ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา เยอรมันนี
ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา เป็นหนึ่งในสามปราสาทที่ขึ้นชื่อของแคว้นบาวาเรีย ที่อยู่ทางตอนใต้ของเยอรมันนี วันนี้เราแวะมาเที่ยวกันสองปราสาท ปราสาทนอยชวานซไตน์ และ ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา ที่ตั้งอยู่ไกล้ๆกัน
(ซ้าย) บริเวณ สำนักงานขายตั๋วเพื่อเข้าชมปราสาท (ขวา) ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา มองจากบริเวณสำนักงานขายตั๋ว ตั้งตระหง่านบนเนินเขา
ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา (Schloss Hohenschwangau) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านชวานเกาใกล้เมืองฟึสเส็นทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรียในประเทศเยอรมนี เป็นปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียประทับเมื่อยังทรงพระเยาว์
(ซ้าย / ขวา ) ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา มุมสวยๆ
ตัวปราสาทสร้างบนซากปราสาทชวานสไตน์เดิมซึ่งกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปราสาทเดิมสร้างโดยครอบครัวของอัศวิน หลังจากการยุบเลิกระบบอัศวินในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ปราสาทก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง และตัวปราสาทก็เสื่อมโทรมลงจนเหลือแต่ทรากเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19
(ซ้าย / ขวา ) เก็บภาพสวยๆ แถวด้านหน้าปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา
ในปี ค.ศ. 1829 มงกุฏราชกุมารแม็กซิมิลเลียนแห่งบาวาเรียผู้ต่อมาเป็นพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 แห่งบาวาเรียทรงพบว่าปราสาทนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่มีสิ่งแวดล้อมเป็นที่ต้องตา ทรงถูกพระทัยจึงได้ซึ้อปราสาทเมื่อปี ค.ศ. 1832 ปีหนึ่งต่อมาการก่อสร้างปราสาทใหม่ก็เริ่มขึ้นและสร้างต่อมาจนถึง ค.ศ. 1837 โดยมีสถาปนิกโดเมนนิโค ควากลิโอเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างปราสาทให้เป็นแบบฟื้นฟูกอธิค
(ซ้าย ) น้ำพุบนยอดปราสาท (ขวา) ลายปูนปั้นสวยๆสัญลักษณ์ของเจ้าของปราสาทเดิม
ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกาสร้างเป็นพระราชวังฤดูร้อนและล่าสัตว์ของพระเจ้าแม็กซิมิลเลียน, เจ้าหญิงมารีแห่งปรัสเซียพระชายา และพระโอรสสององค์ -- เจ้าชายลุดวิกและ เจ้าชายอ็อตโต พระเจ้าแม็กซิมิลเลียนและพระชายาประทับอยู่ในตัวปราสาทใหญ่ และพระโอรสในส่วนที่ต่อเติม
(ซ้าย) ลานน้ำพุบนชั้นลอยของปราสาท ด้านหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ (ขวา) ตึกด้านล่าง ร้านขายของที่ระลึกถ่ายจากยอดปราสาทลงมา
เมื่อพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 สิ้นพระชนม์เมื่อปี ค.ศ. 1864 พระราชโอรสเจ้าชายลุดวิกก็ขึ้นครองต่อเป็นพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ทรงย้ายจากส่วนที่ต่อเติมไปอยู่ในห้องบรรทมของพระบิดาและมารดา ในเมื่อลุดวิกไม่ทรงมีครอบครัว เจ้าหญิงมารีแห่งปรัสเซียพระมารดาจึงทรงประทับอยู่ที่ปราสาทได้ พระเจ้าลุดวิกทรงโปรดการพำนักอยู่ที่โฮเฮ็นชวานเกาโดยเฉพาะเมื่อทรงเริ่มสร้างปราสาทนอยชวานชไตน์บนเนินเหนือโฮเฮ็นชวานเกาไม่ไกลเท่าใดนัก
(ซ้าย ) ทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้เล็กสีเหลืองบานอยู่เต็มท้องทุ่ง (ขวา) มองเห็นตัวปราสาทนอยชวานชไตน์อยู่ไกลๆ
เมื่อพระเจ้าลุดวิกที่ 2 สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1886 พระราชินีมารีแห่งปรัสเซียทรงเป็นผู้เดียวที่อาศัยอยู่ในโฮเฮ็นชวานเกาจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1889 ต่อมาพระปิตุลาของลุดวิกเจ้าชายลุทโพลด์แห่งบาวาเรียก็มาประทับอยู่บนชั้นสาม และทรงเป็นผู้รับผิดชอบในการติดตั้งไฟฟ้าและลิฟต์ในปราสาทในปี ค.ศ. 1905 เมื่อเจ้าชายลุทโพลด์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1912 วังก็กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปีต่อมา ( ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
Create Date : 17 พฤษภาคม 2552 | | |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2552 10:20:41 น. |
Counter : 1705 Pageviews. |
| |
|
|
|