็อตมาเล่าให้ดิฉันฟังมากมาย
และที่เห็นบ่อยคงจะเป็นท่าที่พี่ดี้กำลังแสดงให้เพื่อนดิฉันดูอยู่
ด้วยหน้าตาเย้ายวนใจ เชิดปลายคางประมาณ 120 องศา ตาปริบๆ
ปากเผยอพอเซ็กซี่เล็กน้อย ข้อศอกสองด้านกาง 45 องศากับลำตัว
พับปลายท่อนแขนด้านบนสองข้างเข้าหาหน้าอกของตัวเอง
นิ้วมือทั้งสิบกางออกพองาม จากนั้นใช้นิ้วกลางของทั้งสองมือ
หมุนวนที่จุดสูงสุดของหน้าอกทั้งสองข้าง..

แค่นี้คิดว่าทุกคนคงจะเห็นภาพความเซ็กซี่ของคุณสก็อตรวมทั้งคุณสามีดิฉัน
และยืนยันได้เลยว่าท่านผู้อ่านคงกำลังนึกภาพ
หรือทำท่าตามท่าที่ดิฉันบรรยายอย่างแน่นอน

สาเหตุที่ดิฉันต้องพรรณนาถึงท่าทางละเอียดขนาดนั้น
เนื่องจากเป็นท่าจุดประกายให้สามีดิฉันได้ “โกอินเตอร์”

หลังจากวันงานไม่นาน โทรศัพท์มือถือของดิฉันดังขึ้น
ซึ่งเสียงเรียกเข้าเป็นเสียงที่คุ้นหู เป็นเสียงเพลงประจำกลุ่ม
ของเพื่อนสมัยเรียน ACSR ของดิฉัน

“อ้าว! กิ๊บโทรมานี่” ดิฉันบ่นกับตัวเองเมื่อเห็นชื่อเพื่อนสนิท
ขึ้นบนจอโทรศัพท์มือถือ

“ยุ่งอยู่เปล่า คุยได้ไหมครับ?” เสียงปลายสายถามคำถามแรกเข้ามา
“โทรมาแต่เช้าเลยนะ คุยได้ ว่าไง มีอะไรเปล่าจ๊ะกิ๊บ” ดิฉันตอบ
“จะโทรมาคุยกับพี่ดี้” กิ๊บตอบ
“อ้าว จะโทรหาพี่ดี้ ทำไมไม่โทรเข้าเครื่องพี่ดี้ล่ะ” ดิฉันถามกลับ
แต่นึกได้ว่า กิ๊บจะไปมีเบอร์โทรของพี่ดี้ได้อย่างไร
จึงตอบกลับทันที ไม่ทันทิ้งช่วงให้เพื่อนตอกย้ำความ โก๊ะ ของตัวเอง

“แป๊บนะ พี่ดี้อยู่ตรงนี้” ดิฉันจึงส่งโทรศัพท์ให้คุณสามีทันที
ไม่ฟังเสียงตอบรับของฝ่ายตรงข้าม

“พี่ดี้ Giff wanna talk to you.” ดิฉันแจ้งความจำนงของปลายสาย
พร้อมยื่นโทรศัพท์ให้กับคุณสามีที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำในตอนเช้า

หลังจากบทสนทนาสั้นๆ จบลง
คุณสามีเดินยิ้มมาหาดิฉัน พร้อมเล่าว่ากิ๊บชวนไปถ่ายโฆษณา
เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดยี่ห้อหนึ่ง เพิ่งวางตลาด
พอดีทางครีเอทีฟ อยากได้คนที่มีบุคลิกเป็นนักวิทยาศาสตร์
แต่ไม่เครียดจนเกินไป สามารถทำอะไรต๊อง ๆ ได้

ภาพพี่ดี้ในคราบเกย์ท่าเซ็กซี่วันนั้น
วิ่งเข้าชนระบบประสาทส่วนกลางของกิ๊บทันที
เลยได้เสนอทีมครีเอทีฟ และก็ได้นัดดูตัวคุณสามีฝรั่งของดิฉัน

หลังจากพบทีมครีเอทีฟ คุยคอนเซ็ปงานที่จะทำ
ตกลงใจกันทั้งสองฝ่าย เส้นทางการ “โกอินเตอร์” ของสามีดิฉันก็เริ่มขึ้น
ดิฉันเองไม่เคยรู้เรื่องการทำงานเบื้องหลังของการถ่ายโฆษณา
หรือละครมาก่อน เพิ่งจะได้รู้ ได้เห็นจริงในวันนั้น

ทีมงานเริ่มทำงานกันตั้งแต่ สิบเอ็ดโมงเช้า
ทีมแต่งหน้าเริ่มบรรเลงเครื่องสำอางบนใบหน้าคุณสามี
ผนวกกับวิกผม แว่นตา และเครื่องแต่งกายแบบนักวิทยาศาสตร์
เปลี่ยนแปลงสามีดิฉันเป็นเหมือนใครอีกคนที่ดิฉันไม่เคยรู้จัก
ศิลปะบนใบหน้าสร้างสีสันให้กับวงการบันเทิงได้อย่างแท้จริง




เมื่อเริ่มถ่าย shot แรก ก็เป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว
แต่ทีมงานไม่ได้แสดงอาการเหนื่อยอ่อน หรือหิวข้าวกันเลยแม้แต่น้อย
shot นี้เริ่มแบบง่ายๆ แต่ก็ถ่ายทำกันประมาณ 4 take
ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้จากกองถ่ายว่า ต้องฉลาดและวางแผนล่วงหน้า

การถ่ายเก็บไว้หลายๆ แบบ แล้วค่อยมาเลือก shot ที่ใช่
ในขั้นตอนการตัดต่อเป็นสิ่งที่ควรทำ
เพราะถ้าไม่ถ่ายเก็บไว้ มานัดถ่ายวันหลัง
ทางกองต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกมากมาย ไม่คุ้มกัน

ทีมงานถ่ายทำหลักๆ จะมีช่างไฟ ตากล้องภาพนิ่ง และตากล้องวีดีโอ
คนถือสเลด หรือเจ้ากระดานปากงับที่เขียนด้านหน้าว่า “shot 4 take 3”
คิดว่าคุณผู้อ่านคงนึกภาพออกกับเจ้ากระดานปากงับประจำกองถ่าย
ซึ่งในกองจะมีน้องคนหนึ่งทำหน้าที่ถือสเลด
คอยปิด-เปิดปากงับของเจ้าสเลดอยู่หน้ากล้องตอนผู้กำกับสั่ง



ส่วนตัวผู้กำกับจะนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ด้านนอก
คอยดูภาพในจอ สั่ง “Action” และสั่ง “Cut”
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดิฉันสงสัยแต่ไม่ทันถามกับทีมงาน
คือที่จอโทรทัศน์ จะมีเทปกาวติดคาดด้านบน และด้านล่างของจอ
ไม่รู้ว่ามีเพื่อจุดประสงค์อันใด แต่คิดเอาเองว่า
คงจะทำภาพให้เหมือนกับภาพบนแผ่นฟิล์มในโรงภาพยนตร์
หรือใครนึกไม่ออกให้คิดถึงภาพบนแผ่นหนังก็อบปี้
หรือที่เรียกกันว่า “แผ่นซูม” ที่มีภาพไม่เต็มจอ
เหมือนใครเอาผ้าดำคาดบน คาดล่าง ประมาณนั้น





การถ่ายทำกว่าแต่ละ shot จะผ่านได้ ถ่ายกันไม่รู้กี่ take
ฉากที่ดิฉันเห็นว่าหลาย take ที่สุดคงเป็นฉาก
ที่คุณสามีดิฉันต้องพูดภาษาไทยเนี่ยแหละค่ะ
แค่คำว่า “ผมทนไม่ได้” คุณสามีดิฉันถ่ายไปประมาณ สิบกว่า take

ไม่น่าเชื่อนะคะ โฆษณาที่เราเห็นประมาณ 3-4 นาที
เวลาถ่ายทำจริงใช้เวลานานมาก
วันนั้นกว่าจะถ่ายเสร็จ ใช้เวลาจนถึงประมาณ 2 ทุ่มกว่า
รวมเวลาทั้งหมดแล้วก็ประมาณ 8 ชั่วโมง

นอกจากฉากง่ายๆ แล้วยังมี ฉากโหดๆ
ฉากนี้คุณสามีต้องแสดงศักยภาพ ทางด้านการเต้น
จริงๆแล้วตาม story board ที่ทีมงานร่างมา ใช้เวลาประมาณ 5 วินาที



แต่ถ่ายทำจริง สามีดิฉันเต้นไปประมาณ 2 เพลงเห็นจะได้
ยิ่งเขาเป็นคนเหงื่อเยอะ แถมมีวิก เสื้อคลุม
และต้องเต้นอยู่หน้าไฟฉากร้อนๆ
ถ่ายเสร็จเสื้อแกบิดเป็นน้ำได้เลยค่ะ..น่าสงสาร..

อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุด คือได้เห็นใบหน้าคุณสามีดิฉันมีความสุข
ได้ทำงานในสิ่งที่เค้าชอบ เค้าอยากทำ แค่นี้ดิฉันก็ดีใจมากแล้ว

นอกจากนั้นทีมงานที่ร่วมงานด้วย เป็นเด็กรุ่นใหม่
หัวคิดสร้างสรรค์ ทำงานกันด้วยใจ
ถึงแม้จะมีปัจจัยด้านภาษาเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ได้ทำให้การสื่อสารระหว่างการทำงานด้อยไปเลย

ขณะที่ดิฉันนั่งดูอยู่ด้านนอก จะได้ยินเสียงน้องตากล้อง
ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงที่สุด
จะคอยส่งเสียง “อือ.. อ้า ..yes, no..no.., และ very good” กับคุณสามี
เหมือนเป็นการให้กำลังใจนักแสดง คุณสามีบอกว่าทำให้มีกำลังใจ
ในการแสดงท่าทางต่างๆ ออกมาได้เป็นอย่างดี



ตอนนี้ดิฉันเองก็ได้เรียนรู้ว่า การเป็นนักแสดงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
นอกจากนั้นต้องอาศัยใจรัก ความพยายามและความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่ง
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด ดิฉันคิดว่า พรสวรรค์ ของนักแสดง
ที่จะทำให้ผู้ชม เกิดอารมณ์ร่วม ไม่ว่าจะเป็น สุข เศร้า เหงา หรือสนุก
ซึ่งดิฉันเองต้องยอมรับว่า คุณสามีดิฉัน
มีพรสวรรค์ในส่วนนั้นอย่างเต็มที่
เส้นทางการ “โกอินเตอร์” ของคุณสามีฝรั่งของดิฉันจึงเริ่มขึ้น ณ บัดนี้
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทีมงาน
เจ้าของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่มีชื่อตรงใจว่า
"2 point" ถูกจุด ถูกใจ



กิ๊บ และท่าทางจุดประกายของ คุณสก็อต
ที่มีส่วนร่วมสานฝันของสามีดิฉันในเมืองไทยให้เป็นจริง..ขอบคุณค่ะ...





Create Date : 11 ตุลาคม 2549
Last Update : 31 มกราคม 2550 23:41:50 น. 7 comments
Counter : 1113 Pageviews.

 
คุณดี้กลายเป็นนายแบบโฆษณาไปแล้ว อีกหน่อยต้องได้เล่นละครหลังข่าวแน่ๆเลย


โดย: ตา (Febie ) วันที่: 12 ตุลาคม 2549 เวลา:18:34:09 น.  

 
ติดใจคู่นี้ซะแล้ว ขอแอดบล็อกกลับไปเลยนะคะ


โดย: ตา (Febie ) วันที่: 12 ตุลาคม 2549 เวลา:18:40:52 น.  

 
ด้วยความยินดีค่ะคุณตา
ดิฉันแอบ add blog คุณตาไว้ด้วยค่ะ


โดย: มิสซิสอาร์โนลด์ วันที่: 12 ตุลาคม 2549 เวลา:19:06:25 น.  

 
อ่านมาหมดแล้ว นั่งติดกับที่นั่งเลยนะนี่


โดย: มดน้่อย (I love Garfield ) วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:12:28:30 น.  

 
อันนั่นแน้ ตามมาอ่านแล้ว
ขอบคุณนะจ๊ะคุณมดน้อย เดี๋ยวจะตามไปช่วยแกะให้นะ
จากที่นั่งน่ะ ...คิดถึงจัง หลังจากดูรูปจากน้องหญิงแล้ว
อยากไปเที่ยวกันอีกเนอะ


โดย: มิสซิสอาร์โนลด์ วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:12:26:19 น.  

 
ตามมาอ่านรวดเดียว 4 ตอนเลย
เข้าใจเรื่องการทำงานเลยค่ะ เพราะอิงมีเพื่อนทำงานอยู่ในวงการโฆษณา เขาว่าหนังที่เห็นกันสั้นๆไม่กี่นาที ถ่ายกันเป็นวันทีเดียว ห่วงเรื่องเวลาไม่พอ ยังต้องมาห่วงเรื่องลูกค้าจะชอบมั้ยอีก

ว่าแต่โฆษณาตัวนี้ออกอากาศหรือยังคะ


โดย: nainoi_tplusone วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:18:03:45 น.  

 
คุณน้อง nainoi_tplusone
ขอบคุณนะคะสำหรับการติดตาม รอกันอยู่เลยค่ะ อยู่ในขั้นตอนทำ Voiceoverค่ะ
คงใช้เวลาพอควรเลย
จะส่งข่าวคราวต่อไปค่ะ


โดย: มิสซิสอาร์โนลด์ วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:18:06:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิสซิสอาร์โนลด์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




&dateผู้หญิงคนหนึ่ง..บนโลกกลมๆใบนี้..
ยังมีความฝันอีกหลายอย่างที่กำลังเดินหน้าตามล่าฝัน
โดยมีคุณสามีฝรั่งคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความในบล็อกนี้ไปใช้เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©










What's new!


บล็อกอัพเดทล่าสุด


ลูกคุณมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่...โรคข้อสะโพกเคลื่อนหรือหลุด


คุณสามี MR.Speedy มีโอกาสได้เข้าวงการแสดงแล้วจ้า


ซาอีดาเปลี่ยนเฝือกครั้งที่ 1 พร้อมภาพ x-ray @21 months



วิธีทำให้ลูกมีความสุขมากขึ้น..ในเวลาที่ต้องทนทุกข์ๆ ในเฝือกเกือบ 2 เดือน



เข้าโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อครบ 1 ปี 8เดือน



ซาอีดา...บนปก mother and care เดือนมิถุนายนนี้ค่ะ



ประสบการณ์ผ่าตัดครั้งแรกของน้องซาอีดา



ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ---กับข้อสะโพกหลุดแต่กำเนิด--



เสียงสะท้อนจากผู้อ่าน





Mrs. Arnold's Blog

จากบล็อกออกเป็น pocketbook

...วางแผงแล้ววันนี้..

ที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มิสซิสอาร์โนลด์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.