Group Blog
 
All blogs
 
กรงพยัคฆ์ บทที่ 1

กรงพยัคฆ์ บทที่ 1

มีคนบอกว่าเวลาจะช่วยเยียวยาบาดแผลแต่อคินไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะผ่านมาหนึ่งปี สามปี หรือสี่ปี เขาก็ยังไม่ลืม ทุกอย่างยังจดจารอยู่ในความทรงจำของเขา

ยูคาริแม่...และปู่

ทุกคนเป็นคนที่เขารักและบูชา

ยูคาริเป็นคนรักเขาเธอเป็นคนน่ารัก อ่อนหวาน เธอเคยเป็นแสงสว่างเดียวในชีวิตของเขา เธอทำให้เขามีความสุขพวกเขากำลังจะใช้ชีวิตร่วมกันถ้าไม่เกิดเหตุร้ายกับเธอเสียก่อน เธอถูกลูกหลงในเหตุการณ์บาดหมางระหว่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลอย่างยามากูชิกับเลเบดมาเฟียรัสเซียที่ล่มสลายไปตั้งแต่ปีก่อน เพราะแผนการณ์ระหว่างแม่ของเขากับเลเบดไม่สัมฤทธิ์ผลไม่มีใครคิดว่าคนที่ลอบฆ่าเขามาหลายครั้งจะเป็นแม่ แม่ที่เกลียดเขาเพราะเขาเป็นหลานของปู่โตมากับการเลี้ยงดูของพ่อและปู่ บุคคลที่เธอเกลียดเป็นอย่างยิ่ง

โทดะเป็นคนที่เขาผิดหวังและเสียใจมากที่สุดเขารู้ว่าปู่ไม่ใช่คนดีและบริสุทธิ์ โทดะทำเรื่องเลวร้ายมามากเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแต่สิ่งที่โทดะทำให้แม่กลายมาเป็นทำให้เขายอมรับไม่ได้ เขาโกรธปู่แต่คนที่เขาโกรธที่สุดคือตัวเขาเอง เขาทอดทิ้งแม่จนแม่กลายมาเป็นผู้หญิงเคียดแค้น นับตั้งแต่เดินออกจากยามากูชิแม่ไม่เคยติดต่อเขาอีกเลย และเขาคิดว่าแม่คงจะลืมลูกชายคนนี้ไปแล้ว

และไม่ว่าโทดะจะพยายามแก้ตัวอย่างไรเขาก็ไม่อาจจะยอมรับได้ เขาทำใจไม่ได้ โทดะทำตัวราวกับไม่ใช่ตาเฒ่ายามากูชิตัวแสบ หลังจากส่งมอบยามากูชิให้เขาโทดะก็เป็นเหมือนคนแก่เกษียณงานคนหนึ่ง ตอนแรกเขาไม่คิดว่าโทดะจะทำได้ทว่าโทดะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยามากูชิอีกเลย ปล่อยยามากูชิไว้ในกำมือเขาให้เขาจับปั้นแต่งได้ตามใจชอบ ไม่ขัดขวางแม้ว่าเขาจะเลิกธุรกิจผิดกฏหมายหรือกึ่งผิดกฏหมายแล้วเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจสีขาวเขาได้เดินหน้าตามความตั้งใจที่เกิดขึ้นหลังการตายของยูคาริ เขาควรจะมีความสุขหากเขากลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เขาทำเพราะมันเป็นหน้าที่ สมาชิกยามากูชิยังต้องพึ่งพาเขาพวกที่อยากจะทำงานสะอาดก็สมัครใจอยู่กับเขาแต่ก็มีคนบางกลุ่มที่ไปเข้าพวกกับแก๊งใหม่ที่ผงาดขึ้นมาแทนที่เลเบด จนเขาสังหรณ์ว่ามันคงจะไม่มีวันสิ้นสุดเพราะอำนาจนั้นหอมหวาน ใครๆ ก็อยากจะครอบครอง เหมือนอย่างเช่นที่โทดะเป็น...หรือเคยเป็น...

“ห้างสวยนะ”

อคินหันไปเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยริมฝีปากที่มักจะเม้มตรงเผยยิ้มนิดๆที่มุมปากเมื่อพบว่าผู้ทักคือเพื่อนรักที่เขามีแทบนับคนได้

“ขอบใจที่มาหยูหลง”

ซือหยูหลง หรือในชื่อไทยว่านรสิงห์ผู้บริหารใหญ่ของโกลเดนไลออนกรุ๊ป ที่ใครๆ ก็รู้จักในนามมังกรหยกเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ร่วมมือเปลี่ยนแปลงการจัดการ กวาดล้างสิ่งผิดกฏหมายภายในกลุ่มร่วมกับเขา

“เรื่องแบบนี้ฉันไม่พลาดหรอก”นรสิงห์หลิ่วตากวนๆ เขาได้รับเชิญให้มางานเปิดตัว ดิ ลักซ์ห้างสรรพสินค้าหรูระดับหกดาวแห่งแรกในเมืองไทย ซึ่งเป็นโครงการที่เพื่อนเตรียมการมากว่าสี่ปีนับเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดรวมเอาร้านค้าและผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังติดดาวจากทั่วโลกมาไว้ในที่เดียวกันกลุ่มเป้าหมายนอกจากจะเป็นผู้มีอันจะกิน ยังมีคนเมืองที่ต้องการเสพและลิ้มลองสินค้าหรูหรือสินค้าต่างประเทศที่หาที่ไหนไม่ได้

“ถูกต้องต้องขอบคุณที่เฮียคินยังไม่ลืมเชิญฮัว” ซือหยูฮัวหรือพัณณิน น้องสาวของนรสิงห์ก็เป็นหนึ่งในแขกพิเศษที่ได้รับเชิญเธอกระโดดเกาะแขนเจ้าของห้างอย่างสนิทสนม ตามประสานิสัยร่าเริงและช่างหยอกล้อของเธอ

“พี่คงไม่มีทางลืมฮัวไปได้หรอก”ถึงพวกเขาจะไม่ได้เป็นคู่หมั้นกันอีกแล้ว แต่ใครๆ มักจะคิดว่าพวกเขายังเป็นอยู่เพราะบางครั้งเขายังควงเธอไปไหนต่อไหน ใช้เธอเป็นกันชนผู้หญิงคนอื่น และเธอเองก็ไม่รังเกียจเสียด้วย

จากนั้นอคินก็ทักทายน้องสาวคนละแม่...ฝาแฝดคนละฝาของเขา

“สวัสดี มาร์”

“หวัดดี”มาลิกาตอบกลับชนิดนับคำได้ เธอไม่ได้โกรธเกลียดเขา เพียงแต่ไม่สนิทกับเขาเธอไม่ใช่คนจะจี๋จ๋ากับคนที่ไม่สนิท แม้จะรู้จักเขามาหนึ่งปีแต่ก็พบเขาแทบนับครั้งได้ มันราวกับพวกเขาไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเธอโตขึ้นมาโดยรับรู้ว่ายามากูชิเป็นคนที่ทำให้แม่ของเธอเจ็บปวดและโทดะยังอยู่กับเขา เธอยังไม่ให้อภัยโทดะ แม้เขาจะพยายามทำดีกับเธอ นอกจากนี้เธอยังรู้สึกว่ามีกำแพงขวางระหว่างเธอกับอคินเธอเข้าไม่ถึงเขา ไม่เหมือนเธอกับไหม น้องสาวแท้ๆของอคินที่พวกเธอเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

“เซธกับเกรซเป็นยังไงบ้าง”เขาถามถึงหลานชายและหลานสาวฝาแฝดที่เพิ่งอายุได้สองเดือนเขาเคยพบหลานเพียงสองครั้ง ครั้งแรกตอนพวกเขาเกิดและครั้งที่สองเมื่อเดือนก่อนตอนนรสิงห์ชวนเขาไปคุยธุระงานที่บ้านจุดมุ่งหมายแท้จริงไม่ใช่เรื่องงาน แต่อยากอวดลูกให้เขาเห็นเนื่องจากมาลิกาไม่ยอมพาลูกไปเหยียบยามากูชิและอคินจะไม่เอ่ยปากขอมาที่บ้านของเขาเองถ้าเขาไม่ชวน

“สบายดีนอนเก่ง กินเก่ง อึเก่งด้วย” นรสิงห์ตอบด้วยความภูมิใจ ใบหน้าที่มักจะเย็นชาสว่างไสวเพราะรอยยิ้มยามพูดถึงสายเลือดของเขา

“ดีแล้ว”อคินตอบสั้นๆ เขาแทบไม่มีความรู้เรื่องเด็ก แต่ลองถ้าเพื่อนยิ้มได้ก็แสดงว่าเป็นเรื่องที่ดี

“ยิ่งโตยิ่งหน้าเหมือนฉัน...หมายถึงเกรซนะแต่เซธหน้าเหมือนมาร์” แฝดทั้งสองเป็นแฝดที่เกิดจากไข่คนละฟอง ผู้เป็นพ่ออวดขึ้นอย่างปลาบปลื้มซึ่งเรียกรอยยิ้มจากอคินเป็นอย่างดี จนเขาอดไม่ได้พูดกลับไปว่า

“ไหนตอนแรกบอกว่าหน้าเหมือนลิง”

นรสิงห์ทำหน้าปูเลี่ยนกระอักกระอ่วนกับความจริงที่เพื่อนโยนใส่ ถูกของอคิน สีหราชกับเกสรีตอนเกิดดูเหมือนลูกลิงไม่มีผิดทั้งตัวแดง ขนดก ผิวย่น และหน้าตาน่าเกลียด สมกับคำโบราณที่ให้เรียกเด็กทารกว่า ‘น่าเกลียดน่าชัง’เป็นอย่างยิ่ง

“ตอนเกิดน่ะใช่ตอนนี้ไม่เหมือนแล้ว” เขาตอบอ่อยๆ

“ใช่ ตอนนี้เหมือนนายกับมาร์”อคินย้ำคำตอบของเพื่อน

“อาทิตย์หน้าว่างๆก็แวะมาเยี่ยมสิ” นรสิงห์ชวน อคินไม่ใช่คนเลวเหมือนโทดะเขาอยากให้มาลิกาได้รู้จักอคินเหมือนที่เขารู้จักถึงอคินจะพยายามปิดกั้นตัวเองจากคนอื่น แต่โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น

นรสิงห์กระตุ้นเมื่อเพื่อนยังทำนิ่งๆ

“นายไม่ได้เห็นหน้าเซธกับเกรซมาจะเดือนแล้วนี่เด็กๆ โตเร็วนะ รับรองว่าไม่เหมือนตอนหนึ่งเดือนก่อน”

“หมายความว่าหน้าห่างไกลจากลูกลิงใช่ไหม”อคินแซวต่อ นรสิงห์อาจจะเป็นคนเดียวที่เขาเปิดใจด้วย พวกเขาอยู่เคียงข้างกัน เผชิญปัญหาเดียวกันและลำบากร่วมกันมานานเหลือเกิน

“ฉันพูดแค่ครั้งเดียวนายก็เอามาล้อไม่เลิกเลยนะ”

“ฉันว่าฉันได้ยินมากกว่าหนึ่งครั้งนะ”อคินแย้งก่อนจะหันไปหาคนสนับสนุน “ใช่ไหม มาร์ ฮัว”

“ถูกของเฮียคิน”

“ใช่ วันแรกๆน่ะ เอาสงสัยอยู่นั่นแหละว่าลูกลิงจะกลายเป็นลูกคนได้ยังไง” มาลิกาค้อนใส่สามีทำเอาอคินยิ้มกว้างอีกครั้ง นับเป็นเรื่องประหลาดสำหรับใครๆที่เห็นเขายิ้มมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่มันเป็นเรื่องปรกติเมื่อเขาอยู่กับเพื่อนรักและครอบครัวเขารู้ว่าเขาถูกสื่อมวลชนถ่ายรูปช็อตนั้นไปหลายช็อต แต่เขาไม่สนใจจะรักษาภาพลักษณ์อันน่าเกรงขามเขามีความสุขมากเกินไป

“โธ่ มาร์ ผมแค่พูดความจริง”เขาโอด

“เหอะ ความจริง”เธอค้อนใส่อีกครั้ง

“เห่อน่าดูเลยนะคนนี้”อคินสบตาน้องสาวและอดีตคู่หมั้นแล้วพยักพเยิดไปทางเพื่อน

“เห่อสุดๆ ค่ะ คุณพ่อคนนี้” มาลิกาสนับสนุน เธอรู้ว่านรสิงห์จะเห่อลูกเพราะตั้งแต่เธอท้องเขาก็เอาใจใส่เธอและลูกมาตลอด แต่เมื่อลูกเกิดความสนใจของเขาก็ไม่ลดหย่อน กลับยิ่งมากขึ้น อาจจะพอๆกับโทดะที่ชอบมายุ่งกับลูกของเธอ...และเธอ เพียงแต่มันทำให้เขาดูน่ารักเพราะเขาเป็นพ่อของลูกๆ เธอ ไม่ใช่โทดะที่เธอรังเกียจ

“เห่อมาก ฮัวขอยืนยันอีกเสียง ฮัวอยู่กับเฮียหลงมาตั้งนานยังไม่เคยเห็นว่าเฮียหลงจะเห่อใครหรืออะไรขนาดนี้” พัณณินพูดและไม่ลืมเสริมว่า “อ้อเว้นอาซ้อไว้หนึ่งคนนะคะ เฮียหลงน่ะไม่เคยลืมเห่อซ้อมาร์แม้จะมีเซธกับเกรซแล้วก็เถอะ”

“ดีมากฮัว” นรสิงห์ตบไหล่น้องสาวเบาๆฐานที่ช่วยทำคะแนนโปรดปรานให้เขา ก่อนจะหันไปทางเพื่อน

“แล้วเมื่อไหร่นายจะมีลูกลิงของนายสักที”เขาเชื่อว่าผู้หญิงจะทำให้เพื่อนเปลี่ยนไปเหมือนอย่างที่ยูคาริทำให้อคินตัดสินใจครั้งใหญ่กับการบริหารยามากูชิเขาจะรอดูหน้าคนที่จะมาเยียวยาเพื่อนของเขา

“ไม่รู้สิ แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้”

“สักวันนายจะได้เจอคนของนาย”

“คนของฉันตายไปแล้ว”

“แต่นายยังมีชีวิตอยู่”

“แล้วยังไงล่ะ”ใบหน้าของอคินดูราวกับฉาบไปด้วยน้ำแข็ง เขาไม่แคร์อะไรทั้งนั้น

นรสิงห์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ“นายจะทำตัวเป็นคนไร้หัวใจแบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอกนะ”

“มันก็ไม่แน่นักหรอก”

“อย่างนั้นรึฉันยังสงสัย”

“แต่ฉันไม่สงสัยตัวเองแม้แต่นิดเดียว”

หากน้ำเสียงของอคินฟังดูสิ้นหวังเหลือเกิน

รินวิฬาร์รู้ว่าย่าจะต้องเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเช่นเคยพอกล่อม...ไม่สิ พอกระตุ้นพวกเขาเรื่องงานได้สำเร็จก็สั่งให้เริ่มงานเลย ทุกอย่างได้ถูกเตรียมการไว้หมดแล้วไม่เว้นกระทั่งข้อมูลและการทำความรู้จักกับเหยื่อ

‘อะไรน่ะย่าจ๋า’

‘บัตรเชิญไปงานเปิดตัว ดิ ลักซ์’

‘ดิ ลักซ์?’

‘ตกข่าวได้ไงยายมี่ ดิ ลักซ์ก็ห้างใหม่หรูหราที่สุด ที่กำลังจะเปิดตัวของพวกยามากูชิไง’

‘รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง’

ใช่ เธอรู้ และด้วยเหตุนี้ เธอจึงสลัดคราบแมวขโมยทำผมแต่งหน้า และสวมชุดสวยมาร่วมงานเปิดตัวระดับวีไอพีของห้างหรู ดิ ลักซ์ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นขนาดมากกว่าหนึ่งแสนตารางเมตร และใช้เงินลงทุนกว่าหมื่นล้านบาทนอกจากเป็นห้างสรรพสินค้าที่รวบรวมร้านค้าแบรนด์หรูมาอย่างคับคั่งยังมีร้านอาหารเด่นดังในต่างประเทศมาเปิดให้บริการ ไม่นับอาคารสำนักงานให้เช่าและโรงแรมดิ ลักซูรี โรงแรมระดับหกดาวไม่แพ้ห้าง ใครจะคิดว่าที่ดินสวยๆติดถนนใหญ่ใจกลางเมืองจะถูกซื้อมาเพื่อสร้างห้างใหญ่ขนาดนี้ไม่นับสถาปัตยกรรมอาคารรูปทรงเรขาคณิตสีเงินลออตาอันน่าประทับใจ ความเพียบพร้อมและการบริการของพนักงานก็มาตรฐานสูงเช่นเดียวกับห้างนับได้ว่าพวกยามากูชิเป็นอัจฉริยะในการสร้างเงินสร้างทองจริงๆในวงการอสังหริมทรัพย์ ถ้านับรวมห้างใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการพวกยามากูชิก็แทบจะกวาดธุรกิจไปหมดทุกอย่างแล้ว

“หรูเริดใช่ไหม”

รินวิฬาร์พยักหน้าเบาๆเห็นด้วยกับบิดาที่ยืนอยู่ข้างกาย ศาลทูลเองก็แต่งตัวเต็มยศเช่นกันสูทสีดำหรูของเขาเป็นแบบเรียบง่าย ไม่ดึงดูดสายตาช่างภาพเท่าไหร่นักเขาหวีผมลงมาปรกหน้า จัดให้ยุ่งๆ แต่เป็นธรรมชาติเหมือนทรงผมเฟี้ยวๆของดาราญี่ปุ่น เขายืนควงแขนกับลูกสาว พวกเขาดูราวกับเป็นคู่รักกันโดยไม่ต้องแสร้งการแปลงโฉมทำให้พวกเขาดูเหมาะสมกันอย่างยิ่ง รินวิฬาร์ดูแก่กว่าวัยและไม่เหมือนตัวเองยามแต่งหน้าเข้มและใส่คอนแทกต์เลนส์ตาโตกับขนตาปลอมและวิกผมสีน้ำตาลแบบม้วนลอน เธอแต่งตัวแต่งหน้าตามแบบสาวเมืองกรุง...แบบที่พบเห็นได้ทั่วๆไป

“รวยขนาดนี้ อิทธิพลมากขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่พวกยามากูชิทำแบบนี้ได้นอกจากห้างจะใหญ่โต ยังเปิดตัวอลังการและเป็นงานรวมดาวด้วยนะ”เธอเห็นสามพี่น้องเซอเพนเตหนึ่งในกลุ่มผู้มีอิทธิพลสูสีกับพวกยามากูชิและซืออยู่ในระยะสายตาและลองถ้าเป็นงานของยามากูชิ จะต้องมีพวกซืออย่างแน่นอน

“ที่สองนาฬิกา” ศาลทูลขัดขึ้นมา ตาปรายนิดๆไปตามทิศทางที่บอก ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่อยากให้เป้าหมายจับได้

ลูกสาวมองตามและเห็นใบหน้าของคนที่หลอกหลอนยามเธอหลับนับตั้งแต่เธอเห็นรูปเขาครั้งแรกอคิน ยามากูชิ หรือที่ใครๆ เรียกว่าอากิระเป็นหนุ่มหน้าสวยที่ดูเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง ผมสีรัตติกาลเป็นประกายสีน้ำเงินแปลกตาดวงตาสีดำดุจทะเลไร้ก้นยิ่งทำให้เขาเป็นคนอ่านยาก จมูกเล็กตรงเข้มงวดปลายคางผ่าน้อยๆ ร่างของเขาสูงสง่า เบื้องหลังเขามีชายที่เงียบขรึมยืนแฝงอยู่เบื้องหลังราวกับเป็นเงา เธอจำได้ว่าคนๆ นั้นชื่อปุณณ์เป็นบอดีการ์ดของอคิน ทั้งคู่สวมสูทสีดำ เสื้อตัวในก็เป็นสีดำพวกเขาเป็นสีดำทั้งตัว แม้จะดูคล้ายคลึงกันหากอคินกลับโดดเด่นเหนือปุณณ์และผู้คนที่รายล้อม

แหมพวกมาเฟียนี่แต่งตัวน่าเบื่อชะมัด

รินวิฬาร์ค่อนในใจ พอจะรู้ว่าพวกเขาทำแบบนี้เพราะอะไรถึงพวกยามากูชิจะพยายามทำตัวให้ขาวสะอาด ล้างกิจการเถื่อนออกไป ทว่าพวกเขาก็ไม่ประมาทและอำนาจของพวกเขายังคงเหลืออยู่...เหลืออีกเยอะเสียด้วย ทว่านอกจากบอดีการ์ดแล้วเขาไม่มีใครอยู่เคียงข้างเลย โทดะยามากูชิผู้เป็นปู่ลาขาดจากวงการหลังยกทุกอย่างให้หลานชายคนเดียวส่วนแม่กับน้องสาวก็ย้ายไปอยู่อเมริกา จะมีก็แต่น้องสาวต่างมารดาที่มีใบหน้าเหมือนเขาอย่างกับแกะที่มาร่วมงานนี้แต่เห็นจะเป็นเพราะสามีเป็นเพื่อนสนิทของเขาเลยจำใจมา จากประวัติที่ย่าจ๋าเล่าพวกเขาไม่สนิทกันเท่าไหร่ สามีของน้องสาวเขาดูจะสนิทกับอคินเสียมากกว่าแต่น้องสาวของเขาหน้าเหมือนเขามากจนน่าตกใจ ไม่น่าเชื่อว่ายามากูชิจะปิดข่าวนี้เสียมิดเพิ่งมาเปิดเผยว่ามีสมาชิกยามากูชิเพิ่มขึ้นอีกคนเมื่อราวหนึ่งปีก่อนนี้เอง

แล้วเธอก็เห็นน้องสาวต่างมารดาของเขา ผู้หญิงที่มีหน้าราวกับพิมพ์เดียวกับเขาเดินเข้ามาพร้อมกับหัวหน้าของพวกซือพวกเขาคุยกันอย่างออกรส และน่าจะคุยกันอย่างสนุกสนานด้วยเพราะเธอไม่คิดว่าจะได้เห็นคนอย่างอคินยิ้ม แม้จะเป็นยิ้มนิดๆ ไม่เปิดเผยก็เถอะยิ้มนั้นทำให้หน้าเย็นชาดูหล่อเหลาอย่างไม่น่าเชื่อและเขาไม่ได้ยิ้มแค่ครั้งเดียวเสียด้วย เธอนึกอยากจะเห็นเขายิ้มเต็มปากเต็มตาแต่เธอมั่นใจว่าคงจะไม่มีวันนั้น ชีวิตของเธอสวนทางกับเขาและถึงเธอจะต้องเข้าไปล้วงลึกถึงรังของยามากูชิ เธอคงไม่มีวันได้เผชิญหน้ากับเขาแน่

หญิงสาวเผลอมองเขาเพลิน หากเธอก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆคนที่เธอแอบมองหันมามองเธอบ้าง เธอมั่นใจว่าเขากำลังจ้องเธอดวงตาสีดำของเขาพุ่งตรงมาที่เธอ...ที่ดวงตาของเธอ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจึงยังกล้าสบตาเขาข้ามห้องเธอไม่ควรทำแบบนั้น แต่เธอบังคับตัวเองไม่ได้ดวงตาของเขาแรงกล้าและดึงดูดเสียจนเธอกลัว แต่ในที่สุดเธอก็สั่งให้ตัวเองเบือนหน้าไปทางอื่นและรู้ทีเดียวว่าเขายังมองเธอไม่วางตา

“คุณเสือ มี่จะเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวมานะ” เธอโน้มไปกระซิบ

“เป็นอะไรหรือมี่”ศาลทูลจับได้ถึงความผิดปรกติในน้ำเสียงของเธอ

“สงสัยจะดื่มแชมเปญมากไปหน่อย”รินวิฬาร์เป็นพวกคอแป๊บ...แป๊บเดียวเมา หากรสชาติแชมเปญที่เสิร์ฟก็ช่างอร่อยลิ้นเสียจนอดดื่มไปหลายแก้วไม่ได้ทว่าความจริงที่เกิดกับรินวิฬาร์นั้นไม่ใช่เพราะแชมเปญหรอกที่ทำให้เธอมือไม้สั่นแต่เป็นเพราะอคิน ยามากูชิและสายตาที่แหลมคมประดุจหอกนั่นต่างหาก

“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” เขาถามอย่างไม่แน่ใจ

“ไม่เป็นไร มี่...มี่โอเค”

ในเมื่อเจ้าตัวยืนยันหนักแน่น ศาลทูลก็ไม่ขัดลูกสาวของเขารู้จักขีดความสามารถของตัวเองดี แต่ไม่วายทิ้งท้ายเสียงเบา

“รีบกลับมาละ พ่อยังไม่อยากไปตามมี่ที่ห้องน้ำผู้หญิง”

สวัสดีค่ะ

เป็นยังไงบ้างเปิดตัวสองบทสำหรับเรื่องกรงพยัคฆ์ ไม่ทราบว่าถูกใจเพื่อนๆ นักอ่านกันบ้างไหมในบทนี้มีตัวละครเก่าๆ จากใต้เงาพยัคฆ์โผล่มาให้เห็นหน้าให้หายคิดถึงกันด้วยและแน่นอนว่ายังจะมีบทบาทในบทต่อๆ ไปของกรงพยัคฆ์

แม่แมวน้อยของเราสบตาอากิระแล้วตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ติดตามกันต่อเร็วๆ นี้ค่ะ

มิถุนา

คลิก Like แฟนเพจจะได้ไม่ตกข่าวนะคะ https://www.facebook.com/MithunaNiyay

บล็อกรวมนิยาย (และเรื่องจิปาถะ) //mithuna.bloggang.com

อ่านนิยายตัวโตๆ สะใจได้ที่ //my.dek-d.com/Mithuna




Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2558 18:06:04 น. 0 comments
Counter : 484 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.