All Blog
แทกิล วันที่ 23 มกราคม 2555



“วู้ ๆ ๆ กินเต็มที่ ฮะ ๆ ๆ”

“ทานเยอะ ๆ นะคะ พวกข้าทำไว้เยอะเลย”

“อย่ามาเดินแถวหน้าข้ามากนัก ระวังข้าจะจับกลับไปอีกรอบ” แทกิล กล่าว

“ท่านอาคะ กินนี่หน่อยนะคะ” อึนซิล กล่าว

“เจ้าเป็นใครเนี่ย?” ซอลฮวา ถาม

“ทำไมเหรอ?”

“เจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้าเบียดเข้ามา”

“ข้ามีสิทธินั่งก็แล้วกัน แหะ ท่านอาคะ กินนี่สิ”

“พี่แทกิลคะ ดื่มเหล้าสิ ไม่สิ พี่คะ เชิญดื่มค่ะ” ซอลฮวา กล่าว

“ขอบคุณมากค่ะ” เฮวอน กล่าว

แทกิล ออกมาดูพระจันทร์ แม่ทัพเช เห็นเข้าก็มาทัก

“ถ้ารู้สึกอึดอัดก็ไปนอนพักผ่อนเถอะ เจ้ามาร่วมงานเลี้ยง ถือว่าให้เกียรติหูเดียวแล้ว เจ้าไม่ใช่จิ้งจอกหิวซะหน่อย เอาแต่มายืนมองจันทร์ทำไม” แม่ทัพเช กล่าว

“แม่ทัพเช เมื่อก่อนตอนที่ไม่ได้เห็นใบหน้าแบบนั้น ข้ารู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า แต่ตอนนี้พอได้เห็นทุกวัน กลับรู้สึกเหมือนจะตาย”

“อยู่กับข้ารักษาตัว เล่นหมากรุกด้วยกัน แล้วค่อยไปที่อินชอน ทิ้งทุกอย่างให้หมด แล้วก็ไปใช้ชีวิตสงบด้วยกัน”

“นางลอยไปลอยมาอยู่ตรงหน้าข้า แต่ไม่อาจจับต้องได้ โลกนี้มันน่ารำคาญซะจริง ๆ”

“กลับไปกันเถอะ”

“ข้าขอไปตากลมอีกหน่อย” แทกิล กล่าว

“แต่ลมที่นี่แรงไม่เบานะ”

“แม่ทัพเช รักษาตัวให้หาย อยู่กับเจ้าวังซอนไป ข้าไปไม่นานก็มา” แทกิล กล่าว

ก่อนที่แทฮา จะเดินทางได้มาหาเฮวอน

“ตอนแรกว่าจะไปโดยที่ไม่มีใครเห็น แต่ตอนนี้ชักตัดใจไม่ลงแล้ว”

“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไม่เป็นไรหรือ?”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เป็นครั้งที่สองแล้ว ที่ข้าจำเป็นต้องทิ้งเจ้าไว้คนเดียว”

“ท่านไม่ต้องคิดมากไปหรอก ท่านจากไปเพื่อกลับมาไม่ใช่หรือคะ เพราะฉะนั้นอย่ากังวลเลย เอาไว้ไปทานระหว่างทาง อย่าปล่อยให้ท้องหิว”

“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย จากนี้ไปข้าจะไม่จากไปไหนอีก” แทฮา กล่าว

แทฮา กำลังจะเดินทางออกไปก็พบกับแทกิลก่อน

“มาทำอะไรที่นี่?” แทฮา ถาม

“รู้มั้ยว่าที่นี่ที่ไหน ถ้าจะออกไปคนเดียวกลางดึกอย่างนี้ อาจจะถูกดักยิงจากหุบเขาที่ไหนสักที่ก็ได้”

“เจ้ารอบอกเรื่องนี้กับข้าเหรอ”

“เจ้าไปครั้งนี้จะช่วยให้พระนัดดาของเจ้า กับผู้หญิงของเจ้า มีชีวิตสุขสงบได้รึเปล่า?”

“เจ้าเป็นห่วงเรื่องนี้สินะ”

“ตอบข้ามาก่อน เจ้าสามารถหาที่ที่ปลอดภัย ใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบได้รึเปล่า?”

“คงจะไม่ต้องหนีการล่าอีก”

“ก็ดี ถ้างั้นข้าจะไปฮันยางเป็นเพื่อนเจ้า” แทกิล กล่าว

“ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาช่วยข้า”

“รู้จักเจ้าฮวังชอลวุงใช่มั้ย เพื่อนของเจ้าคนนั้น ยังไงข้าต้องไปสั่งสอนมันให้ได้”

“เพราะเรื่องนี้เหรอ?”

“แน่นอน”

“เหตุผลที่แท้จริงคืออะไร?” แทฮา ถาม

“ว้า ถูกเจ้าจับไต๋ได้จนได้ หืม เพราะความจริงแล้ว ข้าเกลียดที่ต้องเห็นพวกเจ้าอยู่ด้วยกัน ก็เลยคิดจะหาที่รกร้างจัดการเก็บเจ้าไปซะ เจ้าจะไปที่ไหนล่ะ?” แทกิล ถาม

“ข้าจะไปซูวอนก่อน แล้วค่อยย้อนไปฮันยาง”

“เจ้านี่ชอบยุ่งอยู่เรื่อย ทำไมเจ้าถึงต้องไปที่แบบนั้นก่อนล่ะ ทำไมไม่ตรงไปที่ฮันยางเลยล่ะ”

“ข้าก็เป็นแค่คนที่หนีเอาชีวิตรอด”

“ถ้างั้นเจ้าไปกับข้าดีกว่ามั้ง เพราะคนที่ถนัดการตามล่าอย่างข้า ย่อมเชี่ยวชาญการหนีด้วยอยู่แล้ว” แทกิล กล่าว

“ทำไมตอนนั้นถึงไม่ฆ่าข้าซะ เจ้าน่าจะมีโอกาสฆ่าข้านี่นา”

“ก็แค่ทาสหลบหนีข้าจะไปสนเรื่องเป็นตายเจ้าทำไม ข้าคืออีแทกิล หลีกทางไปเดี๋ยวนี้”

“จะไปแล้วเหรอ?” ลูกน้องของหูเดียวถาม

“เพราะว่าเจ้าหูเดียว ต้อนรับไม่ถูกใจข้า” แทกิล กล่าว

“ชื่อของลูกพี่ไม่ใช่ชื่อลูกหมาที่บ้านเจ้า หูเดียวหูเดียว หน็อย..”

“มีหูเดียวก็ต้องเรียกหูเดียวสิ”

“เจ้าจะไปไหน?”

“จะไปรู้เหรอ เห็นว่าไปซูวอนก่อนค่อยไปฮันยาง” แทกิล กล่าว

“กลับมาเมื่อไหร่หิ้วสาวฮันยางมาฝากข้าด้วยนะ”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

ในงานเลี้ยงวังซอน ดื่มเหล้าจนเมา เชเห็นจึงเข้าไปถาม

“ทำไมถึงดื่มขนาดนี้”

“นี่พี่ โอ้ย แม่ทัพเชพี่ข้า ฮะ ๆ”

“นอนเถอะ”

“เดี๋ยวก่อน ข้าชักจะอยากมีชีวิตต่อไปแล้ว เมื่อก่อนข้าคิดว่าใช้ชีวิตให้สนุกแล้วก็ตาย ๆ
ไปก็ได้ แต่หลังจากรอดตายครั้งนี้มาได้ ข้าก็คิดอยากจะมีชีวิตต่อไป อยากจะแต่งเมียสวย ๆ สักสองสามคน เอาแบบหวาน ๆ ดีรึเปล่า ฮิ ๆ ๆ”

“นอนได้แล้วน่า” เช กล่าว

“นี่พี่ ต่อไปเราจะอยู่ยังไง ห้าร้อยตำลึงหายไปแล้ว ไหนยังไอ้ขานี่อีก มันจะใช้ได้อีกรึเปล่าก็ไม่รู้ แค่ข้ามคืนต้องมากลายเป็นคนพิการ แล้วข้าจะอยู่ยังไง จะอยู่ต่อไปยังไง?”

“แค่ถูกฟันทีเดียวเอง จะร้องห่มร้องไห้ทำไม?”

“พี่แทกิลอยู่ไหนเนี่ย ตามพี่แทกิลกลับมาสิ ฮือ ๆ ๆ” วังซอน กล่าว

ซอลฮวา ได้พบเฮวอนในงานเลี้ยงทั้งสอง ๆ ได้มีโอกาสคุยกัน

“เอ่อ พอแล้วค่ะ” เฮวอน กล่าว

“ข้าอ่ะนะ เย็บเสื้อคลุมมาให้เค้าด้วย แต่เค้าก็ไม่ใส่ พี่แทกิลน่ะแย่ที่สุดเลย โฮะ ๆ ๆ ข้าหัวเราะอย่างนี้ด้วยนะ แต่เค้าก็ยังไม่ชายตามองเลย ทั้งหมดเป็นเพราะพี่สาวนั่นแหละ พี่โผล่มาทำไม ทำไมต้องกลับมาด้วย ทำไมต้องฉีกหัวใจพี่แทกิลของข้าให้แหลกเป็นชิ้น ๆ ด้วย ฮือ ๆ ๆ.. ขอโทษนะคะ แต่ว่า ข้าเกลียดพี่ที่สุดเลย แต่ข้าก็อิจฉาพี่สาวเหมือนกัน ถ้าข้าเป็นอย่างพี่ พี่แทกิลก็คงจะยอมมองข้าใช่มั้ย?”

“ร้องไห้ออกมาเถอะ ในโลกนี้ ไม่มีใครที่ไม่เคยเจ็บปวดหรอก” เฮวอน กล่าว ส่วนซอล
ฮวาร้องไห้

ชอลวุง มาที่งานเลี้ยงถามหาจอมโจรหูเดียวกับลูกน้องของเขา

“อยู่ข้างบน บนโน้น”

“มีคนที่ชื่ออีแทกิลกับชายหญิงที่พาเด็กมาด้วยรึเปล่า?”

“ไปหมดแล้ว โอ๊ย ไว้ชีวิตข้าเถอะ”

“ไปแล้วเหรอ แล้วพวกมันไปที่ไหนกัน?”

“เพิ่งจะไป พวกเค้าจะไปที่ซูวอน แล้วก็ไปที่ฮันยาง”

“เจ้าต้องไปซูวอน ข้าสืบรู้แล้วว่าอดีตราชเลขาอีแจจุน เป็นหัวหน้าที่จะก่อการกบฏนี้”

“ข้าจะไม่ไปซูวอน” ชอลวุง กล่าว

“แค่ก ๆ”

“เค้าตายแล้วครับ” ผู้ช่วยของชอลวุง กล่าว

“เราจะไปซูวอน แล้วค่อยไปฮันยาง” ชอลวุง กล่าว

“มันจะกลับไปที่ที่พวกมันหนีออกมา เหรอ ดูเป็นไปไม่ได้เลย บุกไปยอดเขาดีกว่า”




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 14:00:57 น.
Counter : 244 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 22 มกราคม 2555



“อ๋อ เหรอ แต่ว่าเจ้าน่ะ ไม่ใช่สินะ พี่สะใภ้ ก็เหมือนไม่ถูก เอาเป็นว่า แฮ่ม เจ้าคือออนยอนใช่มั้ย?”

“ใช่ ข้าคือออนยอน เจ้ากับนายน้อยข้า รู้จักกันเมื่อไหร่หรือ?” เฮวอนถามกลับ

“หน้าร้อนปีที่แล้ว ตอนที่หนีออกมาจากคณะแสดง”

“เจ้าอยู่คณะแสดงเหรอ?”

“ข้า...ข้าอยู่คณะแสดง อ้อ ข้าไม่อยู่ในนั้นสักหน่อย ข้ารู้จักเค้าตอนไปดูคณะแสดงต่างหากล่ะ รู้มั้ยพี่แทกิลน่ะ ดีกับข้ามากเลยนะ” ซอลฮวาพยายามอวดตัว

“นั่นสิ”

“วันนั้น เค้ายังซื้อเสื้อผ้าให้ข้าเยอะแยะเลย แถมยังเอาแต่เรียกให้ข้ามาที่นี่ ข้าก็เลยตามมาที่นี่ไง”

“เจ้าทั้งสองคนดูแล้ว เหมาะสมกันมาก” เฮวอนเอ่ยชม

“เอ่อ ค่ะ ฮิ ๆ เฮ้อ...” ซอลฮวาเขิน ๆ

ตอนที่ 21

แทฮากำลังบันทึกเรื่องที่เคยคุยกับรัชทายาทโซฮยอน ตอนที่ยังอยู่ที่ต้าชิง เฮวอนก็เดินเข้ามา

“ถ้าไม่ได้ฟังจนจบข้าคง.. ไม่หายอยากรู้แน่ ออกไปข้างนอกเถอะ อาหารพร้อมแล้วค่ะ”

“ข้า..คิดว่าจะไปจากที่นี่แบบเงียบ ๆ” แทฮา กล่าว

“ในช่วงที่ยังอยู่ที่นี่ ก็ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ ข้ากับพระนัดดาจะได้อยู่ที่นี่อย่างไม่อึดอัดไงคะ” เฮวอน กล่าว

ซอลฮวา เตรียมอาหารเสร็จก็ดัดเสียงพูดจาเรียบร้อยกับแทกิล

“อาหารพร้อมแล้วค่ะ เชิญพี่ชายไปทานข้าวค่ะ”

“ทำไมเจ้าถึงพูดจาทำท่าอย่างนั้นล่ะ?”

“เป็นยังไงเหรอ?”

“ทำเหมือนเดิมดีกว่าน่า ทำอะไรผิดวิสัยจะตายเร็วนะ”

“เชิญเลยค่ะพี่ชาย”

“เจ้ากินเหล้ามาเหรอ?” แม่ทัพเช ถาม

“โฮะ ๆ ๆ เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะพี่” ซอลฮวา กล่าว

“ยัยเด็กคนนี้ต้องมีปัญหาแน่ นางบ้าไปแล้ว” แทกิล กล่าว

“เจ้าวังซอน..ไปไหนแล้วล่ะ?”

วังซอน ดูดวงให้กับหญิงคนหนึ่ง“เมื่อกี้ข้าลองสังเกตดูนะ เจ้ากำลังจะมีโชค แต่มันถูกบางอย่างบดบังไว้”

“อยู่มาจนป่านนี้แล้ว ยังจะมีดวงอะไรมาบังอีก”

“ที่จริงข้าถนัดเรื่องการดูลายเท้า แต่ว่าไม่เป็นไรหรอก ถ้าเจ้ายอมส่งมือมา...ฮิ ๆ ๆ ไม่เป็นไร ๆ แค่ดูลายมือเอง แป๊บเดียว ฟู่ ว้าว จุ๊ ๆ ๆ ว้า น่าเสียดายจริง ๆ เจ้ามีดวงขนาดไปเป็นพระสนมเลยนะ” วังซอน กล่าว

“เอ๋?”

“แค่ยันต์แผ่นเดียวก็น่าจะช่วยเปลี่ยนชะตาชีวิตให้เจ้าได้ ปิดใต้สะดือ ไม่ใช่แค่พระสนมนะ ข้ารับรองว่าเจ้า จะได้ขึ้นสวรรค์ด้วยนะ”

“แหม ช่างกล้าพูดเหลือเกินพ่อคนนี้”

“ฮะ ๆ ๆ”

“นี่พ่อไอ้หนู”

“พ่อไอ้หนู..” วังซอน ถาม

“เจ้าช่วยมานี่หน่อยสิ”

“โอ้ว ๆ ไงจ๊ะเมียจ๋า มีเรื่องดีอะไรเหรอ?”

“เจ้านี่ตลกชะมัดเลย”

“มี มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“เค้าบอกว่า ข้ามีดวงจะได้เป็นพระสนม แถมยังบอกว่าดูลายเท้าแม่นด้วย”

“เอ่อ คือว่า ข้าขอตัวนะ...” วังซอน กล่าว

“ลายเท้าเหรอ ถ้างั้นข้าก็...ดูให้หน่อย ดูทีสิ”

“เหวอ..”

“ดูสิ เป็นพระราชาอะไรข้าไม่สน ช่วยดูให้หน่อยว่าข้าจะได้เป็นหัวหน้าโจรรึเปล่า ดูหน่อยนะ” ชายคนหนึ่งกล่าว

“เหวอ..”

หูเดียว พูดกับหลายคนในงานเลี้ยง

“ชีวิตคนเราคืออะไร ชีวิตของคนเราก็เหมือนกับงานเลี้ยงยามค่ำคืนนี่ไง กินทั้งคืนให้อิ่มหนำแล้วค่อยตาย กิน ๆ ๆ ๆ”




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:59:49 น.
Counter : 241 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 21 มกราคม 2555



แทกิลคุยกับซอลฮวา “ยัยตัวแสบ ออกไปเร่ร่อนข้างนอก มันจะไปมีอะไร ลงหลักปักฐานที่นี่ดีกว่า ผู้ชายที่นี่ก็มีอยู่ไม่น้อย คว้ามาเป็นคู่สักคนสิ”

“พี่ก็จะตั้งรกรากที่นี่เหรอ?”

“ทำไมข้าต้องอยู่ที่นี่ด้วยเล่า ข้าจะไปจากที่นี่” แทกิลบอกความตั้งใจของตนเอง

“ไปไหน?” ซอลฮวารีบถาม

“เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ไม่เกี่ยวกับเจ้า”

“ข้าอยากไปกับพี่ด้วยนี่นา ตั้งแต่เกิดมาข้าเพิ่งเคยไล่ตามผู้ชายแบบนี้...เป็นครั้งแรกนะ”

“ถ้าว่างนักก็เอาเวลาไปกินข้าวที่เจ้าชอบเยอะ ๆ ดีกว่าน่า”

“ทำไมล่ะ พี่เองก็เป็นเหมือนข้านี่ ทั้งชีวิต ก็ไล่ตามผู้หญิงคนเดียวเหมือนกันแหละ” ซิลฮวา ตอกกลับ

“ยัยตัวแสบ หยุดแค่นี้ดีกว่าน่า”

“อ้อ นางเป็นทาสสาวที่หนีไปนี่ ตอนที่พี่ยิงธนูริมแม่น้ำ...”

“รีบเข้าห้องไปเลย” แทกิลไล่ตรง ๆ

“ถ้างั้น นางก็คือออนยอนใช่มั้ย?” ซอลฮวาถามตรงเช่นกัน เป็นเวลาเดียวกับที่แทฮาตั้งใจมาพบแทกิล

“ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย?”

“ระหว่างเราสองคน มีเรื่องคุยกันตามลำพังเหรอ?”

“ไปเดินเล่นกัน ดูเหมือนพวกผู้หญิงยุ่งอยู่กับการเตรียมงานเลี้ยง”

เฮวอนอุ้มองค์ชายซ็อกยอนเดินทักทายผู้คนที่มาช่วยกันทำงาน “สวัสดีค่ะ ๆ ๆ”

“สวยจังเลย ๆ ตายแล้ว ท่านลงมาตรงนี้ทำไมคะ ตายแล้ว พาลูกมาด้วย ดูผู้ดี๊ผู้ดี สวยจังเลย บุคลิกดี๊ดี”

หลายคนต่างก็ชมเฮวอน ซอลฮวาเองก็แอบมองเฮวอนเช่นกัน “ทาสคนนึงทำไมถึงอ่อนหวานจัง”

“ดูสิ หน้าเหมือนแม่เลยนะ” หลายคนต่างพากันชมเฮวอน

แทฮามาบอกแทกิลเรื่องที่เขาจะไปจากที่นี่

แทกิลถอนหายใจ “พูดแต่ละอย่างมีแต่ทำให้ปวดหัวได้ทุกที เจ้าอยู่ที่นี่ไปจนกว่าสถานการณ์จะสงบเถอะ”

“ข้าจะออกไปคนเดียว เพราะข้าไม่สามารถจะหนีไปได้ตลอดชีวิต จะเอาแต่หลบซ่อนไม่ได้”

“คนที่คิดจะไปตายอย่างผ่าเผย ทำไมจู่ ๆ ถึงอยากมีชีวิตอยู่ขึ้นมาแล้วล่ะ”

“มีคนเคยสอนข้าว่า อย่าหนีหรือปฏิเสธความตาย แต่ข้าคิดว่าคนที่เชื่อในการมีชีวิต ถึงตายก็ไม่นับว่าตายเปล่า”

“สรุปแล้วก็เป็นเพราะว่าเจ้ารู้สึกนั่งไม่ติดแล้วสินะ”

“อย่าพูดประชดข้า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน น้องหญิงและพระนัดดา จะอยู่ได้อย่างปลอดภัย”

“พวกเจ้าจะปลอดภัยรึเปล่า มาบอกข้าทำไม ทำไมต้องมาบอกคนที่ไม่เกี่ยวอะไรอย่างข้า”

“เพราะเจ้าก็เหมือนกับข้า อยากให้เฮวอนมีที่อยู่ปลอดภัย เจ้ากับเจ้าถิ่นที่นี่ สนิทกันทั้งที่คอยถกเถียงกันตลอด ความปลอดภัยของเฮวอนกับพระนัดดา ฝากด้วยนะ ข้าจะถือว่าเจ้าตอบรับคำขอนะ”

“เฮ้ เจ้าทาสชั้นสูง ทำไมถึงไม่ฆ่าข้าล่ะ วันนั้นน่ะ..”

“เพราะว่าข้ายังไม่เคยฆ่าประชาชนแม้แต่คนเดียว” น้ำเสียงแทฮาหนักแน่นจริงจังก่อนเดินจากไป

ซอลวุงยังคงตามหาแทฮาอย่างไม่ลดละ

“ลูกพี่ของพวกเจ้าฉายาเจ้าหูเดียวใช่มั้ย?” ผู้ช่วยของซอลวุงถามชายชาบ้านคนหนึ่ง

“ใช่ ใช่แล้วครับใต้เท้า ใต้เท้า พวกข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น นี่เป็นคำสั่งของลูกพี่ข้า”

“แล้วเจ้าหูเดียวอยู่ที่ไหน?” ผู้ช่วยซอลวุงคาดคั้น

“ถ้าเค้าจับได้ว่าข้าเป็นคนบอก ฮือ ๆ ๆ ข้าต้องตายแน่ ๆ เลย” ชายคนนั้นกล่าวอย่างหวาดกลัว

“เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก เค้าจะต้องตายเพราะพวกข้าอยู่แล้ว ส่วนเจ้าจะได้รางวัลอย่างงาม” ผู้ช่วยซอลวุงบอก ทำให้ชายคนนั้นยอมเปิดปาก “เอ่อ คือ ขึ้นไปบนยอดเขาโน่นแหละ”

“ยอดเขา เป็นยอดเขาบนใช่รึเปล่า?”

“ใช่แล้วครับท่าน จะให้รางวัลข้าเท่าไหร่?”

“ยอดเขาบนของเขาวอรัก”

“ไปได้” ผู้ช่วยซอลวุง พอได้ข้อมูลก็จัดการสังหารชายคนนั้นทันที

เฮวอนและซอลฮวาได้พบกัน เฮวอนเอ่ยทัก “ข้าเคยเห็นเจ้ามาแล้วครั้งนึง”

“เจ้าเคยเห็นใคร ข้าเหรอ?”

“ใช่ ตลาดเชิงเขาวัดอุนจู เจ้ากำลังเลือกซื้อเสื้อ ยังคิดอยู่เลยว่า นายน้อยช่างเลือกภรรยาที่หน้าตา น่ารักจริง ๆ”




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:58:57 น.
Counter : 291 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 19 มกราคม 2555



“ข้าน่ะยังพอไปไหว แต่วังซอนแค่เดินก็ไม่ค่อยสะดวกแล้ว” แม่ทัพเชมองไปที่วังซอน

“ต้องเป็นเจ้าทุกที นี่เจ้าบาดเจ็บมาตั้ง 21 วันแล้ว จนป่านนี้ยังไม่หายอีกเหรอ”

“เหอะ ข้าแค่ไปคลอดลูกรึไง ฮิ พักรักษาตัวแค่ 21 วัน ก็กระโดดได้รึไง” วังซอนพูดประชด

“วังซอน งานเลี้ยงวันนี้เจ้าอย่าไปกินเหล้าเชียวล่ะ แทะเนื้อไปให้เต็มที่ เลือกแทะส่วนที่เนื้อแน่น ๆ หน่อยเข้าใจมั้ย”

“เข้าใจแล้ว แต่ว่าพี่หูเดียวจะจัดงาน เพราะแค่แม่สาวน้อยนั่นบอกจริง ๆ เหรอ?”

“ลูกพี่หูเดียวมันเป็นคนที่เชื่อฟังเด็กเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะเมียเค้าต้องมาตายเพราะการคลอดลูก แต่ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น เค้าคงจะกลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมกว่านี้”

หูเดียวรักใคร่เอาอกเอาใจองค์ชายอย่างเห็นได้ชัด “ฮิ ๆ ๆ แทวอนกินข้าวรึยัง”

“กินแล้ว”

“ฮะ ๆ ๆ เดี๋ยวลุงสอนเต้นให้ดีรึเปล่า

“หูเดียวร้องเพลง “ฮิ ๆ ๆ ๆ เจ้าเป็นใครมาจากที่ไหน ทำอะไรข้าเดาไม่ออกเลย แต่อยู่บ้านคนอื่นสงบเสงี่ยมหน่อยล่ะ”

แทฮาเห็นท่าทางของหูเดียวที่เอ็นดูองค์ชายซ็อกยอนก็ไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะกลัวความลับเปิดเผย เขาจึงคิดจะอยู่ที่เขาวอรักไม่นาน “ข้าจะอยู่ที่นี่แค่ชั่วคราวเท่านั้น เจ้า

ไม่ต้องห่วงไปหรอก”

“จะเข้าออก ก็ต้องได้รับอนุญาตก่อน เพราะดีไม่ดีอาจถูกปืนยิงธนูยิงมาจากหลืบเขาได้ทุกที่ ฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ ออกไปเล่นกับลุงข้างนอกมั้ย ฮะ ๆ ๆ”

หูเดียวชวนองค์ชาย เฮวอนเห็นท่าทางเป็นห่วงของแทฮาก็รีบพูดขึ้น “คือว่า คืนให้ข้าเถอะ”

“อ้อ นั่นสินะ ๆ ๆ อึ้ม..” หูเดียวส่งองค์ชายคืนให้เฮวอนและเดินออกไป

“ชื่อขององค์ชายเมื่อกี้..” แทฮาเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กับเฮวอนเพียงสองคน

“ข้าใช้คำว่าแทจากชื่อท่าน ผสมกับคำว่าวอนจากชื่อของข้า”

“องค์ชายจะมีชื่อตามลำดับเชื้อพระวงศ์”

“ได้ยินว่าในวังจะมีชื่อบอกลำดับรุ่น คงจะเป็นเรื่องจริง”

“ชื่อในลำดับราชวงศ์ ไม่ว่าจะในวังหรือนอกวัง ก็ห้ามคนอื่นมาใช้ซ้ำ เพื่อให้สะดวกจึงใช้อักษรเดียว”

“แม้พระราชาจะมีพระนามอยู่ แต่เมื่อไม่มีใครกล้าเรียก ก็ไม่ต่างกับไม่มี ชื่อประชาชนที่ใครก็เรียกได้ แต่กลับไม่มีคนสนใจจะจดจำ ก็ไม่ต่างกับไม่เคยมีคนคนนี้มาก่อน

องค์ชาย ชื่อของหม่อมฉัน คือเฮวอน แล้วก็เคยมี ชื่อว่าออนยอนด้วย”

“ไม่ว่าจะชื่ออะไร มันก็ไม่สำคัญหรอก เจ้าจะชื่อเฮวอน หรือว่าจะชื่อออนยอน เจ้าก็ยังคงเป็นภรรยาของข้า”

“เมื่อท่านยอมพูดอย่างนี้ ข้าถึงจะเป็นภรรยาท่านได้อย่างแท้จริง” เฮวอนรู้สึกดีขึ้น

“วันข้างหน้า ถ้าเรามีลูกของเราเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นก็ตั้งชื่อ..ลูกว่าแทวอนก็แล้วกัน” แทฮาบอกยิ้ม ๆ

มือปราบโอยังคงตามหาตัวแทกิล โดยเรียกจิตรกรบังมาพบเพื่อมอบหมายให้ช่วยตามหาแทกิลให้

“เจ้าแทกิลเองก็ไม่ได้ส่งข่าวอะไรมาเลย”

“ใช่”

“ไอ้เด็กที่เคยทำมาหากินกับมัน กับไอ้คนไร้ความรู้สึกเหมือนผีดิบด้วยเหรอ?”

“ใช่ ข้าหมายความอย่างนั้นแหละ ถูกแล้ว ๆ”

“แต่ที่มันน่าแปลกก็คือ จู่ ๆ เจ้าชอนจีโฮก็หายตัวไปด้วย” มือปราบโอแปลกใจมากที่ไม่มีข่าวคราวของชอนจีโฮเลย โดยที่หารู้ไม่ว่าชอนจีโฮถูกฆ่าตายไปแล้ว

“อืม..เจ้าหมอนั่นหายไป ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับบ้านเมืองเรา ข้าคิดว่าเจ้านั่นหายไปก็ดีแล้วนี่นา”

“เจ้าคงไม่ได้ตั้งใจปกปิดทั้ง ๆ ที่รู้หรอกนะ เจ้าหลอกข้าอยู่รึเปล่า?”

“ข้าบ้าไปแล้วรึ ข้าเนี่ยนะ ต่อให้ท่านเอาก้อนหินมาปา ข้ายังต้องเก็บก้อนหินส่งคืนให้ท่านเลย ท่านให้ขนมต๊อกข้า ข้าก็ต้องตอบแทนท่านด้วยต๊อกเหมือนกัน ข้าหมายความว่า

ข้าจะทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไง ใช่มั้ย ๆ ๆ ฮิ ๆ”

“ทำไมถึงต้องขึ้นเสียงสูงอย่างนั้นด้วย หรือมีอะไรที่ให้ใครรู้ไม่ได้” มือปราบโอดักคอ

“มีที่ไหนเล่า ใครบอกว่าข้าทำเสียงสูงขึ้นมา แหะ ๆ ข้าออกจะสงบเสงี่ยม ฮิ ๆ ๆ”

“ฟังให้ดีนะ ช่วงนี้บ้านเมืองวุ่นวายมาก มีนักโทษถูกแขวนคอหลบหนีไปได้ แถมยังมีคนร้ายคอยซุ่มยิงชนชั้นสูงอีก ข้างบนก็คอยเร่งรัดให้คนอย่างพวกข้าคอยหาข่าว รู้มั้ยว่า

ช่วงเวลานี้ควรทำไง”

“เข้าใจ เข้าใจอยู่แล้วครับ ฮิ ๆ”

“เฮ้อ ยังเล่นอีก”

“หมายความว่า จะไปไหนมาไหน ถ้าเจออะไรผิดปกติก็ให้รีบแจ้งท่านทันทีเลย ใช่ ๆ ๆ ๆ”

“เอาเป็นว่าข้าก็หวังพึ่งเจ้านี่แหละ ถ้ามีอะไรให้รีบมาบอกข้าทันทีเลย”

“ครับ ๆ” จิตรกรบังรับคำ

“ถ้าข้ามีอนาคตที่ดีได้ รับรองว่าข้าจะไม่ลืมเจ้าเลย หืม”

“ฮิ ๆ โอ๊ย ๆ ๆ มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว”

มือปราบโอให้จิตรกรบังติดตามข่าวคราวของแทกิล เพราะคิดจะเอาข่าวคราวไปบอกทางการ เพื่อหวังเงินรางวัล

อ๊บบ๊กและพวกยังออกฆ่าชนชั้นสูงและนำเงินจากการว่าจ้างมาซื้อปืนเก็บไว้ เพื่อทำการใหญ่ โดยให้คียูนเป็นคนไปซื้อ

“มีแค่นี้เหรอพี่ เท่าที่ข้ารู้มา น่าจะซื้อได้ยี่สิบกว่ากระบอกนะ” ชายหน้าหล่อผู้บงการถามอย่างสงสัย

“โธ่ น้องชาย”

“ทำไมพูดจาไม่มีมารยาทเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกพี่ เชิญท่านพูดมาเถอะ”

“ช่วงนี้น่ะ ราคามันขึ้นไปเยอะ วัตถุดิบน่ะ” ตียูนบอก

“จู่ ๆ ก็ขึ้นราคาน่ะเหรอ?”

“เจ้าไม่รู้เลยล่ะสิ จู่ ๆ ก็ขึ้นอะไรกัน มีชนชั้นสูงตายทุกคืน แถมทรัพย์สินถูกปล้นไปทุกวัน จนลือกันไปทั่วแล้วว่ามีโจรอาละวาดในเมือง คนพวกนั้นก็ไม่ได้

โง่นะ ในเมืองวุ่นวายอย่างนี้ใครจะยอมทำปืนออกมาขายแล้วมาถูกยิงเล่า ตอนนี้ราคามันปั่นสูงขึ้นไปสามเท่า ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน”

“แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าจะได้มาอีกสองกระบอกไม่ใช่เหรอ?” อ๊บบ๊กถามอย่างสงสัย

“เจ้านี่มัน พอแล้ว ๆ เอาคืนมา ๆ” คียูน ทำท่าจะเอาปืนคืน

“เอาคืนทำไม”

“เอามา พวกนี้ ข้าจะเอาไปคืนเอาเงินมาคืนให้เอง พวกเจ้าไปซื้อเองเลย เพราะเป็นข้าหรอกนะ เวลาอย่างนี้ยังซื้อมาได้น่ะ” คียูนเล่นตัว

“ไม่เอาน่าพี่ชาย ถือว่าข้าพูดไม่ดีเอง” ผู้บงการไกล่เกลี่ย

“ช่างเหอะ น้องชายก็ไม่ควรทำแบบนี้ ต่อให้คนอื่น ๆ ไม่ยอมไว้ใจข้า แต่เจ้าควรจะไว้ใจข้าถึงจะถูก อีกอย่างนึง ทาสทุกคนที่นั่งอยู่นี่มีใครรู้โลกภายนอกบ้าง ก็มีแต่เจ้ากับข้าสองคนเท่านั้นแหละ”

“อย่าโกรธไปเลยนะ ถือว่าข้าไม่รู้สถานการณ์ตอนนี้เอง”

“เลิกงอนได้แล้วน่า รีบแบ่ง ๆ ปืนกันเถอะ” แคลองบอก

“เฮ้อ ถึงเจ้านายข้าจะทอดทิ้งข้า แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ในนี้ก็ควรต้อนรับข้าสิ”

“ขอโทษด้วยเพราะข้าไม่ดีเอง”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”

“จะให้เกียรติไปไหน เค้าอายุน้อยกว่าเรานะ”

“หน็อย ดูปากเหม็น ๆ ของเจ้าสิ” กี๊ตบงไม่พอใจมาก

“ไม่เป็นไรครับ พี่อ๊บบ๊กครับ ท่านช่วยสอนการยิงปืนให้ทุกคนที ในสองสามวัน คนที่รับผิดชอบในแถบฮันยาง กับคยองกีจะมารวมตัวกันแล้ว สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว จะเริ่มจากไปเผากองเสบียงก่อน สงครามเริ่มอย่างเป็นทางการ”

“จะเริ่มต้นสงครามแล้วจริงเหรอ?” อ๊บบ๊ก

“ครับ การต่อสู้กำลังจะเริ่มแล้ว” น้ำเสียงผู้บงการหนักแน่นจริงจัง

“ถ้าโลกนี้สลับขั้วกันแล้ว เจ้าคิดจะทำอะไร” อ๊บบ๊กถามโชบ๊ก

“ข้าเหรอ เวลางานก็ทำงาน เวลาเที่ยวเล่นก็ไปเที่ยว ข้าอยากมีชีวิตแบบนั้น เพราะชีวิตที่ผ่านมา นอกจากทำงานไม่เคยทำอย่างอื่น”

“เจ้าอยากจะไปเล่นอะไรล่ะ ไปเล่นไม้กระดก เล่นโล้ชิงช้า?”

“อืม ฤดูใบไม้ผลิก็ไปชมดอกไม้ พอหน้าร้อนก็ไปเล่นน้ำ ใบไม้ผลิก็ไปชมใบไม้ร่วง พอหน้าหนาวก็จะไปเขาคิมกัง”

“นี่ เจ้า เป็นเด็กผู้หญิงจะไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างนั้นได้ยังไง”

“ไปคนเดียวทำไมล่ะ ข้าก็จะไปกับท่านไงล่ะ”

“ข้า ทำไมข้าต้องไป..”

“พูดให้จบสิ”

“พูดอะไร เจ้าคิดว่าข้าแกล้งได้ง่าย ๆ รึไงหะ?”

“ใครบอกว่าจะพาไปแกล้งล่ะ ข้ากะว่าเวลาเดินเหนื่อยจะได้ขี่หลังท่านได้ต่างหาก” โชบ๊ก บอก

“ต้องขึ้นเขาข้าถึงจะแบกรึไง”

“แปลว่าท่าน จะแบกข้าเดี๋ยวนี้เลยเหรอ?”

“เจ้าเจ็บขาอีกแล้วเหรอ? ดูไม่เหมือนเจ็บขาเลย ขึ้นมาสิ”

“ท่านอาไม่มี ความฝันเลยจริง ๆ เหรอ?”

“แค่ไม่ต้องเป็นทาสก็พอ ยังจะมีความฝันอะไร”

“แต่ว่าท่าน น่าจะมีอะไรสักอย่างที่อยากจะทำอยู่บ้างสิ”

“ไม่มีแล้ว ถ้าโลกแบบนั้นมาถึง มีโอกาสได้แบกเจ้าขี่หลังก็พอแล้ว”




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:57:33 น.
Counter : 249 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 18 มกราคม 2555



“เชื่อเลย ไอ้นิสัยไม่เห็นหัวผู้ใหญ่นี่เหมือนเดิมไม่มีผิด”

“เพราะเราสองคน มันก็เกี่ยวดองแบบคลุมเครือ ไม่มีบนมีล่างอยู่แล้ว”

“ตอนที่เจ้ายังถูกเจ้าชอนจีโฮจูงเป็นลูกหมา ใครเป็นคนสอนวิชาต่อสู้ให้เจ้า ถึงได้ปีกกล้าขาแข็งอย่างในวันนี้”

“แหะ ๆ ๆ เจ้าวังซอน ถ้าจะวิจารณ์ถึงวิชาหมัดนะ ในโชซอนพี่หูเดียวเคยเป็นที่หนึ่งมาก่อน”

วังซอนทำหน้าเจื่อน ๆ แทกิลหัวเราะชอบใจ “นั่นมันก่อนที่ข้าจะได้เรียนวิชา แต่กลับกัน เรื่องการเตะ เจ้านักฆ่าแห่งซุงเรมุนนั่นร้ายกาจที่สุด นั่นก็เป็นก่อนที่ข้าจะเรียนเหมือนกัน”

“ฮี่ ๆ ๆ ๆ ฝีมือการเตะเหรอ แบบนี้ใช่มั้ย” หูเดียวลงหมัดเพื่อวัดความเก่งกับแทกิลอีก

“ว้าว เท่ชะมัด” แทกิลหลบทันและสวนกลับ

“ไอ้ตัวแสบเอ๊ย”

“ลูกพี่ ข้าเดินทางมาไกลนะ ข้าอยากพักสักหน่อย”

“ข้าทำโลงไว้ให้เจ้าแล้ว ลงไปพักในนั้นแล้วกัน” หูเดียวประชด

พอดีแม่และอึนซิลเดินเข้ามา “ท่านอาคะ..”

“อ้อ ๆ ๆ ได้จ้ะ ๆ ๆ อึนซิลของข้า ฮะ ๆ ๆ”

“ข้าคิดถึงท่านจังท่านอา” อึนซิลเรียกแทกิล แต่แทกิลจำไม่ได้ “เจ้าเป็นใคร?”

“ข้าจะไม่ลืมท่านเลยค่ะ ข้าจะจำท่านตลอดไป”

“เจ้าคือแม่ตัวน้อยคนนั้นเหรอ?” แทกิล นึกย้อนกลับไปและเดาได้ว่าอึนซิลเป็นลูกอ๊บบ๊กที่เขาช่วยไว้

“ฮิ ใช่แล้วค่ะ ทุกคนมารอต้อนรับท่านอาด้วยนะ”

“ท่านยัง จำพวกข้าได้รึเปล่า?” แม่อึนซิลยิ้มให้ “พวกข้า เคยเป็นทาสที่เคยถูกท่านจับมา แต่เพราะได้ท่านช่วย ถึงได้มีชีวิตที่นี่ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของเรา”

“หึ ๆ ๆ พระคงพระคุณอะไร ก็แค่คนแบบไหนก็ควรให้ไปอยู่ในที่แบบนั้น” แทกิลบอก

“ตอนแรก ข้าก็ด่าท่านอาอยู่บ่อย ๆ ตามจับกลับมาแล้วก็มาช่วย มันเหมือนคนที่ตบหัวแล้วลูบหลัง”

“ไม่ต้องพูดมากซ่อนตัวแล้วก็ใช้ชีวิตให้ดี ถ้าข้าเปลี่ยนใจจะจับพวกเจ้าไปทีเดียวให้หมดเลย เข้าใจมั้ย?”

“นี่ นี่ทาสที่จับมาได้แล้วพี่แทกิลไปช่วยเหรอ?” วังซอนโวย

“แต่คนที่รับเลี้ยงพวกเค้าคือข้า ทำไมเอาแต่ไปขอบคุณเจ้านั่นล่ะ” หูเดียวบ่น ๆ แกมน้อยใจ

“แหม..จะว่าไปแล้วพี่แทกิล แอบทำเรื่องพวกนี้ ลับหลังพวกเรามาตั้งนานรึ?”

“ท่านอาคะ ไม่จัดงานเลี้ยงเหรอ?”

“งานเลี้ยง ทำไมล่ะ?” หูเดียวถามงง ๆ

“ท่านบอกว่าถ้าอาแทกิลมาจะจัดเลี้ยงไง” อึนซิลบอก

“อ้อ ใช่แล้ว ข้าเคยบอก แทกิล เรื่องตัดหูไว้ค่อยคุยละกัน ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” หูเดียวหันไปบอกแทกิล

“ทำอะไร ไปทำงานกันสิ วังซอน กินข้าวเถอะ”

การกระทำของหูเดียวทำให้แทฮาเดาออกว่าเขาคือโจรภูเขาหูเดียว

“เจ้าคือโจรภูเขาหูเดียวใช่มั้ย?” แทฮาถามตรง ๆ

“ถ้าเจ้าไม่มีมารยาทมา ข้าจะตอบด้วยภาษาแบบเดียวกัน โยนพวกคำสุภาพที่บัณฑิตใช้นั่นทิ้งไปซะ”

“พวกเจ้าเลี้ยงชีพด้วยการปล้นรึ?”

“ถ้าเรียกแบบไม่น่าฟังก็คือโจร หรือน่าเกลียดกว่านั้นก็คือพวกโจรถ่อย” หูเดียวพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “ทำไมถึงเลือกทำสิ่งผิดทำนองคลองธรรม”

“โลกมันจะมีอะไรนักหนา ถ้าไม่มีเงินชีวิตก็เงียบเหงา พอมีเงินหน่อยชีวิตมันก็ฟู่ฟ่า นี่ แม่นาง ส่งเด็กให้ข้าหน่อยสิ” หูเดียวบอกเฮวอนให้ส่งพระนัดดาให้

“เจ้ากล้าแตะต้อง...” แทฮาขึงขังห้าม แต่เฮวอนก็ส่งเด็กให้

“เด็กคนนี้น่ารักชะมัดเลย อู้...” หูเดียวเข้าไปหยอกล้อเล่นด้วย

“ท่าทางจะเป็นคนรักเด็กสินะ” เฮวอนเห็นท่าทางหูเดียวก็พอจะเดาออก

“อุ้ย ๆ ๆ ฮะ ๆ ๆ ไหนยิ้มกับลุงหน่อยสิ ฮะ ๆ ๆ เห็นหน้าลุงแล้วยังยิ้มได้ ไม่ธรรมดาจริง ๆ ฮะ ๆ ๆ เด็กคนนี้ชื่ออะไร?”

“เด็กคนนี้...มีชื่อว่าแทวอนค่ะ”

“อ๋อ ๆ ๆ แทวอนเหรอ เจ้าหนูแทวอน ฮิ ๆ”

“แทแปลว่าเหนือ วอนแปลว่าไกล”

“เรื่องพวกนั้นข้าไม่รู้เรื่องหรอก ฮิ ๆ ๆ ยิ้มหน่อย ๆ ฮิ ๆ ๆ ฮะ ๆ ๆ อุ้ยน่ารัก” หูเดียวยิ้มและหยอกล้ออย่างรักใคร่

แทกิล แม่ทัพเช และวังซอนได้กินข้าวร่วมกันอีกครั้ง

“ฮ้า ได้กินข้าวพร้อมกัน อร่อยเนอะ ฮะ ๆ พี่ก็กินเยอะนะ ฮะ ๆ ๆ” วังซอนหัวเราะชอบใจ

“ยังมายิ้ม ไม่ต้องยิ้มเลยเจ้าตัวแสบ ให้ตายก็ไม่เคยยอมเชื่อฟังกันซะบ้าง”

“ฮิ ๆ ๆ ลูกพี่ ช่วยเล่ารายละเอียดให้พวกข้าฟังหน่อยสิ”

“ให้เล่าอะไรล่ะ?”

“ก็แหม.. อย่างพวกข้าถูกเจ้าฮวังชอลวุง อะไรนั่นมาเจื๋อนซะก่อน แต่ลูกพี่กับซงแทฮาเป็นไงมาไงกัน ทำไมถึงมาด้วยกันได้” วังซอนท่าทางอยากรู้มาก

“รีบกินข้าวของเจ้าไปเลยไป”

“ปิ๋วไปแล้วสิ ห้าร้อยน่ะ” วังซอนพูดล้อ ๆ

“จะให้เฉือนปากเจ้าออกมามั้ย?”

“ภรรยาที่ติดตามเค้ามาด้วยคือออนยอนเหรอ?” แม่ทัพเชเดา

“โอ้ว สวยสดงดงาม ๆ” วังซอนตาโตคิดตามที่แม่ทัพเชบอก

“กินข้าวกันต่อดีกว่าน่า” แทกิลพยายามเปลี่ยนเรื่อง

“นี่ แปลว่าที่บอกพวกเค้าแต่งงานกันก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ” วังซอนโพล่งออกมา

“เวลากินข้าวก็คุยเรื่องกิน เวลาขี้ค่อยคุยเรื่องขี้ หัดเข้าใจกันบ้างเซ่” แทกิลเสียงดัง

“เราอย่าเข้าไปยุ่งเรื่องของซงแทฮาดีกว่า” แม่ทัพเชเตือนวังซอน

“ใครบอกว่าจะเข้าไปยุ่งกับมันล่ะ พวกเค้าอยู่นี่ ก็ใช้ชีวิตของเค้าไป เราก็ทำเรื่องของเราก็พอ”

“พวกเราจะมีอะไร นอกจากคอยตามล่าทาสน่ะ”

“ยังไม่ได้บอกเค้าเหรอ เรื่องบ้านที่อินชอนน่ะ” แทกิลถามแม่ทัพเช

“ไม่ได้บอก คือ ยังไม่มีโอกาสเหมาะ ๆ น่ะ” วังซอนทำหน้าสงสัย “เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนนะ อิน อินชอนอะไร บ้านกับที่ดินอะไร พวกพี่สองคนซ่อนอะไรลับหลังข้า”

“วังซอน กินข้าวไป” แม่ทัพเชทำเสียงเข้ม

“โอ๊ย เรื่องอะไร ทำไมข้าไม่รู้คนเดียวล่ะ” วังซอนโวยวาย

“รีบกินข้าวของเจ้าไปเหอะน่า”

“ก็บอกข้ามาก่อนสิ อินชอนอะไร ทำไมมีแต่ข้าคนเดียวที่ไม่รู้”

“ซอลฮวาล่ะ ส่งไปแล้วเหรอ?”

“ข้าให้นางไปแล้ว คงจะหาที่อยู่ได้ แผลเจ้าเป็นยังไงบ้าง เราต้องรีบไปจากที่นี่” แทกิลถามอย่างเป็นห่วง




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:56:38 น.
Counter : 407 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]