เล่ห์ลุนตยา - พงศกร

ขออนุญาตกรีดร้องเบาๆ ก่อนเข้าเอนทรี่ คือพิมพ์ไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วเผลอกดปุ่ม back ผลคือหายวับ ชูปีดูวับทั้งหมดเลยค่า น้ำตาจะไหล T.T มันเป็นฟีลลิ่งที่แบบถึงจะพิมพ์ใหม่ก็ไม่ได้อารมณ์เท่าเดิม Y_Y

โอเคค่ะ กลับมาที่เรื่องราวของเรา

เล่ห์ลุนตยาเป็นผลงานผีผ้าเล่มล่าสุดของคุณหมอพงศกรค่ะ ในฐานะที่พยายามสะสมผีผ้าให้ครบ สำหรับเล่มนี้ก็ไม่พลาดแน่นอนค่ะ (ผีผ้าที่ขาดไปในคอลเลคชั่นตอนนี้มีอยู่เล่มเดียวคือรอยไหมค่ะ มันช่างแรร์ไอเท็มมากๆ) ลุนตยาในที่นี้เป็นผ้านุ่งของพม่าค่ะ ดังนั้นเหตุการณ์ในเรื่องจึงใช้พม่าสมัยช่วงต้นยุค 2520 เป็นฉากหลัง เล่าสลับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตสมัยก่อนที่ราชวงศ์อลองพญาของพม่าจะล่มสลายลงในช่วงปี 2425 โดยวิญญาณแค้นที่สิงอยู่ในผ้าลุนตยาคือวิญญาณของเจ้าหญิงมินพยู เจ้าหญิงโฉมงานผู้เป็นเจ้าของลุนตยาอาถรรพ์คนแรก

ลุนตยาผืนนี้ถูกทอโดยยายเอละวิน ยายของเอลดาตัวเอกของเรื่อง เมื่อสมัยยังสาวยายเอละวินเป็นข้าหลวงในตำหนักของเจ้าหญิงมินพยู ด้วยเหตุผลใดไม่มีใครทราบข้าหลวงที่ถักทอลุนตยาได้งามที่สุดกลับสูญเสียดวงตาเป็นเพียงหญิงตาบอด ความสงสัยนี้เก็บงำอยู่ในใจของเอลดาไม่คลาย

อาถรรพ์แรกของลุนตยาเกิดขึ้นเมื่ออะพินยาเพื่อนของเอลวินถูกดึงเล็บยา(ขวัญหรือจิตของมนุษย์)ออกไป กลายเป็นเด็กบ้า แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายใดเกิดขึ้นอีกเมื่อเอลดาได้ทุนไปเรียนต่อที่อังกฤษท่ามกลางความไม่เห็นด้วยและดูแคลนของเลธะจีผู้เป็นน้าชาย

หลายปีผ่านไปเอลดาสำเร็จการศึกษากลับมาทำงานใช้ทุนที่สถาบันผ้า การเดินทางกลับบ้านครั้งนี้มีเพื่อนร่วมโรงเรียนติดตามมาเพื่อเดินทางท่องเที่ยวด้วย ในกลุ่มนี้ก็คือภุมรี แทนไท และแอนโธนี ตัวแอนโธนีคนนี้จะเป็นเหตุสำคัญให้วิญญาณแค้นของเจ้าหญิงมินพยูตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

การกลับมาครั้งนี้ของเอลดาไม่ได้ราบรื่นไปทุกอย่าง เมื่ออูซอรีนายทหารของกองทัพพม่าได้ติดตาต้องใจและปรารถนาในตัวของเอลดา ทั้งๆ ทีตัวเขามีภรรยาอยู่แล้วซ้ำยังเกี่ยวดองเป็นน้องเขยกับเอลดา อูซอรีวางแผนลวงให้เอลดามาทำงานให้กับรัฐบาลที่เมืองอินเล เพื่อนๆ ของเอลดาไม่ปล่อยให้เอลดาเดินทางไปคนเดียว ทั้งหมดต่างเดินทางไปที่อินเลด้วยกัน รวมถึงหมอติณณ์เทพ เพื่อนชายข้างบ้านที่มีความห่วงใยให่แก่เอลดามาตั้งแต่เยาว์วัย

ก่อนที่จะออกเดินทางไปอินเล เอลดาได้รู้ประวัติของลุนตยาผืนสุดท้ายที่ผู้เป็นยายทอ เจ้าของลุนตยาผืนนี้คือเจ้าหญิงมินพยู เจ้าหญิงที่แสนงามและเป็นที่โปรดปรานของพระนางสุภยลัต ความงามและความเมตตาที่ได้รับก่อให้อีกฝ่ายหนึ่งบังเกิดจิตริษยา จนสุดท้ายกลายเป็นเรื่องราวเมื่อเจ้าหญิงมินพยูถูกใส่ความว่าลักลอบติดต่อกับนายพันโทเดวิดแห่งกองทัพอังกฤษผู้เป็นปู่น้อยของแอนโธนี 

เหตุการณ์ที่อินเลเริ่มรุนแรงเมื่อเอลดาถูกอูซอรีใช้กำลังบังคับขืนใจแต่หมอติณณ์เทพเข้ามาช่วยไว้ได้ ขณะที่แทนไทก็แยกไปช่วยภุมรี ด้วยอำนาจของพระพุทธคุณและสิ่งศักสิทธิ์ทั้งคู่สามารถช่วยเอลดาและภุมรีได้ และต่างแยกย้ายกันหนีไป แทนไท ภุมรีและแอนโธนีหลบหนีโดยการใช้รถยนต์ ขณะที่หมอติณณ์เทพพาเอลดาหนีไปทางเรือ เป้าหมายของทั้งสองกลุ่มคือการกลับไปที่บ้านของเอลดาในมัณฑะเล อูซอรีเองก็ติดตามหาตัวเอลดาอย่างไม่ลดละ

กลุ่มของแทนไทเดินทางกลับมาถึงมัณฑะเลก่อน และวิญญาณของเจ้าหญิงมินพยูเข้าสิงภุมรีอีกครั้ง เจ้าหญิงต้องการทวงคืนความยุติธรรมโดยการแลกกับชีวิตของแอนโธนี่ สายเลือดของพันโทเดวิดที่ทำให้เจ้าหญิงมินพยูต้องโทษถึงแก่ชีวิต แอนโธนี่ผู้เข้าใจความเจ็บปวดของเจ้าหญิงยอมรับความตายโดยดี กลับเป็นเจ้าหญิงมินพยูที่ลังเลในการเอาชีวิตของแอนโธนี่ ประกอบกับโยดะยาเปียงทูนจีเกลี้ยกล่อมเจ้าหญิงมินพยู ท้ายที่สุดวิญญาณแค้นของเจ้าหญิงสามารถปล่อยวาง ปลดปล่อยแอนโธนี่ให้เป็นอิสระ ยุติความคั่งแค้นในที่สุด


ความรู้สึกหลังอ่าน ...

เอิ่ม ขอบอกว่าแอบเงิบกับฉากวิญญาณแค้นเจ้าหญิงมินพยูอาละวาดในบ้านเอลดาค่ะ ที่เงิบเนี่ยเพราะเรื่องราวมันดูก่อตัวรุนแรงตั้งแต่ตอนอยู่ในอินเล เจ้าหญิงเก็บสะสมเล็บยาเพื่อจะมาแก้แค้น สุดท้ายไปๆ มาๆ เกิดปลงขึ้นมาได้ ปลดปล่อยแอนโธนี่แล้วไปที่ชอบๆ ทิ้งให้คนอ่านเงิบเบาๆ ว่าที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดมาจบอีรูปแบบนี้ คนอ่านเหวอนิดๆ จะว่าเข้าใจก็เข้าใจว่าผู้เขียนคงไม่อยากให้เกิดการสูญเสียในเรื่องอีกแต่มันก็ให้ความรู้สึกของการปาหมอนว่าเอาแบบนี้เลยนะ O_oll

มีจุดที่อ่านแล้วติดใจอยู่บ้างค่ะ อย่างประเด็นของเล็บยา คนแรกที่ถูกเจ้าหญิงมินพยูเอาเล็บยาไปคืออะพินยาเพื่อนของเอลดาในวัยเด็ก ภายหลังจากที่เจ้าหญิงเอลดาคืนเล็บยาให้แล้วอะพินยาก็กลับมามีพัฒนาการอีกคน แต่ แต่ แต่ว่าในเรื่องไม่ได้พูดถึงนายทหาร 2 รายและหญิงสาวในค่ายทหารที่อินเลที่ถูกเอาเล็บยาไป จุดขัดแย้งมันอยู่ตรงนี้ค่ะ คืออะพินยาแค่เป็นบ้าแต่ 3 รายหลังกลายเป็นศพ การพบศพในค่ายทหารไม่ใช่เรื่องเล็ก มีการตามหาตัวฆาตกรเหมือนกันแต่สุดท้ายประเด็นนี้ก็ไม่ได้รับการกล่าวถึง ดังนั้นภุมรีในความรู้สึกคนอ่านเลยมือเปื้อนเลือดกลายๆ แม้จะบอกว่าทำไปเพราะไม่รู้สึกตัว มีวิญญาณของเจ้าหญิงมินพยูสิง ภายหลังจากหลบหนีออกจากค่ายทหาร ประเด็น 3 ศพนี่ก็ถูกตัดทิ้งไปเลย ทั้งๆ ที่ตัวแทนไทก็เห็นคาตาว่ามีศพอยู่กับภุมรีตอนที่เข้าไปช่วยหญิงสาว สิ่งที่ขาดไปในจุดนี้คือความรู้สึกผิดหรือความรู้สึกที่ต้องรับผิดชอบของตัวละครค่ะ ผลคือคนอ่านรู้สึกว่ามันขาดเหตุขาดผลที่ควรจะเป็นไป

หรือฉากสุดท้ายที่คนขับรถบอกว่าเห็นผู้หญิง ซึ่งคือวิญญาณของเจ้าหญิงมินพยูติดไปกับผ้าลุนตยาที่เอละวินยกให้ภุมรี มันก็ขัดกับฉากในตอนที่เจ้าหญิงมินพยูจากไป คนอ่านงงว่าตลกดวงวิญญาณของเจ้าหญิงมินพยูจะไปสู่วัฏสงสารหรือจะติดไปกับผ้ากันแน่ เอาไงคะพี่  

พระนางตัวจริงของเรื่องเอลดา/ติณณ์เทพ คู่นี้ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกับอาถรรพ์ผ้าสักเท่าไหร่ ความซวยเลยไปตกกับภุมรี/แทนไทเต็มๆ คู่นี้ได้เล่นบทสนับสนุนแต่ก็เป็นบทสนับสนุนหลักที่ช่วยผลักดันเรื่องราว นัยว่าถ้าไม่มีภุมรี วิญญาณเจ้าหญิงมินพยูคงไม่ได้อาละวาด ส่วนคู่เอลดา/ติณณ์เทพก็ปล่อยให้เค้าหวานกันไปเถอะ แทนไทในเรื่องสามารถสัมผัสสิ่งที่มองไม่เห็นได้แต่ก็ไม่มีความสามารถในการควบคุมพลังของตัวเอง ดังนั้นเจ้าตัวยังต้องพึ่งพาให้ติณณ์เทพและพ่อ(ที่ก็มีญาณพิเศษ)สอนการควบคุมพลังของตัวเอง

ในส่วนข้อมูล รายละเอียดเสริมต่างๆ ค่อนข้างละเอียด โดยเฉพาะกับผ้าพม่า ในเรื่องผู้เขียนใส่เรื่องราวเพื่อบอกเล่าความงามและความน่าสนใจของผ้าพม่า ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ชอบค่ะ ส่วนจุดอื่นที่ชอบเป็นฉากย่อยๆ ของเรื่อง เช่นฉากที่เลธะจีมาลาแม่ เป็นฉากหนึ่งที่แสดงความรักของแม่ลูกและคนในครอบครัว

ฉากที่อูซอรีตามล่าเอลดาและติณณ์เทพมาถึงโรงพยาบาล ฉากนี้ขำมากถึงมากที่สุด เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องที่ตลกมากอะ ถึงมันจะฮาเอาจริงแต่ก็ช่วยแก้ไขปัญหาให้จบด้วยดี อีกนัยนึงก็สะท้อนความเป็นพ่อแม่รังแกฉันของอูซอรีได้ดีที่สุด อูซอรีเลยกลายเป็นตัวร้ายที่ epic fail ที่สุดที่เจอมา

ฉากใกล้จบของเรื่องที่โยดะยาเปียงทูนจีพาชาวคณะไปกราบไหว้พระสถูปของพระเจ้าอุทุมพร จุดนี้ทำให้เก็ทว่าทำไมติณณ์เทพต้องมีเชื้อสายไทย อ๋อ มันแบบนี้นี่เอง ถ้านี่เป็นความตั้งใจของผู้เขียนโดยตรงก็นับว่าผูกเรื่องได้แหล่มเลย

ส่วนตัวคิดว่าโครงเรื่อง การผูกเรื่อง การเล่าเรื่อง รายละเอียดต่างๆ ผู้เขียนทำได้ดีค่ะ (เรื่องของผ้าต่างๆ เรื่องราชวงศ์อลองพญา เรื่องเชื้อสายโยเดียของติณณ์เทพ) แต่มีหลายจุดและหลายฉากที่ขาดความสมเหตุผลซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยและอารมณ์ในการอ่านก็พลอยชะงักงัน ผีเจ้าหญิงไม่น่ากลัว ตอนแรกที่โผล่มาด้วยสภาพที่บรรยายออกมาแล้วขนแขนสแตนอัพ หลังจากนั้นก็ชิลด์ๆ การเล่าเรื่องโศกนาฏกรรมของเจ้าหญิงมินพยูทำให้รู้สึกเศร้าใจได้ไม่สุด ไม่แน่ว่าเพราะตัดไปตัดมาหรือฉากเฉลยเรื่องมันรวบรัดตัดจบไปกันแน่

อืม ในบรรดาผีผ้าด้วยกัน (ไม่นับรอยไหมเพราะยังหาซื้อไม่ได้ แรร์ ไอเท็มแท้) ยังหาเล่มที่เนื้อเรื่องจี๊ดใจสุดๆ ไม่เจอค่ะ เล่ห์ลุนตยาก็อยู่ในระดับเดียวกับเล่มอื่นๆ ส่วนตัวที่ติดตามผีผ้าเพราะเสน่ห์ของผ้าในแต่ละเล่มค่ะ คิดว่ามันเป็นจุดเด่นมากๆ ของซีรี่ย์นี้ค่ะ





Create Date : 05 ธันวาคม 2556
Last Update : 2 พฤษภาคม 2557 16:40:06 น.
Counter : 1433 Pageviews.

13 comments
  
รอยไหม ควรจะซื้อได้ที่นายอินทร์นะครับ
อาจสั่งพนักงานไว้ก็ได้
โดย: panda and lion IP: 27.55.28.36 วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:6:46:12 น.
  
อืมม์ จากกี่เพ้า แล้วยังไม่ได้ตามงานของผู้เขียนต่อเลยค่ะ
ไม่ติดตามชุดผีผ้า ---เลยน่าจะข้ามเรื่องนี้ไปได้ไม่ยาก
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:8:06:50 น.
  
กลัวผีค่ะ คงจะข้าม ดองกี่เพ้าไว้ ยัง ไม่กล้าอ่านเลยค่ะ
โดย: polyj วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:8:11:36 น.
  
เคยอ่านแต่รอยไหมค่ะ
อ่านแล้วอารมณ์ มันไม่สุด แถมเราเคยไปหลวงพระบางก่อนอ่าน
ฉากวังและพิพิธภัณฑ์ มันไม่เนียน เราเลยไม่ชอบ....แถมคุยกับเพื่อนนักอ่านที่ตามอ่าน เค้าดันบอกว่า รอยไหมนี่ดีสุดแล้วในเซตผ้า.........จบกันเลยเรา สำหรับนามปากกานี้

ปล. จองตั๋วไปมัณฑะเลย์ปีหน้าไว้ค่ะ มีไปเนียนที่ อินเลด้วย...อิอิ
โดย: Serverlus วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:9:00:36 น.
  
ชุดผีผ้า ไม่อ่านเลยค่ะ กลัวววว ได้แต่แวะมาอ่านรีวิวค่ะ แต่นับถือผู้เขียนที่เขียนเซ็ตผ้าแนวผีแบบนี้ได้ ชื่นชมค่ะ
โดย: Sab Zab' วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:10:13:51 น.
  
เรื่องนี้มีในครอบครองแล้วครับ ตั้งใจว่าถ้ามีเวลาเต็มๆจะอ่านรวดเดียวเลยครับ
โดย: สามปอยหลวง วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:11:09:23 น.
  
รอยไหม ช่วงงานหนังสือเดือนมีนาคม จะรีปริ้นปกใหม่ครับ ...

พูดถึงเล่ห์ลุนตยา เล่มนี้ชอบครับ อยู่ในมาตรฐานของพงศกร ...แต่ชุดผ้าชอบ สิเน่หาส่าหรีมากที่สุด / เล่ห์ลุนตยามีความรู้สึกว่ายังไม่อิ่ม ในพาร์ตอดีต อยากอ่านหนาๆ กว่านี้ แหะแหะ
โดย: อุ้มสม วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:11:34:23 น.
  
ซื้อมาแล้วค่ะเล่มนี้ แต่ยังเข้าแถวอยู่ ... ไม่ได้อ่านสักที
เหตุจากความหนา และ หนักแน่น

นิยายคุณหมอ ต้องใช้สติ+สมอง อย่างสูงค่ะ ก็เลยต้องรอไปก่อนน่ะคะ คุณหมอ
โดย: Pdจิงกุเบล วันที่: 6 ธันวาคม 2556 เวลา:14:02:58 น.
  
ผลงานของพงศกรดูแต่ละครค่ะ ไม่กล้าอ่านเอง กลัวผีค่ะ (ยิ่งชอบจินตนาการบรรเจิดอยู่ด้วย )
โดย: คุณหนูฤดูร้อน วันที่: 6 ธันวาคม 2556 เวลา:21:45:59 น.
  
ซื้อมาแล้วค่ะ ยังอยู่ในกองดอง
ว่าจะไปมัณฑะเลย์ตอนกุมภา คิดว่าน่าจะอ่านก่อนไป


เอาไว้บิ้วอารมณ์เวลาไปเที่ยว
โดย: จิตหลอน วันที่: 10 ธันวาคม 2556 เวลา:10:52:20 น.
  

คุณ panda and lion | เข้าใจว่าเช็คผ่านหน้าเว็บไซท์แล้วมัน sold out ไปหมดแล้วค่ะ
คุณ ~:พุดน้ำบุศย์:~ | ภุมรีมีไปโผล่ในกี่เพ้าแวบๆ นะคะ
คุณ polyj | กลัวผีเหมือนกันค่ะแต่ก็ชอบอ่าน >_< จริงๆ ผีผ้าก็ไม่น่ากลัวนะคะ
คุณ Serverlus | รอยไหมยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ แต่เรื่องผีผ้าอื่นๆ ก็ยอมรับนะคะว่ามันมีจุดบกพร่องอยู่ ทว่าเราก็ยังอ่านงานของคุณหมอได้ต่อไปแฮะ
คุณ Sab Zab' | ชื่นชมผู้เขียนในการหาข้อมูลเช่นกันค่ะ คิดว่าคงต้อง research เยอะมาก
คุณ สามปอยหลวง | อ่านแล้วอย่าลืมรีวิวนะคะ อยากอ่านความคิดเห็นของคุณสามปอยหลวงบ้างค่ะ :-D
คุณ อุ้มสม | คิดว่าคงมีรีพริ้นท์เลยรอๆ อยู่นี่แหละค่ะ เห็นด้วยว่าอยากอ่านพาร์ทอดีตให้เยอะกว่านี้ มันเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด น่าจะปล่อยพลัง ปล่อยอารมณ์บีบคั้น ขุ่นแค้นของเจ้าหญิงมินพยูและการเสียสละของยายเอละวินได้เยอะกว่านี้ค่ะ อ่อ รวมถึงตัวพันโทเดวิดด้วยค่ะ
คุณ Pdจิงกุเบล | ฮะฮะ ส่วนตัวสติมีแต่ไม่ค่อยมีสมองค่ะ ใสแบ๊ว LOL
คุณ คุณหนูฤดูร้อน | กลับกันเลยค่ะ อ่านแต่หนังสือไม่เคยดูละครค่ะ ดูละครมันไม่น่ากลัวกว่าเหรอคะ? T.T ในละครผีมาเป็นตัวๆ เลยนะ
คุณ จิตหลอน | ดีค่ะ ได้ไปตามรอยในตัว >_<



โดย: a murder suicide วันที่: 10 ธันวาคม 2556 เวลา:22:11:03 น.
  
ไม่กล้าอ่านรีวิวค่ะ...กลัว
โดย: Aneem วันที่: 11 ธันวาคม 2556 เวลา:19:39:24 น.
  
สนุกค่ะ ในชุดผีผ้า
โดย: ไรวินท์ วันที่: 1 มกราคม 2557 เวลา:12:35:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

a murder suicide
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



fat NEET and sometimes Hikki.
living in the small and blind world, kind of closed mind, a light level of bipolar, not much friendly with human.



All Blog