มีสุข มีทุกข์ อะไรก็จะเขียนไว้ที่นี่

นอนดึกมาสองวันแล้ว เพราะมัวเล่นเกมส์ FreeCIV

ที่เขาพูดกันว่า สูงสุดสู่สามัญ เห็นเป็นจริงเป็นจังก็คราวนี้ เมื่อก่อนเกมส์แนว TBS อย่าง Civilization ได้รับความนิยมมากแต่พอมี เกมส์แนว RTS อย่าง StarCraft ก็ทำให้ลดความนิยม แต่กระนั้นก็ยังมีการพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ ล่าสุด Civilization V ก็ออกมาแล้ว แต่สำหรับคนเบี้ยน้อย ก็มี FreeCIV 2.2.3 ซึ่งฟรี(หลายคนชอบของฟรี ผมก็ด้วย)

เกมส์ TBS เป็นเกมส์ที่คล้ายๆ หมากรุก คือเดินหมากวางกลยุทธ์ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็กดปุ่ม เพื่อจบตา ช่วงแรกๆ ก็ตาละประมาณ 50ปี (มั้ง) ช่วงหลังๆ ตาละ 1ปี เนื้อเรื่องของเกมส์ เริ่มตั้งแต่ 4000 ปีก่อนคริสต์กาล ก็ 3457 ปีก่อนพุทธศักราช ประมาณนั้น ที่เรามีคือ

นักสำรวจ (Explorer) 1 คน
แรงงาน (Worker) 2 คน
เขาเรียกว่าอะไรไม่รู้ ผมเรียกว่า ตัวสร้างเมือง (Setter) 2 ตัว

แน่นอนว่าช่วงนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีอะไรเลย ก็คงเป็นช่วงหลังที่มนุษย์เริ่ม ตั้งถิ่นฐานทำการเกษตรแทนการร่อนเร่ล่าสัตว์ละมั้ง นึกภาพสิว่าสมัยนั้นคนก็คงอยู่รวมกันเป็นชุมชนเล็กๆ ยังไม่มีภาษาเป็นของตนเอง แต่พอมาอยู่รวมกันเข้า ก็จำเป็นต้องสร้างช่องทางการสื่อสารขึ้นมา แน่นอนว่า การพูดย่อมเกิดก่อนการเขียน เพราะยังไม่ได้คิดออกแบบตัวอักษร จะว่าแต่ตัวอักษรเลย แค่สัญลักษณ์ต่างๆ ก็คงยังไม่มี

การอยู่ร่วมกัน คือที่มาของการปกครองในเกมส์ เริ่มด้วยการปกครองแบบเผด็จการ (Despotism) คือยังไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์อะไร ผู้มีอำนาจซึ่งเดาเอาเองว่าผู้ที่แข็งแรงที่สุด มีพวกมากที่สุดก็สามารถทำอะไรได้ก็ได้ทุกอย่าง ซึ่งจะพูดได้ว่า กูคือผู้นำ กูคือกฎ ก็ไม่น่าจะผิด (ใครปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยระบบนี้ ถือว่าโบราณคร่ำครึมาก)

อีกระบอบคือระบอบอนาธิปใตย (Anarchy) ผมแยกไม่ออกว่ามันต่างจากเผด็จการตรงไหนเหมือนกัน

ต่อมาหลังจากมีตัวอักษรใช้แล้ว ก็เกิดระบอบกษัตริย์ (Monarchy) คือพัฒนาขึ้นมาอีกหน่อยคือมีการกำหนดกฎต่างๆ เป็นลายลักษณ์อักษร แต่แน่นอนว่ากษัตริย์และผู้นำเป็นคนกำหนดกฎต่างๆ ตามใจชอบ อย่างน้อยประชาชนก็รู้ว่าต้องทำอะไรจึงจะไม่โดนลงโทษ

ต่อมาอีกหน่อยก็เกิดระบบคอมมิวนิสต์ (Communism) จะอธิบายยังไงดีล่ะ เอาเป็นว่าคือระบบที่เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติของกลุ่มคนที่ไม่เอาระบบกษัตริย์ ภายใต้แนวคิดที่ว่าทุกคนเท่าเทียมกัน แต่เอาเข้าจริงอำนาจก็ตกอยู่ในกลุ่มผู้นำการปฏิวัตินั่นแหละ ประชาชนลำบากเท่าเดิมหรือหนักว่าเดิม

หลักจากนั้นก็เกิดระบอบสาธารณรัฐ (Republic) ซึ่งประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้นมาอีกหน่อย ทำให้การตรวจสอบการคอรัปชั่นทำได้บ้าง แต่ไปยุ่งกับทหารไม่ได้ (เดี๋ยวงานเข้า)

สุดท้ายปลายทางปราถนาของมวลมนุษยชาติ ระบบประชาธิปไตย (Democracy) ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงเต็มที่(หรือเปล่า?) ประชาชนมีอำนาจสูงสุด และใช้อำนาจนั้นในการบริหารประเทศผ่านการเลือกตั้ง ผู้นำประเทศจะมีอำนาจได้ ก็ต่อเมื่อประชาชนเลือกเข้ามา เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต้องคิดดูให้ดีก่อนว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร ไม่ใช่ทำอะไรตามใจชอบ (หรือทำตามใบสั่ง)

กลับมาที่เกมส์ต่อ ปกติแล้วตามคู่มือการเล่นจะแนะนำว่าหลังจากเริ่มเกมส์แล้ว ควรเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสาธารณรัฐให้เร็วที่สุด โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้พัฒนาประเทศได้ง่ายและเร็วที่สุด จากนั้นก็พัฒนาต่อไปที่ ระบบประชาธิปไตยซึ่งมีการคอรัปชั่นต่ำสุด เก็บภาษีได้มากสุด แต่บริหารยากเอาเรื่องเพราะทำอะไรนิดหน่อยไม่ถูกใจ ประชาชนก็ก่อจราจล (Disorder) ไม่มีสิ่งมหัศจรรย์ก็เป็นเรื่อง เก็บภาษีมากไปก็เป็นเรื่อง มีขยะมีมลพิษมากก็เป็นเรื่อง ไม่มีสถานบันเทิงก็เป็นเรื่อง ส่งทหารออกไปรบไกลบ้านก็เป็นเรื่อง เรียกได้ว่าต้องเอาใจกันทุกอย่าง ไม่งั้นประชาชนที่เคารพก็ไม่ทำงานผลผลิตทุกอย่างหยุดหมด แต่ผมก็ชอบระบบประชาธิปไตยนะเพราะรู้สึกว่าผมไม่ได้รังแก ไม่ได้เอาเปรียบ ไม่ได้กดขี่ประชาชนของผม ช่วงไหนเศรษฐกิจดีผมก็ปรับเพิ่มค่าของฟุ่มเฟือยให้ ประชาชนก็มีความสุข ผมก็มีความสุข

สงสัยจะเขียนไม่จบซะแล้ว เรื่องมันยาวแต่ขี้เกียจแบ่งไปเขียนวันอื่น สรุปๆหน่อยแล้วกันนะ

ผมสังเกตุว่าช่วงแรกๆ ตอนที่แต่ละประเทศยังยากจน แต่ละประเทศก็ตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาประเทศกันตัวเป็นเกลียว ช่วงแรกๆ จึงไม่จำเป็นต้องพัฒนาด้านการทหาร ผมจึงมักปล่อยให้เมืองว่างๆ โดยไม่มีทหารเฝ้า แล้วพยายามขยายประเทศออกไปให้กว้างขวาง และครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ ให้มากที่สุด จะได้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเร็วที่สุด ขืนมัวล้าหลังอยู่ก็จะโดนประเทศที่แข็งแกร่งกว่ารังแกเอาได้

พอผ่านไปได้สักครึ่งเกมส์ เริ่มมีทหารมากขึ้น ก็รู้สึกบ้าพลังอยากทำสงครามขึ้นมาทันที แต่ส่วนใหญ่ผมจะไม่รุกรานใครก่อน มักจะโดนบุกก่อนทุกที พอสงครามเริ่มความสูญเสียก็เริ่มด้วย เงิน ทหาร และเวลาทั้งหมดถูกใช้ไปกับการทำสงคราม ซึ่งต่างฝ่ายต่างสูญเสีย ไม่มีอะไรดีเลย แต่ว่าเมื่อสงครามมาถึงตัวก็ต้องสู้ไม่สู้ก็ถูกทำลาย ถ้าเล่นกับคนด้วยกัน ผมคงจะด่ามันไปแล้ว ว่าเป็นไอ้พวกบ้าสงคราม แต่เล่นกับคอมพิวเตอร์ มันไม่รับรู้ มันจะเอาชนะอย่างเดียว ด่าไปมันก็ไม่รู้เรื่องด้วย ทางออกก็คือต้องเอาชนะมันให้ได้

ที่เล่ามาซะยาวก็เพราะอยากตั้งคำถามว่า สงครามมีอะไรดี ความแตกแยกมีอะไรดี จากที่ประเทศของผมรวยที่สุดในโลก ประชาชนมีความสุขมากที่สุดในโลก พอมีสงครามเงินแทบหมดคลัง ประชาชนก่อจลาจลไปทั่วประเทศ พอมีสงครามเข้าแล้วก็ต้องชนะ จะสูญเสียเท่าไหร่ก็ต้องยอม

หลังเล่นจนปราบประเทศคู่อริได้ทั้งหมดแล้ว ผมจึงเข้าใจว่า

*** วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำให้โลกสงบสุขคือ รวมทุกประเทศเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองเดียวกันด้วยสงคราม แต่วิธีการที่ดีที่สุดในการทำให้โลกสงบสุขคือ การที่ทุกประเทศรวมเข้าด้วยกันโดยไม่ต้องมีสงคราม ***

นี่อาจเป็นแก่นสารที่แท้จริงที่เกมส์ FreeCIV มีให้กับผู้เล่น แม้จะใช้เวลา 1 วันกับ 2 คืนหมดไปกับการเล่นเกมส์ ผมว่ามันก็คุ้มนะ


Create Date : 21 กันยายน 2553
Last Update : 21 กันยายน 2553 16:43:36 น. 1 comments
Counter : 841 Pageviews.  

 


โดย: แม่ออมบุญ วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:22:57:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

mrpipo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ประชาธิปไตยจงเจริญ
[Add mrpipo's blog to your web]