ทักษาพยากรณ์
ทักษาพยากรณ์

แผนภูมิทักษา

//www.horasaadrevision.com




ทักษา คือ เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ทุกคน
1 บริวาร สามี หรือภรรยา บุตร ญาติพี่น้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนเก่า ผู้แวดล้อมใกล้ชิด ผู้อยู่ในความอุปการะ ฝ่ายสนับสนุน การร่วมสมทบ ผู้อ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งขึ้นอยู่กับ ผู้น้อย ผู้มีฐานะต่ำกว่า
2 อายุ การดำรงอยู่แห่งชีวิต โรคาพยาธิเที่เกิดขึ้น สุขภาพ ความเป็นอยู่ทั่วๆไป สวัสดิภาพ พลานามัย สังขาร อายุขัย
3 เดช ศักยภาพ อำนาจวาสนา ชื่อเสียงเกียรติยศ ความสง่างาม ตบะเดชะ อำนาจการปกครอง ความเจริญก้าวหน้าแห่งชีวิต ตำแหน่งหน้าที่การงาน
4 ศรี
............... ความดีงาม ความร่มเย็นเป็นสุข ความเป็นศิริมงคล ความสมบูรณ์พูนสุข ทรัพย์สิน โชคลาภและความสำเร็จ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
5 มูละ หลักฐานบ้านช่อง ฐานะทางการเงิน ความมั่นคงเป็นปึกแผ่น สถานที่อยู่อาศัย สถานที่ประกอบอาชีพ การเดินทาง การโยกย้าย
6 อุตสาหะ ความพยายาม ความขยันหมั่นเพียร การศึกษา กิจการงาน อาชีพ การค้าขาย
7 มนตรี ผู้ใหญ่ที่ให้ความอุปการะ ผู้ช่วยเหลือ ผู้คุ้มครอง ผู้สนับสนุน ผู้เป็นที่พึ่งพาอาศัย มิตรผู้หวังดี ความคิดอ่านที่ดี
8 กาลกิณี ความ ชั่วร้ายเลวทราม ความสูญเสีย ความบกพร่อง ความประมาท อุปสรรค ความเคราะห์ร้าย ความเดือนร้อนยุ่งยาก ความหายนะ ศัตรูผู้จ้องทำร้าย ความอัปมงคลทั้งปวง



กาลกิณีกุมลัคน์ หรือ ทับลัคน์ ส่วนมากมักจะมีกิริยาท่าทาง หรือ ความคิดแบบคนที่มักจะทำอะไรแบบขาดๆเกินๆ จนถึงขั้นบ้าๆบ๊องๆในที่สุด

พรหมชาติ ฉบับราษฎร์
๑ บริวาร บุตร ภรรสามี ญาติพี่น้อง มิตรสหาย ผู้ใต้บังคัญชา ผู้ที่ต้องเลี้ยงดู
๒ อายุ ความเป็นอยู่ในการดำรงชีพ โรคภัยที่เกิดขึ้น
๓ เดช อำนาจวาสนา การปกครอง ความเจริญก้าวหน้าในวิถีชีวิต
๔ ศรี การได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง ความร่มเย็นเป็นสุข คุณงามความดี สิ่งที่เป็นมงคล
๕ มูละ
............... บิดามารดา หลักฐานเป็นปึกแผ่นมั่นคง ฐานะความเป็นไป บ้านเรือนที่อยู่อาศัย การเดินทาง การโยกย้ายเปลี่ยนแปลง
๖ อุตสาหะ ความขยันหมั่นเพียร การงานที่ทำ การศึกษา
๗ มนตรี ผู้ให้ความอุปถัมภ์ช่วยเหลือ ผู้ให้ความคุ้มครอง บุคคลที่เป็นที่พึ่ง เจ้านาย ผู้บังคับบัญชา
๘ กาลกิณี ศัตรู อุปสรรค ความทุกข์ยาก รายจ่าย ความชั่วช้าที่คอยล้างผลาญทำลาย

พรหมชาติ ฉบับมาตรฐาน
๑ บริวาร พวกพ้องเพื่อนฝูง ข้าทาสชายหญิงทั่วไป
๒ อายุ ตนเอง ความเปลี่ยนแปลงแห่งชีวิตที่เจริญขึ้นหรือแก่ลงทุกๆวัน
๓ เดช เกียรติยศ อำนาจ อิสรภาพ
๔ ศรี ลาภยศ ทางดำเนินแห่งความสุข
๕ มูละ ทรัพย์สมบัติ บุตร สามีภรรยา ที่อยู่ที่กิน
๖ อุตสาหะ ความเพียร การกระทำกิจการงานต่างๆ
๗ มนตรี ท่านผู้ใหญ่ที่ให้การอุปการะ ผู้ปกครองทั่วไป มีบิดามารดา เป็นต้น
๘ กาลกิณี ศัตรู ผู้ให้โทษร้ายต่างๆ ฯ/
.

อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง
๑ บริวาร บุคคลในครอบครัว หรือผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา
๒ อายุ ความเป็นอยู่แห่งชีวิต
๓ เดช ความเป็นผู้มีอำนาจ
๔ ศรี ความสง่าผ่าเผย คุณงามความดี ความเป็นศิริมงคล
๕ มูละ หลักฐาน พื้นเพเดิม
๖ อุตสาหะ ความขยันหมั่นเพียร
๗ มนตรี ยศถาบรรดาศักดิ์ ที่พึ่ง ความคุ้มครอง
๘ กาลกิณี ความชั่วร้าย ศัตรู สิ่งที่ไม่เป็นศิริมงคล/

พรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
๑ บริวาร บุตร สามีภรรยา ข้าทาสชายหญิง บุคคลที่เราต้องอุปการะทุกคนที่อยู่ในครอบครัว
๒ อายุ ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนวิถีทางแห่งการดำเนินชีวิต
๓ เดช อำนาจวาสนา เกียรติยศชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่การงาน การศึกษา ความรักใคร่เกรงกลัว
๔ ศรี หลักทรัพย์ เงินทอง ของใช้สอย ศิริมงคล โชคลาภที่ได้มาเป็นสิ่งของและที่พึงจะได้มาในภายหน้า
๕ มูละ หลักทรัพย์เดิมที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาถึงตน และที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตลอดฐานะญาติพี่น้องของเรา
๖ อุตสาหะ ความขยันหมั่นเพียร การทำงาน ผลสำร็จจากงาน การมีหัวคิดริเริ่ม และทิษฐิมานะ
๗ มนตรี
................ ผู้อุปถัมภ์ค้ำชู ได้แก่ บิดามารดา อุปัชฌาย์ อาจารย์ ครู เจ้านาย และผู้ให้ความช่วยเหลือเราทุกคน
๘ กาลกิณี ความชั่วร้าย ศัตรู คู่อาฆาต คนไม่ถูกกัน ความไม่ดีงามต่างๆ อุปสรรคนาๆประการที่มาในทางเลวทราม/

อ.เชย ทักษารามัญ
๑ บริวาร เป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด และคล่องแคล่วในวิชาการ
๒ อายุ เป็นผู้มีความคิดสุขุมรอบคอบ รู้จักประมาณตน
๓ เดช เป็นผู้มีพลังจิตเข้มแข็ง ทำการเด็ดขาด ไม่ท้อถอย
๔ ศรี เป็นผู้มีอัธยาศัยดี ละมุนละม่อม รู้จักคารวะ
๕ มูละ เป็นผู้รู้มัธยัสถ์ หรือตระหนี่ ไม่เพ้อเจ้อ
๖ อุตสาหะ เป็นผู้มีความขยัน ไม่เกียจคร้าน
๗ มนตรี เป็นผู้มีความรอบคอบ และรู้จักไตร่ตรอง
๘ กาลี เป็นผู้มักทำการบุ่มบ่าม ขาดสติยั้งคิด หรือใจเร็วด่วนได้

การพยากรณ์ทักษาเดิม กลับชาติเป็นทักษาจร
บริวารเดิม เป็น ศรีจร :จะได้ลาภ บริวาร หรือมิฉะนั้นจะได้ ภรรยา,สามีหรือบุตร
บริวารเดิม เป็น กาลีจร
................................... :คน ใช้หรือคนในบังคับบัญชา ตลอดจนบุตรและคู่ครอง จะทำให้เดือดร้อน ต้องเสียทรัพย์สินเงินทอง หรือมิฉะนั้นจะเจ็บป่วย ทำความยุ่งยากให้กับเจ้าชะตา
................................
อายุเดิม เป็น ศรีจร :แม้ขณะกำลังป่วยอยู่ก็จะหาย
อายุเดิม เป็น กาลีจร :จะเกิดเจ็บป่วย ถ้าป่วยอยู่อาการจะทรุดลง
.
เดชเดิม เป็น ศรีจร :แม้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็จะได้ครองเมือง จะได้รับตำแหน่งอันมีเกียรติ
เดชเดิม เป็น กาลีจร :จะเกิดความเดือดร้อน จะได้รับความเสื่อมเสีย ถูกข่มเหงรังแก หยามเหยียด บางทีอาจได้รับอันตรายจากไฟ
.
ศรีเดิม เป็น ศรีจร :จะมีโชคดีมาก
ศรีเดิม เป็น กาลีจร :จะต้องเสียเงิน ทำให้ไม่มีความสุข
.
มูละเดิม เป็น ศรีจร :จะได้ลาภ จะได้บริวารข้าคนและบุตร ได้คู่ครองและถิ่นฐานบ้านเรือน มิฉะนั้นจะได้งานที่พอใจ
มูละเดิม เป็น กาลีจร :จะ ต้องเสียทรัพย์ คนใช้นำความยุ่งยากมาให้ บุตรภรรยาหรือสามีเกิด ความเดิอดร้อนที่อยู่และการงาน อาจมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย ทำให้ได้รับความลำบาก
.
อุตสาหะเดิม เป็น ศรีจร :ระยะนี้เป็นระยะที่เหมาะสม กับการที่จะประกอบกิจการงานทั้งปวง จะได้รับผลดีต่อการกระทำทุกอย่าง
อุตสาหะเดิม เป็น กาลีจร :จะทำการสิ่งมีอุปสรรค มีคอยศัตรูคอยจองล้างจองผลาญ ค้าขายก็จะขาดทุน
.
มนตรีเดิม เป็น ศรีจร :จะได้บุตร ภรรยา หรือสามี ผู้ใหญ่จะให้ความช่วยเหลือเกื้อหนุน
มนตรีเดิม เป็น กาลีจร :จะได้รับความเดือดร้อน ทำให้ต้องเสียทรัพย์เงินทอง บริวาร บุตร ภรรยาหรือสามี จะก่อความยุ่งยากให้ มิฉะนั้นจะเกิดเจ็บป่วย
.
กาลีเดิม เป็น ศรีจร :จะบริบูรณ์ด้วยโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองทุกประการ จะมีผู้นำลาภมาให้
กาลีเดิม เป็น กาลีจร :จะได้รับความเดือดร้อนเพราะคนชั้นต่ำ จะถูกรังควาญเหยียบย่ำทำให้อับอายขายหน้า ความเป็นอยู่ภายในครอบครัวขาดความสงบสุข/

ทักษาเดิม กลับชาติ เป็นทักษาจร โคจรทับ ทักษาเดิม
บริวาร แม้นว่ามาเป็น ศรี จรมาถูก บริวาร ยิ่งดีนัก จะได้เมียรักสโมสร อีกทาสชายหญิงกรรมกร
อายุ จรเป็น ศรี มาต้องกันถูก อายุ ว่าจะคลายโรคา
เดช จรมาเป็น ศรี นั้นต้อง เดช ไซร้ให้คุณไพบูลย์ครัน จะประจันข้าศึกก็มีชัย
ศรี เดิมเป็น ศรี มาต้อง ศรี ยิ่งแสนดีสารพันจะหาไหน จะสมดังปรารถนาทุกสิ่งไป
มูละ เดิมเป็น ศรี มาต้อง มูละ นั้นยิ่งดี จะได้ที่แดนดินดีนักหนา
อุตสาหะ เป็น ศรี สัญจรมาต้อง อุตสาหะ ค้าขายดี ลาภผลปีนั้นอุดมมาก แม้นทุกข์ยากก็จะพ้นซึ่งทาสี
มนตรี เป็น ศรี ต้อง มนตรี ทำนายดุจศรีต้องบริวาร
กาลี เป็น ศรี ต้อง กาลี ทั้งยศศักดิ์มีหลายสถาน ลาภจะเกิดปีนั้นให้บันดล

ทักษากลับชาติเป็นกาลีจร อ.เชย
เกณฑ์นี้ หมายถึง จรมาทับลัคน์ หรือถึงดาวเคราะห์องค์ใด ดาวเคราะห์องค์นั้นก็เสื่อม เว้นแต่ดาวเคราะห์นั้นได้ตำแหน่งมาตรฐานดี ก็บรรเทาลงบ้าง พิจารณา...
*ดาวบาปเคราะห์สัมพันธ์จะเกิดโทษ
*ดาวศุภเคราะห์สัมพันธ์จะให้คุณ
*ดาวบาปเคราะห์จรถึงลัคน์กลับรุ่งโรจน์
*ดาวศุภเคราะห์จรถึงลัคน์กลับทรุดโทรม
*ดาวคู่มิตรถึงกันแทนที่จะดี กลับฉิบหายบรรลัยเพราะเพื่อน
บริวาร เป็นกาลีจร สามี,ภรรยา,บุตร,คนอยู่ร่วม,กิจการ..เสื่อม
อายุ เป็นกาลีจร สุขภาพ,สติปัญญาและความนึกคิด.....เสื่อม
เดช เป็นกาลีจร อำนาจหรือเกียรติ.............เสื่อม
ศรี เป็นกาลีจร ทรัพย์สินหรือรายได้............เสื่อม
มูละ เป็นกาลีจร ที่อยู่อาศัยหรือการงาน...........เสื่อม
อุตสาหะ เป็นกาลีจร ผลงานหรือผลกำไร............เสื่อม
มนตรี เป็นกาลีจร ความดีความชอบและครอบครัว.......เสื่อม
กาลกิณี เป็นกาลีจร จะเกิดบาปเวรมาสนอง

อธิบายการเล่นทักษา

ดาวมาตรฐานกุมลัคน์
เป็นบริวาร คล่องแคล่ว มีวิชาการดี
เป็นอายุ มีสุขภาพดี สมองแจ่มใส
เป็นเดช มีอำนาจทำการใดๆสำเร็จ
เป็นศรี ไม่ขัดสนทรัพย์
เป็นมูละ มีหลักฐานการงานมั่นคง
เป็นอุตสาหะ เป็นคนขยัน ไม่ท้อถอย
เป็นมนตรี มีผู้อุปถัมภ์ หรือผู้ช่วยเหลือเกื้อกูล
เป็นกาลกิณี ตกต่ำ หรือดีไปก็ไม่ตลอดรอดฝั่ง

ดาวมาตรฐานในเรือนทักษา
หมายถึง ลัคน์กำเนิดก็ดี ดาวเคราะห์ก็ดีไปสถิตอยู่ในเรือนนั้นๆ "จะเป็นดาวจรก็ดี" นี่คือกฎของทักษา
เรือน บริวาร จะส่งผลในด้านสติปัญญา มีความรู้หลายสาขา
เรือน อายุ จะส่งผลให้มีอายุยืน
เรือน เดช จะส่งผลให้มีอำนาจเข้มแข็ง
เรือน ศรี จะส่งผลในทางการเงินและฐานะ
เรือน มูละ จะส่งผลในทางตำแหน่งหน้าที่การงานและหลักฐาน
เรือน อุตสาหะ จะส่งผลในอาชีพการงาน
เรือน มนตรี จะส่งผลในบุญวาสนา และความสุขในครอบครัว
เรือน กาลกิณี จะบ่อนทำลายวงจรชีวิต

ดาวเสื่อม

อธิบายดาวเสื่อม

๑.เป็นกาลกิณี
๒.เข้าอยู่ในเรือนกาลกิณี
๓.ไม่เป็นกาลกิณี แต่เกาะภินทฤกษ์
๔.ไม่เป็นกาลกิณี แต่อยู่ในทุสถานะภพ
(น่าจะรวมถึงสถิตในราศีเสื่อมด้วย)

ดาว ๑ เสื่อม ก็ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี ไม่มีเกียรติยศใดๆ
ดาว ๒ เสื่อม รูปร่างขี้เหร่ อาจรวมถึงทุพพลภาพด้วย
ดาว ๓ เสื่อม เป็นคนอ่อนแอ ไม่ทะมัดทะแมง
ดาว ๔ เสื่อม เป็นผู้กล่าววาจาน่าเกลียด หรือคำพูดเป็นภัยแก่ตน
ดาว ๕ เสื่อม ชอบทำเรื่องเลอะเทอะ เหลวไหล
ดาว ๖ เสื่อม เป็นคนมีสันดานจัญไร
ดาว ๗ เสื่อม เกิดมาก็มีเวรกรรมหนัก
ดาว ๘ เสื่อม เป็นคนขี้คุกขี้ตะราง
ดาว ๙ เสื่อม เป็นคนมีรูปร่างหรือสมองพิการ
ดาว ๐ เสื่อม ต้องอุบัติเหตุหรือตายโหง

ดาวเด่น

อธิบายดาวให้คุณ
๑.เป็น เดช.ศรี,บริวาร
๒.อยู่ในเรือน เดช,ศรี,บริวาร
๓.เสวยบูรณฤกษ์
๔.เป็นศุภสถานะภพ
๕.เป็นโยคเกณฑ์ที่ให้คุณ
๖.เป็น เกษตร,มหาอุจ,มหาจักร,ราชาโชค

หลักการทายดาว "เกษตร" เป็นทักษาโดยทั่วไป
ก.เป็นบริวาร :จะอุดมสมบูรณ์ด้วยวงศาคณาญาติและมิตรสหาย
ข.เป็นอายุ :จะมีสุขภาพและสังขารสมบูรณ์ อนามัยดี มีอายุยืน
ค.เป็นเดช :จะมีอำนาจในวงการ มีผู้เคารพนับถือ มีการศึกษาดี
ง.เป็นศรี :จะบริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ ไม่ขัดสน มีนิสัยดีเป็นคนเรียบร้อย
จ.เป็นมูละ :จะมีที่อยู่อยู่อาศัยเป็นหลักฐาน และอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
ฉ.เป็นอุตสาหะ:เป็นคนขยัน ไม่ท้อถอย ทำกิจการได้ทุกอย่าง
ช.เป็นมนตรี :มีวาสนาดี มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์
ซ.เป็นกาลี :เป็นคนอาภัพอับจน ดีแล้วตกอับ ร่ำรวยแล้วยากจน

หลักการทายดาวมาตรฐาน "เกษตร" เป็นทักษากุมลัคน์
ก.เป็นบริวาร :มีวิชาการดี กว้างขวางในสังคม มีไหวพริบ
ข.เป็นอายุ :มีความคิดปราณีตสุขุม นิสัยละมุนละม่อม
ค.เป็นเดช :มีสมรรถภาพและมีวิริยะ
ง.เป็นศรี :มีหลักทรัพย์มั่นคงไม่ขัดสน
จ.เป็นมูละ :มีหลักฐานที่อยู่อาศัยถาวร
ฉ.เป็นอุตสาหะ:มีความสนใจในวิชาการต่างๆ ไม่ท้อแท้
ช.เป็นมนตรี :จะได้เป็นใหญ่ในตำแหน่งงาน ตระกูลอุดม
ซ.เป็นกาลี :มีบาปเวรมาก วาสนาจะต้องอับปาง

หลักการทายดาว "มหาอุจ" เป็นทักษาโดยทั่วไป
เป็นบริวาร :มีญาติพงศ์วงษาเป็นใหญ่ มีอำนาจและมียศศักดิ์ หรือมีมิตรสหายล้วนแต่มียศศักดิ์เป็นส่วนมาก เป็นคนกว้างขวาง
เป็นอายุ :จะมีอายุยืน และสุขภาพก็มีกำลังวังชาดี ไม่ค่อยเจ็บป่วย สมองดี
เป็นเดช :เข้มแข็งและกล้าหาญ ไม่กลัวภัย ชนะศัตรู
เป็นศรี :จะรุ่งเรืองด้วยยศศักดิ์ และโภคทรัพย์
เป็นมูละ :จะมีตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง หลักฐานฐานะมั่นคง อยู่เป็นหลักแหล่ง มีความคิด สุขุมเยือกเย็น
เป็นอุตสาหะ:ทำงานขยันขันแข็ง คล่องแคล่วว่องไว การศึกษาสูง ทำกิจการใหญ่สำเร็จ
เป็นมนตรี :จะมีตำแหน่งใหญ่ในหน้าที่ราชการ หรือเป็นผู้ปกครองท้องถิ่น มีวาสนาสูง
เป็นกาลกิณี :จะเป็นผู้มีนิสัยโลดโผน มุทะลุ ดื้อดึง อวดดี

หลักการทายดาว"มหาอุจ"เป็นทักษากุมลัคน์
เป็นบริวาร :มีชื่อเสียงเด่น
เป็นอายุ :สุขภาพดี มีพลังสมองเข้มแข็ง
เป็นเดช :มีอำนาจเหนือพรรคพวก หรือทำการใหญ่สำเร็จ
เป็นศรี :รวยเกียรติยศและทรัพย์ จะเป็นเศรษฐี
เป็นมูละ :มีหลักฐานฐานะมั่นคง
เป็นอุตสาหะ :มีวิชาการเด่น จะสำเร็จการศึกษาชั้นสูง
เป็นมนตรี :มีตำแหน่งสูงทางด้านการปกครอง
เป็นกาลกิณี :เป็นคนมีสันดานโหดร้าย

หลักการทายดาว"มหาอุจ"เป็นทักษากุมลัคน์
เป็นบริวาร :มีชื่อเสียงเด่น
เป็นอายุ :สุขภาพดี มีพลังสมองเข้มแข็ง
เป็นเดช :มีอำนาจเหนือพรรคพวก หรือทำการใหญ่สำเร็จ
เป็นศรี :รวยเกียรติยศและทรัพย์ จะเป็นเศรษฐี
เป็นมูละ :มีหลักฐานฐานะมั่นคง
เป็นอุตสาหะ :มีวิชาการเด่น จะสำเร็จการศึกษาชั้นสูง
เป็นมนตรี :มีตำแหน่งสูงทางด้านการปกครอง
เป็นกาลกิณี :เป็นคนมีสันดานโหดร้าย

หลักการทายดาว "ราชาโชค"เป็นทักษาโดยทั่วไป
เป็นบริวาร :จะมีมิตรสหาย ญาติพี่น้องอุปการะช่วยเหลือ ไม่เดือดร้อน
เป็นอายุ :จะมีความคิดสุขุมและลึกซึ้ง รู้จักวางตัวสมฐานะตามอัตภาพ
เป็นเดช :มักวางตัวเป็นสง่าภาคภูมิ มีท่าทางกระฉับกระเฉง เจรจาคล่อง มีปฎิภาณไหวพริบดี
เป็นศรี :เป็นผู้มีกิริยามารยาทเรียบร้อย อ่อนโยน พูดจาไพเราะเป็นที่รักใคร่ของชนทั่วไป
เป็นมูละ :มักเป็นคนมีเหตุผล รู้จักตรึกตรอง เป็นที่ปรึกษาได้ดี มีสัมมาคารวะในการสนทนา รู้จักประหยัด
เป็นอุตสาหะ :มีความขยันหมั่นเพียร ศึกษาค้นคว้าวิชาการต่างๆ เป็นผู้มีคุณวุฒิสูงในด้านวิชาการ และการบริหาร
เป็นมนตรี :มีบุญวาสนา จะมีผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่อุ้มชู เป็นผู้ปกครองที่มีคุณธรรม
เป็นกาลกิณี :มีศักดิ์หรือวาสนาก็จะตกต่ำ เพราะเย่อหยิ่งลืมตน หมายถึงเป็นคนอกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เกณฑ์ดวงดาวแบบนี้ ถ้าใครพบเจออย่าได้คบหา เพราะเป็นคนเนรคุณ

หลักการทายดาว"ราชาโชค"เป็นทักษากุมลัคน์
เป็นบริวาร :จะมีโภคสมบัติมากมายเป็นอายุ
อายุ :จะมีลักษณะผิวพรรณสะอาดสะอ้าน
เป็นเดช :ได้เป็นผู้มีวาสนาสูง ไพร่ได้เป็นใหญ่
เป็นศรี :มีนิสัยสุภาพอ่อนโยน
เป็นมูละ :มีการงานและหลักฐานมั่นคง ไม่ตกต่ำ
เป็นอุตสาหะ :ประเสริฐทุกๆอย่าง
เป็นมนตรี :ไพร่จะมีตำแหน่งสูง
เป็นกาลกิณี :รวยแล้วจะอับปาง

หลักการทายดาว"อุจจาวิลาศ"เป็นทักษาโดยทั่วไป
เป็นบริวาร :มีพี่น้องพงศ์พันธ์และมิตรสหาย ช่วยเหลืออุปการะดี
เป็นอายุ :มีอนามัยดี สุขภาพสดชื่นแจ่มใส ไม่ค่อยมีโรค
เป็นเดช :มีความขยันขันแข็ง ทำงานว่องไว และมีประสิทธิภาพ
เป็นศรี :มีนิสัยดีงาม ไม่เป็นภัยต่อสังคม และไม่ฉ้อโกงใคร
เป็นมูละ :เป็นคนมีระเบียบ ไม่เกะกะจุ้นจ้าน ไม่ระรานใคร
เป็นอุตสาหะ :มีวิทยาการสูง หรือมีตำแหน่งสูง
เป็นมนตรี :จะได้เป็นคณบดี หรือเป็นประธานที่ปรึกษาในวงการชั้นสูง
เป็นกาลกิณี :เกิดมามีบาปเวร มีวิถีชีวิตที่พิลึกพิลั่น เปรียบหมือนนาวาที่ฝ่าคลื่นลมในทะเล

หลักการทายดาว "ประ" เป็นทักษาโดยทั่วไป
เป็นบริวาร :มีพี่น้องพงศ์พันธ์หรือมิตรสหาย อยู่ร่วมกันไม่ได้
เป็นอายุ :สุขภาพและสมองไม่สมประกอบ
เป็นเดช :ทำกิจการอะไรมักจะไม่เป็นแก่นสาร หรือไม่สำเร็จลุล่วง
เป็นศรี :ทรัพย์สินเงินทองจะมีหรือได้มา มักจะไม่แน่นอน ลุ่มๆดอนๆ ทำให้ขาดความมั่นคง
เป็นมูละ :มีภูมิลำเนาที่อยู่อาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง
เป็นอุตสาหะ :ไม่มีวิชาการ มีความรู้สะเปะสะปะ
เป็นมนตรี :ไร้ที่พึ่งพา ไม่มีคู่ครองที่ดี
เป็นกาลกิณี :เกิดมาเปรียบเป็นคนทะทะทะลิลิลิทกทกทก

หลักการทายดาว "นิจ" เป็นทักษาโดยทั่วไป
เป็นบริวาร :มีพี่น้อง เพื่อนฝูง มักเป็นคนชั้นต่ำ
เป็นอายุ :มีสติปํญญาทึบ สุขภาพอนามัยเสื่อมโทรม
เป็นเดช :มีฐานะและตำแหน่งวไม่รุ่งโรจน์ ไร้ศักดิ์ศรี
เป็นศรี :มีเงินเหมือนคนเข็ญใจ ฐานะยากจน
เป็นมูละ :มีที่อยู่อาศัยคล้ายกระยาจก ทำงานเป็นขี้ข้าใช้แรงงาน
เป็นอุตสาหะ :เป็นคนขี้เกียจ พอมีเงินก็เหลิงและลืมตัว
เป็นมนตรี :ได้ผู้ช่วยก็มักเป็นคนชั้นต่ำ หรือระดับเดียวกัน มีผัวเมียก็เหมือนกัน
เป็นกาลกิณี :มีสันดานชั่วช้าสามานย์เยี่ยงสัตว์

หลักการทายดาว "มหาจักร" เป็นทักษา
เป็นบริวาร :จะได้เรียนวิชาความรู้สูง เฉลียวฉลาด มีสมองไว คล่องในกิจการ เป็นที่รักของเพื่อนๆ
เป็นอายุ :จะมีผิวพรรณสง่า สะอาดสะอ้าน ไม่ค่อยเจ็บป่วย ถ้าเป็นหญิง..จะมีรูปร่างสวย ไม่ มีตำหนิหรือไฝฝ้าราคีคาว
เป็นเดช :มีอำนาจในการบริหารงาน หรือได้เป็นหัวหน้างาน เป็นพลตำรวจก็จะมียศเป็นถึงนายพัน ทำงานมีประสิทธิภาพ ถ้าเป็นโจรพวกตำรวจเกรงกลัว
เป็นศรี :จะมีนิสัยละมุนละม่อม พูดจาไพเราะอ่อนหวานมีเสน่ห์
เป็นมูละ :เป็นคนเงียบขรึมใช้สมอง และสุขุม ชอบตรึกตรอง
เป็นอุตสาหะ:เป็นคนขยัน หมั่นเพียร ไม่ท้อแท้ จะเจริญในโภคทรัพย์
เป็นมนตรี :มีวาสนาได้เป็นใหญ่ มีเกียรติ
เป็นกาลี :ดีทุกประการ คือ ทำชั่วกลับได้ดี คนอัปรีย์มีคนยกย่อง

การทายดาวมหาจักร
ดาว มหาจักร มีลักษณะการทายผิดแปลกกว่าดาวอื่นๆ คือ เป็นดาวที่ลบล้างโทษและสนันสนุนดาวที่อยู่ร่วมให้ดีขึ้น ถ้าอยู่ร่วมกับลัคน์ก็คุ้มโทษ หมายถึง ดาวมหาจักรเป็นกาลกิณี กลับทำให้ดวงชะตาดีขึ้น และส่งผลในวิถีชีวิตให้รุ่งเรือง

ดาวมหาจักรกุมลัคน์
ดาว ๑ หมายถึง เกียรติ ภูมิความรู้ วิทยาการและตำแหน่งหน้าที่การงาน
ดาว ๒ ความสุขสมบูรณ์ มีผู้อุปถัมภ์
ดาว ๓ ความเข้มแข็ง อดทน กล้าหาญ
ดาว ๔ การเจรจามีคารมดี มีไหวพริบในการพูด
ดาว ๕ มีความรอบคอบในการบริหาร
ดาว ๖ มีความเฉลียวฉลาดในกิจการต่างๆและการสังคม
ดาว ๗ เป็นคนสุขุม ช่างตรึกตรอง
ดาว ๘ เป็นนักบุกเบิก ทำการสำเร็จ

ดาวมหาจักร "จร"เป็นกาลี
ดาวมหาจักรกำเนิด กลับชาติเป็นกาลี "จร"ถึงลัคน์และจันทร์ หรือพระเคราะห์อื่นๆ กลับส่งผลดี
ถึงดาว ๑ : จะได้เลื่อนยศหรือตำแหน่ง
ถึงดาว ๒ : จะได้ผู้อุปการะช่วยเหลือ
ถึงดาว ๓ : จะมีชัยชนะแก่ศัตรู
ถึงดาว ๔ : จะทำการสิ่งใดสำเร็จสมประสงค์
ถึงดาว ๕ : จะได้ผู้ใหญ่อุ้มชู
ถึงดาว ๖ : จะได้คู่ครองหรือโชคใหญ่
ถึงดาว ๗ : จะได้เกียรติชื่อเสียงดังไกล
ถึงดาว ๘ : จะได้เดินทางไปต่างประเทศ หรือเป็นใหญ่

ดาวมหาจักร"จร"ทับทักษากำเนิด
ทับ บริวาร : จะได้คู่ครองหรือกิจการดีขึ้น
ทับ อายุ : เจ็บป่วยหนักจะหาย สุขภาพดีขึ้น
ทับ เดช : ได้รับตำแหน่งสูงขึ้น
ทับ ศรี : จะร่ำรวยหรือได้รับมรดก
ทับ มูละ : ตำแหน่งการงานดีขึ้น รุ่งโรจน์
ทับ อุตสาหะ: กิจการเจริญ เป็นพ่อค้าจะร่ำรวย
ทับ มนตรี : จะมีบุญวาสนาสูงขึ้น
ทับ กาลี : ผลร้ายกลายเป็นดี มีโทษติดคุกก็ได้รับการปลดปล่อย

ทายดาวมหาจักรเป็นทักษาจร
เป็นบริวาร : ชะตาชีวิตจะอุ่นหนาฝาคั่ง ญาติพี่น้องอุดม "ทายเหมือนกับบริวารเป็นศรีจรทับลัคน์"
เป็นอายุ : สมองปลอดโปร่ง หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วย
เป็นเดช : ทำงานใหญ่สำเร็จ "ทายเหมือนเดชเป็นบริวารจร"หรือ"บริวารเป็นเดชจรทับลัคน์"
เป็นศรี : จะได้รับมรดก หรือมีโชคลาภเป็นพิเศษ
เป็นมูละ : จะได้เลื่อนตำแหน่ง
เป็นอุตสาหะ: จะมีกิจการเจริญรุ่งเรือง
เป็นมนตรี : จะสร้างครอบครัว วงศ์สกุลใหญ่โต
เป็นกาลี : ชะตาประเสริฐ รุ่งโรจน์

หลักการทายทักษาจร แบ่งเป็น ๒ ปกรณ์ คือ
๑.ทักษาจรชั้นนอก :ภูมิทักษากำเนิดกลับชาติเป็นทักษาจรตามอายุ ทายเหตุการณ์ปัจจุบันถึง อนาคตที่ใกล้จะมาถึง
๒.ทักษาจรชั้นใน :ภูมิทักษากำเนิดจรทับลัคน์และดาวเคราะห์ ทายเหตุการณ์ในอดีตใกล้ถึงปัจจุบัน

หลักการทายทักษากำเนิด "บริวาร" เป็นทักษาจร
เป็นบริวารจร :จะได้เพื่อนใหม่ หรือได้คู่ครอง ได้ผู้ช่วยเหลือ
เป็นอายุจร :จะหายจากเจ็บไข้ได้ป่วย หรือจะล้มป่วย (ทายเป็น ๒ นัย)สมองเสื่อม
เป็นเดชจร :ทำการใหญ่จะสำเร็จ หรือได้ชื่อเสียง
เป็นศรีจร :จะมีโชคใหญ่ หรือได้คู่ครอง
เป็นมูละจร :จะได้เลื่อนตำแหน่ง หรือได้รับมรดก
เป็นอุตสาหะจร :จะร่ำรวยเพราะกิจการงาน ทำงานใหญ่สำเร็จ
เป็นมนตรีจร :จะได้ผู้อุปถัมภ์ช่วยเหลือให้ความสุข
เป็นกาลกิณีจร :จะเกิดวิบัติ หรืออับปาง เพราะญาติหรือคนใกล้ชิด

หลักการทาย "อายุ" กำเนิดเป็นทักษาจร
เป็นบริวารจร :เจ็บไข้ได้ป่วยจะหายจากโรค มีสุขภาพดีขึ้น
เป็นอายุจร :จะเจ็บป่วยหนัก ร่างกายและจิตใจทรุดโทรม
เป็นเดชจร :จะได้ตำแหน่งงาน จะหายป่วย เกิดความคิดเฟื่อง
เป็นศรีจร : ป่วยหนักก็จะทุเลา สุขภาพดีขึ้น
เป็นมูละจร :เป็นไข้ จะมีอาการทรุดหนัก ป่วยหนักอาจถึงตาย
เป็นอุตสาหะจร :ทำกิจการท้อแท้เบื่อหน่าย
เป็นมนตรีจร :ปลอดภัยจากโรคร้าย
เป็นกาลกิณีจร :จะตายเพราะอุบัติเหตุ อาการหนักทั้งสมองและสุขภาพ

หลักการทาย "เดช" กำเนิดเป็นทักษาจร
เป็นบริวารจร :จะได้เลื่อนยศหรือตำแหน่งงานสูงขึ้น ได้เป็นใหญ่
เป็นอายุจร :มีความรู้ดี สอบได้เลื่อนขั้น
เป็นเดชจร :มีเกียรติยศชื่อเสียงในผลงาน
เป็นศรีจร :จะเกิดโชคลาภใหญ่หลั่งเยิ้ม ได้ผลดีทุกอย่าง
เป็นมูละจร :จะได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การกิ๊ก
เป็นอุตสาหะจร :ชะตาจะดีขึ้นทางการเงิน กิจการค้าขายรุ่งเรือง ขาดทุนแล้วกลับรวย
เป็นมนตรีจร :ทำกิจการสำเร็จสมประสงค์
เป็นกาลกิณี :ทำกิจการเจ้งหรือฉิบหาย

หลักการทาย "ศรี" กำเนิดเป็นทักษาจร
เป็นบริวารจร :คนรักที่จากไปจะกลับคืนมา
เป็นอายุจร :จะเจ็บป่วย
เป็นเดชจร :ชะตาจะรุ่งเรือง
เป็นศรีจร :จะได้ลาภใหญ่ มีผู้อุ้มชู
เป็นมูละจร :อาจได้รับมรดก
เป็นอุตสาหะจร :ทำการงานประสบผลสำเร็จ
เป็นมนตรีจร :จะมีเกียรติยศและศักดิ์ศรี
เป็นกาลกิณีจร :จะเกิดเหตุร้ายเพราะทรัพย์สิน

หลักการทาย "มูละ" กำเนิดเป็นทักษาจร
เป็นบริวารจร :จะเกิดผลดีหลายประการ
เป็นอายุจร :ได้รับมรดกเป็นทรัพย์สิน
เป็นเดชจร :จะได้เลื่อนตำแหน่ง
เป็นศรีจร :ชะตาดีจะรุ่งเรืองในทรัพย์สินและรายได้
เป็นมูละจร :ดูตระกูลและหลักฐานเดิม
เป็นอุตสาหะจร :เริ่มทำกิจการใหญ่ดี เกิดความขยันและกระตือรือร้น มีหลักในอาชีพ
เป็นมนตรีจร :ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น หรือจะร่ำรวยขึ้น
เป็นกาลกิณีจร :จะเกิดวิบัติฉิบหาย บ้านแตกสาแหรกขาด

หลักการทาย "อุตสาหะ" กำเนิดเป็นทักษาจร
เป็นบริวารจร :จะมีกิจการรุ่งเรือง
เป็นอายุจร :สุขภาพดีขึ้น เกิดปัญญาความคิด
เป็นเดชจร :ทำการใหญ่สำเร็จ สภาพความเป็นอยู่และฐานะดีขึ้น
เป็นศรีจร :รุ่งเรืองมีโชคลาภ
เป็นมูละจร :มีกิจการเป็นปึกแผ่น ฐานะดีขึ้น
เป็นอุตสาหะจร :กิจการก้าวหน้า
เป็นมนตรีจร :ได้ตำแหน่งใหญ่ ทำกิจการใหญ่สำเร็จทุกอย่าง
เป็นกาลกิณีจร :จะล้มละลาย ลงทุนจะวิบัติ

หลักการทาย "มนตรี" กำเนิดเป็นทักษาจร
เป็นบริวารจร :จะรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่ราชการ ได้ตำแหน่งสูง
เป็นอายุจร :มีสุขภาพดี หลักฐานดี
เป็นเดชจร :จะได้ยศและเจริญ
เป็นศรีจร :รุ่งเรืองในกิจการต่างๆ จะร่ำรวยเป็นเศรษฐี
เป็นมูละจร :ได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่ มีฐานะดีขึ้น
เป็นอุตสาหะจร :ทำกิจการใหญ่หรืองานส่วนตัวประสบความสำเร็จ
เป็นมนตรีจร :มีวาสนาสูงเด่น ถ้าเป็นข้าราชการมีศักดิ์สูง
เป็นกาลกิณีจร :จะอับปางทั้งตนและครอบครัว

หลักการทาย "กาลกิณี" กำเนิดเป็นทักษาจร
เป็นบริวารจร :ทำการอะไรไม่ได้ผลทุกอย่าง
เป็นอายุจร :ตกอับ อาภัพ ทำการทุกอย่างเสียหาย
เป็นเดชจร :จะเกิดภัยอันตราย หรือเกิดคดีความ
เป็นศรีจร :ทำงานทุจริตดี ได้ผล
เป็นมูละจร :ต้องอพยพย้ายที่อยู่อาศัย หรือเปลี่ยนงาน
เป็นอุตสาหะจร :เปลี่ยนแปลงกิจการ ค้าขายจึงเจริญ
เป็นมนตรีจร :ได้ผู้ช่วยเหลือใหม่ จะดีขึ้น
เป็นกาลกิณีจร :จงทำทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าทุจริตหรือสุจริต จะประสบผลดี แต่ต้องระวังตัว

ข้อสังเกตุทักษาเดิมเป็นทักษาจร
เป็นเดช....จะมีอำนาจได้ตำแหน่ง
เป็นศรี.....จะเกิดโชคลาภ
เป็นมนตรี...จะได้ผู้ใหญ่สนับสนุน

จรทับดาวอะไรก็จะส่งเสริมดาวนั้น
ทับบริวาร..จะมีผู้ช่วยเหลือ
ทับอายุ...ความหมองหม่นจะถูกปลดเปลื้อง
ทับเดช...ทำการใหญ่สำเร็จ
ทับศรี....จะประสบโชคใหญ่
ทับมูละ...จะได้เลื่อนตำแหน่ง
ทับอุตสาหะ..กิจการเจริญ
ทับมนตรี...จะมีผู้ใหญ่อุปการะอุ้มชู
ทับกาลกิณี..จะเกิดวุ่นวายเพราะถูกขัดขวาง

กาลกิณี สถิตภพต่างๆ
กาลกิณีอยู่ในภพตนุ ตนเองทำความเสื่อมเสียให้กับตนเอง
กาลกิณีอยู่ในภพกฎุมภะ การผันผวน ผันแปรทางการเงิน มีปัญหารายรับรายจ่าย รายได้
กาลกิณีอยู่ในภพสหัชชะ มีความเดือดร้อนจากมิตร และพรรคพวก
กาลกิณีอยู่ในภพพันธุ มีปัญหา แตกร้าว บาดหมางในวงศ์ญาติ
กาลกิณีอยู่ในภพปุตตะ มีความขัดแย้ง ความประมาท การริเริ่มล้มเหลว
กาลกิณีอยู่ในภพอริ มีความดื้อดึง หัวแข็ง ทะนงตน
กาลกิณีอยู่ในภพปัตนิ มีการผิดสัญญา มีเคราะห์ทางการค้า มีปัญหาครอบครัว
กาลกิณีอยู่ในภพมรณะ มีอุบัติภัย โรคภัย ไข้เจ็บ ความท้อแท้
กาลกิณีอยู่ในภพศุภะ ทำคุณคนไม่ขึ้น ปิดทองหลังพระ มีอุปสรรคของความสำเร็จ
กาลกิณีอยู่ในภพกัมมะ ปัญหาการงานอาชีพไม่ราบรื่น มีอุปสรรคในวงงาน
กาลกิณีอยู่ในภพลาภะ มีความผิดหวัง ทุกขลาภ
กาลกิณีอยู่ในภพวินาศ มีภัยมืด มีความโชคร้าย มีอุบัติเหตุฉับพลัน มีเคราะห์กรรม

ถ้ากาลกิณี เป็นประเป็นนิจ มักจะเสื่อมถอยในบั้นปลาย หรือไม่ให้คุณแก่เจ้าชะตา

มหาทักษา ดาวเสวยอายุ และ ดาวแทรก
ความ สำคัญอย่างยิ่งของดาวเคราะห์ที่เข้ามาเสวยอายุและแทรกนั้น ให้พิจารณาถึงตำแหน่งของดาวนั้นๆในดวงชะตา ว่า..สถิตอยู่ในภพใด เป็นเจ้าเรือนภพใด ภพที่ให้โทษมาก คือ อริ มรณะ วินาศ หากปรากฎว่า ดาวเคราะห์ที่เขามาเสวยอายุและแทรกเป็นดาวดังกล่าว ระยะนั้น..ดวงชะตาจะถูกบั่นทอนอย่างมาก เป็นระยะที่ต้องพบกับความวิบัติต่างๆ
**อีกประการหนึ่ง คือ เกี่ยวกับราศีของดาวเคราะห์ ต้องดูว่า..
..ดาวใดบ้างอยู่ในตำแหน่งที่ดีให้คุณ เช่น มหาอุจ เกษตร ฯ ดาวที่ได้ตำแหน่งดีเมื่อเข้ามาเสวย อายุและแทรก มักจะบันดาลผลดีให้
..ดาวใดบ้างอยู่ในตำแหน่งเสื่อมให้โทษ เช่น นิจ ประ มักจะบันดาลโทษทุกข์ให้
**ผลที่เกิดขึ้นไม่ว่าดีหรือร้าย ย่อมเป็นไปตามลักษณาการที่ดาวนั้นเข้าสถิตอยู่ในภพใด ตลอดจนเป็นเจ้าเรือนภพใดในดวงชะตา
อนึ่ง...ดาว เคราะห์ที่เข้ามาเสวยอายุและแทรกของแต่ละดาวนั้นต่างกัน ดวงที่ได้รับผลร้าย "ก็เพราะเหตุที่ในระยะนั้น ดาวเคราะห์ที่เข้ามาเสวยและแทรกสำแดงทุกข์และโทษไปในทางร้าย เมื่อมีดาวเคราะห์ที่จรมาทำปฎิกิริยาในทางร้าย ผลร้ายก็ปรากฎออกมาจริงๆ"

"ถ้า ดาวเคราะห์ที่เข้าเสวยและแทรก ส่งผลไปในทางให้คุณ แต่ดาวที่จรมาทำปฎิกิริยาไปในทางร้าย ถ้าเป็นดังนี้ พอจะต้านทานกันได้ ผลร้ายจะไม่ปรากฎขึ้นตามที่ดาวจรทำปฎิกิริยาเอาไว้"







ขอบคุณบทความจาก



Create Date : 09 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 12:18:26 น.
Counter : 23427 Pageviews.

0 comment

Namkhiang-Nitcha
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]