ความฝันที่ไม่มีระยะเวลาคือการเพ้อฝัน
Group Blog
 
All Blogs
 
MLM แลกอิสระทาง"การเงิน"กับอิสระทาง"ความคิด"?? <part 3>

หายไปนานเลยสำหรับ part3 เนื่องจากติดสงกรานต์ มัวแต่เมามันกับการเล่นน้ำอยู่

หลังจากที่ไปศึกษาแผนการตลาดของแต่ละบริษัท ไม่ว่าจะเป็น แอม.. กิฟ.. เอ็ม.. เอ.. ซู.. คัง.. และอื่นๆอีก ที่ไม่ค่อยดังเท่าไหร สรุปได้ใจความว่าส่วนใหญ่ ก็มักจะคล้ายๆกัน คือมักจะบอกว่า ลงทุนน้อย ได้ผลตอบแทนมั่นคง+เยอะมากๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องทำกันแบบจริงจัง ตามแผนของแต่ละบริษัทได้วางไว้ และแต่ละที่มักจะโฆษณาแผนของตัวเองว่า ทำได้ง่ายมีประสิทธิภาพ อะไรก็ว่ากันไป

ส่วนในด้านผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกอาหารเสริม โดยเฉพาะพวกที่สามารถลดความอ้วนได้ มักจะเป็นตัวชูโรงของหลายๆบริษัท ตามมาก็จะเป็นพวกของอุปโภคทั่วไปที่ใช้กันอยู่ทุกวัน และจำพวกเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุง อะไรทำนองนี้ คาดว่าที่ส่วนใหญ่ของขายผลิตภัณฑ์คล้ายๆกันคงเป็นเพราะว่า สินค้าพวกนี้น่าจะสร้างเครือข่ายผู้บริโภคได้ง่าย หมดแล้วยังไงก็ต้องกลับมาซื้อใหม่กับบริษัท กรณีที่เป็นลูกข่ายของบริษัทนั้นๆแล้ว เพื่อจะรักษายอดรักษาตำแหน่งหรือว่าเป็นเรื่องของส่วนแบ่งที่จะได้รับจากการซื้อ
ในส่วนผลิตภัณฑ์ น่าจะเป็นจุดแข็งของบริษัทแอม.. เนื่องจากผลิตภัณฑ์เยอะ และมีการทำตลาดของผลิตภัณฑ์แต่ละตัว และเป็นบริษัทระดับโลก เรื่องความน่าเชื่อถือกินขาด

ส่วนของกิฟ.. ผลิตภัณฑ์อาจจะยังสู้กับยักษ์แอม..ไม่ได้
คิดว่าน่าจะเน้นเรื่องความเป็นของคนไทย และการเชิญชวนคนมาเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกันอะไรทำนองนี้

อีกค่ายที่อยากนำเสนอคือเอ็ม.. รู้สึกว่าจะมาแรงพอสมควร เป็นต้นเหตุของซี่รี่ส์ MLM นี้เอง เนื่องจากมีเพื่อนกำลังทำอยู่
ที่นี้เน้นการบอกต่อ ไม่มีการทำการตลาดสินค้า ใช้ความจริงใจของเครือข่ายเข้าสู้ (ตามที่เพื่อนได้บอกมา)
รู้สึกว่าบริษัทนี้จะโตเร็วพอสมควร เปิดตัวเมื่อตอนปี 48 ระยะเวลาเพียง 6 ปี ยอดขายเป็นหลักพันล้าน สินค้าชูโรงน่าจะเป็นน้ำมันรำข้าว และมีเครื่องสำอางค์ที่ได้ซื้อสูตรรางวัลโนเบลด้วย
ที่น่าสนใจอีกอย่างจากการอ่านประวัติคือ บริษัทบริหารจัดการด้วยเงินสด(คือไม่ได้กู้ธนาคาร) ไม่รู้ว่าไอที่ไม่กู้นี่ ไม่กู้ตั้งแต่แรกเลยรึป่าว เพราะว่าถ้าไม่กู้ตั้งแต่ตอนก่อตั้งบริษัท ก็แสดงว่าเจ้าของต้องมีทุนอยู่แล้วค่อยข้างเยอะ เพราะกว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์แต่ละตัวได้ แถมยังผลิตแต่ของเกรดพรีเมี่ยม ต้องมีต้นทุนสูง

ส่วนในค่ายอื่นๆนั้น ไม่ขอลงรายละเอียดเพราะตัวสินค้าก็จะคล้ายๆกัน เฉือนกันที่ประสิทธิภาพของเครือข่ายมากกว่า ว่าใครจะขยายไปกินส่วนแบ่งตลาดได้เร็วกว่ากัน

ในpart นี้ขอค้างไว้ครึ่งๆกลางๆแบบนี้ก่อน ไว้part หน้าจะเป็น part สรุปถึงแนวคิดที่ได้พาดหัวไว้ว่า แลกอิสระทาง"การเงิน"กับอิสระทาง"ความคิด" มันเป็นยังไง เพื่อจะได้เป็นข้อคิดให้กับคนที่ไม่ได้ทำ คนที่กำลังจะทำ หรือคนที่ทำ ธุรกิจ แบบMLM


To be continue part 4




Create Date : 17 เมษายน 2553
Last Update : 17 เมษายน 2553 2:21:33 น. 4 comments
Counter : 371 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:9:27:40 น.  

 
^

( คุณ หาแฟนตัวเป็นเกลียว )

มันเลยวันสงกรานต์มา 2 วันแล้วค่ะ เคี้ยกเคี้ยก .



โดย: yosita_yoyo วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:13:10:07 น.  

 
บางทีเราคิดว่างานด้านนี้ เป็นงานที่ อิสระทางการขาย แต่ไม่ใช่ อิสระทางความคิดค่ะ อย่างน้อยเราต้องยึดหลักตามแนวคิดของผู้ที่ทำมาก่อน คิดถึงยอดที่จะต้องได้แต่ละเดือน


โดย: Scorchio วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:18:25:35 น.  

 

บางทีเราทุกคนก็ต้องเจอกับความเครียด ท้อแท้ สิ้งหวัง
นั้นไม่ใช้อะไรที่แปลกไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ แต่การที่คุณยอมรับว่ากลัวสิ่งนั้นต่ะหากละ
ที่เรียกว่าความกล้า กล้าทีจะยอมรับในสิ่งที่คุณกลัว กล้าจะยืนหยัดเเละต่อสู้กับมัน
แต่วันนี้ถ้าสิ่งที่คุณแบบรับไว้นั้นมันเกินกว่าที่คุณจะทนได้ ถ้ายังงั้น
วันนี้คุณลองเปิดใจให้ พระเจ้าเข้ามามีส่วนช่วยคุณคลายปัญหาของคุณได้มั้ย
ลองดูสิเเล้วคุณก็จะผ่านทุกอย่างไปได้อย่างแน่นอน!!
เหมือนที่ฉันได้ผ่านมานมาจนได้!


โดย: da IP: 124.120.7.136 วันที่: 14 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:22:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อาเสี่ยรองเท้าแตะ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add อาเสี่ยรองเท้าแตะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.