มีสุข มีทุกข์ อะไรก็จะเขียนไว้ที่นี่

เดือนพฤศจิกายน จะพาแม่ไปนั่งเครื่องบินเล่น

เย็นวันนึงสมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ ผมก็นอนเปลญวนอยู่ใต้ถุนบ้านเหมือนทุกๆ วัน มีพ่อ แม่ แล้วก็พี่สาว จำไม่ได้แล้วว่าใครอยู่ตรงไหนบ้าง แต่พ่อนอนเปลญวนอยู่ติดกับผม เราคุยกันหลายเรื่อง แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ พ่อก็เล่าเรื่องตอนเที่ยวตาคลี (นครสวรรค์) พ่อเล่าว่าเคยเห็นเครื่องบิน ที่สนามบินตาคลี พ่อเล่าว่าตอนบินขึ้น หางจะยกขึ้นก่อนแล้วจึงค่อยๆ บินขึ้น พูดแล้วก็ทำมือประกอบ ตอนนั้นผมก็ไม่อยากจะเชื่อเพราะดูในโทรทัศน์ ผมก็เห็นว่าหัวเครื่องเชิดขึ้นก่อนทุกที เพิ่งมารู้ตอนเล่นเกมส์MFS ว่าเครื่องบินเก่าๆ ที่มีล้อที่ 3 อยู่ที่ปลายหาง อย่างเช่นรุ่น DC3 ตอนบินขึ้น หางจะยกขึ้นก่อนจริงๆ ตามที่พ่อเล่ามา

ผมบอกพ่อว่า สักวันถ้ามีเงินเดือนจะพาพ่อกับแม่ไปนั่งเครื่องบินเล่น ไปเชียงใหม่ก็ได้ แล้วขากลับค่อยขึ้นรถไฟกลับมา เพราะผมเคยได้ยินว่าตอนลอดผ่านถ้ำขุนตาล สวดนะโม 3 จบก็ยังลอดไม่พ้น

มันเป็นเหมือนความฝัน และคำสัญญาที่ผมให้กับพ่อไว้ และผมเองก็ตั้งใจจะทำให้ได้ แต่ก็ทำไม่ได้ ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็เกิน 10 ปีเข้าไปแล้ว พ่อจากไปหลายปีแล้วผมเองก็เกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้วเช่นกัน

เมื่อตอนพาแม่ไปนั่งรถไฟเที่ยว เคยบอกแม่ว่าสักวันจะพาไปนั่งเครื่องบินเล่นบ้าง ไปภูเก็ตก็ได้ เพราะไม่เคยเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน เคยไปแต่ทางภาคตะวันออก แม่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย แต่ด้วยความไม่พร้อมทางการเงินและอีกหลายเหตุผล ทำให้ผมเกือบจะลืมไปแล้ว

เมื่อตอนกลับบ้านครั้งที่แล้ว อยู่ๆ แม่ก็เลยถามว่า ที่ว่าจะพาไปนั่งเครื่องบิน เมื่อไหร่จะพาไป ?

ผมใจหายวูบ เมื่อนึกถึงว่า ผมเคยรับปากพ่อ แล้วก็ทำไม่ได้ เพราะพ่อเสียไปซะก่อน ก็เลยไม่อยากผิดคำพูดกับแม่อีก ขืนผมมัวรอเวลาต่อไปแม่อาจแก่จนเดินทางไม่ไหวก็เป็นได้ พอกลับมากรุงเทพ ก็เลยรีบขวนขวายจองตั๋งเครื่องบินแล้วก็ทัวร์ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน ตั้งแต่เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา แล้วก็โทรไปบอกแม่ว่า ให้เตรียมตัวอีก 3 เดือนจะพาไปเที่ยวภูเก็ต ให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี อย่าซน เพราะขืนเจ็บป่วยช่วงนั้นพอดีก็อดไปเที่ยวกันพอดี

ถ้าคุณไม่เข้าใจคำว่า ซน ที่ผมพูด นั่นเพราะคนไม่รู้จักแม่ผมดีเท่าผม ถึงแม่ผมอายุมากแล้ว และก็มีเงินเดือนประจำที่ผมจ่ายให้ล่วงหน้าเป็นรายปี ซึ่งมั่นใจว่าพอใช้อย่างสบาย แต่แม่ก็ทำโน้นทำนี่ตลอด ไม่ยอมหยุดอยู่เฉยๆ อย่างที่ผมอยากให้เป็น ปลูกผักเอาไปขายบ้าง ไปทำงานโครงการฟื้นฟูบ้าบออะไรของรัฐบาลที่ให้วันละ 150 บาทบ้าง ฯลฯ ไม่รู้จะห้ามยังไงจริงๆเลย นี่แหละคือ ความซนของแม่ผม

ผมเลือกที่นั่งริมหน้าต่างให้ ตรงตำแหน่งที่คิดว่ามองเห็นวิวได้ชัดเจน เพราะนี่คือครั้งแรกที่แม่นั่งเครื่องบิน ส่วนผมเองเคยบินแล้ว ตอนไปอังกฤษ แม้จะไม่ได้นั่งข้างหน้าต่างก็ตาม ก็เลยอยากให้แม่ประทับใจกับประสบการณ์บินครั้งแรกในชีวิต จะได้มีเรื่องไปเมาท์ให้คนอื่นฟัง ตามประสาคนช่างพูด

ผมหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นอย่างที่หวังไว้ และถ้าโครงการนี้ ผ่านไปด้วยดี ก็อาจมีโครงการอื่นต่อไปในอนาคต เพราะมีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่แม่ไม่เคยทำ เช่น นั่งบันลูน ขี่ม้า (ท่าจะไม่ไหว) ล่องแก่ง (อันนี้อาจพอไหว) พายเรือคะยัค (เข้าท่า) โดดร่ม ( ไม่มีทางเป็นไปได้ ) ฯลฯ


Create Date : 30 สิงหาคม 2555
Last Update : 30 สิงหาคม 2555 22:12:31 น. 0 comments
Counter : 949 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

mrpipo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ประชาธิปไตยจงเจริญ
[Add mrpipo's blog to your web]