ใต้เงาพยัคฆ์ บทที่ 1
ใต้เงาพยัคฆ์ บทที่ 1 อากาศเย็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ในอเมริกาไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในสตูดิโอแต่งหน้าโชคดีที่เธอเลือกอาชีพถูก ไม่ต้องออกไปตากลมปั้นหน้าพูดตามบทบาทเหมือนดาราหน้ากล้องด้านนอกแต่ได้ใช้ความสามารถและฝีมือแต่งแต้มรังสรรค์สิ่งที่ชื่นชอบ มาลิกาเกลี่ยสีแดงอมสีม่วงช้ำเลือดช้ำหนองบนผิวเนื้อเทียมที่สร้างขึ้นบนใบหน้าของชายที่หลับตานิ่งแล้วยิ้มน้อยๆ อืม...ไอ้หน้าศพที่เหวอะเละจนจำไม่ได้เพราะถูกค้อนทุบจนยับเนื้อบี้กระดูกโผล่เนี่ยนะเป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบ ใช่อย่างน้อยเธอก็สนุกกับมัน บางครั้งถึงกับขนลุกด้วยความสยดสยองที่เธอแต้มแต่งด้วย หญิงสาวเก็บตกรายละเอียดสุดท้ายแล้ววางแปรงลงบนโต๊ะ เรียบร้อยแล้ว ดาราสมทบผู้แสดงเป็นเหยื่อฆาตกรรมในภาพยนตร์ชุดเกี่ยวกับการสืบสวนชื่อดังของฮอลลีวูดมองตัวเองในกระจกเป็นครั้งแรกแล้วสะดุ้งนิดๆ โอ้ ให้ตายสิมาร์นี่มันน่าขนลุกมาก ฝีมือคุณเยี่ยมยอดเกินไปแล้วหน้าผมอย่างกับโดนรถบรรทุกที่ไหนเหยียบมาอย่างงั้นแน่ะเขาพลิกดูซ้ายขวาก็ยิ่งทึ่งดวงตาเป็นประกายชื่นชมผลงานแต่งหน้าสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่มืออาชีพสาวใช้เวลาในการแต่งถึงสามชั่วโมง ไม่ใช่โดนรถบรรทุกเหยียบ คุณโดนฆาตกรเอาค้อนทุบจนเยินเพราะไม่ต้องการให้ใครจำคุณได้ต่างหากนี่ยังไม่นับบาดแผลภายนอกและการกลบเกลื่อนของฆาตกรอย่างเป็นต้นว่าลอกหนังฝ่ามือเพื่อลบลายนิ้วมือหรือถลกหนังที่แผ่นหลังเพราะไม่อยากให้ตำรวจสืบตัวตนของศพจากรอยสักผืนใหญ่ นั่นแหละเหมือนกัน เละเสียจนผมจำตัวเองไม่ได้ เขายังคงมองกระจกเงาด้วยหนังตาที่ปูดย้อยลงมาตามประวัติการถูกชำเราของศพ ใครมาเห็นก็จำไม่ได้หรอกหญิงสาวหัวเราะเธอเองที่เป็นคนแต่งหน้ายังเห็นความเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังชัดเจนเลย ขอบคุณมากมาร์ไม่เสียแรงที่นั่งหลังขดหลังแข็งให้คุณปะโน่นระบายนี่เสียหลายชั่วโมง ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะเดินไปรอเข้าฉากที่กำลังจะถ่าย มาลิกามองภาพประจำวัน...ชิ้นงานสำเร็จของเธออวดรูปร่างหน้าตาใหม่ให้คนที่อยู่ใกล้ๆดู เธอได้ยินเสียงอุทานและคำชมลอยมาตามลมความสุขใจที่เห็นงานตัวเองออกมาดีเติมเต็มในหัวใจ เธอกำลังจะลุกไปหากาแฟเข้มๆร้อนๆ สักแก้วดื่มเมื่อเงาดำขยับเลื่อนมาตรงหน้า...เงาสองเงาเสียด้วย... มาลิกาเงยหน้าขึ้นเตรียมจะทักทายผู้มาใหม่หากได้แต่อ้าปากค้างน้อยๆ หน้านิ่วครุ่นคิด เพราะคนตรงหน้าดูไม่คุ้นเสียทีเดียว...ไม่สิคนนึงไม่คุ้น แต่อีกคนเป็นคนที่เธอรู้จักห่างๆ เป็นอย่างดี ปู่ของเธอ โทดะเป็นผู้อาวุโสของตระกูลยามากูชิชายเชื้อชาติญี่ปุ่นที่มาตั้งรกรากในเมืองไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน หยั่งรากฐานธุรกิจมั่นคงด้วยการให้ลูกชายคนเดียวแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนสนิทที่มีกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ติดอันดับต้นๆในเมืองไทย เสียแต่ว่าสาวคนนั้นไม่ใช่แม่ของเธอ เขามาทำอะไรที่นี่ทั้งที่ร้อยวันพันปีไม่เคยปรากฎไม่เคยแม้แต่จะติดต่อมา เขาต้องการอะไรจากเธอ มาลิกาลุกขึ้นยืนและเกร็งรออีกฝ่ายเผยความต้องการด้วยความระมัดระวัง มาริ เสียงแหบพร่าเรียกชื่อจริง...ชื่อที่เธอไม่เคยต้องการเปล่งมาจากปากของชายแก่ผมสีขาวโพลนทั้งศีรษะ ไว้หนวดเคราติดเป็นพรืดแต่ขลิบเล็มเป็นอย่างดีเข้ากับชุดสูทสีครีมแบบสามชิ้น แม้ร่างกายจะผอมบางและดูเล็กแกร็นทว่าท่วงท่าที่เขาแสดงออกบ่งบอกว่าชายคนนี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดาหากแผ่รังสีแห่งอำนาจชวนให้ผู้พบเห็นรู้สึกเกรงขาม ยามากูชิ มาริหรือตามชื่อไทยที่แม่ตั้งให้ว่ามาลิกา หรือที่เพื่อนอเมริกันรวมทั้งเพื่อนเรียกสั้นๆว่ามาร์ มองชายแก่ที่เธอเคยเห็นแต่ในรูปภาพก่อนจะเบนสายตา...มองชายอีกคนด้วยหางตา ผู้ชายที่อยู่ข้างกายเป็นเหมือนด้านตรงข้ามของโทดะอายุของเขาน่าจะเพียงครึ่งเดียวของชายแก่ผู้ทรงภูมิ เขาแต่งกายด้วยสูทสีดำเสื้อตัวในก็เป็นสีดำดุจเดียวกันผิวเขาขาวจัดจนเห็นเคราเขียวที่เหนือริมฝีปากและปลายคางเขาคงจะดูดีกว่านี้มากถ้าเขาไม่ทำหน้าบึ้งตึงพร้อมจะกัดคนที่ย่างกรายอาณาบริเวณของเขาได้ทุกเมื่อ คุณต้องการอะไรมาลิกาถามตรงประเด็น เธอจะไม่ยอมเสียเวลามีค่าของเธอกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของยามากูชิเด็ดขาด ผู้เฒ่าโทดะหัวเราะหึๆมุมปากเหี่ยวย่นเพราะกาลเวลายกขึ้นน้อยๆแม้จะไม่เคยได้พบตัวหลานสาวนอกสมรสตัวเป็นๆ แต่มาริก็เป็นยามากูชิทั้งเนื้อทั้งตัวไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่ถอดแบบเขา...และหลานชายคนโต หน้าเหมือนเจ้าอากิระไม่มีผิด...อ้อเสียแต่ว่าดันเป็นผู้หญิงเท่านั้นล่ะ โทดะมองร่างสูงเพรียวตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพินิจพิเคราะห์คิ้วหนาตรงถูกขลิบเล็มเรียบร้อยรับกับดวงตาสีดำกลมโตเป็นประกายเหมือนเพชรดำที่หายากหางตาชี้ขึ้นนิดๆ ดูฉลาดเฉลียว ผมดำหนายาวถึงกลางหลังที่เจ้าตัวรวบไว้ลวกๆอย่างไม่ใส่ใจ จมูกเล็กตรง ริมฝีปากบางเม้มแน่น...ท่าทางไม่พอใจเขาอย่างเห็นได้ชัดคางผ่าตรงกลางเหมือนคางผู้ชาย ซึ่งควรจะทำให้หน้าสวยหวานดูแกร่งกร้าว หากกลับเสริมให้เจ้าตัวดูอ่อนหวานมากกว่าเดิมแล้วไหนจะยังท่าทางไม่กลัวเกรงยืนค้ำหัวเขาอย่างข่มขวัญนั่นอีกขนาดเขามีทาเคตะตัวใหญ่หน้ายักษ์ยืนอยู่ด้วย เขามิต้องกลัวเจ้าหลานบังเกิดเกล้าคนนี้เรอะคิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังยังมาซึ่งใบหน้าที่ยิ่งเรียบเฉยเย็นชาเหมือนน้ำแข็งของหญิงสาว ถ้าคุณไม่มีธุระอะไร ฉันขอตัวก่อนมีงานต้องทำอีกเยอะ เธอเบื่อจะรอ...เบื่อให้เขามองเธอเหมือนสัตว์อนุรักษ์หายากสองขาก้าวเดินออกไป หากนายตัวโตเข้ามาขวางไว้ อย่าเสียมารยาทกับคุณท่านเสียงห้าวลึกดังเป็นภาษาไทยชัดเจนเช่นเดียวกับสีหน้าคุกคามของทาเคตะ มาลิกาเหลือบตามอง...ประสานตากับอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจคล้ายจะบอกว่าช่างมัน ฉันไม่แคร์ หญิงสาวเลี่ยงไปอีกทางแต่ทาเคตะขยับตาม คุณยังไปไม่ได้คุณท่านยังไม่เสร็จธุระกับคุณ มาลิกาข่มใจด้วยความอดทนงั้นก็รีบพูดธุระของคุณมาสิ ฉันมีเวลาไม่มากหรอกนะ อย่าใจร้อนมาริหลานจะต้องมีเวลาให้พวกเรา...ยามากูชิอีกนาน ฉันไม่เคยมีเวลาให้พวกยามากูชิไม่คิดจะมี หญิงสาวยืนยันเสียงกร้าว ตระกูลยามากูชิเคยให้อะไรกับเธอบ้างนอกจากชีวิตใหม่ในอเมริกา ผิดล่ะกฏเปลี่ยนไปแล้วหลานรัก น้ำเสียงและคำทิ้งท้ายของโทดะทำให้เธอเสียวสันหลังวาบ หลานรักงั้นรึน่าหัวร่อจริงๆ เธอไม่เคยเป็นหลานรักของเขา หากมาลิกาหัวเราะไม่ออกเมื่อผู้เฒ่าพูดต่อไป ฉันต้องการให้เธอกลับประเทศไทย ไม่ค่ะฉันไม่เคยคิดจะไปเหยียบประเทศไทย มาลิกาปฏิเสธข้อเรียกร้องที่ไม่เคยต้องการโดยไม่ไตร่ตรองเธอไม่ถามด้วยซ้ำว่าทำไมจู่ๆ ตระกูลยามากูชิถึงต้องการให้เธอกลับประเทศที่เธอจากมาตั้งแต่ยังไม่ออกจากท้องแม่เธอไม่อยากรู้ ไม่ต้องการเกี่ยวข้อง การมาของโทดะรบกวนจิตใจของเธอจนแทบไม่เป็นอันทำงานโชคยังดีที่วันนี้เลิกกองแต่หัววัน ไม่งั้นเธอคงไม่มีสมาธิทำงานให้ออกมาดี...เสียประวัติการทำงานแย่นี่ไม่รู้ว่าแม่รู้เรื่องโทดะหรือยัง เธอไม่อยากโทร.ไปถามเกรงจะทำให้ตัวเองยิ่งหงุดหงิด แต่กลับบ้านคงจะได้คุยกับแม่ยาว หญิงสาวยืนอยู่หน้าทางเข้าสตูดิโอคนเดียวนอกจากกระเป๋าสะพายใบใหญ่ เธอทิ้งกล่องเครื่องสำอางแบบล้อลากไว้ที่ล็อกเกอร์ในสตูดิโอเนื่องจากพอไม่มีรถแล้วขนไปๆมาๆ ลำบาก เธอกอดอกและห่อตัวเมื่อลมพัดผ่านใจนึกก่นด่าคนที่ทำให้เธอต้องมายืนตากลมหนาว เธอมองไปรอบๆ นอกจากรถยนต์ที่วิ่งผ่านประตูหน้าโรงถ่ายภาพยนตร์ยังมีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา หากไร้เงาของโทดะและผู้ติดตามแต่เธอไม่เชื่อว่าเขาจะยอมละความตั้งใจง่ายๆ เขายังไม่ได้บอกเหตุผลที่ต้องการให้เธอกลับประเทศไทยและเธอเชื่อว่าคนอย่างเขาจะได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอเพียงแต่ครั้งนี้คงจะเป็นครั้งแรกที่ยามากูชิได้รู้จักคำว่า ไม่ มาร์ มาลิกาหันไปตามเสียงทักลอเรน สาวผมทองวัยสามสิบสี่ผู้ร่วมอาชีพเดียวกับเธอเปิดหน้าต่างและชะโงกหน้าออกมาจากรถเก๋งคันเก่ง ยังไม่กลับอีกเหรอมายืนอะไรตรงนี้คนเดียว รอเพื่อนอยู่น่ะ ลอเรนร้องอ๋อแล้วยิ้มกว้างอย่างมีเลศนัยแพตล่ะสิ อื้อ โอเค เธอมีเทพบุตรมารอรับแล้วฉันจะได้ไม่ต้องห่วง ฉันไปก่อนล่ะ ฝากหวัดดีแพตด้วย มาลิกาโบกมือตอบ คร้านจะแก้ต่างว่าเทพบุตรแพตเป็นเพียงเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นเพราะเคยบอกเพื่อนไปหลายครั้งแล้วแต่เพื่อนกลับไม่เชื่อการนิ่งเงียบเลยดูจะเป็นคำตอบที่ง่ายที่สุด...แม้มันจะดูสิ้นคิดไปหน่อยก็เถอะ ดวงตาสีดำทอดมองออกไปรถวิ่งผ่านไปมา บางคันก็จอดรอเสียนาน...กระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเธอก้มมองนาฬิกาข้อมือ เลยเวลานัดมาสิบห้านาทีแล้ว ทำไมยังไม่มาเสียทีหนาวจะตายอยู่แล้วเนี่ย หากบ่นไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์มือถือก็เรียกความสนใจของหญิงสาวได้เธอส่ายหน้านิดๆ เมื่อเห็นชื่อผู้โทร. เธอกดรับสายและทักทายด้วยน้ำเสียงอดทน อีกนานไหมปัตถ์ ปัตถ์หรือที่เพื่อนฝรั่งมักเรียกคล่องปากว่า แพตเขาเป็นเพื่อนของเธอ รู้จักสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นลูกชายคนเดียวของชบาเพื่อนสนิทของมาลินมารดาเธอ บ้านของพวกเขาอยู่ติดกัน เรียกว่าเธอรู้จักเขามาตั้งแต่เกิดเลยทีเดียวเขาทำงานเป็นสไตลิสต์ในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง และเพราะที่ทำงานของเขาอยู่ใกล้กับเธอเขาจึงแวะมารับเธอกลับบ้านเนื่องจากรถของเธอเสียเมื่อหลายวันก่อนและยังซ่อมแซมไม่เสร็จเธอไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเขาเลย ใกล้จะถึงแล้ว ไม่เกินห้านาทีพอดีแม่ฝากซื้ออาหารจีน ที่ร้านคนเยอะเลยรอนานไปหน่อย ขอโทษที ไม่เป็นไรเข้าใจแล้วละ รออยู่ข้างหน้าที่เดิมนะ แล้วเจอกัน มาลิกาวางสายเธอรอไม่นานเกินห้านาทีอย่างที่เขาบอก มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูสีดำคันใหญ่ก็จอดเทียบข้างเธอคนขับดันหน้ากากหมวกกันน็อกขึ้น เปิดเผยดวงตาสีดำล้ำลึก ผมสีดำยาวระบ่าที่ถูกกัดและย้อมเป็นสีทองซุกซ่อนอยู่ภายใต้หมวกสีเข้ม ขอโทษที่ทำให้รอนานเขาส่งหมวกกันน็อกอีกใบให้เธอ หญิงสาวสั่นหน้าไม่เป็นไร เหตุสุดวิสัยนี่ เธอสวมหมวกแล้วขึ้นคร่อมซ้อนท้ายและไม่ลืมที่จะเกาะเอวเขาแน่นมอเตอร์ไซค์เคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ผ่านหน้ารถยนต์อเมริกันสีเงินซึ่งขับตามพวกเขาไปไม่ห่าง มาลิกาไม่รู้ว่ามีคนขับรถตามแต่เธอนิ่วหน้าเมื่อปัตถ์เลี้ยวรถออกนอกเส้นทางแถมยังขับวนไปวนมาอย่างน่าสงสัย เราไม่ได้จะกลับบ้านหรอกหรือเธอตะโกนถามเสียงอู้อี้ลอดออกจากหมวกกันน็อกผสมกับเสียงรถวิ่งบนถนนแล้วฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง หากปัตถ์พอจะเดาได้ว่าเธอกำลังพูดอะไรเขาเริ่มรู้สึกตัวมาสักพักแล้วว่ารถเก๋งสีเงินติดฟิล์มดำด้านหลังขับตามพวกเขา และยิ่งแน่ใจว่าสังหรณ์ของเขาเป็นจริงเมื่อเขาเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาตามซอกซอยที่เขาหลบเข้ามาโดยมีรถคันนั้นตามมาไม่ห่าง มีคนตามเรามาชายหนุ่มบอกเสียงดังพลางชี้นิ้วให้เธอมองกระจกด้านข้างเผื่อว่าเธอจะฟังไม่ออก มาลิกามองตามเธอสังเกตเห็นสีเงินเบี่ยงหลบไปด้านหลังแวบๆและเธอเริ่มจะเข้าใจที่ปัตถ์พยายามสื่อ ใครตามพวกเขากัน หญิงสาวคอยมองกระจกอย่างระแวดระวังทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้สึกตัว ถอยร่นไปด้านหลัง ก่อนจะหายวับไปจากคลองจักษุ มาลิกาเอี้ยวตัวไปดูรถคันนั้นหายไปแล้วจริงๆ พวกเขาต้องการอะไร ปัตถ์ขับรถพาเธออ้อมโลกกว่าจะถึงบ้านของพวกเขาก็ช้ากว่ากำหนดไปมากกว่าครึ่งชั่วโมง หากทันทีที่จอดมอเตอร์ไซค์และลงมายืนบนพื้นเรียบร้อยมาลิกาก็มองเห็นรถยนต์สีเงินคันเดิมเคลื่อนออกจากซอยมาจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของเธอเธอเกร็งตัวรอรับสถานการณ์ คนสองคนลงจากรถ ทั้งคู่เป็นคนที่เธอจำได้เป็นอย่างดี ยามากูชิ โทดะและบอดีการ์ดของเขา เธอหนีเขาไม่พ้น! บ้าชิบ พวกมันตามมาได้ยังไงปัตถ์สบถลั่น เขารอดูทีท่าของทั้งสองซึ่งกำลังเดินตรงมาทางพวกเขา นี่พวกมันต้องการอะไร มาลิกาถอนหายใจ ฉัน เธอตอบ อะไรนะปัตถ์คิดว่าตัวเองหูเฝื่อน เขาต้องการฉัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรมาร์ชายหนุ่มร้อง เขามองเธอทีและคนแปลกหน้าทีอย่างไม่เข้าใจ ยามากูชิ คำตอบของมาลิกาสร้างความตื่นตะลึงแก่ปัตถ์เขารู้จักตระกูลยามากูชิ ไดกะพ่อของเขาทำงานให้พวกยามากูชิ เป็นคนสนิทของฮายาโตะพ่อของมาลิกาแต่สุดท้ายแม่บอกว่าพวกเขาไปด้วยกันไม่ได้ แม่เลยพาเขาย้ายมาอยู่อเมริกาพร้อมกับมาลินแม่ของมาลิกา แล้วพวกเขาก็อยู่กับสองครอบครัวดุจพี่ดุจน้องมากว่ายี่สิบแปดปี พวกเขานั่นละยามากูชิ เธอพยักพเยิดไปยังทั้งสอง พวกเขาต้องการเธอไปทำอะไร เห็นว่าอยากให้กลับประเทศไทย เพื่ออะไรยิ่งฟังเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไม่รู้สิหญิงสาวยักไหล่ ไม่สนใจเลยไม่ได้ถาม ปัตถ์ยืนตัวเกร็งอยู่ข้างๆไม่แน่ใจว่าจะตอบสนองคนฝ่ายบิดาที่เขาไม่เคยเจอหน้าอย่างไรดี มาลิการอจนพวกเขาเดินมาหาเธอแล้วเอ่ย กลับไปซะเถอะเสียเวลาเปล่า ประเทศไทยไม่เคยอยู่ในแผนการชีวิตของฉัน ฉันมาหาแม่ของเธอมาริ โทดะตอบแล้วเดินผ่านหลานสาวไปทาเคตะเป็นคนกดกริ่งเรียกเจ้าของบ้านอย่างรู้ใจ แม่ไม่มีวันต้อนรับคุณหญิงสาวเดินตามเขา...พยายามจะขัดขวาง แต่นายยักษ์ทาเคตะขยับมายืนกั้นใช้ร่างที่สูงกว่าข่มเธอ มาลิกาหงุดหงิดที่ต้องแหงนมองเขาทั้งที่เธอก็จัดว่าเป็นผู้หญิงสูงมาก ทว่าก็ยังเตี้ยกว่าทาเคตะหลายเซนติเมตร เดี๋ยวก็รู้ มาริอย่าเพิ่งคาดเดาไป หลานยังไม่รู้อะไรอีกหลายอย่าง ดวงตาสีดำคมปลาบตวัดมามองเธอ มาลิกาถึงกับหนาววูบๆวาบๆ ไปถึงสันหลัง มาลินเปิดประตูออกหากดวงตาสีน้ำตาลคู่งามถึงกับเบิกกว้างอย่างลืมตัวเมื่อเห็นว่าแขกคนดังกล่าวเป็นใคร คุณท่านเธอกระซิบ ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง แม่คะ มาลิกาขยับเข้าไปยืนประกบมารดาหมายปกป้องจากใครก็ตามที่เคยทำร้ายแม่ในอดีต มารีมาลินพูดไม่ออกเมื่อเห็นลูกสาว...พร้อมหน้ากับประมุขตระกูลยามากูชิ ลูก...ลูกเจอคุณปู่แล้ว ลินเราเข้าไปคุยข้างในกันเถอะ ก่อนจะหันไปทางปัตถ์ที่ยืนงงทำอะไรไม่ถูก ปัตถ์ ไปตามชบามาที่นี่ด้วยเขาสั่งนิ่มๆ บอกไปว่ายามากูชิ โทดะมาหา เอ่อ... ปัตถ์อึกอักเพราะยังไม่แน่ใจว่าแม่ของเขามาเกี่ยวอะไรด้วยนอกจากนี้ยังงุนงงที่อีกฝ่ายทราบชื่อคนไม่สำคัญอย่างเขา ทำตามที่คุณท่านสั่งเสียสิคำสั่งแค่นี้ไม่น่าจะยากเกินไปนะ ทาเคตะเหน็บ ปัตถ์สบตามาลินและเพื่อนสาวมาลิกาขึงตาใส่ห้ามๆ หากมาลินพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงอนุญาต เขาลังเลเพียงแวบเดียวก่อนจะตัดสินใจเลือกคำสั่งของผู้อาวุโสจึงรีบผลุนผลันกลับบ้านเพราะไม่อยากปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันนานเกินไป ให้ตายสิถึงขนาดตามตัวแม่เขาด้วย นี่คงจะเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้วละ มาร์เอ๋ยเธอแย่แน่คราวนี้
10 ต.ค. 56 สวัสดีค่ะ มิถุนาหายหน้าไปนานมาก...น่าจะปีกว่าแล้วยังจำกันได้ไหม หวังว่าจะยังพอจำกันได้นะคะ ที่หายไปก็ไม่ใช่อะไรค่ะ พอดีเปลี่ยนงานใหม่เลยออกจะยุ่งๆ ไม่ค่อยมีเวลามากเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ยังคิดถึงความรู้สึกตอนแปะนิยายและทักทายผู้อ่านเลยแวะมาแปะนิยายเรื่องใหม่ก่อนจะหมดปีนี้เสียก่อน หวังว่าผู้อ่านจะเป็นกำลังช่วยผลักดันให้มิถุนาขยันๆมากกว่านี้ เรื่องนี้แต่งขึ้นด้วยความรู้สึกหลายอย่างค่ะโดยเริ่มต้นมาจากอาชีพของมาร์หรือมาริที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรียลิตี้โชว์ชื่อ Face Off เกี่ยวกับนักแต่งหน้ากองหนังกองภาพยนตร์และความชอบส่วนตัวที่อยากแต่งนิยายที่มีตัวละครเยอะๆ ซับซ้อนอีกครั้ง(ถ้ายังจำกันได้ในรัตติลวง ซึ่งก็จะเป็นแนวๆ นั้นเลยแต่เรื่องนี้จะกุ๊กกิ๊กกว่าค่ะ) แค่เริ่มต้นก็มีพรรคพวกเพียบแล้ว รอติดตามกันต่อนะคะว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงมายังไงและมีอะไรใครขบคิดกัน ผังตัวละครจะตามมาในไม่ช้าค่ะ ฝากนิยายเหมือนเคยค่ะ มิถุนา บล็อกรวมนิยาย (และเรื่องจิปาถะ) //mithuna.bloggang.com มิถุนา Bloggang แฟนเพจน้อยๆ https://www.facebook.com/MithunaNiyay มิถุนา Facebook อ่านนิยายตัวโตๆ สะใจได้ที่ //my.dek-d.com/Mithuna/control/writer.php มิถุนา Dek-d
ผังตัวละคร
Create Date : 10 ตุลาคม 2556 | | |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2557 23:59:58 น. |
Counter : 1390 Pageviews. |
| |
|
|
|