ของฝากจาก.....แคนาดา
Group Blog
 
All Blogs
 
Canada - Let start to go to Canada

Open the window outside Thailand: จุดเริ่มต้นของการมาแคนาดา

เมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดที่จะย้ายมาอยู่เมืองนอกแต่อย่างใด แต่เมื่อเกิดสภาวะฟองสบู่แตกเมื่อปี 1997 และได้เห็นสภาพหลายๆอย่างในบ้านเมืองเราได้เปลี่ยนไป ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร การจับจ่ายใช้สอย โชคดีที่ตอนนั้นผมได้ทำงานอยู่ที่สถานทูตฯ แล้ว ก็เลยไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เท่าไรนัก ก็ถือว่ารอดปากเหยี่ยวปากกามาได้อย่างหวุดหวิด เพราะมาทำงานที่นี่ได้ประมาณสักปีเดียวเท่านั้นเอง

ได้ลองคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในยามนั้น ก็เลยถามคุณแม่ว่า เมื่อก่อนเงินบาทราคาเท่าไรครับ แม่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เดาๆเอาว่าไม่กี่สิบบาทต่อ ดอลลาร์กระมัง ทองก็ไม่แพงอย่างนี้ สมัยท่านพลเอกเปรมฯ เงินบาทก็เคยอยู่ที่ประมาณ 18 บาทต่อดอลลาร์ มาอีกไม่กีปี ก็ทะยอยลดลงมาเหลือ 25 บาทต่ดอลลาร์ เกิดคำถามขึ้นในใจว่า อ้าวแล้วทำไมต้องลดด้วยล่ะ สมัยนั้นยังเรียนไม่จบเป็นช่าง ไม่เคยคิดถึงเรื่องการเงินการธนาคาร รู้อย่างเดียวว่า เรียนหนังสือ มีเพื่อนฝูงเยอะแยะอย่างเดียวพอ ทำงานใน workshop ให้เก่งๆเท่านั้นเอง ให้ฝีมือเยี่ยมที่สุด เรื่องเงินดอลลาร์น่ะหรอ ไม่เคยได้แตะเลยแม้สักครั้งเดียว

ครั้นพอมาทำงานได้มีโอกาสต้องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เห็นได้ชัดเจนเลยว่า มีผลต่อการนำเข้าเป็นส่วนมาก ก็เริ่มเรียนรู้จากนั้นมา แต่เอ ทำไมเงินเราไม่กลับไปที่ 18 บาท หรือสูงกว่าเหมือนเดิมบ้างล่ะ หรือว่ามีอะไรที่เราไม่เข้าใจ พอโตขึ้นอีกก็พอรู้ว่าเมื่อสกุลเงินของประเทศต่างๆ มีค่ามากขึ้น มีเศรษฐกิจดีขึ้น เงินเฟ้อก็มากขึ้น เพราะคนใช้เงินยังกับกระดาษ ค่าเงินก็ต้องลดลงเป็นธรรมดา เพื่อให้ค่ามัน สะท้อนความเป็นจริง อ้าวงั้นก็แสดงว่าพอประเทศเราพัฒนาขึ้นอีกมาก ก็คงจะต้องลดค่าเงินอีกล่ะซินะ พอเมื่อเกิดสภาวะฟองสบู่แตก ก็เห็นเลยว่าเงินบาทที่มีค่าของเรา ได้ดิ่งลงไปเรื่อยๆเกือบ 60 บาทต่อดอลลาร์ จาก 25 บาทนี่ล่ะนะ บางคนบอกว่าจะวิ่งไปจนถึง 80 บาทด้วยซ้ำ แล้จะไปเอาเงินที่ไหนมาซื้อของเขาล่ะ

ในตอนนั้น มีหลายคนที่จะบ้าตาย และกำลังอยากจะฆ่าตัวตาย และมีอีกหลายคนที่ยิ้มกับการลดลงของเงิน ใครที่ได้เปรียบจากค่าเงิน ก็ออกมาฉลองกันยกใหญ่ ร่ำรวยกันไปเยอะแยะ ส่วนคนที่เสียเปรียบ ก็ค่อยๆตายกันไปยังกับใบไม้ร่วง คิดแล้วก็น่าเศร้าใจ ย้อนกลับมาถามตัวเองว่า แล้วเราจะทำอย่างไร เราไม่ซื้อของจากนอกประเทศได้ไหม มองไปรอบๆข้าง ก็ไม่เห็นอะไรที่มาจากประเทศเราซะทีเดียว รถก็ญี่ปุ่น โทรศัพท์ก็ฟินแลนด์ คอมพิวเตอร์ก็ใต้หวัน น้ำมันก็ซาอุดิอาระเบีย มีเสื้อผ้าล่ะที่ทำที่เรา รองเท้าก็เรา อาหารการกินก็ของเรา ก็ยังดีหน่อย แต่มองในภาพรวมแล้ว ก็ต้องบอกว่าเราคงหนีที่จะใช้ของนอกไม่พ้นแม้ว่าเราจะพยายามแล้วก็ตาม แล้วจะทำไงดีล่ะ หากวันใด วันหนึ่ง ทำๆงานอยู่อย่างพอเพียงแล้วเกิดเงินที่ถือๆอยู่ ค่ามันลดลงไปมากมายจนแทบจะไม่เหลืออะไรเลยล่ะ ก็คงต้องไปหอบเงินไปซื้อของใส่ในถุงปุ๋ยเหมือนกับหลายๆประเทศข้างเคียงเราเขาทำกันมัง

ฟังแล้วก็น่าตกใจอยู่ไม่น้อยนะ หากเราพอมีโอกาสที่จะส่งตัวเราออกบ้าง ก็คงดีนะจะได้เงินตราต่างประเทศมาถ่วงสมดุลย์ กะเขาบ้าง จะได้ไม่ต้องกังวลเวลา เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอีกในอีก สิบกว่าปีข้างหน้า เพราะมีขึ้น ก็ต้องลง น้ำมันแพง เศรษฐกิจตกในสมัยป๋าเปรม ก็มาอีกในสมัยนี้ แล้วต่อๆไป ก็คงต้องมีอีกแน่ๆ ประเทศเล็กอย่างเรา คนไทยสนุกสนาน ใช้จ่ายกันสนุกแบบนี้ ก็คงไม่รอดแน่ๆ ว่าแล้วก็หาทางส่งออกตัวเองดีกว่า นั่นคือจุดเริ่มต้นของการคิดที่จะมาที่ใดสักที่หนึ่งในโลกนี้

มีต่อภาคสองอีก ติดตามอ่านไปเรื่อยๆ ละกันนะ




Create Date : 11 พฤษภาคม 2549
Last Update : 13 พฤษภาคม 2549 1:09:57 น. 11 comments
Counter : 279 Pageviews.

 
จะติดตามภาคสอง อย่าลืมอะ


โดย: BIG MANGO IP: 124.121.175.152 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:24:06 น.  

 
จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ เดือนหน้าลูก ๆ ปิดเทอมที่โตเกียวแล้ว ก็จะพาเขาไปเยี่ยมญาติ ๆ ที่แคนาดาเช่นกันค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

พี่ถามสามีเขาก็บอกเรียนจบและก็เป็นครูสอนที่นี่ค่ะ ก็สิบกว่าปีมาแล้ว เขาบอกว่าเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่แต่น่าอยู่ อยากไปจังเลยแต่ถ้าขับรถไปก็ใช้เวลาถึง 3 วันแนะป้าดดดด


โดย: CK@fort. IP: 219.4.126.26 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:44:36 น.  

 
ขอบคุณนะครับที่แวะเข้ามาอ่าน จริงๆแล้วผมเขียนเอาไว้นานแล้วน่ะครับ จากบล๊อคที่ทำเอาไว้ใน msn ตอนนี้ก็ทะยอยๆลอกเอามาให้อ่านที่นี่กันน่ะครับ

ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆท่านนะครับ


โดย: mingest IP: 199.185.250.200 วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:1:32:04 น.  

 
Good story,Keep writing please.


โดย: DayDare IP: 65.94.41.119 วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:04:50 น.  

 
จะเข้ามาเยี่ยมเยียนบ่อย ๆ นะคะ อยากไปเมืองนอกเหมือนกัน แต่คงไม่มีวาสนาอ่ะ อ้า...ลืมไป add เมล์คุณแล้วนะคะ คงไม่มีโอกาสคุยกันนะคะ


โดย: หมิง เหมือนกัน IP: 203.156.74.60 วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:01:39 น.  

 
ตามอ่านอยู่ค่ะ


โดย: Rive Gauche วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:19:03 น.  

 
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ

ยังไงก็ขออวยพรให้ชีวิตใหม่ที่โน้นมีแต่ความสุขความสำเร็จนะคะ


โดย: ซอด้วง IP: 124.120.4.98 วันที่: 21 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:05:04 น.  

 
เป็น blog ที่มีสาระประโยชน์มากๆ ค่ะ ขอบคุณที่นำประสบการณ์ต่างๆ มาแชร์นะคะ ขอสมัครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ blog คุณมิ้งค์ ด้วยคนนะคะ


โดย: โมเม IP: 24.110.3.128 วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:3:23:50 น.  

 
อ่านเรื่องของพี่อยู่บ่อยๆ เพราะมีความฝันเหมือนกันว่าอยากจะไปที่นี่ แต่คงอีกนานหรืออาจจะไม่ได้ไปค่ะ แต่ได้อ่านเรื่องราวที่ดีมีประโยชน์ ก็ถือว่าได้เดินทางไปพร้อมๆ กับพี่ สนุกดีค่ะ


โดย: jOy IP: 58.8.20.148 วันที่: 20 มิถุนายน 2549 เวลา:9:59:26 น.  

 
คูณ Ming,
เห็นบอกว่าไปอยู่หลายเดือนแล้ว ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลยอะว่าตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ ที่อยากทราบเพราะตอนนี้เพื่อนก็สมัครอยู่เหมือนกัน และเขาได้ยินจากชาวต่างชาติที่แชตกันส่วนใหญ่จะบ่นว่างานด้าน professional หายากมาก ทุกคนต้องปากกันตีนถีบเอาตัวรอดโดยการทำงานทุกอย่างที่ขวางหน้า เช่น ทำงานในร้าน McDonals, taxi driver, house keeping ไปพลางๆก่อนที่จะได้งานดีๆ แต่บางคนมองหาเป็นปีก็ยังหาไม่ได้ อีกย่างเห็นคุณบอกว่าจบวิดวะแล้วทางนั้นรับรองวุฒิการศึกษาของที่ไทยหรือเปล่านะ ค่าครองชีพเป็นอย่างไรบ้าง หามาแล้วพอมีเก็บบ้างไม้ ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากหรือสบายกว่าตอนอยู่เมืองไทยนะ

อยากให้คุณช่วนกรุณาเล่าชีวิตความเป็นอยู่ที่นั้นให้กับผู้ที่สนใจ หรือกำลังตัดสินใจอบพยไปอยู่ที่ Canada หน่อย เพื่อนผมมันก็ถามผมเรื่อย แต่ผมตอบไม่ได้เพราะตัวผมทำงานอยู่ที่อเมริกา ก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับ Canada นะ อีกอย่างผมก็เห็นด้วยกับคุณที่ไม่อยากให้เพื่อนมาเป็น robinhood อยู่ที่อเมริกานะ เพราะเห็นหลายคนที่นี้แล้วก็อดสงสารไม่ได้นะ แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ไม่มี health insurance บางคนปวดฟันแล้วก็บวมคล้ายกับค้างทูม ก็ไม่ยอมไปหาหมอฟัน กินยาแก้ปวดเอาเอง กลางคืนก็นอนร้องครวญคราง จนผมสงสารต้องพาไปหาหมอฟันแบบบุคคลรายได้ต่ำ (ไม่มีรายได้) พอหายเลยก็พอยิ้มออก เห็นแล้วก็สงสาร แต่เขาเลือกมากันแบบนั้นนะ

คูณ Ming ก็อยู่มาหลายเดือนพอสมควรคงพอจะแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆชาว Pantip ให้ทราบกันหน่อย


โดย: Sprite IP: 68.229.161.87 วันที่: 27 มิถุนายน 2549 เวลา:10:07:26 น.  

 
พี่ค่ะการทำ PR ต้องเริ่มต้นอย่างไรค่ะ เอกสารใช้อะไรบ้างค่ะ แล้วไปดำเนินการที่แคนาดาจะดีกว่ามั้ยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ F2_haha@hotmail.com


โดย: inform IP: 58.9.200.151 วันที่: 15 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:28:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mingest
Location :
Red Deer, Alberta Canada

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Hi' I'm ming, born in Bangkok, Thailand. I moved to Canada on February 1, 2006 to settle my life permanently in Alberta. I graduated from Production Engineering, KMIT-NB in 1992 and Master in Marketing, Thammasat University in 2003. Following my graduation, I served as an engineer for oil/gas well services in Thailand, working for Coil Tubing services and drilling technology. Then, working as a Commercial Specialist at U.S. Commercial Service, Department of Commerce, American Embassy in Thailand for 9 years before migrating to Canada.
Friends' blogs
[Add mingest's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.