SmileySmiley :: How Do I Enjoy Life while "Living with Cancer" ::
Group Blog
 
All blogs
 
A New Reiki Master was born.


ฉันไปพบท่านอาจารย์โอมานัน บารตี ที่ศูนย์เรกิและสมาธิ OM Reiki Family
เวปของศูนย์ //www.omreikifamily.com
ในเมืองปูเน่ แคว้นมหาราษฏร ประเทศอินเดีย
เมื่อปลายเดือนเมษายน 2550
เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ผู้คนจะไม่มากนัก
ท่านอาจารย์จะมีเวลาให้เราได้เต็มที่...

ท่านถามฉันว่า วัตถุประสงค์ในการมาคืออะไร
ฉันตอบท่านว่า ฉันมองหาสิ่งที่จะทำให้เริ่มปฏิบัติสมาธิภาวนาได้


เราเริ่มต้นกันที่ การบำบัดความเจ็บป่วยของฉันด้วยเรกิ
มิกะ เพื่อนชาวฝรั่งเศสของคุณโธมัส
ได้อธิบายเพิ่มเติมในฐานะหนึ่งในอาจารย์เรกิว่า
"เรกิ คือ พลังชีวิตบำบัด เป็นการนำพลังชีวิตจากจักรวาลมาใช้บำบัดตนเอง และผู้อื่น ซึ่งจะบำบัดได้ ทั้ง 3 ระดับ ได้แก่ ความเจ็บป่วยของร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ"

สำหรับฉัน ถึงแม้ว่า ตัวเองจะไม่มีอาการของการเป็นมะเร็งอีกแล้ว
แต่ยังมีอาการทางร่างกาย ที่เป็นผลข้างเคียงจากการผ่าตัด และให้เคมีบำบัด
รวมถึงลึกเข้าไปภายในความรู้สึก มันมีรอยแผลเป็นรอยใหญ่.....

ท่านอาจารย์ใหญ่ หรือที่เราเรียกในภาษาฮินดี ว่า สวามีจี
ได้บำบัดเรกิ ให้ครั้งละเกือบ 1 ชั่วโมง จำนวน 5 ครั้ง
(ฉันจ่ายเป็นค่าวิชาและค่าสถานที่ ครั้งละ 2,000 รูปี)
ระหว่างนั้นท่านสวามีจีได้ให้มิกะ เป็นอาจารย์พี่เลี้ยง เริ่มสอนศาสตร์แห่งเรกิ

โดยท่านสวามีจีเป็นผู้สืบทอดพลังเรกิให้แก่ฉัน (Reiki Initiation/Attunement)
เป็นผู้สืบทอดอันดับที่ 8 นับจากท่านอาจารย์ ดร.มิกาโอะ อูชุอิ ผู้รู้แจ้งศาสตร์แห่งเรกิ



ฉันเริ่มเรียนรู้ เรกิระดับ 1 ด้วยการฝึกสวดภาวนา ไหว้ขอบคุณและรับพลังชีวิตจากพระอาทิตย์ ฝึกบำบัดให้ตนเอง และฝึกปฏิบัติสมาธิภาวนา

จากเรกิ ระดับ 1 ไม่กี่วัน ก็เรียนรู้ระดับ 2 ก้าวขึ้นไปสู่สิ่งที่เข้มข้น และใช้สติอยู่กับตัวมากขึ้น เริ่มบำบัดให้ตนเองทุกวันเป็นเวลา 21 วัน เพื่อให้ เรกิระดับ 1 สมบูรณ์

ท่านสวามีจี ให้แนวทางในการใช้ชีวิต ให้ฝึกปฏิบัติระหว่างใช้เวลาอยู่ที่ปูเน่
รวบรวมเป็นหัวข้อ แบบนี้

1. การมีสติ อยู่กับปัจจุบัน เช่น การเดินให้รู้ว่า ก้าวเท้าไหนอยู่

2. การไม่คิด แต่เฝ้าดู สิ่งที่เกิดขึ้น

3. การฝึกใช้มือซ้ายให้มากขึ้น จากการ ใช้มือซ้ายเปิปข้าว หรือใช้ช้อนตักอาหาร การเขียนหนังสือด้วยมือซ้ายวันละ ครึ่งชั่วโมง

4. การฟัง ให้เป็นการฟัง โดยไม่มีการวิเคราะห์ ไม่มีความรู้สึกร่วม ไม่เอาความรู้เดิมๆ มาตัดสิน ไม่มีการเห็นด้วย หรือโต้แย้ง จึงจะทำให้การฟังมีประสิทธิผล

5. การขอบคุณ "การดำรงอยู่ของชีวิต" ในวันนี้ ไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หรือเป็นสุข หากไม่มีอาการป่วยแล้ว ก็อย่ารู้สึกว่าป่วย...... ขอบคุณต่อสิ่งที่ได้รับเมื่อมีคนให้มา...และขอบคุณกับสิ่งที่ไม่ได้รับ หรือไม่มี....

อีกส่วนหนึ่งประกอบกันเข้าไป คือหลักคิด 5 ข้อ ของศาสตร์แห่งเรกิ
ซึ่งจะทำการสวดภาวนาทุกเช้า และเก็บความรู้สึกแห่งความสงบสุขนั้นไว้ตลอดทั้งวัน

1. ตั้งแต่วันนี้ ฉันจะมีชีวิตอยู่ด้วยทัศนคติแห่งความซาบซึ้งในบุญคุณของสรรพสิ่ง
(วันนี้ ฉันจะมีชีวิตอยู่ด้วยความขอบคุณ)

2. ตั้งแต่วันนี้ ฉันจะไม่กังวล
ฉันจะไม่ติดกับสิ่งที่ผ่านมาในอตีต และไม่เป็นห่วงกับเรื่องในอนาตคที่ยังมาไม่ถึง
ฉันจะอยู่กับปัจจุบัน เพราะปัจจุบันคือของขวัญสุดวิเศษที่ได้รับจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

3. ตั้งแต่วันนี้ ฉันจะไม่โกรธ
ฉันจะไม่หงุดหงิด รำคาญใจ จะมองคนอื่นอย่างที่เขาเป็น มองตัวเองอย่างที่เราเป็น

4. ตั้งแต่วันนี้ ฉันจะทำงานของฉันและงานด้านจิตวิญญานอย่างซื่อสัตย์
ทำงานอย่างตั้งใจ จริงใจ บริสุทธิ์ใจ ซื่อตรง ยุติธรรม มีคุณธรรม

5. ตั้งแต่วันนี้ ฉันจะแสดงความรักและเคารพต่อสรรพสิ่ง

เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ ฉันก็เรียนจบระดับที่ 2
โดยรู้สึกสัมผัสได้กับพลังงานที่เคลื่อนอยู่ในร่างกาย และที่ฝ่ามือ
การฝึกบำบัดให้แก่ผู้อื่น ฉันเริ่มได้ทราบผลตอบรับจากการบำบัด....

เริ่มสนใจ จะเรียนเป็น "อาจารย์เรกิ"
ฉันถามท่านสวามีจีว่า "ถ้าจะเรียนเป็นอาจารย์ต้องทำอย่างไรบ้าง?"
ท่านสวามีจีตอบว่า "จากที่ดูพื้นฐานของเธอ มีนากุมารี เธอมีสมาธิในการปฏิบัติเต็มที่ดีแล้ว หากต้องการจะเป็นอาจารย์ก็ฝึกได้ โดยใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ ต้องบอกก่อนว่า ทางศูนย์จำเป็นต้องคิดค่าวิชา 25,000 รูปี เนื่องจากลูกศิษย์ส่วนใหญ่มักจะเรียนเพื่อนำไปประกอบวิชาชีพ ในการสร้างผู้ฝึกเรกิต่อๆไปอีก"

ฉันตกลงใจจะเรียนต่อ.....และจะอยู่ที่ปูเน่ต่อเพื่อจะฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสืบทอดวิชา และการบำบัดผู้ป่วย ตลอดจน ไปที่ศูนย์ฝึกสมาธิ OSHO ให้มีประสบการฝึกสมาธิรูปแบบต่างๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การมาอินเดียในคราวนี้

เนื่องจากท่านสวามีจีเตรียมตัวจะเดินทางไปทัวร์บำบัดเรกิที่ยุโรป
โดยเริ่มที่ลอนดอน ฉันจึงมอบเงินบริจาคอีก เกือบสองร้อยปอนด์สเตอริง
ซึ่งท่านสวามีจีและเพื่อนอาจารย์เรกิหลายท่าน ได้บำบัดเรกิให้อย่างต่อเนื่อง
เกือบทุกวันระหว่างที่ฉันใช้เวลาที่นั่นเกือบ 6 สัปดาห์

ตามปกติ เฉลี่ย คนฝึกเรกิ จะใช้เวลา ประมาณ 1 เดือน - 1 ปีในการเรียนเรกิ
และฝึกให้ได้ครบถึงระดับอาจารย์เรกิ

แต่ในยุคแรกๆ ที่ท่านอาจารย์ ดร.มิกาโอะ อูชูอิ ถ่ายทอดวิชานั้น
จะใช้การเคี่ยวกรำ แต่ละระดับใช้เวลานาน เป็นปี หรือหลายปี
มีคนจำนวนไม่มากที่จะไต่ระดับไปถึงระดับอาจารย์

จากนั้น มีลูกศิษย์ผู้สืบทอด อันดับที่ 3 ชื่อ อาจารย์ฮาวาโยะ ทากาตะ
ได้นำศาสตร์เรกิไปเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกา
ในยุคนั้น ท่านได้คิดค่าถ่ายทอดวิชาสูงถึง 1 หมื่นเหรียญสหรัฐ
ต่อมามีการเผยแพร่ และสืบทอดกันอย่างกว้างขวาง
โดยเฉพาะในกลุ่มแพทย์และพยาบาล เนื่องจากการบำบัดโดยเรกิ
จากงานวิจัยพบว่า การบำบัดเรกิช่วยให้ผู้ป่วยลดการเจ็บปวดลงได้
โดยไม่ต้องใช้ยา หรือลดปริมาณการใช้ยาลง
ในปัจจุบันมีผู้ฝึกเรกิ กว่า 1 ล้านคน ในสหรัฐอเมริกา

เรื่องระยะเวลาการเรียน ฝึกปฏิบัติและการสอบปากเปล่า ทั้งทฤษฏีและปฏิบัติ
ยุคปัจจุบัน ถ้าคนที่ไม่วอกแวก มีสมาธิในการเรียนรู้ได้เร็ว จะเป็นคอร์สเข้มข้น
เพื่อตอบสนองผู้คนที่ไม่มีเวลามากในยุคนี้
เรกิระดับ 1 ใช้เวลา 3 วัน
เรกิระดับ 2 ใช้เวลา 3 วัน (อนุโลมให้รวบรัด 2 วันได้)
เรกิระดับ 3 ใช้เวลา 7 วัน
เรกิระดับ 4 ใช้เวลา 2 วัน
ทั้งนี้ เรกิระดับ 3 เป็นการเรียนเพื่อเตรียมตัวเป็นอาจารย์ผู้สอน และวิธีการสืบทอดวิชา

มิกะ อาจาร์ยพี่เลี้ยงสอนฉัน และบอกว่า ฉันทำได้ 3 ระดับ ตั้งแต่ 10 วันแรก
แต่บอกไปว่า "ก็ให้มันค่อยเป็นค่อยไป ที่เห็นว่าทำได้ ก็คงทำได้
แต่ต้องการฝึกฝนให้พื้นฐานแน่นและมั่นคง....."

เมื่อย้อนมองดูตัวเองว่า การฝึกอย่างมีสติ ได้มาอย่างไรบ้าง
เพราะลำพังการใช้เวลาไม่กี่วันในการฝึกคงไม่ได้เพียงนี้
ก็พบข้อมูลว่า ท่านอาจารย์ ดร.มิกาโอะ อูชูอิ มีพื้นฐานมาจากการฝึกชี่กง
มาเป็นเวลานาน ซึ่งฉันก็ฝึกชี่กงแบบพื้นฐานทุกวันมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี
การสัมผัสพลังงานที่ฝ่ามือนั้น ก็มีมาตั้งแต่ต้น.....

รวมถึงการฝึกพลังรังสีธรรม แนวท่านอาจารย์สิงห์ทน นราสโภ ฉันจึงคุ้นเคยกับ
พลังชีวิตจากจักรวาลมาระยะหนึ่งแล้ว การซึมซับศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพลังชีวิต
จึงเป็นเรื่องที่ไหลรื่นได้อย่างไม่มีข้อข้องใจ ลังเล สงสัย.....

ปลายเดือนพฤษภาคม ฉันฝึกฝนการสอน ให้กับชาวอินเดียที่เข้ามาเรียน
ซึ่งท่านสวามีจีมีเมตตาให้เรียนฟรี หรือหากผู้มาเรียนมีจิตศรัทธา
ก็สามารถบริจาคสนับสนุนงานของศูนย์ได้ เมื่อฝึกถึงระดับ 1
ก็สามารถบำบัดตนเองและผู้อื่นได้แล้ว
และระดับ 2 จะมีการให้พลังที่เข้มข้นขึ้น รวมทั้งสามารถให้เรกิทางไกลได้
และก็เช่นกัน หากมีชาวอินเดียที่ต้องการเรียนเป็นระดับอาจารย์ ก็มีค่าวิชา
เท่าเทียมกันกับชาวต่างชาติ

ที่ศูนย์มีชั่วโมงฝึกปฏิบัติสมาธิภาวนา โดยใช้แนวทาง ฝึกสมาธิด้วยกิจกรรม
ตามแนวของท่าน OSHO ด้วย ฉันก็ฝึกฝนเป็นอาจารย์สอนสมาธิไปด้วยพร้อมๆ กัน

ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2550
ท่านสวามีจีได้สืบทอดความเป็นอาจารย์ให้แก่ฉัน
จึงขอเข้าสอบ ในวันนั้น
ท่านสวามีจีใช้วิธีเร่งรัด ให้เกิดความตื่นเต้นยิ่งขึ้น
การสอบแต่ละลำดับ ผ่านไปเรื่อยๆ อย่างเข้มข้น

แต่แล้ว ก็ได้ยิน เสียงท่านสวามีจี "Passed!!"
และเสียงมิกะ "Perfect!!"
เราสวมกอดกัน.... แสดงความยินดีต่อก้าวแรกบนเส้นทางเรกิของฉัน

เพื่อนอาจารย์เรกิสาวชาวอินเดีย ได้เตรียมการสำหรับงานฉลองการรับประกาศนียบัตร
เรากำหนดวันที่ 2 มิถุนายน 2550


ท่านสวามีจีถ่ายทอดพลังให้ก่อนจะมอบประกาศนียบัตร


รับใบประกาศนียบัตร ฉันตั้งใจแต่งชุดสาหรี สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ


ถ่ายรูปคู่กันชัดๆ กับท่านอาจารย์ใหญ่


เพื่อนๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี


เพื่อนอาจารย์เรกิ ชือ่ อูชา ซื้อขนมพิเศษมาร่วมงาน ทำอาหารมาจากบ้านให้ด้วย


งานฉลองอาหารมื้อเที่ยง เยอะแยะเลย ทั้งหมดเป็นอาหารมังสะวิรัต


มีราชาแห่งผลไม้ "มะม่วง" ของมหารัชตะ อร่อยที่สุดในอินเดีย ลูกนึงเกือบ 60 รูปี
เนื้อเข้มข้น ถ้าเอาไปแช่แข็ง คงออกมาเป็นไอศกรีมได้เลย


ใบประกาศของฉัน....


ใครที่มีฝ่ามือ ก็มีพลังบำบัดเรกิได้... ทุกคนมีศักยภาพ


การบำบัดเรกิ ใช้คริสตัล และปิรามิด ร่วมด้วยได้ เพิ่มพลังให้เข้มข้นขึ้น...

ฉันใช้เวลา 9 วัน หลังจากนั้น
เพื่อจะฝึกการใช้ชีวิต แบบเงียบ
ทั้งการงดพูด งดฟัง งดอ่าน งดคิด
แล้วกลับบ้านที่กรุงเทพ อย่างรื่นรมย์

พี่ น้อง คุณแม่ และสามี ตั้งข้อสังเกตว่า
"กวางเปลี่ยนไป ในทางที่ดี ดูสดใส ตาเป็นประกาย"
ฉันรู้สึกว่า ตัวเองเป็นอิสระมากขึ้น

ว่างๆ ก็หายใจเข้า ออกลึกๆ ให้หน้าท้อง ขยับเข้า ออก
ว่างๆ ก็ผ่อนคลาย
ว่างๆ ก็อยู่ในความสงบ
ลองดูสิ
...............รู้สึก ดีมั้ย??



Create Date : 15 ตุลาคม 2550
Last Update : 20 ตุลาคม 2551 14:45:32 น. 20 comments
Counter : 3537 Pageviews.

 
ยาวมากพี่กวาง ขอลงชื่อก่อน เดี๋ยวกลับมาอ่านค่ะ


โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:9:59:51 น.  

 
คุณกวางในชุดส่าหรีน่ารักมากครับ อิอิอิ

3. ตั้งแต่วันนี้ ฉันจะโกรธ
^
^
^

น่าจะเป็น...ตั้งแต่วันนี้ ฉันจะไม่โกรธ รึเปล่าครับ ?

.......................

มีความสุขมากๆนะครับคุณกวาง






โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:13:02:03 น.  

 
คุณก๋า,
ขอบคุณที่ชมค่ะ

ข้อ 3. แก้ไขเรียบร้อยแย้ว... :P


โดย: Minie' วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:23:58:25 น.  

 
ผมมีลิงอยู่ตัวหนึ่ง
กำลังหาทางให้ลิงมันอยู่นิ่ง ๆ
ไม่กระโดดไปกระโดมา


ลิงตัวนั้นมันอยู่ในตัวผม......ก็จิตไงครับ







ส่วนน้ำตาลเทียมนั้นจะใช้เฉพาะช่วงที่ต้องการลดน้ำหนักเท่านั้น......ลดได้แล้วก็เข้าสู่วิถีธรรมชาติ.....อาหารสมดุลครับ





โดย: ม้าห้อ (cm-2500 ) วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:8:25:18 น.  

 


โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:10:49:53 น.  

 
อยากทราบรายละเอียดมากกว่านี้ ติดต่อ
kosok@william.co.th


โดย: สนใจ IP: 125.25.131.184 วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:16:06:08 น.  

 
คุณกวางค่ะ สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน ไม่ทราบว่าติดต่อมาถามช้าไปหรือเปล่า ถ้าเป็นไปได้ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้มั๊ยค่ะที่ watcha_16@yahoo.com Thanks ka


โดย: Jira IP: 203.155.220.235 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:56:43 น.  

 
คุณ Jira,
ไม่ช้าหรอกค่ะ ไว้คุยกันทางเมล์ก็แล้วกันคะ


โดย: Minie' วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:33:57 น.  

 
สนใจด้วยคะ
เพิ่งได้ยิน reiki อาทิตย์นี้เอง
สนใจมาก กำลังศึกษาข้อมูล และอยากเรียน
มีอะไรแนะนำ ส่งที่นี่เลยนะคะ mookcmu@hotmail.com


โดย: มุก IP: 82.35.105.197 วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:5:39:34 น.  

 
สนใจมาก ๆ ๆ ๆอยากให้ติดต่อเขียนมาหาหน่อยได้ไม๊คะ takkataen@hotmail.com ขอบคุณค่ะ


โดย: ตั๊กแตน IP: 124.122.55.226 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:22:06:13 น.  

 
เพิ่งเห็นข้อความค่ะ
ส่งเมล์ไปแล้วนะคะ


โดย: Minie' วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:21:55:55 น.  

 
สนใจเช่นกันค่ะ กรุณาติดต่อ ที่เมล์นี้ได้ไหมคะ
kittyandpailin@hotmail.com
ขอบคุณค่ะ


โดย: kitty IP: 84.83.21.134 วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:14:08:56 น.  

 
สนใจมากค่ะ สอนหน่อยได้มั้ยค่ะ


โดย: จุฬาพร คงสำราญ IP: 223.205.81.219 วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:19:11:44 น.  

 
สนใจเรื่องเรกิค่ะอยากเรียนขอทราบรายระเอียดได้มั๊ยค่ะอีเมล konrung18@hotmail.com


โดย: กรรุ้ง กรรพฤทธิ์ IP: 189.152.31.61 วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:11:35:03 น.  

 
จริงๆชอบปฏิบัติธรรม เคยเห็นเขาทำโยเร ไม่สนใจเพราะไม่เน้นการปฏิบัติ อ่านบันทึกของหนู มีหลายสิ่งที่สัมผัสว่า เรกิ ต้องอาศัยพลังจากภายในและการปกิบัติจนถึงฌาณ จึงสนใจ หากดิฉันมีบุญสัมพันธ์คงได้รู้จักกันและได้ศึกษาศาสตร์นี้เพื่อได้มีโอกาสช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในโอกาสต่อไป คนขอนแก่น peankasi55@gmail.com ขอแสดงความนับถือ จิตนิภา


โดย: จิตนิภา IP: 49.49.184.73 วันที่: 23 สิงหาคม 2555 เวลา:14:11:11 น.  

 
เดี๋ยวเมล์หานะคะ

แต่ว่า คนที่ปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว ก็มุ่งหน้าต่อไปค่ะ
ไม่ต้องเฉไฉมาเรียนเรกิก็จะดีกว่าค่ะ

ได้มรรคได้ผลแล้ว เผื่อแผ่ให้ผู้อื่นรู้จักธรรมะบ้าง
จะทำให้เขามีธรรมะเป็นที่พึ่ง จะยั่งยืนกว่า
ที่จะส่งเสริมให้เขามาพึ่งพิงผู้อื่น

ส่วนเราก็แผ่เมตตาค่ะ ถึงๆ ทุกกรณีค่ะ


โดย: Minie' วันที่: 7 กันยายน 2555 เวลา:12:01:47 น.  

 
คุณกวางเปิดสอนไหมคะ โทรกลับ ท่ี 0863927788 ด้วยค่ะ สนใจจะเรียน


โดย: คุณจุ๋ง IP: 61.90.12.21 วันที่: 14 มีนาคม 2557 เวลา:11:19:36 น.  

 
คุณกวางค่ะ มีเปิดสอนไหมค่ะ อยากเรียนค่ะ เคยจะไปเรียนที่เชียงใหม่แต่ไกลมาก อยากเอาวิชามาช่วยค่ะ ตอนนี้ใช้วิชาพลังจักรวาลช่วยรักษาคนบ้างแล้วค่ะ รบกวนโทรกลับด้วยนะคะ 086-363-2520


โดย: ธัญเรขา IP: 180.180.233.88 วันที่: 31 กรกฎาคม 2558 เวลา:19:50:28 น.  

 
อยากทราบเรื่องเรกิค่


โดย: ทิพวรรณ IP: 119.81.80.66 วันที่: 27 กรกฎาคม 2560 เวลา:19:00:34 น.  

 
อยากลองบำบัด เรกิ ทางไกลอะคะ
อยากติดต่อ เจ้าของบล็อคไม้ทราบจะติดต่อ
ได้ที่ไหนอะคะ


โดย: ณภัค IP: 180.183.206.60 วันที่: 2 มกราคม 2561 เวลา:23:43:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Minie'
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]




รู้โลกเรียนธรรม

Friends' blogs
[Add Minie''s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.