All Blog
แทกิล วันที่ 28 ธันวาคม 2554




“ฮึ้ย ตกใจหมด” กึ๊ตบง กล่าว

“เนี่ยเหรอความกล้าของผู้ชาย มองอะไรกันเล่า เจ้าพวกทิ้งปืนแล้วเปิดตูดแน่บ เฮ้อ ข้าเข้าร่วมเพราะเชื่อผู้ชายพวกนี้ได้ยังไงนะ” โชบ๊ก กล่าว

“เจ้า ๆ เจ้าเป็นคนไปตามเก็บกลับมาเหรอ?”

“โชบ๊ก ถึงข้าวิ่งหนีแต่ไม่ได้ทิ้งปืนนะ”กึ๊ตบง กล่าว

“แต่ยิงไม่โดนสักนัดละสิ”

“เจ้ากินข้าวรึยัง?”

“เฮ้อ ขอร้องล่ะ ช่วยกล้า ๆ หน่อยได้มั้ย ถ้าเป็นอย่างนี้ ยังคิดจะบุกเข้าวังอีกเหรอ อาอ๊บบ๊ก ไปเถอะ นายท่านสั่งมาว่าจากนี้ห้ามใครออกไปทำงานตอนกลางคืนอีก เฮ้อ” โชบ๊ก กล่าว

“ข้าต้องกลับไปแล้ว” อ๊บบ๊ก กล่าว

หลังจากอ๊บบก และโชบ๊ก ออกมาแล้วก็สนทนากัน

“วันนี้คงเหนื่อยแย่” อ๊บบก กล่าว

“ตอนแรกบอกว่าสี่ห้าคน พอเห็นว่ามาเพียบข้าตกใจแทบแย่ เลยอยากจะรีบไปบอกท่านน่ะ ข้าวิ่งไม่คิดชีวิตเลย”

“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง” อ๊บบ๊ก กล่าว

“ถ้าข้าไม่เป็นห่วงท่าน แล้วใครจะมาเป็นห่วงท่านล่ะ” โชบ๊ก กล่าว

“ขึ้นมาสิ ข้าจะแบกเจ้าเอง เฮ้อ แต่ยังไง คราวหน้าอย่าวิ่งมาแบบนั้นอีกล่ะ ถ้าเกิดหกล้มขาหักไปจะทำยังไงหา”

“อาอ๊บบ๊ก”

“อะไร?” อ๊บบ๊ก ถาม

“ข้าหนักมากรึเปล่า?”

“หนักอะไรกัน อย่างกับแบกหมีที่หิวโซมาสามเดือน”

“ถ้าเป็นหมีหิวโซก็คงเบา ใช่รึเปล่าล่ะ?”

“ยังไงก็หนัก เพราะเป็นหมี” อ๊บบ๊ก กล่าว

ขุนนางชิง มารายงานอิงเอ๋อ จากการปะทะทำให้มีคนตายไปสามคาดว่ามีคนดักซุ่มอยู่ตรงนั้น แต่กลับจับตัวไม่ได้

“แล้วทำลายหลักฐานรึยัง?” อิงเอ๋อ ถาม

“ครับ ก่อนออกเดินทางข้าได้เก็บป้ายทหาร และถือดาบเป็นอาวุธ ไม่น่าจะมีใครรู้ว่าพวกเราเป็นใคร”

“แล้วคนเจ็บเป็นยังไงบ้าง?”

“ถึงจะมีหมอดูแลอยู่ แต่ขาดยารักษา ข้าส่งคนออกไปซื้อมาแล้ว”

“ถ้าดักซุ่มรออยู่แต่แรก เท่ากับว่าพวกเค้าจับจ้องเราอยู่ตลอดน่ะสิ”

“น่าจะเป็นฝีมือของเสนาบดีนะครับ”

เสนาบดีมาเที่ยวหอนางโลม แล้วได้รู้จักหญิงสาวที่ชื่อว่า เจนี

“เจ คือสุราบริสุทธิ์ นี คือเสียงนกนางแอ่นร้องค่ะ”

“สุราบริสุทธิ์วางตรงหน้า มีเสียงนกร้องกล่อมอยู่ข้างหู เป็นชื่อที่ดีมาก” เสนาบดี กล่าว

“เอ็นดูนางมาก ๆ นะคะ นางเพิ่งจะมาใหม่วันนี้เอง”

“ถึงวันนี้เป็นคนใหม่ของที่นี่ แต่อดีตข้าน้อยเคยเป็นนางโลมอันดับหนึ่งของเปียงยาง และอนาคตข้าจะต้องเป็นนางโลมอันดับหนึ่งในโชซอน หวังว่าใต้เท้าจะคอยช่วยดูแลข้าน้อยด้วยนะคะ” เจนี กล่าว

“เจ้านี่เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจจริง ๆ ฮะ ๆ ๆ”

แทกิลกลับมาคนเดียวไม่มีวังซอนมาด้วยจึงสอบถามแทกิล

“ยังไม่มีใครกลับมาเลยเหรอ?” แทกิลถาม

“อืม พี่แทกิลคะ เข้ามาสิ ข้าถูพื้นไว้ให้แล้ว” ซอลฮวา กล่าว

“เจ้าเลิกถูสักทีได้มั้ย ข้าเห็นแล้วปวดหัว” แทกิล กล่าว

“ถูเสร็จแล้ว ต่อไปนี้ข้าจะทำกับข้าว เย็บผ้า ให้พวกท่านด้วยดีมั้ย” ซอลฮวา กล่าว

“ทำทำไม?”

“เปล่าหรอก ก็ข้าเป็นถังข้าว ต้องทำงานแลกข้าวกิน” ซอลฮวา กล่าว

“พอเถอะ”

“ทำไม มีอะไรจะพูดเหรอ?”

“ยัยตัวแสบ เจ้าไม่มีที่ไปจริง ๆ เหรอ ถ้าไม่มีที่ไปจริง ลองไปที่เขาวอรักดูสิ ถ้าไปถึงยอดเขาเจ้าจะเจอคนที่ชื่อเจ้าหูเดียว ถ้าเจ้าอยากตั้งรกราก..ที่นั่นคงจะเหมาะสมมาก มีทุ่งกว้างให้เลี้ยงสัตว์มากพอสมควร พวกข้าคิดจะเลิกอาชีพตามล่าทาสกันอยู่แล้ว เจ้าก็ควรไปตามทางของตัวเอง แล้วข้าจะให้เงินเจ้าไว้เป็นค่าเดินทางไป” แทกิล กล่าว

“ค่าเดินทาง? พี่คิดว่าข้ายอมติดตามท่านมาก็เพื่อเงินงั้นเหรอ?”

“ไม่เอาก็ตามใจ”

“พี่เป็นอย่างนี้เพราะผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย ท่านมาเป็นนักล่าทาสก็เพื่อตามหานาง จะเลิกก็เพราะผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย?”

“เจ้าพูดอะไรของเจ้า ฟู่.. เจ้ารีบไปดีกว่า” แทกิล ตวาด

คึนนอม บอกกับเฮวอนว่าจำวันที่ลบคำว่าทาสออกจากตัวได้รึเปล่า

“ในวันนั้น..ข้าไม่ได้ร้องไห้เพราะความเจ็บปวด แต่ข้าร้องไห้เพราะดีใจ เพราะว่าได้ชีวิตใหม่”

“นักล่าทาส ไม่มีทางมาตามข้าแน่ เพราะข้าไม่ใช่ทาส ถ้าเป็นนักล่าทาส ต้องไม่มาตามข้าแน่ ข้า.. มีเรื่องอยากจะบอกท่าน” เฮวอน กล่าว

“มีอะไรก็พูดมา” แทฮา ถาม

“ข้ามีเรื่องเก็บเอาไว้มากเหลือเกิน ที่จริงแล้วข้า ที่จริงแล้ว..” เฮวอน กล่าว

แม่ทัพเช ออกตามหาวังซอนแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งได้เห็นพลุไฟของวังซอนถูกยิงขึ้น ก็รีบไปยังสถานที่นั้นทันที เมื่อไปถึงก็พบชอลวุง

“เห็นพลุธนูก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่พวกธรรมดาที่แท้ก็พวกเจ้านี่เอง” ชอลวุง กล่าว

“ถ้าเจ้ายังมีตาอยู่ ก็เบิ่งตาดูนี่ซะก่อน”

“อะไร เนี่ยเหรอ?” แม่ทัพเช กล่าว

“ข้ามีเรื่องที่จะถามพวกเจ้าอยู่พอดีเลย” ชอลวุง กล่าว

“น้องชายข้าอยู่ที่ไหน? ตอบข้ามาสิ” แม่ทัพเช ถาม

“ข้าจะเป็นคนถาม ส่วนเจ้ามีหน้าที่ตอบ” ชอลวุง กล่าว จากนั้นทั้งสองก็ต่อสู้กัน

แม่ทัพเชตามมาช่วยวังซอนจนเกิดการต่อสู้กับซอลวุง “เห็นพลุธนูก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่พวกธรรมดา ที่แท้ก็พวกเจ้านี่เอง ข้ามีเรื่องที่จะถามพวกเจ้าอยู่พอดีเลย” ซอลวุงยิ้มอย่างถือไพ่เหนือกว่า

“น้องชายข้าอยู่ที่ไหน? ตอบข้ามาสิ”

“ข้าจะเป็นคนถาม ส่วนเจ้ามีหน้าที่ตอบ”

ซอลวุงและแม่ทัพเชจึงปะฝีมืออย่างไม่ยอมแพ้กัน

“ตอบข้ามา ว่าพวกเจ้าได้รับคำสั่งจากใคร?”

“วังซอนน้องข้า ไปอยู่ที่ไหน?”

“ดูเหมือนเจ้าจะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ข้าจะเป็นคนถาม เจ้าแค่ตอบคำถามเท่านั้น”

ซอลวุงและแม่ทัพเชยังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่แล้วแม่ทัพเชก็พลาดท่าเสียทีแก่ซอลวุง ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต

ด้านแทกิลออกตามหาวังซอนและแม่ทัพเชแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของคนทั้งสอง พบเพียงอาวุธประจำกายที่เปรอะเปื้อนเลือดเกรอะกรัง แทกิลรู้ว่าต้องเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับแม่ทัพเชและวังซอนแน่ แทกิลแค้นจัดเข้าใจว่าเป็นฝีมือของแทฮา

“แม่ทัพเช.. วังซอน.. เจ้าเป็นใครห๊ะ แน่จริงก็ไสหัวออกมาเซ่.. ซงแทฮา เป็นเจ้าใช่มั้ย เจ้าเลิกหลบซ่อนเป็นลูกหนูได้แล้ว ซงแทฮา เจ้าใช่มั้ย ไสหัวออกมา แม่ทัพเช.. วังซอน.. พวกเจ้าอยู่ที่ไหนห๊ะ? แม่ทัพเช.. วังซอน..”

ซอลวุงซึ่งผ่านมาเห็นแทกิลจึงแอบซ่อนตัวอยู่ พอเห็นแทกิลเข้าใจผิดก็ยิ้มอย่างพอใจ




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 11:15:48 น.
Counter : 246 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 27 ธันวาคม 2554




“เพราะฮวางชอลวุงไปถึงที่นั่นแล้ว” แทฮา กล่าว

“เค้าบุกไปถึงเกาะเชจู เพื่อจะไปปลงพระชนม์พระนัดดา” ฮันซัม กล่าว

“หมายความว่า ฮวางชอลวุงรายงานเรื่องนี้ให้เสนาบดีรู้แล้วอย่างนั้นรึ?”

“เราจะเคลื่อนไหวยังไงต่อ พวกเค้าก็คงจะคาดเดาได้หมดแล้ว การรีบร้อนรวมกำลังพล มีแต่จะเป็นผลร้ายกับเรา” แทฮา กล่าว

“ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว พรุ่งนี้ทุกคนต้องออกเดินทางแต่ฟ้าสาง และจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จภายในการเดินทางครั้งนี้” ซอ กล่าว

“ในภาวะที่ถูกตามล่าไม่มีทางสำเร็จได้”

“นี่ไม่ใช่การทำอย่างวู่วาม แต่แผนการที่ท่านอาจารย์วางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ไม่ใช่ข้าเป็นอาจารย์ เข้าใจรึยัง ท่านมาถึงให้ดำเนินการตามแผนนี้” ซอ กล่าว แทฮา รู้สึกหนักใจ

แทฮา กลับมาบอกฮันซัม ให้เตรียมเดินทางไกล

“ที่บอกว่าเป็นคำสั่งอาจารย์ เค้าอาจจะโกหกก็ได้” ฮันซัม กล่าว

“ข้าว่านี่เป็นเวลาที่เราควรถอยหนึ่งก้าว แต่หนึ่งก้าวนี้คงจะยังไม่สามารถตัดสินเรื่องทุกอย่างได้ แต่ละที่ที่พวกเราไป ต้องทำความเข้าใจกับจำนวนทหารและเงินสนับสนุน ถ้ารวบรวมได้จำนวนหนึ่งแล้ว ค่อยดูว่าจะวางแผนได้มั้ย?” แทฮา กล่าว

“แล้วถ้ามันทำไม่ได้จะทำยังไง?”

“ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้หรอก พวกเค้าก็เป็นเพื่อนร่วมรบกับเรา ต่อให้มันทำไม่ได้ เราก็ต้องมีเหตุผลให้พวกเค้าแล้วค่อยมาวางแผนกันใหม่”

กึ๊ตบง ต่อว่าพวกลูกน้องที่ได้โยนปืนทิ้งตอนวิ่งหลบหนี

“ก็เจ้าพวกนั้นมันถือดาบวิ่งกรูเข้ามา ดินปืนก็หกไปหมดแล้ว ส่วนลูกกระสุนยัดยังไงก็ยัดไม่เข้า จริงมั้ย”

“ใช่เลย รูปกระบอกปืนมันเล็กเกิน น่าจะทำปากกระบอกให้ใหญ่สักหน่อยนะ”

“พูดอะไรบ้า ๆ” กึ๊ตบง กล่าว

“พวกบ้านนอกก็กินข้าวแต่ในกะละมัง ข้าหาปืนมาให้พวกเจ้าทำไม? เหอะ แล้วไปเถอะ ขอแค่มีเงินจะทำอะไรก็ได้” คียูน กล่าว

“ข้าบอกแล้วไงว่าคนจะจับปืนมันต้องมีใจกล้ากว่าคนถือดาบ ต่อให้เสือมายืนจ้องตรงหน้าก็ต้องไม่หวั่นไหว ข้าบอกพวกเจ้าไปแล้วใช่มั้ย บอกแล้วใช่มั้ย?”

“แต่ว่านั่นมันไม่ใช่เสือนะ พวกมันถือดาบพุ่งเข้ามาหา..”

“ถ้าเป็นอย่างนี้ จะฆ่าพวกชนชั้นสูงให้หมด แล้วสร้างโลกใหม่ได้ยังไงล่ะ” อ๊บบ๊ก ถาม

“แต่ถึงยังไง เจ้าก็ควรจะเอาปืนกลับมาด้วย” กึ๊ตบง กล่าว

“หยุดพูดได้แล้ว ฆ่าคนถือดาบได้สามคนก็ถือว่าไม่เลวแล้ว” แคลอง กล่าว

“แต่ว่าคิดไปคิดมามันก็แปลกอยู่นะ เจ้าพวกนั้นทำไมถึงโดดเหาะไปเหาะมา”

“วิ่งเร็วเฟี้ยวอย่างกับเสือกระโจนเลยนะ พุ่งมาเร็วมาก”

“โดยเฉพาะเจ้าคนที่อยู่นำหน้านะ เหมือน..จะหลบลูกกระสุนได้ด้วยซ้ำ” กึ๊ตบง กล่าว

“มันแค่บังเอิญน่ะ โลกนี้อาจจะมีคนหลบลูกธนูได้ แต่ว่าไม่มีใครหลบลูกปืนได้แน่”

“เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า เรามาวางแผนว่าจะปล้นบ้านชนชั้นสูงยังไงกันดีกว่า พอได้เงินมาจะได้เอาไปซื้อปืน ถ้าพวกเจ้าหาเงินมาได้ ข้าก็หาอาวุธมาให้พวกเจ้าได้” คียูน กล่าว

“คำก็เงินสองคำก็เงิน” อ๊บบ๊ก กล่าว

“อย่ามาจ้องข้าอย่างนั้นสิ พวกเจ้าก็ลองคิดดูสิ จะทำงานใหญ่มันก็ควรจะแบ่งงานกันทำ พวกเจ้าก็ใช้แรงของเจ้า ส่วนข้าก็ใช้สมองไง หืม” คียูน กล่าว




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 11:13:59 น.
Counter : 241 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 26 ธันวาคม 2554




“เรื่องสำคัญตอนนี้ไม่ใช่ปฏิวัติยังไง แต่ต้องคิดว่าจะสร้างบ้านเมืองแบบไหน และจะสร้างบ้านเมืองใหม่ได้ยังไง?”

“บ้านเมืองแบบไหนเหรอ ก็บ้านเมืองตามเจตนารมณ์ขององค์รัชทายาทโซฮยอนไง”

“เจตนารมณ์ของพระองค์คืออะไร” แทฮา กล่าว

“ท่านถามเพราะว่าไม่รู้งั้นรึ?”

“ข้าอยากถามเพื่อให้แน่ใจ” แทฮา กล่าว

“มีอยู่หลายประการ ตั้งแต่กฎหมายระบอบการปกครอง รวมไปถึงด้านการทูต แล้วก็ด้านการทหาร ทุกท่านที่นั่งอยู่ในนี้ก็จะได้เป็นขุนนางบุกเบิกแผ่นดิน” ซอ กล่าว

“ขุนนางบุกเบิกแผ่นดินก็เป็นขุนนาง และขุนนางยังต้องเชื่อฟังนายเหนือหัว องค์รัชทายาทที่ยังพระเยาว์จะสามารถมานำพาพวกเราได้ยังไงกัน”

“พวกเราก็จะเดินไปตามอุดมการณ์เดิม ต้องมีคนเก่งบวกกับกองทัพจึงจะครอบครองแผ่นดินนี้ได้ แม่ทัพซงคนที่จะช่วยสนับสนุนรัชทายาทได้ก็มีแต่ท่าน ท่านค่อย ๆ สร้างกองทัพอันแข็งแกร่งตั้งแต่วันนี้ได้แล้ว” ซอ กล่าว

“ข้าอยากจะขอถามอีกเรื่องนึง ถ้าพวกข้าออกเดินทางไกลกันหมด แล้วพระนัดดาจะทำยังไงล่ะ?”

“ข้าจะถวายการดูแลพระองค์เอง”

“องค์รัชทายาท ข้าจะถวายการดูแลเอง” แทฮา กล่าว

ฮันซัม มาพบแทฮาสอบถามถึงเรื่องที่แทฮาบอกว่าจะปฏิวัติระบบ แต่ทำไมถึงไม่ปฏิวัติความคิดคนก่อน

“อย่าเพิ่งพูดเลย” แทฮา กล่าว

“เราจะใช้กำลังทหารได้ยังไง หรือว่าจะให้พวกเราไปฆ่าเพื่อนเก่าทั้งหมด ไหนท่านเคยบอกว่า การวางดาบลงคือการปฏิวัติยังไงล่ะ”

“เฮ้อ นี่เป็นช่วงสำคัญ เราจะขัดแย้งกันเองภายในไม่ได้ พวกเค้าเป็นพวกเดียวกับเรา คงต้องปรับความคิดกันก่อน” แทฮา กล่าว

“ข้าก็อยากจะทำอย่างนั้น แต่ว่ามันจะทำได้จริงเหรอ? พวกขุนนางดื้อด้านพวกนั้น ถนัดการหลอกใช้ทหารแล้วตัวเองก็หนีไปเสพลาภยศ” ฮันซัม กล่าว

“พวกเราต่างก็เป็นศิษย์ของอาจารย์ อย่าพูดอะไรอย่างนี้”

“ถึงยังไงก็ต้องพูด ข้ายอมถูกตราหน้าว่าทรยศเพื่อน ไม่ใช่เพื่อสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่ข้าดิ้นรนหนีจากเกาะเชจูมาตามลำพัง ไม่ใช่มาเพื่อให้พวกเค้าทำกับเราแบบนี้”

“ฮันซัม พวกเค้ามีความเห็นที่แตกต่างกับเราใช่มั้ย?” แทฮา ถาม

“ครับท่านแม่ทัพ” ฮันซัม กล่าว

“ความเห็นที่ต่างกับเรา เป็นความเห็นที่ผิดหรือ ฟู่ อย่าเพิ่งคิดว่ามันผิด..เพราะความเห็นนั้นไม่ตรงกับของเรา เจ้าลืมแล้วเหรอว่านี่คือเรื่องที่เราต้องระวังมากที่สุด”

“เฮ้อ มีเรื่องคุยกันเยอะเหลือเกิ๊น พวกใต้เท้าทั้งหลาย พวกนี้ท่าทางจะไม่ธรรมดา เฮ้อ บ้าชะมัด ห้าร้อยตำลึง ห้าร้อยตำลึงข้าจะฮุบคนเดียว”

อึนเจ บอกกับพี่ชายว่าตนตัดสินใจแล้วว่าจะต้องแต่งงานกับแม่ทัพเชให้ได้

“โอ๊ย ทำไม ทำไมมันลื่นอย่างนี้นะ?”

“ข้าคิดดีแล้วโลกนี้จะไปหาผู้ชายอย่างแม่ทัพเชได้ที่ไหนอีกล่ะ ต้องแต่งอย่างเชิดหน้าชูตาให้พวกคนเลวอย่างมือปราบโอไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้ข้าเลยคอยดู”

“แต่เค้าเป็นมือปราบ มีอำนาจอยู่”

“ข้าจะตั้งตาหาเงินส่งแม่ทัพเชไปสอบเป็นขุนนางไง พอเค้าได้เป็นขุนนางมียศเมื่อไหร่ มือปราบกระจอก ๆ จะมามองหน้าเราตรง ๆ ยังไม่กล้าเลย” อึนเจ กล่าว

“แต่เห็นมั้ยว่าจิตรกรบังออกจะชอบเจ้าขนาดนั้น”

“ขยะแขยงจะตายข้าไม่เอาหรอก ถ้าแม่ทัพเชกลับมาคราวนี้นะข้าจะถือดาบบุกเข้าไปหา แล้วบอกว่าถ้าไม่ยอมแต่ง ข้าจะฆ่าตัวตายให้ดู”

“เจ้าทำแบบนั้นได้ไง มันดูใจง่ายเกินไป เจ้าควรจะสงบเสงี่ยมรอให้ผู้ชายเค้ายื่นมือมาก่อนสิ” อึนเจ กล่าว

“เฮ้อ แต่ข้าก็รอเค้ามานานหลายปีแล้วนี่นา”

“พี่เข้าใจความรู้สึกเจ้า แต่ว่าแม่ทัพเชเค้าก็ต้องมีแผนในชีวิตของเค้าอยู่แน่ เอาเป็นว่า อย่าเป็นฝ่ายรุกมากเกินไป เข้าใจมั้ย เอาน่า เชื่อพี่เถอะนะ หึ?”

“พี่คะ ยังไงข้าก็จะทำ”

“เจ้าถาดนี่ทำไมมันลื่นอย่างนี้นะ ฮึ้ย” อึนเจ กล่าว

“ข้าจะให้เค้าเลือก ถ้าไม่แต่งงานกับข้าก็ฆ่าข้าทิ้งไปเลย แม่ทัพเชเป็นคนใจอ่อน มีเหรอจะฆ่าข้าได้ลงคอ”

“น้องพี่”

“พี่ไม่ต้องห่วงนะ ถึงข้าจะแต่งงานแล้ว แต่ข้าก็ยังจะเลี้ยงดูพี่ไปจนตายเลย พี่ไปพักเถอะ อึ้ย”

แทฮา เห็นสีหน้าเฮวอนไม่ดีจึงสอบถามมีเรื่องอะไรหรือเปล่า

“ไม่มีอะไรค่ะ แต่ว่าข้าไปถึงตลาดแล้ว แต่ไม่ได้ของที่ต้องการ ก็เลยต้องกลับมามือเปล่า ข้าต้องรีบไปทำกับข้าวแล้ว”

แทกิล กลับมาแล้วไม่พบวังซอน ก็รู้ว่าวังซอนได้ออกไปติดตามแทฮาเพียงคนเดียวเพราะหวังเงินรางวัลนำจับ จึงรีบออกไปตาม อีกด้านหนึ่งแทฮา สอบถามเฮวอนว่าอยากจะอยู่ในบ้านเมืองแบบไหน

“เจ้าเคยคิดว่าอยากจะเห็นโชซอนเป็นแบบไหน”

“ท่าน..กำลังถกปัญหาอยู่กับ..พวกบัณฑิตพวกนั้นอยู่เหรอคะ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ถึงบอกว่าอยากเปลี่ยนบ้านเมือง จะสร้างโชซอนที่รุ่งเรืองแข็ง แกร่ง แต่ตราบใดที่ยังไม่เป็นรูปธรรม ทุกอย่างมันก็ยังดูเลื่อนลอยทั้งนั้น ก็เลยถามดูน่ะ”

“ปกติข้าได้เรียนรู้แต่การจะเป็นผู้หญิงที่ดี ไม่เคยเรียนรู้เรื่องรูปแบบของบ้านเมือง ข้ารู้แค่ว่าผู้หญิงควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุดยังไง ท่านคงจะไม่ได้..คาดหวังคำตอบจากข้าใช่มั้ยคะ”

“ข้ากำลังรอคำตอบจากเจ้า ถ้าคนที่ใกล้ตัวข้าที่สุด สามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขได้ นั่นจึงจะเป็นโลกที่สวยงาม”

“คำที่ข้าได้ยินแล้วรู้สึกน่ากลัวที่สุด ตั้งแต่ข้าจำความได้คืออะไรรู้มั้ยคะ คำว่าโลกนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อโลกนี้ไม่มีวันเปลี่ยน ก็ไม่จำเป็นต้องมีความคิด ไม่ต้องมีความฝันอะไร ดังนั้น แค่ยอมรับชะตากรรม คำพูดนั้น ข้าไม่อยากให้ใครพูดอีกในโลกใบใหม่” เฮวอน กล่าว

“ดังนั้นแค่ทำให้คนไม่มีความคิดแบบนั้นอีกต่อไป”

“ทานเถอะค่ะ ไม่ว่ามันจะเป็นแผนการใหญ่แค่ไหน กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องทั้งนั้น”

วังซอนหนีออกมาคนเดียวโดยหวังเงินรางวัลเพียงคนเดียวแต่โชคร้ายมาเจอกับชอลวุงที่กำลังตามหาตัวแทฮาอยู่เช่นกัน ทั้งสองต่อสู้กัน จนวังซอนพลาดท่าเสียทีให้กับชอลวุง

บัณฑิตซอออกคำสั่งให้แทฮา ทำตามที่ตนต้องการแต่แทฮาปฏิเสธ เพราะยังไม่รู้แผนการที่ชัดเจน

“พวกเราไม่มีเวลาอีกแล้ว ทหารที่เกาะเชจูรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปราชสำนัก อีกไม่นานราชสำนักก็จะส่งทหารทั่วประเทศออกมาเพื่อตามล่าพวกเรา เมื่อถึงเวลานั้น พวกเราจะไม่สามารถรวมกำลังกันได้อีก และสุดท้ายก็ต้องหลบหนีไปตลอดชีวิต” ซอ กล่าว

“ราชสำนักน่าจะรู้เรื่องนั้นแล้ว” แทฮากล่าว

“เจ้ารู้ได้ยังไง รายงานน่าจะยังไปไม่ถึงราชสำนัก”

“เพราะฮวางชอลวุงไปถึงที่นั่นแล้ว” แทฮา กล่าว

“เค้าบุกไปถึงเกาะเชจู เพื่อจะไปปลงพระชนม์พระนัดดา” ฮันซัม กล่าว

“หมายความว่า ฮวางชอลวุงรายงานเรื่องนี้ให้เสนาบดีรู้แล้วอย่างนั้นรึ?”

“เราจะเคลื่อนไหวยังไงต่อ พวกเค้าก็คงจะคาดเดาได้หมดแล้ว การรีบร้อนรวมกำลังพล มีแต่จะเป็นผลร้ายกับเรา” แทฮา กล่าว

“ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว พรุ่งนี้ทุกคนต้องออกเดินทางแต่ฟ้าสาง และจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จภายในการเดินทางครั้งนี้” ซอ กล่าว

“ในภาวะที่ถูกตามล่าไม่มีทางสำเร็จได้”

“นี่ไม่ใช่การทำอย่างวู่วาม แต่แผนการที่ท่านอาจารย์วางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ไม่ใช่ข้าเป็นอาจารย์ เข้าใจรึยัง ท่านมาถึงให้ดำเนินการตามแผนนี้” ซอ กล่าว แทฮา รู้สึกหนักใจ

แทฮา กลับมาบอกฮันซัม ให้เตรียมเดินทางไกล

“ที่บอกว่าเป็นคำสั่งอาจารย์ เค้าอาจจะโกหกก็ได้” ฮันซัม กล่าว

“ข้าว่านี่เป็นเวลาที่เราควรถอยหนึ่งก้าว แต่หนึ่งก้าวนี้คงจะยังไม่สามารถตัดสินเรื่องทุกอย่างได้ แต่ละที่ที่พวกเราไป ต้องทำความเข้าใจกับจำนวนทหารและเงินสนับสนุน ถ้ารวบรวมได้จำนวนหนึ่งแล้ว ค่อยดูว่าจะวางแผนได้มั้ย?” แทฮา กล่าว

“แล้วถ้ามันทำไม่ได้จะทำยังไง?”

“ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้หรอก พวกเค้าก็เป็นเพื่อนร่วมรบกับเรา ต่อให้มันทำไม่ได้ เราก็ต้องมีเหตุผลให้พวกเค้าแล้วค่อยมาวางแผนกันใหม่”

กึ๊ตบง ต่อว่าพวกลูกน้องที่ได้โยนปืนทิ้งตอนวิ่งหลบหนี

“ก็เจ้าพวกนั้นมันถือดาบวิ่งกรูเข้ามา ดินปืนก็หกไปหมดแล้ว ส่วนลูกกระสุนยัดยังไงก็ยัดไม่เข้า จริงมั้ย”

“ใช่เลย รูปกระบอกปืนมันเล็กเกิน น่าจะทำปากกระบอกให้ใหญ่สักหน่อยนะ”

“พูดอะไรบ้า ๆ” กึ๊ตบง กล่าว

“พวกบ้านนอกก็กินข้าวแต่ในกะละมัง ข้าหาปืนมาให้พวกเจ้าทำไม? เหอะ แล้วไปเถอะ ขอแค่มีเงินจะทำอะไรก็ได้” คียูน กล่าว

“ข้าบอกแล้วไงว่าคนจะจับปืนมันต้องมีใจกล้ากว่าคนถือดาบ ต่อให้เสือมายืนจ้องตรงหน้าก็ต้องไม่หวั่นไหว ข้าบอกพวกเจ้าไปแล้วใช่มั้ย บอกแล้วใช่มั้ย?”

“แต่ว่านั่นมันไม่ใช่เสือนะ พวกมันถือดาบพุ่งเข้ามาหา..”

“ถ้าเป็นอย่างนี้ จะฆ่าพวกชนชั้นสูงให้หมด แล้วสร้างโลกใหม่ได้ยังไงล่ะ” อ๊บบ๊ก ถาม

“แต่ถึงยังไง เจ้าก็ควรจะเอาปืนกลับมาด้วย” กึ๊ตบง กล่าว

“หยุดพูดได้แล้ว ฆ่าคนถือดาบได้สามคนก็ถือว่าไม่เลวแล้ว” แคลอง กล่าว

“แต่ว่าคิดไปคิดมามันก็แปลกอยู่นะ เจ้าพวกนั้นทำไมถึงโดดเหาะไปเหาะมา”

“วิ่งเร็วเฟี้ยวอย่างกับเสือกระโจนเลยนะ พุ่งมาเร็วมาก”

“โดยเฉพาะเจ้าคนที่อยู่นำหน้านะ เหมือน..จะหลบลูกกระสุนได้ด้วยซ้ำ” กึ๊ตบง กล่าว

“มันแค่บังเอิญน่ะ โลกนี้อาจจะมีคนหลบลูกธนูได้ แต่ว่าไม่มีใครหลบลูกปืนได้แน่”

“เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า เรามาวางแผนว่าจะปล้นบ้านชนชั้นสูงยังไงกันดีกว่า พอได้เงินมาจะได้เอาไปซื้อปืน ถ้าพวกเจ้าหาเงินมาได้ ข้าก็หาอาวุธมาให้พวกเจ้าได้” คียูน กล่าว

“คำก็เงินสองคำก็เงิน” อ๊บบ๊ก กล่าว

“อย่ามาจ้องข้าอย่างนั้นสิ พวกเจ้าก็ลองคิดดูสิ จะทำงานใหญ่มันก็ควรจะแบ่งงานกันทำ พวกเจ้าก็ใช้แรงของเจ้า ส่วนข้าก็ใช้สมองไง หืม” คียูน กล่าว

“ฮึ้ย ตกใจหมด” กึ๊ตบง กล่าว

“เนี่ยเหรอความกล้าของผู้ชาย มองอะไรกันเล่า เจ้าพวกทิ้งปืนแล้วเปิดตูดแน่บ เฮ้อ ข้าเข้าร่วมเพราะเชื่อผู้ชายพวกนี้ได้ยังไงนะ” โชบ๊ก กล่าว

“เจ้า ๆ เจ้าเป็นคนไปตามเก็บกลับมาเหรอ?”

“โชบ๊ก ถึงข้าวิ่งหนีแต่ไม่ได้ทิ้งปืนนะ”กึ๊ตบง กล่าว

“แต่ยิงไม่โดนสักนัดละสิ”

“เจ้ากินข้าวรึยัง?”

“เฮ้อ ขอร้องล่ะ ช่วยกล้า ๆ หน่อยได้มั้ย ถ้าเป็นอย่างนี้ ยังคิดจะบุกเข้าวังอีกเหรอ อาอ๊บบ๊ก ไปเถอะ นายท่านสั่งมาว่าจากนี้ห้ามใครออกไปทำงานตอนกลางคืนอีก เฮ้อ” โชบ๊ก กล่าว

“ข้าต้องกลับไปแล้ว” อ๊บบ๊ก กล่าว

หลังจากอ๊บบก และโชบ๊ก ออกมาแล้วก็สนทนากัน

“วันนี้คงเหนื่อยแย่” อ๊บบก กล่าว

“ตอนแรกบอกว่าสี่ห้าคน พอเห็นว่ามาเพียบข้าตกใจแทบแย่ เลยอยากจะรีบไปบอกท่านน่ะ ข้าวิ่งไม่คิดชีวิตเลย”

“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง” อ๊บบ๊ก กล่าว

“ถ้าข้าไม่เป็นห่วงท่าน แล้วใครจะมาเป็นห่วงท่านล่ะ” โชบ๊ก กล่าว

“ขึ้นมาสิ ข้าจะแบกเจ้าเอง เฮ้อ แต่ยังไง คราวหน้าอย่าวิ่งมาแบบนั้นอีกล่ะ ถ้าเกิดหกล้มขาหักไปจะทำยังไงหา”

“อาอ๊บบ๊ก”

“อะไร?” อ๊บบ๊ก ถาม

“ข้าหนักมากรึเปล่า?”

“หนักอะไรกัน อย่างกับแบกหมีที่หิวโซมาสามเดือน”

“ถ้าเป็นหมีหิวโซก็คงเบา ใช่รึเปล่าล่ะ?”

“ยังไงก็หนัก เพราะเป็นหมี” อ๊บบ๊ก กล่าว

ขุนนางชิง มารายงานอิงเอ๋อ จากการปะทะทำให้มีคนตายไปสามคาดว่ามีคนดักซุ่มอยู่ตรงนั้น แต่กลับจับตัวไม่ได้

“แล้วทำลายหลักฐานรึยัง?” อิงเอ๋อ ถาม

“ครับ ก่อนออกเดินทางข้าได้เก็บป้ายทหาร และถือดาบเป็นอาวุธ ไม่น่าจะมีใครรู้ว่าพวกเราเป็นใคร”

“แล้วคนเจ็บเป็นยังไงบ้าง?”

“ถึงจะมีหมอดูแลอยู่ แต่ขาดยารักษา ข้าส่งคนออกไปซื้อมาแล้ว”

“ถ้าดักซุ่มรออยู่แต่แรก เท่ากับว่าพวกเค้าจับจ้องเราอยู่ตลอดน่ะสิ”

“น่าจะเป็นฝีมือของเสนาบดีนะครับ”

เสนาบดีมาเที่ยวหอนางโลม แล้วได้รู้จักหญิงสาวที่ชื่อว่า เจนี

“เจ คือสุราบริสุทธิ์ นี คือเสียงนกนางแอ่นร้องค่ะ”

“สุราบริสุทธิ์วางตรงหน้า มีเสียงนกร้องกล่อมอยู่ข้างหู เป็นชื่อที่ดีมาก” เสนาบดี กล่าว

“เอ็นดูนางมาก ๆ นะคะ นางเพิ่งจะมาใหม่วันนี้เอง”

“ถึงวันนี้เป็นคนใหม่ของที่นี่ แต่อดีตข้าน้อย เคยเป็นนางโลมอันดับหนึ่งของเปียงยาง และอนาคตข้าจะต้องเป็นนางโลมอันดับหนึ่งในโชซอน หวังว่าใต้เท้าจะคอยช่วยดูแลข้าน้อยด้วยนะคะ” เจนี กล่าว

“เจ้านี่เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจจริง ๆ ฮะ ๆ ๆ”

แทกิลกลับมาคนเดียวไม่มีวังซอนมาด้วยจึงสอบถามแทกิล

“ยังไม่มีใครกลับมาเลยเหรอ?” แทกิล ถาม

“อืม พี่แทกิลคะ เข้ามาสิ ข้าถูพื้นไว้ให้แล้ว” ซอลฮวา กล่าว

“เจ้าเลิกถูสักทีได้มั้ย ข้าเห็นแล้วปวดหัว” แทกิล กล่าว

“ถูเสร็จแล้ว ต่อไปนี้ข้าจะทำกับข้าว เย็บผ้า ให้พวกท่านด้วยดีมั้ย” ซอลฮวา กล่าว

“ทำทำไม?”

“เปล่าหรอก ก็ข้าเป็นถังข้าว ต้องทำงานแลกข้าวกิน” ซอลฮวา กล่าว

“พอเถอะ”

“ทำไม มีอะไรจะพูดเหรอ?”

“ยัยตัวแสบ เจ้าไม่มีที่ไปจริง ๆ เหรอ ถ้าไม่มีที่ไปจริง ลองไปที่เขาวอรักดูสิ ถ้าไปถึงยอดเขาเจ้าจะเจอคนที่ชื่อเจ้าหูเดียว ถ้าเจ้าอยากตั้งรกราก..ที่นั่นคงจะเหมาะสมมาก มีทุ่งกว้างให้เลี้ยงสัตว์มากพอสมควร พวกข้าคิดจะเลิกอาชีพตามล่าทาสกันอยู่แล้ว เจ้าก็ควรไปตามทางของตัวเอง แล้วข้าจะให้เงินเจ้าไว้เป็นค่าเดินทางไป” แทกิล กล่าว

“ค่าเดินทาง? พี่คิดว่าข้ายอมติดตามท่านมาก็เพื่อเงินงั้นเหรอ?”

“ไม่เอาก็ตามใจ”

“พี่เป็นอย่างนี้ เพราะผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย ท่านมาเป็นนักล่าทาสก็เพื่อตามหานาง จะเลิกก็เพราะผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย?”

“เจ้าพูดอะไรของเจ้า ฟู่.. เจ้ารีบไปดีกว่า” แทกิล ตวาด

คึนนอม บอกกับเฮวอนว่าจำวันที่ลบคำว่าทาสออกจากตัวได้รึเปล่า

“ในวันนั้น..ข้าไม่ได้ร้องไห้เพราะความเจ็บปวด แต่ข้าร้องไห้เพราะดีใจ เพราะว่าได้ชีวิตใหม่”

“นักล่าทาส ไม่มีทางมาตามข้าแน่ เพราะข้าไม่ใช่ทาส ถ้าเป็นนักล่าทาส ต้องไม่มาตามข้าแน่ ข้า.. มีเรื่องอยากจะบอกท่าน” เฮวอน กล่าว

“มีอะไรก็พูดมา” แทฮา ถาม

“ข้า มีเรื่องเก็บเอาไว้มากเหลือเกิน ที่จริงแล้วข้า ที่จริงแล้ว..” เฮวอน กล่าว

แม่ทัพเช ออกตามหาวังซอน แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งได้เห็นพลุไฟของวังซอนถูกยิงขึ้น ก็รีบไปยังสถานที่นั้นทันที เมื่อไปถึงก็พบชอลวุง

“เห็นพลุธนูก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่พวกธรรมดา ที่แท้ก็พวกเจ้านี่เอง” ชอลวุง กล่าว

“ถ้าเจ้ายังมีตาอยู่ ก็เบิ่งตาดูนี่ซะก่อน”

“อะไร เนี่ยเหรอ?” แม่ทัพเช กล่าว

“ข้ามีเรื่องที่จะถามพวกเจ้าอยู่พอดีเลย” ชอลวุง กล่าว

“น้องชายข้าอยู่ที่ไหน? ตอบข้ามาสิ” แม่ทัพเช ถาม

“ข้าจะเป็นคนถาม ส่วนเจ้ามีหน้าที่ตอบ” ชอลวุง กล่าว จากนั้นทั้งสองก็ต่อสู้กัน




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 11:11:25 น.
Counter : 218 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 25 ธันวาคม 2554




“ให้ใคร ข้าเหรอ ทำไมล่ะ”

“เรื่องที่จะช่วยตามหาแม่ให้เจ้าคงยากเกินไป” แทกิล กล่าว

“แม่ของข้าตายไปแล้ว นางก็อยู่ในคณะแสดงเหมือนกัน แต่ตายแล้ว”

“เด็กที่แม่ไม่อยู่ด้วย จะมีใครซื้อเสื้อผ้าให้ล่ะ ไปเถอะ เร็วสิยัยตัวแสบ”

ซอลฮวา พาแทกิล มาเดินเล่นเลือกซื้อของที่ตลาด

“พี่ชายคะ”

“รู้แล้วน่า ปล่อยข้าก่อน มีความสุขมั้ย นี่ยัยตัวแสบ เจ้าคิดจะเดินเลือกไปถึงเมื่อไหร่ ผ้ามันก็เหมือน ๆ กันหมดนั่นแหละ ทำไมต้องพลิกดูทุกผืนด้วยล่ะ?”

“ก็เป็นของที่พี่ชายจะซื้อให้ข้าครั้งแรก ก็ต้องเลือกให้ดีที่สุดสิ”

“เหอะ ที่ร้านนี้มีหมดทุกแบบทุกลายแล้ว รีบ ๆ เลือกเถอะน่า”

“พี่แทกิลคะ เราไปดูตรงนั้นกันดีกว่านะ”

“รู้แล้ว ๆ”

“นายน้อยคะ ที่แท้ท่านก็ยังไม่ตาย ขอบคุณมาก ๆ ที่ท่านมีชีวิตอยู่ ขอบคุณจริง ๆ ขอให้มีความสุขนะ ขอบคุณจริง ๆ” เฮวอน คิดในใจหลังเห็นแทกิลกับซอลฮวา

อ๊บบ๊ก บอกให้โชบ๊ก กลับบ้าน เพราะงานนี้อันตราย ถ้าพลาดไปจะทำเสียงานใหญ่

“มีชนชั้นสูงบางคนออกตามล่า ไล่จับทาสไปทั่ว เพื่อส่งไปขายให้เหมืองเถื่อน ไอ้พวกนี้นี่มันไม่ใช่คนแล้ว” โชบ๊ก กล่าว

“เหมืองเถื่อน” กึ๊ตบง กล่าว

“ใช่ ได้ค่าตัวสองตำลึงเงินสี่ตำลึงทอง” โชบ๊ก กล่าว

“หนอย ไอ้พวกชนชั้นสูงใจทมิฬ มันยังน่าขยะแขยงยิ่งกว่านักล่าทาสซะอีก”

“ตอนที่ข้ายังเป็นนายพราน ข้าเคยได้ยินว่าคนยอมตาย ดีกว่ายอมถูกขายไปทำงานในเหมืองเถื่อน แถมครั้งนี้ ไม่ได้มาแค่คนสองคน เห็นว่าน่าจะสี่ถึงห้าคน” โชบ๊ก กล่าว

กลุ่มคนชั้นสูงเดินทางมา กึ๊ตบงและพวกที่ดักซุ่มอยู่ก็เตรียมพร้อม

“ใส่ดินปืน ใส่กระสุน จับให้มั่น เล็งให้ตรง แล้วค่อยยิง” กึ๊ตบง กล่าว

“พอเห็นพวกมันเดินมาถึง ก็จุดไฟได้เลย ถูกต้อง”

“ทำไมมากันทีเยอะนักนะ ไม่ใช่แค่ 4-5 คนแล้วนี่” อ๊บบ๊ก กล่าว

“ทำไมมากันตั้งหลายคน ไหนบอกว่ามาแค่สี่ถึงห้าคนไง”

“มากันแล้ว ๆ”

“เตรียมพร้อมจู่โจม”

“เร็ว ๆ สิ”

“หยุดนะ”

“อยู่ตรงนั้น” ขุนนางชิง กล่าว

“เร็ว ๆ หนีเร็วเข้า” กึ๊ตบง สั่ง

“หยุดนะ อย่าหนีนะ”

“ทางนี้ ๆ วิ่งไปทางโน้นค่ะ ทางโน้น ลุกขึ้นมาได้ ไปแล้ว เร็วเข้าไปทางนี้” โชบ๊กบอกเพื่อน ๆ

“เจ้านี่มัน” อ๊บบ๊ก หอบเมื่อหยุดพัก

จีโฮ บอกกับมือปราบโอว่าอยากรู้ว่าศพของลูกน้องเจ้าอยู่ที่ไหน

“ไม่ว่าพวกมันจะตายเพราะอะไร ก็น่าจะหาที่ฝังดี ๆ ให้น้อง ๆ ของข้าหน่อย” จีโฮ กล่าว

“แต่ลูกน้องเจ้ามันตายฆ่าตัวตายทำไม จะฆ่าตัวตายก็ไม่รู้จักไปตายที่เขานัมซาน ต้องไปฆ่าตัวตายที่แบบนั้นด้วย คิดดูพวกชนชั้นต่ำจะกล้าไปศาลาอับกูได้ไง ข้าดูยังไงก็มีที่น่าสงสัยอยู่ตั้งหลายจุด แล้ววันนั้นเจ้าทำอะไรอยู่”

“ถุย นี่ท่านกำลังสงสัยข้าอยู่เหรอห๊า ข้ากับพวกนั้นรักกันดี แถมยังผูกพันกันมากด้วย พวกข้าเคยอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีนะเฟ้ย”

“ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องดีกว่า ไปกับข้าเดี๋ยวนี้”

“จะให้ไปที่ไหน”

“ก็ไปกองปราบกับข้าน่ะสิ”

“ไปทำอะไร”

“ไปดูแล้วก็ไปขอกับผู้ใหญ่เค้า เผื่อจะให้เจ้าเอาศพลูกน้องไป ดีไม่ดีนะ พูดกับท่านดี ๆ ท่านอาจจะให้เงินมาเป็นค่าทำศพก็ได้ ฮะ ๆๆๆ แฮะ ๆๆ”

“ฮ่า ๆ ใครจะไปยอมจ่ายสิ้นเปลืองแบบนั้นล่ะ จะทำอะไร คิดจะหลอกข้าไปเป็นแพะใน..ข้อหาฆ่าคนตายรึไง”

“หนอยแน่ะ ไอ้เจ้านี่ ข้าเป็นขุนนางทำงานก็เพื่อบ้านเมือง หลอกลวงอะไรกัน ข้าทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเสมอ...…”

“รู้แล้วน่า ๆ มือปราบโอ กองปราบมันเป็นที่อะไรเหรอ เดินเข้าไปได้แต่คงจะต้องคลานออกมา”

“แฮ่ม ๆ”

“รีบไปถามมาซะ ในเวลาที่ข้ายังเกรงใจท่าน แล้วมาบอกข้าด้วยล่ะ ฮิ ๆๆ ข้าไปละ”

“บังอาจ มือปราบสั่งให้ไปกองปราบ เจ้ากล้าขัดขืนเจ้าหน้าที่รึ?”

“มือปราบโอ ท่านพาข้าไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก คิดว่าข้ายอมตายคนเดียวเหรอ ข้าชอนจีโฮนะ ท่านเคยได้รับประโยชน์จากข้าไปตั้งเท่าไหร่”

“ไอ้เจ้านี่กล้า ขู่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเรอะ หืม? แฮ่ม”

“มือปราบโอ เสื่อกับพรมมันมีความแตกต่างกันยังไงเหรอ?”

“อะๆๆๆ อะไรนะ พรมเหรอ?”

“ไม่ว่าจะเป็นเสื่อหรือว่าพรมสุดท้ายมันก็ต้องเลอะสกปรกเหมือนกันหมดใช่รึเปล่าล่ะ เพราะฉะนั้น ศพน้อง ๆ ข้าถูกทิ้งไว้ที่ไหน ช่วยมาบอกข้าด้วยละกัน ข้าไปล่ะฮิ ๆๆ”

“ไอ้ ไอ้เจ้านี่ เถ้าแก่เนี้ย ยังไม่รีบมาอีก”

“เอ่ะ ค่ะ” อึนเจ เข้ามา

“นี่มันเหล้าหรือว่าน้ำ หืม? ถ้ายังกล้าเติมน้ำลงไปในเหล้าอีก ข้าจะพังร้านของเจ้าให้ราบเลย”

“โอ๊ย พวกข้าจะเติมน้ำลงไปได้ยังไงคะ?”

“นี่ยังกล้า...”

“โอ๊ย ๆ ใจเย็น ๆ สิ ถ้าพวกข้าเติมน้ำลงไปจะค้าขายไปได้ยังไง ใจเย็น ๆ ท่านนั่งก่อนนะ รออะไร รีบไปเอาเหล้าใหม่มาสิ ฆ่าไก่มาตัวนึงด้วย เร็วสิ”

“ต่อหน้าผู้ใหญ่ ยังจะเถียงอีก”

“นั่งก่อนค่ะ”

ซอ นำรายชื่อคนที่ต้องเดินทางไปพบ พร้อมกับค่าเดินทางมาให้กับแทฮา โดยคนพวกนั้นจะให้ม้าศึกมา และบางคนจะช่วยเป็นตัวเงิน

“มีหลายชื่อที่ข้ารู้สึกคุ้นเคย” แทฮา กล่าว

“ก็คงอย่างนั้น เพราะว่า หลายคนในนี้เคยเป็นขุนนางมาก่อน”

“แต่คนพวกนี้คิดจะร่วมกับเราทั้งหมดหรือ?”

“เข้าใจถูกแล้ว มีแต่องค์รัชทายาทเท่านั้นที่มีฐานะชัดเจน ในการปกครองเหล่าขุนนางราชสำนัก” ซอ กล่าว

“ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องรวบรวมกำลังพล ยังไม่เห็นต้องรีบรวบรวมไพร่พลเลย” แทฮา กล่าว

“ต้องรวบรวมกำลังพลได้ก่อน เราถึงจะสร้างกองทัพขึ้นมาได้ ทำเช่นนี้พวกเราจึงจะมีกองทัพเพื่อกวาดล้างพวกขุนนางสกปรกให้หมดไปได้




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 11:10:28 น.
Counter : 228 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 24 ธันวาคม 2554




“อึ้งอะไรอยู่เล่า รีบกลับฮันยางกันได้แล้ว”

“เฮ้ เดี๋ยวก่อนนะ พี่เป็นบ้าไปแล้วเหรอทาสค่าตัวห้าร้อยตำลึงรออยู่ตรงหน้าแล้ว” วังซอน กล่าว

“พวกเค้าไม่อยู่หรอก”

“เบาะแสไม่ใช่อย่างนั้นนี่ ก็แค่ไปดูให้เห็นกับตาก็รู้แล้ว”

“ข้าไปดูมาแล้วพวกเค้าไม่ได้อยู่ที่นั่น”

“เดี๋ยวแทกิล เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เช ถาม

“ไม่มี”

“เหวอ ฮึ้ย...ลูกพี่เป็นอะไรกันแน่เนี่ย”

“จะทำไมเหรอ?” แทกิล กล่าว

“จู่ ๆ ทำไมถึงจะกลับฮันยาง ค่าตัวทาสครั้งนี้มันตั้งเท่าไหร่”

“ไม่ต้องพูดมากหรอก” แทกิล กล่าว

“แต่จะว่าไป เราตามล่าทาสมาหลายปี แล้วพวกเราเหลืออะไรกันบ้าง หืม? ถ้าได้เงินก้อนโตอย่างนี้ เราก็จะได้กินดีอยู่ดีกันสักทีไงล่ะ ก่อนหน้านี้พี่ว่าไงหะ? พี่บอกว่าเก็บข้าวได้พันเม็ด ไม่สู้เก็บฟักทองได้หนึ่งลูกไงล่ะ”

“ข้าบอกให้เจ้าหุบปากไปไงเล่า”

“โธ่เอ๊ย ถ้าเรากลับไปมือเปล่าอย่างนี้ ชีวิตนี้ต้องจนไปตลอดแน่ รู้มั้ย ช่างเหอะ ข้าไปจับเค้าเองก็ได้ ข้าจะได้อยู่สุขสบายสักที พี่จะไม่ไปก็ตามใจ”

“บอกว่าห้ามไปก็ห้ามไปสิ” แทกิล กล่าว

“หน็อย...ต่อยเหรอ ก็ได้ ถ้างั้นเราก็มาต่อสู้เพื่อจะได้จัดลำดับอาวุโสกันใหม่เลย อืม” วังซอน กล่าวจากนั้นก็ต่อสู้กับแทกิล

“หยุดได้แล้ว บอกให้พอได้แล้ว” เช บอกทั้งสองหยุด

“พวกพี่อย่าทะเลาะกันเลยนะ” ซอลฮวา กล่าว

“วังซอน” เช เรียกชายหนุ่ม

“พี่ตัดสินแล้วกัน ว่าจะเลือกข้างไหน ฮึ่ย โอ๊ย..”

“ถ้ายังคิดจะต่อยกันอย่างนี้ ก็สู้ให้ตายกันไปข้างนึงเลยสิ”

“จะทำอะไรยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยนะ” ซอลฮวา กล่าว

“ซอลฮวา มัวทำอะไรอยู่ล่ะ ยังไม่หยิบดาบขึ้นมากันอีก ถ้าจะสู้ก็สู้ให้แตกหักไปเลย” เช กล่าว

“เฮ้ อย่ามาทำเป็นเท่ไปหน่อยเลยน่า ข้าเห็นแล้วมันอยากจะอ้วกน่ะ”

“นี่พี่แทกิล แบ่งเงินของข้ามา” วังซอน กล่าว

“เจ้าเข้าไปข้างในก่อนได้มั้ย”

“ทำไมข้าต้องเข้าไปด้วย ทางของข้าข้าเลือกเดินเองได้ เอาเงินที่เคยหามาได้คืนมาก่อนเซ่”

“วังซอน” เช ตวาดขึ้น

“ย๊าก ๆ ๆ”

“ไปเดินเล่นข้างนอกไป” เช บอกแทกิล

“จะให้ไปไหน?”

“ออกไปเดินตากลมหน่อย”

“ลมในนี้ก็เย็นดีอยู่แล้วนี่นา”

เชถามแทกิลว่าทำไมจู่ ๆ ถึงคิดกลับฮันยาง

“มันไม่ใช่ที่นี่ เราตามมาผิดที่แล้ว” แทกิล กล่าว

“หรือเพราะว่าเจ้า ได้เจอกับออนยอนแล้ว บอกมาเถอะ เจอออนยอนแล้วใช่มั้ย?”

“ถ้าข้าเจอนางแล้ว จะยอมกลับไปมือเปล่าเหรอ ถ้าไม่จับนางมาข้าก็ต้องฆ่านางไปแล้ว”

“แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้?”

“แม่ทัพเช พวกเราเลิกอาชีพนี้กันดีมั้ย?” แทกิล ถาม

“ทำไมจู่ ๆ ถึงพูดแบบนี้”

“หรือว่าท่านชอบอาชีพนี้ล่ะ?”

“มีใครทำเพราะชอบเล่า?”

“ถ้างั้นเราก็เลิกกันเถอะ ข้าเองก็เบื่อแล้ว เบื่อจะเสี่ยงอันตราย เบื่อที่ต้องตระเวนไปทั่วเพื่อหาผู้หญิงคนเดียว เบื่อที่ต้องเห็นพวกทาสร้องห่มร้องไห้โทษฟ้าดิน ใช้ชีวิตอยู่ไปวัน ๆ นึง แบบไม่มีอะไรติดตัวข้าเอง ก็เบื่อมันเต็มทนแล้ว”

“เจ้าต้องไปพบออนยอนมาแล้วแน่ ๆ” เชกล่าวด้วยความสงสัย

“ที่ลีชอนน่ะ ข้าซื้อที่ดินไว้ 30 กว่าไร่”

“อะไรนะ?”

“บ้านก็กำลังสร้างอยู่ ที่ดินด้านข้างมีบ้านแม่ทัพเช ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้านข้า ส่วนมุมฝั่งที่คนคึกคัก ก็เป็นของเจ้าวังซอนกำลังสร้างอยู่ แต่ตอนนี้ยังขาดเงินอีกก้อนที่ยังจ่ายไม่หมด”

“แล้วเจ้าไปเอาเงินมาจากไหน?”

“จะมาจากไหนเล่า ก็หลายปีมานี้เงินที่ข้าแอบหักเอาไว้ก็ไม่น้อย เพราะข้าเห็นนิสัยพวกเจ้าแล้ว ดูก็รู้ว่าหาได้เท่าไหร่ก็ใช้หมดเท่านั้น เราจะทำอาชีพนี้ไปตลอดชีวิตคงไม่ได้ ต้องมีชีวิตเหมือนคนอื่น จะต้องมีวันที่ได้นอนเหยียดขา หลับสบายเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง ถึงแม้จะแค่วันเดียวก็ยังดี” แทกิล กล่าว

“ที่เจ้าพูดนี่พูดจริงรึเปล่า”

“พูดจริงอยู่แล้ว มันยอดไปเลยทั้งได้ซื้อบ้าน ได้ซื้อที่ดิน แล้วก็ยังได้อยู่ด้วยกัน แล้วข้าก็จะ ไปตามออนยอนกลับมา มันดีจะตายไป ออนยอน เจ้ามีความสุขรึเปล่า?

“งั้นพวกเรากลับกันเถอะ กลับฮันยาง เจ้ามาทำอะไรที่นี่น่ะ” เช กล่าว

“เวลาที่ข้าอยู่กับพวกท่านน่ะ อย่าถามข้าว่ามาทำไมได้มั้ย?”

“แม่ทัพเชกลับไปก่อนเถอะ”

“แล้วเจ้าล่ะ?”

“ต้องสั่งลายัยตัวแสบ ให้เงินไปนิดหน่อยก็คงรู้สึกไม่ดี อย่างน้อยก็น่าจะตัดผ้าดี ๆ ให้หน่อย”

“อย่ากลับมาช้านักล่ะ” เช กล่าว

“พี่แทกิลจะไปไหนเหรอ?”

“เดินตามข้ามาเงียบ ๆ ก็พอแล้ว” แทกิล บอก ซอลฮวา

“เจ้าเป็นอะไรไป ปกติพูดฉอด ๆ ไม่ได้หยุด”

“เปล่านี่ ข้าเป็นผู้หญิงสงบเสงี่ยมจะตาย” ซอลฮวา กล่าว

“ฮ่า ๆ ๆ พวกเราไปซื้อ ผ้าตัดเสื้อให้ยัยตัวแสบ”




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 11:09:39 น.
Counter : 202 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]