SmileySmiley :: How Do I Enjoy Life while "Living with Cancer" ::
Group Blog
 
All blogs
 

ถึงใจ...กิ่วลมเหนือ ยอดดอยหลวง (ดอยหลวง ตอนที่ 2)

:: จาก วันแรก "ปีนใต่เดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว" ตอนที่ 1




คืนนั้น ฟ้าปิด....
ลมโหมกระพือเต้นท์เป็นระลอก
อุณหภูมิที่ 10 องศา อารักษ์ป่า ยังปราณี....

:: เมื่อยหน้าแข้ง....
:: พลิกตัวไปมา....
:: นอนอุ่นสบาย....

ตื่นเช้าโผล่ออกจากเต้นท์ 6 โมง ยังฟ้ามืด...
กลับเข้าไปนอนอุ่นอีกเดี๋ยวนึง
โผล่ออกนอกเต้นท์อีกทีตอน 6 โมงครึ่ง ฟ้าสาง
เราอยู่ในเมฆอีกแล้ว...



เช้านี้ คุณแม่สดชื่นดี บอกว่า "เมื่อคืนไม่หนาวเท่าไหร่..."
แล้วงัดเอาเครื่องวัดความดันขึ้นมาวัด ตัวบนสูง 165 "โห...แม่ความดันขึ้นแฮะ"
แม่บอกว่า "แต่ไม่มีอาการอะไรเลยนะ"
เราเอามาวัดบ้าง แต่ละคนความดันสูงกว่าปกติ +30 ได้
แต่ไม่รู้ว่า ที่สูง อากาศเบาบาง แบบนี้ เครื่องมันรวน
หรือว่า ความดันโลหิตเราสูงขึ้น ตามไปด้วย....

ทีมงานเริ่มก่อไฟ หุงข้าว ทำอาหาร 2 มื้อ คือเช้ากับห่อข้าวผัดไปกินเที่ยง
วันนี้ เราต้องเดินป่าศึกษาธรรมชาติ...ที่กิ่วลมเหนือ และยอดดอยหลวง

สมาชิกทริปค่อยๆ โผล่ออกจากเต้นท์กัน ทีละ คน สองคน
"เมื่อย"......เสียงครวญเบาๆ ของสาวพยาบาล....
ฉันบิดขี้เกียจ แล้วบอกว่า
"เมื่อยเฉพาะหน้าแข้ง เพราะไม่ได้ทำท่าโยคะที่บริหารหน้าแข้ง"
ที่เหลือกล้ามเนื้ออื่น สบายมาก...

"พี่กวาง นำฝึกโยคะหน่อยดิ เอาตอนนี้เลย จะได้เตรียมลุยต่อ"
เอ้า...งั้นมาเลย ล้อมวง....
เราได้ที่เป็นผ้าร่มฟลายชีทสำหรับปูนั่งกินข้าว และทำกิจกรรมต่างๆ
เลยได้เป็นที่ปูโยคะด้วย ฉันเว้นท่านอน ก็พื้นลานกางเต้นท์มันแข็ง...



:: คุณยาย มาฝึกด้วย...เกือบจะนำฝึกเองอีกแนะ :)
:: นุ ประธานกลุ่มรักษ์ล้านนา เห็นเจียวไข่อยู่สักแป๊ป กระโดดแผล็ว มาฝึกโยคะอาสนะ แย้ว




:: เมื่อเดือนธันวา - มกรา ที่ผ่านมา ฝึกโยคะกลางหมอก และเหมย (หมอกที่ตกลงมา)
:: แต่มาวันนี้ ได้บรรยากาศใหม่ ตรงตีนดอยหลวงเชียงดาว ฝึกโยคะในม่านเมฆ






โยคะจบเอาตอนที่อาหารเสร็จ....



อิ่ม...อร่อย กับน้ำพริกชนิดต่างๆ
ไข่เจียว ถั่วฝักยาวผัดพริกแกง

แต่งตัวเตรียมขึ้นเดินชมวิว ที่กิ่วลมเหนือ
:: แม่ถ่ายรูปกับเบิร์ท
:: ครอบครัวเรา จากซ้าย "คุณแม่ ผึ้ง พี่นก กวาง และโธมัส"




ระหว่างทาง
เจอกับชมพูพิมพ์ใจ อีก.... กลีบบางๆ สีชมพูอ่อนๆ พริ้วไหวอยู่ในสายลมแรง



"กิ่วลมเหนือ กิ่วลมใต้" เป็นดอยสองลูกที่อยู่ใกล้กัน
เกิดช่องลม ที่พัดเอา เมฆขาว ล้อภูผาไปมา....



พืชพันธุ์ไม้กึ่งอันไพน์ระหว่างทางไปกิ่วลม....
ชมพูพิมพ์ใจ หางปลา กุหลาบที่มีหนามอยู่กลางใบ
ดอกอูนป่า มอสชุ่มน้ำค้าง และดอกอะรูมิไล้
(อะไรมิรู้ : ได้รับการตั้งชื่อโดยน้องนุ๊ค) สีม่วงเล็กๆ



ดูหางปลาใกล้ๆ แปลกดี...





ขึ้นกิ่วลมเหนือ
คุณยายเตียวหุย ทั้งปีนทั้งป่าย
คุณยายถือไม้เท้า เอาไว้ถ่อเรือ แต่ตอนนี้ "ถ่อสังขาร" ซะก่อน
อันนี้ คุณแม่พูดเองนะค๊า...






ที่กิ่วลมเหนือ มีพันธุ์ไม้เยอะแยะ
ที่เห็นเด่นๆ บนสีเหลืองสดอยู่ตอนนี้ เรียก สุวรรณนภา
เห็นเกาะอยู่ตามหน้าผา ท้าลมแรงๆ น่าจะชื่อ สุวรรณหน้าผา ซะมากกว่า



ฟ้าคราม สีสันตามชื่อที่ตั้งไว้...





ที่ดอยกิ่วลม...จุดสูงสุดเป็นโขดหิน ไต่ขึ้นไปทุกคน รวมทั้งคุณแม่ด้วย
ลมแรงมาก หัวหูกระเจิง พัดเอาเมฆเคลื่อนผ่านตัวไป...
นั่งกินข้าวผัดกับน้ำพริก เป็นมื้อเที่ยงบนกิ่วลมเหนือนี่ล่ะ



:: ถ่ายรูปกับคุณแม่.... "ถ้าฉันอายุ 70 ปี จะแข็งแรงเท่านี้มั้ยหนอ"






นานๆ ฟ้าจะเปิดสักที เปิดครั้งละ 15 วินาที...
ก็เห็นฟ้าสีเข้มจัด...






กลับมาที่ตีนดอยหลวงเชียงดาว ตรงอ่างสลุง
พี่นก ไม่รู้หมดแรง หรือชมเมฆา....






พักผ่อนสบายๆ ที่เต้นท์
แล้วกางฟลายชีท บนพื้นจัดกิจกรรมวาดรูป
พี่นกถ่ายรูปให้ตอนนี้



ผลงานของฉัน.... เละ
เทคนิคเยอะแยะ เปียกบนเปียก เปียกบนแห้ง แห้งบนเปียก...
เฮ้อ..เหนื่อยกว่าปีนดอยกิ่วลมเหนือ ซะอีก






บ่ายสามโมงกว่า ก็คะเนกำลังกันไม่ค่อยได้ซะแล้วน่ะสิ...
ยังไงต้องพากันขึ้นให้ถึงยอดดอยหลวงเชียงดาว...........

ถึงจะมีทางอ้อมขึ้นด้านข้าง แต่ก็นะ...ชันเจงๆ


บนนี้ มีกุหลาบป่าเต็มไปหมด กำลังออกดอกตูม...
ตอนแรกคาดว่า จะบานเต็มเขา...แต่ ยังเลย คงต้องปลายเดือนกุมภานี้
เย้..เจออยู่หลายดอก มีดอกนึงที่อยู่ใกล้ๆ
ฟ้าเปิดพอดี ได้ฉากหลังสีฟ้าเข้มจัด..






ท้องฟ้าเปิดทั้งหมด คอยดูพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขา...
ถ่ายรูปกันมากกว่า 100 รูปได้...

นี่น้องผึ้ง...เสื้อสีแดงเลย


ถ่ายรูปกันใหญ่..ภูมิใจที่ขึ้นมาถึงยอดดอยหลวงเชียงดาว จนได้


ระหว่างคอยพระอาทิตย์ตก
ไหว้พระอาทิตย์ รับพลังชีวิตแบบเรกิ
และวาดรูป................................



เวลาที่รอคอย...ดอยสามพี่น้อง...อลังการ...


พวกเราผู้ร่วมคณะเดินทาง สู่ยอดดอยหลวง
ชื่นชมคุณแม่............."ข้าน้อยขอคาระวะ.."




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 10:50:53 น.
Counter : 1407 Pageviews.  

ปีนไต่เดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว... (ดอยหลวง ตอนที่ 1)

ดอยหลวงเชียงดาว ตระหง่านอยู่ตรงหน้า.....


มองดูเมฆา เทียมยอดดอยหลวง
สองขาจะก้าวเดิน ปีน ป่าย ตะกายขึ้น
ถึง...ไม่ถึง...ก็ต้องถึง



:: ทริปนี้ ตื่นเต้นมาก
พี่สาวคนโต เธอให้น้องนุ๊กที่น้องจากที่ทำงานจัดทริปให้ และเป็นผู้ประสานงานด้วย
ครอบครัวของเรา ไปกันครบ มีพี่สาวคนโต (พี่นก) น้องสาวคนเล็ก (ผึ้ง) คุณโธมัส ฉัน และที่สำคัญ คุณแม่ ไปด้วย

:: ปีนี้ แม่ อายุ 69 ปี...
การเดินป่า แค้มปิ้ง ขึ้นดอย ยังไม่เคยกะเขาสักที
แต่ก่อนเวลาเราไปแค้มปิ้งตามอุทยานแห่งชาติ แม่ก็จะเป็นห่วงโน่นนี่
เมื่อทริปแค้มปิ้งเขาใหญ่ พอแม่ได้ไป ก็ติดใจ

คราวนี้ จะขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ที่ความสูง ระดับ 3 ของประเทศไทย
แม่ก็บอกว่าจะไปด้วย ทั้งๆ ที่ถูกขู่และให้กำลังใจไปพร้อมกันว่า
"ถ้ารถ 4WD ไปส่งถึงเด่นหญ้าขัด ถ้าเขากลับลงไป ทีนี้ก็ตัวใครตัวมัน
ไม่มีใครช่วยใครได้ เพราะต้องเอาตัวให้รอด...."

พวกเราก็เหลือลุ้นกัน ว่า แม่จะไม่สะดุดล้ม ลื่นก้นกระแทก หรือเดินไม่ยอมพัก
จนความดันโลหิตขึ้นสูงเกินไป... หากล้ม...กระดูก คงทนแรงกระแทกไม่ไหว..
สรุปว่า "พวกเราใจกล้ามาก ที่ให้แม่ไปด้วย"

ได้ข่าวว่า เมื่อทีมงานนำเดินป่า รับแจ้งว่า พี่สาวคนโตของฉัน
จะพาครอบครัวไป เขาก็เฉยๆ
แต่พอบอกว่า "คุณแม่ไปด้วย"
เบิร์ท หัวหน้าคณะผู้นำทาง ถามทันทีว่า "อายุเท่าไร"
น้องนุ๊ก ตอบว่า "ก็ไม่เท่าไรนะ พอๆ กับพ่อครู" (ที่จริงพ่อครู อายุไม่ถึง 60)
เบิร์ท "แต่พ่อครู ไปแวะระหว่างทางนะ แต่คำสั่งคราวนี้บอกว่า
ขึ้นรวดเดียวถึงอ่างสลุง ไม่เปลี่ยนแผนกันหน่อยเรอะ?"

อาหารการกิน ก็แจ้งไปว่า เน้นผัก และอาหารที่เป็นมังสะวิรัติมากหน่อย
เบิร์ท ต้องทำการบ้านเรื่องอาหารเยอะหน่อย
ก็เดิมเขามีเมนูประจำไม่ต้องคิดอะไรมาก....
แต่คราวนี้ นุ๊กบอกว่า "เบิร์ท เขาโทรหานุ๊ก ทุกวัน ก่อนขึ้นดอยเนี่ย
-- ตอนนี้อยู่ที่ตลาดนะ ไอ้ผัก.....เนี่ย ได้มั้ย?"
ปรากฏว่า ถึงบนดอยหลวง เราได้กินน้ำพริกถึง 4 ชนิด
เป็นน้ำพริกข่า น้ำพริกแคบหมูเจใส่เห็ดเข็มทอง
น้ำพริกเห็ดสามอย่างหน้าตาเหมือนลาบ และน้ำพริกเผา...

วันที่เราไปถึงเชียงดาว มีงานสืบสานประเพณีล้านนา ที่วัดแม่อีด ในเมืองเชียงดาว
น้องนุ๊คได้รับโทรศัทพ์จากนุ ทีมงานอีกคนหนึ่งเป็นประธานกลุ่มรักษ์ล้านนา
"นุ๊ค พี่เห็นคุณยาย (แม่) แล้วนะ ที่งานวัดเนี่ย...พี่ว่า ไหวอยู่"
คือว่า ทีมงานยังลุ้นอยู่จนวันสุดท้าย ว่างั้นเหอะ...!!!




:: ปลายเดือนมกราคม 2551
:: ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่
:: ร่วมทริปกับกลุ่มรักษ์ล้านนา



:: เที่ยวงานวัดแม่อีด ชมการแสดงกลองสะบัดไชย ฟังเพลงปากะญอ
ดูรำศิลปะป้องกันตัวแบบล้านนา ฟังเพลงคำเมืองของคุณบุญศรี รัตนัง

มีเขาวงกต ที่วัดเอาไม้ไผ่ทำเป็นรั้วทางเดิน ดูเผินๆ ไม่น่าสนใจ
แต่พอเข้าไป...เฮ่อ..มีหลง เข้าไปถึงก็บูชาเทียนแด่พระพุทธ...
แม่ค้าเล่าว่า ตอนบ่าย มีกลุ่มนักเรียนหญิงมัธยมต้นเข้าไปเขาวงกต
แล้ววิ่งๆๆๆ วิ่งไปวิ่งมา หลงหาทางออกไม่ได้ มีคนหนึ่งเป็นลม
ต้องนิมนต์พระไปช่วยพาออกมา.....อ่านะ

:: กินข้าวซอย ข้าวกั๊นจิ้น ขนมเส้นน้ำเงี้ยว ไข่ป่าม กันที่กาดหมั้ว
มีต่อยมวยไทยด้วย เสียงดนตรีเร้าใจชมัด แต่ไม่ได้ไปดู...




คืนนั้น เรานอนพักที่ เชียงดาวอินน์ ใกล้ทุกอย่าง...
ตื่นเช้าออกมากินข้าวราดแกงได้สบายๆ

เริ่มทริปกัน ด้วยการรวมตัว สมาชิก 11 คน ทีมงาน 5 คน
ลูกหาบน่าจะ 7 คน เพราะเราขอพิเศษ คือไม่แบกอะไรเองเลย
ยกเว้น น้ำดื่มส่วนตัว กล่องข้าว และเสื้อกันหนาว...

:: พากันไปไหว้พระที่วัดแม่อีด และถวายทานแด่อารักษ์ป่าดอยหลวง
เพื่อความเป็นสิริมงคล..........

:: กลับมากินอาหารเช้า แบบอาหารเหนือ
ได้แก่ ไส้อั่ว ปลาบ้วง (ปลาช่อนแดดเดียว) ผักกาดจอ ผัดผักรวม
ปั้นข้าวเหนียวกันอร่อย....อิ่มเอม

จัดข้าวของ อันไหนไม่จำเป็นไม่เอาขึ้นดอย
รับห่อข้าวแบบบ่าเก่า (แบบดั้งเดิม เอาข้าวห่อใบตอง) คนละ 2 ชุด
ข้าว 2 ห่อ กับข้าว 2 ห่อ สำหรับมื้อกลางวัน และมื้อเย็น
คาดว่า จะถึงอ่างสลุง คือจุดกางเต้นท์ตอนเกือบค่ำ
หรือถ้าช้ากันมากๆ ก็คงต้องใช้ไฟฉายส่องทางเดินกัน....






ขึ้น 4WD เป็นรถกะบะ ขนสัมภาระทั้งหมด
ไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว เตรียมตัวผูกเชือกรองเท้า เข้าห้องน้ำ
ชมวิดีโอวิธีการเดินป่า ชมพันธุ์ไม้ เชิงอนุรักษ์
โดยเฉพาะ เรื่องการขับถ่ายให้เป็นที่ ไม่ทิ้งขยะ...

สะพายเป้ขึ้นบ่า แล้วบูชาอารักษ์ป่า และเจ้าหลวงคำแดง
เริ่มการเดินทางด้วยเท้า ที่เด่นหญ้าขัด

:: เพิ่งเริ่มต้น ทุ่งหญ้า ป่าสน ดอยสูง ก็สวยแล้ว....






:: ดอยหลายลูก อยู่เบื้องหน้า....
ดอยสามพี่น้อง ดอยหนอก ดอยปิรามิด
เมฆขาวคลุมยอดดอย............
เดินผ่านบริเวณ "หมาก๊าน" ทางชัน ประมาณว่า ถึงหมามีสี่เท้า ยังยอมแพ้
บางช่วงเราจึงต้องเดินสี่ตีนบ้าง........

:: ถึงป่าไผ่...แวะพักกินข้าว งัดห่อข้าวแบบบ่าเก่าออกมา
มีข้าวเหนียวนึ่ง 1 ห่อ อีกห่อเป็นกับข้าว มีไส้อั่ว และปลาช่อนแดดเดียว
มาทริปนี้ บอกกับตัวเองไว้แต่แรกว่า "มีอะไรกิน ก็กิน"
...รำแต้ๆ....อ่ะฮ้า นานๆ จะได้กินไส้อั่วรสชาติแบบออริจินัล....555
แบบนี้ เรียกว่า ฉวยโอกาส

เจอกาบไผ่ อันใหญ่มาก เอามาทำเป็นที่ปูรองอาหารซะเลย

:: เดินๆ ไปก็เจอดงท้อ มีดอกท้อบานอยู่นิดหน่อย กำลังสดชื่น

:: ภูผาข้างหน้า สูงชัน เสียดฟ้า เห็นเป็นภูเขาหินปูนได้ชัดเจน....






ปีนป่ายมาเรื่อยๆ ไกลออกมาจากดอยสามพี่น้อง จนเห็นดอยสามลูกเรียงเคียงกัน
ท้องฟ้ายังปิด ปกคลุมด้วยเมฆขาว เดินสบายๆ แค่เหงื่อซึมๆ ไม่เปลืองน้ำดื่มมากนัก

ท้องฟ้าเปิด...แล้วกระแสลมแรงก็หอบเอาเมฆกลุ่มใหม่เข้ามาบังแสงอาทิตย์
อย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงในท้องฟ้า ชั่ว 10 วินาที แสงแดดมา แล้วก็ไป..

บางช่วงเดินในทุ่งหญ้า สูงท่วมหัว
เกาะหิน ไต่ ก้าว ยึด ดึง...
แล้วพบว่า อยู่สูงขึ้นเรื่อยๆ และเราก็แทรกตัวอยู่ในม่านเมฆ.........






:: ได้เจอกับ "ชมพูพิมพ์ใจ" หนึ่งในพันธุ์พืชแบบกึ่งอันไพน์
ด้วยระดับความสูงของดอยประมาณ 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
พืชพันธุ์หลายอย่างที่เป็นแบบกึ่งอันไพน์ เกิดจากเมล็ดพืช
ที่ถูกลมหอบเอามาจากเทือกเขาหิมาลัย
และดอยหลวงเชียงดาว ก็เป็นสุดท้าย ท้ายสุดของเทือกเขาหิมาลัย

พืชพันธุ์เหล่านั้น มาตกอยู่ในเขตดอยหลวงเชียงดาว และปรับตัว
ขยายพันธุ์ จนมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว...และเป็นหนึ่งเดียวในโลก...

:: ยามฟ้าเปิด ท้องฟ้าที่เห็นจากดอยหลวง เป็นสีฟ้าเข้ม
:: ชมพูพิมพ์ใจ โพสต์ท่ากับดอยปิรามิด
:: คุณโธมัส หวานใจฉัน ก็โพสต์ถ่ายบ้าง






:: ก้าวย่างต่อไป จนถึง "ดงเย็น"
แถวนี้ จะเห็นมอส ตามพื้น และหิน
เห็นไลเค็น บนต้นไม้
ความชุ่มชื้น เย็นยะเยือก แผ่ซ่านไปทั่วดงเย็น
และเข้าถึงหัวใจฉัน.........
ต้นไม้เล็กๆ งอกขึ้นมาใหม่ ใบอ่อน สีเขียวสดใส
เริงร่าอยู่ใน กลุ่มมอส และน้ำค้าง

:: พ้นออกจากดงเย็น
เห็นต้นหญ้าสองข้างทาง ยืนต้นแห้งตาย
น้องโย...ทีมงานผู้นำทางบอกว่า "เดือนที่ผ่านมา กลางคืนอากาศหนาวเย็น
มีน้ำค้างแข็ง "แม่คะนิ้ง" แล้วตอนกลางวันฟ้าเปิด แดดแรง ต้นหญ้าโดนแดดฟาด
เกิดการช็อคจากเย็นเป็นร้อน จึงแห้งตาย"

:: ถึงจุดทางแยก ตรงไปเป็นลานกางเต็นท์ "อ่างสลุง"
แยกขวาไป "ยอดดอยหลวง" ต้องเดินอ้อมขึ้นด้านข้าง
แยกซ้ายมือ ไป "สุขา"

:: ซ้ายมือของภาพล่าง สีจางๆ
คือยอดดอยหลวงเชียงดาว..........อีกไม่ไกลแล้ว
ในทริปอื่น บางคนมาถึงตรงนี้ ก็หมดแรง เห็นใกล้เพียงนี้
แต่ทางชัน...............เขายอมแพ้....ไม่น่าเชื่อ



เพราะฉันยังคึก....พลังงานยังมีเหลือ
แม้จะเมื่อยหน้าแข้ง และสะโพก อยู่บ้าง

การฝึกโยคะมาเป็นเดือนๆ ช่วยได้มาก
อาการเหนื่อยหอบ แทบไม่มี ยกเว้นตอนขึ้นทางชันแถวหมาก๊าน

:: การเดินแบบบำเพ็ญเพียร
:: ย่างซ้าย ก็ว่า ซ้าย
:: ย่างขวา ก็ว่า ขวา
:: มองดูลมหายใจเข้าออก...........
:: เมื่อไหร่เผลอตื่นเต้นกับเมฆหมอก สายลม ภูผา เป็นอันรีบเดิน
:: เมื่อนั้นแหละ ได้หายใจแรง หัวใจเต้นเร็ว......




น้องโย คุณโธมัส และฉัน เป็นกลุ่มแรกของสมาชิกที่เดินถึง
เริ่มเดิน เที่ยง ถึงอ่างสลุง 5 โมงเย็น

ถึงอ่างสลุง เราก็พบว่า น้องติ๊กลูกหาบตัวบาง เริ่มกางเต้นท์ไปแล้ว 4 เต้นท์
เหลืออีก 4 ก็ช่วยกันกางจนเสร็จ........... ลูกหาบคนนี้ แบกเต้นท์น้ำหนัก
2.5 กิโลกรัมขึ้นมา 8 หลัง บวกเต้นท์สามเหลี่ยมและสัมภาระส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง!!!

กลุ่มที่สอง ถึง 5 โมงครึ่ง เป็นกลุ่มพยาบาลจากเชียงราย เพื่อนของผึ้ง
กลุ่มที่สาม มีคุณแม่ พี่นก ผึ้ง นันทา และน้องใหม่ มาถึงตอน 6 โมงเย็น...
เก่งมากๆ ขอสรรเสริญ....ทำเวลาได้ดีมากๆ ฟ้ายังสว่างอยู่....

เล่ากันว่า คุณแม่ กับนันทา หัวเราะกันครื้นเครงตลอดทาง
คุณแม่ได้ฉายามาว่า "เตียวหุย" เตียว = เดิน ส่วน หุย = หัวเราะเสียงดัง
ส่วนนันทา ได้ฉายา คู่กัน "เตียวเหิด" เพราะ เหิด คล้ายๆ หุย แต่เสียงดังกว่า...555

คืนนั้น กินข้าวห่อจากใบตอง กับน้ำพริกข่า.........
ฉันพกมะเขือเทศ กล้วยหอมและส้มขึ้นไปด้วย จึงกำจัดซะเกลี้ยง

เข้านอนกันแต่หัวค่ำ...อากาศเริ่มเย็น...
น้ำค้างตกหนัก ฟ้าปิด...อุณหภูมิ ไม่แย่นัก ที่ 10 องศา
เราเตรียมผจญความหนาวที่ 0 - 3 องศา
ในเต้นท์ ถุงนอน และเสื้อ-กางเกงหลายชั้น จึงอุ่นมากพอ.........




ภาค 2 ถึงใจ..กิ่วลมเหนือ ยอดดอยหลวง (ดอยหลวง ตอนที่ 2)




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2551 14:13:59 น.
Counter : 2268 Pageviews.  

เขาใหญ่..สถานที่แค้มปิ้งที่ไม่เคยเบื่อ..

4 คืน 5 วัน ที่จุดกางเต้นท์ผากล้วยไม้

กิจกรรมทั่วๆไป
ขับรถเที่ยว ไปผาเดียวดาย เดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติผากล้วยไม้ มอสิงห์โต หนองผักชี
ฝึกโยคะ ฝึกเรกิรับพลังจากดวงอาทิตย์ วาดเส้น วาดภาพระบายสี ฝึกปฏิบัติธรรมสมาธิตรงหน้าผา หรือไม่ก็ในเต้นท์ก่อนนอน...
เฝ้าระวัง ไล่หัวขโมย...พวกไอ้กวาง ไอ้ลิง ไอ้เม่น....

อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 องศา...
ไม่ยั่น ก็เอาผ้านวมไปตั้ง 4 ผืนกับถุงนอน 2 อัน สำหรับ 3 คน...
.
.
.
ป่าใหญ่
ทุ่งหญ้ากว้าง
ดวงตะวันสาดแสงอุ่น
ดวงจันทร์กลมโต
ดาวเต็มฟ้า
ป่าบรรเลงเพลงใบไม้...
.
.
.







ใจเย็นๆ นะ อย่าเข้ามาใกล้...กวางป่า เด็กรุ่น
ถ้ากวางป่าผู้ใหญ่จะตัวโต ประมาณควาย... กวางป่า เรียกว่า Deer Deer หรือ Sambar



ปักหลัก ไม่ย้ายไปไหนเลย 4 คืน


หัดวาดรูป...ภาพทิวทัศน์ต้นไม้.ภาพแรก..
ดูผลงานคลิ๊กที่นี่


ต้นไม้สูงใหญ่


หนาว.....


แม่กับน้องผึ้ง


ผึ้งกับทุ่งหญ้า


วาดเส้นในป่า...ได้ลายเส้นรูปใบไม้มา...



ปิ้งกล้วย...กล้วยปิ้ง


แม่-กวาง-กล้วยปิ้ง


สีสันของป่าเขาใหญ่


ดอกหญ้าริมทาง..




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2550    
Last Update : 4 ธันวาคม 2550 8:52:27 น.
Counter : 4835 Pageviews.  

ถ่ายรูปเล่นที่ร้านอาหาร....

ว่างๆ ก็ถ่ายรูปเล่น...
แทนที่จะถ่ายแบบเดิม คือ พอมืดๆ ก็ใช้ ISO1600 โลด..

หลังจากได้เทคนิคนิดๆ หน่อยๆ ให้ภาพถ่ายนิ่งขึ้น
แล้วใช้ Manual ใช้ ISO100 แล้วก็ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์...














 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2550 18:35:10 น.
Counter : 646 Pageviews.  

แล้วเขาก็ทำธุรกิจ ร้านอาหาร : ครัวสายลม Garden พระราม 3

หลังจากฉัน....มีทางเดินที่ลงตัวแล้ว...
คือ ใช้เวลาส่วนมากอยู่หลวงพระบาง... สบายทั้งกาย สบายทั้งใจ...
เขา (สามีของฉัน) ก็เริ่มธุรกิจอีกครั้ง

ทั้งเป็นตัวแทนรับจองตั๋วเครื่องบินทั่วโลก รับจองโรงแรมและจัดทัวร์ทั่วโลก
รวมทั้งที่หลวงพระบางด้วย

มีอีกอย่างที่ค่อนข้าง เซอร์ไพรส์ คือการทำธุรกิจร้านอาหาร
เขาเริ่มลงทุน เซ้งร้านชื่อ "ครัวสายลม" อยู่ที่สายลมอาพาร์เมนท์ พหลโยธินซอย 8
แล้วก็ขยายสาขา "ครัวสายลม" ที่ เควีแมนชั่น สุขุมวิท 81
จากนั้น ก็มีสาขาใหม่ แถวถนนรัชดา-พระราม 3 ใกล้ๆ สะพานพระราม 9

สาขาใหม่ ให้ชื่อ "ครัวสายลม Garden"
เพราะว่า สถานที่เป็นธรรมชาติมากๆ
ทั้งเขา และพี่เต่า ซึ่งเคยทำงานด้าน F&B มานาน และเคยไปทำงาน F&B manager
โรงแรมเดอะแกรนด์ หลวงพระบาง
ทั้งสองคน ไปดูสถานที่ แล้วพูดตรงกันว่า "ที่แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมี ในกลางเมืองกรุงเทพฯ"
"มันอย่างกับอยู่หลวงพระบางแน่ะ หรือไม่ก็เหมือนมุมหนึ่งของสมุย"

ก็ที่นี่ ไม่ได้อยู่ติดถนน จะเลี้ยวเข้าซอยไปหน่อยหนึ่ง หลบมุมอยู่
เข้าไปเป็นพื้นที่เกือบ 1 ไร่ มีบึงน้ำขุด ปลาตัวโตขึ้นมาอ้าปากฮุบอาหารปลาที่เราโปรยลงไปในบ่อ ต้นมะพร้าวต้นสูงทั่วพื้นที่
หลังจากตกลง เข้าไปเซ้งสถานที่ ก็เริ่มปฏิบัติการทำสวนใหม่ ตกแต่งด้วยกล้วยไม้ และไม้ประดับป่า ใช้ไฟสปอตไลท์ส่องเป็นจุด...หลังคาเอาจากมามุงทับ ได้บรรยากาศธรรมชาติสุดสุด...

ดูภาพกันดีกว่า

เงาต้นมะพร้าวสะท้อนน้ำ ยามเย็น...


เลี้ยงเป็ด ให้บ่อมีชีวิตชีวา ก็ตอนค่ำๆ มองไม่เห็นปลา...


น้องเป็ด ทำหน้าที่พนักงานต้อนรับ...เพราะคอยแย่งกินอาหารปลา...จากลูกค้าใจดี


มุมหนึ่งของร้าน ซุ้มส่วนตัว...


ดูซุ้มเต็มๆ ซุ้มนึง นั่งได้ 4-6 คน


จัดเบาะให้นั่ง เอกเขนก...สบายๆ ถ้าสั่งอาหารมาก โตกเล็กไป
ก็เสริมโต๊ะเตี้ยๆ ได้




ลานเบียร์ Outdoor ยิ่งเข้าหน้าหนาว ลมโชยมาตอนเย็นๆ อากาศดี....


แสงไฟ ยามค่ำ......เข้าประตูมาก็เห็นภาพนี้ ห้องกระจกติดแอร์




บรรยากาศเป็นแบบนี้ แล้วอาหารล่ะ????

ผัดฉ่ากุ้ง ปลาหมึก


ปลารากกล้วย ตัวจิ๋ว ทอดกรอบนอก แต่ข้างในยังมีเนื้อนุ่มๆ...


กุ้งแม่น้ำเผา...เสริฟกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดจี๊ดจ๊าด ชื่อเล่นจานนี้ เรียก กุ้งเต้นเมืองปทุม
สูตรโบราณของเมืองปทุมธานีเค้าล่ะ ก็พี่เต่า GM ของร้านเป็นคนปทุมธานีไง


ปลาทับทิมนึ่งมะนาว...


ปลาช่อนห่อใบตองย่าง...เนื้อปลาหอม ยวนใจ...เราเรียกชื่อเล่นว่า มัจฉาอบซาวน่า


ถ้าใครไม่รู้จะสั่งอาหารอะไร แล้วตอบพนักงานว่า "อะไรก็ได้"
จะได้มาเป็นจานนี้ .... เป็นไก่ย่างผัดตะไคร้....


หลายวันที่ผ่านมา ฉันอยู่กรุงเทพฯ เลยตะเวณเยี่ยมร้าน ทั้ง 3 ที่ พร้อมกับเขา
บางวันก็อยู่ร้านครัวสายลมการ์เด้นจนค่ำ นอนดึกหลายวัน
แต่ก็เพลินดี อยู่ในกรุงเทพฯ แต่เหมือนอยู่หลวงพระบาง.............
ละสายตาจากตึกคอนกรีต....และรถราแออัด....
ค่อยยังชั่ว....




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2550 17:43:27 น.
Counter : 3474 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

Minie'
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]




รู้โลกเรียนธรรม

Friends' blogs
[Add Minie''s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.