สุขสรรค์ หรรษา กับคุณสามีฝรั่ง กับมิสซิสอาร์โนลด์

Happiness&Fun with my Farang Husband

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

สุขสันต์ หรรษา กับคุณสามีฝรั่ง (ตอนที่ 1: ความแตกต่างที่ลงตัว)

สุขสันต์ หรรษา กับคุณสามีฝรั่ง ตอนที่ 1




เรืองสั้นจาก ถนนนักเขียน

ขออนุญาตินำเรื่องราวจากถนนนักเขียนที่ตนเองเขียนไว้ มารวบรวมไว้ใน Blog นี้นะคะ



บทที่ 1: ความแตกต่างที่ลงตัว

(เรื่องสั้นจากกระทู้ที่ W4673300 ในถนนนักเขียน)
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4673300/W4673300.html

“แม่... หนูอยากแต่งงานกับฝรั่ง” คำพูดประโยคนี้ คุณบัว แม่ของดิฉัน
ได้ยินมาตั้งแต่ดิฉันยังตัวเล็กๆ แต่แกคงคิดว่า เด็กคนนี้ฝันลมๆ แล้งๆ
เหมือนที่เด็กทั่วไปที่ฝันว่า“หนูอยากเป็นหมอรักษาคุณพ่อตอนไม่สบาย”
ทำนองนั้น ไม่รู้เป็นยังไงนะ ตอนเด็กไม่รู้สึกกลัวฝรั่งเลยสักนิด

หลายคนคงเคยสังเกตว่า เด็กเล็กๆ เวลามีฝรั่งที่มีใบหน้า สีตาผิดแปลกไป
จากคนไทยเข้ามาเล่นด้วย เป็นต้องร้องไห้จ้าทุกที
สำหรับดิฉันเหรอคะ ไม่เคยค่ะ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่าความปรารถนาดี
และรักลูกสาวคนเดียวของ คุณบัวนั้น อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ
เธอสอนภาษาอังกฤษให้กับดิฉันตั้งแต่เล็กๆ
แบบว่า แทบจะป้อนกันด้วยขนมปังกรอบ A B C เลยเชียว
และด้วยความที่เธอนั้นเป็น ฮีโร่ ของดิฉันมาตลอด
ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันจึงอยากทำอะไรได้อย่างที่คุณแม่ดิฉันทำได้
นี่แหละ เพิ่งจะรู้ว่าสุภาษิตไทยโบราณที่ว่า
“ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่” เป็นจริงก็เพราะอย่างนี้เอง

คุณนายบัว ทำอาหารเก่ง ฉันก็ทำอาหารได้เก่งไม่แพ้กัน
คุณบัวเป็นสาวมั่น แต่งตัวเก่ง ฉันก็แต่งสวยได้มั่นใจไม่แพ้กัน
คุณบัวเธอพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส ได้เป็นไฟ (เนื่องจากเรียนศิลป์-ภาษา)
ส่วนฉันเหรอ เด็กวิทย์-คณิต ก็ขวนขวายไปเรียนตามสถาบันสอนภาษาเพิ่มเติม
นอกจากเรียนกับแม่มาตลอดแล้ว
ทั้งนี้ก็เพราะอยากพูดกับฝรั่งให้ได้เหมือนคุณบัว และนี่แหละค่ะ
เป็นความแตกต่างอย่างแรก คือ เรื่องภาษา ซึ่งจุดแตกต่างนี้เป็นจุดเริ่มต้น
ของความแตกต่างที่ลงตัวของดิฉันกับคุณสามีฝรั่ง

ความแตกต่างที่สำคัญ อีกประการหนึ่ง นั่นก็คือ เรื่องสีผิว
ทำไมคะ ดิฉันจะดำแล้วมันผิดตรงไหน
ทำไม๊......... ผู้ชายไทยมันถึงว่าดิฉัน ล่ำ ดำ บึ๊ก
(ดีนะเนี่ยที่ดิฉันไม่เตี้ย ไม่อย่าง นั้นได้ครบสูตร เตี้ย ล่ำ ดำ บึ๊ก)
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฉันเกิดแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าเช่นนั้น ก็คงไม่พ้น ไอ้ปุ๊
เพื่อนของดิฉันคนหนึ่งใน สมัยเรียน

“ไอ้ปุ๊ มันเป็นเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คน
ที่รับดิฉันเข้าไปร่วมแก็งค์” เป็น “สโนว์แบล็คกับหนุ่มหล่อทั้ง 7” อะไรประมาณเนี้ยค่ะ
ไอ้ปุ๊มันเรียนห้องเดียวกัน อยู่กลุ่มเดียวกันกับดิฉันตั้งแต่สมัย ม.ปลาย
วันหนึ่ง มีกิจกรรมวันปีใหม่ มีการจับฉลากแลกของขวัญกันระหว่างเพื่อนในห้อง
แต่ขอโทษค่ะ กิจกรรมในห้องดิฉันน่ะ ง่ายๆ ไม่ได้หรอกเพราะดิฉันเป็นหัวหน้าห้อง
มันต้องให้ ครีเอทีฟสักหน่อย ดิฉันเลยต้องกลับไปนั่งคิด นอนคิด อาบน้ำคิด จนกระทั่งได้
ไอเดียดีๆ โดย ให้เพื่อนแต่ละคนจับชื่อเพื่อนในห้อง ก่อนวันจับฉลาก 1 อาทิตย์
จากนั้นให้แต่งประโยคที่แสดงลักษณะของคนที่เราจับชื่อได้นั้นเพื่อเอามารวมกัน
เพื่อทำฉลากอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความสนุกสนานกันตอนจับฉลากขึ้นมา
เพราะจะได้ช่วยกันทายว่า ประโยคที่อ่านนั้น หมายถึงใครในห้อง

ด้วยกรรมของดิฉัน ไอ้ปุ๊มันจับได้ชื่อดิฉันค่ะ มันใช้สมองทั้งหมดที่มันมีแต่งประโยค
ให้กับดิฉันซึ่งทำให้ดิฉันซึ้งใจน้ำตาจะไหลรดหัวอันใสๆ ของมัน คิดดูสิคะ
ประโยคของมัน ทำให้ดิฉันจำได้ขึ้นใจยิ่งกว่าสูตรฟิสิกส์ มาจนปัจจุบันนี้
ซึ่งประโยคของมันถูกถ่ายทอดออกมาเมื่อวันปีใหม่ปีนั้นเอง
“ใครเอ่ย แขนใหญ่เท่าขา ผิวดำคล้ายๆ ชาวแอฟริกา.....”
เพื่อนทุกคนพอยท์ นิ้วชี้มาที่ดิฉันทันทีอย่างที่ไม่ต้องคิด
ก็แหม โรงเรียนที่ดิฉันเรียน เป็นโรงเรียนชายมาก่อน จากนั้น ม.ปลาย เปิดรับผู้หญิง
ส่วนใหญ่ก็ย้ายมาจากโรงเรียนหญิงล้วนข้างๆ กัน ซึ่งมีแต่หมวยๆ ขาวๆ น่ารัก ตัวเล็กๆ
ดิฉันเข้าไปก็เลยโดดเด่นสิคะ ดำไม่เหลือเผื่อใครเลยล่ะค่ะ
แต่คิดไปมันก็มีส่วนดีนะคะ ทำให้ดิฉันเริ่มเรียนรู้ว่า ผู้ชายไทย
เค้าไม่ค่อยนิยมของดำกัน อยากจะขอยืมประโยค พี่เสนาหอย
ในเพลงมาร้องให้ฟังจริงๆ พวกนี้

นอกจากเรื่อง ภาษา สีผิว ยังมีอีกมากมายหลากหลายความแตกต่าง
ที่ดิฉันและสามีสุดที่รักแตกต่างกัน
เค้าตาสีฟ้า ดิฉันมีตาสีน้ำตาล, เค้านับถือศาสนาคริสต์ ดิฉันนับถือศาสนาพุทธ,
เค้าอยู่ซีกโลกตะวันตก ดิฉันอาศัยอยู่ซีกโลกตะวันออก,
เมืองเค้าเป็นกลางวัน บ้านดิฉันเป็นกลางคืน, เค้าใช้ส้อมกับมีด ดิฉันใช้ส้อมกับช้อน,
เค้ากินพิซซ่าไม่ปรุง ดิฉันขาดซอสมะเขือเทศไม่ได้เวลากินพิซซ่า,
น้ำหนักเค้าขึ้นทีเป็น พาวด์ (pond) ดิฉันขึ้นทีเป็นกิโลกรัม (kg)

นอกจากนั้นยังมีอีกหลายๆ อย่าง ที่เราสองคนแตกต่างกัน แต่สามีดิฉันคนนี้ทำให้ฉันค้นพบว่า
ไม่มีความแตกต่างใดที่ปรับเข้าหากันไม่ได้
นอกเสียจากว่าคุณทั้งสองคนไม่อยากจะปรับมากกว่า

ดังนั้น คำถามแรกที่อยากฝากให้ทุกคนถามตัวเอง ก่อนจะเลิกกันเพราะเหตุผลว่า
เราสองคนแตกต่างกันเกินไป อยากให้คุณทั้งคู่ย้อนถามใจตัวเองดีๆว่า
"จริงๆ แล้วมันเป็นเพราะความแตกต่างหรือว่าเพราะไม่รักกันอีกต่อไป"

มีรูปภาพชุดหนึ่งที่ติดอยู่ใน อพาร์ทเมนท์ ของเราทั้งคู่ เป็นภาพที่ดิฉันถ่ายเอง
ภาพแรกเป็นภาพของส้อม ภาพที่สองเป็นภาพของช้อน และภาพสุดท้าย
เป็นภาพของส้อมกับช้อนอยู่คู่กัน
ใต้ภาพ ดิฉันเขียนข้อความจากบทเพลง บทเพลงหนึ่งว่า
“แต่เราก็หากัน .... จนเจอ/ Finally, We found each other….”
ตอนถ่ายรูปชุดนี้ ในใจดิฉันคิดว่า ถึงแม้เราแตกต่างกันแต่ไหน ดังเช่น ช้อนกับส้อม
เราก็สามารถมาอยู่รวมกันได้อย่างลงตัว และเอื้อประโยชน์สุขให้แก่กันและกันได้
.....เท่านั้นเอง....






Create Date : 04 กันยายน 2549
Last Update : 9 กันยายน 2549 16:03:44 น. 3 comments
Counter : 420 Pageviews.

 
เพิ่งมีคนบอกให้ฟังเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะว่าจะหย่า เพราะ"เราแตกต่างกันเกินไป"

คันปากยิบๆ อยากจะถามว่า ก่อนหน้านี้ไม่รู้หรือว่ามันแตกต่าง
แต่เดี๋ยวจะเสียสถาบันผู้ฟังที่ดี
เลยได้แต่ถามว่าไม่มีทางจะปรับกลับมาหากันได้เลยหรือ

เห็นด้วยค่ะว่า เพราะเราไม่รักกันอีกแล้วต่างหาก


โดย: HoneyLemonSoda (HoneyLemonSoda ) วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:18:44:02 น.  

 
คุณ HoneyLemonSoda
เข้าใจเลยค่ะความรู้สึกนั้น แล้วยิ่งอีกคำหนึ่งเหมือนกัน
"คุณดีเกินไปสำหรับผม"
โอ โห ไม่รัก ก็บอกไม่รัก ไม่ต้องมาบอกดีเกินไป เนอะ
แต่คุณ Honey lemon Soda ทำดีแล้วค่ะ
ไม่เสียสถาบันผู้ฟังที่ดี เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: มิสซิสอาร์โนลด์ วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:8:43:37 น.  

 
"คุณดีเกินไปสำหรับผม" ก็เป็น อีกหนึ่งแพทเทิร์นของการบอกเลิกเหมือนกันค่ะ
เวลาเลิกรักแล้ว ก็มีข้ออ้างสารพัดแบบ
อะไรๆก็ไม่ถูกตาถูกใจไปหมด


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:13:57:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิสซิสอาร์โนลด์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




&dateผู้หญิงคนหนึ่ง..บนโลกกลมๆใบนี้..
ยังมีความฝันอีกหลายอย่างที่กำลังเดินหน้าตามล่าฝัน
โดยมีคุณสามีฝรั่งคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความในบล็อกนี้ไปใช้เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©©










What's new!


บล็อกอัพเดทล่าสุด


ลูกคุณมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่...โรคข้อสะโพกเคลื่อนหรือหลุด


คุณสามี MR.Speedy มีโอกาสได้เข้าวงการแสดงแล้วจ้า


ซาอีดาเปลี่ยนเฝือกครั้งที่ 1 พร้อมภาพ x-ray @21 months



วิธีทำให้ลูกมีความสุขมากขึ้น..ในเวลาที่ต้องทนทุกข์ๆ ในเฝือกเกือบ 2 เดือน



เข้าโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อครบ 1 ปี 8เดือน



ซาอีดา...บนปก mother and care เดือนมิถุนายนนี้ค่ะ



ประสบการณ์ผ่าตัดครั้งแรกของน้องซาอีดา



ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ---กับข้อสะโพกหลุดแต่กำเนิด--



เสียงสะท้อนจากผู้อ่าน





Mrs. Arnold's Blog

จากบล็อกออกเป็น pocketbook

...วางแผงแล้ววันนี้..

ที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มิสซิสอาร์โนลด์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.