Group Blog
 
All blogs
 
ตอนที่ 24

24.


“พาส...พี่รักพาส” เจอรี่บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง สื่อความรู้สึกทุกอย่างให้หญิงสาวรู้ด้วยสายตาคมที่จ้องสบมา

“พาสก็รักเกอเกอฮะ เกอเกอเป็นพี่ชายที่พาสรักมาก” พาสนารีบเฉไปเป็นอีกอย่าง พยายามกลบเกลือนอาการเขินของตัวเอง

“พาส พี่รักพาส แต่พี่ไม่ได้รักพาสแบบน้องสาว หรือแบบเพื่อน พี่รักพาสแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรู้สึกรักผู้หญิงคนหนึ่งได้ พี่ไม่รู้ว่าความรักนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ พอรู้ตัวอีกที พี่ก็รักน้องสาวคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว พาสอาจคิดว่ามันเร็วไป แต่สำหรับพี่ ไม่มีคำว่าเร็วไปสำหรับความรัก สำหรับความรู้สึกดีๆที่เราจะมีให้ใครคนหนึ่ง และยิ่งถ้าใครคนหนึ่งคนนั้นคือพาส พี่ยิ่งมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง” ชายหนุ่มพูดทุกคำออกมาจากใจ

“เกอเกอ” พาสนาเรียกเค้าเหมือนละเมอ ตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมด สับสนจนไม่อยากจะคิดอะไรให้ปวดหัวอีกแล้ว ในหัวเธอมีแต่คำว่า …พี่รักพาส... ดังก้องอยู่เต็มไปหมด

“พี่ไม่ได้คาดหวังให้พาสต้องให้คำตอบพี่เดี๋ยวนี้ พี่แค่อยากบอกให้พาสรับรู้ และรับพี่ไว้พิจารณาบ้าง ให้พาสมองพี่อย่างที่มองผู้ชายคนหนึ่งบ้าง ได้มั้ย” เจอรี่ถามเสียงอ่อน พลางจ้องเข้าไปในตาของหญิงสาวอย่างเว้าวอน

“พาสไม่รู้” หญิงสาวตอบอย่างจนปัญญา ซึ่งเจอรี่ก็ไม่ได้คาดคั้นอะไร เค้ารู้ว่าตอนนี้ควรปล่อยให้เธอถามใจตัวเองเงียบๆ
.
.
.
ตลอดเวลาที่นั่งรอคอยคำตอบจากเธอ มือเรียวของเจอรี่ก็กุมมือบางของพาสนาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้จะไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ แต่เค้าก็พยายามส่งผ่านความรู้สึกทั้งมวลของเค้าผ่านไปทางมือที่เกาะกุมกันอยู่นั้น หวังว่าเธอจะรับรู้และยอมรับความรู้สึกจากเค้าเข้าไปในใจของเธอบ้าง

“เกอเกอ ฮะ” ในที่สุดพาสนาก็เอ่ยปากพูด หญิงสาวหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเค้าอย่างคนที่ตัดสินใจได้

“พาสพร้อมจะตอบพี่แล้วเหรอ” เจอรี่ถามเสียงสั่นนิดๆ อย่างควบคุมความตื่นเต้นของตัวเองไม่อยู่ มันเหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในกำมือของหญิงสาวตรงหน้า ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร

“พาสเข้าใจ แล้วก็ขอบคุณมากกับความรู้สึกดีๆที่เกอเกอมีให้นะฮะ” พอพูดมาถึงตรงนี้ เธอก็เบือนหน้าหลบไม่ยอมสบตาเค้า ทำเอาใจเจอรี่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างประหลาด

“แต่พาสคงรับความปรารถนาดีของเกอเกอไม่ได้ เราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมเถอะนะ” พูดจบพาสนาก็ทำท่าจะลุกผละออกไป แต่เจอรี่ไม่ยอมให้เธอทำอย่างนั้น เค้ายึดมือเธอเอาไว้แน่น พลางใช้กำลังบังคับให้เธอกลับลงมานั่งเหมือนเดิม ก่อนจะใช้มือหนึ่งเชยคางของเธอบังคับให้หันมาเผชิญหน้า

“คุยกันให้รู้เรื่องก่อนพาส ห้ามหนี” เจอรี่ว่าเสียงเข้ม ทำใจดีสู้เสือ แม้ว่าตอนนี้ใจจะหดเหลือนิ้วเดียวแล้วก็ตาม

“ไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้วนี่ฮะ พาสขอโทษที่รับความรู้สึกของเกอเกอไว้ไม่ได้ แต่เราเป็นพี่น้องกันดีกว่านะ” พาสนาพยายามกล่อม แต่ก็ไม่กล้าสบตากับเค้าตรงๆเหมือนเดิม

“พี่ขอเหตุผลด้วย ไม่งั้นพี่ไม่ยอมรับคำปฏิเสธของพาสง่ายๆแน่”

“พาส...คือ...พาส” หญิงสาวอ้ำๆอึ้งๆ

“ว่าไงล่ะพาส” เจอรี่คาดคั้น ทั้งคำพูดและสายตาจนพาสนาไม่สามารถหลบเลี่ยงได้

“พาสไม่ใช่ผู้หญิง” หญิงสาวยอมบอกมาหนึ่งอย่าง

“ใครว่าพาสไม่ใช่ผู้หญิง ไหนดูซิ” เจอรี่พูดพลางจับต้นแขนหญิงสาวทั้งสองข้าง ดันตัวเธอออกห่าง ใช้สายตาคมกริบสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะยิ้มชนิดที่ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงไปถึงใบหู

“ไม่ใช่อย่างนั้น พาสหมายความว่า พาสไม่ได้ชอบผู้ชาย” เธอพยายามอธิบาย

“อ๋อ แสดงว่าพี่ผิดที่เกิดมาเป็นผู้ชายว่างั้น?” เจอรี่แกล้งประชด

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะฮะเกอเกอ” พาสนาแย้งเสียงอ่อน เค้าไม่ได้ผิดอะไรซักหน่อย คนผิดปกติน่ะเธอเองต่างหาก

“งั้นเรามาสมมุติกันนะพาส สมมุติว่าพี่ไม่ใช่ผู้ชาย”

“เฮ้ย!” ฟังมาถึงตรงนี้พาสนาก็ตะโกนขึ้นอย่างตกใจ

“ก็บอกแล้วว่าสมมุติ เอาล่ะ สมมุติว่าพี่ไม่ใช่ผู้ชาย พาสรู้สึกยังไงกับพี่ ชอบพี่บ้างมั้ย” เจอรี่ตั้งหน้ารุกเต็มที่

“พาสชอบเกอเกอนะฮะ ไม่เคยไม่ชอบเกอเกอเลย ถึงเกอเกอจะเป็นผู้ชายก็เถอะ แต่ความรู้สึกแบบนั้นของเกอเกอพาสไม่กล้ารับไว้หรอกฮะ”

“ทำไมล่ะพาส ในเมื่อพาสไม่ได้รังเกียจพี่ แถมชอบพี่อยู่บ้าง นี่พี่ไม่ได้ขอแต่งงานนะ พี่ขอแค่ให้พาสรับพี่ไว้พิจารณาในฐานะคนรักบ้างเท่านั้นเอง”

“พาสไม่รู้ พาสไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้ชาย คนรักที่ผ่านมาของพาสทุกคนเป็นผู้หญิง แล้วพาสก็ไม่ใช่คนที่มีประสบการณ์ดีๆเกี่ยวกับความรักนัก จริงๆแรกๆพาสก็ไม่คิดอะไรหรอก แต่พอหลายๆครั้งมันเริ่มจำ มันเริ่มเจ็บ แล้วการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร พาสคิดว่าพาสพอใจที่ตรงจุดนี้มากกว่าที่จะเจ็บอีกครั้ง” พาสนาเริ่มเปิดเผยความรู้สึกตัวเองให้ชายหนุ่มตรงหน้ารับรู้ มาถึงตรงนี้แล้วเธอคิดว่าอธิบายไปตรงๆคงจะดีกว่า

“พาส...ฟังพี่นะ ความรักมันไม่ได้เป็นสีชมพูตลอดเวลาหรอก แทบจะไม่มีใครที่ไม่เคยเจ็บกับความรัก คนที่ไม่เจ็บก็คือคนที่ไม่เคยรัก พี่ก็เคยมีความรักมาก่อน แล้วก็เจ็บกับความรักครั้งนั้นเจียนตายเลยเหมือนกัน พี่เคยเป็นแบบพาสนะ พี่เข็ด พี่กลัวความรัก จนไม่กล้าเปิดรับใครเข้ามาอีก แต่พอมาเจอพาสความกลัวมันก็หมดไป ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงในอนาคตพี่ก็พร้อมจะลองเสี่ยง แล้วพาสล่ะ พร้อมจะลองเสี่ยงกับพี่มั้ย”

“แต่พาสไม่อยากให้เราโกรธหรือเกลียดกัน เกอเกอมีความหมายกับพาสมากเกินกว่าที่พาสจะยอมให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น พาสคงทนไม่ได้ถ้าเราจะมองหน้ากันไม่ติด” หญิงสาวพูดพลางช้อนสายตามองเค้าอย่างจะบอกว่าเธอหมายความตามที่พูดทุกคำจริงๆ

“พี่ก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่นอน พี่สัญญาไม่ว่าระหว่างเราจะจบลงอย่างไร พี่ก็จะไม่มีวันเกลียดพาส พี่แค่ขอให้พาสลองเปิดใจให้โอกาสพี่บ้าง แล้วถ้าเราไปกันไม่ได้จริงๆ พี่ยอมลดความสัมพันธ์ของเรามาเป็นพี่น้องเหมือนเดิม เราจะไม่เกลียดกันแน่นอน พาสเชื่อใจพี่นะ” เจอรี่สัญญา

“พาส พาสไม่รู้...พาสไม่รู้จริงๆว่าความรู้สึกที่มีต่อเกอเกอมันเป็นอะไร ไม่รู้ว่ามันใช่อย่างที่เกอเกอรู้สึก หรือถ้าไม่ใช่แล้วมันจะพัฒนาไปเป็นความรู้สึกแบบนั้นได้มั้ย โอ้ย! พูดแล้วงงตัวเอง” ประโยคสุดท้ายพาสนาตะโกนอย่างหงุดหงิด พลางเอามือมาเขกหัวตัวเองเผื่อจะช่วยให้หายสับสนขึ้นมาบ้าง

“ฮ่าๆๆๆ” เจอรี่หัวเราะกับอาการของหญิงสาว ก่อนจะเอื้อมมือมาฉุดมือของเธอไว้ไม่ให้เขกหัวตัวเองต่อ ทำให้ตอนนี้ใบหน้าทั้งสองคนอยู่ห่างกันแค่คืบเดียว

เมื่อสายตาสองคู่ประสานกัน เวลาก็เหมือนหยุดหมุนไปชั่วขณะ ก่อนที่เจอรี่จะเป็นฝ่ายรู้สึกตัวก่อน เค้าชะงักรู้ตัวว่าเมื่อกี๊ลืมตัวไปหน่อย จึงรีบปล่อยมือเธอแล้วกลับมานั่งที่เดิม เสเอาจับหูเขินๆ ทั้งๆที่หน้าแดงก่ำ ฝ่ายพาสนาก็ไม่ยอมแพ้ ใบหน้านวลซับสีเลือดจนดูเปล่งปลั่ง ชวนให้คนมองตาพร่าไปกับภาพสวยงามตรงหน้า

“พาส”

“เกอเกอ” ทั้งคู่เอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาทั้งคู่

“พาสพูดก่อนเถอะ” เจอรี่เปิดโอกาสให้หญิงสาว

“ไม่เอา เกอเกอพูดก่อน” พาสนาปฏิเสธ

“พี่แค่อยากบอกพาสว่า พาสอย่าเพิ่งคิด อย่าเพิ่งกังวลไปก่อนเลย อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด พาสแค่ทำตามความรู้สึกของพาสในตอนนี้ก็พอ...พาสชอบพี่หรือเปล่า” เจอรี่เริ่มถามทีละคำถาม

“ชอบ”

“ชอบมากมั้ย” เค้าถามต่อ พาสนาขึงตาดุๆประมาณว่า ทำไมจะต้องถาม แต่ในที่สุดก็ยอมตอบ

“มาก” หญิงสาวพูดเสียงแทบไปพ้นลำคอ แต่มันก็ดังก้องอยู่ในใจของเจอรี่ จนเค้าต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจ

“แค่นี้ก็พอแล้ว พาสลองให้โอกาสพี่ได้มั้ย พร้อมๆกับที่พาสให้โอกาสตัวเองในการหาคำตอบให้กับหัวใจของพาสด้วย”

“พาส...พาส” หญิงสาวพูดอะไรไม่ถูก

“นะครับ คนดี พี่สัญญาว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะยังเป็นพี่ชายคนนี้ของพาสเหมือนเดิม เราจะไม่เกลียดกัน แม้ว่าเราจะเป็นอย่างที่พี่อยากให้เป็นไม่ได้ก็ตาม นะครับ” เจอรี่พูดพลางจ้องเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว จนเธอต้องเสหลบสายตาคมกล้าของเค้า ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไรไปมากกว่านี้

“เย้ๆๆๆ” เจอรี่ร้องตะโกนอย่างดีใจ ก่อนจะโผเข้ากอดร่างนิ่มตรงหน้าด้วยความลืมตัว ฝ่ายพาสนาก็ทำอะไรไม่ถูกกับการจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัวนั้น ก่อนจะรู้สึกตัวขึ้นมาทั้งคู่

“เอ่อ พี่ขอโทษ ลืมตัวไปหน่อย” เจอรี่อ้อมแอ้มบอก หน้ายังแดงไม่หาย ซึ่งพาสนาก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร เพราะในใจมันปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อกี๊เธอไม่ได้รู้สึกดีไปกับการกระทำของเค้า อ้อมกอดของเค้าไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเป็นการล่วงล้ำก้ำเกิน แต่กลับให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและเป็นสุข เหมือนกับที่ตรงนั้นเป็นที่ของเธออย่างแท้จริง

“เราเข้าบ้านกันเถอะฮะ หายออกมานานแล้ว” พาสนาพยายามเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนความเขินที่วิ่งขึ้นมาเป็นริ้วๆบนใบหน้า แก้มนวลตอนนี้แดงปลั่งเพิ่มความหน้ามองให้กับหญิงสาวเข้าไปอีก

“เดี๋ยวก่อนพาส” เจอรี่ยังรั้งหญิงสาวไว้

“เกอเกอมีอะไรฮะ” หญิงสาวถามไม่เต็มปากเต็มคำนักเนื่องจากความเขินยังมีอยู่มาก

“พี่ขออะไรพาสหน่อยได้มั้ย” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงหวาน

“อะไรฮะ” พาสนาถามสีหน้าระแวดระวังเต็มที่ เพราะไม่รู้ชายหนุ่มจะมาไม้ไหน แค่นี้เธอก็เขินจะแย่อยู่แล้ว

“เวลาพูดกับพี่พาสอย่าเรียกพี่ว่าเกอเกอได้มั้ย ตอนนี้พี่ไม่อยากเป็นพี่ชายพาสหรอกนะ อยากเป็นอย่างอื่นมากกว่า” แววตาที่เขาส่งมาพร้อมคำพูดทำเอาหญิงสาวแทบจะนั่งไม่ติด อยากลุกไปควักลูกตาคมๆคู่นั้นออกมานัก ...มีอย่างที่ไหนมองอยู่ได้ ไม่รู้บ้างหรือไงนะว่าทำชาวบ้านเค้าใจสั่นจะแย่อยู่แล้ว...

“ไม่เอาอ่ะฮะ พาสชินแล้วนี่นา จะเรียกอ่ะ เกอเกอ เกอเกอ เกอเกอ จะทำไม” พาสนาแกล้งลอยหน้าลอยตาตอบ ดูน่าหมั่นไส้จนเจอรี่อดไม่ไหวต้องเอื้อมมือมาบีบจมูกรั้นๆนั้นซักทีอย่างหมั่นเขี้ยว

“เกอเกออ่ะ” หญิงสาวทำหน้างอ พลางย่นจมูกใส่อย่างแสนงอน

“อ้ะ ตามใจเรียกเกอเกอก็ได้ แต่ห้ามพูดฮะกับพี่อีกนะ” เจอรี่ยื่นข้อเสนอใหม่ จริงๆเค้าก็ชอบกระแสเสียงเวลาที่เธอเรียกเค้าว่าเกอเกออยู่เหมือนกัน มันฟังหวานๆอ้อนๆยังไงไม่รู้

“อ้าว ไม่ให้พูดฮะแล้วจะให้พูดอะไรล่ะฮะ” พาสนาย้อนถามทำหน้างง

“ก็พูดคะพูดขา หรือจะจ๊ะจ๋าก็ได้พี่ไม่ห้าม แต่ห้ามพูดคำว่าฮะ เข้าใจมั้ยคะคนสวย” ประโยคท้ายเขาทอดเสียงล้อๆ ทำเอาพาสนาหน้าแดงเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้

“งั้นพูดครับและกัน นะครับเกอเกอ” พาสนาแกล้งยั่ว รู้สึกสนุกดีที่ได้แหย่เขา

“เดี๋ยวเถอะ ครับ นี่ยิ่งห้ามเด็ดขาดเลย ไม่รู้ล่ะถ้าพาสไม่ยอมทำพี่จะปรับ” เจอรี่ขู่พลางทำตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้หน้าเธอมากขึ้น ซึ่งแค่มองสายตาหญิงสาวก็รู้ว่าไอ้ค่าปรับของเค้าน่ะ มันต้องเข้าเนื้อเธอแหงๆ

“เกอเกอจะทำอะไร อย่านะ” พาสนารีบเอามือยันหน้าอกเค้าไว้

“เก็บค่าปรับไง ก็พาสไม่ยอมเรียกพี่อย่างที่พี่บอกนี่นา” ตอนนี้จมูกเค้าห่างจากแก้มนวลไม่ถึงคืบ

“อย่านะเกอเกอ ไม่เอาไม่เล่นนะ” พาสนาห้ามเสียงหลง หน้าแดงเป็นลูกตำลึง เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้เธอประหม่าและเขินอายได้เท่ากับผู้ชายเจ้าเล่ห์ตรงหน้ามาก่อน

“ใครบอกว่าเล่น พี่พูดจริงทำจริงอยู่แล้ว” เจอรี่พูดหน้าตาย เค้าไม่ได้อยากจะหากำไรกับเธอหรอก แค่อยากแกล้งเธอเล่นนิดหน่อยเท่านั้น เค้าไม่ใช่พวกผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาสกับผู้หญิงอยู่แล้ว และยิ่งถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นพาสนา เค้ายิ่งจะต้องถนอมเธอให้มากที่สุดทั้งจากผู้ชายอื่นและจากตัวเค้าเอง

“เรียกก็ได้ พาสยอมแล้ว เกอเกอถอยไปก่อนสิคะ” ในที่สุดพาสนาก็ต้องยอมแพ้

“ก็แค่เนี้ย เฮ้อ…ชื่นใจ” ไม่พูดเปล่าเจอรี่ยื่นหน้ามาจนจมูกสัมผัสกับแก้มนวลเบาๆ ก่อนจะผละออกทำท่าสูดหายใจลึกอย่างชื่นใจ พร้อมรอยยิ้มหวานที่ทำเอาคนตรงหน้าแทบจะละลาย ก่อนจะยอมถอยออกห่างออกไปอีกหน่อย แต่ก็ยังไม่ปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระ

“เกอเกออ่ะ แกล้งพาส” หญิงสาวโอดครวญ ยกมือขึ้นกุมแก้มใสที่โดนเค้าสัมผัสเมื่อครู่ ถึงจะเขินแต่ก็มีความสุขไม่น้อยเหมือนกัน

“เกอเกอปล่อยพาสสิฮะ จะได้เข้าบ้านกัน” หญิงสาวโอดครวญ

“หืม???” เจอรี่เลิกคิ้วส่งเสียงเป็นเชิงเตือนให้หญิงสาวเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่

“เกอเกอปล่อยพาสนะคะ เข้าบ้านกันเถอะ หายมานานแล้วเดี๋ยวคนอื่นสงสัย” พาสนารีบแก้ไขคำพูดให้ถูกต้อง ไม่อยากให้เค้าหาข้ออ้างมารังแกเธออีก เห็นเงียบๆหงิมๆอย่างนี้ ใครจะรู้ว่าจริงๆเจ้าเล่ห์ใช่เล่นเหมือนกัน

“อืม งั้นเข้าข้างในกันก็ได้ อากาศเริ่มเย็นแล้วด้วย เดี๋ยวพาสเป็นหวัด” เจอรี่พยักหน้าเห็นด้วย พลางฉุดหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะพาเดินเข้าไปในบ้าน

“เกอเกอปล่อยมือพาสก่อนสิ เดี๋ยวใครมาเห็น” พาสนาบอก พลางพยายามบิดข้อมือตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ก็ไม่สำเร็จ


“ใครมาเห็นแล้วยังไง ก็พี่อยากจับมือพาสนี่นา คนเป็นแฟนกันจับมือกันนิดๆหน่อยๆไม่เห็นเสียหาย อีกอย่างก็มีแต่คนกันเองทั้งนั้น” เจอรี่หันมายิ้มหวานบาดตาให้กับร่างบางข้างตัว ไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ

“แน๊...ขี้ตู่ ใครแฟนใคร พูดให้ดีๆนะ คนเค้ายังไม่ได้ตกลงอะไรด้วยซักหน่อย” พาสนาหน้าแดงไปถึงใบหู

“ก็พาสยอมรับพี่ไว้พิจารณาแล้ว ก็ถือว่ายอมรับความรักของพี่แล้วสิ” เจอรี่บอกยิ้มๆ อดรู้สึกเอ็นดูอาการเขินอายของเธอไม่ได้ มันช่างดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีจริตเสริมแต่งอย่างผู้หญิงสมัยนี้หลายๆคน

“ไม่คุยกับเกอเกอแล้ว” พูดจบพาสนาก็สะบัดมือเดินดุ่มๆหนีเข้าบ้านไป เจอรี่เห็นดังนั้นก็ไม่ได้ตามไปตอแยอีก ชายหนุ่มเอามือล้วงกระเป๋าผิวปากอย่างอารมณ์ดีตามเข้าไปช้าๆ แต่ไม่ว่ายังไงเค้าก็ไม่ยอมละสายตาจากร่างเล็กที่เดินนำหน้าเลยแม้แต่เสี้ยววินาที
.
.
.
เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้านพวกเค้าก็พบกับสายตาแปลกๆจากทุกคนที่เหลือ ไม่รู้ทำไมทั้งเจอรี่และพาสนาถึงต่างก็รู้สึกว่า แวนเนสที่ดูจะวุ่นวายผิดปกติกับไอ้เจ้าซีดีตั้งใหญ่นั่น ไจ่ไจ๋กับเสี้ยวเทียนที่รีบหันกลับไปสนใจเกมส์ตรงหน้า อย่างกับว่ามันสนุกเสียเต็มประดาทั้งๆที่เกมส์นี้เล่นมาหลายสิบรอบแล้ว หรือแม้แต่คุณนายเลี่ยวที่ปิดบังรอยยิ้มบนในหน้าไว้ไม่มิดยามที่ยกขนมเค้กมาตั้งให้ที่โต๊ะนั้นเพื่อรอเวลาเที่ยงคืนที่จะได้เคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่พร้อมๆกับเข้าสู่วันคล้ายวันเกิดของลูกชายคนเดียวของเธอ ทั้งหมดดูจะต้องมีเรื่องอะไรซักอย่างที่พวกเค้าไม่ควรไว้วางใจเป็นแน่ เจอรี่คิดอย่างสงสัย พลางเอื้อมมือไปเกาะกุมมือบางของพาสนาไว้อย่างเดิม หลังจากที่เธอสะบัดมือเดินหนีเค้ามาเมื่อกี๊ โดยไม่นำพากับสายตาเย้าแหย่ที่ส่งมาจากไอ้เพื่อนตัวดีทั้ง 3 มิวายที่พาสนาจะบิดมืออย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่ยอมหลุด เธอจึงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนเฉยๆดูพวกเพื่อนตัวแสบส่งเสียงแซวเล่นกันเป็นที่สนุกสนาน

“เฮ้ย...ไปทำอะไรกันมาอ่ะ หายไปตั้งนาน” เริ่มกันที่ไจ่ไจ๋ พร้อมสายตารู้ทัน...แล้วจะกล้าตอบมั้ยล่ะเนี่ยว่าเมื่อกี๊ทำอะไรกันมั่งเนี่ย...

“ข้างนอกร้อนมากเหรอ ทำไมนายกับพาสถึงดูหน้าแดงๆวะอาเจิ้น” แวนเนสช่วยชงมาอีกหนึ่งดอก ทำเอาเจอรี่กับพาสนาตอบไม่ถูก ...แหม ก็นี่มันวันสิ้นปีนี่นา อากาศมันจะร้อนได้ยังไงล่ะ ต่อให้เปิดฮีทเตอร์ก็เถอะ…

“พาสๆ ตาแกมีปัญหาเหรอ” คราวนี้ถึงตาเสี้ยวเทียน มือระดับนี้มีเหรอที่จะแซวพื้นๆ แต่มันต้องมีวีรกรรมทำเพื่อเธอกันบ้าง

“ป่าว ทำไมอ่ะ” พาสนาก็พาซื่อถามกลับอย่างไม่เข้าใจ

“อ๋อ ไม่มีอะไร ก็ชั้นเห็นอาเจิ้นมันต้องจูงมือแกตลอด เลยนึกว่าตาแกมองไม่เห็น เหอๆๆ” เสี้ยวเทียนแซวนิ่มๆ ตาก็จับไปที่มือของทั้งสองที่ยังจับกันอยู่

“ไอ้บ้า” พาสนาเจอมุขนี้เข้าถึงกับไปไม่เป็น รีบดึงมือออกจากการเกาะกุมของเจอรี่ทันที

“ฮ่าๆๆ อ้าวนั่น หน้าแดงไปถึงหูแล้ว นายไปทำอะไรพาสมันวะอาเจิ้น” คราวนี้เสี้ยวเทียนหันมาเล่นงานเจอรี่บ้าง ...โอ้ย แกล้งคนขี้อายนี่มันสนุกจริงจริ๊งงงง... แต่ก่อนที่ใครจะได้พูดอะไรต่อไป เสียงนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนไว้ที่ผนังบ้านก็ดังขึ้นซะก่อน เป็นสัญญาณว่าได้เริ่มเข้าสู่ปีใหม่แล้ว ทันใดนั้นไฟในบ้านก็ดับลง พร้อมๆกับแสงเทียนบนโต๊ะอาหารก็ได้ถูกจุดขึ้น ทำให้เห็นเค้กก้อนใหญ่ที่เลี่ยวมาม่าถืออยู่ ก่อนที่เธอจะส่งต่อให้กับพาสนาที่เดินไปหา หญิงสาวค่อยๆอุ้มถาดเค้กอย่างระมัดระวังตรงมาที่หนุ่มๆยืนอยู่ ทุกคนพร้อมใจกันร้องเพลงHappy Birthday ให้กับเจอรี่ ชายหนุ่มที่เกิดพร้อมกับวันแรกของปีใหม่ เพลงจบลงพร้อมๆกับเค้กที่พาสนาบรรจงยื่นไปด้านหน้าของเจอรี่เพื่อให้เค้าเป่าเทียน

“อย่าลืมอธิษฐานนะคะเกอเกอ” หญิงสาวไม่ลืมที่จะเตือนเค้าด้วยคำพูดที่อ่อนหวานอย่างที่เค้าอยากได้ยิน

เจอรี่ได้ยินดังนั้นก็จ้องหน้าคนพูดอยู่เนิ่นนานก่อนจะหลับตาลงอย่างช้าๆ ตั้งใจอธิษฐานอยู่ครู่หนึ่ง พลางนึกถึงหน้าใครบางคนไปด้วย ไม่นานก็เปิดเปลือกตาขึ้นมาเพื่อเป่าเทียนตรงหน้า

หลังจากนั้น ทุกคนจึงร่วมกันกินเค้กฝีมือเลี่ยวมาม่ากันอย่างเอร็ดอร่อย บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ โดยเฉพาะเจอรี่กับพาสนา ที่ตัวติดกันตลอดงาน แถมทำเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวกันสองคน พอโดนแซวก็ทำกลบเกลื่อน แต่อีกซักพักตาสองคู่ก็หันมาสบกันอีกแล้ว อาการแบบนี้ไม่ต้องบอกทุกคนก็รู้ว่า โลกของสองคนนี้คงกำลังเป็นสีชมพู จนในที่สุดก็เหนื่อยที่จะแซวไปเอง เพราะไม่ว่าจะแซวยังไงก็ดูจะเบรคความหวานของทั้งคู่ไม่อยู่ แถมพวกเค้าทุกคนก็รักเจอรี่ ทำให้รู้สึกดีใจไปด้วยที่ในที่สุดผู้ชายดีๆอย่างเค้าก็ได้พบกับพำนักของหัวใจเสียที เพราะแม้ว่าทั้งเจอรี่และพาสนาจะไม่มีใครยอมรับออกมาตรงๆ แต่ท่าทีที่แสดงออกก็เป็นการพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี ว่าตอนนี้หัวใจของพวกเค้าทั้งคู่คงกำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกันอยู่



Create Date : 13 ตุลาคม 2549
Last Update : 14 ตุลาคม 2549 0:01:31 น. 0 comments
Counter : 239 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

+mosminly+
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หลังไมค์ถึงมอสซี่เชิญกดเลยค่ะ
Friends' blogs
[Add +mosminly+'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.