ไม่มีอะไรเกินความสามารถ ถ้าแต่เราตั้งใจทำมันจริงจริง...ฝันไห้ไกล แล้วไปไหถึง
|
|||
ดอกแอปเปิล แอปเปิลเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดสูงประมาณ 15 เมตร มีขนนุ่มปกคลุมที่กิ่งก้านใบ เป็นใบเดี่ยวมีรอยหยักคล้ายฟัน เลื่อยยาวประมาณ 9 - 25 ซ.ม. กว้างประมาณ 5 - 14 ซ.ม. ดอก ออกเป็นช่อ คล้ายร่ม กลีบดอกสีขาวหรือชมพู มีดอกประมาณ 3 - 7 ดอกต่อหนึ่งช่อ แต่ละดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้อยู่จำนวนมาก ผล รูปร่างกลม ผลมีรอยบุ๋มบริเวณขั้วและก้น ดอกแอปเปิลจะบานสั้นมากแค่ 1 - 2 อาทิตย์หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นใบเขียวๆ แทนไปตลอดจนถึงฤดูใบไม้ร่วงเลย
แอปเปิลนอกจากจะนำมารับประทานเป็นผลไม้สดแล้ว ยังนำเอาแอปเปิลมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ได้อีกหลายอย่าง เช่น แยม เยลลี่ เนย น้ำผลไม้ น้ำส้มสายชู ผลไม้กระป๋อง บรั่นดี แอปเปิล หากรับประทานหลังอาหารจะช่วยทำความสะอาดฟัน และช่วยนวดเหงือก ช่วยขจัดคราบหินปูน ทำให้เหงือกและฟันสะอาดได้ดีอีกด้วย แอปเปิล เป็นผลไม้ที่ให้รสชาติหวานชุ่มเย็น กระตุ้นน้ำลาย บำรุงปอด แก้พิษสุรา กระหายน้ำ จุกเสียด อืดแน่นหลังรับประทานอาหาร ทำให้เจริญอาหารหรือทาแก้ผดผื่น ใบแอปเปิลสามารถนำมาต้มเพื่อรับประทานรักษาเลือดคลั่งค้างหลังคลอด ขับน้ำคาวปลา รักษาอาการไข้ นำมาต้มพอกบริเวณบาดแผลหรือนำมาขยำกับน้ำมันพืช ทาบริเวณแผลที่เกิดไฟไหม้ ผลแอปเปิลสด นำมาคั้น เอาน้ำมาเคี่ยวหรือจะรับประทานได้เลย เป็นยารักษาอาการท้องผูก โรคเกี่ยวกับตับ โลหิตจาง บำรุงปอด รักษาพิษสุรา บำรุงร่างการทารก ทำให้เจริญอาหาร กระตุ้นน้ำลาย หรือนำมาทารักษาโรคผิวหนัง เปลือกผลแอปเปิล นำมาต้มรับประทานแบบชา รับประทานแก้อาเจียน เรอ ท้องอืด ท้องเฟ้อ คัดลอกขอมูลบางส่วนจาก : //writer.dek-d.com |
misha33
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] เป็นคนพูดน้อยคะชอบทำมากกว่า เป็นเด็กใต้โดยกำเนิด ตังแต่จำความใด้ก็ไม่เคยใด้มีโอกาศ ใด้ใช้ชีวิตอยูบ้านเกิด เรียนมาทางด้านศิลปะ แต่ไม่เคยทำงานด้านที่เรียนมา ชื่นชมในอาชีพ fashion designer หวังไว้ว่าจะได้เห็นตัวเองเดินบนเส้นทางสาย fabric แต่เมื่อวันหนึ่งเราต้องเลือกทีจะละทิ้งความฝัน ด้วยเหตผลอะไรก็แล้วแต่.... ชีวิตผกผันให้ใด้มาอยู่ดินแดนอันไกล้โพ้น ท่ามกลางขุนเขาและทุ่งหญ้าอันแสนกว้างใหญ่ แฝงไว้ด้วยสิ่งรุ่งเรืองของความศิวิไลย์แต่เป็นวัฒนธรรมใหม่ ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายที่มา เรียกแผ่นดินนี้ว่า...แคนาดา Group Blog All Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาให้อ่านค่ะ