Walk in the dark! 6


“พี่ สบายดีไหม กว่าจะโทรติดก็ช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน” เธอจริตเสียงตัดพ้อต่อว่า

“ส-บาย-ดีว่าไง” เขาพูดลากเสียงยาวอย่างอารมณ์ดี

“คืนวันพุธที่ผ่านมาหนูไปขนไม้แบบกับยูคาที่แคนใหญ่ รถมันเกิดเสียกลางทาง ปาเข้าไปสี่ทุ่ม ห้าทุ่มก็ยังซ่อมไม่ได้หนูโทรหาพี่อยู่นะ กะจะให้ไปช่วยหน่อย แต่โทรไม่ติด”

“นายไปซื้อกับใคร”

“พี่ชายของเพื่อนน้องสาวชื่อโชคค่ะ”

“มันคิดนายเมตรเท่าไหร่”

“ไม้แบบเมตรละ30 ยูคา..”

“เฮ่ยนั่นมันแพงมากนายรู้ไหม”

“แต่เขาก็ส่งให้ถึงบ้านขอค่ำน้ำมันเพิ่มอีกแค่ 500”

“เอางี้ วันนี้นายเลิกงานแล้วมาเจอฉันให้รอฉันที่ปั้มน้ำมันตรงทางโค้งเลยแยกแคนใหญ่ไปราว ๆ 1 กิโล

ตกลงตามนั้นนะ

เธอมองหาปั้มน้ำมันตามที่เขาบอกมันเป็นปั้มหัวจ่ายขนาดเล็ก ข้าง ๆ ปั้มเป็นเพิงหมาแหงนขายก๋วยเตี๋ยว เธอหาที่จอดรถที่ไม่เกะกะขวางทางเวลารถเข้า ออกมาเติมน้ำมัน จากนั้นจึงเข้าไปนั่งในเพิงร้านก๋วยเตี๋ยว เจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคนส่งยิ้มให้เธอ

“จะสั่งอะไรไหมครับ”

นอกจากตู้กระจกที่ตั้งโชว์อุปกรณ์ทำก๋วยเตี๋ยว ชามใบโตที่วางซ้อน ๆกัน และหม้อต้มใบใหญ่แล้ว ในร้านก็ไม่มีอะไรที่พอจะสั่งมานั่งทานเล่นฆ่าเวลาได้

“เอ่อ..รอเพื่อนก่อนเดี๋ยวค่อยสั่งค่ะ”

“ครับ ได้ครับ” พ่อค้าพูดอย่างนอบน้อมและยังคงยิ้มกว้าง เธอนั่งรอไม่นานรถบรรทุกกระบะตอนเดียวสีขาวกลางใหม่กลางเก่าก็แล่นมาจอดข้างๆ รถของเธอ พอเขาก้าวเข้ามาในร้านเธอรีบยกมือไหว้

“นายสั่งอะไรรึยัง”

“หนูไม่หิวค่ะ”เขาจึงหันไปสั่งก๋วยเตี๋ยวมาทาน พอคนขายยกชามก๋วยเตี๋ยววางลงตรงหน้าเขาก็ออกคำสั่งแบบวางอำนาจทันที

“มึงไปตามไอ้จืด ลูกน้องไอ้โชคมาให้ที”

“ได้ครับสารวัตร” พูดจบพ่อค้าก็รีบสตาร์ทรถเครื่องแล่นปร๋อออกไปไม่นานก็กลับมา

“เดี๋ยวมันตามมาครับสารวัตร”

“เออ ขอบใจ” ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีก็มีรถเครื่องพร้อมผู้โดยสารซ้อนท้ายมาอีกสองคนเธอจำหน้าได้ทันที เพราะทั้งสามคนคือคนที่นั่งกระบะรถไปขนไม้ในคืนนั้น ทุกคนต่างเดินเจียมเนื้อเจียมตัวเข้ามาในร้านเพิงหมาแหงนยกมือไหว้ทักทายเขาและเธอแล้วก็พากันไปนั่งโต๊ะว่างถัดไป ‘เขา’ ถามเรื่องไม้ทั้งไม้ที่เธอซื้อและไม่ได้ซื้อด้วยน้ำเสียงตรึงเครียดดุดัน

“มึงไปตามลูกพี่มึงมาเดี๋ยวนี้บอกว่ากูอยากคุยด้วย”

“ครับสารวัตร”หนึ่งในนั้นลุกขึ้นไปสตาร์ทรถเครื่อง ที่เหลืออีกสองคนคงนั่งที่เดิมไม่นานเสียงรถเครื่องก็วิ่งเข้ามาจอด

“พี่โชคอาบน้ำเสร็จแล้วจะรีบมาครับ”

“พับผ่าสิแทนที่มันจะรีบมายังจะมีลีลาให้กูคอยอีก” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ ไม่นานเสียงรถบรรทุกหนักๆ ก็วิ่งใกล้เข้ามา พอมันโผล่พ้นแนวโค้งมาเธอก็จำรถสีเทาคันนั้นได้รถที่เธอนั่งไปกับน้องปุ๊กคืนนั้นนั่นเอง เจ้าของคนขับพี่ชายน้องปุ๊กมีสีหน้าตึงเครียดขณะเดินเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยวเขายกมือไหว้ก้นยังไม่หย่อนลงเก้าอี้ก็โดนตวาดเข้าให้

“ไอ้โชคมึงค้ากำไรเกินควร มากไปแล้วนะมึง มึงรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” เธอได้แต่นั่งนิ่งเพราะเธอเองก็วางตัวไม่ถูกยิ่งตอนพี่โชคปลายตามองเธอถึงกับหลบสายตา เพราะเธอคิดว่าพี่โชคไม่มีความผิดอะไร“ไม้แบบน่ะทุกทีมึงขายกันแถวนี้เมตรละไม่เกิน 20 บาทนี่มึงฉวยโอกาสกินไปตั้งเท่าไหร่ มึงอย่าลืมว่ามึงมีหมายหัวอยู่แล้วนะกูสั่งเด็ดหัวมึงได้ทุกเมื่อนะ”

“ขอโทษครับสารวัตรผมก็ทำมาหากินของผม แล้วผมก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เขามับน้องสาวผม”

“ไม่รู้ก็จงรู้ไว้ ฟังเอาไว้นะทุกคน ฝากบอกคนอื่น ๆ ด้วย ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนกูถ้าเข้ามาในเขตดงโป่งแดงแล้วมีอะไรเกิดขึ้นแม้แค่ปลายเส้นผมกูเอาพวกมึงตายแน่”พูดจบเขาก็โอบไหล่ของเธอรั้งเข้ามาหอมแก้มฟอดหนึ่งเธอเบือนหน้าหลบอย่างเร็วรู้สึกอายจนหน้าแดงริมฝีปากของเขาจึงโดนที่หัวแทน ตั้งแต่เขาประกาศก้องในวันนั้น เขาจะทำจริงอย่างที่ลั่นวาจาออกไปหรือไม่เธอไม่มั่นใจแต่เธอก็รู้สึกว่าถนนเข้าออกเขตดงโป่งแดงดูขยายกว้างมากขึ้น เวลาไป มาแต่ละครั้งเธอก็สูดลมเต็มปอดปล่อยอารมณ์ชมวิวสองข้างทางได้โดยไม่มีอาการหนาวๆ สั่น ๆ จากวันนั้นการสั่งไม้แต่ละครั้งจะต้องผ่านเขาโดยเขาจะพาไปหาคนทำไม้ ไม้มีเยอะก็จริงแต่ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ เธอได้ไปในที่ ๆ ไม่เคยไป บางครั้งจอดรถไว้ข้างทางแล้วเดินลัดตัดทุ่งนา ขึ้นเขา ลงห้วย ปีหน้าผา ซึ่งเธอเองก็ไม่ปริปากบ่นสักคำเวลาเจรจาพูดคุยกับกลุ่มคนทำไม้เธอก็ได้แต่นิ่ง ปากเม้มสนิท ไม่จำเป็นไม่พูดถ้าพูดก็พูดให้น้อยที่สุด สัญชาตญาณเธอบอกว่า ผู้คนรอบกายเธอขณะนี้ ไว้ใจไม่ได้ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ คนทำไม้พวกนี้ดูมีอิทธิพลระดับหนึ่งในวงการของพวกเขามีลูกน้องที่ขอเพียงแค่ลูกพี่สั่งจะจัดการทันที เหนือขึ้นไปมีคนคอยคุ้มหัว อยู่ที่ว่าใครเด็กใคร และต้องไม่ล้ำเส้นกัน บางวันเธอก็ทานมื้อเย็นกับกลุ่มคนทำไม้อาหารตามแต่จะหาได้ ต้มไก่ ลาบเป็ด ลวกผัก นึ่งเห็ด จิ้มแจ่ว ป่นปู ป่นปลา กว่าจะกลับถึงบ้านแต่ละคืนก็อยู่ระหว่างสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน จากที่ตระเวณไปเรื่อยๆ เธอได้เห็นสภาพว่า แท้ที่จริงแล้วคนทำไม้ก็ใช่ว่าจะมีฐานะดี มีเงินมีทองมากมายแค่ทำให้พอมีเงินใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย บ้านช่องก็ไม่ได้ใหญ่โต ยังเป็นบ้านเก่า ๆโทรม ๆ ยกเว้นคนที่ตั้งตนเป็นหัวหน้าจะดูมีฐานะกว่าคนอื่น ๆ ได้เงินมาแต่ละงวดก็แบ่งปันกัน ไหนจะค่าเบิกทางไหนจะส่วย และต้องเก็บออมไว้ซื้อเลื่อย รถลาก อาวุธไว้ป้องกันตัวอีก ไม้ตามสเปคที่เธอต้องการหาซื้อได้ไม่ง่ายนักคนทำไม้แต่ละคนก็รับออร์เดอร์มายาวเป็นหางว่าว

“ตอนนี้ผมและพรรคพวกกำลังเร่งมือหาให้ผู้กำกับอยู่ครับ”

“ผู้ว่าฯจะเกษียณเห็นบอกว่าจะเอาไปสร้างอยู่ทางภาคตะวันออก รายการมาตรึมเลย”

“ถ้าเป็นไม้อย่างอื่นน่ะมีเป็นรถสิบล้อเลย”

“ซื้อเป็นหลังไหมครับมีบ้านเลขที่เรียบร้อยรื้อถอนไปได้เลย”

“หลังละเท่าไหร่ล่ะ”เธอถาม

“มีตั้งแต่สี่หมื่นถึงแสนแล้วแต่ขนาดและปริมาณไม้” เขาพาเธอไปดูสองสามหลังที่ยกโครงมุงหลังคาและปูลื้นลวก ๆไว้ แต่อข้อเสียคือ ไม้ไม่ใช่ขนาดที่ต้องการ อาจต้องตัดทิ้งเสียไม้เปล่า ๆ และคุณภาพไม้ไม่ได้ตามที่ต้องการ แต่พวกเขาก็พยายามให้ข่าวสารว่าตอนนี้ใครกำลังทำไม้อะไรประเภทไหนไว้ขายหรือรอปล่อย เธอกับเขาก็จะไปตามที่บอก

“ผมไม่มีครับสารวัตร”ชายหนุ่มผิวขาวร่างเล็กบาง อายุราว ๆ ยี่สิบต้น ๆ บอกกับเขา

“ไอ้แซวมึงอย่าแหลกับกู มีคนบอกมาแล้ว” คนที่เขาเรียกชื่อว่า แซว เกาหัวแกรก ๆ ยิ้มแหย ๆ

“โธ่ สารวัตรก็ผมนึกว่าพาสายมาสอดแนมพวกผม”

“สายที่ไหนนี่เมียกูและกูก็จะเอาไปสร้างบ้าน” ไอ้แซวทำสีหน้าบ่งบอกว่าไม่เชื่อพอเขาหันไปพูดคุยกับคนอื่น ไอ้แซวก็เดินเข้ามาพูดเบา ๆ กับเธอ

“แต่คนที่ผมเห็นที่บ้านตัดผมบ๊อบนะสารวัตร”ไอ้แซวกล้าพูดแซวสมชื่อ จนเขาถลึงตาใส่ แล้วไอ้แซวก็หันมาทางเธอซึ่งยังคงนิ่งเงียบ “ผมไม่เชื่อว่าเจ้เป็นแฟนเขาเพราะผมเคยเห็นแม่บ้านสารวัตรแล้ว ไม่สวยเหมือนเจ้ เจ้มาหาพวกผมโดยตรงเลยไม่ต้องผ่านเขา บอกหน่อยสิว่าเขาคิดเจ้เมตรเท่าไหร่”

“เขาไม่ได้กินกำไร.. จริง ๆ “ พอดีเขาหันมา

“มึงพูดอะไรลับหลังกู”

“ไม่มีอะไรครับ”

“เขาพูดอะไรกับนาย”

“เขาแค่ถามว่าพี่บวกเปอร์เซ็นต์เพิ่มไหม”

“นี่มึงไม่เชื่อใจกูเลยเหรอ ฮะ”โดนตะคอกไปไอ้แซวหน้าจ๋อยทันทีจากนั้นไอ้แซวก็ยอมปริปากบอกว่ามีไม้อะไรบ้างที่รอปล่อยออก

“ผมจะพาเจ้ไปดูไม้ตะเคียน ถ้าเจ้จะซื้อผมจะซอยให้”เธอเดินตามไอ้แซวกับลูกน้องอีกสองคน เดินตัดป่าละเมาะจนถึงลำห้วยตั้งแต่เกิดมาไม้ตะเคียนก็เคยได้ยินแต่ชื่อในหนังสยองขวัญ อยากเห็นกับตาว่าต้นจริงๆ ของมันเป็นอย่างไร

“ถึงแล้ว นั่นไง” ไอ้แซวชี้ให้ดูซุงไม้ใหญ่เบ้อเริ่มที่โผล่บางส่วนขึ้นมาเหนือน้ำ“เจ้สนใจไหม” เธอส่ายหัวไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันจัดอยู่ในหมวดไม้มงคลรึเปล่า เธอสนใจแต่ไม้แดงกับไม้ดู่เท่านั้น แล้วไอ้แซวก็ตะโกนโหวกเหวกเป็นภาษาเผ่าชี้มือชี้ไม้ไปที่ลำห้วยเธอฟังไม่เข้าใจ ลูกน้องไอ้แซวกระโดดลงไปในห้วยแล้วช่วยกันงมหาอะไรสักอย่างไม่นานไม้วงกบก็ถูกลำเลียงขึ้นมาและขนมาบรรทุกใส่รถกระบะของเขา นับได้ 25 ท่อนแต่ละท่อนเขลอะไปด้วยโคลนตมคลุกเคล้าใบไม้ใบตองเน่าโชยกลิ่นเหม็นจนต้องปิดจมูก เธอจ่ายเงินไอ้แซวและขอตัว

“วันหลังเจ้แวะมาดูใหม่นะ และไม่ต้องมากับเขาผมยังพอมี แค่ขอราคาเพิ่มอีกนิดแค่นั้นแหละ”

“นายจะเอายังไงกับไม้พวกนี้จะหาที่เก็บก่อนหรือจะเอากลับเลย”

“พี่ว่าไง หนูว่าตามนั้นค่ะ”เขาทำสีหน้าครุ่นคิด

“ตำรวจด้วยกันน่ะ พอคุยกันได้ แต่ถ้าเจอพวกป่าไม้ก็ยากหน่อยบางทีอาจไม่คุ้ม” เธอเงียบ

“เอางี้นะ ให้นายมาขับคันนี้แล้วฉันขับรถของนาย”

“ได้ค่ะ” แต่พอถึงที่ฝากรถของเธอเขากลับเปลี่ยนใจ

“อ๊ะ เอาไงก็เอา นายขับตามหลังฉันเรื่อย ๆทิ้งระยะพอสมควรนะ” พูดจบเขาก็กระชากรถออกอย่างแรงและวิ่งเร็วมาก เธอเหยีบคันเร่งตามไปติด ๆรู้สึกเหมือนกำลังจะหนีอะไรสักอย่างค่ำมืดอย่างนี้ถนนสายนี้ไม่มีรถสวนไปมาอยู่แล้ว 52 กิโลเมตรทำไมรู้สึกมันไกลมาก ใช้เวลานานเหลือเกิน อีกประมาณไม่ถึง 20 กิโลจะถึงถนนใหญ่มีรถเครื่องวัยรุ่นสองคันโผล่ออกมาจากถนนแยกข้างทาง รถเครื่องทั้งสองคันบิดอย่างแรงเสียงดังจนแสบแก้วหูปาดหน้าปาดหลังพวกมันพยายามตีคู่ไปกับรถกระบะ ขาของมันข้างหนึ่งยื่นออกไปพยายามจะถีบท่อนไม้ลงจากรถ เธอเปิดไฟสูงแล่นจี้เข้าไปติด ๆ รถเครื่องอีกคันหันขวับมามองแล้วชะลอรถแสงไฟสาดส่องทำให้เห็นหน้าตาชัดเจนเป็นวัยรุ่นอายุไม่เกินยี่สิบ อีกคันยังคงบิดประกบไปติด ๆ พลันรถคันนั้นก็หักหลบออกขวาอย่างเร็วแล้วตกลงไปข้างทางเสียงโลหะกระแทกต้นไม้ข้างทางดังโครม! รถของเธอกำลังวิ่งด้วยวามเร็วสูงไม่มีโอกาสแม้แต่จะเหลือบมองและไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำอย่างนั้นได้ อย่างน้อยก็ยังมีรถเครื่องอีกคันคงดูแลกันและกันได้ พอออกสู่ถนนใหญ่ ไม่เจอด่านตรวจนับว่าโชคดีไป พอใกล้จะถึงบ้านเธอโทรหาเต็นน้องชายให้มาช่วยขนไม้ลงจากรถ

“มีรถเครื่องวิ่งตามใช่ไหม” เขาถามทันทีที่จอดรถ

“ใช่ และมันพยายามจะถีบไม้ลงจากรถ”

“ฉันมัวแต่เหยียบคันเร่งไม่ได้สังเกตมันวิ่งประกบไปถึงไหน”

“เลยโค้งต้นไม่คู่ไปไม่ไกล แล้วมันตกข้างทาง”

“อ้าว! แต่มันคงไม่ถึงตายมั้ง”

เธอทิ้งตัวลงนอนด้วยความเพลียทันทีที่หลับตาเสียงรถเครื่องบิดดังจนแสบแก้วแว๊บผ่านเข้ามาในหัวเหมือนมันย้อนภาพให้ดูอีกครั้ง ไม่นานก็ม่อยหลับไป ตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามีเวลานั่งทบทวนเหตุการณ์ตื่นเต้นหวาดเสียว จำได้ว่าเมื่อคืนขับรถเร็วมากฝ่าถนนที่มืดตึดตื๋อแล้วยังมีวัยรุ่นสองคนนั่นอีกเรื่องอย่างนี้ถ้าเธอไม่ปริปากพูดก็ไม่มีใครรู้ เธอเหลือบมองนาฬิกาสายมากแล้วต้องรีบไปโรงเรียน

พอเลิกงานเธอพาหลานชายซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นม.2 แวะซื้อของกินที่ตลาดสด ชานนวิ่งไปยืนเข้าคิวรอซื้อเต้าหู้นมสดเธอซื้อของเสร็จเดินไปรอจ่ายเงินให้หลาน มีวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังยื่นตังค์ให้คนขายแว๊บหนึ่งเธอจำหน้านั้นได้ ยมซอยถากยาว ย้อมสีน้ำตาลเหลือง ใบหน้าอูมกลม เธอมองตามจนเด็กหนุ่มคนนั้น ขับรถเครื่องออกไปมุ่งหน้าลงไปทางใต้ โรงพยาบาลที่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุดก็คือ รพ.นาทรายนี่เองหัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ตอนนี้เธอเกิดอยากรู้ขึ้นมาว่าวัยรุ่นคนนั้นอาการเป็นอย่างไรบ้าง เธอรีบพาหลานไปส่งที่บ้าน

“ป้าจะไปทำฟันที่โรงพยาบาลนะ” หลานชายพยักหน้าเข้าใจและเดินเข้าบ้าน ส่วนเธอถอยรถออกจากบ้านย้อนกลับไปที่โรงพยาบาลไม่รู้จะไปตรวจหาอะไรจึงตัดสินใจเอาขูดหินปูนเข้าท่าที่สุด หาที่จอดรถได้ เธอก็เดินอ้อยอิ่งขึ้นตึก สอดส่ายสายตาหาใครบางคนที่เธออยากเจอ

“ชื่อชันษา สุภาคิน มาขูดหินปูนค่ะ”

“ไปนั่งรอที่หน้าห้องทำฟันเลยครับเดี๋ยวบัตรจะตามไป”

เธอผละจากเคาท์เตอร์ กำลังจะเดินไปตามที่เจ้าหน้าที่บอกทันใดนั้นหัวใจของเธอก็เต้นพองโตเมื่อเห็นเด็กวัยรุ่นคนที่เพิ่งซื้อเต้าหู้นมสดที่ตลาดกำลังเข็ญล้อเข็ญคนเจ็บซึ่งมีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะที่หัวไหล่และแขนข้างขวา หน้าตาบิดเบี้ยวเขียวคล้ำบวมเป่งจนปิดตาข้างหนึ่งมีหญิงแก่คนหนึ่งสะพายย่ามเดินตามมาติด ๆ ล้อเข็ญผ่านเธอไปมุ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉินเธอสอยเท้าก้าวตามไปห่าง ๆ พอส่งคนไข้ให้หมอ เด็กวัยรุ่นคนเข็ญรถออกไปยืนรอนอกห้องส่วนยายคนที่มาด้วยนั่งรอตรงเก้าอี้รอรรับการเรียกตรวจเธอถือโอกาสไปนั่งลงข้าง ๆ

“ยายเป็นอะไรมาคะ”

“ยายไม่ได้เป็นอะไรพาหลานมาล้างแผล”

“หลานยายเป็นอะไรมาล่ะ”

“รถลงเมื่อคืน โชคยังดีที่คอไม่หักตาย”

“โอ๊ะ! รุนแรงขนาดนั้นเลยหรือ” ในตอนนั้นเองเจ้าหน้าที่ตำรวจมือถือแฟ้มเดินตรงไปที่เตียงลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ สอบถามเหตุเกิด เพราะคนไข้ต้องการเคลมประกัน เธอจึงได้โอกาสสะกิดแขนยายให้ลุกไปยืนฟังใกล้ๆ

“เหตุเกิดบนถนนสายดงโป่งแดง ห่างจากถนนสายหลักราว ๆยี่สิบกิโลเมตร ผมกำลังขับรถกลับบ้านถนนมืดมาก จู่ ๆ ก็มีหมา เอ่อ สัตว์คล้ายหมาวิ่งตัดหน้า ผมจึงหักหลบ” คนป่วยเล่า

“ถนนเบื้องหน้ามีสิ่งกีดขวางไหม”

“ไม่มีครับ”

“หมายถึงไม่มีสิ่งกีดขวางไม่มีรถวิ่งสวนไปมา”

“ครับ”

“มีคนอื่นไปด้วยไหม? “

“เพื่อนคนหนึ่ง”

“ก่อนขับรถเครื่องได้ดื่มเครื่องดื่มของมึนเมาหรือไม่”คนไข้ไม่ตอบ “เดี๋ยวข้อมูลส่วนนี้ผมจะขอผลตรวจเลือด ตรวจฉี่จากทางรงพยาบาลนะ” เธอสังเกตเห็นคนเจ็บก้มหลบสายตาลงมองพื้นแม้อาการจะสาหัสแต่ก็ยังพูดได้เธอรู้สึกโล่งใจที่เหตุการร์นับว่าไม่เลวร้ายเท่าไหร่ ถ้าเขาพูดตามความเป็นจริงหรือถึงขั้นจำหมายเลขทะเบียนรถได้ งานนี้มีร้อนมีหนาวแน่




Create Date : 26 กันยายน 2559
Last Update : 1 มีนาคม 2560 15:31:38 น.
Counter : 521 Pageviews.

1 comments
  
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:06:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maya_II
Location :
มุกดาหาร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



Star sign : Gemini
Hobby : Reading & Writing
Interest : variety