Group Blog
 
All Blogs
 

เบี้ยประกันกับรหัสของรถยนต์





ประกันชั้น3

ใครที่กำลังสนใจจะทำประกันภัยรถยนต์อยู่อาจจะต้องศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ว่าในฐานะเจ้าของบริษัทหรือรถยนต์ส่วนตัวก็ตามแน่นอนว่าทุกท่านคงจะทราบกันอยู่แล้วว่าประกันชั้น
1,2 และ 3 มีความแตกต่างกันอย่างไร แต่ทุกท่านอาจจะไม่ทราบว่ารถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์หรือรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งนั้นส่งผลกับเบี้ยประกันอีกด้วย โดยรถยนต์แต่ละชนิดจะแบ่งรหัสออกเป็นหลายๆแบบเช่นรถเก๋งคือ 110 หรือรถบรรทุกคือ 320 เป็นต้นบทความนี้จะมาเปรียบเทียบราคาของรหัสรถแต่ละชนิดเพื่อเป็นตัวอย่างเพื่อการศึกษาว่ารถแต่ละชนิดมีเบี้ยประกันแตกต่างกันมากน้อยเท่าไหร่

เริ่มแรกเราจะใช้เว็บโบรกเกอร์เว็บหนึ่งเพื่อเปรียบเทียบราคารหัสรถที่แตกต่างกันเราจะใช้ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 เพื่อเป็นข้อเปรียบเทียบโดยเรายกตัวอย่างรถส่วนตัว 3 ชนิดเพื่อให้คุณได้เข้าใจกันแบบง่ายๆ

ประกันชั้น 3

- ประกันชั้น3 รถเก๋ง ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ3,000 บาท

- ประกันชั้น3 รถกระบะ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ4,200 บาท

- ประกันชั้น3 รถตู้ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6,000 บาท

(ตัวอย่างทั้งสามชนิดเป็นราคาผ่านโบรกเกอร์จาก วิริยะประกันภัย)

รถทั้งสามชนิดนั้นเป็นประกันภัยชั้น3 แบบรถส่วนตัว จะเห็นได้ชัดว่ามีราคาที่แตกต่างกันและแน่นอนว่านี่เป็นแค่เรื่องขนาดเครื่องยนต์ หากเป็นรถยนต์ที่ใช้ในรูปแบบอื่นๆเช่น แท็กซี่ขสมก. หรือขนส่งสินค้าจะทำให้มีราคาแตกต่างกันอย่างชัดเจนกว่านี้

- ประกันชั้น3 รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อใช้ในการพาณิชยการ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 9,600 บาท

- ประกันชั้น3 รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ (ขนาดเกิน 12 ตัน) ใช้ในการพาณิชยการ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ13,000 บาท

- ประกันชั้น3 รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อใช้ในการพาณิชยการพิเศษ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 13,000 บาท

- ประกันชั้น3 รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ (ขนาดเกิน 12 ตัน)ใช้ในการพาณิชยการพิเศษราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 18,000 บาท

(ตัวอย่างทั้งสามชนิดเป็นราคาผ่านโบรกเกอร์จาก นำสินประกันภัย)(เป็นรถบรรทุกประเภทมีอุปกรณ์เสริม)

จากรายละเอียดข้างต้นจะเห็นว่าขนาดและการใช้งานนั้นส่งผลกับเบี้ยประกันภัยจริงๆและมีรายละเอียดเปลียกย่อยค่อนข้างมาก เราจึงอยากให้ทุกท่านได้ศึกษาก่อนว่ารหัสของรถยนต์ที่ตนเองใช้นั้นเป็นรหัสแบบไหน เพราะมีกรณีที่รถยนต์ที่เราใช้ประสบอุบัติเหตุแต่ไม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมได้เพราะการใช้งานไม่ตรงกับรหัสที่กำหนดเอาไว้ในกรมธรรม์ และนี่คือรหัสทั้งหมดที่ใช้กำหนดข้อเรียกร้องในกรมธรรม์

รถเก๋ง และ รถกระบะ 4 ประตู (รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง)

ป้ายสีขาวตัวอักษรสีดำ

รหัส 110 คือรถยนต์ใช้ส่วนบุคคลไม่ใช้รับจ้างหรือให้เช่า

รหัส 120 คือรถยนต์ใช้เพื่อการพาณิชย์ หรือ จดทะเบียนบุคคลเพื่อการใช้งานรับจ้างหรือ ให้เช่า

รถกระบะบรรทุก (รถยนต์บรรทุกไม่เกิน 3 ตัน)

ป้ายสีขาวตัวอักษรสีเขียว

รหัส 210 คือรถยนต์ใช้ส่วนบุคคล ไม่มีโครงเหล็ก/โครงหลังคา

รหัส 320 คือรถยนต์บรรทุกใช้เพื่อการพาณิชย์ รับจ้างหรือให้เช่า (ใช้งานบรรทุก / ใช้โดยสาร)

รหัส 340 คือรถยนต์บรรทุกใช้เพื่อการพาณิชย์ ใช้บรรทุกวัตถุอันตราย

3. รถตู้โดยสาร (รถยนต์โดยสารส่วนบุคคล)

ป้ายสีขาวตัวอักษรสีฟ้า

รหัส 210 คือรถยนต์โดยสารใช้ส่วนบุคคล ไม่สามารถนำมาใช้รับจ้างหรือให้เช่าหรือใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง

รหัส 220 คือรถยนต์โดยสารเชิงพาณิชย์ ใช้เพื่อรับจ้างรับส่งคน เช่น พนักงานนักเรียน

4. รถตู้โดยสาร (รถยนต์โดยสารรับจ้าง)

ป้ายสีเหลือง ตัวอักษรเป็นตัวเลขทั้งหมดตัวเลขสีดำ

รหัส 220 คือรถยนต์โดยสารใช้รับจ้างรับส่งคน เช่น พนักงานบริษัท นักเรียน

รหัส 230 คือรถยนต์โดยสาร ใช้รับจ้างประจำทางและรับจ้างสาธารณะ




 

Create Date : 13 กันยายน 2559    
Last Update : 13 กันยายน 2559 13:51:11 น.
Counter : 1002 Pageviews.  

เลือกทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ที่ไหนดี ความแตกต่างของประเภทแต่ละบริษัทเป็นอย่างไร



อย่างที่รู้ ๆ กันว่าการจะทำประกันรถยนต์นั้นมีให้เลือกหลายประเภท หลายกรมธรรม์ แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าใครก็ต้องอยากทำประกันชั้น 1 อยู่ดี เพราะความคุ้มครองที่ได้มากกว่าอย่างครอบคลุมนั้นเอง แล้วแบบนี้จะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ที่ไหนดี เพราะปัจจุบันนี้บริษัทประกันต่างก็มีให้ลูกค้าได้เลือกมากเหลือเกิน
จะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ที่ไหนดี ที่ไหนเหมาะสม ที่ไหนให้ความคุ้มครองตรงใจ คงเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับผู้ที่กำลังสนใจจะทำประกันให้กับรถยนต์ของตนเอง เพราะในทุก ๆ การทำประกันเราต้องแลกมาด้วยการจ่ายเบี้ยประกันในทุก ๆ ปี ฉะนั้นจะเสียเงินทั้งทีก็ต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาให้มาก ๆ หน่อย โดยเฉพาะกรมธรรม์ประเภท 1 วันนี้ เราเลยขอยกตัวอย่างประเภทของประกันรถยนต์ชั้น 1 ของแต่ละที่มาให้ผู้ที่สนใจได้พิจารณาประกอบการตัดสินใจกันดู
ประเภท 1 มิตรแท้หนึ่งเดียวรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกทางด้านร่างกาย อนามัยรวมผู้โดยสาร ตลอดจนการเสียชีวิต สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท/คน และสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท/ครั้ง ด้านทรัพย์สิน สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท/ครั้ง , ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย ทั้งอุบัติเหตุส่วนบุคคลและค่ารักษาพยาบาล ในผู้ขับขี่ 1 คนต่อผู้โดยสาร 6 คน สูงสุดทั้งสองส่วนไม่เกิน 50,000 บาท/คน และประกันตัวบุคคลในกรณีคดีอาญา สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท/ครั้ง (รายละเอียดเพิ่มเติมที่ //www.mittare.com)
ประเภท 1 (2+ Extra) รับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท/ครั้ง ด้านทรัพย์สิน สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท/ครั้ง อุบัติเหตุส่วนบุคคลและค่ารักษาพยาบาล สูงสุดทั้งสองส่วนไม่เกิน 50,000 บาท/คน ประกันตัว สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท คุ้มครองกรณีน้ำท่วม สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และรถหายหรือไฟไหม้สูงสุดในแต่ละส่วนไม่เกิน 200,000 บาท (รายละเอียดเพิ่มเติมที่ //www.viriyah.co.th)
อีกหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในตัวเลือกคำถามที่ว่าประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ที่ไหนดี สำหรับประกันเภท 1 จากธนชาต แบบ 1 ไลท์ จ่ายค่าเสียหายให้เราในส่วนแรกทันทีก่อนเลยเมื่อเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท รับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกทางด้านร่างกาย อนามัยรวมผู้โดยสารตลอดจนการเสียชีวิต สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท/คน และสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท/ครั้ง ด้านทรัพย์สิน สูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท/ครั้ง อุบัติเหตุส่วนบุคคลและค่ารักษาพยาบาล สูงสุดทั้งสองส่วนไม่เกิน 100,000 บาท/คน ประกันตัว สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บ //www.thanachartinsurance.co.th )
• ทิพยประกันภัย
แบบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรับผิดชอบต่อชีวิตร่างกายต่อคู่กรณี สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท/คน และไม่เกิน  10,000,000 บาท/ครั้ง รับผิดชอบต่อทรัพย์สินต่อคู่กรณี สูงสุดไม่เกิน 2,500,000 บาท/ครั้ง และสำหรับผู้ขับขี่ 1 คน/ผู้โดยสาร 4 คน การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท/คน ค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาท/คน ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาท (รายละเอียดเพิ่มเติมที่ //www.dhipaya.co.th )

ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ของในแต่ละที่ล้วนมีทั้งความเหมือนและแตกต่างกันไป แต่เชื่อได้เลยว่าในเรื่องของความคุ้มครองนั้นจะต้องได้รับอย่างเต็มที่แน่นอน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าผู้มีสิทธิ์เลือกอย่างเรา ๆ แล้วว่า สนใจและสะดวกที่ไหน ก็ค่อย ๆ พิจารณากันไป เอาที่เรามั่นใจ แน่ใจและสบายใจที่สุดจะได้ตอบตัวเองได้ว่าทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ที่ไหนดี ?












 

Create Date : 09 กันยายน 2559    
Last Update : 9 กันยายน 2559 13:58:57 น.
Counter : 619 Pageviews.  

จะเลือกต่อประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี



  ในการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ แน่นอนว่า เมื่อกรมธรรม์อยู่ติดรถได้สักระยะหนึ่ง มันก็ต้องหมดอายุลงไป ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคน จึงจำเป็นต้องต่อประกันภัยรถยนต์อยู่เสมอ

โดยปกติแล้ว ทุนประกันภัยของกรมธรรม์สำหรับต่อ มักจะมีราคาที่ต่ำกว่าประกันแบบซื้อใหม่เล็กน้อย ซึ่งผู้ใช้รถทุกคน สามารถต่อประกันภัยรถยนต์จากบริษัทเดิมที่เคยทำก็ได้หรือจะย้ายไปทำกับบริษัทใหม่ก็ได้ ค่าใช้จ่ายทุนประกันก็จะถูกคิดตามกรมธรรม์สำหรับต่ออายุ
ในบทความนี้ เราจะขอเปรียบเทียบกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับต่อ จาก 2 บริษัท คือ กรุงเทพประกันภัยและวิริยะประกันภัย โดยที่ทั้ง 2 บริษัทนี้ ต่างก็เป็นบริษัทประกันอันดับต้น ๆ ทั้งนั้น แต่ปัจจัยที่จะทำให้ผู้ใช้เลือกที่จะต่อประกันน่าจะมาจากการบริการที่เคยได้รับ มากกว่าอัตราค่าเบี้ยประกันที่ทางบริษัทเสนอให้ เพราะฉะนั้น เราจะโฟกัสไปที่เรื่องของการให้บริการเป็นหลัก
เริ่มจากบริษัทแรก วิริยะประกันภัย แค่ได้ยินชื่อนี้ ก็น่าจะดึงดูดให้ผู้ขับขี่ หันมาต่อประกันภัยรถยนต์กับบริษัทนี้แบบไม่ยาก ด้วยความที่มีรูปแบบการบริการที่ดีเสมอมา โทรปุ๊บ ติดปั๊บ ไม่มีการต้องโอนสายไปทางโน้นทางนี้ ซึ่งสร้างความรำคาญให้กับผู้ขับขี่และเป็นการเสียเวลามาก อย่างที่ผู้ขับขี่หลายคนเคยเจอกับบริษัทอื่น นอกจากนี้ ตัวแทนประกันภัยที่มาจากวิริยะ ก็มักจะมีคุณสมบัติเด่น คือ คุยง่าย สามารถอธิบายเงื่อนไขต่าง ๆ ของการเอาประกันให้ลูกค้าฟังได้อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่สักแต่ว่าฉันจะไม่จ่าย แล้วก็ดันทุรังอยู่อย่างนั้น ไม่คิดจะอธิบายรายละเอียดอะไรให้ลูกค้าฟังเลย ว่าทำไมจึงไม่จ่าย เหมือนอย่างที่บริษัทประกันระดับล่าง ๆ หลายบริษัทเป็นอยู่
ด้วยเหตุนี้ ทำให้วิริยะประกันภัย มักจะเป็นบริษัทที่ผู้ขับขี่หลายคนให้ความสนใจในการต่อประกันภัยรถยนต์อยู่เสมอ ทีนี้ เมื่อนำไปเทียบกับกรุงเทพประกันภัยที่เป็นบริษัทระดับเดียวกันและมีบริการที่ดีเหมือนกัน จะเห็นได้ว่าแทบไม่ต่างกันเลยในเรื่องของการบริการ ติดต่อเคลม โทรปุ๊บติดปั๊บ คุยเรื่องเงื่อนไขการเคลมให้ลูกค้าฟังรู้เรื่องที่จริงในส่วนของกรุงเทพประกันภัย ไม่ต้องบอกหรอกว่าดีแค่ไหน เอาเป็นว่าผู้ที่คิดจะต่อประกัน กว่า 70% มักจะเอากรุงเทพประกันภัยนี้เป็นตัวเลือก แล้วเอามางัดกับวิริยะประกันภัย ทั้งนี้ นอกจากเรื่องของรูปแบบการบริการที่มาเป็นอันดับหนึ่งแล้ว อีกสิ่งหนึ่ง ที่ผู้ต่อประกันรถยนต์หลายคนนำมาพิจารณา ก็คือ เรื่องความคุ้มค่าในทุนประกันภัยว่าทำกับบริษัทไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน แต่อันนี้ก็เป็นปัจจัยรองแล้ว เพราะถ้าเกิดว่าบริษัทประกันใดให้บริการไม่ดี มักจะถูกเขี่ยทิ้งก่อนที่จะได้ดูเงื่อนไขว่าคุ้มไหม
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่คิดจะต่อประกันภัยรถยนต์ ขอให้ศึกษารายละเอียดและเสียงตอบรับในบริษัทประกันนั้นให้ดี บริษัทใดที่มีเสียงร่ำลือว่าบริการดีให้เลือกบริษัทนั้น บริษัทไหนที่บริการแย่ ติดต่อยากก็ขอให้ลืมมันไป เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาช้ำใจภายหลัง เมื่อติดต่อขอเคลมแต่ไม่ได้ 




 

Create Date : 09 กันยายน 2559    
Last Update : 9 กันยายน 2559 13:52:22 น.
Counter : 315 Pageviews.  

ประกันรถยนต์ 3+ กับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นที่ผู้เอาประกันภัยได้รับ



การทำประกันรถยนต์เป็นทางเลือกสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ เพื่อลดความสูญเสียและช่วยชดเชยจากการเกิดอุบัติเหตุหรือการสูญหายที่เกิดกับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย และความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์และทรัพย์สินของคู่กรณี ทำให้การบริหารการเงินของผู้ทำประกันภัยรถยนต์ไม่สะดุด บริษัทประกันภัยรถยนต์จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดจากเหตุไม่คาดฝันตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่เราทำกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ ดังนั้น การทำประกันภัยรถยนต์จึงจัดได้ว่าเป็นการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพรูปแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตามก่อนเราเลือกทำประกันภัยรถยนต์ เราควรศึกษารูปแบบและประเภทของประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท เพื่อให้การทำประกันภัยรถยนต์ของเราเป็นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ประกันรถยนต์ 3+ เป็นรูปแบบประกันภัยรถยนต์ประเภทใหม่ที่ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้เอาประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มค่า รูปแบบการประกันภัยรถยนต์ประเภท 3+ เหมือนกับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 แต่ประกันรถยนต์ 3+ ให้ความคุ้มครองเพิ่มขึ้นในส่วนของสัญญาประกันภัยที่แยกจากสัญญาหลัก สัญญาหลักให้ความคุ้มครองและรับผิดชอบต่อความเสียหายของทรัพย์สินและชีวิตของคู่กรณี ส่วนความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น คือ ให้ความคุ้มครองในความเสียหายของรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยด้วย โดยมีเงื่อนไขเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
ประกันรถยนต์ 3+ ไม่คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ไปชนรั้วบ้าน กำแพง สุนัข เสาไฟฟ้า ชนคน และกระจกรถแตกเนื่องจากหินกระเด็นโดน เป็นต้น รวมถึงการพลิกคว่ำของรถยนต์ การสูญหายและไฟไหม้ ไม่ได้รับความคุ้มครองเช่นกัน นอกจากนี้ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาทต่อครั้ง หากผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ดังนั้น เมื่อคำนวณค่าเบี้ยประกันภัยของประกันรถยนต์ 3+ รวมกับค่าเสียหายส่วนแรก ราคาค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 3+ อาจใกล้เคียงหรือต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แต่ประกันรถยนต์ประเภท 1 ได้รับความคุ้มครองสูงกว่า

ประกันรถยนต์ 3+ เหมาะกับผู้ที่ใช้รถน้อย แต่มีความเสี่ยงกับการชนยานพาหนะทางบก เช่น รถยนต์  รถจักรยานยนต์ และมีความต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในจำนวนเงินไม่มาก และไม่มีความเสี่ยงในการเกิดเหตุไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย รวมถึงรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป บริษัทประกันภัยรถยนต์มักจะไม่รับทำประกันภัยรถยนต์ แต่ผู้เอาประกันภัยต้องการให้บริษัทประกันภัยช่วยรับภาระความเสียหายอันเกิดจากเหตุไม่คาดฝันขึ้น

ถึงแม้ว่าเราได้ทำประกันรถยนต์เพื่อประโยชน์สูงสุดในการช่วยแบ่งเบาภาระเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น และช่วยให้เราวางแผนและบริหารทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราควรขับรถยนต์ด้วยความระมัดระวัง มีสติ ไม่ประมาท เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินและชีวิตของตนเองและผู้อื่น




 

Create Date : 09 กันยายน 2559    
Last Update : 9 กันยายน 2559 13:49:40 น.
Counter : 554 Pageviews.  

บริษัทกรุงเทพประกันภัย บริษัทดี ๆ ที่ไม่ได้คิดแต่เรื่องการขายประกัน





ทุกวันนี้ธุรกิจบริษัทประกันภัย นับได้ว่าเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะหลาย ๆ คนสมัยนี้ต้องการความปลอดภัยให้กับทั้งชีวิตและทรัพย์สินแก่ตัวเอง ธุรกิจประกันภัยทีเสมือนกับว่าเป็นการฝากเงินในอนาคตเอาไว้ใช้ จึงกลายเป็นสิ่งที่คนมากหน้าหลายตาต่างก็ให้ความเชื่อใจ อีกทั้งทุกวันนี้อุบัติเหตุหรือปัญหาต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องของการประกันภัยจึงมีบทบาทเข้ามาต่อชีวิตทุกคนมากยิ่งขึ้น ไหนจะประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัยและอื่น ๆ อีกมากมาย บริษัทกรุงเทพประกันภัย จึงจัดได้ว่าเป็นอีก 1 บริษัทที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานในการให้บริการทางด้านนี้

ขึ้นชื่อว่าบริษัทประกันภัย หลาย ๆ คนอาจจะมีมุมมองที่เป็นด้านลบขึ้นมาอยู่ในหัวก่อนเสมอ เพราะเกรงกลัวว่าจะต้องเจอกับการขายประกันในทุกรูปแบบ แต่ในอันที่จริงมันเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในทุก ๆ วันนี้อย่างมากมายมหาศาลจริง ๆ บริษัทกรุงเทพประกันภัย จึงมักจะใส่ใจในการให้บริการอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการขายประกันภัยประเภทไหน หรือการเคลมประกันก็พยายามตั้งใจที่จะทำออกมาให้ดีที่สุดในทุกหน้าที่

นอกจากนี้ยังถือเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมสูงด้วย ดังจะเห็นได้ว่าทางบริษัทมักจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่สังคมอยู่เสมอ และยังถือเป็นนโยบายที่ทางบริษัทกรุงเทพประกันภัย ยึดถือและปฏิบัติตามกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งระดับของผู้บริหาร พนักงานทุก ๆ คน ที่มีความตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญในการต้องสร้างประโยชน์ที่ดีต่อสังคมให้มากที่สุดไม่วาจะเป็นในเรื่องใดก็ตาม ซึ่งตรงนี้ทางบริษัทก็ได้มีการจัดสรรงบประมาณ เพื่อเอาไว้ดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว

นั่นหมายถึงเรื่องความใส่ใจที่บริษัทเองก็มีให้กับสังคมอยู่เสมอมา ไม่ใช่เป็นเพียงแค่บริษัทที่มองแต่ในรูปของผลกำไร โดยที่ไม่คำนึงถึงเรื่องใดทั้งสิ้น นับได้ว่าเป็นบริษัทประกันภัยที่ได้รับการยอมรับจากคนไทยที่ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของการให้บริการ แต่เรื่องอื่น ๆ ที่ทำเพื่อสังคมก็เป็นอีกจุดสำคัญที่ทำให้บริษัทกรุงเทพประกันภัย ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้

ไม่ใช่แต่เพียงเรื่องของการให้บริการหรือเป็นเรื่องของการตอบแทนสังคมเท่านั้น บริษัทกรุงเทพประกันภัย ยังนับได้ว่าเป็นบริษัทที่พยายามสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้าและผู้ใช้บริการอยู่เสมอ ตรงจุดนี้ก็ต้องให้คำชื่นชมแก่เหล่าผู้บริหารและพนักงานทุก ๆ คนที่ร่วมแรง ร่วมใจกันสร้างสิ่งดี ๆ ที่ทำให้คนไทยได้ใช้ประโยชน์กันมาโดยตลอด นับได้ว่าเป็นบริษัทประกันที่ไม่ได้เพียงแค่ขายประกันอย่างเดียวจริง ๆ แต่ยังตอบแทนสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมอยู่ตลอดด้วยเช่นกัน




 

Create Date : 08 กันยายน 2559    
Last Update : 8 กันยายน 2559 13:45:42 น.
Counter : 467 Pageviews.  

1  2  

สมาชิกหมายเลข 748143
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 748143's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.