Group Blog
 
All blogs
 

สำรวจอายุ เครื่องสำอางในกระเป๋า



แม้คุณจะดูแลผิวดีแค่ไหน แต่ถ้ายังใช้เครื่องสำอางเก่าเก็บก็อาจจะทำให้เป็นสิว ผิวติดเชื้อหรือระคายเคืองได้ ลองสำรวจเครื่องสำอางของคุณดูว่าหมดอายุการใช้งานหรือยัง

ครีมรองพื้น : ชนิดที่มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ (water-based) และน้ำมัน (oil-based) มีอายุการใช้งานประมาณ 12 และ 18 เดือนตามลำดับหลังจากเปิดใช้งาน


อายแชโดว์ : เก็บไว้ได้นานถึง 3 ปี แต่หากสังเกตเห็นรอยแตก ควรเปลี่ยนใหม่
อายไลเนอร์ : มีอายุ 3 ปี หรือจนกว่าจะแห้ง หรือเขียนไม่ติด


มาสคาร่า : มีอายุการใช้งาน 4 เดือน หากใช้นานกว่านั้นจะมีลักษณะแห้งและจับตัวเป็นก้อน
ลิปสติก : อยู่ได้นาน 1-2 ปี หรือสงเกตได้จากการดมกลิ่น แต่ถ้าลิปสติกมีกลิ่นเปลี่ยนไปจากเดิมควรเลิกใช้



นอกจากอายุการใช้งานแล้ว หากสังเกตว่า เครื่องสำอางเริ่มมีกลิ่นหืน แยกชิ้น แตกตัว หรือเปลี่ยนสี ก็ถึงเวลาทิ้งลงถังขยะได้แล้วค่ะ




 

Create Date : 17 เมษายน 2551    
Last Update : 17 เมษายน 2551 21:24:40 น.
Counter : 751 Pageviews.  

มาสก์มะม่วงสุกแก้สิว



สาวๆที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับสิวที่เดี๋ยวก็ผลุบตรงนี้โผล่ตรงนั้นอยู่ละก็ ขอให้ฟังทางนี้ ก่อนอื่นขอให้เข้าใจตรงกันว่า สิววัยนี้เกิดจากฮอร์โมนกำลังทำงานเต็มที่ ดังนั้นคงยังไม่โบกมือลาขาดจากกันไปในวันสองวันนี้อย่างแน่นอน

แต่จะยอมแพ้ให้สิวโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวก็ใช่ที่ วันนี้เลยมีสูตรมาสก์มะม่วงสุกแก้สิวมาฝากค่ะ สูตรนี้มีกรดผลไม้อ่อนๆ จากมะม่วงสุกและมะนาวช่วยผลัดเซลล์ผิว ดินสอพองช่วยลดอาการบวมอักเสบและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น แถมท้ายด้วยน้ำผึ้งป้องกันเชื้อโรคและช่วยสมานรอยแผล เป็นอันครบสูตรสวยใสไร้สิว มาดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสมก็ไม่ต้องเตรียมให้ยุ่งยากอะไรเลย ขอแค่มีมะม่วงสุก 1 ผล น้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะ ดินสอพอง 1/4 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งสัก 1 ช้อนชา

เมื่อได้ครบแล้วก็ยีเนื้อมะม่วงสุก เติมน้ำมะนาว น้ำผึ้ง และดินสอพองยีต่อจนเข้ากันดี จากนั้นนำมาปั่นรวมกันจนเหลวข้น นำมาทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ได้สูตรสวยไปแล้ว ก็ต้องใส่ใจรักษาความสะอาด เลือกกินอาหารที่ถูกต้อง และทำจิตใจให้ผ่อนคลายด้วยนะคะ ทำได้อย่างนี้รับรองว่าสิวของสาวๆจะลดลงได้ค่ะ





 

Create Date : 07 เมษายน 2551    
Last Update : 7 เมษายน 2551 23:13:48 น.
Counter : 710 Pageviews.  

นานา..หลากยี่ห้อครีมยืดผม



วันนี้ว่างจัดหลังจากเล่นเน๊ตก็แล้ว นอนกลิ้งก็แล้ว ออกไปหาไรกินแถวบ้านดีกว่า อิ อิ
ก็พกกระเป๋ากล้องไปด้วย เพราะพรุ่งนี้มีนัดสำคัญ และต้องใช้รูปเพิ่ม ไม่ได้ไปไหนไกลเล้ยก็ปากซอยลาดพร้าว 101 สุดแสนรถติด บ้านช้านนิเองเน่อะ

ก็ต้องไปถ่ายบริเวณร้านเจ๊เฟียร์ที่โดนร้านทำผมแกรมเมอร์ข้างๆ แกล้งติดป้ายบังร้านซะมิด อ่ะนะ..คนเราทำไมน๊า บ้านใกล้เรือนเคียงน่าจะดีๆกันไว้

พรุ่งนี้เราต้องยิงเรื่องไปที่เขตกับเทศกิจเรื่องโดนป้ายร้านแกรมเมอร์บัง สงสารเจ๊เฟียร์ ผู้หญิงคนเดียวกับชิโร่หมาน้อย(ก็ไม่น้อยนะ 6 ปีแล้ว)

เราให้พี่สาวช่วย เรื่องก็น่าจะผ่านไปด้วยดีล่ะน่ะ คาดว่าอย่างนั้น พี่สาวเราเจ๊แกธรรมดาซะที่ไหน ถ้าไม่ผิดชั้นไม่ยอมเราล่ะกลัวลูกตะกั่วของแกจริงๆ

นั่งคุยไป เอ๊ะ..ถ่ายรูปไปลงบล๊อคดีกว่า เพราะหมดมุขเขียนแว้ว เอาง่ายๆถ่ายรูปจากในร้านนี่ล่ะ 5555+++

เราเองก็ชอบอยู่แล้ว โดนเจ๊เฟียร์เหน็บ ว่างนักเหรอเอ็งน่ะ แหมก็นะนิดหนุงน่ะ

วันนี้เรามาว่าเรื่องครีมยืดผมกันดีกว่า ก็ไม่มีอะไรทำนั่งๆดูไป เออ..มันก้เยอะดีเนอะ รู้จักแต่ชิเชโด้ ลอลิอัล เอง มันมีมากกว่านั้นอีกนะ

ตัวยอดฮิต ชิเชโด้




ก็เป็นตัวแพงสุดของที่ร้านแล้วล่ะมั้ง ก็ตั้งพันกว่าบาทง่ะ แต่ทำได้หลายครั้งนะอยู่ว่าผมสั้นยาวแค่ไหน
จากที่ถามๆมา แกบอกว่าถ้าช่างยืดเก่งผมก็จะออกมาสวยมาก แต่ยืดไม่เก่งหรือยืดไม่เป็นก็ยังไม่น่าเกลียดเท่าลอลิอัล โอ..จริงหรือนี่

งั้นเรามาดูหน้าตาเจ้าลอลิอัลกันหน่อยดิ๊




หน้าตาเป็นเยี่ยงนี้เอง นี่ก็แพงเน่อะ เพราะดุกล่องดิเล็กจัง หลอดข้างในคงจะไม่ใหญ่ ราคาลืมถามง่ะ
แกบอกว่าถ้าช่างยืดเก่ง ผมออกมาพริ้วสวยแน่นอน แต่ถ้ายืดไม่เป็น หุ หุ ถึงแพงแค่ไหนก็หยิกนะ นึกภาพตามแล้วสงสารผมจังง่ะ


2 ตัวนี้ขายดีต่างกัน อยู่ที่แม่ค้าเชียร์แกบอกถ้าแกเชียร์ลอลิอัล ชิฯก็จะขายไม่ได้เลย แต่ถ้าเชียร์ชิฯ ลอลิอัลก็มะออก อืมๆๆแม่ค้าก็มีส่วนเนอะ
แต่แกจะดูสภาพผมและถามลูกค้าก่อนแหละ แต่ถ้าลุกค้าต้องการก็ตามใจลูกค้า ก็ต้องอย่างงั้นแหละเจ๊


ตัวต่อไปไม่ถึงพันนะ เจ็ดร้อยหรือเปล่านะ แต่ก็คุณภาพรองลงมาไม่น่าเกลียดนะ ถ้ายืดดีๆก็สวยล่ะ



คุณสมบัติไม่รู้ เพราะเราก็ไม่เคยใช้ แต่แกบอกว่าดีมากกว่าตัวถูกทั้งหลาย ช่างก็ยืดง่ายด้วย บอกไม่รู้แล้วรู้ได้ไงยะ..อ๋อ ก็เดาจากราคาไง ...พูดง่ายจัง 5555++

ตัวต่อมาน่าจะเคยเห็นกันนะ เวลล่า ไงแต่เราก็เพิ่งเคยเห็นที่ร้านเจ๊น่ะ



ยี่ห้อนี้หลากหลายหน่อย มีทั้งตัวแพงและตัวถูกลดหลั่นกันลงไป แล้วแต่งบในกระเป๋าเน่อะ แต่คุณภาพก็ต่างกันด้วยนะจ้ะ แพงสุดน่าจะเป็นสีเทาๆเงิน เพราะดูไฮโซกว่ากล่องสีขาว

ต่อๆๆ มองจากมุมบนดูสิ ยี่ห้อๆไรเนี่ยไม่เคยเห็น แต่ขอโทษที่ร้านขายดีนะร้านทำผมเค้ามาซื้อกันไปทำให้ลูกค้า ก็ตามราคาดีหน่อยก็ราคาแพงหน่อย ถ้าอยากได้ถูกก็มีเดี๋ยวช่างจัดให้จ้า
ก็ให้กำไรเค้าหน่อยเถอะอุปกรณ์ก็ขึ้นราคาเป็นแถว...แล้วเราเป็นอะไรกับเค้าเนี่ย




ใกล้ๆหน่อย



อันนี้ลอแลนกับดีแคช น่าจะใช่นะ เราเคยซื้อกล่องเขียวๆมายืดเองนะ รู้สึกเป็นแบบธรรมชาติ ผมมันจะไม่ตรงแต่ก็ดีกว่าไม่ยืด
ตอนนั้นผมเราดัด มันคลายไม่หมดน่าเกลียดมาก เจ๊เฟียร์บอกให้เราเอาตัวนี้ไปยืดดู ผลออกมาก็ชอบนะมันจะแบบไม่ตรงมาก แล้วผมเราตอนดัดดันไปเล็มซะสั้นเลยออกมาชี้ๆ แต่ชอบนะ เจ๊แกบอกดีนะเค้ากำลังฮิตไม่งั้นล่ะเอ็ง พูดไม่ออกเลย..ง่า


หมดยังหว่า
อ้อ..เหลืออีกรูปสุดท้ายแล้ว ยี่ห้ออะไรไม่รู้ รู้จักแต่เบอรีน่า แต่ก็ไม่เคยใช้ นี่ก็ขายดีอีกเช่นกัน ร้านทำผมทั่วไปชอบมาซื้อ ร้อยกว่าบาทเองมั้งนะ ถูกๆสุดๆ ทำได้หลายครั้งด้วยแต่เราขอบายก่อนอ่ะ




หมดจริงๆแล้วล่ะ ความจริงมีรูปพวกทรีตเม้นต์ด้วยแต่ขี้เกียจแว้ว งานยังคาอยู่เป็นกองต้องไปทำต่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะโดนมิใช่น้อย สมุดต้นทุนยาอยู่ที่เราด้วย และก็รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีเรื่องหนุกๆ ให้เล่นอีก เอิกกกก

ขอให้สวยๆกันทุกคนนะจ้ะ ขอขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมกันค่ะ
ถ้าการรีวิวนี้ไปกระทบการทำมาหากินของใคร ขอบอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากเขียนเรื่องในสิ่งที่เราชอบเท่านั้นเอง ด้วยความขอบคุณค่ะ





 

Create Date : 23 มีนาคม 2551    
Last Update : 23 มีนาคม 2551 23:51:32 น.
Counter : 8786 Pageviews.  

เบเนฟิท...แน่นอนสิ!




เครื่องสำอาง Benefit หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ หรือเคยใช้มาแล้ว ตอนนี้เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้วค่ะ
เป็นเครื่องสำอางจากซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเพิ่มสีสันและความสนุกสนานแห่งความงามที่ไม่เหมือนใคร ให้แก่คุณสาวๆที่มีคาแรคเตอร์

เพราะรู้ดีว่าสาวๆทุกคนต้องการความสวยงามที่เนรมิตได้อย่างที่ใจต้องการ ความสวยแบบสั่งได้นี้เป็นคุณสมบัติเด่นที่มีอยู่ใน Benefit




หลายคนเคยใช้มาแล้ว แต่ยังไม่รู้ถึงที่มาที่ไปของเครื่องสำอางตัวนี้ มีความเป็นมาน่าสนใจมากๆ เพราะได้ถือกำเนิดโดยสองพี่น้องฝาแฝด Jean-Jane (จีนและเจน)

ดินแดนอันไกลโพ้นในเมืองอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เด็กน้อยคนหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นมาในโรงนา
เอ๊ะ---ไม่สิคะ เด็กน้อย ๒ คนต่างหาก เราเรียกฝาแฝดจึงจะถูก เมื่อแฝดทั้งสองเติบโตขึ้น พวกเธอต่างมีนิสัยชอบทำอะไรแผลงๆทั้งคู่

แฝดผู้พี่จีน ซึ่งแก่กว่า ๓ นาที เคยทำขนมอบ ในขณะที่ใช้สีทาหน้าโดยพึ่งแสงสว่างจากตัวหิ่งห้อย
ส่วนแฝดผู้น้องเจน ใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการนับและกัดลูกเกดแบ่งเป็นครึ่งเม็ด เพื่อนำไปแลกกับ M&M เม็ดปกติของเพื่อเธอ

ครอบครัวฟอร์ดและคนใกล้ชิดทุกคนต่างรู้ดีว่า เด็กที่เต็มไปด้วยจินตนาการทั้งสองคนนี้จะต้องเติบโตป็นผู้ใหญ่ ที่ทำเรื่องวิเศษอย่างแน่นอน

และแล้วเรื่องราวก็เกิดขึ้น



หลังจากทั้งสองคนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอินเดียน่าในปีค.ศ.๑๙๗๐ โดยจีนจบปริญญาด้านศิลปศาสตร์ ส่วนเจนจบปริญญาตรีด้านธุรกิจและการเงิน ทั้งคู่ก็มุ่งหน้าสู่ซานฟรานซิสโก เพื่อตามความฝันกับการเป็นนางแบบและนักแสดง

"ฉันกับน้องสาว เรานะสูงกันมากๆเลยนะ ก็ประมาณ ๖ ฟุต ๑ นิ้วเห็นจะได้ ทำให้หลังจากที่เราเรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่อินเดียน่าก็เลยย้ายไปนิวยอร์กด้วยกัน เพราะหวังว่าจะได้เป็นนางแบบที่ประสบความสำเร็จ" จีนได้พูดถึงอดีตที่ผ่านมา

จากจุดเริ่มต้นของชีวิตเจนผู้น้องบอกว่า
"เราไม่รู้เลยจริงๆว่าเราอยากทำอาชีพอะไรหลังจากเรียนจบ ฉันเรียนมาทางด้านการตลาดและการเงิน ส่วนจีนจบมาด้านศิลปศึกษา แล้วนิวยอร์กเองก็จะดูเหมือนเป็นเมืองที่น่าตื่นเต้น และเต็มไปด้วยโอกาสมากมาย ล่อตาล่อใจพวกเราให้หลงใหลไปกับมันได้เลยนะ"

จีนบอกต่อว่า
"ชีวิตของพวกเราตอนนั้นเรียบง่ายมากเลย เราอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์เล็กๆด้วยกัน ถ้าคุณยื่นแขนออกไปด้านข้างในสุด คุณสามารถแตกำแพงห้องเราได้เลยละ

และเพื่อนบ้านของเราแถวนั้นส่วนมากก็จะเป็นพวกศิลปินที่กำลังตามล่าความฝันของตัวเอง คล้ายๆกับพวกเรานี่ละ"

"ทุกๆวันเจนและจีนก็จะออกไปออดิชั่น ถ้าที่นี่ไม่ผ่านก็จะเปลี่ยนไปที่อื่นอีก แล้วพวกเราก็มักจะถูกปฏิเสธอยู่เสมอ ถึงแม้พวกเราจะทำงานมาหลายที่ก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถหาเงินได้มาก เท่าที่พวกเราตั้งเป้าเอาไว้



ดังนั้นพวกเราจึงหางานระหว่างวันไปด้วย เช่นรับทำความสะอาดบ้านหรือเป็นพนักงานขายของ พวกเราทำงานหลายอย่าง แต่ทำอย่างละนิดอย่างละหน่อย" เจนกล่าว



๒-๓ ปีต่อมา ความฝันก็เป็นจริง เมื่อทั้งสองได้รับเลือกให้แสดงในโฆษณา

จีนบอกว่า
"อีก ๒ ปีถัดมา โอกาสของพวกเราก็มาถึง พวกเราสองคนได้รับเลือกให้แสดงโฆษณาระดับประเทศของผลิตภัณฑ์ Falcon Bath Beads พวกเราตื่นเต้นกันมากเลยค่ะ มันเหมือนกับว่าความฝันของพวกเราเป็นจริงแล้ว"

เจนบอกว่าไม่ได้หยุดแค่นั้น
"จากนั้นเราก็เลยเก็บกระเป๋า ย้ายสัมภาระทุกอย่างลงรถคันผุๆของพวกเรา และมุ่งหน้าไปแคลิฟอร์เนียทันที พวกเราลงหลักปักฐานกันที่ซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นสถานที่ที่เรานำเงินที่ได้จากการเป็นนางแบบโฆษณามาลงทุนทำธุรกิจขนาดเล็กๆของพวกเราเอง"

จีนเสริมว่า
"พวกเราสองคนได้ทำงานให้กับคนหลายประเภท แล้วก็ยังทำงานแปลกๆอีกหลายงานด้วยเช่นกัน แต่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของเราก็คือการมีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง

มีอยู่สองสิ่งที่พวกเราทำได้ดีที่สุด ก็คือการแต่งหน้าเพราะพวกเราได้สั่งสมประสบการณ์จากอาชีพนางแบบ(ซึ่งก่อนจะถึงยุคซูเปอร์โมเดล นางแบบต้องแต่งหน้ากันเอง)

และอีกอย่างหนึ่งก็คือ การอบอาหาร เพราะตั้งแต่โตขึ้นมา พวกเราสองคนก็ชอบเข้าครัวไปช่วยคุณแม่ทำอาหารอยู่บ่อยๆ"




"พวกเราเลยต้องโยนเหรียญออกหัวออกก้อย" เจนพูดต่อว่า "เพื่อตัดสินว่าจะทำธุรกิจอะไรกันดี ซึ่งนี่ก็เป็นที่มาของการทำเครื่องสำอางของพวกเรา พวกเราต้องเลือกระหว่างเครื่องสำอางกับเครื่องอบขนมค่ะ"

จึงทำให้พวกเธอต้องเดินทางไปมาระหว่างแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์กอยู่ตลอดเวลาในช่วง ๒ ปี เป็นการเดินทางเพื่อทำงานในสองฟากฝั่งของอเมริกาทำให้ร่างกายต้องเหนื่อยล้า จนพวกเธอปรารถนาที่จะทำงานที่ใดที่หนึ่ง




และแล้วความคิดบรรเจิดก็ผุดขึ้นในหัว

ทำไมไม่เปิดบูติกขายเครื่องสำอางของตนเอง เครื่องสำอางที่ใช้ประโยชน์ได้จริง และมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สวยงาม ในช่วงที่ทำอาชีพนางแบบของทั้งสอง ทั้งจีนและเจนต่างก็แต่งหน้าเองตลอดเวลา และแลกเปลี่ยนเคล็ดลับความงามระหว่างกันและกัน
ได้เรียนรู้วิธีการผสมสีให้เป็นสีต่างๆที่ดูแปลกใหม่ ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นส่วนผสมที่ดูลงตัว ทั้งหมดคือส่วนผสมที่เพอร์เฟคท์ของความสำเร็จ



จีนเกิดมาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์ ส่วนเจนก็เป็นสาวเก่งในด้านธุรกิจ

จนกระทั่งในปีค.ศ.๑๙๗๖ พวกเธอก็เปิดบูติกของตัวเองเป็นแห่งแรก
"ปีค.ศ.๑๙๗๖ พวกเราก็ได้เปิดร้านขายเครื่องสำอางเล็กๆโดยชื่อว่า The Face Place แถวๆย่าน Misson ในซานฟรานซิสโก"

เจนพูดต่อจากจีนอย่าถ่อมตัวว่า
"พวกเราเป็นแค่เพียงสองสาวจอมเปิ่นจากอินเดียน่า ที่โตมาพร้อมกับความฝันเล็กๆค่ะ"



แล้วบูติกของเธอก็ได้รับการต้อนรับ จนต้องเปิดร้านใหม่ในปีค.ศ.๑๙๘๐ และมีบูติกเครื่องสำอางที่บริเวณอ่าวของเมืองซานฟรานซิสโกถึงสองร้านด้วยกัน เครื่องสำอางของเธอได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้าที่ชอบเครื่องสำอางที่ให้ความสนุกสนานด้วยชื่อที่ฟังแล้วแปลกหูและใช้แล้วเห็นผลทันตา

๑๔ ปีต่อมา ธุรกิจเครื่องสำอางของพวกเธอยังเติบโตอย่างไม่มีท่าว่าจะหยุดนิ่ง ผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษและไม่มีใครเหมือนของพวกเธอ ทำให้บูติกเล็กๆกลายเป็นเครื่องสำอางระดับประเทศ

อย่าง Henri Bendel และ Macy's สองห้าสรรพสินค้าใหญ่เมื่อสองพี่น้องมีความคิดที่จะเปลี่ยนชื่อจาก The Face Place ให้เป็นชื่อใหม่สร้างเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ของพวกเธอ




หลังจากนั้นเจนก็ได้เดินางไปอิตาลี และก็ยินคนพูดว่า

"Bene! Bene!" (เบเน่)
ซึ่งในภาษาอิตาเลียน แปลว่า ดี และแฝดทั้งสองก็พยายามหาชื่อใหม่ของแบรนด์ที่มีคำว่า Bene อยู่แล้ว และเพียงชั่วข้ามคืน เครื่องสำอาง Benefit ก็ถือกำเนิดขึ้น

จากวันนั้น เครื่องสำอาง Benefit ที่อยู่ในตลาดของธุรกิจความงามมาเป็นเวลานาน และได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำเทรนด์ และมักถูกคู่แข่งก๊อปปี้ผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดเวลา

แต่ไม่มีใครทำได้เหมือน







ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังและยาวนาน ทำให้สามารถเข้าไปเป็นหนึ่งในพันธมิตรของกลุ่มผลิตภัณฑ์หรูหราอย่าง LVHM ในปีค.ศ.๑๙๙๙

ในปีนี้ถือเป็นปีฉลองครบรอบ ๓๐ ปี ซึ่งเป็นการครบรอบแห่งความสำเร็จ ที่ได้เติบโตจากร้านเครื่องสำอางเล็กๆ มาเป็นธุรกิจมูลค่ากว่า ๓๐๐ ล้านเหรียญหรัฐ มีมากว่า ๗๐๐ เคาน์เตอร์ ใน ๑๕ ประเทศทั่วโลก

แล้วก็ไม่ผิดไปจากสิ่งที่ครอบครัวฟอร์ดและคนใกล้ชิดเคยคิดเอาไว้ เพราะพวกเขาเห็นความสามารถและศักยภาพที่เต็มเปี่ยมอยู่ในตัวของพวกเธอทั้งสองอย่างแน่นอน

จีนและเจนได้ทำให้ Benefit สามารถครองใจผู้หยิงหลายล้านคนทั่วโลก สามารถทำให้พวกเธอสวยได้ทุกวัน แล้วคุณคิดว่าพวกเธอจะทำได้สำเร็จได้อีกมั๊ย พนันได้เลยว่า...แน่นอนสิ





 

Create Date : 11 มีนาคม 2551    
Last Update : 11 มีนาคม 2551 2:33:56 น.
Counter : 691 Pageviews.  

สิวอาจบอกอะไรคุณได้มากกว่าที่เห็น



เม็ดสิวตามจุดต่างๆ บนใบหน้าใช่ว่าจะเป็นแค่สิว เมื่อเร็วๆนี้สถาบัน Leonard Drake ได้คิดค้นวิธีการวิเคราะห์ผิวที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ด้วยการผสานความรู้ในการดูแลผิวแบบตะวันตกเข้ากับการอ่านศาสตร์ใบหน้าแบบจีน ซึ่งช่วยอ่านได้ไม่เพียงแค่ปัญหาของผิวภายนอกเท่านั้น แต่สามารถบอกได้อีกว่าตำแหน่งของสิวนั้นสะท้อนถึงความไม่ปกติของอวัยวะส่วนใดบ้าง ลองมาดูกันว่าสิวของคุณกำลังบอกอะไร




โซนที่ 1
หน้าผากด้านซ้าย
การย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ต่อมหมวกไต
มีความเครียดสูง ล้างหน้าไม่สะอาด เพราะทารองพื้นหรือแต่งคิ้วมากเกินไป


โซนที่ 2
หว่างคิ้ว
ตับ
อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้) กินรสจัดหรือกินอาหารดึกเกินไป


โซนที่ 3
หน้าผากด้านขวา
การย่อยอาหารและกระเพาะปัสสาวะ


โซนที่ 4
หูด้านขวา
ไต
ล้างแชมพูหรือสบู่ออกไม่หมด ใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป ดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์หรือกินเนื้อสัตว์มากเกินไป


โซนที่ 5
แก้มด้านขวา
ไซนัสและปอด (แก้มส่วนบน)
เหงือกและฟัน (แก้มส่วนล่าง)

สูบบุหรี่จัดหรือแพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นที่ไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้ม อาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ
ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่าง อาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด


โซนที่ 6
รอบดวงตาขวา
ไตและปัญหาภูมิแพ้
เครื่องสำอางที่ใช้อาจไม่เหมาะ หรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคืองอาจมาจากการเป็นภูมิแพ้หรือขาดสารอาหาร


โซนที่ 7
จมูกและเหนือริมฝีปาก
หัวใจและระบบสืบพันธุ์
หากมีผิวสีแดงเข้มที่จมูก อาจบ่งบอกถึงโรคความดันโลหิตสูง การอุดตันหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอบ่งบอกถึงผลกระทบจากฮอร์โมน เช่น กำลังมีประจำเดือน วัยทอง การใช้ยาคุม การมีบุตร


โซนที่ 8
รอบดวงตาซ้าย
ไตและปัญหาภูมิแพ้


โซนที่ 9
แก้มด้านซ้าย
ไซนัสและปอด (แก้มส่วนบน)
เหงือกและฟัน (แก้มส่วนล่าง)


โซนที่ 10
ใบหูซ้าย
ไต


โซนที่ 11
ใต้ริมฝีปากด้านซ้าย
รังไข่
อาจทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือมาจากความไม่สมดุลทางฮอร์โมน หากมีปัญหาอุดตันช่วงใบหู อาจแสดงว่าฟันกรามมีปัญหาหรือเพิ่งผ่าตัดฟันมา หรืออาจเกิดจากการมีรอบเดือน


โซนที่ 12
ปลายคาง
กระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก
อาจกินอาหารรสจัดมากเกินไป จนลำไส้มีปัญหาในการดูดซึม


โซนที่ 13
ใต้ริมฝีปากด้านขวา
รังไข่


โซนที่ 14
ลำคอและหน้าอก
ความเครียด







ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก นิตยสาร marie claire




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2550 1:12:51 น.
Counter : 4623 Pageviews.  

1  2  3  

แพนด้าตัวกลม
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ต้องกล้าที่จะเปลี่ยน ต้องกล้าที่จะเสี่ยง
ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ แต่เราทำไม่ได้เพราะเราไม่ได้ทำ
อุปสรรคทุกคนเจออยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะใช้วิธีไหนแก้ไขมัน
ฉลาดที่จะคิด ฉลาดที่จะพูด ทุกอย่างอยู่ที่ปาก และการกระทำ ^____^ "
Friends' blogs
[Add แพนด้าตัวกลม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.