So I'm not moving [Nate/Ash]

Title: So I'm not moving
Pairing : Nate/Ash (Cinderella Bloodhound / Cinderella Hunting The Lion)
Rating : PG 
Author's Note: จขบ. เพิ่งอ่าน Cinderella Hunting The Lion จบหมาดๆ อ่านเสร็จแล้วไฟลุกโชนจนต้องกระโดดมาเขียนแฟนฟิคชั่น(ที่ไม่ได้เขียนมานานแล้ว ภาษาก็กะโหลกกะลาสนิมขึ้น OTL) แรงบันดาลใจของเรื่องนี้มาจากการที่กำลังฟังเพลง The Man Who Can't Be Move ของ The Script แล้วคิดถึงประโยคที่เนทเคยพูดกับแอชไว้ว่าเขาจะไม่ตากแอชไปไหนผุดขึ้นมาในหัว คอนเซปของเรื่องอาจจะไม่ได้ตรงกับเพลงเป๊ะๆ แต่ต้องการจะสื่อว่าเนทไม่มีทางทิ้งแอชไปไหน เขายังรอเธออยู่เสมอและจะควานหาตัวเธออีกตะหาก ชื่อเรื่องก็เอาท่อนหนึ่งในเพลงมาตั้ง XD  


** หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตัวละครทั้งหมดเป็นของคุณ BiscuitBus ผู้แต่งและสำนักพิมพ์ สงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ ดัดแปลง 
ลอกเลียนเพื่อการค้า
*** เนื้อหาในเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักของหนังสือเรื่อง Cinderella Bloodhound / Cinderella Hunting The Lion



ความทรงจำของเนทยังแจ่มชัดแม้ว่าในคืนนั้นแอลกอฮอล์จะมอมเมาจนเขาขาดสติเขาจำได้ดีสำหรับวินาทีแรกที่ได้สบตาดวงตาถือดีที่ไม่เกรงกลัวใครคู่นั้นและหลังจากวินาทีนั้นสายตาของเขาก็ไม่สามารถถอยห่างจากตัวเธอผู้เป็นเจ้าของได้อีกเลยภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นไหลผ่านเข้ามาความคิด ตั้งแต่แรกสบตาเมื่อคราวที่ตัวเขาถูกดึงตัวเข้ามาปล้นจูบ ในตอนที่ดวลเหล้าด้วยกัน กระทั่งตอนที่อยู่บนเตียง ยามได้กอดรัดยามได้จุมพิต เหตุการณ์ในคืนนั้นไม่เคยลบเลือน มีแต่จะประทับลึกซุกซ่อนเอาไว้ในซอกหนึ่งของหัวใจ

นานเท่าไหร่แล้วเนทก็จำไม่ได้ที่เขาทนทรมานจากอาการนอนไม่หลับผลกระทบจากเหตุการณ์เลวร้ายหลอกหลอนเขาตลอดสิบปี แต่เมื่อเด็กผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งก้าวเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเธอกลับเป็นคนแรกที่เชื่อใจเขา เป็นคนเดียวที่ทุ่มเทแรงกายพยายามลบข้อกล่าวหาที่ตราหน้ามานานปีและเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่อาการนอนไม่หลับของเขาหายไปสนิท หากได้กักเธอไว้ในอ้อมกอดสัมผัสถึงไออุ่นที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น แล้วหลับตานอนร่วมเรียงเคียงกัน เนทรู้เธอคือยานอนหลับชั้นดีของเขาเช่นเดียวกับที่เขาเป็นคนบำบัดจิตใจของเธอเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน พวกเขาต่างลืมฝันร้ายหลับอย่างเป็นสุขในสถานที่ของตัวเอง

ยอมรับตรงๆ แบบอายๆเลยนะว่าเขาดันไปหลงรักเด็กสาวอายุ 16 เข้าให้ แต่จะให้ทำยังไงล่ะจนถึงป่านนี้แอชลี่ได้ขโมยหัวใจของเขาไปหมดแล้ว เขารักเธอ อยากให้เธอยุติภาระการเป็นหมาไนที่เสี่ยงอันตรายแล้วกลับมาเป็นเด็กสาวไฮสคูลใช้ชีวิตธรรมดาไม่ต้องฝ่าอันตรายและดงลูกกระสุน เขาชอบกอดเธอ จูบเธอเขาตั้งใจไว้แล้วว่าเมื่อเธออายุครบ 18จะจับเธอใส่ชุดเจ้าสาวแล้วเดินเข้าโบสถ์ทันที ประกาศให้ใครๆ ได้รู้ว่าเนธาน แวมดิแคมป์คนนี้มีเจ้าของแล้วนะ และเขาก็รักเธอมากเสียด้วยเขาจะสวมแหวนแต่งงานให้เธอ จะจับจองตีตราเธอ แอชไม่รู้หรอกว่าลึกๆ แล้วในใจของเขาซุกซ่อนความหวาดกลัวว่าเธอจะหนีจากเขาไปดังนั้นเขาควรรีบตีตราของตัวเธอเสียก่อน เปลี่ยนให้โลกของเธอมีแต่เขาเพียงคนเดียวก่อนที่จะมีคนอื่นก้าวเข้ามาแย่งพื้นที่ของเขาในโลกของเธอ

แอชบอกเขาอยู่บ่อยๆว่าขอบคุณที่คืนนั้นเป็นเขาและอย่าจากเธอไปนะแต่ควรเป็นเขาต่างหากที่อยากขอบคุณที่เป็นเธอและคนที่ควรจะเอ่ยรั้งเธอไว้ก็ควรเป็นเขา

... อย่าหนีไปไหนนะแอช อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว ...

ภาพใบหน้าของแอชทุกอิริยาบถไหลเรื่อยเหมือนฉายฟิล์มสไลด์ในหัวของเนทภาพไหลไปเรื่อยก่อนที่จะมาหยุดที่เหตุการณ์ในคืนฉลองการเปลี่ยนถือครองหุ้นในโรงแรมใหม่ของเขาขณะที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างลื่นไหล ไฟส่วนหนึ่งดับลงพร้อมๆ กับการปรากฏตัวของแอชแสงไฟที่ยังสว่างอยู่ส่องกระทบใบหน้าที่ประทับในใจของเขาแอชก้าวเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม ... ถ้าหากเขาตอนนั้นเขาได้สังเกตสักนิดคงพบว่าดวงตาของแอชไม่ได้ยิ้มไปด้วยเช่นทุกทีหากแฝงไว้ด้วยร่องรอยความเศร้า สับสน แต่ตอนนั้นเขาดีใจเกินกว่าที่จะคิดอะไรได้อีกแอชเต้นรำกับเขา ฟังเขาคุยโม้ถึงแผนชีวิตที่เขาวางไว้สำหรับเขาและเธอภาพแต่งงานที่เขาวาดฝันไว้ แต่แล้วทุกอย่างก็หยุดชะงักเมื่อเขาสังเกตเห็นน้ำตาหยดเล็กตรงหางตาและแก้มของเธอท่าทีของแอชผิดปกติ เธอควรจะดีใจกับความสำเร็จของเขาดีใจที่จบไฮสคูลแต่ใบหน้าแสนเศร้าของแอชตอนนี้ทำให้ลางสังหรณ์ของเขาเริ่มทำงาน

“แต่ฉันต้องตื่นแล้วละเนท ... “

ไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะทิ้งฉันไปใช่ไหมแอช?

ก่อนที่เขาจะได้โวยวายอะไรออกมาร่างกายกลับสัมผัสได้ถึงความเจ็บจี๊ดดั่งถูกมดกัดและในวินาทีต่อมาร่างกายของเขาไร้เรี่ยวแรงกระทั่งยืนเขาก็ไม่สามารถทรงตัวไหวร่างอ่อนปวกเปียกของเขาซบร่างบอบบางในชุดราตรีของแอช เนทพยายามเพ่งมองใบหน้าที่คลอน้ำตาของแอชมือพยายามรัดร่างที่อยู่ข้างตัวสมองสั่งให้เขาอย่าได้ปล่อยตัวเธอไปแต่ร่างกายไม่ทำตามที่สมองสั่งดวงตาของเขาค่อยๆ ปิดลง แต่หูของเขายังได้ยินชัดเจนเสียงกระซิบสั่นเพราะกลั้นสะอื้นของแอชยังชัดเหมือนคนพูดกระซิบอยู่ใกล้ๆ

“ฟังนะเนท คุณต้องไม่ตามหาฉัน คุณต้องลืมฉันให้หมดคุณต้องมีความสุข สัญญานะว่าคุณต้องมีความสุข”

เนทได้ยินเสียงร้องของเขาตะโกนก้องภายในใจ ไม่แอช!ถ้าหากไม่มีเธอ ฉันจะมีความสุขได้ยังไง เธอเท่านั้นที่เป็นความสุขของฉัน แอช เธอจะไปไหน?

“ฉันรักคุณเนท”

ทั้งที่เปลือกตาปิดสนิทแต่เนทสัมผัสได้วถึงน้ำตาของแอชที่ไหลหล่นบนหน้าเขาอย่าร้องไห้แอช ทำไม เกิดอะไรขึ้นเธอถึงหนีฉันไป ก่อนที่สติวูบดับเนทสั่งให้ตัวเองยื้อแอชไว้เต็มแรงถึงแม้จะรู้ว่ามันจะไร้ผลก็ตาม

แอช ...ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่ฝ่ายที่จะหนีไปไหนแต่เป็นเธอนั่นแหละที่จะหนีจากฉันไป

“ฉันรักคุณเนท”

ประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินเสียงของแอชดังก้องอยู่ในหัวไปมาดวงตาของชายหนุ่มที่นอนนิ่งสนิทอยู่บนเตียงเบิกกว้างแล้วหรี่ลงเพื่อปรับสภาพแสงและเรียงลำดับความทรงจำเนทค่อยๆ ยันร่างกายขึ้นเป็นท่านั่งโดยมีเงาข้างกายปราดเข้ามายืนชิดเตียงอย่างรวดเร็ว เนทจำได้จากสภาพห้องว่านี่คือห้องนอนประจำของเขาในโรงแรมที่ลาสเวกัส

“คุณเนทรู้สึกยังไงบ้างครับ?”วินเซนต์คนสนิทที่ไม่เคยห่างกายถามด้วยความห่วงใย “ยาสลบขนานแรงแต่ไม่อันตรายครับ”เนทพยักหน้ารับรู้ อย่างน้อยฤทธิ์ข้างเคียงของยาไม่ทำให้เขารู้สึกแย่มากนักนอกจากอาการหนักหัวที่ยังค้างอยู่

“ไม่พบร่องรอยคุณแอนนาเบล cctvรอบอาคารดับไปช่วงหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคุณแอนนาเบลกับพรรคพวกของเธอ”

“เยท?”คำถามของเนทไม่มีคำตอบรับหรือคำปฏิเสธจากอีกฝ่ายเพียงความเงียบงันเท่านั้นที่เป็นคำตอบรับกลายๆ “เกิดอะไรขึ้นวินซ์? โทรฯถามที่บ้านรึยัง ทำไมแอชที่ควรอยู่ในงานพรอมกับมาปรากฏตัวที่นี่แถมยังมากับพวกหมาไน”

“ครับ ทางนู้นโทรฯ มาคุณแอนนาเบลหายออกมาจากงานพรอมบอกคุณรอดนี่ว่าจะไปจัดการธุระให้คุณอีธานแต่ว่าหลังจากมาหาคุณเนทแล้วเธอก็หายตัวไปเลย”

“มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่วินซ์?”ดวงตาสีเทาแกมเขียวสงบอย่างน่าประหลาด หากคนถูกมองรู้สึกหนักใจเพราะรู้นิสัยกันดี เนทลุกขึ้นยืนก้าวออกไปยืนตรงข้างกระจกหน้าต่าง

“เมื่อคืนมีรายงานว่าเครื่องบินเล็กเกิดระเบิดขึ้นเหนือสนามบินชานเมืองยังไม่สามารถระบุศพทั้งหมดได้ แต่ว่า ...รายงานของคุณอีธานยืนยันว่ามีสองศพที่สามารถระบุได้แน่นอน คือมิสและมิสซิสแมคคีย์”

“ชอนนี่กับดาน่า?”คิ้วของเนทขมวดกันด้วยความสงสัย “เรื่องนี้เกี่ยวกับแอช เกี่ยวกับพ่อใข่ไหมแอชถึงหนีฉันไปแล้วทำไมต้องเป็นชอนนี่กับดาน่า ทำไม?”เสียงดังปังจากกำปั้นกระทบกับกระจกแก้วของโรงแรมจนสั่นสะเทือนวินเซนต์มองคนที่เป็นเจ้านายอย่างห่วงใยแกมกังวลหากเนทได้เห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเขา ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะตั้งรับได้ยังไง

“คุณอีธานโทรฯ มาบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรสนใจแล้วก็ เอ่อ .... ส่งนี่มา ... ” ซองกระดาษสีน้ำตาลถูกยื่นตรงหน้าของเนทชายหนุ่มเปิดซองออกอย่างลวกๆ เมื่อเห็นถึงสิ่งของที่อยู่ภายใน ดวงตาสีเขียวแกมเทาถึงกับวาวโรจน์ด้วยโทสะ เอกสารการหย่าร้างที่มีลายเซ็นของแอชลีวินเทอร์ถูกฉีกทิ้งกลายเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยปลิวหล่นลงบนพื้นห้อง

“ต่อโทรศัพท์ถึงพ่อ” วินเซนท์ปฏิบัติต่อคำสั่งของเนททันทีโทรศัพท์แวนดิแคมป์ของเนทรอการต่อสายไปยังปลายทางไม่นานก็มีสัญญาณตอบรับ

“ไง” เสียงของอีธานมาตามสาย กระแสเสียงยังเหมือนเดิมยากจะหยั่งรู้ความรู้สึก

“พ่อก็รู้ว่าผมโทรฯ มาทำไม อย่าเสียเวลาดีกว่าบอกผมมาให้หมดว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น”

“แกเลิกคิดเรื่องเด็กคนนั้นจะดีกว่าต่อไปนี้ไม่มีทั้งแอนนาเบล แวนดิแคมป์หรือแอชลี วินเทอร์อีกต่อไป ปล่อยเธอไปอย่ายุ่งกับเธอจะดีต่อแกเองที่สุด”

“เพราะเธอทำงานให้พ่อใช่ไหม ?”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันเด็กคนนั้นตัดสินใจด้วยตัวเอง คิดเหรอว่าจะมีใครไปบงการเธอได้”

“ทั้งหมดมันเกิดจากรถของผมระเบิดใช่ไหม? แอชเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดของพวกแมคคีย์ใช่ไหม?เล่าเรื่องทั้งหมดออกมาสักทีเถอะพ่อ” ท่อนสุดท้ายเนทกระชากเสียงด้วยความหงุดหงิดหากอีธานยังรักษาความเยือกเย็นในการรับมือลูกชายอารมณ์รุนแรงได้อย่างดี

“สิ่งที่เด็กคนนั้นเลือกทำมันอันตรายเกินกว่าที่แกหรือแวนดิแคมป์จะรับไหวเนท แกต้องลืมเด็กคนนั้นไปซะทะเบียนหย่าใบนั้นเด็กคนนั้นเลือกเซ็นต์เองโดยที่ฉันไม่ได้บังคับเธอเลือกทางเดินของเธอแล้ว” คำเตือนของอีธานควรถือเป็นอำนาจเด็ดขาดของแวนดิแคมป์หากเสียงหัวเราะของเนทคล้ายว่าชายหนุ่มไร้ซึ่งความกริ่งเกรงใดๆต่ออำนาจของผู้นำแวนดิแคมป์คนปัจจุบัน

“พ่อลืมไปแล้วเหรอ ว่าผมก็เป็นแวนดิแคมป์คนหนึ่งแถมเป็นว่าที่ผู้นำแวมดิแคมป์คนต่อไปเชียว ผมว่าพ่อน่าจะจำได้ดีว่าถ้าผมอยากได้อะไรผมต้องหาทางเอามันมาให้ได้”

“แกจะไม่มีวันได้เจอเธออีกต่อไป”

“พ่อมีวิธีของพ่อ ผมก็มีวิธีของผมถึงต่อไปผมจะต้องยืนอยู่คนละฝั่งกับพ่อ ผมจะต้องได้ตัวแอชกลับมา”บทสนทนาทิ้งช่วงไปด้วยความเงียบ ก่อนที่เนทจะเอ่ยต่อ “อ้อ แล้วใบหย่าที่พ่อส่งมา ผมทิ้งมันไปแล้วถึงพ่อจะส่งใบหย่าที่มีลายเซ็นต์แอชมาอีกกี่ร้อยใบ ผมก็จะไม่มีวันเซ็นต์”

เนทตัดสายโทรศัพท์ทิ้งพลันโยนโทรศัพท์แวนดิแคมป์ทิ้งลงบนเตียงเต็มแรงชายหนุ่มเหลียวมองทิวทัศน์ยามสายของลาสเวกัสผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องพักวินเซนต์ยังยืนรอรับคำสั่งอยู่ใกล้ๆ

“ฉันรู้ว่านายคงพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับงานของพ่ออยู่บ้าง”ผู้เป็นเจ้านายพูดกับเงาประจำตัวโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง สายตาของเนทยังมองไปไกลไกลออกไปราวกับจะเฝ้ามองหาใครสักคน “ไม่มีทางที่แอชจะหนีแวนดิแคมป์ไปได้ง่ายๆถ้าไม่มีใครสักคนให้ความช่วยเหลือ ไปตามไอ้บอร์ดี้การ์ดคนที่อยู่กับแอชบ่อยที่สุด มันต้องรู้อะไรสักอย่างแล้วเรื่องเมื่อคืนพวกแมคคีย์เกี่ยวข้องอะไรกับที่รถฉันระเบิดฉันคิดว่านายก็คงรู้อยู่ถึงเวลาแล้วใช่ไหมวินซ์ที่ฉันจะเป็นแวนดิแคมป์อย่างเต็มตัว”วินเซนต์ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ก้มหัวลงเล็กน้อยเป็นการยอมรับ

“ไป หาร่องรอยของแอชมาให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่นายจะหาได้ก็แล้วกันค่อยกลับมาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังพร้อมๆ กันคงไม่สาย”เนทเปลี่ยนท่าจากยืนตรงมาเอนไหล่พิงกระจก หันมามองและออกคำสั่งคนสนิทวินเซนต์พยักหน้ารับคำ หากไม่วายสบดวงตาสีเทาเขียวที่กรุ่นด้วยโทสะจริตด้วยความห่วงใย“ไม่ต้องเป็นห่วง ยังมีพวกชุดดำอีกเยอะที่นี่แล้วไอ้ที่พ่อกับนายกลัวหนักหนามันคงไม่ลงมือเอิกเริกอะไรตอนนั้นหรอกมั้งแต่ดูแลพวกเล็กซี่ด้วยก็แล้วกัน”

“ครับ คุณเนท”ร่างสูงที่อยู่ในชุดสูทดำตลอดเวลาของวินเซนต์เดินออกจากห้องไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแล้วเนทละสายตาจากแผ่นหลังของวินเซนต์เมื่อประตูห้องปิดสนิทหันกลับมามองท้องฟ้าที่สดใสร่าเริงและแสงแดดที่จัดจ้าบรรยากาศแจ่มใสด้านนอกช่างแตกต่างจากความมืดม่นและอ้างว้างในใจของเขา ในหัวของเขาปรากฏภาพของแอชลี่ในชุดราตรีสำหรับงานพรอมเต้นรำเคียงคู่กับเขาก่อนที่ความวุ่นวายทุกอย่างจะเกิดขึ้น เสียงของแอชลี่ยังดังก้องทุกคำพูด

“ฟังนะเนท คุณต้องไม่ตามหาฉันคุณต้องลืมฉันให้หมด คุณต้องมีความสุข สัญญานะว่าคุณต้องมีความสุข”

“ฉันรักคุณเนท”

ปัง!!! ...เสียงของกระจกหนาหนักสั่นสะเทือนด้วยแรงทุบจากกำปั้นของเนท หมัดขวาของเนททุบลงบนกระจกไม่หยุดแต่ความแข็งแรงของกระจกชั้นดีไม่ปรากฏร่องรอยเสียหายใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากเสียงของกำปั้นที่ทุบลงบนกระจกอย่างต่อเนื่อง

“คุณเนทครับ”เสียงดังจากด้านนอกประตูร้องเรียกด้วยความกังวล

“ไม่มีอะไร ไม่ต้องเข้ามา”เนทออกปากห้ามชายชุดดำไม่ให้เข้ามา ชายหนุ่มวางมือทั้งสองข้างบนกระจกซบหน้ากับหลังมือ

ทำไมนะแอช ทำไมถึงทำแบบนี้ ?เขาไม่ต้องการให้เธอปกป้องเขาแล้วเดินออกไปจากชีวิตเหมือนอย่างตอนนี้ถ้าเขารู้ตัวเร็วกว่านี้สักนิด จะรั้งเธอไว้ กอดเธอ จูบเธอแล้วบอกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราสองคนจะเดินไปด้วยกัน ตอนนี้เธอจะอยู่ที่ไหนกันแอช? ถึงเธอจะติดปีกบินไปสุดขอบฟ้า ฉันก็จะตามหาเธอให้เจอจนได้ ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมแอชว่าฉันไม่มีวันจะทิ้งเธอ



END



The Script
- The Man Who Can't Be Moved







Create Date : 09 เมษายน 2556
Last Update : 21 ธันวาคม 2558 22:35:35 น.
Counter : 466 Pageviews.

2 comments
  
เอร๊ยยยยย

ตกใจเลยค่ะ นู๋แอชมีแฟนฟิคกะเขาด้วย ครั้งแรกเลยค่ะที่ได้อ่านแฟนฟิคของนางซิน ขอบคุณนะคะ ในฐานะคนเขียน ปลื้มมากๆเลยค่ะ
โดย: BiscuitBus IP: 171.98.76.43 วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:1:46:38 น.
  

อุ้ย คุณ BiscuitBus มาเยือน ขอบคุณนะคะ
โดย: a murder suicide วันที่: 28 มิถุนายน 2556 เวลา:23:56:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

a murder suicide
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



fat NEET and sometimes Hikki.
living in the small and blind world, kind of closed mind, a light level of bipolar, not much friendly with human.



All Blog