ยิ่งนานวัน ก็เหมือนอยู่คนเดียวมากขึ้นทุกที
ไม่รู้ว่ามันเริ่มตอนไหน แต่ที่แน่ๆ มันเกินกว่าคำว่าเหงาไปมากแล้ว มันรู้สึกเหมือนว่าทุกคนในโลกมีแต่คนที่เราไม่รู้จัก มีเพียงตัวเราเองเท่านั้นที่พึ่งพิงได้ มีแต่ตัวเราเท่านั้น ที่เข้าใจตัวเราเอง
เมื่อสมัยเป็นเด็ก ช่วงนั้นผมมีพ่อมีแม่ เป็นหลักให้พักใจ มีอะไรก็พูดได้บอกได้ทุกเรื่อง เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ก็รับฟังและให้คำแนะนำที่ได้เรื่องบ้าง ไม่ได้เรื่องบ้าง แต่ก็ยังดีที่ยังให้คำแนะนำ ไม่ปล่อยให้เราคิดเองเออเอง อยู่คนเดียว
มาถึงตอนนี้โตจน หมาขึ้นเก้าอี้ กระโดด เลียก้นไม่ถึงแล้ว เหมือนกับว่ามันถึงเวลาที่ต้องพึ่งพาตัวเองอย่างเต็มที่ พ่อไปนานแล้ว เหลือแม่ก็เป็นเพียงเหมือนคนรู้จักคนหนึ่ง ไม่ค่อยได้คุยกัน คงเพราะผมไม่ชอบโทรศัพท์คุยกับใคร มันไม่ได้อารมณ์ ยังไงไม่รู้ นาน หลายๆ เดือนแม่คิดถึงก็โทรมาครั้งนึง ผมไม่เคยโทรไปเลยสักครั้งเดียว นึกๆ ดูแล้วตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาผมเคยโทรศัพท์ไปหาคนอื่น ไม่น่าเกิน 100 ครั้งนะผมว่า
ทุกวันนี้ทำงานไป เรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมาย ไม่มีความหวังความฝันอะไร เพราะฝัน หวัง อะไรก็ไม่เคยสมดังหวังเลยสักครั้ง นานครั้งเข้าก็เริ่มชิน เริ่มชา ไม่คิดไม่หวังอะไรแล้ว ปล่อยมันไปตามเรื่องของมัน มีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร
หมู่นี้งานไม่ยุ่ง แต่ก็อดเครียดไม่ได้ เครียดเพราะอะไร เครียดเพราะว่าอะไรๆ มันไม่เป็นดังใจต้องการ เครียดเพราะว่ารู้สึกเป็นคนนอกอยู่เสมอ อาจเป็นเพราะว่าผมอาจขวางโลกอยู่หน่อยๆ ก็เป็นได้ ก็เลยไม่ค่อยสนิทกับใคร เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่จึงเป็นคนอื่นอยู่เสมอ
มันผิดไหมถ้าจะรู้สึกแบบนี้ เซ็ง
Create Date : 23 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 23 มิถุนายน 2552 10:26:13 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1127 Pageviews. |
|
|
|
|